Share

เปลี่ยน

last update Last Updated: 2025-05-15 18:30:38

เสียงร้องไห้ของเด็กชายวัยห้าขวบดังสนั่นไปทั่วห้องพักพิเศษ เสียงนั้นแหลมสูงและเต็มไปด้วยความตื่นตระหนก ราวกับคนที่เพิ่งตื่นจากฝันร้ายที่กัดกินจิตใจไปนานแสนนาน พยาบาลที่เข้าเวรอยู่รีบกดโทรศัพท์ไปยังสำนักงานสาธารณสุขอำเภอเพื่อแจ้งข่าว

"คุณหมอเพชรคะ! ลูกชายคุณฟื้นแล้วค่ะ แต่เขาร้องไห้หนักมากจนตัวสั่น เราต้องการให้คุณมาดูแลด่วน"

ทันทีที่ได้รับโทรศัพท์ หมอเพชรรู้สึกเหมือนหัวใจหลุดออกจากอก "กนก...ลูกฟื้นแล้ว" เขาพึมพำกับตัวเองอย่างแทบไม่เชื่อหูเพราะลูกชายสลบไปถึงสามวันเขารีบคว้าโทรศัพท์โทรหาสามีที่ทำงานอยู่ในสวนมะพร้าว "คุณคะ กนกฟื้นแล้วค่ะ" น้ำเสียงของเขาสั่นไหว ทั้งดีใจ ทั้งเป็นห่วง

"เดี๋ยวผมไปเดี๋ยวนี้!" อีกฝ่ายตอบทันทีจากนั้น หมอเพชรก็รีบจัดการลางานเร่งด่วนและตรงดิ่งไปหาลูกโดยไม่รอช้า

ทว่าเมื่อไปถึง เขาก็พบว่ากนกยังคงร้องไห้ไม่หยุดร่างเล็กของลูกนอนอยู่บนเตียง แผ่นอกกระเพื่อมขึ้นลงอย่างรวดเร็วจากการสะอื้น ดวงตากลมโตเต็มไปด้วยความหวาดกลัว เสียงร้องของเขาสั่นระริก ไม่ใช่เพียงเพราะตกใจที่ตื่นขึ้นมาเจอสถานที่แปลกตา แต่เป็นเพราะสิ่งที่เขาเผชิญในความมืดตลอดสามวันที่ผ่านมา หมอและพยาบาลกำลังช่วยกันฉีดยาคลายเครียดให้เด็กชาย เพราะกนกอยู่ในสภาวะตื่นตระหนกหนักจนเกือบขาดอากาศหายใจ หมอแจ้งว่า ยาจะออกฤทธิ์ประมาณหนึ่งถึงสองชั่วโมง จากนั้นอาการของเขาน่าจะดีขึ้น

หมอเพชรยืนมองลูกอยู่ที่ปลายเตียง หัวใจบีบรัดแน่น

"กนก..." เขาเรียกชื่อเบาๆ ก่อนเดินเข้าไปช้าๆ นั่งลงข้างเตียงและเอื้อมมือไปลูบศีรษะลูกเบาๆ

ดวงตาของกนกที่เอ่อคลอไปด้วยน้ำตาค่อยๆ เหลือบขึ้นมามอง ก่อนจะสะอื้นออกมาอีกครั้งร่างเล็กๆ นั้นยังคงสั่นเทา หมอเพชรกดจูบเบาๆ ลงบนหน้าผากอุ่นของลูก ปล่อยให้ริมฝีปากสัมผัสกับผิวเนื้อของเด็กน้อยนานกว่าปกติ

"ตื่นขึ้นมาหาแม่กับพ่อนะลูก"

"หนูอยู่กับความมืดมานานเกินไปแล้ว"

"กลับมาหาความสดใสของโลกใบนี้ด้วยกันนะลูก"

เสียงของเขาอ่อนโยนราวกับกล่อมเด็กน้อยให้กลับคืนสู่โลกที่ปลอดภัยอีกครั้ง กนกกระพริบตาช้าๆ หายใจถี่ก่อนจะเริ่มสงบลง ราวกับคำพูดของพ่อค่อยๆ ละลายความหวาดกลัวลงทีละน้อย หมอเพชรยังคงลูบหัวลูกอย่างแผ่วเบา มองดูใบหน้าของลูกชายที่เปียกชื้นไปด้วยน้ำตา

