แชร์

ช่วงเวลาของเราสองคน

ผู้เขียน: พงศ์พัชรา
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2025-05-14 18:30:43

ช่วงสองสามวันที่ผ่านมา หมอเพชรเดินเข้าออกโรงพยาบาลเป็นว่าเล่น ความเหนื่อยล้าเริ่มก่อตัวจนรู้สึกเหมือนร่างกายหนักอึ้ง แต่เขาก็ไม่มีเวลาจะสนใจมัน เพราะเรื่องราวทุกอย่างกลับไม่ได้ง่ายอย่างที่คิด ตอนแรกเขาเชื่อว่า เมื่อทุกอย่างถึงมือหมอน่าจะคลี่คลายไปในทางที่ดีขึ้นแต่มันกลับผิดไปจากที่คาดไว้มาก ลูกชายของเขา กนกหมดสติไปมากกว่าหนึ่งวันแล้วและจนถึงตอนนี้ก็ยังไม่มีวี่แววว่าจะฟื้น ดวงตาของเขายังคงปิดสนิท ร่างกายดูสงบเกินไปจนหมอเพชรรู้สึกหวั่นใจ

ส่วนภพ อาการของเขาหนักกว่ามาก กระดูกบริเวณใบหน้าหักจากแรงกระแทกและยังมีอาการบวมช้ำภายใน แพทย์ต้องเฝ้าระวังอาการอย่างใกล้ชิดแต่ปัญหาคือเครื่องมือของโรงพยาบาลแห่งนี้ไม่พร้อมพอสำหรับการรักษาในระดับที่ภพต้องการ เมื่อญาติๆ ของภพได้รับข่าวว่าหลานชายของพวกเขาถูกทำร้ายจนอาการสาหัส พวกเขาก็ไม่รอช้า รีบขอให้มีการย้ายตัวผู้ป่วยไปยังโรงพยาบาลใหญ่ในตัวเมืองซึ่งมีเครื่องมือและทีมแพทย์ที่พร้อมกว่ามาก หมอเพชรเข้าใจดีว่ามันเป็นทางเลือกที่ดีที่สุดแม้จะเป็นภาระหนักสำหรับแป้นก็ตาม

เขาช่วยจัดการเรื่องเอกสารการส่งตัวภพด้วยตัวเอง ทำเรื่องให้ทุกอย่างดำเนินไปอย่างรวดเร็วที่สุดเพราะเวลาทุกวินาทีมีค่ากับผู้ป่วยวิกฤติแบบนี้ หลังจากนั้น เขาไปช่วยแป้นเก็บของที่จำเป็นสำหรับการเดินทาง ดูเหมือนว่าเธอจะต้องไปอยู่ในเมืองสักระยะเพื่อดูแลลูกชาย แม่ของภพมีสีหน้าอิดโรย มือที่เก็บเสื้อผ้าในกระเป๋าสั่นไหวเล็กน้อย ไม่ใช่เพราะความเหนื่อยล้าแต่เป็นเพราะความรู้สึกที่แบกรับอยู่ในใจมันหนักหนาจนยากจะรับมือ

เรื่องของพ่อภพไม่ได้จบลงเพียงแค่การทำร้ายร่างกายลูกและภรรยา หลังจากที่ภพถูกส่งตัวไปรักษาในโรงพยาบาลใหญ่ ตำรวจได้ดำเนินการสืบสวนเพิ่มเติม และสิ่งที่เปิดเผยออกมาก็ทำให้หลายคนต้องตกตะลึง พ่อของภพเป็นผู้ค้ายาเสพติดรายย่อยและตัวเขาเองก็ติดยาเสพติดจนถึงขั้นควบคุมตัวเองไม่ได้

เขาไม่ได้เป็นแค่พ่อที่ใช้ความรุนแรง...แต่เป็นคนที่พาครอบครัวเข้าสู่วงจรอันตรายโดยไม่รู้ตัว วันเกิดเหตุ เขาอยู่ในอาการคุ้มคลั่งจากฤทธิ์ยา เสียงร้องไห้ของแป้นและเลือดของภพที่ไหลอาบพื้นอาจเป็นเพียงเสี้ยวหนึ่งของความรุนแรงที่เคยเกิดขึ้นในบ้านหลังนั้นแต่เมื่อตำรวจเข้าจับกุมและนำตัวมาควบคุม เขากลับคืนสติในที่สุด

