로그인กลุ่มโจรเห็นเป็นเพียงสตรีก็หมายจะจับนางไว้ แต่ไป๋เสวียนกลับใช้อาวุธลับดีดใส่กลุ่มโจร อาวุธลับที่นางทำขึ้นคือไม้ไผ่ที่เหลาให้เป็นขนาดเล็กเหมือนไม้จิ้มฟัน แต่แหลมกว่า ในอดีตนางใส่เป็นเข็มเงินแต่ด้วยฐานะตอนนี้ใช้ไม้ไผ่นะเหมาะแล้วประหยัดอีกด้วย และผลลับที่ได้ถือว่าเป็นที่น่าพอใจเพราะเมื่อดีดด้วยกำลังนิ้วที่แรง มันก็เป็นอาวุธที่น่ากลัวได้
"โอ้ยยย..ตาข้า"โจรที่ถูกอาวุธลับดีดใส่ก็ร้องออกมาเพราะฉะนั้นเพราะโดนอาวุธลับดีดใส่ตาทำให้คนผู้นั้นจับตาตนเอง "รอบนี้เป็นแค่เข็มธรรมดาแต่เข็มต่อไปมันจะเป็นเข็มพิษ หรือพวกเจ้าอยากลองพิษที่ข้าสกัดเองก็ไม่ขัดนะ ข้ากำลังหาหนูลองยาอยู่พอดี"นางขู่ออกไปทั้งๆความจริงแล้วนางไม่มีเข็มพิษแต่อย่างใด พอพวกโจรได้ยินว่ามีเข็มพิษก็เริ่มถอยหลัง "พวกเจ้าอยากได้หน้าไม้หรือเข็มพิษเลือกมาได้เลย ข้าให้พวกเจ้าเลือก" นางพูดด้วยน้ำเสียงนิ่งพร้อมเตรียมยิงหน้าไม้ "ถึงบ้านข้าจะมีแต่สตรี แต่ก็ไม่ใช้ลูกพลับนิ่มรอให้ใครมารังแกได้ "และก่อนที่พวกโจรจะพูดอะไร นางก็ดีดอาวุธลับใส่เหมือนใช้คนพวกนี้เป็นเปาฝึก พวกโจรก็ร้องเอะอะโวยวายปีนกำแพงหนีไป ไป๋เฟิ่งที่ได้ยินเสียงดังก็ตื่นพร้อมวิ่งออกมาดูว่าเกิดอะไรขึ้น "พี่ใหญ่..เกิดอะไรขึ้นเจ้าคะ" "ไม่มีอะไรแล้ว เมื่อกี่มีโจรจะมาปล้นที่บ้านเรานะ แต่พี่ไล่พวกมันไปหมดแล้ว" "อะไรนะเจ้าคะ! มีโจร!" "ใช้..แต่ตอนนี้ปลอดภัยแล้ว ดูทำหน้าเข้า เสียดายไม่ได้ออกแรงหรือยังไงกันเจ้า อิอิ" "พี่ใหญ่สู้โจรได้เช่นไรกันเจ้าคะ" "ก็ที่ข้าฝึกอยู่ทุกวันอย่างที่เจ้าเห็นยังไงละ เห็นมั้ย..มันช่วยชีวิตพวกเราได้ เพราะฉะนั้นเจ้าต้องฝึก รู้มั้ย" ไป๋เฟิ่งพูดไม่ออก พี่สาวนางมีวิชาต่อสู้ได้เช่นไรกัน หลังจากที่พี่ใหญ่ฟื้นขึ้นมาก็แปลกไปมากจนเหมือนไม่ใช้พี่สาวคนเดิมของนาง หลังจากนั้นก็ไม่มีใครกล้าคิดจะมาเอาเปรียบพวกนางพี่น้องเพราะคืนที่เกิดเรื่องพวกโจรวิ่งร้อยเอะอะโวยวายจนคนในหมู่บ้้านตื่นมาเห็น จนร่ำลือกันถึงความเก่งของพี่น้องถัง "สมแล้วที่เป็นลูกนายพราน ถึงตัวจะบอบบางแต่กลับมีฝีมือจนไล่พวกโจรไปได้ "ป้าตูที่อยู่ท้ายหมู่บ้านเหมือนกันพูดขึ้น "แต่แบบนี้จะมีใครกล้าไปสู่ขอกัน "ยายเหมิงเอ่ยขัดขึ้นมา "นั้นสิ ตนเองเป็นสตรีแท้ๆแต่กลับห้าวหาญต่อสู้กับบุรุษ แบบนี้ใครที่ไหนจะมาแต่งเป็นภรรยา"ป้าจูพูดขึ้น หลังจากที่นางไปพูดคุยวันนั้นแล้วก็ยังมีคนมาให้นางไปช่วยพูดอีก แต่ไป๋เสวียนก็ตอบปฏิเสธทุกครั้ง ไป๋เสวียงไม่รู้ว่าคนในหมู่บ้านพูดถึงตนเอง นางคอยให้ไป๋เฟิ่งฝึกการใช้อาวุธอยู่ทุกวัน บ้างวันก็ชวนกันเข้าป่าไปหาของป่าและล่าสัตว์ ไป๋เฟิ่งจากตอนแรกใช้อาวุธไม่เป็นแต่ตอนนี้นางใช้กระบี่คู่ได้คล่องแคล่ว "เอะ...พี่ใหญ่ ที่ริมแม่น้ำเหมือนมีคนนอนอยู่เจ้าค่ะ "ไป๋เสวียนที่กำลังวางกับดักสัตว์ก็หันไปมองตามที่น้องสาวบอก พอเห็นมีคนนอนอยู่ก็รีบเดินเข้าไปดู ไป๋เสวียนเข้าไปตรวจดูว่าคนผู้นี้ยังมีชีวิตอยู่มั้ย "ยังมีชิวิต แต่เขาบาดเจ็บไม่ใช้น้อย " "เป็นบุรุษด้วย แล้วเราจะช่วยเขาอย่างไรดีเจ้าคะ"บุรุษผู้นี้ถึงจะถือว่าตัวสูง แต่นางสองพี่น้องเป็นเพียงสตรีตัวเล็ก จะแบงเขาได้เช่นไรกัน "นั่นสิ...จะปล่อยทิ้งไว้แบบนีก็ดูจะแล้งน้ำใจเกินไป "ไป๋เฟิ่งหันมองรอบๆเพื่อหาอะไรมารองคนเจ็บ "ลองหาไม้ไผ่มาทำเป็นแผ่นลากเขาไปได้มั้ยเจ้าคะ"ไป๋เฟิ่งที่ผูกไป๋หย่างไว้ข้างหลังก็ลองเดินหาไม้ไผ่แถวนั้นมาตัดทำเป็นแพให้คนเจ็บ ไป๋เสวียงที่นึกอะไรได้ก็ลองเอามือแตะที่ตัวคนเจ็บ แล้วชายผู้นั้นก็หายว๊าบทันที "พี่ใหญ่..ข้าได้ไม้ไผ่มาแล้วเจ้าคะ"ไป๋เฟิ่งที่เดินมาหาพี่สาวก็งงว่าคนเจ็บหายไปไหน "คนเจ็บละเจ้าคะ" "พี่เก็บเขาเข้าห้องลับนะ แค่ลองดูไม่คิดว่าจะเก็บคนได้ " "เช่นนั้นเรากลับกันเถอะเจ้าคะ " เมื่อทั้ง3พี่น้องกลับมาถึงบ้าน ไป๋เสวียนก็ไปที่ห้องของบิดามารดาเพื่อนำคนเจ็บออกมา นางตรวตดูก็เห็นมีบาดแผลจากการโดนโขดหินในแม่น้ำทำให้บาดเจ็บและรอยจากอาวุธตรงไหล่ขวา ส่วนอื่นๆไม่มีบาดแผลอะไร ไป๋เสวียนและไป๋เฟิ่งช่วยกันจับคนเจ็บเปลี่ยนชุด ไป๋เสวียนที่ตอนเป็นเยียหลินผ่านการมีสามีมาแล้วนางจึงไม่คิดอาย ผิดกับน้องสาวที่ไม่เคยผ่านการมีครอบครัวมาก่อน นางหน้าแดงจนช่วยพี่สาวเปลี่ยนชุดให้คนเจ็บเรียบร้อย "ร่างกายเขาเย็นมาก เดี๋ยวพี่จุดไฟที่เตียงเตาให้เขาก่อน "ด้วยตอนนี้เป็นเดือน3อากาศยังเย็นอยู่ ไป๋เสวียนเดินไปที่ห้องเก็บของเพื่อเอาถ่านมาจุดในเตียงเตาให้มีความอบอุุ่น ส่วนไป๋เฟิ่งก็เอาไป๋หย่างลงจากหลังเพราะน้องสาวฉี่ใส่หลังนางจนเปียก "พี่ใหญ่ ข้าขอพาหย่างเอ๋อไปเปลี่ยนชุดก่อนนะเจ้าคะ นางถ่ายเบาใส่หลังข้าจนเปียกไปหมด" พอไป๋เฟิ่งเปลี่ยนชุดทั้งของตนเองและน้องสาวเสร็จไป๋หย่างก็ร้องงอแง ไป๋เฟิ่งดูแล้วนางน่าจะง่วงเลยพากินนมแพะที่ต้มไว้ตอนเช้ามาป้อนนางแล้วกกให้นอน ไป๋เสวียนที่อยู่ดูแลคนเจ็บก็คอยดูเตียงเตาและห่มผ้าหลังทำแผลให้ พอเห็นว่าร่างกายคนเจ็บเริ่มมีความอุ่นไม่เย็นแบบตอนที่เจอนางก็เลยปล่อยให้เขาพักผ่อนไป ส่วนตนเองก็เดินออกมาเอาของในตะกร้าที่สะพายหลังออกมา วันนี้นางกับน้องสาวได้ผักป่ามาหลายชนิดเลย แถมยังได้กระต่ายมาอีก3ตัวจากที่นางยิงหน้าไม้ เย็นนี้นางจะทำน้ำแกงกระต่ายและผัดผักป่า แล้วอุ่นนมแพะให้ไป๋หย่าง ด้านคนเจ็บก็นอนไม่รู้สึกตัวถึง2วัน ก่อนจะลืมตามองไปรอบๆ 'กู๋ฟูฮวน'ตำรวจหน่วยรบพิเศษจำได้ตนเองกำลังปฏิบัติการล้อมแหล่งกบดานของผู้ก่อการร้าย แล้วเขาก็ถูกกับดักระเบิดจนตาย แล้วตอนนี้เขามาอยู่ที่ไหนกัน? ที่นี้ไม่ใช้โรงพยาบาล ก่อนชายหนุ่มจะคิดอะไรไปมากกว่านี้เขาก็รู้สึกปวดหัวแล้วความทรงจำต่างๆก็ไหลเข้ามาในหัวร่างนี้มีนามว่าหวังเจอเยียนอายุ16หนาวที่กำลังล่องเรือกับครอบครัวมาจากหัวเป่ยเพื่อไปเยี่ยมญาติที่หลงเจียง แต่ระหว่างทางกลับเจอโจรปล้นเรือและสังหารคนบนเรือจนหมดบิดามารดาเขาคือหนึ่งในนั้น ส่วนร่างนี้เมื่อเห็นบุพการีถูกสังหารก็จะเข้าไปแก้แค้นแต่กลับโดนฟัดแล้วถีบตกเรือ ชายหนุ่มคงตายตามไปอยู่บิดามารดาแล้ว และอยู่ๆกู๋ฟูฮวนตำรวจรบพิเศษก็เข้ามาอยู่ในร่างนี้แทน เสียงประตูห้องเปิดพร้อมเด็กสาวที่เดินเข้ามา เขามองก็รู้สึกเหมือนต้องมนต์ เด็กสาวน่าตาน่ารักเดินเข้ามาใกล้เขาแล้วพูดด้วยน้ำเสียงน่าฟัง "ท่านตื่นแล้วหรือ!..เป็นเช่นไรบ้าง? ยังปวดแผลอยู่มั้ย?"