มือหนาสั่นเทาเอื้อมไปหยิบแหวนเงินบนทรายละเอียดมากำไว้ในมือ กอบกุมแหวนเอาไว้แน่นก้มหน้าซุกลงกับเข่าตัวเองปล่อยหยาดน้ำตาแล้วปล่อยโฮออกมาอย่างเจ็บปวด
"ฮึก เขม....อึกพี่เขม ฮื่อออออ พี่เขมครับ ฮึก"
หัวใจบีบรัดแน่นเสียงสะอึกสะอื้นและหยาดน้ำตายังคงไหลลงมาไม่หยุด ทิ้งตัวลงนอนร้องไห้คุดคู้บนพื้นทรายเอื้อมมือไปดึงเสื้อสูทที่อยู่ไม่ไกลมากอดไว้ หลับตาพยายามสูดดมกลิ่นของพี่ให้ได้มากที่สุด โดยภายในมือก็ยังกำแหวนที่สวมให้พี่ไม่ถึงหนึ่งนาทีดีด้วยซ้ำเอาไว้ไม่ห่างตัว
ต่อไปนี้ธีโอที่เปรียบตัวเองเสมือนท้องฟ้าจะสุกสกาวสว่างไสวได้อย่างไรกัน หากไร้ทิวากรผู้เป็นความรักของเขาอย่างเขมกร
"ทะ...ที...คุณทีตื่นสิ คุณทีได้ยินพี่ไหม คุณทีนายตื่นสิ"
น้ำเสียงร้อนรนเอ่ยเรียกพร้อมกับฝ่ามือขาวเอื้อมไปเขย่าปลุกนายแบบหนุ่มตัวสูงด้วยสีหน้าเป็นเต็มไปด้วยความกังวล เมื่อเห็นว่า
มือหนาสั่นเทาเอื้อมไปหยิบแหวนเงินบนทรายละเอียดมากำไว้ในมือ กอบกุมแหวนเอาไว้แน่นก้มหน้าซุกลงกับเข่าตัวเองปล่อยหยาดน้ำตาแล้วปล่อยโฮออกมาอย่างเจ็บปวด"ฮึก เขม....อึกพี่เขม ฮื่อออออ พี่เขมครับ ฮึก"หัวใจบีบรัดแน่นเสียงสะอึกสะอื้นและหยาดน้ำตายังคงไหลลงมาไม่หยุด ทิ้งตัวลงนอนร้องไห้คุดคู้บนพื้นทรายเอื้อมมือไปดึงเสื้อสูทที่อยู่ไม่ไกลมากอดไว้ หลับตาพยายามสูดดมกลิ่นของพี่ให้ได้มากที่สุด โดยภายในมือก็ยังกำแหวนที่สวมให้พี่ไม่ถึงหนึ่งนาทีดีด้วยซ้ำเอาไว้ไม่ห่างตัวต่อไปนี้ธีโอที่เปรียบตัวเองเสมือนท้องฟ้าจะสุกสกาวสว่างไสวได้อย่างไรกัน หากไร้ทิวากรผู้เป็นความรักของเขาอย่างเขมกร"ทะ...ที...คุณทีตื่นสิ คุณทีได้ยินพี่ไหม คุณทีนายตื่นสิ"น้ำเสียงร้อนรนเอ่ยเรียกพร้อมกับฝ่ามือขาวเอื้อมไปเขย่าปลุกนายแบบหนุ่มตัวสูงด้วยสีหน้าเป็นเต็มไปด้วยความกังวล เมื่อเห็นว่า
เท้าขาวเปลือยเปล่าย่างก้าวสัมผัสกับพื้นทรายละเอียดอย่างเชื่องช้า เสียงระลอกคลื่นสาดซัดกระแทกเข้าชายฝั่งและสายลมของทะเลที่พัดผ่านร่างกายให้เย็น เขมกรเงยหน้าหลับตาสูดหายใจรับกลิ่นอายของทะเลในยามค่ำคืนปล่อยสมองให้ปลอดโปร่งขับไล่ความนึกคิดทั้งหลายให้พ้นสมองในยามนี้เขมกรไม่อยากจะคิดอะไรให้รกสมองไปมากกว่านี้อีกแล้ว เขาอยากจะใช้เวลาที่เหลือต่อจากนี้คิดถึงแค่เรื่องของชายตัวสูงที่เดินตามหลังเขามาอย่าง