로그인ไป๋เสวียนเริ่มชินกับร่างใหม่ แต่สิ่งที่นางต้องปรับตัวคือนางต้องตื่นแต่เช้าเพื่อมารีดนมแพะให้น้้องสาวคนเล็ก ไป๋หย่างตอนนี้เริ่มพลิกตัวคว่ำได้แล้ว ส่วนเรื่องอื่นหญิงสาวค่อยๆคิด ตอนนี้หมดปัญหาเรื่องปากท้อง แต่นางต้องทำร่างกายให้แข็งแรงเพื่อจะได้ใช้วิชาป้องกันตัวเองและปกป้องน้องๆได้ ยิ่งตอนนี้ในบ้านมีแค่สตรี อาจมีคนคิดรังแกได้ เยียหลินเป็นคนมีวรยุทธ ถ้าไม่เพราะประมาทนางคงไม่พลาดท่าเสียรู้เจ้าสารเลวเชียงหลงเฟินแน งานนี้ถ้ามีโอกาสนางรับรองว่าจะต้องแก้แค้น2ผัวเมียนั้นแน
แต่สิ่งที่คาใจหญิงสาวมาตลอดคือทำไมเชียงหลงเฟินถึงรู้ว่านางมีสมบัติและอาวุธ แม้แต่มารดาของนางยังไม่รู้ เจ้าสามีสารเลวดันรู้ความลับได้ แต่เหมือนเขาจะรู้ไม่หมด ไม่เช่นนั้นอนุฝูต้องพูดแล้วว่าของชิ้นนั้นเป็นจี้หยกไม่ใช้กุญแจ "พี่ใหญ่"ไป๋เฟิ่งอุ้มไป๋หย่างออกมาดูพี่สาวฝึกดาบ ที่นางเองก็ไม่รู้ว่าพี่สาวไปฝึกมาจากไหน แต่ท่าทางที่คล่องแคล่วบ่งบอกว่านางฝึกมานานแล้ว แต่จะเป็นไปได้เช่นไรกัน "มีอะไรรึ?" "แดดแรงแล้วแผลท่านยังไม่หายดี อย่าหักโหมสิเจ้าค่ะ" "อ้ะ.."ไป๋หย่างยืดตัวไปหาพี่สาวคนโตเพื่ออ้อนให้นางอุ้ม ไป๋เสวียนเลยเก็บดาบแล้วอุ้มน้องสาวคนเล็ก ที่ตอนนี้ตัวเริ่มกลมจากที่ได้กินนมแพะทุกวันเป็นเวลาเกือบเดือน ก่อนหน้านี้นางต้องกินแต่น้ำข้าวเสียหลายวัน พอได้นมแพะนางถึงกลับมาตัวกลมเป็นก้อนซาลาเปาน้อยๆ "ตอนนี้ที่บ้านเราไม่มีบุรุษอยู่ในบ้าน พี่จึงต้องเพิ่มความแข็งแรงให้ร่างกายเพื่อที่จะได้ปกป้องเราทุกคนได้" "ข้าเข้าใจเจ้าค่ะ เช่นนั้นน้องก็จะฝึกด้วย" "ดีมาก..มีวิชาไว้ป้องกันตัวใครก็ทำอะไรเราไม่ได้"ไป๋เสวียนเอ่ยเตือนน้องสาว แต่พอนึกอะไรได้เตือนอีกรอบ "ที่สำคัญคือวาจาของคน อย่าได้หลงเชื่อคำพูดใครง่ายๆยิ่งบุรุษยิ่งต้องระวังให้จงหนัก" "พี่ใหญ่พูดเหมือนเจอผู้ชายหลอกมา ท่านอยู่แต่บ้านไม่เคยเจอใครเลยนะเจ้าคะ" "พี่ก็เตือนไว้เท่านั้นแหละ" "ไป๋เฟิ่ง..อยู่มั้ย?"เสียงเรียกจากหน้าบ้าน 3พี่น้องเลยเดินออกไปดู "ท่านป้าจู..