แชร์

บทที่ 14

ผู้เขียน: เฉินเจียเสี่ยวเกอ
กินอาหารง่าย ๆ เสร็จ เฉินฝานกับฉินเย่ว์เจียวก็เตรียมตัวจะไปขายไก่ป่ากับกระต่ายในเมือง

ฉินเย่ว์โหรวร่างกายอ่อนแอจึงอยู่เฝ้าเรือนแทน

หมู่บ้านซานเหออยู่ในเมืองที่มีชื่อว่าเมืองหลีผิง จากหมู่บ้านซานเหอไปยังตลาดในเมืองเพียงสิบกว่าลี้ ระยะห่างไม่ไกลมากนัก

คนชนบทเป็นคนตื่นเช้า เมื่อเฉินฝานกับฉินเย่ว์เจียวเดินมาถึง ในตลาดก็เต็มไปด้วยเสียงเรียกขายของต่าง ๆ ดังไม่ขาดสาย

สำหรับฉินเย่ว์เจียวแล้ว การขายไก่ป่ากับกระต่ายเป็นสิ่งที่นางคุ้นเป็นอย่างดี

“น้องเย่ว์เจียวมาแล้วหรือ วันนี้ล่าได้สัตว์อะไรมาล่ะ”

สตรีวัยกลางคนขายไช้กัวอยู่ข้าง ๆ ถามขึ้นอย่างดีใจเมื่อเห็นฉินเย่ว์เจียว

แต่เมื่อสตรีวัยกลางคนเห็นเฉินฝานที่ยืนอยู่ข้างหลังฉินเย่ว์เจียวแล้ว รอยยิ้มบนใบหน้าก็หายไปทันใด ตามมาด้วยการมองเฉินฝานด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความรังเกียจ

เมื่อก่อนเฉินฝานตามมาเอาเงินทั้งนั้น เมื่อได้เงินแล้วก็เอาไปเล่นพนันทันที คนที่นี่จึงไม่ต้อนรับเขามากนัก

ฉินเย่ว์เจียวยกไก่ป่าขึ้นมา “ท่านป้า วันนี้ข้าจับไก่ป่าได้เจ้าค่ะ!”

สตรีวัยกลางคนก้มศีรษะลงและมอง “โอ้โห ไก่ป่าตัวนี้ช่างอ้วนท้วนเหลือเกิน วันนี้น้องเย่ว์เจียวจะรวยแล้วล่ะสิ ไก่ป่าดีขนาดนี้คงขายได้ราคาดีแน่ เจ้าไปจับมันมาจากที่ไหนหรือ!”

สตรีวัยกลางคนพูดไปพลางกลอกตาให้กับเฉินฝาน

นางทำได้เพียงถอนหายใจอยู่ข้างใน หญิงสาวดีขนาดนี้ น่าเสียดายที่ถูกจัดสรรให้กับผู้ชายขี้เกียจตัวเป็นขนเช่นนี้

“ท่านป้า วันนี้ข้าไม่เพียงมีแต่ไก่ป่า ข้ายังมีกระต่ายด้วย นายท่านข้าจับได้ที่ภูเขาหัวเสือน่ะ”

ฉินเย่ว์เจียวแต่งงานกับเฉินฝานมานานมาก นี่เป็นครั้งแรกที่นางพูดคำสามคำว่า ‘นายท่านข้า’ อย่างภาคภูมิใจ

“นายท่านของเจ้าเป็นคนล่ามาได้รึ!” สตรีวัยกลางคนแสดงสีหน้าไม่เชื่อ

สตรีวัยกลางคนพูดไม่ออกทันทีที่เฉินฝานหยิบไก่ป่ากับกระต่ายออกมาจากตะกร้าที่หลัง

เห็นผีเข้าแล้ว คนเสเพลกลับตัวใหม่?

