Home / โรแมนติก / เกมรักเกมลวง / บทที่ 10...แฟนปลอมๆ

Share

บทที่ 10...แฟนปลอมๆ

วิญญูเหลือบมองชายหนุ่มที่นั่งกับเธอ ด้วยสายตาที่ไม่พอใจและเคืองแค้น

“ยังอยู่ด้วยกันจริง ๆ พี่ต้องเชื่อแล้วสินะว่าขวัญกับมันเป็นผัวเมียกันจริง ๆ”

“พี่เป๊ก พูดให้มันดี ๆ หน่อยค่ะ เราเป็นแค่...แฟนกัน”

หนุ่มใหญ่เดินมาถึงโต๊ะ ก้มลงมองใบหน้าหญิงสาว ด้วยสายตาเย้ยหยัน “ขามาก็คงบริสุทธิ์ไร้เดียงสาหรอกนะ แต่ขากลับคง...ไม่เหลืออะไรแล้วมั้ง”

“เหลือไม่เหลือแล้วมันเกี่ยวอะไรกับคุณ” จอมทัพถามแทรกขึ้นด้วยอารมณ์เย็นเยือก ไร้ความฉุนเฉียว ปลายนิ้วเคาะโต๊ะเป็นจังหวะพร้อมนับตัวเลขในใจ “ถ้าคุณยังขืนพูดจาดูถูกเธออีกล่ะก็ ผมจะไม่นั่งอยู่เฉย ๆ แล้วนะ”

วิญญูหัวเราะหึ ๆ แต่แอบกลัว “ไม่อยากยุ่งด้วยหรอก แค่แวะมาเตือน อย่าคิดว่าแค่สวยแล้วจะอยู่วงการนี้ได้ เธอไม่กระเด็นหลุดจากวงการในวันสองวันนี้ แต่อีกไม่นานหรอก...ก็แค่นางแบบโนเนม!!!”

“คุณก็เหมือนกัน...อีกไม่นานหรอก”

“อย่าค่ะ” หญิงสาวปรามชายหนุ่มไว้ ก่อนหันมองวิญญู ด้วยสีหน้าเรียบเฉย “พี่เป๊กอยากจะทำอะไรก็ทำไปเถอะค่ะ ถ้ามันจะทำให้พี่มีความสุข ส่วนขวัญ จะทำหน้าที่ของตัวเองให้ดีที่สุด อยู่ได้ก็อยู่ อยู่ไม่ได้ก็ไป เท่านั้นเอง ขวัญเข้ามาก็ไม่เคยหวังชื่อเสียงอยู่แล้ว ขวัญไม่จำเป็นต้องดังหรอกค่ะ”

จอมทัพอึ้งเล็กน้อย ก่อนจะยิ้มมุมปาก ไม่คิดว่าจะได้ยินอะไรแบบนี้จากปากนางแบบสักคนบนโลกใบนี้ นางแบบอินเตอร์หลายคนที่เขาเคยนอนด้วย พวกหล่อนกระหายทั้งเงินและงาน ยินดีใช้ร่างกายเป็นสินค้าขายปลีกเพื่อความก้าวหน้าในชีวิต และดูเหมือนเจ้าตากล้องบ้ากามก็อึ้งไปเหมือนกัน เขาไม่พูดอะไรอีก นอกจากทิ้งสายตาหยามเหยียดแล้วเดินลิ่วออกจากร้านกาแฟไป

“คุณเป็นนางแบบ?”

“ฉันเพิ่งเข้าวงการน่ะค่ะ ยังเป็นแค่มือสมัครเล่น”

ชายหนุ่มพยักหน้ารับรู้ “เป็นอาชีพที่...ผู้หญิงสวย ๆ เป็นกัน”

ขวัญชนกยิ้มบาง ๆ เธอมองไม่เห็นแววตาดูถูกนิด ๆ ของชายหนุ่มที่เธอเผลอรู้สึกดีด้วยในหลายเสี้ยววินาที หากแต่ก็ย้ำเตือนตัวเองทุกครั้งว่ามันเป็นเพียงความฝันเล็ก ๆ ในบอสตันเท่านั้น

“ขอบคุณนะคะที่คุณช่วยฉันไว้อีกแล้ว” เขาปกป้องเธอจากหัวงูตัวใหญ่ของวงการ ถึงเธอจะไม่รอดจากน้ำมือของวิญญู ต้องระเห็จออกจากวงการนี้ไปเพราะถูกกลั่นแกล้ง เธอตั้งใจว่าจะลองสู้ให้ถึงที่สุดก่อน หากเธอไม่เหมาะกับวงการนี้จริง ๆ เธอถึงจะยอมแพ้

“ผมก็ไม่ได้ทำอะไรนี่”

“เขาคงโกรธคุณมาก ถ้าเขาพาลมาเล่นงานคุณ...”