ในใจของเขาเต็มไปด้วยความรู้สึกผิด ถ้าตอนนั้นเขาอยู่กับลูก... ถ้าเขาปกป้องลูกให้ดีกว่านี้... บางที กนกอาจจะไม่ต้องเผชิญกับความหวาดกลัวนี้เลยแต่ในตอนนี้... สิ่งเดียวที่เขาทำได้ คือกอดลูกเอาไว้ให้แน่นที่สุด

เสียงร้องไห้จ่าดังขึ้นหมอเพชรสะดุ้งตื่นทันทีที่ได้ยินเสียงสะอื้นของลูก รีบลุกจากเก้าอี้ข้างเตียงแล้วตรงไปหากนก เด็กชายตัวเล็กที่เพิ่งฟื้นจากความมืดมน ยังคงตัวสั่นเทา ดวงตาแดงก่ำ เต็มไปด้วยความหวาดกลัว

"แม่... ฮึก... แม่..." กนกร้องเรียกซ้ำๆ มือเล็กกำเสื้อโรงพยาบาลแน่น ร่างกายสั่นสะท้านไม่หยุด

หมอเพชรน้ำตาคลอ รีบโอบกอดลูกไว้แน่น "แม่อยู่นี่แล้วครับลูก... ไม่ต้องกลัวนะ"

เสียงร้องไห้ของกนกดังสะท้อนอยู่ในห้องพักพิเศษ สักพักหนึ่ง พ่อของเขาก็เปิดประตูเข้ามาอย่างเร่งรีบ เมื่อเห็นลูกชายอยู่ในอ้อมกอดของแม่ น้ำตาที่กลั้นไว้มาตลอดก็ไหลลงอาบแก้ม

"กนก...พ่ออยู่นี่แล้วลูก"

พ่อทรุดตัวลงข้างเตียง โอบกอดทั้งหมอเพชรและลูกชายไว้แน่น กนกสะอื้นไห้แล้วซุกหน้าลงบนไหล่ของพ่อ มือเล็กๆ กำเสื้อของพ่อไว้ราวกับกลัวว่าหากปล่อยมือ ทุกอย่างจะหายไป

"ปลอดภัยแล้วนะลูก...ไม่ต้องกลัวแล้ว" พ่อกระซิบเสียงสั่น พลางลูบหลังปลอบโยน

เมื่อกนกเริ่มสงบลงเล็กน้อย เด็กน้อยค่อยๆ ถอนตัวออกจากอ้อมกอด ดวงตากลมโตที่เอ่อคลอไปด้วยน้ำตามองไปรอบๆ อย่างสับสน

"ที่นี่...ที่ไหนครับ?" เสียงแหบแห้งของเด็กชายเปล่งออกมาพร้อมกับลมหายใจสั่นๆ

"โรงพยาบาลครับลูก" หมอเพชรตอบพลางลูบผมลูกเบาๆ

"แล้ว...กนกมาทำอะไรที่นี่?"

คำถามนั้นทำให้หมอเพชรกับสามีสบตากัน ก่อนที่หมอเพชรจะเอ่ยออกมาอย่างระมัดระวัง

"กนก...จำไม่ได้เหรอครับ?"

เด็กชายขมวดคิ้วเล็กน้อย พยายามนึกทบทวน

แต่เพียงเสี้ยววินาทีหลังจากนั้น เขาก็ร้องออกมาด้วยความเจ็บปวด

"อ๊า!"

มือเล็กคว้าหัวของตัวเองแน่น ดวงตาเบิกกว้าง ความปวดแล่นพล่านไปทั่วศีรษะ เขาสะอื้นไห้ หายใจติดขัดเหมือนคนที่กำลังจมลงไปในบางสิ่งที่ไม่อาจควบคุมได้

"ลูก! ใจเย็นๆ ลูก!" หมอเพชรรีบโอบกอด ลูบหลังและพยายามปลอบประโลม ขณะที่สามีของเธอรีบลุกขึ้นไปกดปุ่มเรียกพยาบาล

พยาบาลเข้ามาฉีดยาคลายเครียดให้กนก อาการกระสับกระส่ายค่อยๆ สงบลง จนในที่สุด เด็กชายก็หลับไปอีกครั้ง