ไป๋เฟิ่งเดินเข้ามาเพื่อจะดูอาการคนเจ็บก็เห็นเขานอนลืมตามองมาที่ตนเลยเดินเข้าไปถามอาการ "ข้ารู้สึกเวียนหัวนะ ไม่ทราบว่าที่นี้ที่ไหนหรือ?" "ที่นี้หมู่บ้านซานหยาแห่งเมืองเจอเจี๋ยเจ้าคะ ข้ากับพี่สาวเจอท่านนอนหมดสติอยู่ที่ริมแม่น้ำเลยช่วยกันนำท่านมารักษาที่บ้านเจ้าคะ" "ขอบคุณแม่นางมากที่ช่วยเหลือข้า บุญคุณยิ่งใหญ่ยากจะตอบแทน"ชายหนุ่มเอ่ยขอบคุณ แต่ในใจกลับคิดว่าเขามาอยู่ที่ยุคนี้ได้เช่นไรกัน ดีว่ามีความทรงจำของเจ้าของเดิมทำให้เขาตีเนียนไปกับเหตุการณ์ได้ "แล้วท่านไปนอนที่ริมแม่น้ำได้เช่นไรหรือเจ้าคะ..อ่ะ..ข้าลืมไป ท่านหิวมั้ยเจ้าคะ เดี๋ยวข้าไปต้มโจ๊กให้"พูดจบก็รีบเดินออกไปเพื่อต้มโจ๊กให้คนเจ็บ หวังเจอเยียนเห็นก็ให้นึกเอ็นดู แต่พอนึกถึงเรื่องราวของตนเองก็รู้สึกสับสน อยู่ๆตายแล้วแทนที่จะไปยมโลกแต่กลับมาอยู่ที่ไหนก็ไม่รู้ แถมแม่นางน้อยหน้าตาน่ารักยังช่วยชีวิตเขาด้วย แต่ก็อดที่จะคิดถึงเรื่องในชาติก่อนไม่ได้ พอนึกถึงบ้านชายหนุ่มก็เห็นอพาร์ทเมนของตนเอง เขารู้สึกงงแต่พอลองเอามือไปจับของต่างๆเขาก็สัมผัสได้เลยลองเดินไปในห้องเก็บอาวุธที่เขาเก็บสะสมไว้ 'ของอยู่ครบ' แล้วก็นึกขึ้นได้ว่าร่างนี้มีป้ายของร้านฝากเงินอยู่เลยมองหา พอเห็นของอยู่ครบก็เบาใจ ตอนนี้ร่างนี้ไม่เหลือใครแล้ว บิดามารดาจากไปแล้ว ญาติที่จะไปหาเขาเองก็ไม่ได้รู้จัก ตอนนี้เขาถือว่าเป็นคนไร้ญาติขาดมิตรจะไปอยู่ไหนดี จะกลับไปที่บ้านก็ไม่รู้จะอยู่อย่างไร ชายหนุ่มนอนคิดอะไรเพลินๆหญิงสาวที่เข้ามาก่อนหน้านั้นก็เดินเข้ามาพร้อมหญิงสาวอีกคนที่อุ้มทารกน้อยไว้ในอ้อมแขน "ท่านรู้สึกตัวแล้ว...ลุกมาทานโจ๊กก่อน น้องสาวข้าต้มมากำลังร้อนๆ"ไป๋เสวียนที่อุ้มไป๋หย่างเห็นชายหนุ่มที่อายุน่าจะรุ่นเดียวกับนาง แต่ใบหน้าเศร้าหมอง "ขอบคุณพวกท่านมาก"หวังเจอเยียนลุกนั้งเพื่อจะรับถ้วยโจ๊กมากิน แต่แผลที่ไหล่ขวายังเจ็บก็จึงนิ่วหน้า ไป๋เฟิ่งเห็นดั่งนั้นจึงคิดป้อนคนเจ็บ "ท่านยังเจ็บอยู่ เช่นนั้นข้าป้อนท่านเอง"ชายหนุ่มจึงต้องให้หญิงสาวป้อนโจ๊กที่รสชาติกลมกล่อม "ไปทราบว่าคุณชายมีชื่อแซ่อะไร ข้ากับน้องสาวแซ่ถัง ข้าพี่สาวคนโตชื่อถังไป๋เสวียน ส่วนคนที่ป้อนโจ๊ท่านชื่อถังไป๋เฟิ่ง ส่วนที่อยู่ในอ้อมแขนข้าคือน้องเล็กชื่อถังไป๋หย่าง " "ข้าแซ่หวังมีนามว่าเจอเยียนอายุ16หนาว