……

หลังจากพวกเฉินฝานออกไป ฉินเย่ว์โหรวเก็บกวาดห้องเสร็จนางพลางเดินไปที่เล้าไก่

ในนั้นยังมีไก่ป่าอีกหนึ่งตัว เฉินฝานบอกแล้วว่าไม่ขายตัวนี้ เก็บไว้ให้มันออกไข่และให้นางกินบำรุง

แววตาและน้ำเสียงของเขาตอนพูดช่างอ่อนโยนเหลือเกิน

เมื่อนางบำรุงร่างกายดี ก็จะมีเนื้อมีนวลมากขึ้น และนางก็จะผลิดอกออกผล คลอดเจ้าตัวจ้ำม่ำให้เขาได้

ฉินเย่ว์โหรวปิดหน้าตัวเองอย่างเขินอาย

“หน้าไม่อายเลยจริง ๆ ในสมองคิดแต่เรื่องเช่นนี้อยู่ได้”

มีเสียงเท้าดังขึ้นจากข้างหลัง

ฉินเย่ว์โหรวหันกลับไปอย่างดีใจ “นายท่าน พี่สาม พวกท่าน……”

“แม่หญิงฉิน ข้าไม่ใช่นายท่านของเจ้า ข้าคือพี่จูของเจ้า!”

ใบหน้าอัปลักษณ์ของจูต้าอันปรากฏขึ้นตรงหน้าฉินเย่ว์โหรว

เขาฉีกยิ้มและเผยให้เห็นฟันเหลืองที่มีอยู่เต็มปากพร้อมใบหน้าที่เต็มไปด้วยรอยยิ้มแห่งความชั่วร้าย

เมื่อได้รู้ว่าฉินเย่ว์โหรวยังเป็นหญิงบริสุทธิ์ ในสมองของจูต้าอันก็เต็มไปด้วยฉินเย่ว์โหรว

เขาชอบแม่หญิงเช่นนี้ที่ทั้งเนื้อหอมและบริสุทธิ์

จูต้าอันใช้มือปิดประตูเรือนแล้วเดินเข้าไปใกล้ฉินเย่ว์โหรวทีละก้าว “แม่หญิงหน้าแดงเช่นนี้ กำลังคิดถึงผู้ชายของเจ้าอยู่ล่ะสิ!”

ฉินเย่ว์โหรวมองหน้าจูต้าอันพร้อมถอยหลัง ดวงตาที่โหญ่โตเท่าดวงดาวคู่นั้นเต็มไปด้วยความหวาดกลัวและกังวลใจ

“ไอ้เฉินฝานมันเป็นคนขี้ขลาดตาขาว เจ้าเข้ามาอยู่ตั้งนานแต่ยังไม่เคยทำอะไรเจ้า ช่วงเวลานี้แม่หญิงคงจะเปล่าเปลี่ยวแน่เลยใช่หรือไม่!”

“ไม่ต้องกลัวนะ พี่ชายจะช่วยเจ้าเอง!”

ปากกล่าวหยอกล้อ จูต้าอันตื่นเต้นพลันพุ่งเข้าหาฉินเย่ว์โหรวและกดนางลงกับพื้นกลางลานสวน

“ปล่อยข้านะ ไอ้เศษสวะ!”

ฉินเย่ว์โหรวดิ้นรนสุดชีวิตจนจูต้าอันเกือบคุมนางไม่อยู่ไปชั่วขณะ

เขาจึงตบหน้าฉินเย่ว์โหรวและกล่าวอย่างดุร้าย “นังโสเภณี! ที่ข้าทำอะไรเจ้าเพราะข้าสงสาร อย่าทำตัวไว้หน้าแล้วแต่ไม่รู้จักรับนะ!”