มีอะไรหรือเจ้าคะ"ป้าจูเป็นคนในหมู่บ้านและมีอีกอาชีพคือการเป็นแม่สื่อให้หนุ่มสาวในหมู่บ้านและต่างหมู่บ้าน "เชิญเข้ามาด้านในก่อนเจ้าค่ะ"ไป๋เสวียนเชิญนางเข้ามานั้งภายในบ้าน พอป้าจูเข้ามานั้งพร้อมมองรอบๆภายในบ้าน "ที่ข้ามาวันนี้ก็จะมาคุยกับกับไป๋เสวียนเรื่องแต่งงานนะ เจ้าก็อายุถึงวัยแต่งงานแล้ว เออ..พอดีมีคนสนใจจะแต่งเจ้าเป็นสะใภ้นะ" "เออ..ข้ารู้ว่าบ้านเจ้าเพิ่งเสียบิดามารดาไป ยังไม่ต้องแต่งปีนี้หมั้นเอาไว้ก่อนแล้วปีหน้าค่อยแต่งก็ได้"ป้าจูรีบพูดดักไว้ก่อน นางได้รับตำลึงมาไม่น้อยเพื่อให้ไป๋เสวียนยอมแต่งงานด้วย ส่วนไป๋เสวียนก็หน้าตึงทันที นางเพิ่งจะหลุดพ้นเจ้าสามีสารเลวมา แล้วนี้จะมาให้นางแต่งงานอีกแล้วเหรอ ไม่มีทาง "ข้าคงต้องขอปฏิเสธเจ้าค่ะ ท่านป้าก็เห็นว่าตอนนี้ที่บ้านข้าเหลือกันแค่3พี่น้อง แถมไป๋หย่างก็ยังอ่อนเยาว์นัก ข้าไม่ทิ้งน้องๆไปแนเจ้าค่ะ" "แต่ยังไม่ต้องแต่งปีนี้ก็ได้ แค่หมั้ยหมายกันไว้ก่อน บ้านเฮอเขารอได้ " "ข้าก็ยังยืนยันคำเดิมเจ้าคะ ถ้าจะแต่งต้องแต่งเข้ามาในสกุลถังเท่านั้นแต่คงไม่ใช้เร็วๆนี้แนนอนเจ้าคะ" สุดท้ายป้าจูก็ต้องกลับไปด้วยความผิดหวัง "พี่ใหญ่ปฏิเสธไปแบบนั้นมันจะดีหรือเจ้าคะ?" "ทำไมจะไม่ดี พี่ยังไม่อยากแต่งงาน อยู่เลี้ยงพวกเจ้านี้แหละ หรือเจ้าอยากแต่ง!" "ไม่เจ้าคะ..ข้าจะอยู่เลี้ยงหย่างเอ๋อ" "ถึงเวลาเจ้าก็ต้องแต่งงาน แต่เพียงไม่ใช้เร็วๆนี้แน ถ้าคนไม่ดีพี่ไม่ให้แต่ง หรือถึงแต่งไปแล้วก็ไปรับเจ้ากลับมาได้ น้องแค่2คนพี่เลี้ยงได้อยู่แล้ว" นางคิดถึงตนเองที่ตอนจะขอหย่าเชียนหลงเฟิง แต่บ้านเดิมกลับไม่คิดตอนรับเหมือนมองว่านางเป็นเนื้อร้ายจนคิดตัดทิ้ง นางจะไม่ทำกับน้องๆทั้ง2คนแน "ข้ายังไม่แต่งงานพี่ใหญ่ก็คิดไปถึงตอนเลิกลาสะแล้ว555" "ว่าไม่ได้...เกิดเจ้าไปถูกใจใคนเข้า พี่ก็ต้องตามใจเจ้าอยู่แล้ว" "ถ้าข้าจะแต่งก็ต้องแต่งหลังท่านนะเจ้าคะ ท่านเป็นพี่สาวคนโต น้องจะข้ามหน้าแต่งก่อนไม่ได้" "เอาละๆ..