ข้ากับครอบครัวอาศัยอยู่ที่หัวเป่ยกำลังโดยสารเรือเพื่อจะไปเยี่ยมญาติของมารดาที่หลงเจียงแต่ระหว่างทางเกิดการปล้นเรือขึ้นพวกโจรมันสังหาคนบนเรือทั้งหมด ข้าถูกพวกมันฟัดแล้วถีบตกจากเรือจนพวกท่านมาเจอแล้วช่วยชีวิตข้า "ชายหนุ่มเลือกที่จะบอกตามตรง "แล้วท่านจะทำยังไงต่อไปละ หรือจะไปขอความช่วยเหลือจากญาติหลงเจียง"ไป๋เฟิ่งฟังก็รู้สึกเห็นใจในโชคชะตาของชายหนุ่ม "ข้าไม่เคยเห็นหน้าญาติของมารดา ที่ไปเยี่ยมเพราะมีจดหมายมาบอกว่าท่านยายกำลังป่วยอยากเห็นหน้าท่านแม่เป็นครั้งสุดท้าย "เขาจำได้ว่ามารดาของร่างนี้เคยเล่าไว้ว่าในอดีตมีเรื่องมากมาย " จริงๆแล้วท่านยายโกรธท่านแม่เรื่องที่ยอมแต่งงานกับบิดาข้าที่เป็นแค่ชาวไร่ธรรมดาไม่ยอมแต่ให้คนที่ท่านยายหาให้ ท่านยายจึงตัดขาดท่านแม่ ข้าเลยไม่รู้จักญาติทางฝั่งมารดา ส่วนบิดาก็มีญาติห่างๆกันไม่ได้สนิทกันมาก พวกเรา3แม่ลูกเลยอยู่กันเอง ทำไร่ทำนาไปวันๆ ส่วนข้าก็พอหาของป่าล่าสัตว์ได้บ้างเลยอยู่กันอย่างไม่ลำบากมาก" "เป็นเช่นนั้นเองหรือ..ท่านพักให้บาดแผลหายก่อนค่อยคิดว่าจะทำเช่นไรต่อแล้วกัน "ไป๋เสวียนฟังแล้วก็รู้สึกเห็นใจ ที่บ้านนางตอนนี้มีแต่สตรี ถ้ามีบุรุษเพิ่มขึ้นมาอาจทำให้ชาวบ้านนินทาได้ แต่เอาไว้ตอนนั้นค่อยคิด ตอนนี้รักษาคนสำคัญกว่าด้านรองแม่ทัพชื่อถ่านหย่งรู้สึกขัดใจ ฮวนจือถานทำไมถึงดวงแข็งไม่ตายง่ายแบบผู้เป็นบิดา ที่แค่ใส่ยาพิษให้กินทุกวันก็ตายภายใน3เดือนพอให้เขาหายแค้นไปได้บ้าง แต่ทายาทอย่างฮวนจือถานยังอยู่แถมหน้าที่การงานยังมีทีท่าว่าจะไปได้ดีด้วย เขารู้สึกไม่ยินยอม ตอนที่ฮูหยิงอยากให้บุตรสาวคนเล็กแต่งงานกับฮวนจือถานดด้วยเห็นเป็นคนหนุ่มอนาคตไกล ในใจตอนนั้นก็คิดจะปฏิเสธ แต่ก็นึกแผ่นร้ายได้เลยให้บุตรสาวหมั้นหมายไปก่อน สมบัติสกุลฮวนมีไม่ใช้น้อยด้วยนายท่านฮวนเป็นถึงเสนาบดีการคลัง และฮูหยินเป็นถึงบุตรสาวเศรษฐีทางใต้ทีมีกิจเดินเรือมากมาย ทำให้นายท่านเสนาบดีฮวนเหมือนหนูตกถังข้าวสาร ยิ่งสร้างแรงแค้นให้รองแม่ทัพเพราะฮวนหมิงหลางได้ทั้งภรรยางามแถมร่ำำรวยผิดกับตนเองที่ได้ภรรยาเป็นบุตรของราชครูของฮองเต้องค์ก่อน