Share

เปลี่ยน

last update Last Updated: 2025-05-15 18:30:38

เสียงร้องไห้ของเด็กชายวัยห้าขวบดังสนั่นไปทั่วห้องพักพิเศษ เสียงนั้นแหลมสูงและเต็มไปด้วยความตื่นตระหนก ราวกับคนที่เพิ่งตื่นจากฝันร้ายที่กัดกินจิตใจไปนานแสนนาน พยาบาลที่เข้าเวรอยู่รีบกดโทรศัพท์ไปยังสำนักงานสาธารณสุขอำเภอเพื่อแจ้งข่าว

"คุณหมอเพชรคะ! ลูกชายคุณฟื้นแล้วค่ะ แต่เขาร้องไห้หนักมากจนตัวสั่น เราต้องการให้คุณมาดูแลด่วน"

ทันทีที่ได้รับโทรศัพท์ หมอเพชรรู้สึกเหมือนหัวใจหลุดออกจากอก "กนก...ลูกฟื้นแล้ว" เขาพึมพำกับตัวเองอย่างแทบไม่เชื่อหูเพราะลูกชายสลบไปถึงสามวันเขารีบคว้าโทรศัพท์โทรหาสามีที่ทำงานอยู่ในสวนมะพร้าว "คุณคะ กนกฟื้นแล้วค่ะ" น้ำเสียงของเขาสั่นไหว ทั้งดีใจ ทั้งเป็นห่วง

"เดี๋ยวผมไปเดี๋ยวนี้!" อีกฝ่ายตอบทันทีจากนั้น หมอเพชรก็รีบจัดการลางานเร่งด่วนและตรงดิ่งไปหาลูกโดยไม่รอช้า

ทว่าเมื่อไปถึง เขาก็พบว่ากนกยังคงร้องไห้ไม่หยุดร่างเล็กของลูกนอนอยู่บนเตียง แผ่นอกกระเพื่อมขึ้นลงอย่างรวดเร็วจากการสะอื้น ดวงตากลมโตเต็มไปด้วยความหวาดกลัว เสียงร้องของเขาสั่นระริก ไม่ใช่เพียงเพราะตกใจที่ตื่นขึ้นมาเจอสถานที่แปลกตา แต่เป็นเพราะสิ่งที่เขาเผชิญในความมืดตลอดสามวันที่ผ่านมา หมอและพยาบาลกำลังช่วยกันฉีดยาคลายเครียดให้เด็กชาย เพราะกนกอยู่ในสภาวะตื่นตระหนกหนักจนเกือบขาดอากาศหายใจ หมอแจ้งว่า ยาจะออกฤทธิ์ประมาณหนึ่งถึงสองชั่วโมง จากนั้นอาการของเขาน่าจะดีขึ้น

หมอเพชรยืนมองลูกอยู่ที่ปลายเตียง หัวใจบีบรัดแน่น

"กนก..." เขาเรียกชื่อเบาๆ ก่อนเดินเข้าไปช้าๆ นั่งลงข้างเตียงและเอื้อมมือไปลูบศีรษะลูกเบาๆ

ดวงตาของกนกที่เอ่อคลอไปด้วยน้ำตาค่อยๆ เหลือบขึ้นมามอง ก่อนจะสะอื้นออกมาอีกครั้งร่างเล็กๆ นั้นยังคงสั่นเทา หมอเพชรกดจูบเบาๆ ลงบนหน้าผากอุ่นของลูก ปล่อยให้ริมฝีปากสัมผัสกับผิวเนื้อของเด็กน้อยนานกว่าปกติ

"ตื่นขึ้นมาหาแม่กับพ่อนะลูก"

"หนูอยู่กับความมืดมานานเกินไปแล้ว"

"กลับมาหาความสดใสของโลกใบนี้ด้วยกันนะลูก"

เสียงของเขาอ่อนโยนราวกับกล่อมเด็กน้อยให้กลับคืนสู่โลกที่ปลอดภัยอีกครั้ง กนกกระพริบตาช้าๆ หายใจถี่ก่อนจะเริ่มสงบลง ราวกับคำพูดของพ่อค่อยๆ ละลายความหวาดกลัวลงทีละน้อย หมอเพชรยังคงลูบหัวลูกอย่างแผ่วเบา มองดูใบหน้าของลูกชายที่เปียกชื้นไปด้วยน้ำตา