ชายวัยกลางคนที่เคยถือไม้หน้าสามด้วยมือสั่นเทา บัดนี้กำลังนั่งกอดเข่าร้องไห้ในห้องขัง ร่างกายสั่นสะท้านไปทั้งตัว ขอโทษซ้ำๆ กับเจ้าหน้าที่ "ผมไม่ได้ตั้งใจ...ผมขอโทษ...ขอโทษภพ...ขอโทษแป้น..."

แต่คำขอโทษนั้นไม่อาจลบล้างสิ่งที่เกิดขึ้นได้

เจ้าหน้าที่แจ้งว่า เขาไม่สามารถขอประกันตัวได้ คดียาเสพติดเป็นความผิดร้ายแรง และการทำร้ายร่างกายกับคนในครอบครัวก็ถือเป็นคดีอาญาโดยสมบูรณ์ ตอนนี้อยู่ระหว่างขั้นตอนดำเนินคดีและฝากขังเพื่อรอการพิจารณาของศาล เมื่อหมอเพชรได้ข่าวเรื่องนี้ เขาตัดสินใจให้สามีของเขาไปช่วยดูแลแป้น คอยช่วยจัดการเรื่องต่างๆและพูดคุยกับตำรวจแทน

"แป้น เธอจะเอายังไงกับพ่อของภพ?" สามีของหมอเพชรถามเธอเมื่อได้พบกัน หญิงที่เคยอ่อนแอจากน้ำตาเพียงแค่เงยหน้าขึ้น ดวงตาของเธอไม่มีแววลังเลเลยสักนิด เธอนิ่งเงียบอยู่ครู่หนึ่งก่อนเอ่ยออกมาสั้นๆด้วยน้ำเสียงราบเรียบ

"ให้ตำรวจจัดการไปเลยค่ะ"

ไม่มีคำว่า "ฉันยังรักเขา"

ไม่มีคำว่า "เขาเป็นพ่อของลูก"

ไม่มีแม้แต่ความเสียใจหลงเหลืออยู่ในน้ำเสียง

มันเป็นเพียงเสียงของคนที่ตัดขาดจากอดีต จากชายที่เคยเป็นสามี จากพ่อของลูกที่เธอเคยหวังว่าเขาจะเป็นคนที่ดีกว่านี้

ตำรวจรับเรื่องและแจ้งว่า นอกจากดำเนินคดีอาญาแล้วยังต้องตรวจสอบทรัพย์สินต่างๆ ของเขาด้วย พวกเขาไม่แน่ใจว่าสิ่งที่เขามีอยู่ที่ดินที่เพิ่มขึ้นในช่วงหลังอาจเกี่ยวข้องกับเงินจากการค้ายาหรือไม่

"ถ้าพบว่าเป็นทรัพย์สินจากการกระทำผิด จะต้องถูกยึดเป็นของกลาง" นายตำรวจแจ้ง

แป้นไม่ได้ตอบอะไร เพียงพยักหน้ารับอย่างว่างเปล่า ในใจเธอไม่มีพื้นที่ให้ความสงสารอีกแล้ว เธอเหลือแค่สิ่งเดียวที่ต้องทำ คือดูแลลูกชายของเธอให้ดีที่สุด...ในวันที่เขาต้องเผชิญกับรอยแผลในใจไปตลอดชีวิต

"แป้น...ดูแลตัวเองด้วยนะ" หมอเพชรเอ่ยเบาๆ ขณะช่วยรูดซิปกระเป๋าเดินทางให้เธอ

แป้นเงยหน้ามองเขา ดวงตาแดงก่ำจากการร้องไห้หลายวันติดกัน เธอพยายามจะยิ้มแต่ริมฝีปากกลับสั่นระริกแทน "หมอเพชร...ภพจะต้องปลอดภัยใช่ไหม?"