คิดว่าจะสามารถช่วยส่งเสริมตนเองได้ แต่ภรรยากลับเป็นแค่สตรีอ่อนแอไม่สามารถช่วยเหลืออะไรเขาได้ แถมแม่ยายยังไม่ชอบหน้าเขาอีก ผิดกับหลิงเยียที่แม่ยายรักและเอ็นดูนางมาก เลยรับหลิงเยียไปเลี้ยงแต่เล็กจนแม่ยายเสียชีวิตหลิงเยียถึงกลับมาอยู่สกุลชื่อเขาที่ไม่เคยเลี้ยงดูบุตรสาวคนนี้เคยไม่มีความผูกพัน ตอนให้นางแต่งกับแม่ทัพเ
มือสังหารพยายามจะลงมือกับสองพ่อลูก แต่ก็ถูกเจ้าลูกหมาป่าตัวเขื่องทั้ง2สกัดไว้ และด้วยเสียงเห่าของเจ้าหมาป่าสองตัวและการต่อสู้ จือถานที่หลับอยู่ในห้องจึงได้ยินแล้วออกมาเข้าช่วยเหลือสองพ่อลูกหารเขาใส่ดาบที่ได้จากเจอเยียนเข้าต่อสู้ผู้บุกรุกด้วยงานที่ต้องสอบสวนสืบคดีบ่อยๆทำให้เขาต้องฝึกร่างกายและมีวิชาการต่อสู้ แต่ด้วยมือสังหารมีกันหลายคนทำให้ฝั่งจือถานเสียเปรียบจือถานหยิบดินขึ้นมาซัดใส่คนร้ายก่อนที่จะใช้ดาบฟันอีกครั้งจนคนร้ายล้มบาดเจ็บไปหนึ่ง แต่ก็ยังมีอีกคนเข้ามาโจมตีส่วนพ่อลูกหารก็ต่อสู้กับคนร้าย แต่ด้วยคนร้ายมีมากเกินไป พ่อหารจึงพลาดท่าถูกคนร้ายแทงจนบาดเจ็บล้มลง หลงฝูที่เห็นบิดาได้รับบาดเจ็บก็จะเข้าไปช่วยเหลือ แต่ไม่ไม่อาจสลัดคนที่ตนเองต่อสู้ได้ แต่เจ้าลูกหมาป่าก็เข้าไปช่วยพ่อหารไว้ทัน มันใช้ขนาดตัวที่ไวเข้ากัดคนร้ายจนเขี้ยว"อ๊า.."มือสังหารที่โดนเจ้าเสี่ยวเจียกัดขาจมเขี้ยวก็ร้องเสียงหลงก่อนจะล้มลง เจ้าเสี่ยวเจียไม่ปล่อยโอกาส มันกัดและสบัดจนเหยื่อนอนจมกองเลือดไม่อาจต่อสู้กลับได้ เจ้าเสี่ยวจูจะคอยช่วยจือถานไม่ให้พวกที่คิดทำร้ายเจ้านายได้เข้าใกล้เจ้านายมันได้แต่ก็ไม่อาจโจมตีกลับ
สุดท้ายไป๋เสวียนก็ต้องจำใจเข้าไปในบ้านชายหนุ่ม ไป๋หย่างผู้ไม่รู้สิ่งใดก็ตื่นเต้นที่ได้จะได้ดูวัวแล้วไหนจะเจ้าหมาป่าสองตัวที่จำเจ้านายได้ก็กระดิกหางรับหน้าอย่างดีใจจือถานพาสองพี่น้องเข้าไปคารวะมารดาที่ห้องนั้งเล่น"ท่านแม่มีคนที่ลูกอยากให้ท่านแม่รู้จักขอรับ"แม่ฮวนที่นั้งปักชุดคุมให้บุตรชายก็เงยหน้าขึ้นมาจากงานในมือนางเห็นหญิงสาวหน้าตาไม่ถึงกับงานแบบสาวเมืองหลวง แต่ก็ถือว่าหน้าตาหมดจดชวนมองไม่ใช่น้อย"คารวะท่านป้าฮวนเจ้าคะ ข้าไป๋เสวียนเป็นพี่สาวคู่หมั้นของเจอเยียนสหายของพี่จือถานเจ้าคะ"ถึงจะไม่อยากเรียกพี่ แต่อยู่ต่อหน้าผู้อาวุโสยังไงก็ต้องไว้หน้าชายหนุ่มบ้าง โดยไม่รู้เลยว่าชายหนุ่มยิ้มอย่างพอใจที่หญิงสาวรู้ความ"เช่นนั้นก็คนกันเอง...