Share

ตอนที่ 14 ยั่วยุ

last update Last Updated: 2025-05-02 10:00:42

หวังเยี่ยนหลงมองหน้าของเซี่ยฟานอีกครั้ง ยิ้มอย่างมีเลศนัยแล้วเดินจากไป นับตั้งแต่หวังซีซวนกลับมาอยู่ที่เรือน ก็ไม่ได้เจอเขาอีกเลย ผ่านมาหนึ่งอาทิตย์แล้ว ทั้งสองค่อยโล่งใจไปเปราะหนึ่ง

“คุณชายถอนหายใจทำไมหรือขอรับ” เซี่ยฟานถามเขา รู้สึกสงสัยมานานแล้วว่าทำไมช่วงนี้หวังซีซวนดูวิตกกังวล

“เซี่ยฟาน เจ้าไม่กลัวอะไรบ้างเลยหรือ อย่าบอกนะว่าเจ้าคิดไม่ทันเรื่องที่เขาพูดตอนนั้น” หวังซีซวนคิ้วขมวด

“เรื่องอันใดหรือ” เซี่ยฟานไม่เข้าใจ ไม่ใช่ว่าลืมแต่เพราะไม่เข้าใจจริง ๆ ว่ามีตรงไหนที่ทำให้คุณชายห้าผู้นี้คิดมากปานนั้น

“เฮ้อ! ช่างเถอะ” เขาส่ายหน้า แล้วนึกอยากออกไปข้างนอกกำแพงจึงชวนเซี่ยฟาน “รีบเก็บของเถอะ ไปเที่ยวข้างนอกกัน” หวังซีซวนพูดจบก็หยิบย่ามใส่สมุนไพรของตัวเองออกมา ส่วนเซี่ยฟานรีบวิ่งไปที่ห้องครัว หยิบขนมขบเคี้ยวสองสามอย่างใส่ห่อผ้า แบกมาอย่างเงียบ ๆ

พอเดินมาถึงกำแพงหนาที่เคยมาครั้งล่าสุด เซี่ยฟานก็เดินไปที่ปากหลุมเดิม เห็นหวังซีซวนยืนหัวเราะก็นึกขึ้นได้

“คุณชาย ใจเย็นก่อนเถิด ข้าลืมไปจริง ๆ อย่าหัวเราะเสียงดังเลยขอรับ” เซี่ยฟานทำหน้าตาเลิ่กลั่กห้ามปรามเขา

“นึกไม่ถึงว่าจะมีวันนี้” หวังซีซวนเอ่ยเบา ๆ “มานี่สิเซี่ยฟาน” ครั้นเรียกมาใกล้ ๆ แล้ว หวังซีซวนก็โอบเอวของเขาเอาไว้ แล้วทั้งคู่ก็ลอยข้ามกำแพงสูงในชั่วพริบตา

“คุณชาย ข้าน้อยกลัวขอรับ” เซี่ยฟานหันมามองเขา ไม่คิดว่าจู่ ๆ จะได้ลอยขึ้นฟ้า พอเห็นว่าหวังซีซวนยังไม่ยอมปล่อยมือจากเอวเขาก็รีบเด้งตัวเองออกมาอีกทาง “เดินไปดีกว่า ข้าไม่ชินกับความสูงขอรับ”

ท่าทีของเซี่ยฟานทำให้หวังซีซวนหัวเราะเสียงดัง ในเมื่อเหาะได้แล้ว เรื่องอะไรจะต้องเดิน เขาปล่อยให้เซี่ยฟานเดินนำหน้าไปสองสามก้าวแล้วลอยไปโอบเอวของเขาอีกรอบพาขึ้นฟ้า

“คุณชาย! คุณชาย!” เซี่ยฟานร้องเสียงหลง พยายามกอดหวังซีซวนไว้แน่นเพราะกลัวตก หลับตาปี๋ไม่ยอมมองข้างล่าง

“เซี่ยฟาน ไม่ต้องกลัวหรอก ข้าอยู่นี่ทั้งคน เจ้าลืมตาก่อน ดูสิว่าท้องฟ้าสวยหรือไม่” หวังซีซวนกล่อมให้เขาลืมตามองภาพจากด้านบน “เจ้าต้องชอบมากแน่ ๆ”

