Masukภาพที่ฮูหยินเหม่ยฟางกำลังสมสู่กับนักโทษชายสองคนช่างเป็นภาพที่ตื่นตาตื่นใจเป็นอย่างมากมันคือช่วงเวลาที่นางปลดปล่อยความเร่าร้อนออกมาอย่างแท้จริงเขาไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่าตัวของนางนั้นจะซุกซ่อนความหื่นกระหายมากมายถึงเพียงนี้สำหรับแม่ทัพ หยางเจี้ยน แล้วมันช่างเป็นช่วงเวลาที่สุดแสนจะคุ้มค่าในที่สุดเขาก็สามารถปลุกสัญชาตญาณดิบในตัวนางยิ่งนางมีความหื่นกระหายมากขึ้นเท่าไหร่ตัวเขาก็ยิ่งที่จะหลงรักนางมากยิ่งขึ้นเท่านั้น เรือนร่างของนางนั้นเย้ายวนมากจนเกินไปไม่ว่าชายใดก็ตามที่ได้เห็นเรือนร่างของนางเป็นบุญตาพวกเขาล้วนแล้วแต่มีอาการคลุ้มคลั่งหื่นกระหายจนไม่อาจควบคุมเขาช่างเป็นบุรุษที่โชคดีเหลือเกินที่ได้บดขยี้เรือนร่างที่สุดแสนจะเย้ายวนของนางทุกวัน
“ท่านพี่แล้วท่านจะจัดการอย่างไรกับเจ้าคนพวกนั้น” นางกล่าวถามถึงเดนคนทั้งห้าผู้ที่ได้มีโอกาสเชยชมเรือนร่างของนางและหนึ่งในพวกมันมีโอกาสได้แตะสัมผัสเรือนร่างที่สุดแสนจะล้ำค่าของนางความเร่าร้อนและความปรารถนายังคงฝังอยู่ภายในความทรงจำของนางท่อนขาที่อวบอิ่มของนางในช่วงเวลานี้นั้นกำลังที่จะแอบเปียกชุ่มอยู่
“แน่นอนว่าตัวข้านั้นย่อมดับลมหายใจของพวกมัน เพื่อที่จะไม่ให้ปัญหาทุกอย่างตามมา” ท่านแม่ทัพกล่าวออกมาด้วยน้ำเสียงที่สุดแสนจะเหี้ยมเกรียมเพราะถึงอย่างไรคนพวกนี้ก็มีโทษตายสถานเดียวอยู่แล้วเพราะในช่วงศึกสงครามคนพวกนี้ฆ่าทหารของตนไปไม่ใช่น้อยเขาเพียงแค่อยากเล่นสนุกกับพวกมันเท่านั้นแล้วค่อยดับลมหายใจของพวกมันในภายหลัง
“เป็นเช่นนั้นก็ดีแล้ว” ฮูหยินเหม่ยฟางกล่าวออกมาด้วยน้ำเสียงที่แสดงถึงความพึงพอใจ นางไม่ต้องการให้ผู้ใดล่วงรู้ว่านางแอบมีความสัมพันธ์สวาทกับนักโทษชายอย่างเร่าร้อนมากถึงสองคนความกระสันและความร่านของนางนั้นจะต้องถูกปิดเป็นความลับตลอดกาลถึงแม้ว่าตัวของนางนั้นจะร่านแต่นางก็รักชื่อเสียงของตนมากกว่านางเชื่อเป็นอย่างยิ่งภายในอนาคตท่านแม่ทัพของนางจะต้องหาเรื่องเสียวสะท้านให้นางทำอีกแน่เพียงแค่นักโทษชั้นต่ำแค่นี้ไม่เห็นจะมีอะไรให้น่าเสียดายเพราะมีเรื่องที่สุดแสนจะตื่นเต้นรออยู่ภายในอนาคต