มานั้งใกล้ๆป้า แล้วซาลาปาน้อยนั้นใครหรือถึงอ้วนกลมขนาดนี้"นางเห็นหญิงสาวผูกหนูน้อยน่าหน้าน่าเอ็นดูเลยสอบถาม"น้องสาวคนเล็กข้าเองเจ้าคะท่านป้า""ป้ามีขนม พานางมานั้งข้างๆนี้ ช่างน่าเอ็นดูนัก"แม่ฮวนเห็นไป๋หย่างก็นึกเอ็นดู เด็กน้อยอ้วนกลม แต่งตัวสะอาดสะอาดบ่งบอกให้รู้ว่าได้รับการเลี้ยงดูเป็นอย่างดี"หย่างเอ๋อคารวะท่านป้าสิลูก""จ้า.."หนูน้อยทำมือประสานก้มหัว
ฮวนจือถานย้ายมาอยู่ที่หมู่บ้านอิ้นถังได้หนึ่งเดือนหนึ่ง เขาเห็นสหายทำนาก็นึกอยากทำบ้าง เขาลงทุนซื้อวัวมาเพื่อเตรียมทำนา "เดี๋ยวตอนเจ้าเกี่ยวข้าวข้าจะมาช่วย"จือถานบอกกับสหายเมื่อทั้งคู่ชวนกันเข้าป่าไปล่าสัตว์ ด้วยทั้งสองเป็นคนหนุ่มมีกำลังมาก ทำให้ทั้งคู่ได้สัตว์ใหญ่อยู่บ่อยครั้งจือถานจึงยิ่งเป็นที่หมายตาของเหล่าสาวๆในหมู่บ้านโดยเฉพาะหลิงฉี แต่ด้วยตนเองมีประวัติไม่ดี นางจึงไม่กล้าทำอะไรมาก "พี่จือถานคนเดียวจะทำไหวหรือขอรับ ?""ข้ามีคนงานช่วย น่าจะไม่มีปัญหาอะไร ถึงตอนนั้นเจ้าต้องชวยแนะนำข้าด้วยนะ""ย่อมได้ เงียบก่อน..เหมือนได้ยินเสียงเคลื่อนไหว"เจอเยียนฟังเสียงเคลื่อนไหวรอบๆก่อนจะพากันหลบ กลุ่มชายฉกรรจ์ประมาณเกือบ20คนก็มาหยุดห่างจากสองหนุ่มเพียงไม่เกิน10จั้ง ซึ่งใกล้มาก"เจ้าสืบมาแนชัดแล้วใช้มั้ยว่าสองแม่ลูกฮวนอยู่หมู่บ้านนี้""ขอรับ พวกเขามาสร้างบ้านอยู่ในหมู่บ้านนี้มากว่าเดือนแล้ว ถ้าเราจะลงมือย่อมสะดวกขอรับ เพราะที่หมู่บ้านเป็นแค่ชาวบ้าน "ลูกน้องรายงานตามที่ไปสืบมา"ท่านรองแม่ทัพให้สังหารให้หมดไม่ให้ไว้ชีวิตผู้ใด"หัวหน้ามือสังหารได้รับงานที่ไม่ยากเย็นอะไร แค่สังหารแม่ลูกฮวนแล้ว