ในใจของเขาเต็มไปด้วยความรู้สึกผิด ถ้าตอนนั้นเขาอยู่กับลูก... ถ้าเขาปกป้องลูกให้ดีกว่านี้... บางที กนกอาจจะไม่ต้องเผชิญกับความหวาดกลัวนี้เลยแต่ในตอนนี้... สิ่งเดียวที่เขาทำได้ คือกอดลูกเอาไว้ให้แน่นที่สุด

เสียงร้องไห้จ่าดังขึ้นหมอเพชรสะดุ้งตื่นทันทีที่ได้ยินเสียงสะอื้นของลูก รีบลุกจากเก้าอี้ข้างเตียงแล้วตรงไปหากนก เด็กชายตัวเล็กที่เพิ่งฟื้นจากความมืดมน ยังคงตัวสั่นเทา ดวงตาแดงก่ำ เต็มไปด้วยความหวาดกลัว

"แม่... ฮึก... แม่..." กนกร้องเรียกซ้ำๆ มือเล็กกำเสื้อโรงพยาบาลแน่น ร่างกายสั่นสะท้านไม่หยุด

หมอเพชรน้ำตาคลอ รีบโอบกอดลูกไว้แน่น "แม่อยู่นี่แล้วครับลูก... ไม่ต้องกลัวนะ"

เสียงร้องไห้ของกนกดังสะท้อนอยู่ในห้องพักพิเศษ สักพักหนึ่ง พ่อของเขาก็เปิดประตูเข้ามาอย่างเร่งรีบ เมื่อเห็นลูกชายอยู่ในอ้อมกอดของแม่ น้ำตาที่กลั้นไว้มาตลอดก็ไหลลงอาบแก้ม

"กนก...พ่ออยู่นี่แล้วลูก"

พ่อทรุดตัวลงข้างเตียง โอบกอดทั้งหมอเพชรและลูกชายไว้แน่น กนกสะอื้นไห้แล้วซุกหน้าลงบนไหล่ของพ่อ มือเล็กๆ กำเสื้อของพ่อไว้ราวกับกลัวว่าหากปล่อยมือ ทุกอย่างจะหายไป

"ปลอดภัยแล้วนะลูก...ไม่ต้องกลัวแล้ว" พ่อกระซิบเสียงสั่น พลางลูบหลังปลอบโยน

เมื่อกนกเริ่มสงบลงเล็กน้อย เด็กน้อยค่อยๆ ถอนตัวออกจากอ้อมกอด ดวงตากลมโตที่เอ่อคลอไปด้วยน้ำตามองไปรอบๆ อย่างสับสน

"ที่นี่...ที่ไหนครับ?" เสียงแหบแห้งของเด็กชายเปล่งออกมาพร้อมกับลมหายใจสั่นๆ

"โรงพยาบาลครับลูก" หมอเพชรตอบพลางลูบผมลูกเบาๆ

"แล้ว...กนกมาทำอะไรที่นี่?"

คำถามนั้นทำให้หมอเพชรกับสามีสบตากัน ก่อนที่หมอเพชรจะเอ่ยออกมาอย่างระมัดระวัง

"กนก...จำไม่ได้เหรอครับ?"

เด็กชายขมวดคิ้วเล็กน้อย พยายามนึกทบทวน

แต่เพียงเสี้ยววินาทีหลังจากนั้น เขาก็ร้องออกมาด้วยความเจ็บปวด

"อ๊า!"

มือเล็กคว้าหัวของตัวเองแน่น ดวงตาเบิกกว้าง ความปวดแล่นพล่านไปทั่วศีรษะ เขาสะอื้นไห้ หายใจติดขัดเหมือนคนที่กำลังจมลงไปในบางสิ่งที่ไม่อาจควบคุมได้

"ลูก! ใจเย็นๆ ลูก!" หมอเพชรรีบโอบกอด ลูบหลังและพยายามปลอบประโลม ขณะที่สามีของเธอรีบลุกขึ้นไปกดปุ่มเรียกพยาบาล

พยาบาลเข้ามาฉีดยาคลายเครียดให้กนก อาการกระสับกระส่ายค่อยๆ สงบลง จนในที่สุด เด็กชายก็หลับไปอีกครั้ง

หลังจากที่กนกหลับไปแล้ว หมอเพชรและสามีเดินออกมาพบแพทย์เจ้าของไข้ สีหน้าของทั้งคู่เต็มไปด้วยความกังวล