ในระหว่างเดินทางกลับที่พักท่านแม่ทัพเดินโอบเอวของนางไปตลอดทางพร้อมทั้งแอบนวดคลึงหน้าอกของนางไปด้วยราวกับเป็นสัญญาณเตือนว่าคืนนี้นั้นเขาต้องการที่จะหลับนอนกับนาง
“ท่านพี่ หากมีคนเห็นเข้าอายแย่เลย” ฮูหยินทำทีกล่าวออกมาด้วยท่าทีเขินอายทั้งที่จริงตัวของนางนั้นกำลังแอบมีความรู้สึกที่ตื่นเต้นอยู่ที่ท่านแม่ทัพกระทำกับเรือนร่างของนางอย่างโจ่งแจ้งเช่นนี้
“เจ้าไม่ต้องกลัวภายในสถานที่แห่งนี้เป็นคนของข้าทั้งนั้นหากมีผู้ใดกล้าปากมากข้าจะดับลมหายใจของมัน” ท่านแม่ทัพพูดออกมาอย่างเร่าร้อนยิ่งนางห้ามเขาก็ยิ่งกระทำกับเรือนร่างของนางดุดันและหนักหน่วงยิ่งกว่าเดิมเป็นจริงอย่างที่แม่ทัพว่าภายในสถานที่แห่งนี้ไม่มีใครกล้ายุ้งหรือสอดรู้สอดเห็นเรื่องของผู้เป็นนายเพราะโทษที่ได้รับนั้นคือตายสถานเดียวไม่ว่าใครก็ไม่อยากอายุสั้นดังนั้นทหารภายในค่ายพักแห่งนี้ได้ทำแต่เพียงไม่รู้ไม่เห็นอะไร
เพียงชั่วอึดใจต่อมาคนทั้งคู่ก็เดินทางมาถึงที่พักภายในกระโจมส่วนตัวแม่ทัพ หยางเจี้ยน ปลดเปลื้องเสื้อผ้าของฮูหยินเหม่ยฟางอย่างเร่าร้อนและดุดันราวกับว่าตัวของเขานั้นอดทนต่อความหิวกระหายมานาน
“คิก คิก ท่านพี่ ท่านไปอดอยากมาจากไหน” นางส่งเสียงหัวเราะออกมาอย่างมีเสน่ห์ทั้งที่ในช่วงเวลานี้นั้นนางอยู่ในสภาพที่เปลือยเปล่าหลังจากการพบเจอกับความหื่นกระหายของท่านแม่ทัพ
“ข้าเห็นเจ้าร่วมรักกับเจ้าพวกเดนคนพวกนั้นมันทำให้ตัวของข้ารู้สึกมีอารมณ์ยิ่งนัก ฮูหยินของข้า ข้าอดทนต่อความหื่นกระหายภายในใจไม่ไว้อีกต่อไปแล้วเจ้าช่วยดับ ความกระหายของข้าที” แม่ทัพ หยางเจี้ยน พูดออกมาด้วยน้ำเสียงที่แสดงถึงความหิวกระหายถ้าหากค่ำคืนในวันนี้ตัวของเขาไม่ได้รับการปลดปล่อยเขาจะต้องถูกเปลวไฟแห่งความเร่าร้อนเผาจนตายเป็นแน่ ฮูหยินเหม่ยฟางประกบริมฝีปากของท่านแม่ทัพอย่างเร่าร้อนราวกับว่าตัวของนางเองก็มีความหิวกระหายเช่นกันแต่ความหิวกระหายของนางนั้นซุกซ่อนอยู่ภายใต้ใบหน้าที่สุดแสนจะเรียบร้อยอ่อนหวาน ลิ้นของนางทั้งหนักหน่วงและรุนแรงภายในริมฝีปากของท่านแม่ทัพจนตัวของเขานั้นหายใจแทบไม่ทันเมื่อได้พบเจอกับความเร่าร้อนที่แท้จริงของนาง มือของนางลูบไล้ไปที่ท่อนเนื้อของท่านแม่ทัพเพื่อที่จะปลุกเร้าความเป็นชายภายในตัวเขา มันค่อยๆแข็งผงาดตั้งชูชันอย่างรวดเร็วหลังจากพบเจอกับการแตะสัมผัสของนาง