“ผมไม่กลัวหรอก ความจริง ผมไม่รู้จักคำนี้ด้วยซ้ำไป” ความหยิ่งยโสในแววตาของเขาไม่ได้ทำให้ความรู้สึกหลงใหลที่เธอมีต่อเขาลดน้อยถอยลงไปเลย ยิ่งเขาทำท่าทางโอหังมากเท่าไหร่ เขาก็ยิ่งมีเสน่ห์ “คนที่คิดจะทำลายหรือทำร้ายเราจริงๆ เขาไม่มาพูดโต้งๆ มาชี้หน้าขู่แบบนี้หรอก หมอนี่ไม่มีอะไรน่ากลัวเลยสักนิด กระจอกซะด้วยซ้ำ เพราะถ้าเป็นผม ผมจะจัดการศัตรูอย่างเงียบเชียบที่สุด ไม่ทำให้ศัตรูตื่นหรือรู้ตัวก่อนหรอก แบบนั้นไม่สนุก”

เขาเผยตัวตนด้านมืดให้เธอรู้อย่างยโสและภูมิใจเสียอย่างนั้น เล่นเอาเธอไปต่อไม่ถูกเลย

“คุณยังไม่รู้จักเขาดีพอ”

“แล้วคุณรู้จักเขาดีเหรอ” ชายหนุ่มยิ้มขำเมื่อเห็นใบหน้าซีดเซียวของหญิงสาว แน่ล่ะว่า หากเธอรู้จักเขาดีพอ ก็คงไม่ตกลงมาทำงานกับเขาไกลถึงบอสตัน จนเกือบจะโดนเขาเจาะไข่แดงแลกกับงานหรอก

“ค่ะ ฉันโง่เอง ฉันมองโลกสวย มองโลกในแง่ดีเกินไป ก็เลยหลงเชื่อคนง่ายๆ แต่ต่อไป ฉันจะระวังตัวให้มากขึ้น จะไม่หลงกลผู้ชายคนไหนอีกแล้ว”

“เอาเป็นว่า เก็บไว้เป็นบทเรียนก็แล้วกัน คนเรามันก็ต้องเจอเรื่องผิดพลาดกันบ้าง มันถึงจะโต อย่าโง่ซ้ำสองให้ใครหลอกอีกก็แล้วกัน เพราะถึงตอนนั้นจะมีแต่คนเหยียบ”

ขวัญชนกหยิบถ้วยกาแฟขึ้นจิบ เธอรู้สึกว่าน้ำเสียงของชายหนุ่มร้อนระอุเสียยิ่งกว่ากาแฟของเธอเสียอีก และยิ่งไปกว่านั้น แววตาของเขาที่ดูดุดันยิ่งขึ้น ฉายแววของความเร่าร้อนยิ่งกว่าตอนที่วิญญูมองเธอเสียอีก หากเขาจงใจให้เธอรู้สึกกลัวเขาด้วยล่ะก็ ไม่เลย เธอกลับชอบแววตาแบบนี้ของเขา เธอต้องบ้าไปแล้วแน่ๆ

“ฉันจะถือว่ามันเป็นบทเรียนราคาแพงก็แล้วกันค่ะ หาซื้อที่ไหนก็ไม่มีขาย”

“ใช่ ไม่มีขายที่ไหนหรอก แต่ต่อไป เมื่อคุณเข้าใกล้ความเป็นมืออาชีพมากขึ้น คุณก็จะแข็งแกร่งขึ้นเอง”

เธอเงยหน้ามองเขาอย่างสงสัยใคร่รู้ “แข็งแกร่ง...แข็งแกร่งยังไงคะ”

“รอเวลาหน่อย ถ้าอยากรู้ว่ามันเป็นยังไง คุณต้องอยู่วงการนี้ให้ได้ อยู่ต่อไป”