ไว้ให้ถึงตอนนั้นค่อยคิดแล้วกัน"ไป๋เสวียนเลยเดินไปปิดกลอนประตูหน้าบ้าน ส่วนไป๋เฟิ่งก็ผูกไป๋หย่างไว้ข้างหลังแล้วเดินไปสุมไฟไล่แมลงให้เหล่่าสัตว์เลี้ยง เช้าของอีกวันไป๋เสวียนก็มานั้งคิดว่าจะอยู่แบบไม่มีอาชีพไม่ได้ ผู้คนจะสงสัยว่าพวกนางเอาตำลึงมาจากไหน ดีไม่ดีอาจมีคนคิดไม่ซื่อเข้ามาปล้นพวกนางก็เป็นได้ ตอนนี้นางมีร่างกายที่แข็งแรงแล้ว แถมยังฝึกวรยุทธทุกวันจนตอนนี้นางสามารถต่อสู้กับศัตรูได้สบายแถมอาวุธที่อยู่ในคลังเก็บของยังมีให้นางเลือกใช้หลายแบบ ทุกแบบท่านยายเขียนกำกับระบุวิธีใช้อีกด้วย นางคิดว่าจะขึ้นไปล่าสัตว์ หนึ่งเพื่อฝึกวิชา สองนางได้มีข้ออ้างที่มาที่ไปของตำลึง แถมยังเป็นการประกาศให้คนอื่นรู้ว่านางสามารถปกป้องน้องได้ ใครคิดจะมารังแกพวกนางต้องคิดใหม่ ทางด้านสกุลซื่อก็กำลังเค้นถามฮูหยินซื่อเรื่องที่เขาสืบรู้เรื่องห้องลับที่มีทั้งสมบัติและคลังอาวุธมากมายที่แม่ยายได้ซ้อนไว้ "เจ้าจะไม่รู้ได้ไงว่าท่านแม่ยายมีของล้ำค่าขนาดนั้น ถ้าไม่เพราะหลงเฟินเมาแล้วหลุดปากออกมาข้าคงไม่รู้ "แล้วบุตรเขยท่านไปรู้เรื่องนี้ได้เช่นไรกัน ขนาดข้ายังไม่รู้" "ข้าหลอกถามมาแล้ว เจ้าหลงเฟินบอกแอบได้ยินเยียหลินพูดกับสาวใช้ แต่ได้ยินไม่ถนัด จึงไม่รู้ว่ากุญแจนั้นบุตรสาวเราซ้อนไว้ที่ไหน " "แต่ตอนนี้หลินเอ๋อตายไปแล้ว เราจะหาของสิ่งนั้นเจอได้ไงเจ้าค่ะ " "ข้าถึงมาถามเจ้ายังไงละว่าของนั้นอยู่ไหน" "ท่านแม่รักหลินเอ๋อมาก ถ้ามีของสิ่งนั้นจริงก็คงยกให้หลินเอ๋อ คงไม่บอกข้าหลอกเจ้าค่ะ" "ถ้ารู้ว่ามีล้ำค่าอยู่ตอนหลินเอ๋อขอกลับมาอยู่ที่จวนเราน่าจะให้นางกลับมา ไม่แนนางอาจเอาของสิ่งนั้นมาให้เราก็เป็นได้"รองแม่ทัพซื่อคิดอย่างเจ็บใจ เขาก็อยากได้สมบัตินั้น "เอะ..ท่านพี่บอกว่าหลินเอ๋อพูดกับสาวใช้ ก็ต้องเป็นชิงฉีสิ ถ้าจับนางมาถาม เราก็จะรู้ว่ากุญแจอยู่ที่ไหน" "แล้วตอนนี้นางอยู่ที่ไหน?"