ๆ เงียบก็เท่านั้น หลังจากเขมกรขอคิดแค่เรื่องของธีโอและใช้เวลาที่เหลืออันน้อยอยู่กับแค่คนคนนี้ก็อย่างที่เคยให้สัญญาไว้วันนี้ว่าเวลาที่เหลือหลังจากนี้เขมจะยกมันให้พระรองคนที่เขารักคนนี้ทั้งหมด เขมจะอยู่กับนายพระรองคนนี้และคิดเพียงเรื่องของเขาคนนี้จนวินาทีสุดท้าย ก่อนที่เขาจะโดนส่งกลับไปยังโลกความเป็นจริงเมื่อเดินห่างผู้คนมาได้ไกลพอสมควรเขมกรก็ทรุดตัวนั่งลงบนทรายหาดจัดการวางเสื้อสูทและรองเท้าหนังที่ถอดถือเอาไว้ในมือในตอนแรกวางไว้ด้านข้างตัว ส่วนทีปกรเองเม
ท้ายที่สุดวันที่เขมกรไม่อยากให้มาถึงมากที่สุดก็ได้มาถึงแล้ว เขมกรในวันนี้สวมชุดสูทสีเลือดหมูเต็มยศยืนมองพระเอกและนายเอกของเรื่อง อาทิตย์ครองจันทร์ ใส่ชุดสูทสีขาวสะอาดตากำลังยืนให้คำสัตย์ปฏิญาณและแลกแหวนกันด้วยใบหน้าเต็มไปด้วยรอยยิ้มแห่งความสุข โดยมีทุกคนในงานยืนเป็นสักขีพยานหลังจากเจออุปสรรคมาอย่างมากมายทั้งเรื่อง สุดท้ายนักเขียนก็มักจะบรรยายให้พระเอกนายเอกของนิยายจบแบบสมหวังในความรักและเต็มไปด้วยความสุขแบบนี้เสมอซินะแต่ทว่าทำไมล่ะในเมื่อพระเอกนายเอกของเรื่องพวกเขาทั้งสองต่างก็มีความสุขและสมหวังกันในตอนจบของนิยาย แล้วชีวิตตัวของละครพระรองอย่างธีโอที่สำคัญอีกตัวละครล่ะ ทำไมนักเขียนถึงได้ลืมที่จะบรรยายให้เขามีความสุขและสมหวังในตอนจบบ้างนัยน์ตากลมทอดมองเจ้าของความสูงร้อยเก้าสิบเซนติเมตรที่ในวันนี้ก็แต่งตัวด้วยชุดสูทเต็มยศเฉกเช่นเดียวกันกับเขาแตกต่างกันเพียงสีของชุดสูทและเนกไท เพราะสีสูทของฝั่งเพื่อ
ทีปกร"เปล่าหรอก...อาทิตย์มันมาชวนให้พี่ไปเป็นเพื่อนเจ้าบ่าวในงานแต่งของมันกับวันจันทร์น่ะ อีกหน่อยน้องวันจันทร์ก็คงโทรหาธี....ให้ธีไปเป็นเพื่อนเจ้าบ่าวฝั่งของน้อง"จบประโยคคำพูดของข้าวตังผมก็ชะงักนิ่งค้างไปพลางมือไม้ก็อ่อนแรง จนประคองช้อนในมือเอาไว้ไม่อยู่ปล่อยให้มันร่วงลงบนโต๊ะอย่างหมดแรง ในหัวของผมในตอนนี้มันขาวโพลนไปหมดความคิดก็ตื้อตันหัวใจก็พลันรู้สึกสั่นแรงจนน่ากลัว"...เพื่อนเจ้าบ่าวอย่างนั้นเหรอ"ผมหลุบสายตาต่ำสบถพูดเสียงแผ่วเบา ตอนนี้ในหัวของผมมันตีรวนไปหมดแล้วไม่รู้จะเอ่ยพูดอะไรต่อดี เพราะผมรู้ดีว่าอีกไม่นานข้าวตังก็จะจากผมไปในที่ไกลแสนไกล ในที่ที่ผมไม่อาจตามหาเขาได้ถ้าอย่างนั้นก็คงใกล้ถึงเวลามากขึ้นกว่าเดิมแล้วซินะ......ที่พี่จะจากผมไปความคิดนี้ดังเข้ามาในหัวของผม ผมก้มหน้าเผยรอยยิ้มบางที่เต็มไปด้วยความเศร้าหมอง ผมรู้มาสักพั