“คุณพูดเหมือนคุณก็อยู่วงการนี้เหมือนกัน”

เขาไม่ได้บอกใคร แม้แต่คนในครอบครัว เรื่องการทำงานฟรีแลนด์ในฐานะตากล้องมืออาชีพที่สตูดิโอใหญ่ในอเมริกา เขาถ่ายภาพนางแบบนายแบบมาเป็นพันคนแล้ว และได้เงินมามากมายกับอาชีพนี้ แต่เขาก็ไม่เคยคิดจะยึดมันเป็นอาชีพหลัก เพราะที่สุดแล้ว เขาต้องกลับไปเป็นผู้บริหารของเอื้ออังกูรไกลกรุ๊ป ตามคำสัญญาที่ได้ให้ไว้กับบิดามารดา

“ทุกวงการก็เหมือนกันหมดนั่นแหละ มีทั้งคนดีคนเลว คนเอาเปรียบ คนได้เปรียบ คนฉลาด และคนโง่ มันอยู่ที่เราจะรับมือได้มากน้อยแค่ไหน”

“แล้วคุณเป็นคนแบบไหนคะ”

ชายหนุ่มยิ้มกริ่ม เธอถามได้ตรงประเด็นดี “ผมเป็นคนประเภท...ประสบความสำเร็จในงานที่ทำ...ทุกงาน”

“ประสบความสำเร็จ”

“ผมอยู่ในประเภทฉลาดน่ะ”

และค่อนข้างหลงตัวเองไม่น้อย หญิงสาวแอบยิ้มขำ “ที่คุณประสบความสำเร็จ ฉันคิดว่าเป็นเพราะคุณมั่นใจในตัวเองมากกว่าค่ะ”

“เปล่า แต่เป็นเพราะผมเป็นคนฉลาดที่เลวต่างหาก”

หญิงสาวมองอึ้ง เขาหัวเราะ ยกไหล่ ไม่เห็นเป็นเรื่องประหลาดตรงไหน เขาพูดความจริง

“ฉลาดไม่ได้อยู่ที่ไอคิวอย่างเดียวนะคุณ แต่ต้องฉลาดที่จะเอาตัวรอดด้วย”

“นั่นคือสังคมที่เห็นแก่ตัว คุณกำลังจะบอกว่าฉันควรจะเห็นแก่ตัว เอาเปรียบคนอื่นให้เป็น...”

“สู้กับคนเลว มันก็ต้องเลวกว่าสิ”

เธอไม่เห็นด้วยกับตรรกะบ้าบอคอแตกของเขาจริงๆ “สู้ด้วยความดีไม่ดีกว่าหรือคะ”

“ดีกว่ารึเปล่า คุณก็เห็นแล้วนี่” เขาจ้องมองเธอ เพื่อให้เธอรู้ตัวว่าคนดีถูกกระทำอย่างไร “ต่อไป คุณจะได้เห็นอีกเยอะเลย...เอาล่ะ...ผมไม่อยากคุยซีเรียสกับคุณแล้ว มันเสียเวลาของการเป็นคนรักชั่วคราวกัน”

ขวัญชนกเห็นด้วยกับเขาในข้อนี้ เธอก้มใบหน้าลงนิดหน่อย หยิบแก้วน้ำเปล่ามาดื่มดับคอที่แห้งผาก ก่อนวางลงที่เดิม แล้วเงยหน้ามองเขาอีกครั้ง

“คุณบอกว่าจะกลับเมืองไทยเหมือนกัน จะกลับไปอยู่เลยหรือว่าไปชั่วคราวคะ”

“ทำไมเหรอ” เขายิ้มร้าย ทำตาหวานเชื่อมแบบล้อเลียนเสียมากกว่า “ทำไมอยากรู้เรื่องผม”

เธอทำหน้าแทบไม่ถูก “ฉันไม่ได้อยากรู้ขนาดนั้นหรอกค่ะ มันเป็นแค่มารยาท คุณจะให้ฉันคุยแค่เรื่องดินฟ้าอากาศกับคุณหรือคะ ไหนๆ ก็ลงเรือลำเดียวกันแล้วนี่”