หลังจากที่กนกหลับไปแล้ว หมอเพชรและสามีเดินออกมาพบแพทย์เจ้าของไข้ สีหน้าของทั้งคู่เต็มไปด้วยความกังวล

"หมอคะ อาการของลูกเป็นยังไงกันแน่?" หมอเพชรเอ่ยถาม

แพทย์ถอนหายใจเบาๆ ก่อนอธิบาย "จากอาการของน้องกนก มีความเป็นไปได้ว่าสมองอาจได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เราอาจต้องตรวจสอบเพิ่มเติมว่ามีการกระทบกระเทือนของสมองหรือไม่ และยังต้องประเมินเรื่องความทรงจำว่าอาการแบบนี้เกิดจากปัจจัยทางร่างกาย หรือเป็นการตอบสนองทางจิตใจที่ทำให้เขาลืมสิ่งที่เกิดขึ้น"

หมอเพชรนิ่งไปครู่หนึ่ง ก่อนพยักหน้า "ตรวจเลยค่ะ เราอยากให้ลูกปลอดภัย และไม่อยากให้เขาต้องเผชิญกับความทุกข์นี้เพียงลำพัง" สามีของเธอกุมมือของหมอเพชรแน่น แสดงถึงความหนักแน่นในการตัดสินใจ

แพทย์พยักหน้ารับ "ถ้าอย่างนั้น เราจะเตรียมตรวจ MRI และประเมินด้านจิตเวชเพิ่มเติมนะครับ" หมอเพชรมองไปยังห้องพักของลูก เธอรู้ว่าเส้นทางข้างหน้ายังอีกยาวไกล แต่ไม่ว่ายังไง...เธอจะไม่มีวันปล่อยให้ลูกเผชิญหน้ากับมันเพียงลำพัง

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • เขาคนนั้นเหมือนใครคนหนึ่ง   เปลี่ยน

    เสียงร้องไห้ของเด็กชายวัยห้าขวบดังสนั่นไปทั่วห้องพักพิเศษ เสียงนั้นแหลมสูงและเต็มไปด้วยความตื่นตระหนก ราวกับคนที่เพิ่งตื่นจากฝันร้ายที่กัดกินจิตใจไปนานแสนนาน พยาบาลที่เข้าเวรอยู่รีบกดโทรศัพท์ไปยังสำนักงานสาธารณสุขอำเภอเพื่อแจ้งข่าว"คุณหมอเพชรคะ! ลูกชายคุณฟื้นแล้วค่ะ แต่เขาร้องไห้หนักมากจนตัวสั่น เราต้องการให้คุณมาดูแลด่วน"ทันทีที่ได้รับโทรศัพท์ หมอเพชรรู้สึกเหมือนหัวใจหลุดออกจากอก "กนก...ลูกฟื้นแล้ว" เขาพึมพำกับตัวเองอย่างแทบไม่เชื่อหูเพราะลูกชายสลบไปถึงสามวันเขารีบคว้าโทรศัพท์โทรหาสามีที่ทำงานอยู่ในสวนมะพร้าว "คุณคะ กนกฟื้นแล้วค่ะ" น้ำเสียงของเขาสั่นไหว ทั้งดีใจ ทั้งเป็นห่วง"เดี๋ยวผมไปเดี๋ยวนี้!" อีกฝ่ายตอบทันทีจากนั้น หมอเพชรก็รีบจัดการลางานเร่งด่วนและตรงดิ่งไปหาลูกโดยไม่รอช้าทว่าเมื่อไปถึง เขาก็พบว่ากนกยังคงร้องไห้ไม่หยุดร่างเล็กของลูกนอนอยู่บนเตียง แผ่นอกกระเพื่อมขึ้นลงอย่างรวดเร็วจากการสะอื้น ดวงตากลมโตเต็มไปด้วยความหวาดกลัว เสียงร้องของเขาสั่นระริก ไม่ใช่เพียงเพราะตกใจที่ตื่นขึ้นมาเจอสถานที่แปลกตา แต่เป็นเพราะสิ่งที่เขาเผชิญในความมืดตลอดสามวันที