“อ๊า....ตัวของเจ้านั้นช่างเร่าร้อนนักสมแล้วที่เป็นฮูหยินของข้า” แม่ทัพ หยางเจี้ยน กล่าวออกมาด้วยน้ำเสียงพึงพอใจเมื่อพบเจอนางรุกเรือนร่างของเขาอย่างหนักลีลาในการร่วมรักของนางนั้นไม่เคยทำให้ชายใดต้องผิดหวังราวกับว่าตัวของนางนั้นเกิดมาเพื่อสิ่งนี้
“ท่านพี่ชอบสิ่งใดขอให้บอก ข้ายินดีที่จะทำให้ท่าน” น้ำเสียงของนางนั้นนิ่มนวลอ่อนหวานแต่มันแอบแฝงไปด้วยความเร่าร้อนอย่างถึงขีดสุดไม่ว่าท่านแม่ทัพจะชอบท่วงท่าแบบไหนตัวของนางก็สามารถจัดให้ได้ทั้งนั้นขอเพียงแค่เขาเอ่ยปากออกมา
“อู๊ยยย อ๊า... ข้าจะไม่ออกคำสั่งต่อเจ้า เจ้าสามารถทำตามใจปรารถนาได้เลย” แม่ทัพ หยางเจี้ยน ส่งเสียงร้องครางออกมาเสียจนแทบที่จะขาดใจการกระทำของนางนั้นมันทำให้เขาเสียวสะท้านเสียจนแทบขึ้นสวรรค์อยู่แล้ว เขาพร้อมที่จะปลดปล่อยน้ำออกมาได้ทุกเมื่อ
ฉวบ ฉวบ ฉวบ นางดูดเลียท่อนเนื้อของแม่ทัพ หยางเจี้ยน อย่างบ้าคลั่งท่อนเนื้อของเขานั้นพลิ้วไหวไปมาตามจังหว่ะการดูดเลียของนางยอดวีรบุรุษเช่นแม่ทัพเสียวสะท้านเสียจนสติแทบที่จะหลุดลอยเขากลายเป็นคนอ่อนแอยามที่ได้ขึ้นเตียงกับนาง ไม่เพียงแค่นั้นมือที่หยาบกร้านของแม่ทัพลูบไล้เรือนร่างที่สุดแสนจะเร่าร้อนของนางในช่วงเวลานี้เขาไม่ยินดีที่จะปลดปล่อยน้ำราคะเข้าไปที่ภายในริมฝีปากของนางแต่เขาอยากจะอัดฉีดมันเข้าไปภายในเรือนร่างที่สุดแสนจะเย้ายวนที่อยู่เบื้องหน้า แม่ทัพ หยางเจี้ยน ถอนท่อนเนื้อของตนออกจากริมฝีปากของนางอย่างเชื่องช้าหลังจากนั้นเขาจึงค่อยๆยัดมันเข้าไปที่บริเวณจุดอ่อนไหวต่อการสัมผัสของนาง
“อ๊า...สุดยอด สัมผัสแรกที่ข้าได้รับมันเปียกแฉะไปหมด” แม่ทัพ หยางเจี้ยน กล่าวออกมาด้วยน้ำเสียงที่หื่นกระหายเพราะที่บริเวณจุดอ่อนไหวต่อการสัมผัสของนางนั้นมันเปียกแฉะมากจริงๆมันจึงทำให้ตัวของเขานั้นเสียวจนตัวเกร็งไปหมด เอวของท่านแม่ทัพค่อยๆโยกเข้าไปที่ภายในเรือนร่างของนางอย่างเชื่องช้า
