“ยินดีที่ได้รู้จักค่ะคุณคาร์ล และขอบคุณที่อุตส่าห์ยอมสละเวลาให้ฉันเข้าพบนะคะ”
“พอดีผมรู้จักกับอธิการน่ะครับ เชิญนั่งก่อนครับ” ชายหนุ่มผายมือยังเก้าอี้ด้านหน้า
“ขอบคุณค่ะ” โชติกาเลื่อนเก้าอีกหน้าโต๊ะทำงานออกนั่ง ส่วนชายหนุ่มเดินอ้อมกลับไปนั่งหลังโต๊ะ
“ผมค่อนข้างจะยุ่งมาก ๆ ขอให้คุณอธิบายสั้น ๆ ได้มั้ยครับ” คาร์ลเอ่ยเข้าประเด็น
“ค่ะ ฉันเข้าใจได้” โชติกาตอบแต่แกล้งไอหนัก ๆ หลาย ๆ ที หวังว่าชายหนุ่มจะสังเกตเห็น
“คุณต้องการดื่มอะไรมั้ยครับ”
เยส!อย่างน้อยเขาก็แสดงให้เห็นว่ามีน้ำใจซึ่งเป็นข้อดี
“ตอนนี้ขอเป็นน้ำผลไม้อะไรก็ได้ค่ะแต่ฉันชอบดื่มไวน์มากกว่า”
“ไวน์เหรอครับ” คาร์ลชะงักไปครู่หนึ่งแล้วมองหญิงสาว
“ขอโทษค่ะ พอดีฉันเวียนหัวที่ต้องฝ่ารถติดมาน่ะค่ะ”
“อ้อครับ” คาร์ลพยักหน้ายิ้ม แล้วต่อสายหาผู้ช่วยด้านนอก เอ่ยชื่ออะไรสักอย่างน่าจะเป็นไวน์ฝรั่งเศส พอวางสายก็ถามหญิงสาว “เป็นไงครับ”
“ขอบคุณค่ะ” โชติกายิ้มรับ ไม่รู้หรอกว่าไวน์อะไรเพราะปกติก็แค่ดื่ม ไม่ได้เสียเวลามาวิเคราะห์ชื่นชมรสชาติ จากนั้นก็เริ่มทำตัวเป็นการเป็นงานไม่ให้เขาจับได้ว่าเธอมีจุดประสงค์อื่นแอบแฝง “รบกวนคุณช่วยอ่านเอกสารนี่หน่อยค่ะ ฉันไม่อยากให้คุณต้องเสียเวลา” ว่าจบก็หยิบเอกสารออกจากแฟ้ม
“ไม่เป็นไรครับ นิดหน่อย คุณเป็นสมาชิกสโมสรนักศึกษาเหรอครับ” คาร์ลชวนคุย รู้สึกว่าหญิงสาวตรงหน้าสวยน่าดึงดูดแต่เขาไม่คิดจีบเพราะเขาผ่านผู้หญิงสวย ๆ มามาก
“ค่ะ ฉันคิดว่าจะได้เป็นการหาประสบการณ์อย่างหนึ่ง แล้วฉันก็เป็นคนรักสนุกด้วย” หลังจากหย่อนเบ็ดก็รอดูปฏิกิริยาของชายหนุ่ม
“รักสนุกเหรอ” คาร์ลหรี่ตา มุมปากยกขึ้นเล็กน้อยคล้ายขบขัน รู้สึกว่าผู้หญิงคนนี้น่าสนใจ ไม่รู้ว่าเธอแค่หลุดปากเพราะใช้คำไม่ถูกหรือว่าจงใจยั่ว
“อ้อ พอดีฉันเรียนวาดรูป ก็เลยอยากหาอะไรอย่างอื่นทำบ้างน่ะค่ะ” คิดหาข้อแก้ตัวข้าง ๆ คู ๆ
“คุณวาดแนวไหนล่ะ” ชายหนุ่มไม่แปลกใจเพราะมหาวิทยาลัยที่หญิงสาวเรียนขึ้นชื่อเรื่องวาดรูปอยู่แล้ว
“แนวต่อต้านสังคม ไม่ก็อีโรติกค่ะ” คำตอบหลังโชติกาตั้งใจมาก
การที่เธอตอบตรง ๆ ยิ่งทำให้คาร์ลสนใจจากที่คิดจะชวนคุยเล่น ๆ ฆ่าเวลากลับคิดจะคุยจริงจังเพราะอยากรู้ความคิดของหญิงสาว
“ผมคิดไม่ถึงเลย ตอนแรกคิดว่าคุณน่าจะวาดพวกแนวธรรมชาติอะไรพวกนี้มากกว่า”
“ไม่แปลกหรอกค่ะ คนส่วนใหญ่ก็คิดแบบนี้ แต่ฉันว่ามันน่าเบื่อ ฉันสนใจที่จะลงลึกเข้าไปในจิตใต้สำนึกของมนุษย์มากกว่า”
“จิตใต้สำนึกของมนุษย์เหรอ” คาร์ลพยักหน้าครุ่นคิด ยิ่งคุยลยิ่งสนุกไม่น่าเบื่อ ผู้หญิงคนนี้ไม่เพียงแต่รูปลักษณ์ภายนอกความคิดก็น่าสนใจเช่นเดียวกัน
“มนุษย์ครั้งหนึ่งเคยเป็นสัตว์ป่ามาก่อนแล้วถึงค่อยพัฒนามาเป็นสัตว์สังคมอย่างเช่นทุกวันนี้ แต่ถึงยังไงส่วนลึกก็ยังมีสัญชาตญาณของความเป็นสัตว์ป่าซ่อนอยู่ โดยเฉพาะเมื่อมีสิ่งเร้า ภาพที่ฉันวาดส่วนใหญ่เลยออกมาในแนวขบถ คือฉันชอบแนวดุดันป่าเถื่อนมากกว่าน่ะค่ะ”
“อะแฮ่ม!”