“ใช่ ตอนนี้เราเป็นแฟนกันอยู่นี่นา” เขาแสดงเสียเหมือนจริง โดยการยื่นมือมากุมมือเย็นเฉียบของเธอไว้แล้วบีบเบาๆ เธอจะดึงกลับ เขารั้งไว้ ทำตาขวางใส่ “ตอนนี้ไม่ใช่แค่สองสาวที่แอบจ้องเราอยู่ แต่ไอ้หัวงูนั่นด้วย ถ้าคุณไม่อยากให้พวกนั้นจับได้ กรุณาแสดงให้เนียนๆ หน่อย เข้าใจ”

หญิงสาวอ้าปากค้าง หน้าเซียวขึ้นมาทันใจ “จริงหรือคะ พี่เป๊กก็ยังเฝ้าเราอยู่เหรอ กลับไปเนี่ย ฉันต้องรีบไปเข้าวัด ทำบุญ อุทิศส่วนกุศลให้เจ้ากรรมนายเวรแล้วจริงๆ”

สีหน้าร้อนใจของเธอทำให้เขารู้สึกตลก ไหนบอกว่าจะฉลาดขึ้นไง เขาโกหกแค่นี้ก็เชื่อเสียแล้ว

“อืม...ทำบุญครั้งใหญ่เลยล่ะ” โดยเฉพาะการที่เธอได้เจอเสือร้ายชอบเอาเปรียบผู้หญิงอย่างเขา “แต่ตอนนี้ ต้องเอาตัวรอดให้ได้ก่อน จริงไหม”

ชายหนุ่มดึงมือเธอมาหาตัว แล้วก้มลงจูบบนหลังมือเย็นเฉียบแต่หอมนุ่ม หญิงสาวตกใจมาก เกือบจะดึงมือกลับอีกรอบ เขารู้ทัน รั้งมือเธอไว้แล้วเอามาแนบแก้มสากๆ อุ่นๆ ของเขาแทน

“ทำอะไรของคุณ”

“ผมไม่จูบคุณก็บุญเท่าไหร่แล้ว...ที่รัก”

เธอทำหน้าแทบไม่ถูก “คุณจะบ้าเหรอ แค่อยู่ด้วยกัน พวกเขาก็คงเชื่อแล้วล่ะ ไม่ต้องสมจริงมากก็ได้”

“อย่าอ่อนต่อโลกนักเลย อย่าว่าแต่คนพวกนั้นเลย คนทั้งร้านคิดว่าเราได้กันแล้วด้วยซ้ำไป”

“ว๊าย!” เธอเผลออุทานเสียงดัง ก่อนหันมองโต๊ะข้างๆ เพื่อค้อมศีรษะขอโทษที่รบกวน “คุณไม่ต้องพูดตรงมากก็ได้นะคะ ฉันเป็นแค่เด็กบ้านนอก ไม่ใช่เด็กเมืองนอก ฉันเรียนรู้วัฒนธรรม แต่ไม่นำมาใช้ สาวไทยอย่างฉันไม่นิยมอยู่ก่อนแต่งแน่นอน”

เธอพูดอย่างห้าวหาญ พร้อมดึงมือกลับ ชายหนุ่มยิ้มกริ่ม หลิ่วตาซ้ายขวา ก่อนขยับใบหน้าเข้าใกล้เธออีก

“ไม่นิยมอยู่ก่อนแต่ง แต่มีเซ็กซ์กันบ้างบางคราวได้ไหม”

เธอผึ่งตาโต อายจนแก้มแดงปลั่ง “ฉันไม่คุยกับคุณแล้ว ไปดีกว่า”

ขวัญชนกรีบลุกจากโต๊ะ แล้วเดินออกจากร้านไปอย่างรวดเร็ว ชายหนุ่มนั่งต่อแค่ไม่กี่อึดใจเท่านั้น เขายิ้มร้าย ก่อนลุกแล้วเดินตามหญิงสาวไป ทั้งคู่เดินเคียงกันไปตามทางเดินที่ผู้คนเดินสวนกันไปมาพลุกพล่าน อลหม่าน เนื่องจากมีผู้โดยสารตกค้างเยอะ และผู้โดยสารขาออกส่วนหนึ่งที่ยังไม่สามารถออกจากสนามบินได้ เพราะพายุหิมะยังกระหน่ำอยู่อย่างไม่ขาดสาย

“อย่าเดินเร็วนักสิ เดินให้เหมือนคู่รักกันหน่อย”

“คู่รักที่ให้เกียรติกัน แค่เดินใกล้ๆ ปกป้องดูแลแบบสุภาพบุรุษก็ได้ค่ะ”