หมอเพชรมองเธออย่างหนักใจ เขาอยากตอบว่าใช่ อยากบอกว่า "ทุกอย่างจะดีขึ้น" แต่เขารู้ดีว่าในฐานะแพทย์ คำพูดเหล่านั้นไม่มีใครสามารถรับประกันได้

"ภพเข้มแข็ง เขาจะผ่านมันไปได้" เขาพูดออกไปในที่สุดแม้มันจะไม่ใช่คำสัญญาแต่มันคือความหวังที่เขาอยากให้เธอยึดมั่น

แป้นพยักหน้ารับเบาๆ ก่อนจะสะพายกระเป๋าขึ้นบ่า เสียงล้อเตียงของภพที่ถูกเข็นออกไปจากห้องดังสะท้อนทั่วโถงทางเดิน หมอเพชรยืนมองจนร่างของภพถูกพาออกไปจากสายตา พร้อมกับแป้นที่เดินตามไปโดยไม่หันกลับมา

เขาถอนหายใจยาว การเดินทางของภพเพิ่งเริ่มต้น...แต่สำหรับกนก เรื่องราวยังไม่จบ

หมอเพชรหันหลังกลับ ก้าวไปยังห้องพักของลูกชาย ที่ยังคงหลับใหล...โดยไม่มีใครรู้ว่าเมื่อไหร่จะฟื้นขึ้นมา

อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทล่าสุด

  • เขาคนนั้นเหมือนใครคนหนึ่ง   เปลี่ยน

    เสียงร้องไห้ของเด็กชายวัยห้าขวบดังสนั่นไปทั่วห้องพักพิเศษ เสียงนั้นแหลมสูงและเต็มไปด้วยความตื่นตระหนก ราวกับคนที่เพิ่งตื่นจากฝันร้ายที่กัดกินจิตใจไปนานแสนนาน พยาบาลที่เข้าเวรอยู่รีบกดโทรศัพท์ไปยังสำนักงานสาธารณสุขอำเภอเพื่อแจ้งข่าว"คุณหมอเพชรคะ! ลูกชายคุณฟื้นแล้วค่ะ แต่เขาร้องไห้หนักมากจนตัวสั่น เราต้องการให้คุณมาดูแลด่วน"ทันทีที่ได้รับโทรศัพท์ หมอเพชรรู้สึกเหมือนหัวใจหลุดออกจากอก "กนก...ลูกฟื้นแล้ว" เขาพึมพำกับตัวเองอย่างแทบไม่เชื่อหูเพราะลูกชายสลบไปถึงสามวันเขารีบคว้าโทรศัพท์โทรหาสามีที่ทำงานอยู่ในสวนมะพร้าว "คุณคะ กนกฟื้นแล้วค่ะ" น้ำเสียงของเขาสั่นไหว ทั้งดีใจ ทั้งเป็นห่วง"เดี๋ยวผมไปเดี๋ยวนี้!" อีกฝ่ายตอบทันทีจากนั้น หมอเพชรก็รีบจัดการลางานเร่งด่วนและตรงดิ่งไปหาลูกโดยไม่รอช้าทว่าเมื่อไปถึง เขาก็พบว่ากนกยังคงร้องไห้ไม่หยุดร่างเล็กของลูกนอนอยู่บนเตียง แผ่นอกกระเพื่อมขึ้นลงอย่างรวดเร็วจากการสะอื้น ดวงตากลมโตเต็มไปด้วยความหวาดกลัว เสียงร้องของเขาสั่นระริก ไม่ใช่เพียงเพราะตกใจที่ตื่นขึ้นมาเจอสถานที่แปลกตา แต่เป็นเพราะสิ่งที่เขาเผชิญในความมืดตลอดสามวันที