ทำไมเขาคิดไม่ถึงนะ "ตั้งแต่หลินเอ๋อตายไป ชิงฉีนางไปอยู่ไหนเจ้าค่ะ?" ด้วยเหตุนี้แม่ทัพไป๋จึงมีคำสั่งให้ตามล่าหาสาวใช้ของบุตรสาวโดยบอกว่าจะรับนางกลับจวนมาให้อยู่ด้วยกัน พอเชียงหลงเฟินรู้ว่าอดีตพ่อตาตามหาสาวใช้ของเยียหลิน ตอนแรกเขาไม่คิดใส่ใจเพราะหลังเสร็จจากงานศพสาวใช้ผู้นั้นก็หายตัวไปและเขาก็ไม่คิดใส่ใจ "แมัทัพซื่อนี้ก็แปลกนะเจ้าค่ะ กะอีแค่สาวใช้คนเดียวกลับตามหาทั่วเมืองแถมมีรางวัลให้กับคนที่บอกเบาะแส"อนุฝูพูดด้วยน้ำเสียงแปลกใจ ถึงตอนนี้จะไม่มีเยียหลินเป็นหนามตำใจแต่ด้วยฐานะของนางก็ไม่สามารถแต่งเป็นภรรยาเอกได้ "หรือสาวใช้คนนั้นมีอะไร...?" "นางเป็นแค่สาวใช้จะมีอะไรให้แม่ทัพซื่อตามหาตัวขนาดนั้นเจ้าค่ะ" เชียงหลงเฟินนั้งนึกยังไงก็นึกไม่ออกจนหลายวันผ่านไปเขาถึงนึกออก "สาวใช้ผู้นั้นรู้ที่ซ้อนของกุญแจห้องสมบัติ ท่านพ่อตาต้องอยากได้กุญแจเป็นแนแท้ เช่นนั้นเราก็ต้องหานางให้เจอก่อน" ด้วยเหตุนี้ทั้งพ่อตาและบุตรเขยต่างก็ให้คนออกตามหาชิงฉีสาวใช้ประจำตัวของเยียหลินโดยที่ทั้ง2ไม่รู้ว่าสาวใช้ผู้นั้นได้ตายตามเจ้านายไปนานแล้ว เยียหลินที่ตอนนี้เป็นไป๋เสวียนเต็มตัวก็กำลังฝึกน้องสาวต่อสู่ อาวุธของท่านยายที่มีอยู่ในห้องลับ มีหลากหลายแบบ นางเลยให้น้องสาวเลือกอาวุธที่คิดว่าตนเองถนัดที่สุดคือกระบี่คู่ ไป๋เฟิงที่ชอบกระบี่คู่ก็ฝึกใช้ทุกวัน ส่วนไป๋เสวียนก็ขึ้นเขาไปหาของป่าเอามาขาย นางฝึกมือจนสามารถล่าสัตว์ป่าขนาดเล็กได้ ทั้งกระต่ายและไก่ป่าที่มีความเร็วนางก็สามารถล่านำมาฝากน้องๆเป็นประจำ ตอนเอาสัตว์ป่าไปขายนางก็จะพาน้องๆนั้งรถม้าคันเล็กไปด้วย และด้วยชาวบ้านต่างรู้ว่าที่ท้ายหมู่บ้านมีแค่3พี่น้องที่อาศัยเพียงลำพังแถมเป็นสตรีรูปร่างบอบบาง จึงทำให้คนที่คิดไม่ซื่อวางแผนจะเข้าไปปล้นบ้าน3พี่น้อง ดึกดื่นคืนหนึ่ง ในขนาดที่3พี่น้องนอนอยู่ ก็ได้มีโจรกลุ่มหนึ่งปีนเข้ามาภายในกำแพงบ้านเพื่อนปล้นบ้าน3พี่น้อง ด้วยรู้ว่ามีแค่สตรีกับเด็กอ่อน ไป๋เสวียนด้วยเป็นคนประสาทสัมผัสไวก็ลุกตั้งแต่ที่ได้ยินเสียงคนปีนกำแพงบ้าน หญิงสาวค่อยๆออกจากห้องแล้วแอบมองกลุ่มคนที่เดินสำรวจรอบๆบ้านเพื่อหาทางเข้ามาภายใน ไป๋เสวียนรีบหาอาวุธมาเตรียมไว้ แต่พวกมันมากันหลายคน นางคงสู้พวงมันไม่ได้แน ต้องคิดว่าทำอะไรถึงไล่คนพวกนี้ออกไป แล้วนางก็เจอหน้าไม้ในห้องเก็บอาวุธ หญิงสาวเลยเอาออกมาเพื่อเป็นอาวุธ นางเคยยิงธนูที่ค้ายทหารแต่ไม่เคยใช้หน้าไม้ ไป๋เสวียนแอบบออกมาจากบ้านแล้วหาที่หลบก่อนจะยิงหน้าไม้ใส่ผู้บุกรุก "โอ้ยยย..