พอเห็นว่าเซี่ยฟานยังคงนิ่ง จึงพูดเสริมว่า “เชื่อข้าเถอะ”

เซี่ยฟานกลั้นใจ ค่อย ๆ ลืมตาขึ้นทีละข้างอย่างช้า ๆ จนได้เห็นว่าภาพที่อยู่ตรงหน้าเขานั้นสวยงามเพียงใด เขาก็คลี่ยิ้มคลายกังวลที่มีอยู่ เผลอปล่อยมือจากหวังซีซวนเพราะลืมตัวอยากจะคว้าก้อนเมฆมาดูใกล้ ๆ

“ไม่กลัวแล้วใช่หรือไม่ ถึงได้ปล่อยมือจากข้า” หวังซีซวนแกล้งถามเขา อันที่จริงวิชาตัวเบายังคงคอยพยุงร่างของเซี่ยฟานเอาไว้ แม้ว่าหวังซีซวนจะไม่ได้แตะต้องตัวเขาเลยก็ตาม

เซี่ยฟานเริ่มคิดได้เห็นว่าห่างจากหวังซีซวนอยู่หนึ่งจั้งจึงทำหน้าเลิ่กลั่กกลั้นหายใจไม่ยอมขยับตัว “คุณชาย ช่วย ช่วยข้าน้อยด้วยขอรับ”

หวังซีซวนจึงยอมใจอ่อนเดินมาหาแล้วคว้าเอวเขาไว้อีกรอบ ก่อนที่ทั้งคู่จะลอยไปหยุดอยู่บนน้ำตกชั้นบนสุด แต่ไหนแต่ไรมา ทั้งคู่ไม่เคยขึ้นมาถึงเพราะทางเดินลื่นและชัน มีตะไคร่น้ำเกาะ อีกทั้งระยะทางยังไกล ไปกลับเพียงวันเดียวไม่ทันกลับสำนักก่อนเสียงระฆังดังแน่นอน

ทั้งสองคนยืนสูดลมหายใจรับอากาศด้านบนด้วยใจยินดีปรีดา ภาพที่มองจากตรงนี้ดูแตกต่างจากที่เคยเห็น “สวยงามมากขอรับ” เซี่ยฟานพูดกับเขา ต่างคนต่างยิ้มให้กัน อย่างน้อยวันนี้จิตใจก็ได้ผ่อนคลายไปมาก

แล้วทั้งสองก็เก็บเกี่ยวช่วงเวลานี้เอาไว้ เล่นน้ำสนุกสนานก่อนจะแวะเก็บดอกหญ้าเขียวใส่ย่ามสมุนไพรมาทำยารักษา

“เซี่ยฟาน” เสียงพึมพำแผ่วเบาอยู่ไกลของคนผู้หนึ่งเห็นเขากับหวังซีซวนวิ่งเล่นด้วยกัน ทำให้เซี่ยฟานรู้สึกได้ว่ากำลังมีใครบางคนมองอยู่ เขาหยุดอยู่ครู่หนึ่ง หันมองไปรอบตัว

“เซี่ยฟาน อย่าลืมหว่านเมล็ดตรงโน้นไว้ด้วย” เสียงของหวังซีซวนดังมาทำให้เซี่ยฟานกลับไปสนใจหน้าที่ของตนเองต่อ

ครั้นได้เวลากลับสำนัก เซี่ยฟานก็ยอมให้หวังซีซวนพาเหาะกลับไปจนข้ามกำแพงเรียบร้อย เพราะอยากสัมผัสท้องฟ้ายามตะวันตกดิน

อีกด้านหนึ่งของสำนัก ณ เรือนใบไผ่ หวังเยี่ยนหลงกำลังทายาบนแผลตรงแขนข้างขวา ก่อนจะเอาผ้าสะอาดมาพันเอาไว้ ทั้งยังดื่มสมุนไพรแก้ช้ำในขวดใหญ่ ด้วยบาดเจ็บจากการซ้อมประลองอาวุธกับบรรดาศิษย์และพี่น้องทั้งสี่คน

เขามีเวลาฝึกซ้อมอีกหนึ่งเดือน ก่อนที่จะเข้าสู่สนามจริง หวังเยี่ยนหลงจึงฝึกวิชาพื้นฐานที่เรียนรู้มาอย่างหนัก แม้จะไม่มีวิชาที่สืบทอดจากทางฝั่งมารดา เขาก็ตั้งมั่นที่จะเอาชนะทุกคนให้ได้ ต้องชนะเท่านั้นถึงจะมีสิทธิ์ หากพ่ายแพ้การประลองครั้งนี้ ไม่พิการก็ถูกวิญญาณร้ายดึงตัวไป