  • เขาคนนั้นเหมือนใครคนหนึ่ง   ช่วงเวลาของเราสองคน

    ช่วงสองสามวันที่ผ่านมา หมอเพชรเดินเข้าออกโรงพยาบาลเป็นว่าเล่น ความเหนื่อยล้าเริ่มก่อตัวจนรู้สึกเหมือนร่างกายหนักอึ้ง แต่เขาก็ไม่มีเวลาจะสนใจมัน เพราะเรื่องราวทุกอย่างกลับไม่ได้ง่ายอย่างที่คิด ตอนแรกเขาเชื่อว่า เมื่อทุกอย่างถึงมือหมอน่าจะคลี่คลายไปในทางที่ดีขึ้นแต่มันกลับผิดไปจากที่คาดไว้มาก ลูกชายของเขา กนกหมดสติไปมากกว่าหนึ่งวันแล้วและจนถึงตอนนี้ก็ยังไม่มีวี่แววว่าจะฟื้น ดวงตาของเขายังคงปิดสนิท ร่างกายดูสงบเกินไปจนหมอเพชรรู้สึกหวั่นใจส่วนภพ อาการของเขาหนักกว่ามาก กระดูกบริเวณใบหน้าหักจากแรงกระแทกและยังมีอาการบวมช้ำภายใน แพทย์ต้องเฝ้าระวังอาการอย่างใกล้ชิดแต่ปัญหาคือเครื่องมือของโรงพยาบาลแห่งนี้ไม่พร้อมพอสำหรับการรักษาในระดับที่ภพต้องการ เมื่อญาติๆ ของภพได้รับข่าวว่าหลานชายของพวกเขาถูกทำร้ายจนอาการสาหัส พวกเขาก็ไม่รอช้า รีบขอให้มีการย้ายตัวผู้ป่วยไปยังโรงพยาบาลใหญ่ในตัวเมืองซึ่งมีเครื่องมือและทีมแพทย์ที่พร้อมกว่ามาก หมอเพชรเข้าใจดีว่ามันเป็นทางเลือกที่ดีที่สุดแม้จะเป็นภาระหนักสำหรับแป้นก็ตามเขาช่วยจัดการเรื่องเอกสารการส่งตัวภพด้วยตัวเอง ทำเรื่องให้ทุกอย่างดำเนินไปอย่

  • เขาคนนั้นเหมือนใครคนหนึ่ง   เรื่องราว

    วันนี้เป็นอีกวันหยุดที่เขาพาน้องมาเล่นที่บ้านสวนแต่ความรู้สึกมันไม่เหมือนเดิม เสียงเอะอะโวยวายดังมาจากบ้าน หลุดลอดมาถึงสวนมะพร้าวที่พวกเขาอยู่ ภพชะงักและหันไปสบตากับกนกที่กำลังเล่นสนุกกันอยู่"พี่ภพ...เสียงอะไรน่ะ"ภพไม่ได้ตอบแต่เขารู้สึกไม่ดีเลย มันไม่ใช่เสียงทะเลาะเบาๆ หรือแค่ใครทำของหล่น มันดูรุนแรงกว่านั้น"ไปดูที่บ้านกัน" เขาตัดสินใจจูงมือน้องวิ่งกลับไปแต่เมื่อไปถึงภาพที่เห็นทำให้เขาแทบหยุดหายใจ เมื่อเห็นพ่อยืนอยู่กลางบ้าน เขาคนนั้นร่างกายผอมซูบกว่าเดิม ดวงตาแดงก่ำคล้ายคนที่ไม่ได้หลับมาหลายวัน เสื้อผ้ายับยู่ยี่เหมือนไม่ได้เปลี่ยนมาหลายวันด้วยซ้ำแต่สิ่งที่น่ากลัวกว่าทุกอย่างคือ พ่อกำลังยื้อแย่งอะไรบางอย่างจากมือแม่จนทำให้ข้าวของกระจัดกระจายเต็มพื้น โต๊ะเก้าอี้ล้มระเนระนาด"แม่!"ภพตะโกนสุดเสียงจนพ่อชะงัก แต่เพียงเสี้ยววินาทีเท่านั้นก่อนที่เขาจะหันขวับมาทางแม่อีกครั้ง"ทำไมไม่มี! เอาไปไว้ไหน! เงินมันอยู่ไหน!" พ่อตวาดใส่แม่เสียงดัง"ฉันไม่มีแล้ว! พอเถอะนะ!" เสียงแม่สั่นเครือแต่พ่อไม่ฟัง เขากระชากตัวแม่แรงขึ้นก่อนจะเริ่มลงมือ