"หมอคะ อาการของลูกเป็นยังไงกันแน่?" หมอเพชรเอ่ยถาม

แพทย์ถอนหายใจเบาๆ ก่อนอธิบาย "จากอาการของน้องกนก มีความเป็นไปได้ว่าสมองอาจได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เราอาจต้องตรวจสอบเพิ่มเติมว่ามีการกระทบกระเทือนของสมองหรือไม่ และยังต้องประเมินเรื่องความทรงจำว่าอาการแบบนี้เกิดจากปัจจัยทางร่างกาย หรือเป็นการตอบสนองทางจิตใจที่ทำให้เขาลืมสิ่งที่เกิดขึ้น"

หมอเพชรนิ่งไปครู่หนึ่ง ก่อนพยักหน้า "ตรวจเลยค่ะ เราอยากให้ลูกปลอดภัย และไม่อยากให้เขาต้องเผชิญกับความทุกข์นี้เพียงลำพัง" สามีของเธอกุมมือของหมอเพชรแน่น แสดงถึงความหนักแน่นในการตัดสินใจ

แพทย์พยักหน้ารับ "ถ้าอย่างนั้น เราจะเตรียมตรวจ MRI และประเมินด้านจิตเวชเพิ่มเติมนะครับ" หมอเพชรมองไปยังห้องพักของลูก เธอรู้ว่าเส้นทางข้างหน้ายังอีกยาวไกล แต่ไม่ว่ายังไง...เธอจะไม่มีวันปล่อยให้ลูกเผชิญหน้ากับมันเพียงลำพัง

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • เขาคนนั้นเหมือนใครคนหนึ่ง   ไม่สมบูรณ์แต่เข้าใจ

    หน้าบ้านหลังเล็กที่เงียบงัน มีเพียงเสียงสะอื้นปะปนกับเสียงลมอ่อน ๆ ที่พัดผ่านราวกับโลกทั้งใบหยุดหมุน ปล่อยให้มีเพียงสองร่างในอ้อมกอดกันแน่นอยู่กลางห้วงเวลาอันแสนเจ็บปวด ภพกอดร่างของกนกแน่น รู้สึกได้ถึงแรงสั่นจากการร้องไห้ที่ไม่มีทีท่าจะหยุดลงง่าย ๆ น้ำตาของคนน้องเปียกเสื้อเขาจนชื้น และแรงกอดของกนกก็เหมือนเป็นการยึดเหนี่ยวสุดท้ายไว้กับความจริง“ฮึก… พี่ภพ… มันเจ็บ…” เสียงสะอื้นแผ่วเบารอดออกจากริมฝีปากสั่น“ไม่เป็นไรแล้ว…” ภพกระซิบเบา ๆ มือใหญ่ลูบหลังคนน้องอย่างอ่อนโยน“พี่อยู่นี่แล้ว ไม่มีใครทำร้ายกนกได้อีกแล้วนะ…”กนกส่ายหน้าเล็กน้อย ซุกหน้าลงที่ไหล่กว้าง เสียงร้องไห้เปลี่ยนเป็นสะอื้นอย่างทรมาน“มันย้อนกลับมา… ภาพพวกนั้น… ตอนเด็ก… ทำไมถึงลืมมันไปได้ ฮึก… ทำไมถึงเพิ่งจำได้ตอนนี้…”“ไม่ต้องโทษตัวเองนะคนเก่ง…” ภพก้มลงจูบผมนิ่ม ๆ ซับน้ำตาที่เปื้อนแก้มเนียนด้วยความอดทนที

  • เขาคนนั้นเหมือนใครคนหนึ่ง   เผชิญหน้า

    วันนี้พี่ภพชวนผมออกจากบ้านตั้งแต่เช้า อากาศสดชื่นกว่าทุกวัน หรือบางทีอาจเป็นเพราะวันนี้พี่ภพอยู่ข้าง ๆเราไปเดินชมสวนดอกไม้ด้วยกัน แสงแดดอ่อน ๆ ทาบลงบนทุ่งกว้างที่เต็มไปด้วยสีสันของดอกไม้ที่กำลังผลิบาน นี่เป็นครั้งแรกที่เราถ่ายรูปคู่กัน พี่ภพยิ้มให้กล้อง ผมเองก็ยิ้มตามไปโดยไม่รู้ตัวแปลกดีนะ… ทำไมตอนนี้ผมรู้สึกว่ารอยยิ้มของพี่ภพเป็นเหมือนบ้านช่วงบ่าย พี่ภพบอกว่าจะพาผมไปในสถานที่แห่งหนึ่ง "สถานที่แห่งความทรงจำ"ผมไม่ได้ถามว่ามันคือที่ไหน เพราะสิ่งเดียวที่พี่ภพบอกผมก็คือ—"จับมือพี่ไว้แน่น ๆ นะ"และช่วงนี้ ผมกล้าจับมือพี่ภพแล้วด้วยเรานั่งรถมาด้วยกัน ข้างทางเริ่มคุ้นตาขึ้นเรื่อย ๆ ผมคิดว่าเรากำลังเดินทางกลับไปที่บ้านพี่ภพแต่พอรถเลี้ยวเข้าเส้นทางเล็ก ๆ ผมกลับรู้สึกได้ถึงอะไรบางอย่างที่ทำให้หัวใจเต้นแรงขึ้นอย่างประหลาดมันไม่ใช่บ้านของพี่ภพ แต่เป็นบ้านเก่าหลังนึงที่สภาพดี แต่ไม่มีใครอยู่แล้ว เมื่อก้าวลงจากรถ ผมรู้สึกเหมือนถูกสายลมที่มองไม่เห็นกระแทกเข้ามาเต็มแรงลมพัดเอื่อย