ใบหน้าฉินเย่ว์โหรวแดงขึ้นทันใด เลือดพลางไหลลงจากมุมปาก

ในดวงตานางเต็มไปด้วยความโกรธอันเดือดดาล นางใช้กำลังทั้งหมดออกแรงข่วน

จูต้าอันคว้ามือนางแล้วมัดด้วยเข็มขัด จากนั้นหยิบห่อยาออกมากรอกปากนาง

ผงยาละลายทันทีที่เข้าปาก เพียงครู่เดียวฉินเย่ว์โหรวก็รู้สึกร่างกายอ่อนระทวยทันทีจนแทบไม่เหลือแรงสู้

จูต้าอันเห็นการเปลี่ยนแปลงนี้แล้วก็ยิ้มขึ้นอย่างหื่นกาม “ข้าใช้เงินตั้งมากมายเพื่อซื้อของดีอันนี้!”

ฉินเย่ว์โหรวยกมือเท้าขึ้นทั้งตีและเตะ ลำคอส่งเสียงสะอึ้นอย่างควบคุมไม่อยู่เหมือนสัตว์ตัวเล็ก

ร่างกายนางรู้สึกลุ่มร้อนเป็นพัก ๆ น้ำตาแห่งความอัปยศไหลอาบแก้มฉินเย่ว์โหรว

เมื่อรู้สึกแล้วว่ามือเท้าไม่อยู่ในการควบคุมแล้ว ฉินเย่ว์โหรวพลันตัดสินใจอย่างเด็ดขาดว่าจะฆ่าตัวตายด้วยการกัดลิ้น!

จูต้าอันเดาออกแต่ทีแรกจึงยัดมือข้างหนึ่งเข้าไปในปากของฉินเย่ว์โหรว

“นังชั้นต่ำ คิดจะฆ่าตัวตายงั้นเรอะ!”

จูต้าอันกระชากผมฉินเย่ว์โหรวขึ้นอย่างรุนแรงและโหดเหี้ยม และยังตบหน้าลงไปอีกหลายที

“ข้ารอมานานขนาดนี้ อยากตายงั้นเรอะ อย่าได้หวัง!”

เขาเริ่มกระชากเสื้อผ้าของฉินเย่ว์โหรว เมื่อผิวขาวนวลผ่องเผยออกมา แววตาพลันเต็มไปด้วยความหื่นกาม

แววตาของฉินเย่ว์โหรวเต็มไปด้วยความสิ้นหวัง

ทำไม ทำไมสวรรค์ถึงทำกับนางเช่นนี้

เฝ้ารอมาตั้งนาน รอจนในที่สุดนายท่านก็เปลี่ยนไป ผลสุดท้ายตนเองมีมลทินเพราะไอ้หื่นกามคนนี้!

ดวงตาที่หวาดกลัวและอับอายของฉินเย่ว์โหรวทำให้จูต้าอันตื่นเต้นมาก

“ฮ่า ๆๆ แม่หญิงอย่ากลัวเลยนะ!”

เขาลุกขึ้นถอดกางเกงออก กำลังจะโน้มตัวลงไป

และในวินาทีนั้น……

“ปึก!”

เสียงแตกกระจายดังสนั่น ประตูเรือนแตกออกเป็นชิ้น ๆ นับไม่ถ้วน

ลูกธนูดอกหนึ่งพุ่งตรงมาจากด้านนอกประตูเสียบเข้าฝ่ามือของจูต้าอันโดยตรง

เสียงสวบดังพร้อมกับเลือดที่สาดกระเด็นไปทั่ว

“อ๊าก!!!” จูต้าอันร้องตะโกนอย่างโหยหวนไปทั่วเรือน

ในดวงตาที่หวาดกลัวอย่างยิ่งของเขา มีชายอาฆาตแค้นถือคันธนูเดินเข้ามาจากนอกบ้าน เฉินฟานนี่!

จูต้าอันมองเขาพร้อมดุด่า “เฉินฝานไอ้คนชั่ว……”

“สวบ!”

ทันใดนั้นมือข้างหนึ่งบีบเข้าที่คอจนทำให้เสียงร้องของเขาหยุดลงทันที!

จูต้าอันจะดึงมือเฉินฝานออก แต่ไม่ว่าจะออกแรงเท่าไหร่มือของเฉินฝานก็ไม่ขยับแม้แต่น้อย!

เฉินฝานรู้สึกโกรธจัด!