“ฮู๊ยยย ท่านแม่ทัพข้าเสียว” นางส่งเสียงร้องครางออกมาด้วยความพึงพอใจหลังจากที่ท่อนเนื้อของแม่ทัพ หยางเจี้ยน สอดใส่เข้าไปที่ภายในเรือนร่างของนางท่อนเนื้อของชายผู้อันเป็นที่รักย่อมที่จะทำให้ตัวของนางนั้นรู้สึกดีที่สุดนางไม่ปล่อยให้ท่านแม่ทัพกระแทรกเรือนร่างของนางเป็นฝ่ายเดียวแต่ตัวของนางนั้นยังเด้งสวนกลับไปอย่างเร่าร้อนพร้อมทั้งเสียงร้องครวญครางของนาง มือของนางนั้นอยู่ไม่สุขลูบไล้เรือนร่างของท่านแม่ทัพไปด้วยริมฝีปากของนางแตะสัมผัสที่ผิวกายของเขาในขณะที่ตัวของเขานั้นกระแทรกเรือนร่างของนางอย่างเร่าร้อน เปลวไฟแห่งความปรารถนานั้นเพิ่มขึ้นอย่างถึงขีดสุดแม่ทัพ หยางเจี้ยน เพิ่มแรงกระแทรกไปที่เรือนร่างของนางเป็นเท่าตัวเสียงกระทบของเนื้อหนังนั้นดังลั่นไปทั้งกระโจมยิ่งแรงขึ้นและดุเดือดเท่าไหร่คนทั้งคู่ราวกับว่าได้ค้นพบสวรรค์ที่แท้จริง
พร๊วดดด ร่างกายของแม่ทัพ หยางเจี้ยน สั่นกระตุกหลังจากที่ปลดปล่อยอารมณ์ออกมาน้ำราคะที่อัดแน่นมานานถูกฝากเอาไว้ที่ภายในเรือนร่างของนางอย่างเต็มที่ฮูหยินเหม่ยฟางร่างสะท้านเล็กน้อยแต่สีหน้าของนางนั้นเต็มไปด้วยความเร่าร้อนและปรารถนาคนทั้งคู่นอนกอดกันไปมาจนกระทั่งเผลอหลับไปในค่ำคืนที่สุดแสนจะเร่าร้อน
ยิ่งตัวของแม่ทัพ หยางเจี้ยน เล่นสนุกกับเรือนร่างของฮองเฮาซ่งหลิงหรู มากขึ้นเท่าไหร่มันยังทำให้ความหื่นกระหายในกายสูบฉีดรุนแรงมากยิ่งขึ้นเท่านั้นท่านเนื้อของท่านแม่ทัพการเกิดแข็งตัวอย่างหน้าเหลือเชื่อจนมันแข็งผงาดชี้อยู่ที่เบื้องหน้าของนาง ฮองเฮาซ่งหลิงหรู จ้องมองท่อนเนื้อของท่านแม่ทัพที่แข็งผงาดอยู่ที่เบื้องหน้าของนางด้วยความหลงใหลความใหญ่ยาวของมันนั้นล้วนเหนือกว่าฮ่องเต้ หลงเซวียน เป็นเท่าตัวนางถึงกับลอบกลืนน้ำลายตัวเองลงคอไปอึกใหญ่ดูเหมือนว่าในช่วงเวลานี้นั้นตัวของนางนั้นจะเป็นนางร่านจริงๆ เพียงแค่เห็นท่อนเนื้อที่แข็งผงาดอยู่ที่เบื้องหน้าของนางก็ทำให้ตัวของนางนั้นขุนลุกขนชันไปทั้งร่างฉวบ...นางดูดเลียท่อนเนื้อชิ้นนี้อย่างเร่าร้อนลิ้นของนางพลิ้วไหวไปมาอย่างนิ่มนวล แม่ทัพ หยางเจี้ยน ถึงกับเสียวสะท้านจนตัวเกร็งนางไม่ได้มีดีแต่เพียงความงดงามเท่านั้นแต่นางยังมีความเร่าร้อนอย่างสุดโต่งเพียงแค่โดนลิ้นสัมผัสของนางมันก็แทบที่จะทำให้ตัวของเขานั้นน้ำแตกทะลักออกมา นางทั้งชักทั้งดูดทั้งเลียราวกับว่านี่คือของเล่นชิ้นใหม่ที่นางพึ่งได้ลิ้มลองในขณะที่มือของนางลูบไล้ไปที่ผิวกายของท่านแม่ทัพอย่างเร่าร