ใครมันลอบทำร้ายข้า"1ในผู้บุกรุกที่โดนหน้าไม้ยิงใส่ก็ร้องขึ้นแล้วหันมองรอบๆ "ข้าให้เวลาพวกเจ้า จงออกไปจากบ้านข้าสะ ไม่เช่นนั้นอย่าหาว่าข้าโหดเหี้ยม "ไป๋เสวียนออกมายืน ด้านหน้าพวกมันแล้วเอ่ยเตือน "เป็นแค่สตรี ทำไมถึงใช้ของอันตรายเช่นนี้ละจ้ะน้องสาว มาให้พี่ข้าดูแลเจ้าดีมั้ยจ้ะ"โจรอีกคนพอเห็นเป็นแค่สตรีเลยคิดเกี้ยวพา คืนนี้ถือว่าได้กำไร "ใครน้องสาวเจ้า ออกไปเสีย ก่อนที่ข้าจะหมดความอดทน"ไป๋เสวียงพูดพร้อมกับนับจำนวนคน ถ้าในอดีตนางมั่นใจว่าสู้ได้แน่นอน แต่ร่างใหม่นี้ยังไม่เคยสู้อย่างจริงจังมาก่อน แต่นางจะแสดงให้คนพวกนี้รู้ไม่ได้ นางเป็นถึงบุตรสาวรองแม่ทัพจะมาแพ้พวกโจรกระจอกมันเสียศักดิ์ศรีด้านรองแม่ทัพชื่อถ่านหย่งรู้สึกขัดใจ ฮวนจือถานทำไมถึงดวงแข็งไม่ตายง่ายแบบผู้เป็นบิดา ที่แค่ใส่ยาพิษให้กินทุกวันก็ตายภายใน3เดือนพอให้เขาหายแค้นไปได้บ้าง แต่ทายาทอย่างฮวนจือถานยังอยู่แถมหน้าที่การงานยังมีทีท่าว่าจะไปได้ดีด้วย เขารู้สึกไม่ยินยอม ตอนที่ฮูหยิงอยากให้บุตรสาวคนเล็กแต่งงานกับฮวนจือถานดด้วยเห็นเป็นคนหนุ่มอนาคตไกล ในใจตอนนั้นก็คิดจะปฏิเสธ แต่ก็นึกแผ่นร้ายได้เลยให้บุตรสาวหมั้นหมายไปก่อน สมบัติสกุลฮวนมีไม่ใช้น้อยด้วยนายท่านฮวนเป็นถึงเสนาบดีการคลัง และฮูหยินเป็นถึงบุตรสาวเศรษฐีทางใต้ทีมีกิจเดินเรือมากมาย ทำให้นายท่านเสนาบดีฮวนเหมือนหนูตกถังข้าวสาร ยิ่งสร้างแรงแค้นให้รองแม่ทัพเพราะฮวนหมิงหลางได้ทั้งภรรยางามแถมร่ำำรวยผิดกับตนเองที่ได้ภรรยาเป็นบุตรของราชครูของฮองเต้องค์ก่อน คิดว่าจะสามารถช่วยส่งเสริมตนเองได้ แต่ภรรยากลับเป็นแค่สตรีอ่อนแอไม่สามารถช่วยเหลืออะไรเขาได้ แถมแม่ยายยังไม่ชอบหน้าเขาอีก ผิดกับหลิงเยียที่แม่ยายรักและเอ็นดูนางมาก เลยรับหลิงเยียไปเลี้ยงแต่เล็กจนแม่ยายเสียชีวิตหลิงเยียถึงกลับมาอยู่สกุลชื่อเขาที่ไม่เคยเลี้ยงดูบุตรสาวคนนี้เคยไม่มีความผูกพัน ตอนให้นางแต่งกับแม่ทัพเ
