หลังจากวันที่พาสาริศาไปซื้อชุดว่ายน้ำแล้วปีขาลก็ยังไม่เคยเจอกับหญิงสาวอีกเลยเพราะเขางานยุ่งมาก กว่าจะกลับมาถึงคอนโดก็เกือบจะหนึ่งทุ่ม ส่วนสาริศาเลิกงานในเวลาสิบเจ็ดนาฬิกาและเธอเดินทางไปกลับเองทุกวัน
แต่ชายหนุ่มก็แอบเข้าดูในไอจีตามที่หญิงสาวบอกเขานั่งดูภาพของเธอทุกๆ วันจนคิดว่าวันหนึ่งต้องหาโอกาสเห็นเธอสวมชุดว่ายน้ำแบบที่ถ่ายลงในไอจีให้ได้เพราะอยากจะรู้ว่าเธอรีทัชภาพหรือที่เห็นนั้นคือสัดส่วนที่แท้จริงของเธอ
ความรู้สึกที่มีต่อสาริศามันเพิ่มมากขึ้นแต่คำว่าอาหลานยังค้ำคออยู่ ปีขาลสับสนกับเรื่องนี้และเครียดจนไม่รู้จะหาทางออกยังไงใจหนึ่งอยากเขาไปสนิทกับเธอเหมือนเดิมอีกใจก็อยากจะถอยห่างเพราะกลัวว่าตนเองจะทำอะไรเลยเถิดกับหลานสาวซึ่งถ้าเป็นแบบนั้นทั้งบิดามารดาของเขาและเธอคงได้โกรธมากแน่ๆ
ปีขาลรู้ว่ามารดาของตนเองรักสาริศามากมายเหลือเกิน แล้วความรู้สึก ที่เขามีให้หญิงสาวนั้นมันคืออะไรความรัก ความหลงในรูปหรือแค่ความสนใจเหมือนเด็กที่อยากรู้ว่าข้างในกล่องของขวัญนั้นคืออะไร แต่พอแกะมาเล่นสักพักก็เบื่อแล้วก็โยนทิ้ง ถ้าหากเขาทำแบบนั้นกับสาริศาครอบครัวของเขาและครอบครัวของเธอก็คงจะมองหน้ากันไม่ติดแน่ๆ
ก๊อก ก๊อก ก๊อก
เสียงเคาะประตูทำให้ปีขาลหลุดออกจากความคิดฟุ้งซ่าน เมื่อเงยหน้าขึ้นเห็นว่าเลขานุการของตนกำลังถือแฟ้มเดินเข้ามาเข้ามา
“ยังไม่ถึงเวลาเลยคุณต่ายหรือว่าลูกค้าเลื่อนเวลา”
“ลูกค้าไม่ได้เลื่อนเวลานัดหรอกค่ะบอส ลูกค้าไม่สบายนิดหน่อย เขาเลยบอกให้เราจัดการทุกเงื่อนไขตามที่เราเสนอไปเลยส่วนเอกสารเดี๋ยวบอสเซ็นเสร็จแล้วส่งไปให้ทางเขาเซ็นอีกทีค่ะ”
“ถ้างั้นเย็นนี้ผมก็กลับบ้านแล้วใช่ไหม”
“ถ้าบอสเซ็นเอกสารตรงนี้เสร็จก็กลับบ้านได้เลยค่ะ”
เมื่อเลขาออกไปจากห้องแล้วปีขาลก็อ่านเอกสารตรงหน้าก่อนจะลงลายมือชื่อเขามองนาฬิกาแล้วเห็นว่าถ้าไปรับสาริศาที่มหาวิทยาลัยก็คงไม่ทัน ชายหนุ่มจึงขับรถกลับไปที่คอนโดและแอบลุ้นว่าวันนี้หญิงสาวจะลงไปว่ายน้ำไหม เพราะเขาเห็นในสตอรี่ ของเธอช่วงนี้มักจะไปที่สระว่ายน้ำเล่นบ่อยๆ
ปีขาลถามหน้าเคาน์เตอร์ชั้นล่างว่าสาริศาเข้ามาหรือยังพนักงานรู้ว่าเขากับเธอเป็นอากับหลานก็บอกว่าหญิงสาวยังไม่กลับมา