คาร์ลกระแอมแทบสำลักน้ำลายตัวเอง เขายกมือคลายเน็กไทออกเล็กน้อย รู้สึกอึดอัดแปลก ๆ ใช้สายตาพิจารณามองหญิงสาว จากการแต่งตัวที่ไม่ใช่ชุดนักศึกษาหรือชุดที่ควรใช้มาติดต่องานแล้วลองวางเดิมพันดูบ้าง
คาร์ลนั่งอยู่ริมเตียง มองรอยยับย่นของที่นอนจากการร่วมรักกับโชติกา จากนั้นก็มองหมายเลขโทรศัพท์ในมือถือ ยังไม่เข้าใจตัวเองเลยว่าทำไมต้องสั่งให้เธอโทรหาหลังกลับจากไปเที่ยว เขากับเธอเริ่มจากความรักสนุกไม่ผูกพัน ยอมรับว่ามันง่ายและเขาก็ชอบ ใครจะปฏิเสธความสัมพันธ์แบบนี้ได้กันล่ะ เพราะส่วนใหญ่จะเจอแต่พวกเกาะหนึบไม่ยอมจบ ทำให้เขาขยาด ผิดกับโชติกาที่ไม่ส่อแววคิดสานสัมพันธ์ใด ๆ กับเขาต่อเลย หรือเป็นเพราะเธอยังสาวยังต้องการหาความสนุกให้กับชีวิต หรือเป็นเพราะเขาอายุห่างกับเธอมากเกินไป แต่ไม่ว่าด้วยเหตุผลอันใด การที่เขาได้เอ่ยปากออกไปแบบนั้นแล้ว หมายความว่าเขาเริ่มจะคิดจริงจังหาเรื่องใส่ตัวแท้ ๆ! เขาควรปล่อยเธอไปแต่กลับทำตรงกันข้ามคาร์ลมองไปรอบห้องนอนที่ยังเหลือกุหลาบกับลูกโป่งที่หญิงสาวนำกลับไปไม่หมด เขาทำตัวอบอุ่นและโรแมนติกกับเธอและเธอชอบมัน ยิ่งตอกย้ำว่านี่คือการออกเดทกันอย่างแท้จริง ผิดกับทุกครั้งที่เป็นเพียงการสนุกกันแล้วจบ ไม่คิดเลยว่าเขากับเธอจะเดินมากันถึงจุดนี้ได้ และไม่ใช่เธอแต่เป็นเขาที่ไม่ยอมหยุด เป็นเพราะอะไรกัน ทำไมเขาถึงไม่เคยรู้สึกพอในตัวเธอเลย ยิ่งได้แล้วก็ยิ่งอ
ชายหนุ่มหญิงสาวนั่งอยู่ด้วยกันที่โซฟาแสนสบายหลังจากอาบน้ำแต่งตัวใหม่และรับประทานอาหารที่ถูกทิ้งไว้ตอนหัวค่ำเรียบร้อยแล้ว ก็รู้สึกหมดแรงเกินกว่าจะทำอะไรทั้งสิ้น ตอนนี้ทั้งคู่แค่จิบไวน์กับกินช็อกโกแลตและพูดคุยกันเรื่อยเปื่อย“คุณสปอยล์ฉันมากเกินไปแล้วค่ะ”“วันนี้วันวาเลนไทน์ ฉันก็ต้องเอาใจเธอสิ”“ก่อนหน้าที่จะเจอกับคุณฉันเกือบจะนอนกับคนอื่นไปแล้ว”“ฉันดีใจที่เธอเลือกนอนกับฉันแทน”“มันเหลือเชื่อมากเลยนะคะ คุณกับฉันไม่มีความเป็นไปได้เลยที่จะได้เจอกัน ตอนเสิร์ชหารูปหนุ่มหล่อแล้วเห็นรูปคุณ ฉันแค่คุยเล่น ๆ กับแนน ไม่คิดหวังหรอกว่าจะได้เจอกับคุณ”“ฉันมีความสุขมากที่ได้เป็นคนแรกของเธอ”โชติกาถอนหายใจ“แต่คุณทำให้ฉันตั้งมาตรฐานสูงเกินไปแล้วสิคะ”“อย่างนี้ก็ดี เพราะฉันอยากให้เธอนึกถึงฉันเวลาที่เจอพวกอ่อนหัดที่จ้องจะเอาเธอ”“เพื่ออะไรคะ”ในเมื่อเขากับเธอย่างไรก็ต้องจบกันอยู่ดี และคืนนี้แม้ได้พูด แต่เป็นที่เข้าใจว