กระนั้นแล้วยังไม่วายหาเรื่องเดินมาที่เรือนต้นสนของหวังซีซวน ฉวยโอกาสตอนเจ้าของเรือนไม่อยู่ ก่อความวุ่นวาย อาละวาดยกใหญ่ เขายกกระถางสมุนไพรอันหนึ่งขึ้น

“อย่าขอรับ คุณชายสาม” เสียงของเซี่ยฟานห้ามไว้ เพราะสมุนไพรในกระถางนั้นคือยาขนานดีที่ปลูกไว้ผสมกับกับเกสรดอกหญ้าใบเขียว เอาไว้กลั่นช่วยฟื้นฟูแผลจากภายใน หากต้นของมันถูกกระทบกระเทือนนิดเดียวก็จะเฉาไปในทันที ทั้ง ๆ ที่ใช้ระยะเวลาปลูกนานถึงสามเดือน

หวังเยี่ยนหลงได้ยินเสียงของเซี่ยฟานก็พอจะอารมณ์เย็นขึ้น เขาหันมามองหน้าเซี่ยฟาน โยกกระถางใบนั้นไปซ้ายทีขวาที ยั่วยุให้เซี่ยฟานนึกโกรธ

จริง ๆ แล้ว หวังเยี่ยนหลงเองก็ไม่เข้าใจว่า ทำไมเซี่ยฟานจะต้องยอมให้ผู้อื่นรังแกอยู่บ่อยครั้ง โดนกระทำมากมายเพียงไหน ทำไมเซี่ยฟานถึงยังคงสงบเสงี่ยม ไม่โกรธแค้นผู้ใด หากเป็นเขา ไม่ว่าใครหน้าไหน เขาจะตามล้างแค้นให้ครบบัญชี

คุณชายสามผู้นี้จึงคิดทดสอบ หวังจะแปรเปลี่ยนให้เซี่ยฟานกลายเป็นคนเช่นเขาขึ้นมาให้ได้ อย่างน้อยจะได้มีใครสักคนที่รู้สึกเหมือนเขา

“เจ้าหวงมันมากนักหรือ” หวังเยี่ยนหลงถามเขา หากเขาตอบว่ามาก ในใจก็คิดจะเขวี้ยงลงพื้นให้แตกละเอียด แต่หากตอบว่าไม่ก็คงจะหลอกเขาอยู่เป็นแน่ เพราะสีหน้าท่าทางของเซี่ยฟานนั้นปิดไม่มิด

“ขอรับ” เซี่ยฟานตอบสั้น ๆ พลันได้เห็นกระถางใบนั้นลอยเคว้งข้ามออกมานอกชาน เขาไม่รอช้ารีบวิ่งออกไปรับมันก่อนกระถางจะตกพื้น

ทว่า ในเมื่อเซี่ยฟานหวงมันมากนัก หวังเยี่ยนหลงก็เลยคิดที่จะทำลายมันเสีย อยากรู้ว่าเขาจะรู้สึกอย่างไร จะยังคงทำตัวเป็นผู้ใจบุญให้อภัยคนอื่นได้อีกหรือไม่ เขาจึงใช้ร่ายอาคมขัดขาเซี่ยฟานจนหกล้มหน้าคะมำ

เพล้ง! ตุ๊บ! เสียงของทั้งสองตกลงพื้นพร้อมกัน เซี่ยฟานยันตัวลุกขึ้นในทันทีแล้วคลานไปดูเศษดินที่กระจายอยู่ข้าง ๆ กัน สายตาของเขามองตามด้วยความเสียดาย เมื่อได้เห็นว่าสมุนไพรต้นนั้นค่อย ๆ เหี่ยวเฉาลงต่อหน้าต่อตา

เซี่ยฟานไม่ได้สนใจหวังเยี่ยนหลงอีกต่อไป เขาลงมือเก็บกวาดเศษดินกับกระถาง ทั้ง ๆ ที่มือสองข้างได้แผลถลอกจากที่ล้มเมื่อครู่