เขาจับจูต้าอันเอาไว้แล้วลากไปอีกฝั่งเหมือนลากหมาที่ตาย

จากนั้น เขาต่อยหมัดลงไปครั้งแล้วครั้งเล่า เสียงทุ้มของหมัดมือดังสนั่นไปทั่วเรือนน้อยหลังนี้……

จนกระทั่งจูต้าอันหมดสติถึงยอมปล่อยมือ!

จากนั้นเฉินฝานรีบหันไปอุ้มฉินเย่ว์โหรวขึ้นมาและพาเข้าไปข้างในพร้อมกับปิดประตู เขาวางนางลงเตียงอย่างทะนุถนอม

ฉินเย่ว์โหรวดึงกระชากเสื้อตนเองอยู่อย่างนั้นและเอาแต่พูดว่าร้อน

เฉินฝานมองฉินเย่ว์โหรวที่มีรอยฝ่ามือตรงแก้มและร้องว่าร้อนไม่หยุด มันทำให้หัวใจของเขาทั้งรู้สึกเจ็บและสงสารจับใจ

เขาประมาทเช่นนี้ได้อย่างไร ปล่อยให้ฉินเย่ว์โหรวอยู่คนเดียว!

หากไม่ใช่เพราะเขาไตร่ตรองไม่ถี่ถ้วน ฉินเย่ว์โหรวก็ไม่ต้องประสบเหตุการณ์แบบนี้

“เย่ว์โหรว ๆ !”

เฉินฝานขานเรียกอย่างอ่อนโยน ฉินเย่ว์โหรวพยายามลืมตาขึ้น เมื่อเห็นแววตาเป็นห่วงของเฉินฝาน ทันใดนั้นน้ำตาก็ไหลไม่หยุด

นางยื่นมือโผกอดคอของเฉินฝานราวกับเป็นแมวเหมียวตัวน้อย นางกล่าวเสียงสะอื้นอย่างน่าสงสาร “นายท่าน……เย่ว์โหรวรู้สึกไม่ดีมาก……”

“ข้ารู้ เดี๋ยวก็ดีขึ้นแล้วนะ”

เฉินฝานลูบหัวนางอย่างสงสาร ฝ่ามืออันใหญ่จับหน้าฉินเย่ว์โหรวขึ้นมาแล้วจุมพิตลงที่ริมฝีปากอมชมพูของนาง

ริมฝีปากนุ่มนวลราวกับเต้าหู้ที่ละลายทันทีเมื่อถูกสัมผัส

ฉินเย่ว์โหรวโน้มตัวเข้าใกล้เฉินฟานมากขึ้น ดวงตาที่สวยงามของนางเต็มไปด้วยความชุ่มชื้น นางเริ่มกอดเฉินฟานและมอบจูบให้เขา

กลิ่นหอมบางเบาจากร่างกายของนางลอยเข้าไปในจมูกของเฉินฝาน

เฉินฝานตื่นตัวในทันใด

เขาจับคอฉินเย่ว์โหรวแล้ววางนางลงไป

มือสอดเข้าไปข้างในเสือของฉินเย่ว์โหรวอย่างควบคุมไม่อยู่

แม้ใช้ชีวิตอย่างยากลำบาก แต่ผิวเนื้อของฉินเย่ว์โหรวกลับเรียบเนียนละเอียดอ่อน

ราวกับหยกขาวเนื้อดี ให้ความรู้สึกแทบไม่อยากปล่อยมือ

เฉินฝานรอไม่ไหวจึงจูบลงที่ริมฝีปาก เขาบีบคางของฉินเย่ว์โหรวโดยลืมความสงสารไปแล้วจดหมดสิ้น

จูบที่รุนแรงพร้อมปล่อยความบ้าคลั่งอย่างตามใจทำให้ฉินเย่ว์โหรวหายใจลำบากเล็กน้อย

เสื้อขาวตัวเล็กร่วงหล่นลงไปเงียบ ๆ

นัยน์ตาเต็มไปด้วยความสดใส แสงสว่างและเลือดที่พลุ่งพล่าน!