  • เขาคนนั้นเหมือนใครคนหนึ่ง   ช่วงเวลาของเราสองคน

    ช่วงสองสามวันที่ผ่านมา หมอเพชรเดินเข้าออกโรงพยาบาลเป็นว่าเล่น ความเหนื่อยล้าเริ่มก่อตัวจนรู้สึกเหมือนร่างกายหนักอึ้ง แต่เขาก็ไม่มีเวลาจะสนใจมัน เพราะเรื่องราวทุกอย่างกลับไม่ได้ง่ายอย่างที่คิด ตอนแรกเขาเชื่อว่า เมื่อทุกอย่างถึงมือหมอน่าจะคลี่คลายไปในทางที่ดีขึ้นแต่มันกลับผิดไปจากที่คาดไว้มาก ลูกชายของเขา กนกหมดสติไปมากกว่าหนึ่งวันแล้วและจนถึงตอนนี้ก็ยังไม่มีวี่แววว่าจะฟื้น ดวงตาของเขายังคงปิดสนิท ร่างกายดูสงบเกินไปจนหมอเพชรรู้สึกหวั่นใจส่วนภพ อาการของเขาหนักกว่ามาก กระดูกบริเวณใบหน้าหักจากแรงกระแทกและยังมีอาการบวมช้ำภายใน แพทย์ต้องเฝ้าระวังอาการอย่างใกล้ชิดแต่ปัญหาคือเครื่องมือของโรงพยาบาลแห่งนี้ไม่พร้อมพอสำหรับการรักษาในระดับที่ภพต้องการ เมื่อญาติๆ ของภพได้รับข่าวว่าหลานชายของพวกเขาถูกทำร้ายจนอาการสาหัส พวกเขาก็ไม่รอช้า รีบขอให้มีการย้ายตัวผู้ป่วยไปยังโรงพยาบาลใหญ่ในตัวเมืองซึ่งมีเครื่องมือและทีมแพทย์ที่พร้อมกว่ามาก หมอเพชรเข้าใจดีว่ามันเป็นทางเลือกที่ดีที่สุดแม้จะเป็นภาระหนักสำหรับแป้นก็ตามเขาช่วยจัดการเรื่องเอกสารการส่งตัวภพด้วยตัวเอง ทำเรื่องให้ทุกอย่างดำเนินไปอย่

  • เขาคนนั้นเหมือนใครคนหนึ่ง   เรื่องราว

    วันนี้เป็นอีกวันหยุดที่เขาพาน้องมาเล่นที่บ้านสวนแต่ความรู้สึกมันไม่เหมือนเดิม เสียงเอะอะโวยวายดังมาจากบ้าน หลุดลอดมาถึงสวนมะพร้าวที่พวกเขาอยู่ ภพชะงักและหันไปสบตากับกนกที่กำลังเล่นสนุกกันอยู่"พี่ภพ...เสียงอะไรน่ะ"ภพไม่ได้ตอบแต่เขารู้สึกไม่ดีเลย มันไม่ใช่เสียงทะเลาะเบาๆ หรือแค่ใครทำของหล่น มันดูรุนแรงกว่านั้น"ไปดูที่บ้านกัน" เขาตัดสินใจจูงมือน้องวิ่งกลับไปแต่เมื่อไปถึงภาพที่เห็นทำให้เขาแทบหยุดหายใจ เมื่อเห็นพ่อยืนอยู่กลางบ้าน เขาคนนั้นร่างกายผอมซูบกว่าเดิม ดวงตาแดงก่ำคล้ายคนที่ไม่ได้หลับมาหลายวัน เสื้อผ้ายับยู่ยี่เหมือนไม่ได้เปลี่ยนมาหลายวันด้วยซ้ำแต่สิ่งที่น่ากลัวกว่าทุกอย่างคือ พ่อกำลังยื้อแย่งอะไรบางอย่างจากมือแม่จนทำให้ข้าวของกระจัดกระจายเต็มพื้น โต๊ะเก้าอี้ล้มระเนระนาด"แม่!"ภพตะโกนสุดเสียงจนพ่อชะงัก แต่เพียงเสี้ยววินาทีเท่านั้นก่อนที่เขาจะหันขวับมาทางแม่อีกครั้ง"ทำไมไม่มี! เอาไปไว้ไหน! เงินมันอยู่ไหน!" พ่อตวาดใส่แม่เสียงดัง"ฉันไม่มีแล้ว! พอเถอะนะ!" เสียงแม่สั่นเครือแต่พ่อไม่ฟัง เขากระชากตัวแม่แรงขึ้นก่อนจะเริ่มลงมือ