“คุณอยากได้ผู้ชายแบบนั้นเหรอ ผู้ชายที่ไม่ยอมแตะต้องคุณ ผมจะบอกให้ ผู้ชายแบบนั้นไม่รักคุณจริงหรอก เพราะถ้ารัก ต้องอยากจับอยากจูบกับคุณตลอดเวลา ผมไม่ใช่แฟนแบบนั้นแน่ แบบนั้นเขาเรียกไอ้งั่ง”

เธอหยุดเดิน หน้าหงิก เขาเกือบชนหลังเธอแล้ว แต่เบรกทัน เธอหันกลับมา เพื่อจะด่าเขาสักชุด แต่เขากลับฉวยจังหวะนั้น จุ๊บแก้มนวลปลั่งอย่างแรง

“อุ๊ย!!!” เธอตกใจหน้าเหวอ ปากสั่นระริก “ทำบ้าอะไรของคุณ”

เขายิ้มสดใส ไม่ได้รู้สึกผิดว่าทำเกินไป “บอกแล้วว่าผมไม่ใช่ไอ้งั่ง”

“แต่เราไม่ได้เป็นแฟนกันจริงๆ นะ”

“ผมรู้” เขาพยักหน้า “นี่คุณยังไม่เข้าใจอีกเหรอ ว่าทำไมนายวิญญูถึงยอมเสียเงินซื้อตั๋วพาคุณมาถึงที่นี่”

“เพราะเขาอยากนอนกับฉัน ทำไมฉันจะไม่รู้”

“ไม่ใช่เลย” เขาส่ายหน้ายิ้มเย้ย ก้มเข้าใกล้ใบหน้าเธอจนเกือบประชิดกัน “เพราะเขารู้ว่าจะได้เปิดซิงคุณต่างหาก เขาต้องชอบคุณมากเลยล่ะ”

หญิงสาวตกใจตาโต กลืนน้ำลายแทบไม่ลงคอ ทำไมเธอจะต้องมาฟังเรื่องแบบนี้ด้วย เธอหันหลังแล้วรีบเดินหนีเสือผู้หญิงตัวฉกาจที่น่ากลัวกว่าตากล้องหัวงูหลายเท่านัก

เขาเดินตามติด รู้สึกสนุกที่ได้แกล้งหญิงสาวไร้เดียงสา ที่เขาไม่อาจคาดเดาได้เลยว่า เธอกำลังแสดงบทแสแสร้งหรืออ่อนต่อโลกของจริง

แต่ตราบใดที่เขายังไม่ได้สมใจอยาก เขาจะไม่เลิกตามตื๊อคุณแน่...ที่รัก

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • เกมรักเกมลวง   ตอนจบ...ฮันนีมูนหวานฉ่ำ

    ขวัญชนกตัดสินใจหยิบโทรศัพท์ขึ้นมากดเบอร์สามี ทว่า โทรศัพท์เครื่องนั้นดังลั่นอยู่ในบ้านนี่เอง เธอหันไปมองต้นเสียง ถึงได้เห็นว่ามันวางอยู่บนโซฟาตัวยาว“โทรศัพท์ก็ไม่ได้เอาไป” เธอเริ่มหงุดหงิดขึ้นมาแล้ว เมื่อนึกถึงสันดานของสามีที่ติดตัวมาตั้งแต่เกิด เขามันประเภทเจ้าชู้ไม่เลือกกินเสียด้วย ป่านนี้อาจไปนอนกกอยู่กับสาวๆคนไหนก็ได้ “อย่าบอกนะว่าแอบไปตั้งแต่ตอนดึก”คิดแล้วก็เจ็บใจจัด รีบกลับเข้าห้องไปเปลี่ยนชุด เตรียมตัวออกข้างนอก“คอยดูนะ ถ้าจับได้ว่าคุณนอกใจฉัน ฉันจะเลิกกับคุณทันทีเลย”หญิงสาวไม่รอรีให้เสียเวลา เธอออกจากบ้านหลังสวย แล้วมุ่งสู่อพาร์ตเม้นต์ของชายหนุ่ม ที่ๆเขาเช่าทิ้งไว้สำหรับอยู่อาศัยขณะเรียนหนังสือ ตั้งแต่กลับมาบอสตันเมื่อต้นสัปดาห์ก่อน จนถึงตอนนี้ เธอยังไม่ได้ไปเหยียบที่นั่นเลยสักครั้ง เขาอ้างว่ายังไม่ได้จ้างแม่บ้านมาทำความสะอาด กลัวเธอจะสูดฝุ่นเข้าปอด เดี๋ยวกระทบถึงลูก“จอมทัพ!!!” เธอเข่นเขี้ยวเคี้ยวฟัน “คุณไม่ได้ตายดีแน่!!!”ขวัญชนกโบกรถแท็กซี่อย่างร้อนรน เมื่อเข้าไปนั่งที่เบาะหลังแล้ว เธอบอกจุดหมายปลายทางให้โชว์เฟอร์รับทราบอย่างละเอียดยิบ จากนั้นรถก็วิ่งฉิวทิ้งห่างบ้านพักห