“เจ้าจะไปสนใจอะไรกับมันนักหนา” หวังเยี่ยนหลงฉุดแขนของเซี่ยฟานให้ลุกขึ้นยืน

“เพราะเป็นของสำคัญของคุณชายห้าขอรับ” เขาตอบเสียงเบา จ้องหน้าของหวังเยี่ยนหลง สีหน้าอดกลั้นความเจ็บปวดตรงรอบข้อมือเพราะหวังเยี่ยนหลงกำไว้แน่น ทั้งยังร่ายอาคมลงไปอีกด้วย น้ำตาของเขาเริ่มคลอหน่วย

“โกรธข้าใช่หรือไม่ โมโหข้า?” เขารอที่จะได้เห็นสีหน้าแบบนั้นแต่กลับต้องผิดหวัง

“เปล่าขอรับ ข้าน้อยไม่กล้า” เซี่ยฟานมองหน้าเขาด้วยสีหน้าเรียบเฉย ยากจะคาดเดาความรู้สึกข้างใน มีเพียงน้ำตาที่ไหลหล่นตกกระทบหลังมือของหวังเยี่ยนหลง

“ที่เป็นเช่นนั้น เพราะเจ้ายังมีของพวกนี้อยู่อีกใช่หรือไม่” หวังเยี่ยนหลงปราดสายตามองไปที่ชั้นสมุนไพร ก่อนใช้วิชายกมันลอยเคว้งทั้งแผง

“ข้าน้อย...” เซี่ยฟานไม่กล้าพูดอะไรอีก กลัวว่าเขาจะโยนทั้งหมดลงพื้น หากเป็นเช่นนั้น ก็จะไม่มีสมุนไพรกลั่นยารักษาอาการบาดเจ็บ ในใจคิดเป็นห่วงคุณชายห้า

“อ้อ! ข้าเพิ่งจะนึกได้ พวกเจ้ามีสวนสมุนไพรอยู่นอกกำแพงนี่ ไม่เห็นต้องกังวล” หวังเยี่ยนหลงล่วงรู้ความลับของทั้งสองคนเสียแล้ว

“มีเท่าที่เห็นจริง ๆ นะขอรับ” เซี่ยฟานรีบเอ่ยปฏิเสธ

“เจ้าโกหกข้า เห็นทีต้องเอาเรื่องไปบอกเจ้าสำนักแล้วกระมัง ดูท่าทางพวกเจ้าจะมีความลับอะไรบางอย่างซ่อนอยู่” เขาได้ทีข่มขู่เซี่ยฟานไม่หยุด

“ข้าน้อยไม่ได้โกหกขอรับ”

“ในเมื่อเจ้ายืนยันว่าไม่ใช่ ข้าจะลองเชื่อเจ้าดู ส่วนที่แห่งนั้นที่ข้าเห็น ข้าจะทำลายมันให้สิ้นซาก” หวังเยี่ยนหลงกล่าวเสียงเยือกเย็นจนเซี่ยฟานเงยหน้ามองเขา

“ไม่นะขอรับ คุณชายอย่าทำเช่นนั้นเลย” เซี่ยฟานรีบก้มลงคุกเข่าต่อหน้าเขา สองมือน้อย ๆ จับขาของหวังเยี่ยนหลงเอาไว้ “ได้โปรดเถิดขอรับ”

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • เกิดใหม่อีกครา วานวาสนาไม่ข้องเกี่ยว   ตอนพิเศษ 12 เกิดใหม่อีกกี่ครา วานวาสนาผูกกันไม่เสื่อมคลาย (จบ)