เมื่อเห็นร่างกายของฉินเย่ว์โหรวเป็นสีแดงเต็มไปหมด อีกทั้งยังขดตัวอย่างเขินอายและอ่อนปวกเปียก

เฉินฝานสูญเสียสติโน้มตัวลงไปทันที ฝ่ามืออันใหญ่กระชากผ้าชิ้นสุดท้ายบนตัวฉินเย่ว์โหรวออก…….
อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป
ความคิดเห็น (3)
goodnovel comment avatar
ไมตรี ไมตรี
ทางลัดไปหน้าที่อ่านสุดท้ายมีใหมเลื่อนแล้วเมื้อย
goodnovel comment avatar
sabading.dingda
ขอเตือนเรื่องเติมเงิน คนที่ยังไม่เติมเงินน่ะดีแล้วนะ มันอัพเดทวันละตอน นี่เลิกอ่านละ คุณเก็บเหรียญฟรีเอาดีกว่า เติมเงินไปก็ไม่ได้อ่าน ตัองรอมันอัพวันละตอน จะรำคาญหงุดหงิดเปล่าๆ เราเลิกอ่านละ รอเบื่อ จนลืมเรื่องราวเดิมละ ไม่ต่อเนื่อง ถ้าไม่พร้อมก็ไม่ควรเอามาขายนะ เสร็จซัก 80%ขึ้นไปค่อยเอามาข่ยดีกว่า
goodnovel comment avatar
Chainiwat
สนุกๆสนุกสนุก
ดูความคิดเห็นทั้งหมด

บทล่าสุด

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1315

    “อะไรนะ!?”“ตอนนี้องค์หญิงเสี่ยวฉู่พาฝ่าบาทไปที่ประตูอู่แล้วขอรับ เจ้าสิ่งนั้น ปะ ปะ...”“ปืนไรเฟิล”“ใช่ ๆ ปืนไรเฟิล ปากกระบอกปืนไรเฟิลจ่อพระเศียรของฝ่าบาทอยู่เลยขอรับ!”“หา นี่เป็นเพราะอะไรกัน?”บรรดาพี่สาวน้องสาวตระกูลฉินได้ยินข่าวขึ้นมา“กราบทูลบรรดาองค์หญิง ข้อเรียกร้องขององค์หญิงเสี่ยวฉู่คืออยากให้ท่านอัครเสนาบดีกับฝ่าบาทอภิเษกสมรสกันเดี๋ยวนี้เลยพ่ะย่ะค่ะ”“เหลวไหล!”เฉินฝานพุ่งตัวออกไปราวกับพายุเวลานี้บรรดาพี่น้องตระกูลฉินที่เพิ่งแสดงท่าทีรีบร้อนทำหน้าร้อนใจกลับมีสีหน้าแจ่มใส ถึงขนาดที่นั่งลงปรึกษาหารือกันฉินเย่ว์โหรว “พี่หญิงรอง ท่านมีฝีมือดี ท่านรีบไปขวางอยู่ที่หอด้านบนประตูอู่ อย่าให้นายท่านลงมา” ฉินเย่ว์เจียว “ไม่มีปัญหา พอถึงเวลานั้นข้าจะเรียกน้องหวั่นเอ๋อร์ นายท่านหนีไม่รอดแน่”ฉินเย่ว์ฉิน “เช่นนั้นข้าจะให้พี่น้องในวังเซียวเหยาก่อนหน้านี้ไปเดินเล่นแถว ๆ ประตูอู่ให้หมดเลย จะต้องครึกครื้นเป็นแน่ รับรองว่าพี่น้องทหารองครักษ์พวกนั้นจะต้องมองสาวงามอย่างไม่หวาดไม่ไหว”สามพี่น้อง “ความปรารถนาของเสี่ยวฉู่ พวกเราในฐานะพี่สาวจะต้องช่วยอย่างเต็มที่!”เมื่อมองถนนละแวกป