ผิวเนื้อยับย่นให้ความรู้สึกเย็นที่ลิ้นผิดกับแท่งเอ็นใหญ่อย่างสิ้นเชิงที่ให้ความรู้สึกร้อนแทบลวก โชติกาแลบลิ้นปาดเลียตั้งแต่โคนขึ้นมาจรดปลาย เลียวนตรงส่วนหัวบานที่น้ำสีใสไหลซึมออกมา เมื่อผสมกับช็อกโกแลตแล้วเป็นรสชาติที่ยอดเยี่ยมมาก จากนั้นก็อมทั้งหมดเข้าปาก ดูดกลืนอย่างเอร็ดอร่อย เมื่อคลายออกก็รู้สึกว่าท่อนเนื้อร้อนจะโป่งพองกว่าเดิมจนสามารถเห็นเส้นเลือดสีน้ำเงินที่นูนออกมา“ที่จริงคุณต้องเป็นคนทำไม่ใช่เหรอคะ” โชติกาแกล้งเตือนทันใดนั้นชายหนุ่มก็คว้าแขนดึงให้หญิงสาวขึ้นมานั่งคร่อมหน้าตัวเอง โพรงรักจ่อตรงกับปาก แล้วเขาก็ใช้ลิ้นตวัดเลียกลีบเนื้อซุกซอนชอนไชพลิกพลิ้วไปถ้วนถั่วทุกตารางนิ้วของหญิงสาวโดยปราศจากความอ่อนโยน ทว่าเต็มไปด้วยความกระหายดุดัน“โอ้วววว ซี้ดดดดดสสสสสส์” โชติกาเสียวจนขาสั่นตัวสั่น แอ่นตัวแหงนเงยใบหน้าไปด้านหลังและครวญครางไม่หยุด ใช้มือผลักศีรษะชายหนุ่มให้หยุดแต่เขากลับยิ่งดูดติ่งสวาทอย่างแรง“พะพอแล้วค่ะ มะมะไม่ไหวแล้ว อ๊ายยยยยย”ความร้อนจากกลางกายพวยพุ่งขึ้นมาถึงขีดสุดจนโชติกาแทบจะทนไม่ไหว ไม่สามาร
ในที่สุดก็ถึงวันวาเลนไทน์ โชติกาบรรจงแต่งตัวเป็นพิเศษ ทั้งยังลองซื้อแป้งฝุ่นกลิ่นคาราเมลมาลองใช้ด้วย ความพิเศษคือเป็นแป้งที่กินได้ไม่มีอันตราย เธอตั้งใจทาแป้งนี้บาง ๆ ไปทั่วทั้งตัว ทำให้ตัวเธอมีกลิ่นหอมหวานน่าทานเหมือนขนมเมื่อไปถึงบ้านชายหนุ่มเขาก็ออกมาต้อนรับหน้าบ้านด้วยตัวเอง เธอจอดรถเดินตามเขาเข้าไปในบ้าน ยังไม่ทันจะได้เข้าไปข้างในก็ถูกดันตัวชิดกำแพงและกักไว้ในวงแขนแกร่ง“ฉันบอกได้รึยังว่าคืนนี้เธอสวยมาก” คาร์ลโน้มหน้าลงมาจ้องตาหญิงสาว“บอกแล้วค่ะ แต่ฉันชอบได้ยินคุณชมบ่อย ๆ”คาร์ลเหมือนจะขยับเข้ามาใกล้ชิดยิ่งขึ้น เมื่อริมฝีปากของทั้งคู่ใกล้จะแตะกันเขาก็ผละออก เพราะคิดว่าหากจูบเธอตอนนี้คงจะอดใจไม่ไหวแล้วเดี๋ยวจะเลยเถิดไปกันใหญ่ เขายังไม่อยากให้ความสวยของเธอเสียหายไปอย่างรวดเร็ว แต่กลิ่นของเธอวันนี้ช่างหอมหวานยั่วเยินเหลือเกิน“ทำตัวตามสบายนะ”คาร์ลเดินนำหญิงสาวเข้าไปด้านในจนกระทั่งมาถึงห้องครัว กลิ่นหอมของอาหารลอยเตะจมูก โชติกามองสำรวจโดยรอบขณะนั่งลง ซึ่งเธอมักจะเป็นแบบนี้เสมอเวลาไปบ้านคนอื่น เหมือนอย่า