  • เขาคนนั้นเหมือนใครคนหนึ่ง   พ่อ

    "เฮ้ย ไอ้ภพ มึงกลับบ้านกับเด็กนั่นทุกวันเลยเหรอวะ"เสียงแซวของเพื่อนในห้องดังขึ้น ขณะที่ภพกำลังนั่งเขียนอะไรบางอย่างอยู่ เขาเงยหน้าขึ้นมามองอย่างงุนงง"ทำไมหรอ?" เพื่อนยักไหล่ยิ้มเจ้าเล่ห์ก่อนจะว่าต่อ "ก็น้องชายมึงก็ไม่ใช่... มึงลองพามันไปบ้านมึงดิ๊"ภพหลุดหัวเราะเบาๆ พลางส่ายหน้า "มึงอยากให้กนกไปบ้านกูจริงดิ เดี๋ยวพ่อกูก็อาละวาดบ้านแตกหรอก""แม่มึงก็เก่งเนอะ อยู่กับพ่อมึงได้""แล้วกูไม่เก่งหรอวะที่อยู่กับพ่อแม่ได้""ไอ้เหี้ย มึงเป็นลูกมึงก็ต้องอยู่กับพ่อแม่ป่ะวะ""มั้ง..."เสียงหัวเราะเบาๆ ปะปนกับการพูดคุยเล่นกันในห้องเรียนแต่ภพกลับไม่ได้สนใจนัก เขาเพียงแต่เงียบลงเมื่อนึกถึงกนกเด็กน้อยที่มักจะรอเขากลับจากโรงเรียนทุกวัน มันเป็นเรื่องจริง... เพราะเส้นทางที่เขากลับบ้านผ่านสำนักงานสาธารณสุขตำบลพอดี ทุกเย็นน้าเพชรจะพากนกมาทำงานด้วย และกนกก็มักจะมาเล่นอยู่ที่สวนข้างสำนักงานรอให้ภพพากลับบ้านด้วยกัน มันเป็นแบบนี้มาเกือบสองเดือนแล้ว ตั้งแต่ที่พวกเขารู้จักกัน"พี่ภพ..."กนกน้อยจับเสื้อภพเขย่าเบาๆ ขณะที่พวกเขากำ

  • เขาคนนั้นเหมือนใครคนหนึ่ง   อดีต

    "เราจำตุ๊กตาตัวนี้ได้ไหม..."พี่ภพค่อยๆ หยิบตุ๊กตาตัวนั้นมาให้กนก ตุ๊กตาหมีสีเหลืองตัวเดิมผ้าขนหนูที่คลุมอยู่บนตักร่วงลงพื้น เขาหันหน้าหนีปิดตาแน่นไม่กล้ามองสิ่งที่ทำให้เขาหวาดกลัว มันเป็นอะไรที่เขาอธิบายไม่ได้แค่เห็นภาพนั้นกล้ามเนื้อก็เริ่มเกร็งหัวใจเต้นแรง และเริ่มหายใจหอบ“น้องกนก...” พี่ภพเรียกเบาๆ ด้วยน้ำเสียงกังวล กนกไม่ตอบจนพี่ภพรีบขึ้นไปบนเตียง โอบกอดน้องไว้แน่น“เราไม่ต้องกลัว...เราจะปลอดภัย”“ผะ...ผม...ผมไม่อยากเห็นมัน...” หอบถี่และหนักหน่วง สะท้อนถึงความหวาดหวั่นที่ก่อตัวขึ้นในอก มือที่กำเสื้อของพี่ภพไว้สั่นระริก ความอบอุ่นจากร่างกายของอีกฝ่ายเป็นสิ่งเดียวที่ช่วยยึดเหนี่ยวเขาไว้ในตอนนี้“เราจะไม่เป็นอะไร...พี่จะอยู่ข้างเรา...จะไม่มีใครทำอะไรเรา” เสียงกระซิบของพี่ภพนุ่มนวลและอบอุ่น ราวกับสายลมอ่อนที่พัดผ่านใจ เขาเผลอหลับตาลงปล่อยให้ถ้อยคำเหล่านั้นแทรกซึมเข้ามาอย่างแผ่วเบา มันเหมือนมีมนต์สะกดค่อยๆปลดเปลื้องความตึงเครียดในอกไปทีละนิด ลมหายใจที่เ