  • เขาคนนั้นเหมือนใครคนหนึ่ง   พ่อ

    "เฮ้ย ไอ้ภพ มึงกลับบ้านกับเด็กนั่นทุกวันเลยเหรอวะ"เสียงแซวของเพื่อนในห้องดังขึ้น ขณะที่ภพกำลังนั่งเขียนอะไรบางอย่างอยู่ เขาเงยหน้าขึ้นมามองอย่างงุนงง"ทำไมหรอ?" เพื่อนยักไหล่ยิ้มเจ้าเล่ห์ก่อนจะว่าต่อ "ก็น้องชายมึงก็ไม่ใช่... มึงลองพามันไปบ้านมึงดิ๊"ภพหลุดหัวเราะเบาๆ พลางส่ายหน้า "มึงอยากให้กนกไปบ้านกูจริงดิ เดี๋ยวพ่อกูก็อาละวาดบ้านแตกหรอก""แม่มึงก็เก่งเนอะ อยู่กับพ่อมึงได้""แล้วกูไม่เก่งหรอวะที่อยู่กับพ่อแม่ได้""ไอ้เหี้ย มึงเป็นลูกมึงก็ต้องอยู่กับพ่อแม่ป่ะวะ""มั้ง..."เสียงหัวเราะเบาๆ ปะปนกับการพูดคุยเล่นกันในห้องเรียนแต่ภพกลับไม่ได้สนใจนัก เขาเพียงแต่เงียบลงเมื่อนึกถึงกนกเด็กน้อยที่มักจะรอเขากลับจากโรงเรียนทุกวัน มันเป็นเรื่องจริง... เพราะเส้นทางที่เขากลับบ้านผ่านสำนักงานสาธารณสุขตำบลพอดี ทุกเย็นน้าเพชรจะพากนกมาทำงานด้วย และกนกก็มักจะมาเล่นอยู่ที่สวนข้างสำนักงานรอให้ภพพากลับบ้านด้วยกัน มันเป็นแบบนี้มาเกือบสองเดือนแล้ว ตั้งแต่ที่พวกเขารู้จักกัน"พี่ภพ..."กนกน้อยจับเสื้อภพเขย่าเบาๆ ขณะที่พวกเขากำ

  • เขาคนนั้นเหมือนใครคนหนึ่ง   อดีต

    "เราจำตุ๊กตาตัวนี้ได้ไหม..."พี่ภพค่อยๆ หยิบตุ๊กตาตัวนั้นมาให้กนก ตุ๊กตาหมีสีเหลืองตัวเดิมผ้าขนหนูที่คลุมอยู่บนตักร่วงลงพื้น เขาหันหน้าหนีปิดตาแน่นไม่กล้ามองสิ่งที่ทำให้เขาหวาดกลัว มันเป็นอะไรที่เขาอธิบายไม่ได้แค่เห็นภาพนั้นกล้ามเนื้อก็เริ่มเกร็งหัวใจเต้นแรง และเริ่มหายใจหอบ“น้องกนก...” พี่ภพเรียกเบาๆ ด้วยน้ำเสียงกังวล กนกไม่ตอบจนพี่ภพรีบขึ้นไปบนเตียง โอบกอดน้องไว้แน่น“เราไม่ต้องกลัว...เราจะปลอดภัย”“ผะ...ผม...ผมไม่อยากเห็นมัน...” หอบถี่และหนักหน่วง สะท้อนถึงความหวาดหวั่นที่ก่อตัวขึ้นในอก มือที่กำเสื้อของพี่ภพไว้สั่นระริก ความอบอุ่นจากร่างกายของอีกฝ่ายเป็นสิ่งเดียวที่ช่วยยึดเหนี่ยวเขาไว้ในตอนนี้“เราจะไม่เป็นอะไร...พี่จะอยู่ข้างเรา...จะไม่มีใครทำอะไรเรา” เสียงกระซิบของพี่ภพนุ่มนวลและอบอุ่น ราวกับสายลมอ่อนที่พัดผ่านใจ เขาเผลอหลับตาลงปล่อยให้ถ้อยคำเหล่านั้นแทรกซึมเข้ามาอย่างแผ่วเบา มันเหมือนมีมนต์สะกดค่อยๆปลดเปลื้องความตึงเครียดในอกไปทีละนิด ลมหายใจที่เ