  • เขาคนนั้นเหมือนใครคนหนึ่ง   ความสุข

    ในห้วงเวลาอบอุ่นช่วงปิดเทอมผ่านไปอย่างรวดเร็ว กนกอยู่บ้านมาหลายสัปดาห์แล้ว พี่ภพเองก็ติดโปรเจกต์ปีสุดท้ายและกำลังเตรียมตัวเข้าสู่ชีวิตการทำงาน ทำให้เราไม่ได้เจอกันบ่อยนัก มีเพียงข้อความสั้นๆ ที่ส่งหากันเป็นระยะจนกระทั่งวันนี้พี่ภพมาหาน้าแป้น และทักมาหาเขา"วันนี้มาหาพี่หน่อย อยู่เป็นเพื่อนตอนทำงานได้ไหม?"กนกอ่านข้อความแล้วบอกแม่ว่าจะออกไปข้างนอกกับพี่ภพ เมื่อเจอกัน เราทานมื้อเที่ยงด้วยกัน ก่อนที่พี่ภพจะขับรถพาเขาไปยังห้องพักบรรยากาศภายในรถเงียบสงบ มีเพียงเสียงเพลงบรรเลงคลอแผ่วเบา อากาศเย็นกำลังดีทำให้รู้สึกสบายใจ กนกไม่ได้ถามว่าทำไมพี่ภพถึงพาเขามาที่ห้องพัก—เขาแค่ไว้ใจคอนโดของพี่ภพอยู่ไม่ไกลจากหอในของเขานัก เป็นห้องขนาดกว้าง แบ่งพื้นที่ใช้สอยอย่างเป็นระเบียบ พื้นที่ครัวเล็กๆ อยู่มุมหนึ่ง ห้องนอนเชื่อมกับพื้นที่ทำงาน เตียงกว้างและดูนุ่มมาก"เราจะนั่งอ่านหนังสือที่เตียงพี่ก็ได้นะ ถ้าง่วงก็นอนได้เลย""ครับ"กนกตอบรับโดยไม่ถามอะไร เขาหยิบหนังสือนิยายขึ้นมาเปิด แต่ในใจก็แอบสงสัยว่าพี่ภพให้มาอยู่เป็นเพื่อน หรือแค่ต้

  • เขาคนนั้นเหมือนใครคนหนึ่ง   ครอบครัว

    "อ้อมกอดของแม่"คืนนี้เงียบสงบกว่าทุกคืน ลมหายใจของกนกอุ่นขึ้นเมื่อนอนอยู่ข้างแม่ อ้อมกอดที่คุ้นเคยทำให้เขารู้สึกปลอดภัย ราวกับได้ย้อนกลับไปเป็นเด็กตัวเล็กๆ อีกครั้ง"วันนี้แม่ขอนอนกับลูกชายคนโปรดได้ไหมครับ?""ได้ครับแม่"กนกขยับตัวให้แม่เข้ามาใต้ผ้าห่มอุ่นๆ พอเพชรล้มตัวลงนอน กนกก็รีบซุกตัวเข้าหาแม่ทันที โอบกอดแน่นราวกับไม่อยากให้เวลานี้ผ่านไปเพชรหัวเราะเบาๆ ก่อนจะลูบผมลูกชายอย่างอ่อนโยน "เป็นยังไงบ้างลูก ปีแรกในมหาวิทยาลัย เหนื่อยไหม?""เหนื่อยครับ แต่ก็สนุกมากด้วย""เรียนยากไหม?""ก็ยากนิดหน่อยครับ แต่ยังดีที่มีมิวช่วยติวให้ มิวเก่งมากเลยครับแม่""ดีจังเลย แม่จำได้ว่าลูกเล่าเรื่องมิวให้ฟังบ่อยๆ แล้วหนูพราวล่ะ เป็นไงบ้าง?""พราวก็ยังตลกเหมือนเดิมเลยครับแม่ ถ้าผมเครียดๆ เบื่อๆ พราวนี่แหละที่ทำให้ผมยิ้มได้""ดีแล้วล่ะลูก มีเพื่อนดีก็ช่วยกันประคองไปนะ มีอะไรให้แม่ช่วยก็บอกได้ อย่าเก็บไว้คนเดียว"กนกพยักหน้ารับ แล้วเงียบไปครู่หนึ่งเพชรมองลูกชายด้วยสายตาอ่อนโยน ก่อนจะถามสิ่งที่ค้างคาใจ "แล้วพี่ภ