มือสังหารพยายามจะลงมือกับสองพ่อลูก แต่ก็ถูกเจ้าลูกหมาป่าตัวเขื่องทั้ง2สกัดไว้ และด้วยเสียงเห่าของเจ้าหมาป่าสองตัวและการต่อสู้ จือถานที่หลับอยู่ในห้องจึงได้ยินแล้วออกมาเข้าช่วยเหลือสองพ่อลูกหารเขาใส่ดาบที่ได้จากเจอเยียนเข้าต่อสู้ผู้บุกรุกด้วยงานที่ต้องสอบสวนสืบคดีบ่อยๆทำให้เขาต้องฝึกร่างกายและมีวิชาการต่อสู้ แต่ด้วยมือสังหารมีกันหลายคนทำให้ฝั่งจือถานเสียเปรียบจือถานหยิบดินขึ้นมาซัดใส่คนร้ายก่อนที่จะใช้ดาบฟันอีกครั้งจนคนร้ายล้มบาดเจ็บไปหนึ่ง แต่ก็ยังมีอีกคนเข้ามาโจมตีส่วนพ่อลูกหารก็ต่อสู้กับคนร้าย แต่ด้วยคนร้ายมีมากเกินไป พ่อหารจึงพลาดท่าถูกคนร้ายแทงจนบาดเจ็บล้มลง หลงฝูที่เห็นบิดาได้รับบาดเจ็บก็จะเข้าไปช่วยเหลือ แต่ไม่ไม่อาจสลัดคนที่ตนเองต่อสู้ได้ แต่เจ้าลูกหมาป่าก็เข้าไปช่วยพ่อหารไว้ทัน มันใช้ขนาดตัวที่ไวเข้ากัดคนร้ายจนเขี้ยว"อ๊า.."มือสังหารที่โดนเจ้าเสี่ยวเจียกัดขาจมเขี้ยวก็ร้องเสียงหลงก่อนจะล้มลง เจ้าเสี่ยวเจียไม่ปล่อยโอกาส มันกัดและสบัดจนเหยื่อนอนจมกองเลือดไม่อาจต่อสู้กลับได้ เจ้าเสี่ยวจูจะคอยช่วยจือถานไม่ให้พวกที่คิดทำร้ายเจ้านายได้เข้าใกล้เจ้านายมันได้แต่ก็ไม่อาจโจมตีกลับ
สุดท้ายไป๋เสวียนก็ต้องจำใจเข้าไปในบ้านชายหนุ่ม ไป๋หย่างผู้ไม่รู้สิ่งใดก็ตื่นเต้นที่ได้จะได้ดูวัวแล้วไหนจะเจ้าหมาป่าสองตัวที่จำเจ้านายได้ก็กระดิกหางรับหน้าอย่างดีใจจือถานพาสองพี่น้องเข้าไปคารวะมารดาที่ห้องนั้งเล่น"ท่านแม่มีคนที่ลูกอยากให้ท่านแม่รู้จักขอรับ"แม่ฮวนที่นั้งปักชุดคุมให้บุตรชายก็เงยหน้าขึ้นมาจากงานในมือนางเห็นหญิงสาวหน้าตาไม่ถึงกับงานแบบสาวเมืองหลวง แต่ก็ถือว่าหน้าตาหมดจดชวนมองไม่ใช่น้อย"คารวะท่านป้าฮวนเจ้าคะ ข้าไป๋เสวียนเป็นพี่สาวคู่หมั้นของเจอเยียนสหายของพี่จือถานเจ้าคะ"ถึงจะไม่อยากเรียกพี่ แต่อยู่ต่อหน้าผู้อาวุโสยังไงก็ต้องไว้หน้าชายหนุ่มบ้าง โดยไม่รู้เลยว่าชายหนุ่มยิ้มอย่างพอใจที่หญิงสาวรู้ความ"เช่นนั้นก็คนกันเอง...