  • เขาคนนั้นเหมือนใครคนหนึ่ง   ความทรงจำที่ขาดหาย

    ผมพยายามไม่รอเขา...แต่ก็อดไม่ได้ที่จะเหลือบมองนาฬิกาบนมือถือทุกๆ สิบนาที ไม่ดูหรอก...ก็ตั้งใจอ่านหนังสือนิยายอยู่นะ วันนี้เป็นวันพักผ่อนหลังสอบ ควรจะผ่อนคลายสักหน่อย แต่ไม่รู้ทำไม ตัวหนังสือที่เคยสนุกกลับกลายเป็นแค่ตัวอักษรที่เรียงกันไม่มีความหมาย หรือว่าผมกำลัง...ก็อกๆ เสียงเคาะประตูดังขึ้น ผมรีบวิ่งไปเปิดประตูทันที ใจเต้นแรงเหมือนเด็กน้อยที่รอคอยของขวัญ แต่คนที่ยืนอยู่ตรงนั้นกลับไม่ใช่พี่ภพ..."คนเก่ง...ได้ท็อปเลยดิ ยังอ่านหนังสือทั้งที่วันนี้ก็วันศุกร์" มิวยืนอยู่หน้าประตู ยิ้มกว้างพร้อมกับชีทที่ถืออยู่ในมือผมพยักหน้าเล็กน้อย พยายามเก็บความรู้สึกผิดหวังไว้ในใจ "ทำไมวันนี้มาหาเรา...ลืมอะไรหรือเปล่า""ลืม...ลืมชีทที่เราให้แกวันติวไว้""อ้าว แล้วไม้โทรมาบอก" ผมถามด้วยน้ำเสียงที่พยายามให้เป็นปกติ"ก็ห้องอยู่แค่ชั้นเดียว เดินมาหากันก็ได้" มิวยักไหล่แล้วก็ส่งสายตามองผมอย่างสนใจ"...ไม่ใช่หรอ หรือแกมีอะไร""มีอะไรล่ะ ไม่มี"มิวหัวเราะเบาๆ "แล้วนี่ไม่กลัวแล้วหรอ...พี่ชายข้างบ้านยังมาหาอยู่ไหม""ก็มา

  • เขาคนนั้นเหมือนใครคนหนึ่ง   รัก

    ช่วงสอบปลายภาค พี่ภพแวะมาหาเขาเกือบทุกวัน บางวันก็ขอแวะมานอนด้วยโดยอ้างว่า "หอพี่แอร์เสีย" หรือ "อยากติวหนังสือเป็นเพื่อน" แต่กนกรู้ดีว่ามันเป็นเพียงข้ออ้างเพราะสุดท้ายแล้วพี่ภพก็ไม่ได้แตะหนังสือสักเท่าไหร่ มีแต่เขาส่วนพี่ภพก็นอนกลิ้งเล่นอยู่ข้างๆแรกๆ กนกยังรู้สึกเกร็งเวลาถูกพี่ภพจ้องมอง ทุกครั้งที่เงยหน้าขึ้นจากหนังสือเขามักจะพบสายตาอบอุ่นคู่นั้นมองอยู่เสมอเป็นสายตาที่ทำให้ใจเต้นแปลกๆราวกับว่าพี่ภพเห็นบางสิ่งในตัวเขาที่แม้แต่ตัวเขาเองก็ไม่เข้าใจ แต่เมื่อเวลาผ่านไป... ความรู้สึกพวกนั้นก็ค่อยๆจางหาย สายตาที่เคยหลบเลี่ยงหรืออาการประหม่าเมื่อต้องอยู่ใกล้พี่ภพเริ่มหายไปเช่นกันแทนที่ด้วย...ความสบายใจการมีพี่ภพอยู่ด้วยกลายเป็นเรื่องปกติของชีวิตประจำวัน ห้องที่เคยเงียบเหงาก็กลับมีเสียงพูดคุย เสียงหัวเราะและกลิ่นหอมของขนมที่พี่ภพชอบซื้อมาให้หัวใจที่เคยปิดกั้นเริ่มเปิดออกทีละนิด"ไงครับคนเก่ง วันนี้เป็นไงบ้าง เหนื่อยไหม?"เสียงทุ้มที่ฟังแล้วอบอุ่นเสมอดังขึ้นจากด้านหลัง กนกเงยหน้าขึ้นมองก่อนจะถอนหายใจยาว