  • เกมรักเกมลวง   บทที่ 108...ฮันนีมูนหวาน

    บอสตัน...ในวันที่สายฝนเย็นฉ่ำโปรยปรายลงมาไม่ขาดสาย“ทะเลที่นี่ เวลาฝนตกก็สวยไปอีกแบบนะ”“แต่คุณสวยกว่าอีก”“อย่ามาปากหวานหน่อยเลย”“ก็มันเรื่องจริงนี่” ทั้งคู่ยืนอยู่ตรงหน้าต่างบานใหญ่ในบ้านพักตากอากาศหลังสวยริมทะเล โดยชายหนุ่มสวมกอดหญิงสาวจากด้านหลัง ขณะท้องสาวนูนขึ้นเล็กน้อย “เมียของผม ทั้งสวย ทั้งน่ารัก แถมยังเซ็กซี่ไปทั้งตัว นี่ขนาดท้องอยู่นะ สาวๆที่นี่สู้คุณไม่ได้สักคน”“สู้ไม่ได้ หมายความว่าไงคะ” เจ้าหล่อนปลดมือของชายหนุ่มออก แล้วเหลียวหน้ากลับมามอง ด้วยตาดุเข้ม “หรือว่า แอบกลับไปทบทวนความหลังกับสาวๆของคุณมา”“อย่าหาเรื่องน่า ตั้งแต่มานี่ต้นสัปดาห์ที่แล้วจนถึงวันนี้ ผมก็อยู่กับคุณตลอด ระแวงไม่เข้าเรื่อง”“ไม่เข้าเรื่องยังไง คนอย่างคุณก็รู้ๆกันอยู่” เจ้าหล่อนทำปั้นปึ่ง เดินผละมาที่โต๊ะอาหาร ซึ่งมีชุดชงชาและกาแฟวางอยู่ เธอรินชาใส่ถ้วย ควันพวยพุ่ง หอมฟุ้งไปทั้งบ้านจอมทัพเดินตามมากอดแล้วจูบภรรยาอย่างโหยหาและเอาใจ“อย่าหงุดหงิดเลยนะ เดี๋ยวส่งผลไปถึงลูก มันไม่ดี”“ไม่รู้สิคะ สงสัยจะเป็นเพราะโฮโมน”“ผมอยากให้ลูกชายของผมเป็นเด็กอารมณ์ดีนะ”“รู้ได้ไงว่าลูกชาย”“คนที่สองต้องลูกชายอยู่แล้

