Share

ลิขิตรักจากฟากฟ้า

last update Последнее обновление: 2025-05-02 20:30:45

หลังจากสอบกลางภาคเสร็จ กนกก็มีเวลาผ่อนคลายมากขึ้น เขากลับมาหาเพื่อนเก่าที่เขารัก นั่นคือหนังสือนิยาย เย็นวันนั้น ฝนโปรยปรายลงมาบางเบา กลิ่นดินหลังฝนอบอวลอยู่ในอากาศ ลมเย็นพัดผ่านหน้าต่างที่เปิดแง้มไว้ทำให้ผ้าม่านสีขาวพลิ้วไหวไปตามจังหวะลม กนกนั่งขัดสมาธิอยู่บนเตียง ผ้าห่มนุ่มคลุมกาย เขาหยิบหนังสือเรื่อง ลิขิตรักจากฟากฟ้า มาอ่านอีกครั้ง

แสงไฟจากโคมข้างเตียงส่องกระทบตัวอักษร สะท้อนเป็นเงาจาง ๆ บนหน้ากระดาษ เรื่องราวความรักที่เศร้าและซับซ้อนในเล่มเหมือนพาเขาหลุดเข้าไปอยู่ในโลกของเจ้าหญิงและองครักษ์ซึ่งเปรียบเสมือนตนเองเป็นทาสผู้ซื่อสัตย์ เสียงฝนที่ตกกระทบกลายเป็นท่วงทำนองแผ่วเบา คลอเคล้าไปกับเสียงหัวใจที่เต้นตามจังหวะของเนื้อเรื่อง

 

ดอกเยอบีร่าและความรักที่เบ่งบาน

''องค์หญิงดูนี่สิพะยะค่ะ'' ซาเลล องค์รักษ์หนุ่มคุกเข่าลงข้างหนึ่ง ยื่นมือไปเด็ดดอกไม้ป่าที่ขึ้นอยู่ริมลำธาร ก่อนเงยหน้าขึ้นมององค์หญิงเอมม่า ผู้เป็นองค์หญิงน้องสุดท้องของอาณาจักร บัดนี้พระองค์ทรงก้าวเข้าสู่วัยสาวแล้ว พระบิดาจึงเข้มงวดกับทุกเรื่องราวรอบตัว กระทั่งการออกไปสูดอากาศนอกพระราชวังก็ต้องได้รับการควบคุม

วันนี้ถือเป็นโอกาสพิเศษที่พระองค์ได้รับอนุญาตให้ออกมาเดินเล่นพักผ่อน ซาเลลจึงอาสาพาองค์หญิงมาเปลี่ยนบรรยากาศให้ต่างจากวันปกติ และสิ่งที่เขาหยิบขึ้นมาเสนอพระองค์ ก็คือดอกเยอบีร่าสีสดที่ไหวเอนตามสายลม

''ดอกไม้...''

''ดอกเยอบีร่าขอรับ'' องค์หญิงมองมันด้วยความสนใจ “เราเคยเห็นมันในวัง แต่ไม่เคยเห็นมันในป่าแห่งนี้”

ซาเลลยิ้มบางกับคำตอบขององค์หญิงน้อยของเขา  ''เพราะแต่ก่อนมันอาจจะเล็กจนองค์หญิงมองไม่เห็น แต่เมื่อวันเวลาผ่านไป มันก็เติบโตขึ้น องค์หญิงจึงได้เห็นความงามและสดใสของมันขอรับ"

"เหมือนเจ้า..."

"หากองค์หญิงจะมองเห็นกระหม่อมบ้าง ก็เป็นพระคุณของกระหม่อมยิ่งนัก"

องค์หญิงเอมม่าชะงักไปครู่หนึ่ง ก่อนจะแย้มสรวลออกมาอย่างอ่อนโยน "เรามองเห็นท่านเสมอ ซาเลล"

แววตาขององค์รักษ์หนุ่มสั่นไหวเพียงชั่วขณะ ก่อนจะหลุบมองดอกไม้ในมืออีกครั้ง แล้วกล่าวด้วยน้ำเสียงอ่อนนุ่ม "สำหรับดอกเยอบีร่า มันเป็นตัวแทนของความไร้เดียงสาที่แฝงไปด้วยความเข้มแข็ง กระหม่อมขออวยพรให้องค์หญิง จงอ่อนโยน แต่อย่าอ่อนแอ"

"เราขอบใจ"

"กระหม่อมขอนำดอกไม้นี้ปักผมองค์หญิงได้หรือไม่พะยะค่ะ" น้ำเสียงของเขาเต็มไปด้วยความเคารพ แต่แฝงความรู้สึกที่ลึกซึ้ง

 "ถึงแม้ดอกเยอบีร่าจะงดงามเพียงใด แต่ก็มิอาจเทียบเคียงพระสิริโฉมขององค์หญิงได้ แต่อย่างน้อย...มันก็เป็นตัวแทนของกระหม่อม ข้าทาสผู้ภักดี ผู้ที่อยากดูแลองค์หญิงตลอดชั่วชีวิต"

องค์หญิงเม้มริมฝีปากเล็กน้อย ก่อนพยักหน้า "ได้สิ...ท่านปักให้เราหน่อย"

ซาเลลบรรจงนำดอกเยอบีร่าป่าขึ้นปักลงบนเกศาขององค์หญิงอย่างนุ่มนวล ลมหายใจของเขาแผ่วเบาเมื่ออยู่ใกล้พระองค์ กลิ่นหอมอ่อน ๆ ที่ลอยมาจากองค์หญิงทำให้หัวใจของเขาเต้นแรงขึ้น

"งามเหลือเกินพะยะค่ะ"

องค์หญิงยกมือแตะดอกไม้  "ดอกเยอบีร่าป่างามจริง ๆ ป่าแห่งนี้บรรยากาศดีมาก ครั้งหน้าเจ้าพาข้ามาอีกได้ไหม"

"กระหม่อมหมายถึง..." 