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1314

    “ข้าไม่ได้ขัดขืนจริง ๆ” เย่ลวี่เลี่ยก้มหน้าลง ชายสูงแปดฉื่อทำสีหน้าที่เต็มไปด้วยความท้อแท้ใจ เขาอยากขัดขืนอยู่แล้ว แต่ฉินเย่ว์ฉู่ไม่ได้ให้โอกาสนั้นกับเขาเลยตอนที่ฉินเย่ว์ฉู่บุกเข้ามาในกระโจมใหญ่ของเย่ลวี่เลี่ย ก็ยิงปืนกำจัดองครักษ์ของเย่ลวี่เลี่ยก่อนพูดแล้วก็น่าอับอาย เย่ลวี่เลี่ยที่เคยผ่านศึกมาอย่างโชกโชนตกใจกลัวรูเลือดตรงกลางหน้าผากขององครักษ์ เขาไม่เคยเห็นอาวุธที่รวดเร็วขนาดนี้มาก่อนเลยได้ยินแค่เสียงดังปัง หน้าผากขององครักษ์ก็มีรูเลือดใหญ่ขนาดนี้แล้ว ความเร็วที่แม้แต่เทพเซียนก็ทำไม่ได้ ความแม่นยำที่แม้แต่เทพเซียนก็ยังทำไม่ได้ในตอนที่ฉินเย่ว์ฉู่ยกปืนขึ้นแล้วลั่นไกอีกครั้ง เมื่อเย่ลวี่เลี่ยได้ยินเสียง เขาก็ตกใจจนสลบไปทันที หลับไปตื่นหนึ่งถึงค่อยพบว่าฉินเย่ว์ฉินยิงใส่หมวกเล็กของเขาเท่านั้นตกใจสาวน้อยจนสลบไป ไม่ว่าสือจิ่งซานผู้นี้จะถามอย่างไร เย่ลวี่เลี่ยก็ไม่บอกเขา .....ในคืนที่เย่ลวี่เลี่ยถูกจับ ข่าวก็ไปถึงเมืองหลวงแล้ว “เครื่องอัดเสียงพลังงานแสงอาทิตย์ เครื่องเสียง...” ขณะที่ฉินเย่ว์เหมยอ่านคำเหล่านี้ก็ถามเฉินฝานด้วยความมึนงงว่า “จดหมายของเสี่ยวฉู่บอกว่า นางแค่อาศ

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1313

    “นางไม่รู้หรือว่าพวกเราไม่อยากลงมือจริงจัง?” “พอไปถึงค่ายทหารของชาวหู ไม่ใช่แค่โดนฆ่าธรรมดาแบบนั้นหรอกนะ” ชาวหูไม่มีทางปล่อยสตรีชาวต้าชิ่งใด ๆ ที่ตกอยู่ในมือพวกเขา ยิ่งไม่ต้องพูดถึงสตรีชาวต้าชิ่งที่หน้าตางดงามฐานะสูงศักดิ์อย่างฉินเย่ว์ฉู่ พฤติกรรมของพวกเขาใช้คำว่าเดรัจฉานมาอธิบายยังไม่พอเลย สือจิ่งซานสะบัดแขนเสื้อ “พอได้แล้ว สตรีนางเดียวไม่มีค่าพอให้เราต้องใส่ใจหรอก นางอยากตายก็ปล่อยนางไปเถิด โจวจวี่ เจ้าส่งคนไปบอกเยลวี่เลี่ยว่าให้พวกเขาเหลือศพไว้ครบถ้วน ข้าจะซื้อศพไว้ใช้ประโยชน์” ไม่ต้องให้สือจิ่งซานรอนานเกินไป วันรุ่งขึ้นทหารลาดตระเวนก็มารายงาน “ว่าไงนะ? เยลวี่เลี่ยมาด้วยตนเอง?”“ท่านแม่ทัพใหญ่ หากพูดให้ตรงคือเยลวี่เลี่ยโดนฮูหยินเล็กของท่านอัครเสนาบดีจับกุมมาขอรับ”“เจ้าพูดอีกทีสิ?”ทหารลาดตระเวนพูดซ้ำถึงสามรอบเต็ม ๆ สือจิ่งซานก็ยังไม่เชื่อไม่ใช่แค่สือจิ่งซานที่ไม่เชื่อ ต่อให้เป็นผู้ถูกจับกุมอย่างเยลวี่เลี่ยก็ไม่เชื่อเช่นกัน เขาจะโดนสตรีนางเดียวจับกุมได้อย่างไรยิ่งไปกว่านั้นสตรีผู้นี้ยังอายุน้อย พาทหารหญิงรุ่นราวคราวเดียวกันมาแค่ร้อยกว่าคนเมื่อฉินเย่ว์ฉู่พาเยลวี่เล