  • เขาคนนั้นเหมือนใครคนหนึ่ง   กำลังใจของกันและกัน

    หลังจากนั้นพบรักก็พากนกกลับบ้าน เด็กหนุ่มเดินเข้าบ้านพร้อมความรู้สึกที่อบอุ่น แม้จะมีความหวาดกลัวและกังวลบางอย่างยังค้างอยู่ในใจ แต่การมีพี่ภพอยู่เคียงข้าง คอยโอบกอด คอยปลอบโยน ทำให้เขารู้สึกว่า… ไม่ได้เผชิญทุกอย่างเพียงลำพังและยิ่งรู้สึก… ชอบพี่ภพมากขึ้นทุกวันวันนี้ดูเหมือนว่าเขาจะใช้พลังไปเยอะ ทั้งร่างกายและหัวใจเลยเหนื่อยล้าเต็มที กนกหยิบหนังสือนิยายขึ้นมา หวังว่าจะอ่านเล่นสักหน่อยก่อนจะหลับไปแต่ก่อนที่เปลือกตาจะหนักอึ้ง มือถือก็สั่นเบา ๆ แจ้งเตือนข้อความจาก LINEพี่ภพ: “นอนหรือยังครับ”กนก: “กนกจะอ่านหนังสือนิยายสักหน่อย แล้วก็คงจะนอนแล้วครับ”พี่ภพ: “นอนไวจัง เพิ่งสามทุ่มเอง”กนกหลุดยิ้มน้อย ๆ ก่อนจะพิมพ์ตอบกลับกนก: “พี่ภพมีอะไรหรือเปล่าครับ”พี่ภพ: “พี่เหนื่อยนิดหน่อย พอดีส่งงานให้ลูกค้าอยู่ กำลังปั่นงานเลย”กนก: “วันนี้พี่ภพกลับไปในเมืองหรอครับ”

  • เขาคนนั้นเหมือนใครคนหนึ่ง   สวนมะพร้าวบ้านพี่ภพ

    เพชรมองหน้าลูกชายตัวน้อยที่กำลังยิ้มกับโทรศัพท์ รอยยิ้มเล็ก ๆ ที่เจ้าตัวอาจไม่รู้ตัวด้วยซ้ำว่าแสดงออกมา“ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่อะไรกันครับ คุณกนกของแม่?”กนกสะดุ้งเงยหน้าขึ้น ก่อนจะรีบปฏิเสธเสียงอ้อมแอ้ม “ยิ้มอะไรกันล่ะครับ แม่คิดไปเอง กนกไม่ได้ยิ้มสักหน่อย”เพชรหัวเราะเบา ๆ “ก็เห็นยิ้มกับโทรศัพท์ไง”เด็กหนุ่มเม้มปาก หันไปมองหน้าจออีกครั้ง ก่อนจะยอมรับเสียงเบา “ก็...พี่ภพ LINE มาบอกนะครับว่าอยู่บ้านตัวเองแล้ว”“อ้อ”“แต่ไม่รู้ว่าอยู่ตรงไหน กนกก็ไม่เคยเห็นเหมือนกัน” เจ้าตัวพูดต่อ “แต่ว่าพี่เขาบอกว่าบ้านอยู่ใกล้ ๆ บ้านเราตรงนี้นี่เอง”เพชรพยักหน้ารับรู้ ไม่ได้พูดอะไรต่อ แต่แววตายังคงมองสำรวจลูกชายของตัวเอง“วันนี้เขาจะมาหาหรือเปล่า?”“พี่ภพเหรอครับ?”“จ้ะ”“เห็นบอกว่าวันนี้จะพาไปเที่ยวสวนมะพร้าวเล็ก ๆ”เพชรเลิกคิ้วเล็กน้อย “สวนมะพร้าว?”กนกพยักหน

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status