เขากลับขึ้นไปบนห้องและเปลี่ยนชุดมารอสาริศาที่สระว่ายน้ำเขาว่ายน้ำจนเหนื่อยก็ขึ้นมานอนพักบริเวณเตียงด้านข้างอ่านนิตยสารเล่มใหม่ที่ถือติดมือขึ้นมาฆ่าเวลา
อ่านหนังสือไปไม่กี่หน้าสาริศาก็สวมชุดคลุมออกมาจากตัวอาคาร หญิงสาววางกระเป๋าและถอดเสื้อคลุมออกช้าๆ ก่อนจะเดินลงไปในสระว่ายน้ำ ซึ่งตอนในสระมีคนว่ายน้ำอยู่เพียงสองคน คนหนึ่งเป็นผู้หญิงวัยกลางคนกับอีกคนเป็นหนุ่มหล่อที่ปีขาลเคยเห็นหน้ามาบ้าง
หญิงสาวว่ายน้ำไปเรื่อยๆ โดยไม่สนใจว่ามีใครแอบมองอยู่หรือเปล่า เธอว่ายมาใกล้จุดที่ปีขาลนั่งอยู่ ชายหนุ่มรีบยกหนังสือขึ้นอ่านและเมื่อเธอว่ายกลับไปอีกทางเขาก็ลดหนังสือในมือลง
สาริศาว่ายน้ำไปกลับอย่างช้า อยู่หลายรอบพอรู้สึกเหนื่อยก็ขึ้นมานั่งบนขอบสระโดยมีผู้ชายที่ว่ายอยู่ก่อนหน้านั้นเข้ามาคุยด้วย
ปีขาลไม่รู้ว่าทั้งสองคุยอะไรกันแต่เท่าที่เห็นก็คิดว่าน่าจะไม่ใช่การคุยกันครั้งแรกแน่ๆ แต่เขาไม่รู้ว่าสาริศากับผู้ชายคนนี้รู้จักกันมาก่อนหรือเพิ่งมาเจอกันที่นี่ ปีขาลรู้สึกไม่พอใจเท่าไหร่ที่เห็นสาริศาสนิทกับผู้ชายคนอื่นแบบนี้ ไม่รู้ว่าเป็นห่วงเพราะมารดาฝากให้ดูแลหรือเพราะลึกๆ แล้วตนเองมองเธอเป็นผู้หญิงคนหนึ่งไม่ใช่หลานสาวอย่างที่พยายามคิดมาตลอด
เขาอยากจะเข้าแยกทั้งสองคนออกจากกันแต่ยังไม่ทันลุกจากที่นั่งสองคนก็ขึ้นจากสระและพากันกลับเข้าไปในตัวอาคาร ปีขาลหงุดหงิดมากและคิดว่าจะไม่ยอมให้เรื่องนี้มันเกิดขึ้นอีก เขาต้องหาทางกันทั้งสองคนออกจากกันก่อนที่ความสัมพันธ์จะพัฒนาไปมากกว่าที่เห็น
ปีขาลกลับขึ้นมาบนห้องอีกครั้ง เมื่ออาบน้ำเสร็จก็คิดว่าจะเข้าคุยกับสาริศาเพราะพรุ่งนี้มารดาของเขาชวนเธอไปทานข้าวเย็นที่บ้าน
ชายหนุ่มกดออดอยู่หลายครั้งแต่ก็ไม่มีอะไรเกิดขึ้น เขาคิดว่าบางทีหญิงสาวอาจจะลงไปอะไรทานก็เป็นได้ เขาเองก็เริ่มจะหิวเลยลงไปยังร้านอาการที่อยู่ข้างคอนโด สายตาก็พยายามมองหาสาริศาแต่มองจนกระทั่งทานอาหารค่ำเสร็จก็ไม่เห็นเธอเลย ปีขาลเลิกสนใจเพราะเพื่อนโทรมานัดให้ออกไปดื่มเหมือนเคย
ชายหนุ่มมาร้านประจำซึ่งสืบสกุลเพื่อนของเขาเป็นเจ้าของอยู่ วันนี้เพื่อนที่มาดื่มมีแค่สืบสกุลเจ้าของร้านและอรรถกรเพื่อนสนิทอีกคนเท่านั้น
“คนอื่นไปหมดวะเป้” ปีขาลถามอรรถกรที่นั่งดื่มอยู่ก่อนแล้ว
“วันหยุดยาวพวกมันต้องพาครอบครัวไปเที่ยวต่างจังหวัด เหลือแค่พวกเราสามคนนี่แหละ”