  • เขาคนนั้นเหมือนใครคนหนึ่ง   ความทรงจำที่ขาดหาย

    ผมพยายามไม่รอเขา...แต่ก็อดไม่ได้ที่จะเหลือบมองนาฬิกาบนมือถือทุกๆ สิบนาที ไม่ดูหรอก...ก็ตั้งใจอ่านหนังสือนิยายอยู่นะ วันนี้เป็นวันพักผ่อนหลังสอบ ควรจะผ่อนคลายสักหน่อย แต่ไม่รู้ทำไม ตัวหนังสือที่เคยสนุกกลับกลายเป็นแค่ตัวอักษรที่เรียงกันไม่มีความหมาย หรือว่าผมกำลัง...ก็อกๆ เสียงเคาะประตูดังขึ้น ผมรีบวิ่งไปเปิดประตูทันที ใจเต้นแรงเหมือนเด็กน้อยที่รอคอยของขวัญ แต่คนที่ยืนอยู่ตรงนั้นกลับไม่ใช่พี่ภพ..."คนเก่ง...ได้ท็อปเลยดิ ยังอ่านหนังสือทั้งที่วันนี้ก็วันศุกร์" มิวยืนอยู่หน้าประตู ยิ้มกว้างพร้อมกับชีทที่ถืออยู่ในมือผมพยักหน้าเล็กน้อย พยายามเก็บความรู้สึกผิดหวังไว้ในใจ "ทำไมวันนี้มาหาเรา...ลืมอะไรหรือเปล่า""ลืม...ลืมชีทที่เราให้แกวันติวไว้""อ้าว แล้วไม้โทรมาบอก" ผมถามด้วยน้ำเสียงที่พยายามให้เป็นปกติ"ก็ห้องอยู่แค่ชั้นเดียว เดินมาหากันก็ได้" มิวยักไหล่แล้วก็ส่งสายตามองผมอย่างสนใจ"...ไม่ใช่หรอ หรือแกมีอะไร""มีอะไรล่ะ ไม่มี"มิวหัวเราะเบาๆ "แล้วนี่ไม่กลัวแล้วหรอ...พี่ชายข้างบ้านยังมาหาอยู่ไหม""ก็มา

  • เขาคนนั้นเหมือนใครคนหนึ่ง   รัก

    ช่วงสอบปลายภาค พี่ภพแวะมาหาเขาเกือบทุกวัน บางวันก็ขอแวะมานอนด้วยโดยอ้างว่า "หอพี่แอร์เสีย" หรือ "อยากติวหนังสือเป็นเพื่อน" แต่กนกรู้ดีว่ามันเป็นเพียงข้ออ้างเพราะสุดท้ายแล้วพี่ภพก็ไม่ได้แตะหนังสือสักเท่าไหร่ มีแต่เขาส่วนพี่ภพก็นอนกลิ้งเล่นอยู่ข้างๆแรกๆ กนกยังรู้สึกเกร็งเวลาถูกพี่ภพจ้องมอง ทุกครั้งที่เงยหน้าขึ้นจากหนังสือเขามักจะพบสายตาอบอุ่นคู่นั้นมองอยู่เสมอเป็นสายตาที่ทำให้ใจเต้นแปลกๆราวกับว่าพี่ภพเห็นบางสิ่งในตัวเขาที่แม้แต่ตัวเขาเองก็ไม่เข้าใจ แต่เมื่อเวลาผ่านไป... ความรู้สึกพวกนั้นก็ค่อยๆจางหาย สายตาที่เคยหลบเลี่ยงหรืออาการประหม่าเมื่อต้องอยู่ใกล้พี่ภพเริ่มหายไปเช่นกันแทนที่ด้วย...ความสบายใจการมีพี่ภพอยู่ด้วยกลายเป็นเรื่องปกติของชีวิตประจำวัน ห้องที่เคยเงียบเหงาก็กลับมีเสียงพูดคุย เสียงหัวเราะและกลิ่นหอมของขนมที่พี่ภพชอบซื้อมาให้หัวใจที่เคยปิดกั้นเริ่มเปิดออกทีละนิด"ไงครับคนเก่ง วันนี้เป็นไงบ้าง เหนื่อยไหม?"เสียงทุ้มที่ฟังแล้วอบอุ่นเสมอดังขึ้นจากด้านหลัง กนกเงยหน้าขึ้นมองก่อนจะถอนหายใจยาว