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1312

    สือจิ่งซานยกมุมปากยิ้มคลุมเครือ “แปรพักตร์อันใดกัน ฝ่าบาทกับท่านอัครเสนาบดีเห็นอกเห็นใจกองทัพหมาป่าเรา จึงส่งสะใภ้คนเล็กมา เช่นนั้นกองทัพหมาป่าเราย่อมต้องต้อนรับสะใภ้ท่านนี้ให้ดี ๆ”“แม่ทัพใหญ่กล่าวถูกต้อง พวกเราต้อง ‘ต้อนรับ’ ให้ดี ๆ!” โจวจวี่พูดคล้อยตามทันที ไม่นานนักก็มีคำสั่งจากในกระโจมใหญ่ ให้ทหารแม่ทัพทั้งหมดของกองทัพหมาป่าเปลือยท่อนบนยุคโบราณที่จารีตเคร่งครัดอย่างยิ่ง การเปลือยท่อนบนเช่นนี้เป็นพฤติกรรมดูหมิ่นไม่ให้ความกียรติสตรีอย่างรุนแรงยิ่งกว่านั้นฉินเย่ว์ฉู่เป็นภรรยาเอกของอัครเสนาบดีขั้นหนึ่ง องค์หญิงแห่งต้าชิ่ง พระขนิษฐาแท้ๆ ของฮ่องเต้หญิงหากฉินเย่ว์ฉู่เป็นเพียงสตรีทั่วไปในยุคนี้ เกรงว่ามีแต่จะตกใจจนมือไม้อ่อนไปหมดทหารแม่ทัพทั้งหมดของกองทัพหมาป่าเปลือยท่อนบนออกจากกระโจม รอดูท่าทางตกใจกลัวจนร้องไห้โฮยกใหญ่ของฉินเย่ว์ฉู่“ผู้ชายมากมายถึงเพียงนี้ข่มขู่เด็กสาวคนเดียวจะไม่เกินไปหน่อยหรือ” มีบางคนรู้สึกว่าแบบนี้ไม่ค่อยดีนัก แต่คำพูดของเขาก็โดนคนอื่นสวนกลับทันที “เกินไปอันใดเล่า เฉินฝานเป็นคนส่งมา ให้เขาหยามพวกเราได้เท่านั้น แต่ไม่ยอมให้พวกเราตอบโต้คืนหรือ? เปลือย