“กูว่าเราสามคนคงต้องหาแฟน”
“แล้วน้องคนที่มึงคุยด้วยไปไหนแล้วสืบทำไมยังต้องหาอีกล่ะ” ปีขาลยังจำได้ว่าดื่มเหล้าด้วยกันครั้งก่อนสืบสกุลยังพูดถึงเด็กรุ่นน้องที่เขาบอกว่าคนนี้น่าจะเป็นคนที่ใช่ที่สุด
“คุยนานๆ แล้วไม่ใช่ก็เลยถอยออกมา แล้วมึงล่ะเสือกูเห็นนะคืนนั้นมึงพาผู้หญิงกลับไปด้วยคนหนึ่ง ตอนนี้ยังคุยกันต่อไหม”
ปีขาลส่ายหน้าไม่เคยสานสัมพันธ์กับใครต่อเพราะก่อนพาออกจากร้านก็คุยกันแล้วว่าทุกอย่างจะจบแค่คืนนั้น
“กูเริ่มเบื่อชีวิตแบบนี้แล้วอยากจริงจังกับใครสักคน”
“ไอ้เป้มึงกินไปกี่แล้ววะถึงได้พูดแบบนี้ เมาก็กลับไปนอนเลย”
“กูพูดจริงว่ะเสือ กูว่ากูใช้ชีวิตมาเยอะ กูอยากมีครอบครัวแล้วมึงสองคนไม่คิดเรื่องนั้นบ้างเหรอ”
“สำหรับกูเรื่องนั้นไม่เคยอยู่ในหัว กูเห็นครอบครัวพี่กับน้องของกูแล้วปวดหัวว่ะ ขอเป็นโสดดีกว่า มึงล่ะเสือ” อรรถกรเห็นความวุ่นวายในครอบครัวของพี่ชายและน้องชายแล้วทำให้เขาไม่คิดจะมีครอบครัวแค่อยากมีใครสักคนพี่คบกันไปเรื่อยแบบไม่ต้องผูกมัด
“กูยังไม่แน่ใจ”
“หมายถึงอะไร”
“กูเจอผู้หญิงคนหนึ่ง ตรงสเปกกูทุกอย่าง แต่คงเป็นไปได้ยากถ้าจะคบกัน”
“ปัญหาคือ....” สืบสกุลเลิกคิ้ว
“เขาเป็นหลานกู” ปีขาลพูดแล้วก็ถอนหายใจอย่างคนหมดอาลัยตายอยาก
“คุกนะเสือ” อรรถกรรีบบอก
“ไม่เขาเรียนจบแล้ว กูเคยเห็นเขาตั้งแต่เด็กแต่ไม่ได้เจอกันอีกสิบกว่าปีเลย ไม่คิดว่าโตขึ้นแล้วจะสวยมาก กูรู้นะว่ามันผิดแต่ก็อดมองเขาไม่ได้ ยิ่งได้อยู่ใกล้กูก็ยิ่งชอบ”
“มึงต้องถอยออกมานะเว้ยเสือ ก่อนที่จะถลำลึกมากไปกว่านี้ แต่กูก็รู้จักมึงมานานทำไมถึงไม่เคยรู้ว่ามึงมีหลานวะ” อรรถกรกับปีขาลรู้จักกันมาตั้งแต่มัธยมปลายถึงตอนนี้ก็สิบปีแล้ว
“เขาอยู่เชียงใหม่เพิ่งย้ายมาทำงานที่กรุงเทพนะ เป็นลูกสาวของรุ่นน้องแม่ แม่ก็เลยฝากให้กูช่วยดูแล”
“ไม่ใช่หลานทางสายเลือดเหรอวะ”
“ไม่หรอก
“ไม่ใช่ญาติทางสายเลือด เรียนจบแล้วกูไม่เห็นว่ามันจะเป็นปัญหาตรงไหนเลยนะเสือ”