แม้จะรู้ว่าไม่ควรปล่อยใจตัวเองให้ถลำลึกมากไปกว่านี้และไม่ควรที่จะปล่อยให้เขาที่เป็นเพียงตัวละครในนิยายเข้าใกล้และสนิทสนมจนความรู้สึกพากันถลาไปไกล แต่เขมกรก็ทำไม่ได้ เพราะทุกครั้งที่ธีโอมาหาหรือตัวเขาไปหาธีโอยามที่ธีโอต้องการเจอ ความสัมพันธ์ของพวกเขาทั้งสองก็มักจะใกล้ชิดสนิทสนมกันมากขึ้น ๆ จนในตอนนี้วันเวลาก็ผ่านไปเป็นเดือนอีกแล้ว"อึก ธีพอก่อน อ่าส์ หยุดดูดนมพี่สักที"เขมกรเชิดหน้าร้องครางต่ำพลางสองขาก็เกี่ยวตวัดรอบเอวสอบดันเข้าหาตัว มือขาวข้างซ้ายค้ำยันพื้นโต๊ะอาหารส่วนข้างถนัดก็ยกขึ้นมาขยำกลุ่มผมสีน้ำตาลทองของคนที่ใช้ปากดูดดึงหยอกเย้ายอดอกของเขาธีโอช้อนนัยน์ตาสีน้ำตาลคล้ายสีผมมองใบหน้าของเขมกรที่ในตอนนี้แดงระเรื่อลามไปถึงใบหูทั้งสองข้าง ริมฝีปากได้รูปเผยอเล็กน้อยเปลือกตาสีมุกก็หลับพริ้ม แม้ปากจะเอ่ยห้ามบอกให้เขาหยุด แต่ทว่าสีหน้าและท่าทางกลับตรงกันข้าม"อยากให้ผมหยุดจริง ๆ เหรอครับพี่เขม"ละริมฝีปากออกจากยอดถันสีแดงช้ำด้วยฝีมือตัวเองพร้อมกับเ
"ผมรู้ครับ.... แต่ว่าข้าวตังผมว่าผมชอบคุณเข้าให้แล้วล่ะ"สิ้นประโยคคำสารภาพความในใจของพระรองอย่างธีโอที่มีต่อตัวละครข้าวตังหรือก็คือเขมกรในตอนนี้ ภายในห้องพักพิเศษของโรงพยาบาลเอกชนชื่อดังก็เกิดความเงียบสงัดปกคลุมเขมกรนั่งนิ่งเงียบไม่ไหวติงที่เขานั่งนิ่งอยู่อย่างนี้ไม่ใช่ว่าเขาไม่ได้ยินหรือฟังประโยคคำพูดของธีโอไม่ชัด เขมได้ยินเต็มสองรูหูว่าธีโอบอกว่าชอบเขา เพียงแต่ว่าเขาไม่รู้ว่าจะเริ่มพูดอย่างไรกับธีโอดี ถ้าจะถามว่าเขารู้สึกอย่างไรกับคนตรงหน้า เขาตอบได้เต็มคำเลยว่าเขามีความรู้สึกที่ดีต่อธีโอ ดีถึงขั้นความคิดแรกที่เข้ามาในหัวของเขาในตอนได้ยินธีโอบอกว่าชอบเขา เขาเกือบจะตอบรับความรู้สึกของธีโอในทันทีแต่ทว่าเขมกรต้องหักห้ามความรู้สึกของตัวเองเอาไว้ในใจ เพราะต่อให้เขาอยากจะตอบรับความรู้สึกธีโอมากขนาดไหนความสัมพันธ์ของพวกเขามันก็เป็นไปไม่ได้อยู่ดี ด้วยเพราะธีโอนั้นเป็นเพียงตัวละครในนิยาย แล้วอีกอย่างสักวันหนึ่งตัวของเขมกรก็ต้องกลับไปในโลก