    สามเดือนต่อมาเช้าวันหนึ่งเสี่ยวหยุนมองเหลียนเฟินที่กำลังนอนหลับใหลในอ้อมกอดของเขา สายตาเต็มไปด้วยความรักท่วมท้นในใจก่อนจะพึมพำร่ายอาคมอย่างหนึ่งขึ้นมาพลันกรีดปลายนิ้วจนได้เลือดหยดหนึ่งหลอมรวมกับลูกกลมสีฟ้าเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน แม้เป็นวิชาที่เขาเพิ่งคิดค้นขึ้นมาได้แต่กลับรู้สึกคุ้นเคยอย่างบอกไม่ถูกเสี่ยวหยุนตั้งชื่ออาคมนั้นว่า “พันธะวิญญาณ” อาคมที่สามารถผูกวิญญาณของพวกเขาทั้งสองไว้ด้วยกันในทุก ๆ ชาติ ไม่ว่าเหลียนเฟินจะเกิดเป็นผู้ใด อยู่ที่ไหน เขาจะรู้ได้ในทันที นับต่อจากนี้ไม่มีพรากจากลมหายใจของร่างบางในอ้อมกอดสัมผัสแผ่นอกกว้างของเขาเตือนสติให้รู้ตัว ล้มเลิกความคิดเช่นนั้น เสี่ยวหยุนยิ้มมุมปากพลางถอนหายใจเฮือกใหญ่แล้วบีบอาคมนั้นให้แตกสลายไปริมฝีปากจุมพิตหน้าผากเรียกเหลียนเฟินด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน “ฟูเหรินของข้า”“อืม…” เหลียนเฟินยังคงงัวเงียพลันได้รับจุมพิตที่แก้ม โลมเลียลงลำคอ สัมผัสเรียวลิ้นร้อนชื้นดูดเม้มก่อนจะถูกใครบางคนคร่อมร่างกายท่อนบนเอาไว้“ฟูเหริน ท่านยังไม่ตื่นอีกหรือ” เขาเอ่ยถามด้วยน้ำ

  • เกิดใหม่อีกครา วานวาสนาไม่ข้องเกี่ยว   ตอนพิเศษ 11 ความรู้สึกที่โหยหา(NC)

    เหลียนเฟินนอนนิ่งบนแผ่นอกของเขา ส่วนล่างกระตุกบีบแก่นกายที่ค้างอยู่ราวกับเชิญชวนจึงถูกพลิกตัวเป็นฝ่ายนอนใต้ร่างพลางโดนเสี่ยวหยุนจับขาสองข้างยกขึ้นแล้วขย่มสะโพกเป็นจังหวะ“ข้าเพิ่งจะ…อ๊ะ...” เหลียนเฟินไม่ทันได้พูดอะไรก็ต้องเม้มปากตัวเองอีกครั้ง มือสองข้างจับหมอนที่วางอยู่ ขยำจนผ้ายับยู่ยี่ ลมหายใจร้อนหอบถี่ ฟังแล้วยิ่งกระตุ้นให้อีกฝ่ายเกิดความต้องการอย่างยิ่งยวดแก่นกายที่ครูดเข้าออกเร่งขึ้นอย่างเร่าร้อนจนน้ำที่ปล่อยเอาไว้เมื่อครู่กระเซ็นเปรอะเปื้อน คนกระทำยิ้มมุมปากชอบใจยิ่งนักที่ได้เห็นร่องรอยของเขาบนตัวคนรักเมื่อโพรงเนื้อโอบรอบจนมิดแน่นขนัดยิ่งเสียวซ่านจนตาเหลือกลอย “อือ… เหลียนเฟิน” ในใจวนเวียนแต่คำว่า อีกนิด ข้าขออีกนิดในขณะที่คนใต้ร่างแทบคุมสติตัวเองไม่อยู่ พึมพำแผ่วเบา “ข้าไม่ไหวแล้ว… อย่าเพิ่งขยับ”“จะให้ข้าหยุดจริงหรือ” เขาเอ่ยถามแต่ส่วนลับยังคงกระทุ้งเข้า ๆ ออก ๆ บดเบียดภายใน หยอกล้อเหลียนเฟินเพราะอยากเห็นสีหน้าแดงระเรื่อ สุขสม พลันวางขาทั้งสองข้างลงแล้วพลิกตัวเหลียนเฟินให้นอนคว่ำในพริบตาก่อนจะยกส

  • เกิดใหม่อีกครา วานวาสนาไม่ข้องเกี่ยว   ตอนพิเศษ 10 ความรักเอ่อล้น (NC)