ครอบครัวของปีขาลเดินทางมาถึงสนามบินเชียงใหม่ในเวลาสาย พวกเขาเช่ารถตู้พร้อมคนขับให้ไปส่งที่ไร่ส้มของสาริศาซึ่งบิดามารดาและพี่ชายของเธอรอต้อนรับอยู่แล้ว“สวัสดีค่ะพี่นิตตราพี่ประสานไม่ได้เจอกันนานเลยสบายดีนะคะ”“พี่สบายดีแล้วทุกคนที่นี่เป็นยังไงบ้าง”“ผมสบายดีครับ”“นั่นเจ้าเอกใช่ไหมเป็นหนุ่มหล่อแล้ว ลุงไม่เจอแค่ไม่กี่ปีเองแล้วยังไงล่ะ แต่งงานหรือยัง”“ยังเลยครับ ผมคิดว่าอยู่เป็นโสดแบบนี้ดีกว่าครับคุณลุง”“นั่นไงตาใหญ่มีเพื่อนแล้วแหละ”“มากันเหนื่อยๆ เข้าไปนั่งข้างในกันก่อนนะคะ” คุณพัชรีเชิญแขกทั้งหมดเข้าไปยังรับแขกเมื่อพักเหนื่อยกันพอสมควรแล้วคุณนิตตราก็เริ่มบทสนทนา“วันนี้ที่ครอบครัวพี่มาที่นี่ไม่ใช่แค่จะมาเที่ยวอย่างเดียวนะเรามีเรื่องจะคุยกับน้องพัชด้วย”“เรื่องอะไรคะพี่นิตหรือว่าเจ้าเอยไปทำเรื่องอะไรให้พี่ต้องปวดหัวหรือเปล่า”“ไม่เลยเจ้าเอยเป็นเด็กดีมาก ดีจนพี่อยากได้เป็นลูกสะใภ้”“อะไรนะคะพี่นิต พัชฟังผิดใช่ไหม”“ไม่ผิดหรอกจริงๆ แล้วที่พี่มาที่นี่วันนี้ก็อยากจะมาพูดจาสู่ขอเจ้าเอยให้ลูกชายของพี่” คุณพัชรีมองหน้าลูกชายทั้งสองของรุ่นด้วยความสับสนเพราะไม่รู้ว่าคนไหนคือคนที่รุ่นพี่ของเ
หลังจากเดินซื้อหนังสืออยู่เกือบสามชั่วโมง ปีขาลก็พาสาริศาแวะทานเค้กที่ร้านโปรดของเธอแล้วพาไปยังบ้านของตนเองก่อนเวลานัดเพราะขี้เกียจจะกลับไปที่คอนโดมารดาของชายหนุ่มดีใจมากที่เห็นทั้งสองมาถึงก่อนเวลาเพราะเธอจะได้มีเวลาพูดคุยกับทั้งสองคนมากขึ้น“สวัสดีค่ะคุณป้า”“สวัสดีจ้ะ ไปไหนกันมาล่ะเจ้าเอย”“หนูให้อาเสือพาไปซื้อหนังสือมาค่ะ“ได้มาเยอะไหมล่ะลูก”“ได้เกือบสิบเล่มเลยค่ะ ดีนะคะที่อาเสือไปด้วยถ้าหนูไปเองคงหิวปวดไหล่แย่เลยค่ะ”“ลูกชายของแม่นี่ก็มีประโยชน์กับเขาเหมือนกันนะ”“พี่ใหญ่กับพ่อไปไหนเหรอครับ”“พ่อไปตีกอล์ฟกับเพื่อนน่าจะกลับเย็นๆ ส่วนพี่ชายของลูกก็นั่งทำงานอยู่ในห้อง”“อาใหญ่ขยันจังเลยนะคะคุณป้าวันอาทิตย์ก็ยังทำงาน”“ก็เพราะขยันแบบนี้ไงล่ะ ถึงยังไม่มีแฟนสักที” ปีขาลได้ทีก็ว่าพี่ชายเพราะตอนนี้ตัวเองถือไพ่เหนือกว่าเนื่องจากสาริศาเริ่มเปิดใจให้ตนเองมากขึ้นแล้ว“ว่าแต่พี่เขาแล้วเสือล่ะ เมื่อไหร่จะพาผู้หญิงคนนั้นมาเจอแม่”“รออีกสักพักครับแม่”“จะรออะไรล่ะเสือ”“รอให้เธอมั่นใจในตัวผมอีกนิดครับแม่ แล้วผมจะพามารับรองว่าแม่จะดีใจมาก”“เสือจริงจังกับผู้หญิงคนนี้จริงๆ ใช่ไหมจะไม่หลอกเธอจะไม่