แม้ว่าฮองเฮาซ่งหลิงหรูจะมีอายุถึง 48 ปีในช่วงเวลานี้ แต่ความงดงามและความเย้ายวนของนางนั้นยากที่จะหาคำอธิบายได้ นางมีเสน่ห์ที่ไม่เสื่อมคลายตามกาลเวลา เรือนร่างของนางที่อวดโฉมผ่านเสื้อผ้าบางเบาที่เผยให้เห็นทุกรายละเอียดนั้นยิ่งทำให้เธอดูเย้ายวนและดึงดูดทุกสายตา เสน่ห์ของนางนั้นยากจะต้านทาน แม้แต่สาวแรกรุ่นก็ยังต้องยอมแพ้ให้กับความงามของนางแม่ทัพหยางเจี้ยนไม่สามารถจะหักห้ามตัวเองได้เมื่อสายตาของเขายังคงจดจ้องไปที่ฮองเฮาซ่งหลิงหรู ทุกการเคลื่อนไหวของนางทำให้เขารู้สึกถึงความปรารถนาที่ไม่สามารถควบคุมได้ นางดึงดูดทุกความรู้สึกของเขา แม้แต่ความคิดก็ล้วนแต่หมุนวนไปที่ร่างกายและท่าทางอันเย้ายวนของนางยิ่งตอนนี้ที่นางใกล้เข้ามานั่งข้างเขาและเคลื่อนไหวรอบ ๆ ด้วยท่าทางสง่างามนั้น ร่างกายของเขาก็เริ่มตอบสนองด้วยการร้อนรุ่มขึ้นมาทุกส่วน มันเป็นเหมือนกับเวทมนตร์ที่เขาไม่อาจหลีกหนีได้ ไม่ว่าจะพยายามคิดอย่างไร สายตาของเขาก็ยังคงจับจ้องไปที่นางไม่ยอมละสายตาฮองเฮาซ่งหลิงหรู นั่งอยู่ด้านข้างแม่ทัพหยางเจี้ยนอย่างสง่างาม มือของนางถือขันสุราหรูหราที่บรรจุเหล้าจากแดนไกล ซึ่งนางกำลังจะรินให้ท่านแม่ทัพ หยางเจ
เมื่อเช้าวันใหม่มาถึง แม่ทัพหยางเจี้ยน ผู้ซึ่งเพิ่งได้รับชัยชนะในสงครามที่แดนเหนือ ก็ได้เตรียมตัวอย่างเรียบร้อยและออกเดินทางสู่ท้องพระโรงเพื่อเข้าเฝ้าฮ่องเต้หลงเซวียน ท่ามกลางบรรยากาศเช้าที่เงียบสงบและงดงาม เขาก้าวเดินอย่างมั่นคง ภูมิใจในชัยชนะที่สามารถนำมาสู่แผ่นดินและประชาชนเมื่อเข้ามาถึงท้องพระโรง แม่ทัพหยางเจี้ยนก็โค้งคำนับอย่างนอบน้อมต่อหน้าฮ่องเต้ ฮ่องเต้หลงเซวียนทรงทอดพระเนตรมองแม่ทัพผู้กล้าแกร่งด้วยความพึงพอใจ สายพระเนตรเต็มไปด้วยความภูมิใจในขุนนางผู้ภักดีที่สามารถนำชัยชนะกลับมาอย่างเด็ดขาดแม่ทัพหยางเจี้ยนเริ่มรายงานถึงการรบที่แดนเหนืออย่างละเอียด