    เหลียนเฟินโอบแขนรอบคอของเสี่ยวหยุนกดแรงโน้มตัวเขาลงมาหา จ้องมองอีกฝ่ายไม่วางตาพลันยิ้มอ่อนโยน เอ่ยกระซิบยืนยันความรู้สึกของตัวเอง “ข้ารักเจ้า”คนได้ฟังคำรักน้ำตาไหลเอ่อไม่อาจกั้นด้วยความรู้สึกผิดระคนกับความรู้สึกอื่น ๆ ในใจ แม้รู้ตัวว่าไม่สมควรมายืนอยู่ข้างเขาแต่เวลานี้ก็ไม่อาจขยับกายหรือเบือนหน้าหนีอีกฝ่ายได้เลยเขารักเหลียนเฟิน ผู้เป็นฟูเหรินของเขาและไม่อยากถูกพรากจากอีกแล้ว ทั้งยังดีใจเพราะใบหน้าที่มองเขาในเวลานี้ไม่ใช่ใบหน้าของคนที่เกลียดชังเขาจนต้องจ่อปลายกระบี่เข้าหาราวกับแค้นเคืองกันมาเนิ่นนาน“เสี่ยวหยุน” เสียงเรียกหาอ่อนหวานจับใจ “ยังคงจำได้อยู่ใช่หรือไม่ว่าเวลานี้เจ้าคือฟูจวินของข้า”“…” เขาพยักหน้าเล็กน้อย เม้มปากแน่นแล้วกอดเหลียนเฟินเอาไว้ครั้นสะสางความหลัง ปรับความเข้าใจกันเรียบร้อยแล้ว ทุกอย่างพลันคลี่คลาย ไม่มีสิ่งใดติดค้างกันอีกต่อไปหวังซีซวนและพรรคพวกแวะมาหาพวกเขาเหมือนอย่างเคย สังเกตได้ว่าบรรยากาศระหว่างพวกเขาทั้งสองคนดูอึมครึมเล็กน้อย ดวงตาเสี่ยวหยุนบวมช้ำปรากฏเด่นชัดจนอดถามไม่ได้“

  • เกิดใหม่อีกครา วานวาสนาไม่ข้องเกี่ยว   ตอนพิเศษ 9 ความทรงจำหวนคืน

    ครั้นเรื่องราววุ่นวายที่ใจกลางตลาดจบลงไปได้ด้วยดี เหลียนเฟินจึงพาเสี่ยวหยุนกลับมาพักฟื้นร่างกายที่บ้านหลังน้อย พลางขอให้หวังซีซวนช่วยกลั่นยาสมุนไพรให้เขาจนกว่าจะหายดีเขาหลับลึกอยู่หลายวันเพราะใช้เรี่ยวแรงร่ายวิชาอาคมโดยไม่สนขีดจำกัดของตัวเองเพียงเพราะเป็นห่วงเหลียนเฟินและไม่อยากให้สถานการณ์ยืดเยื้อใบหน้าสงบนิ่งยามหลับใหลทำให้เหลียนเฟินโล่งใจได้บ้างว่าเขาคงไม่ได้ฝันร้ายเหมือนที่ผ่านมาจึงปล่อยให้คนตรงหน้าพักผ่อนให้เต็มที่“ท่านเซียน เขาเป็นอย่างไรบ้างขอรับ” หลี่จิ้นหลิงแวะมาเยี่ยมเพราะได้ข่าวว่าเสี่ยวหยุนยังไม่ฟื้น“ไม่มีอะไรน่าเป็นห่วง เขาเพียงแค่ต้องนอนให้เยอะ ๆ ก็เท่านั้น” เหลียนเฟินยิ้มให้อีกฝ่ายนึกขอบคุณที่เขาช่วยหาตำราต้องห้ามจนพบ“หากท่านเซียนต้องการให้ช่วยเหลือเรื่องใด อย่าได้ลังเลใจที่จะบอกข้านะขอรับ” หลี่จิ้นหลิงพูดด้วยสีหน้าจริงจัง “เรื่องฟื้นฟูพลังชีวิตของท่าน ถ้าตำราต้องห้ามไม่ได้ผล ข้ายินดีหาหนทางอื่น”เหลียนเฟินส่ายหน้าเข้าใจดีว่าทุกคนเป็นห่วงแต่ว่าเขาเตรียมใจเอาไว้แล้ว ไม่ว่าผลที่ได้จะออกมาเป็น