ถึงแม้ว่าเมื่อคืนจะกลับจากงานเลี้ยงและมาถึงบ้านก็เกือบจะตีสองแต่ปภังกรก็ตื่นเช้าตามปกติ เขาลงมาทานอาหารเช้ากับครอบครัวและนั่งคุยกับมารดาอยู่ที่ห้องนั่งเล่น ส่วนบิดานั้นออกไปตีกอล์ฟกับเพื่อนหลังจากทานอาหารเสร็จ“เป็นยังไงบ้างล่ะใหญ่ เมื่อคืนผ่านไปได้ด้วยดีไหม”“ครับแม่ไม่มีใครสงสัยอะไรเลย”“โล่งใจไปทีนะ แล้วนี่เขาจะกลับอเมริกาเมื่อไหร่”“ผมไม่ได้คุยกับเขาเลยครับ แต่ได้ยินจากเพื่อนคนอื่นบอกว่าน่าจะอาทิตย์หน้า”“แล้วกับเจ้าเอยเป็นไงบ้าง ออกงานด้วยกันรู้สึกอะไรเป็นพิเศษกับเธอไหม” คุณนิตตราถามอย่างมีความหวัง“ไม่เลยครับแม่ ผมรู้ว่าแม่พยายามจะจับคู่ให้ผมกับเจ้าเอยแต่มันเป็นไปไม่ได้เลยจริงๆ ผมไม่ได้คิดอะไรกับเจ้าเอยและเจ้าเอยก็มองผมเหมือนญาติผู้ใหญ่จริงๆ ครับแม่ อายุของเราห่างกันเกินไป“แม่เสียดายจังจริงๆ เลย ตอนแรกแม่อยากจะให้เจ้าเอยกับตาเสือคบกันนะ แต่ลูกชายแม่ก็บอกว่าตอนนี้กำลังดูใจกับผู้หญิงอื่นอยู่ แบบนี้สงสัยแม่จะไม่ได้เจ้าเอยเป็นลูกสะใภ้แล้วแน่ๆ ใช่ไหม”“ถึงเจ้าเอยไม่ได้เป็นลูกสะใภ้เธอก็ยังเป็นลูกสาวของแม่ได้นี่ครับ อย่าคิดมากไปเลย”“ในเหมือนกันที่ไหนล่ะ เห้อ” เธอถอนหายใจ“แล้วเรื่องแ
ตลอดเวลาที่อยู่ในงานแต่งงานมีสายตาหลายคู่จับจ้องมาทางสาริศาและปภังกรทำให้ทั้งสองต้องทำตัวสนิทสนมกันมากขึ้นเพราะกลัวความลับจะแตกปภังกรก็รู้สึกเกรงใจหญิงสาวมากๆ แต่มันก็เลี่ยงไม่ได้หลังจากงานแต่งก็มีอาฟเตอร์ปาร์ตี้เล็กๆ จากนั้นเพื่อนสนิทก็ชวนกันไปเที่ยวกันต่อซึ่งร้านที่ไปก็เป็นร้านของเพื่อนปีขาลพอดีระหว่างนั่งรถสาริศาก็ไลน์บอกกับปีขาลว่าเธอกำลังมาที่ร้าน“เจ้าเอยยังไม่ง่วงใช่ไหม”“ยังค่ะอาใหญ่”“อาว่าเราจะเข้าไปในผับไม่นานหรอก สักพักก็จะขอตัวกลับ เจ้าเอยอดทนอีกนิดนะ” ปภังกรบอกอย่างเกรงใจเพราะตอนนี้ก็ดึกมากแล้ว“ค่ะอาใหญ่”เมื่อเข้ามาในผับสาริศาก็มองหาปีขาลและดูเหมือนเขารู้ว่าหญิงสาวกำลังมองหาปีขาลเลยไลน์บอกว่าตอนนี้เขาอยู่บริเวณชั้นสองสาริศาเงยหน้ามองแล้วยิ้มให้สาริศานั่งดื่มกับปภังกรและเพื่อนๆ อยู่สักพักเพื่อนๆ ของเขาก็พากันออกไปเต้นรำเมื่อทางร้านเปลี่ยนเพลงเป็นจังหวะช้าๆ และเธอก็เลียงไม่ได้เลยพี่จะต้องไปเต้นรำกับปภังกรหญิงสาวรู้สึกเกร็งมากๆ ขณะที่กำลังเต้นรำอยู่กับปภังกรก็มีสายตาคนจ้องจับผิดอยู่ทางด้านบนเมื่อเพลงแรกจบหญิงสาวก็เลยขอตัวมานั่ง“หนูว่าหนูคงยืนนานๆ ไม่ไหวหรอกค่ะอาใหญ่”