ทั้งการวางแผน การต่อสู้ที่กล้าหาญของเหล่าทหาร และวิธีการที่พวกเขาเอาชนะศัตรูได้อย่างสง่างาม นอกจากนี้ เขายังได้เสนอแนวทางในการฟื้นฟูบ้านเมืองในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบจากสงคราม ทั้งการบูรณะหมู่บ้าน ดูแลความเป็นอยู่ของประชาชน และจัดหาทรัพยากรต่าง ๆ เพื่อให้ชาวบ้านสามารถกลับมาดำเนินชีวิตได้อย่างมั่นคง"สมแล้วที่ตัวเจ้าเป็นคนที่ข้าไว้วางใจมากที่สุด" ฮ่องเต้หลงเซวียนตรัสด้วยความพึงพอใจ ผู้ซึ่งไม่เพียงแต่ทำหน้าที่ในสนามรบได้อย่างไร้ที่ติ
ฮูหยินเหม่ยฟางนั่งอยู่ในศาลาริมน้ำ ห่างออกไปเล็กน้อยจากที่ที่แม่ทัพหยางเจี้ยนและสาวใช้เสี่ยวเอ๋อร์อยู่ สายตาของนางจับจ้องภาพตรงหน้าอย่างเงียบ ๆ ความรู้สึกบางอย่างก่อตัวขึ้นในใจโดยไม่ทันรู้ตัว นางรู้สึกถึงแรงปรารถนาที่พลุ่งพล่านและเข้มข้นที่ซ่อนอยู่ภายใน แผ่ซ่านไปทั่วร่างอย่างช้า ๆ ความรู้สึกที่เธอไม่อาจหักห้ามใจได้แสงแดดที่สะท้อนลงบนผืนน้ำ ส่องผ่านศาลามายังตัวนาง ขับเน้นให้ใบหน้าของเหม่ยฟางดูอ่อนหวานและมีเสน่ห์อย่างเงียบ ๆ ขณะที่นางจิบชา ความรู้สึกอันแรงกล้าก็ยิ่งชัดเจนขึ้นทุกขณะ เสียงหัวใจของนางเต้นรัวจนแทบจะได้ยินชัดเจน นางรู้สึกถึงความปรารถนาที่ลุกโชนอยู่ภายใน เป็นความรู้สึกที่ท่วมท้นจนทำให้นางเผลอยิ้มบาง ๆ ออกมาหัวใจของเหม่ยฟางเริ่มสั่นไหว ขณะที่นางนั่งมองจากมุมไกล ดื่มด่ำกับภาพที่ปรากฏตรงหน้า แม้จะมีความสงบแผ่รอบตัว แต่ในใจของนางกลับเต็มไปด้วยความปรารถนาอันเงียบงัน ราวกับเป็นไฟลุกโชนที่ยากจะดับ“ท่านพี่...” ฮูหยินเหม่ยฟางขับขานเรียกด้วยเสียงอันแผ่วเบา ทว่าเต็มไปด้วยความลึกซึ้งและกระเส่า น้ำเสียงของนางแฝงไปด้วยแรงปรารถนาที่ไม่อาจซ่อนไว้ได้อีกต่อไป แม่ทัพหยางเจี้ยนหยุดชะงักเมื่อไ