  • เกิดใหม่อีกครา วานวาสนาไม่ข้องเกี่ยว   ตอนพิเศษ 8 ปกป้องคนรัก

    “ปล่อยคุณหนูหลี่” เหลียนเฟินพูดด้วยสีหน้าเรียบเฉยก่อนจะเห็นอีกฝ่ายเคลื่อนไหวรวดเร็ว เขากำกระบี่ในมือไว้แน่นพลันยกขึ้นมากันท่าไม่ให้เสิ่นหยางพุ่งตัวเข้าใกล้ระยะประชิดก่อนจะม้วนตัวแล้วถีบคนตรงหน้ากระเด็นไปอีกทางด้วยแรงที่ออมไว้สามส่วน“ฝีเท้าหนักใช่เล่น” เขาเอ่ยชม รอยยิ้มกวนประสาทราวกับถูกใจอย่างยิ่งยวด “อย่าขัดขืนนักเลย เมื่อครู่ข้าเพียงยั้งมือเอาไว้เท่านั้นเพราะไม่อยากทำให้ร่างกายของท่านเซียนมีบาดแผล”เสิ่นเหยา แฝดผู้พี่ที่จับตัวหลี่ฮวาเอาไว้ลูบปลายจมูกตัวเอง “หากท่านเซียนยินยอมมากับพวกข้า ข้าจะคืนสตรีนางนี้เป็นการแลกเปลี่ยน”“เช่นนั้นปล่อยนางก่อน” เหลียนเฟินไม่ตกลงง่าย ๆ และเป็นห่วงความปลอดภัยหลี่ฮวาที่เวลานี้กำลังกลั้นน้ำตาไม่ร้องไห้เสียงดังด้วยความหวาดกลัว“ท่านเซียนคงไม่รู้ว่าข้าเป็นผู้ใดจึงพยายามเล่นแง่ยืดเวลาออกไปใช่หรือไม่ แต่ข้ายืนยันได้เลยว่าสองชั่วยามต่อจากนี้ไม่มีผู้ใดเข้ามาก้าวก่ายที่แห่งนี้ได้อย่างแน่นอนและหากทุกสิ่งไม่เป็นอย่างที่ข้าต้องการ ข้าจะทำลายหมู่บ้านให้ราบคาบ” เสิ่นหยางประกาศก้อง คำพูดของเขาทำให้ชาวบ้านขวัญ

  • เกิดใหม่อีกครา วานวาสนาไม่ข้องเกี่ยว   ตอนพิเศษ 7 พรรคมารก่อความวุ่นวาย

    ครั้นพูดคุยเรื่องตำราต้องห้ามเสร็จเรียบร้อยแล้ว พวกเขาก็กลับมายังบ้านหลังน้อยจึงได้เห็นว่าหลี่จิ้นหลิงกำลังนั่งเล่นอยู่ตั่งไม้กับเหลียนเฟินแววตาเสี่ยวหยุนเปลี่ยนไปเล็กน้อยก่อนจะเอ่ยถามว่า “เจ้ามาทำอะไรที่นี่”“ข้าเห็นว่าท่านเซียนเมาหลับไป วันนี้จึงอยากมาดูให้แน่ใจว่ามีอาการใดหรือไม่” เขายักไหล่พูดด้วยสีหน้าสบายอารมณ์หากแต่เสี่ยวหยุนอารมณ์ดีจึงไม่ใส่ใจแล้วเดินไปนั่งข้างเหลียนเฟิน เอ่ยกับเขาว่า “ข้าต้องไปหอสมุดวังหลวง คุณชายหวังซีซวนบอกว่าที่นั่นมีตำราเก็บไว้อยู่ อาจช่วยฟื้นฟูพลังชีวิตของท่านได้”“เขาไม่ได้บอกหรือว่าที่แห่งนั้นห้ามให้คนนอกเข้าไป” เหลียนเฟินหรี่ตามองคนตรงหน้าที่ทำท่าเหมือนรู้ทุกอย่าง “หากคิดไปขโมยตำรามาก็หยุดแต่เพียงเท่านั้นเถิด พลังชีวิตของข้ามีแค่ครึ่งเดียวแล้วอย่างไร ไม่เห็นหรือว่าข้ายังแข็งแรงดี”“ไม่อยากอยู่กับข้านานกว่านี้หรือ” สีหน้าของเขาเศร้าสร้อยหากต้องล้มเลิกความตั้งใจ รู้ว่าบำเพ็ญคู่จะสามารถยืดอายุขัยออกไปได้ แต่หากพลังชีวิตของเขากลับมาเหมือนเดิม ย่อมมีโอกาสได้อยู่ด้วยกันนานมากขึ้นไปอีกเ

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status