  • เขาคนนั้นเหมือนใครคนหนึ่ง   เด็กชายคนนั้น

    ช่วงเวลาการสอบปลายภาคของปีหนึ่งผ่านไปอย่างแสนเหนื่อย เขาอดนอนมาหลายคืนเพื่ออ่านหนังสือทบทวนเนื้อหา ร่างกายอ่อนล้า แต่จิตใจกลับว้าวุ่นยิ่งกว่าเดิมหลังจากที่รู้ว่าคนแปลกหน้าที่เข้ามาในชีวิตไม่ใช่ผี และยังเป็นคนรู้จักกับแม่ ความหนักอึ้งในใจกลับเบาลงและรู้สึกปลอดภัยขึ้นโดยไม่รู้ตัวแต่สิ่งที่ทำให้เขาประหลาดใจยิ่งกว่านั้นคือ พี่ภพยังมาหาเขาเป็นประจำบางวันมาตอนบ่าย พร้อมกับขนมของว่างวางไว้บนโต๊ะเรียนของเขาบางวันมาตอนเย็น ยืนรออยู่หน้าหอพักด้วยสีหน้าเรียบเฉยแต่แววตากลับดูอ่อนโยน กนกพยายามปฏิเสธแต่สุดท้ายก็ต้องยอมรับ เพราะกลิ่นหอมๆ นั้นทำให้ท้องร้องทุกทีและบางคืน...ชายคนนั้นมาเพียงเพื่อบอก "ฝันดีนะ"เสียงทุ้มต่ำดังขึ้นพร้อมมืออุ่นที่ลูบเบาๆ บนศีรษะ กนกมักจ้องมองอีกฝ่ายด้วยความไม่เข้าใจ ทำไมถึงดูแลเขาขนาดนี้ แต่พอรู้ตัวอีกที หัวใจของเขาก็ไม่เคยรู้สึกโดดเดี่ยวเหมือนเมื่อก่อนแล้วแต่ที่ทำให้สับสนยิ่งกว่าคือ บางคืน...เขากลับเข้ามากอด อ้อมแขนนั้นแน่นหนา แข

  • เขาคนนั้นเหมือนใครคนหนึ่ง   พี่ภพ

    หลังจากที่กนกได้รู้ความจริงว่า คนที่เขาเจอในฝันที่เหมือนจริงมาตลอดคือ พี่ภพ พี่ชายข้างบ้านที่เขาลืมไปแล้ว ความทรงจำในวัยเด็กของเขาหายไปเหมือนกระดาษหน้าหนึ่งที่ถูกฉีกทิ้ง ทุกครั้งที่พยายามนึกย้อนก็มักจบลงด้วยความสับสนจนปวดหัวแต่ถึงแม้เขาจะไม่เข้าใจว่าทำไมพี่ภพถึงโผล่มาหาเขาแบบนี้ หรือเหตุผลอะไรที่ทำให้พี่ภพก้าวเข้ามาในชีวิตเขาอีกครั้ง…แต่สิ่งหนึ่งที่เขาสัมผัสได้คือ ความอบอุ่น เสมอเมื่ออยู่ในอ้อมกอดนั้นช่วงนี้ พี่ภพมาหาเขาทุกเย็น เอาของอร่อยมาให้ กนกก็มักจะรับมันมาด้วยท่าทางเก้ๆ กังๆ อาจเป็นเพราะยังไม่คุ้นเคย หรือเพราะเขายังไม่เข้าใจสถานะของพวกเขาในตอนนี้"เราแข็งแรงดีไหม?""ครับ""ช่วงนี้ใกล้สอบแล้วสินะ""ครับ""ขนมที่พี่ซื้อมาถูกใจไหม?""ครับ"กนกตอบรับสั้นๆ ทุกคำถามโดยแทบไม่ได้คิดอะไร แต่แล้วคำพูดต่อมาของพี่ภพกลับทำให้เขาสะดุด"เรานี่น่ารักเหมือนเมื่อก่อนเลยนะ"กนกเผลอชะงักไปเล็กน้อยก่อนจะรีบตอบ "คะ...ครับ?"

สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status