เวลาประมาณเที่ยงคืนโชติกาได้รับโทรศัพท์จากยายอีกครั้ง ดูเหมือนท่านเพิ่งจะคิดอะไรได้ และกลายเป็นว่าท่านไม่ได้ดูสุขุมและชิลล์เหมือนที่แสดงออกก่อนหน้า“นี่ชะพลูหนูคิดว่าพ่อคาร์ลเขาจะยอมจ่ายเงินมากขนาดนั้นกับแค่สูตรเค้กบ้าน ๆ ของยายมั้ย” ครั้งนี้เสียงยายเป็นกังวล“หนูว่าถ้าเขาไม่พร้อมจ่ายเขาคงจะไม่พูดออกมาหรอกค่ะ หนูแค่ห่วงเรื่องเดียว ว่าเขาจะไม่ให้ยายใช้สูตรนี้ทำเค้กอีก”“โธ่ยัยหลานบ๊องเอ๊ย! ทำไมยายจะทำไม่ได้เล่า นี่สูตรยายนะ แต่แค่ยายคงจะไม่สามารถทำขายได้ แต่ยายไม่มีปัญหากับเรื่องนี้หรอก ยายขี้เกียจตื่นขึ้นมาอุ่นเตาอบจะแย่แล้ว ทีนี้ยายว่าจะเอาเวลาไปขยายแปลงผักสวนครัวของยายให้มากขึ้น ยายแค่กังวลว่าเขาจะคิดว่ายายเรียกร้องมากเกินไปแล้วจะเปิดก้นหนีน่ะสิ เหมือนเขาจ่ายเงินให้กับช็อกโกแลตตัวเอง เฮ่อ…ไม่รู้ว่าพวกลูกน้องเขาห่วยขนาดไหนที่ทำเค้กโดยใช้ช็อกโกแลตตัวเองออกมาไม่ได้”“นั่นสิคะยาย ฮ่า ๆ ๆ” โชติกาหัวเราะเห็นด้วย“นี่ยายอยากรู้จังว่าเขาจะจ่ายค่าสูตรเค้กคาราเมลของยายเท่าไหร่”&ldqu
“ฉันคิดว่าคุณยังไม่พอใจสูตรเค้กที่กำลังจะออกใหม่ของคุณใช่มั้ยคะ”“ใช่” เขาชักอยากจะรู้แล้วสิว่าเธอจะทำอะไร“รอฉันแป๊บนะคะ”โชติกาเดินไปหยิบของที่เคาน์เตอร์ครัวออกมา คาร์ลพอเห็นสิ่งที่วางตรงหน้าสีหน้าก็เปลี่ยนไปทันที“ฉันรู้ค่ะว่าคุณเอียน แต่ก่อนที่คุณจะปฏิเสธ ได้โปรดลองนี่ก่อนค่ะ เผื่อคุณจะมีไอเดียไปปรับใช้” โชติการีบเบรกพร้อมคะยั้นคะยอให้เขาลองชิมเค้กช็อกโกแลตที่เธอตั้งใจทำเพื่อเขามาก“เธอทำเองเหรอ” คาร์ลถามด้วยความประหลาดใจ“ค่ะ”“เธอทำให้ฉันเหรอ”“ก็ใช่สิคะ”“ฉันคิดไม่ถึงเลยว่าเธอจะทำเค้กเป็นด้วย”“ฉันจะถือว่าเป็นคำชมนะคะ แต่คุณลองชิมก่อนเถอะค่ะแล้วค่อยชมฉันต่อ” โชติกายิ้มอย่างมั่นใจเธอตัดเค้กเป็นชิ้นแบ่งใส่จานวางตรงหน้าชายหนุ่ม เขาหยิบส้อมมาตัดเป็นชิ้นพอดีคำแล้วตักเข้าปาก วินาทีแรกที่รับรสสัมผัสถึงกับทำตาโต“นี่มัน…ใช่ อร่อยมาก” คาร์ลทั้งทึ่งและประทับใจในฝีมื