ฮูหยินเหม่ยฟางนั่งเอนกายอยู่ในศาลาริมน้ำ ท่ามกลางบรรยากาศเงียบสงบและเสียงน้ำกระทบฝั่งเบา ๆ นางจิบชาอย่างละเมียดละไม รสชาติเข้มข้นของชาอุ่น ๆ เติมเต็มความรู้สึกสบายใจให้แก่เธอ ในขณะที่มองฉากเร่าร้อนระหว่างแม่ทัพหยางเจี้ยนและหญิงสาวรับใช้ด้วยรอยยิ้มบาง ๆ ที่เผยถึงความพึงพอใจมือของนางหยิบอาหารว่างที่จัดไว้อย่างประณีตบนจาน งามเรียบง่ายและประณีตเหมือนตัวนางเอง นางมองภาพตรงหน้าด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความพอใจและผ่อนคลาย ราวกับเป็นผู้เฝ้ามองทุกอย่างจากระยะไกล พลางใช้ช่วงเวลาสงบนี้ดื่มด่ำกับความสุขที่ได้เห็นคนรักของตนมีความสุขในแบบที่ตัวเองต้องการฮูหยินเหม่ยฟางยิ้มอย่างอ่อนโยน ดวงตาที่มองไปยังฉากตรงหน้ามีแววเอ็นดูปนขบขันในความเป็นชายของท่านพี่ หยางเจี้ยน สำหรับนางแล้ว เขาคือชายผู้เต็มไปด้วยความปรารถนาอันแรงกล้าและไฟรักที่ไม่มีวันมอดดับ แม้เวลาจะผ่านไปนานเพียงใดเขาก็ยังคงมีเสน่ห์และความดิบเถื่อนในแบบที่นางรักและชื่นชม"ท่านพี่ช่างเป็นชายที่หื่นกระหายยิ่งนัก" นางพึมพำกับตัวเองด้วยน้ำเสียงนุ่มนวล แฝงไปด้วยความเข้าใจที่ลึกซึ้ง ขณะยกถ้วยชาขึ้นจิบอีกครั้ง นางไม่รู้สึกหึงหวงแม้แต่น้อย ตรงกันข้าม กล
เมื่อขบวนกองทัพของแม่ทัพหยางเจี้ยนเข้ามาถึงเมืองหลวง ความตื่นเต้นและความยินดีของประชาชนก็เกิดขึ้นอย่างล้นหลาม เสียงตะโกนร้องแสดงความยินดีดังก้องไปทั่วท้องถนน ผู้คนมากมายออกมารอรับเขา ด้วยความรู้สึกซาบซึ้งในความสำเร็จที่เขาได้ยุติสงครามในแดนเหนือแม่ทัพหยางเจี้ยนรู้สึกถึงความรักและการสนับสนุนจากประชาชนที่เขาได้ต่อสู้และปกป้อง เขาเดินหน้าไปพร้อมกับรอยยิ้มและการทักทายผู้คนรอบข้าง รู้สึกเป็นเกียรติที่ได้รับการต้อนรับอย่างอบอุ่นเช่นนี้ พร้อมทั้งมีเชลยศึกตามกลับมามากมาย ซึ่งเป็นเครื่องพิสูจน์ถึงความสำเร็จของเขาในการนำกองทัพผ่านสงครามเมื่อถึงพระราชวัง แม่ทัพได้รับการต้อนรับจากฮ่องเต้หลงเซวียน พระองค์มีพระเมตตาและความเข้าใจในความเหน็ดเหนื่อยของแม่ทัพ จากการเดินทางที่ยาวนานและเต็มไปด้วยอันตราย พระองค์จึงให้แม่ทัพได้กลับไปพักผ่อนอย่างเต็มที่ โดยไม่ต้องรายงานตัวในทันทีแม่ทัพหยางเจี้ยนรู้สึกซาบซึ้งในความกรุณาของฮ่องเต้ และได้ขอบพระคุณพระองค์อย่างจริงใจ ก่อนที่จะออกจากพระราชวังและเดินทางกลับไปยังที่พักของตนเมื่อเสี่ยวเอ๋อร์เดินทางกลับมาถึงจวนของแม่ทัพหยางเจี้ยน ความตื่นตะลึงในดวงตาของนางไม่สามา