ฮวนจือถานตอนนี้กำลังเผชิญปัญหาหนัก นั้นก็คือรองแม่ทัพชื่อถ่านหย่งพยายามให้เขาสู่ขอชื่อหลิวหลูแต่เขากลับขอถอนหมั้นกับนางแทน โดยให้เหตุผลว่าเขามีปัญหาสุขจนไม่สามารถมีบุตรได้ เขาสืบจนรู้มาว่าชื่อถ่านหย่งเคยรักอยู่กับฮวนฝูฉิวท่านอาของเขา แต่เพราะชื่อถ่านหย่งมีภรรยาอยู่แล้วบิดาเขาจึงกีดกันโดยให้ท่านอาของเขาแต่งไปกับผู้อื่น รองแม่ทัพชื่อก็พยายามที่จะไปดักปล้นเกี่ยวเจ้าสาว แต่สุดท้ายฮวนฝูฉิวก็ไม่ยอมกลับไปกับเขา ด้วยเชื่อคำพี่ชายว่าแต่งงานควรแต่งให้คนที่แต่งไปเป็นฮูหยินไม่ใช้อนุ ชื่อถ่านหย่งเมื่อรู้ว่าต้นเหตุที่ท่านอาเขาไม่ยอมแต่งเป็นอนุเป็นเพราะบิดาเขาจึงผูกใจเจ็บมาตลอด ยิ่งเห็นว่าเขามีหน้าที่การงานที่ดีก็ยิ่งรู้สึกไม่ยินยอม จึงมีความคิดจะทำลายครอบครัวเขาขึ้นมา ความฝันที่เหมือนเตือนภัยเขาล่วงหน้าทำให้เขาสามารถระวังตัวได้ หลายครั้งที่ชื่อฝูฉิวพยายามจะเข้าหาเขา แต่ชายหนุ่มก็ระวังตัวตลอด จนเขาฝันเห็นหญิงผู้นั้น นางที่เขาเจอฉุยหลาง มันแปลกมากที่เขาจำนางได้ แต่อยู่ๆใบหน้านางก็เปลี่ยนเป็นอีกคน 'ชื่อเยียหลิน'หรือ เขาเคยเห็นนางอยู่สองหรือสามครั้งในงานเลี้ยงที่นางออกงานกับสามีแม่ทัพเชียนหลงเฟิง เขา
และด้วยลูกหมาป่ายังเล็กอยู่มาก พวกมันร้องกินนมบ่อยมาก ไป๋เฟิ่งจึงรับหน้าที่ป้อนนมกันและเอาพวกมันเข้าไปนอนในห้องด้วยเพราะต้องป้อนนมให้พวกมันยามดึก ส่วนตอนนอนก็มีไป๋หย่างนั้งเฝ้าไม่ห่าง นางถูกพี่สาวบอกว่าห้ามจับเจ้าพวกนี้แรงไม่เช่นนั้นพวกมันจะเจ็บ นางจึงค่อยๆเอามือลูกลูบพวกมันอย่างเบามือแล้วก็หัวเราะและด้วยเจอเยียนเห็นว่าคู่หมั้นต้องอดนอนคอยป้อนนมเจ้าลูกหมาป่าเขาเลยไม่ให้นางเดินเอาข้าวไปส่งแต่เขาจะเดินกลับมากินเอง ผ้านไป10วันลูกหมาป่าก็ค่อยๆลืมตา พอไป๋หย่างเห็นตาน้อยๆของลูกหมาป่าลืมก็ดีใจ และด้วยพวกลูกหมากินนมเก่งพวกมันจึงตัวกลมขนนิ่มน่ากอด ส่วนงานในนาก็เป็นเจอเยียนทำตัวเดียว ด้วยอากาศที่ร้อนเขาจึงไม่ยอมให้ไป๋เฟิ่งตามไปที่นาไม่ว่านางงอแงเช่่นไรเขาก็ไม่ใจอ่อน "เจ้าเจอเยียนนี้ก็เป็นจริง ถือว่าข้ายกเจ้าให้เขาดูแลเป็นการตัดสินใจที่ถูก""เขาจะเหนื่อยนะสิเจ้าคะ"ไป๋เฟิ่งบ่นอย่างแงงอน"แต่เขาห่วงเจ้ามากกว่า เขาเห็นเจ้าอดนอนเพราะต้องคอยป้อนนมเจ้าสามตัวนี้เลยไม่อยากให้เจ้าไปเป็นลมกลางแดดร้อน"ไป๋เสวียนเข้าใจน้องเขย นางเห็นคู่นี้มีความสุขก็เหมือนได้ชดเชยความทุกข์ในใจเมื่อชาติที่แล้ว ไป๋ฟิ่งเ