  • เกมรักเกมลวง   บทที่ 107...ผู้หญิงที่ผมรักมีเพียงคนเดียว

    ‘ไม่จริง’“เรื่องนี้คุณแม่กุลธิดาของผมทราบเรื่องดีครับ เพราะท่านอยู่ในเหตุการณ์ทั้งสองเหตุการณ์”จอมทัพหันมามองเธอด้วยสายตาผิดหวัง เธอตั้งสติแล้วลงจากเวทีมาหาเขา โผเข้ากอดเขาแล้วสะอื้นฮึกฮัก นักข่าวพากันกระหน่ำถ่ายรูปไม่หยุด“จอมยังไม่ตาย แม่ดีใจเหลือเกิน จอมหายไปไหนมาลูก ทำไมมาเอาป่านนี้”ชายหนุ่มผละจากอ้อมกอดของมารดาเลี้ยง ด้วยท่วงท่าเย็นชา ไร้เยื่อใย“ขอบคุณที่คุณแม่เลี้ยงดูผมมานะครับ”กุลธิดารู้สึกใจหายอย่างบอกไม่ถูก เธอเองที่เป็นคนทำลายความรักความเชื่อใจของผู้ชายคนนี้จนหมดสิ้น“จอม...”“ผมรักคุณแม่นะครับ ถึงแม้คุณแม่จะไม่เคยรักผมเลยก็ตาม”“จอม...ไม่จริงลูก”“พอเถอะครับคุณแม่ พอซะทีเถอะ!!!”กุลธิดาอึ้งจนพูดไม่ออก“คิดว่าแม่ไม่เสียใจเหรอที่เห็นลูกตาย...”ชายหนุ่มหัวเราะทั้งน้ำตา หันมองหน้ามารดาเลี้ยงด้วยหัวใจที่แตกสลาย “ผมรู้หมดแล้วครับ ว่าแม่ทำอะไรลงไปบ้าง และตอนนี้หลักฐานทุกอย่างก็อยู่ที่ตำรวจหมดแล้วด้วย ทุกคดี รวมทั้งคดีบงการฆ่าผมด้วย!”ทุกคนที่ได้ยินต่างพากันตกใจกับข่าวนี้ ก่อนจะจับกลุ่มวิพากษ์วิจารณ์กันมันปาก ขณะกุลธิดาปากคอสั่น ร้องบอกทุกคนว่าสิ่งที่จอมทัพพูดนั้นไม่ใช่เรื่องจ

  • เกมรักเกมลวง   บทที่ 106...CEOตัวจริงกลับมาแล้ว

    “ไม่ได้”เขาแสร้งทำเป็นหูเพี้ยน ก้มเข้าหาเธอแล้วประกบริมฝีปากบนเนื้อปากอิ่มแสนรั้นจนแนบแน่น“อือ...”ริมฝีปากร้ายจูบอย่างอ่อนโยนเพียงชั่วอึดใจหนึ่ง ก่อนจะถอนออกมาอย่างแสนเสียดาย“อ่า...มีความสุขจัง...งานนี้ถึงโดนตบก็ยอม”“คุณจอม!” เธอหน้าแดงก่ำเพราะความเขิน รีบหันมองรอบกาย เพราะกลัวพ่อแม่จะเห็นเข้า “คุณทำบ้าอะไรของคุณเนี่ย”“ผมรักคุณนะ”เขาบอกรักเธอตลอดเวลาจนเธอเริ่มหมดความตื่นเต้นไปแล้ว...อย่างนั้นหรือ...ไม่เลย...ไม่ว่าเขาจะบอกรักเธอสักกี่ครั้ง เธอก็ยังตื่นเต้นได้ทุกครั้งสิน่า“พูดอยู่ได้ น่าเบื่อ”“ผมจะรีบกลับมานะ”“ดูแลตัวเองด้วย”“ว่าไงนะ” เขาได้ยินแล้ว แต่อยากได้ยินอีก เพราะมันทำให้เขามีความสุขแทบบ้า “คุณว่าไงนะขวัญ”เธอไม่อยากพูดอีก มันเสียศักดิ์ศรี แค่ครั้งเดียวก็เกินพอแล้ว“อย่าไปทำอะไรบุ่มบ่ามล่ะ คิดจะทำอะไรก็ต้องรอบคอบ มีสติ ห้ามประมาทเด็ดขาด”เขาคว้ามือเธอไปจับแน่น “คุณเป็นห่วงผมเหรอ”“ก็...คุณจะไปหาเงินมาสร้างโรงพยาบาลไม่ใช่เหรอ ฉันก็แค่ห่วงผลประโยชน์ของคนที่เกาะ” เธอรู้จากหมอทินกรมาสักพักแล้ว เกี่ยวกับโครงการก่อสร้างโรงพยาบาลขนาดเล็กบนเกาะพันดาว ที่เขาเป็นเจ้าของเงินทุนแล