  • เขาคนนั้นเหมือนใครคนหนึ่ง   เด็กชายคนนั้น

    ช่วงเวลาการสอบปลายภาคของปีหนึ่งผ่านไปอย่างแสนเหนื่อย เขาอดนอนมาหลายคืนเพื่ออ่านหนังสือทบทวนเนื้อหา ร่างกายอ่อนล้า แต่จิตใจกลับว้าวุ่นยิ่งกว่าเดิมหลังจากที่รู้ว่าคนแปลกหน้าที่เข้ามาในชีวิตไม่ใช่ผี และยังเป็นคนรู้จักกับแม่ ความหนักอึ้งในใจกลับเบาลงและรู้สึกปลอดภัยขึ้นโดยไม่รู้ตัวแต่สิ่งที่ทำให้เขาประหลาดใจยิ่งกว่านั้นคือ พี่ภพยังมาหาเขาเป็นประจำบางวันมาตอนบ่าย พร้อมกับขนมของว่างวางไว้บนโต๊ะเรียนของเขาบางวันมาตอนเย็น ยืนรออยู่หน้าหอพักด้วยสีหน้าเรียบเฉยแต่แววตากลับดูอ่อนโยน กนกพยายามปฏิเสธแต่สุดท้ายก็ต้องยอมรับ เพราะกลิ่นหอมๆ นั้นทำให้ท้องร้องทุกทีและบางคืน...ชายคนนั้นมาเพียงเพื่อบอก "ฝันดีนะ"เสียงทุ้มต่ำดังขึ้นพร้อมมืออุ่นที่ลูบเบาๆ บนศีรษะ กนกมักจ้องมองอีกฝ่ายด้วยความไม่เข้าใจ ทำไมถึงดูแลเขาขนาดนี้ แต่พอรู้ตัวอีกที หัวใจของเขาก็ไม่เคยรู้สึกโดดเดี่ยวเหมือนเมื่อก่อนแล้วแต่ที่ทำให้สับสนยิ่งกว่าคือ บางคืน...เขากลับเข้ามากอด อ้อมแขนนั้นแน่นหนา แข

  • เขาคนนั้นเหมือนใครคนหนึ่ง   พี่ภพ

    หลังจากที่กนกได้รู้ความจริงว่า คนที่เขาเจอในฝันที่เหมือนจริงมาตลอดคือ พี่ภพ พี่ชายข้างบ้านที่เขาลืมไปแล้ว ความทรงจำในวัยเด็กของเขาหายไปเหมือนกระดาษหน้าหนึ่งที่ถูกฉีกทิ้ง ทุกครั้งที่พยายามนึกย้อนก็มักจบลงด้วยความสับสนจนปวดหัวแต่ถึงแม้เขาจะไม่เข้าใจว่าทำไมพี่ภพถึงโผล่มาหาเขาแบบนี้ หรือเหตุผลอะไรที่ทำให้พี่ภพก้าวเข้ามาในชีวิตเขาอีกครั้ง…แต่สิ่งหนึ่งที่เขาสัมผัสได้คือ ความอบอุ่น เสมอเมื่ออยู่ในอ้อมกอดนั้นช่วงนี้ พี่ภพมาหาเขาทุกเย็น เอาของอร่อยมาให้ กนกก็มักจะรับมันมาด้วยท่าทางเก้ๆ กังๆ อาจเป็นเพราะยังไม่คุ้นเคย หรือเพราะเขายังไม่เข้าใจสถานะของพวกเขาในตอนนี้"เราแข็งแรงดีไหม?""ครับ""ช่วงนี้ใกล้สอบแล้วสินะ""ครับ""ขนมที่พี่ซื้อมาถูกใจไหม?""ครับ"กนกตอบรับสั้นๆ ทุกคำถามโดยแทบไม่ได้คิดอะไร แต่แล้วคำพูดต่อมาของพี่ภพกลับทำให้เขาสะดุด"เรานี่น่ารักเหมือนเมื่อก่อนเลยนะ"กนกเผลอชะงักไปเล็กน้อยก่อนจะรีบตอบ "คะ...ครับ?"

Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status