มานั้งใกล้ๆป้า แล้วซาลาปาน้อยนั้นใครหรือถึงอ้วนกลมขนาดนี้"นางเห็นหญิงสาวผูกหนูน้อยน่าหน้าน่าเอ็นดูเลยสอบถาม"น้องสาวคนเล็กข้าเองเจ้าคะท่านป้า""ป้ามีขนม พานางมานั้งข้างๆนี้ ช่างน่าเอ็นดูนัก"แม่ฮวนเห็นไป๋หย่างก็นึกเอ็นดู เด็กน้อยอ้วนกลม แต่งตัวสะอาดสะอาดบ่งบอกให้รู้ว่าได้รับการเลี้ยงดูเป็นอย่างดี"หย่างเอ๋อคารวะท่านป้าสิลูก""จ้า.."หนูน้อยทำมือประสานก้มหัว
ฮวนจือถานย้ายมาอยู่ที่หมู่บ้านอิ้นถังได้หนึ่งเดือนหนึ่ง เขาเห็นสหายทำนาก็นึกอยากทำบ้าง เขาลงทุนซื้อวัวมาเพื่อเตรียมทำนา "เดี๋ยวตอนเจ้าเกี่ยวข้าวข้าจะมาช่วย"จือถานบอกกับสหายเมื่อทั้งคู่ชวนกันเข้าป่าไปล่าสัตว์ ด้วยทั้งสองเป็นคนหนุ่มมีกำลังมาก ทำให้ทั้งคู่ได้สัตว์ใหญ่อยู่บ่อยครั้งจือถานจึงยิ่งเป็นที่หมายตาของเหล่าสาวๆในหมู่บ้านโดยเฉพาะหลิงฉี แต่ด้วยตนเองมีประวัติไม่ดี นางจึงไม่กล้าทำอะไรมาก "พี่จือถานคนเดียวจะทำไหวหรือขอรับ ?""ข้ามีคนงานช่วย น่าจะไม่มีปัญหาอะไร ถึงตอนนั้นเจ้าต้องชวยแนะนำข้าด้วยนะ""ย่อมได้ เงียบก่อน..เหมือนได้ยินเสียงเคลื่อนไหว"เจอเยียนฟังเสียงเคลื่อนไหวรอบๆก่อนจะพากันหลบ กลุ่มชายฉกรรจ์ประมาณเกือบ20คนก็มาหยุดห่างจากสองหนุ่มเพียงไม่เกิน10จั้ง ซึ่งใกล้มาก"เจ้าสืบมาแนชัดแล้วใช้มั้ยว่าสองแม่ลูกฮวนอยู่หมู่บ้านนี้""ขอรับ พวกเขามาสร้างบ้านอยู่ในหมู่บ้านนี้มากว่าเดือนแล้ว ถ้าเราจะลงมือย่อมสะดวกขอรับ เพราะที่หมู่บ้านเป็นแค่ชาวบ้าน "ลูกน้องรายงานตามที่ไปสืบมา"ท่านรองแม่ทัพให้สังหารให้หมดไม่ให้ไว้ชีวิตผู้ใด"หัวหน้ามือสังหารได้รับงานที่ไม่ยากเย็นอะไร แค่สังหารแม่ลูกฮวนแล้ว
ฮวนจือถานตอนนี้กำลังเผชิญปัญหาหนัก นั้นก็คือรองแม่ทัพชื่อถ่านหย่งพยายามให้เขาสู่ขอชื่อหลิวหลูแต่เขากลับขอถอนหมั้นกับนางแทน โดยให้เหตุผลว่าเขามีปัญหาสุขจนไม่สามารถมีบุตรได้ เขาสืบจนรู้มาว่าชื่อถ่านหย่งเคยรักอยู่กับฮวนฝูฉิวท่านอาของเขา แต่เพราะชื่อถ่านหย่งมีภรรยาอยู่แล้วบิดาเขาจึงกีดกันโดยให้ท่านอาของเขาแต่งไปกับผู้อื่น