  • เกมรักเกมลวง   บทที่ 105...ผมจะพิสูจน์ตัวเองให้ได้

    “ผมจะกลับไปกรุงเทพฯสักพักนะ”เขามาบอกเธอที่บ้านในตอนบ่ายของวันหนึ่ง ขณะที่เธอกำลังถักเสื้อไหมพรมตัวที่หกให้ลูกของเธออยู่ที่หลังบ้าน“ก็ไปสิ ไม่จำเป็นต้องมาบอกฉันหรอก”เธอไม่หันมามองเขาด้วยซ้ำตอนที่พูดออกมา น้ำเสียงของเธอแข็งกระด้าง ไม่น่าฟังสักเท่าไหร่ แต่เขาก็ไม่ถือสาหาความหรอก เขารู้ว่าเธอยังโกรธและไม่ให้อภัยเขา แม้เวลาเกือบเดือนที่ผ่านมา เขาจะพยายามเอาอกเอาใจเธอมากแค่ไหน แต่เธอก็ทำเป็นมองไม่เห็น“ผมจะไปสะสางปัญหาที่บริษัท แล้วก็จะไปให้ปากคำเพิ่มเติมเรื่องคดีของคุณด้วย อีกไม่นานคนร้ายตัวจริงจะได้รับผลกรรมที่ทำไว้กับคุณแล้วนะ คุณสบายใจได้”“ทุกวันนี้ฉันก็สบายใจดี การที่ไม่ต้องไปสู้รบปรบมือกับใคร ไม่ต้องไปแก่งแย่งแข็งขันกับใคร มันทำให้ฉันค้นพบความสุขที่แท้จริง”“ผมดีใจนะที่คุณมีความสุข” เขาเดินมานั่งลงข้างๆกับเธอ มองเธอด้วยสายตาล้นเอ่อไปด้วยรัก เวลานี้ท้องของเธอเห็นชัดมากแล้ว จนเธอต้องสวมชุดคลุมท้องเพื่อให้คล่องตัวขึ้น“ทำไมเสื้อผ้าของลูกมีแต่สีหวานๆ”“ก็ลูกฉันเป็นผู้หญิงนี่นา”“จริงเหรอ!” เขาได้ยินก็ตื่นเต้นแทบคลั่ง เกือบจะคว้าเธอมากอดให้ชื่นใจแล้ว หากไม่โดนสายตาพิฆาตเสียก่อน“นี่ผมก

  • เกมรักเกมลวง   บทที่ 104...ความลับของแม่เลี้ยง

    “หมอ...หมอ...” หมอชราพูดออกมาแทบไม่ออก “หมอฝันจะเห็นสิ่งนี้มาตลอด แต่หมอไม่มีปัญญาจะทำ”“ไม่จริงครับ หมอมีปัญญาจะทำ แต่หมอรอผมอยู่ และตอนนี้ผมก็มาแล้วไง...นี่แหละคือโชคชะตาของผม”“ขอบคุณนะ ที่เห็นคุณค่าของคนที่นี่”“ผมต่างหากที่ต้องขอบคุณทุกคนที่นี่...ความจริงผมเกิดความคิดนี้ขึ้นมา ก็เพราะว่าอีกไม่นานนี้ ลูกของผมจะคลอดที่นี่ ผมเลยอยากทำอะไรเพื่อคนที่ผมรักด้วย”“ไม่ต้องห่วงนะ หมอจะทำคลอดลูกของคุณให้ดีที่สุด และเด็กคนนี้จะภูมิใจที่ได้มีพ่ออย่างคุณ”“ผมก็หวังเช่นนั้นครับ...”หวังว่าเขาจะได้ทำอะไรเพื่อลูกน้อยของเขาที่กำลังจะคลอดในอีกสี่เดือนข้างหน้า แม้ไม่มีโอกาสได้ทำหน้าที่พ่อที่รักเขาอย่างสุดหัวใจ แต่การได้รู้ว่าเขายังปลอดภัยและแข็งแรงดี นั่นก็คงจะเพียงพอให้หัวใจของเขาได้มีแรงเดินต่อ“ตกลงหนูท้องกับใคร”กุลธิดาเค้นถามหญิงสาวอีกครั้งเพื่อความแน่ใจ หลังจากที่เจ้าหล่อนพูดบางสิ่งที่ทำให้เธอปวดหัวไม่หาย“ไม่รู้สิคะ หนูจำไม่ได้”“จำไม่ได้เลยเหรอว่านอนกับใครบ้าง”สิริวิไลทำหน้าขัดใจ “จะจำไว้ทำไมคะ ก็แค่สนุกๆ ไม่ได้จริงจังสักหน่อย จะซีเรียสทำไมคะ เพราะถึงยังไง ลูกของหนูก็ต้องเป็นลูกของคุณจอมทัพ

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status