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1311

    เย่ว์หนูได้รับบาดเจ็บในระหว่างที่ปกป้องเฉินฝานครั้งหนึ่ง ร่างกายของนางตอนนี้จึงไม่แข็งแรงเหมือนเมื่อก่อน เดิมทีเฉินฝานอยากให้หวงหวั่นเอ๋อร์ตามฉินเย่ว์ฉู่ไป มีหวงหวั่นเอ๋อร์อยู่ อย่างน้อยที่สุดก็ไม่มีปัญหาเรื่องความปลอดภัยของฉินเย่ว์ฉู่ ผลปรากฏว่าฉินเย่ว์ฉู่ปฏิเสธแม้กระทั่งหวงหวั่นเอ๋อร์ด้วยฉินเย่ว์ฉู่พาทหารหญิงไปหนึ่งร้อยกว่าคน มุ่งตรงสู่ทางเหนือ บุกไปยังกองทัพหมาป่าอย่างกล้าหาญ “เจ้าปล่อยให้นางไปเช่นนี้หรือ?” คนที่ตำหนิเฉินฝาน ไม่ใช่แค่พี่น้องตระกูลฉินทั้งสามคนในจวนสกุลเฉิน แม้แต่ฉินเย่ว์เหมยที่อยู่ในวังหลวงก็รีบออกมาเช่นกันนางคิดว่าไม่ว่าอย่างไร อย่างน้อยที่สุดเฉินฝานต้องให้ฉินเย่ว์ฉู่นำกองพลมือปืนไป“เย่ว์ฉู่เป็นน้องเล็กของพวกเจ้า น้องเล็กของพวกเจ้ามีนิสับแบบไหน พวกเจ้าไม่รู้เลยหรือไร?” คำพูดประโยคเดียวของเฉินฝานทำให้พวกนางสำลักแล้วแม้ว่าฉินเย่ว์ฉู่จะเป็นน้องเล็กสุดในตระกูลฉิน ทว่าตั้งแต่เด็กจนโต นางมีความคิดของตัวเองมากที่สุด ขอเพียงเป็นเรื่องที่นางตัดสินใจแล้ว ไม่มีใครสามารถทำให้นางเปลี่ยนใจได้“แต่ว่า...” ฉินเย่ว์โหรวที่เป็นคนกังวลใจมากที่สุด ขมวดคิ้วมุ่น ดูกลัดกล

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1310

    การปรากฏตัวของนาง ทำให้ทุกคนรู้สึกปีติยินดีกันมากแต่ฉินเย่ว์เจียวกลับถลึงมองสตรีผู้นั้น “พอได้แล้ว เสี่ยวฉู่เจ้าเด็กตัวแสบ แสร้งทำตัวเป็นผู้ใหญ่อันใด ยังไม่รีบเข้ามาอีก?” ฉินเย่ว์ฉู่ขี่ม้าเข้ามา ขณะที่นางผ่านฉินเย่ว์เจียวยังไม่ลืมเถียงกลับว่า “พี่หญิงรอง ข้าอายุยี่สิบแล้ว เป็นผู้ใหญ่ตั้งนานแล้วนะ”ฉินเย่ว์เจียวเชิดหน้าขึ้นสูง “ไม่ว่าเจ้าจะอายุเท่าไหร่ ถึงอย่างไรในสายตาข้า เจ้าก็เป็นเด็กตลอดกาล” ฉินเย่ว์ฉู่ควบม้าตรงมาหาเฉินฝาน แล้วฟ้องเขาว่า “นายท่านดูสิเจ้าคะ พี่หญิงรองรังแกข้าอีกแล้ว นางรังแกข้ามาตลอด ท่านไม่จัดการนางบ้างหรือ?”เฉินฝานมองฉินเย่ว์ฉู่ที่สดใสมั่นใจในตัวเองตรงหน้า ภาพที่เขาเห็นฉินเย่ว์ฉู่ครั้งแรกเมื่อสิบปีก่อนฉายขึ้นมาในสมอง เกิดความรู้สึกราวกับว่าเวลาผ่านไปชาติหนึ่งเด็กสาวที่ขี้กลัวในวันวาน บัดนี้กลายเป็นโฉมสะคราญที่มีสง่าราศี เฉินฝานรู้สึกภาคภูมิใจเล็กน้อย“เหตุใดที่กลับมาตอนนี้ ไม่ต้องเข้าเรียนแล้วหรือ?” เฉินฝานถามตั้งแต่ฉินเย่ว์ฉู่อายุสิบห้า เฉินฝานก็ส่งนางไปเรียนที่โรงเรียนสตรีในเมืองเซียนตู“นายท่าน ข้าน้อยเรียนจบแล้วเจ้าค่ะ”“เรียนจบแล้ว?”“ข้าน้อยเ

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status