รองแม่ทัพชื่อก็พยายามที่จะไปดักปล้นเกี่ยวเจ้าสาว แต่สุดท้ายฮวนฝูฉิวก็ไม่ยอมกลับไปกับเขา ด้วยเชื่อคำพี่ชายว่าแต่งงานควรแต่งให้คนที่แต่งไปเป็นฮูหยินไม่ใช้อนุ ชื่อถ่านหย่งเมื่อรู้ว่าต้นเหตุที่ท่านอาเขาไม่ยอมแต่งเป็นอนุเป็นเพราะบิดาเขาจึงผูกใจเจ็บมาตลอด ยิ่งเห็นว่าเขามีหน้าที่การงานที่ดีก็ยิ่งรู้สึกไม่ยินยอม จึงมีความคิดจะทำลายครอบครัวเขาขึ้นมา ความฝันที่เหมือนเตือนภัยเขาล่วงหน้าทำให้เขาสามารถระวังตัวได้ หลายครั้งที่ชื่อฝูฉิวพยายามจะเข้าหาเขา แต่ชายหนุ่มก็ระวังตัวตลอด จนเขาฝันเห็นหญิงผู้นั้น นางที่เขาเจอฉุยหลาง มันแปลกมากที่เขาจำนางได้ แต่อยู่ๆใบหน้านางก็เปลี่ยนเป็นอีกคน 'ชื่อเยียหลิน'หรือ เขาเคยเห็นนางอยู่สองหรือสามครั้งในงานเลี้ยงที่นางออกงานกับสามีแม่ทัพเชียนหลงเฟิง เขา
และด้วยลูกหมาป่ายังเล็กอยู่มาก พวกมันร้องกินนมบ่อยมาก ไป๋เฟิ่งจึงรับหน้าที่ป้อนนมกันและเอาพวกมันเข้าไปนอนในห้องด้วยเพราะต้องป้อนนมให้พวกมันยามดึก ส่วนตอนนอนก็มีไป๋หย่างนั้งเฝ้าไม่ห่าง นางถูกพี่สาวบอกว่าห้ามจับเจ้าพวกนี้แรงไม่เช่นนั้นพวกมันจะเจ็บ นางจึงค่อยๆเอามือลูกลูบพวกมันอย่างเบามือแล้วก็หัวเราะและด้วยเจอเยียนเห็นว่าคู่หมั้นต้องอดนอนคอยป้อนนมเจ้าลูกหมาป่าเขาเลยไม่ให้นางเดินเอาข้าวไปส่งแต่เขาจะเดินกลับมากินเอง ผ้านไป10วันลูกหมาป่าก็ค่อยๆลืมตา พอไป๋หย่างเห็นตาน้อยๆของลูกหมาป่าลืมก็ดีใจ และด้วยพวกลูกหมากินนมเก่งพวกมันจึงตัวกลมขนนิ่มน่ากอด ส่วนงานในนาก็เป็นเจอเยียนทำตัวเดียว ด้วยอากาศที่ร้อนเขาจึงไม่ยอมให้ไป๋เฟิ่งตามไปที่นาไม่ว่านางงอแงเช่่นไรเขาก็ไม่ใจอ่อน "เจ้าเจอเยียนนี้ก็เป็นจริง ถือว่าข้ายกเจ้าให้เขาดูแลเป็นการตัดสินใจที่ถูก""เขาจะเหนื่อยนะสิเจ้าคะ"ไป๋เฟิ่งบ่นอย่างแงงอน"แต่เขาห่วงเจ้ามากกว่า เขาเห็นเจ้าอดนอนเพราะต้องคอยป้อนนมเจ้าสามตัวนี้เลยไม่อยากให้เจ้าไปเป็นลมกลางแดดร้อน"ไป๋เสวียนเข้าใจน้องเขย นางเห็นคู่นี้มีความสุขก็เหมือนได้ชดเชยความทุกข์ในใจเมื่อชาติที่แล้ว ไป๋ฟิ่งเ