บ่ายวันเสาร์สาริศาแต่งตัวด้วยเดรสสีชมพูกลีบบัวเธอแต่งหน้าอ่อนๆ เกล้าผมเป็นมวยสูงทำให้ใบหน้าที่สวยวันนี้ดูสวยเด่นมากยิ่งขึ้น ขณะที่แต่งตัวเสร็จแล้วยังไม่ทันได้สวมสร้อยคอเสียงเคาะประตูหน้าห้องก็ดังสองจากนั้นปีขาลก็เปิดประตูเข้ามา“อาเสือมีอะไรหรือเปล่าหนูยังแต่งตัวไม่เสร็จเลย”“อาจะมาช่วยดูเผื่อว่าเจ้าเอยจะแต่งตัวโป๊”“ไม่โป๊หรอกค่ะ” สาริศายืนขึ้นแล้วหมุนตัวให้ดูเดรสยาวคลุมเข่าเล็กน้อย ด้านหน้าคอค่อนข้างลึกจนเกือบจะเห็นร่องอกอวบอิ่มสาวด้านหลังก็เว้าลงเกือบถึงกลางแผ่นหลังขาวถึงแม้จะดูไม่โป๊เท่าไหร่แต่เธอก็เซ็กซี่ในสายตาของปีขาลอยู่มาก“เจ้าเอยของอาสวยมากจริงๆ อาชักไม่อยากให้ไปแล้ว” ปีขาลเดินเข้ามาใกล้กอดและหอมแก้มทั้งสองข้าง“อาเสือหนูแต่งหน้าแล้วเดี๋ยวก็เปื้อนหมดหรอก”“เปื้อนก็ไม่ต้องไปสิ อาชักไม่อยากให้ไปแล้วจริงๆ นะ”“ได้ยังไงกันคะ อาเสือก็หนูรับปากอาใหญ่กับคุณป้าไว้แล้ว หนูไม่อยากเป็นคนผิดคำพูดแล้ว”“คุยกับพี่หรือยังว่างานแต่งเลิกแล้วจะกลับมาเลยหรือเปล่า”“คุยแล้วค่ะอาใหญ่บอกว่าเพื่อนเขาอาจจะชวนไปดื่มกันต่อก็คงจะเป็นผับที่เอาเสือไปนั่นแหละ”“แน่นะถ้าเจ้าเอย”“ค่ะ”“ถ้าเขาเปลี่ยนไปที
ปีขาลขับรถรับส่งสาริศาอย่างเคยและบางครั้งในตอนเย็นเขาก็จะเลิกงานก่อนเวลาและมารอสาริศาในหอสมุด ทำทีเป็นอ่านหนังสือแต่จริงๆ แล้วก็แอบมองว่าตอนเธอทำงานจะจริงจังมากแค่ไหนเขาเห็นสาริศายิ้มแย้มแจ่มใสกับเพื่อนร่วมงานและผู้รับบริการเห็นแววตาของเธอเต็มไปด้วยความสุข เขาก็รู้สึกมีความสุขไปด้วยที่เคยบอกว่าอยากจะให้เธอลาออกไปทำงานกับตนเอง ปีขาลก็คิดว่าบางครั้งคนเราก็ไม่จำเป็นต้องตัว ติดกันตลอดเวลาก็ได้ ถ้าให้เธอได้ทำในสิ่งที่รักและชอบมันคงจะดีกว่ามากเมื่อสาริศาเลิกงานและเดินไปรูดบัตรแล้วเขาก็เดินออกมารออยู่ด้านหน้าจากนั้นก็พากันเดินไปขึ้นรถที่จอด“วันนี้ทำงานเหนื่อยไหม”“ไม่ค่ะวันนี้คนไม่ค่อยเยอะ อาเสือมาดูยิมเหรอคะ”“อามาคุยงานกับผู้รับเหมาเสร็จเร็วก็เลยไม่รู้จะไปไหนเจ้าเอยไม่ว่าอะไรใช่ไหมที่อาเข้าไปรอข้างใน”“ไม่ว่าหรอกค่ะ”“ตอนนี้หิวหรือยังวันนี้ไปกินอาหารเหนือกันไหม”“ตอนแรกหนูยังไม่หิวค่ะ แต่พออาเสือพูดว่าอาหารเหนือปุ๊บหนูก็หิวขึ้นมาทันทีเลยค่ะ”“ถ้างั้นเราไปร้านเดิมกันดีไหม แต่รถติดมากเจ้าเอยจะทนหิวได้หรือเปล่า”“ได้ค่ะไม่มีปัญหาเลย”ระหว่างทางรถก็ติดมากจริงๆ แต่คนขี้หงุดหงิดอย่างปีขาลกลับไ