 "องค์หญิง..."

แววตาของเขาจับจ้องอยู่ที่พระบาทเล็กที่โผล่พ้นรองเท้าสีขาวออกมาเล็กน้อย รอยแดงเรื่อบ่งบอกชัดว่าพระองค์ทรงใส่รองเท้าผิดคู่มาทั้งวัน

"องค์หญิง... เท้าของพระองค์"

องค์หญิงเอมม่าก้มลงมอง "สงสัยเราเลือกรองเท้ามาผิดคู่"

"ขอกระหม่อมดูให้พะยะค่ะ"

"มะ-ไม่เป็นไร..."

ยังไม่ทันที่องค์หญิงจะห้าม ซาเลลก็คุกเข่าลงตรงหน้า ประคองพระบาทเล็กขึ้นมาไว้บนหน้าตักของเขาอย่างแผ่วเบา ก่อนจะค่อย ๆ ถอดรองเท้าออก เผยให้เห็นรอยช้ำที่เกิดจากรองเท้ากัด

"เราไม่ได้เจ็บขนาดนั้น"

ซาเลลไม่พูดอะไร เพียงโน้มศีรษะลงแล้วจุมพิตเบา ๆ ที่รอยช้ำบนพระบาทของพระองค์ ประหนึ่งต้องการปลอบประโลมแทนคำพูด

"อ่ะ..."

"ขอความเจ็บปวดขององค์หญิง...ถ่ายทอดมาที่กระหม่อมเถิด" แล้วจึงก็จุมพิตเบา ๆ ลงไปอีกหลายครั้งอย่างอ่อนโยน

องค์หญิงเอมม่ารู้สึกถึงความร้อนผ่าวที่แล่นวาบไปทั่วร่าง ทั้งจากสัมผัสอ่อนโยนที่เท้า และจากหัวใจของพระองค์เองที่เต้นแรงจนแทบควบคุมไม่ได้ ความรู้สึกแปลกประหลาดแล่นผ่านร่างไปพร้อม ๆ กับสัมผัสขององค์รักษ์หนุ่ม 

แล้วความสัมพันธ์ของทั้งสองก็ค่อย ๆ พัฒนา จนความรักของทั้งสองเบ่งบาน...

ซาเลลอุ้มองค์หญิงที่เขารักและหวงแหนเข้าไว้ในอ้อมแขน ประคองพระองค์อย่างทะนุถนอม ริมฝีปากของทั้งสองแทบไม่ห่างกันเลย ยังคงแลกเปลี่ยนสัมผัสที่เต็มไปด้วยความรู้สึกอ่อนหวานและลึกซึ้ง ความอบอุ่นจากร่างของเขาแผ่ซ่านมาถึงเธอ หัวใจเต้นเป็นจังหวะเดียวกันราวกับโอบกอดกันด้วยความรู้สึกที่มากกว่าคำพูด ซาเลลสัมผัสได้ถึงความสั่นไหวในดวงตาขององค์หญิง ไม่ใช่ความหวาดกลัว แต่เป็นความไว้วางใจที่เขาเฝ้ารอคอยมาตลอดชีวิตของเขาเอง

"ซะ... ซาเลล..."

"ขอรับองค์หญิง"

ลมหายใจของทั้งสองรดรินอยู่ใกล้ จนแทบจะกลืนเป็นหนึ่งเดียวกัน องค์หญิงเอมม่าหลุบตาลงเล็กน้อย ดวงหน้าร้อนผ่าวจากความเขินอาย แต่หัวใจกลับเต้นระรัวจนไม่อาจซ่อนเร้นได้

"ระ... เรา..."

"กระผมจะทะนุถนอมองค์หญิงยิ่งกว่าสิ่งใด ขอรับ"

สัมผัสที่แผ่วเบาของเขาเต็มไปด้วยความอ่อนโยนและมั่นคง ดั่งดอกเยอบีร่าป่าที่เติบโตขึ้นอย่างเข้มแข็งท่ามกลางสายลมและแสงแดดแห่งธรรมชาติ แต่ในความอ่อนโยนนั้นกลับมีความมุ่งมั่นและสัตย์ซื่อ แววตาของซาเลลเต็มไปด้วยคำสาบานที่ไร้เสียง ว่าจะปกป้องและเฝ้าดูแลองค์หญิงตราบจนลมหายใจสุดท้ายของเขาเอง

ความรู้สึกวาบหวามในใจทำให้ขนลุกชูชัน และความรู้สึกนี้... มันช่างคล้ายกับวันนั้น วันที่ใครคนหนึ่งในความฝันได้มาหาเขา และมอบรสสัมผัสบางอย่างที่เขาไม่เคยได้รับ

"หรือเขาจะเป็นเจ้าหญิงในเรื่องนี้กันแน่?" กนกคิดพลางหัวเราะเบา ๆ ให้กับตัวเอง เมื่อเงยหน้ามองนาฬิกาก็พบว่าเพลิดเพลินกับหนังสือจนเกือบตีสอง จึงรีบเดินไปอาบน้ำ

ขณะที่ออกมาจากห้องน้ำ เขารู้สึกได้ถึงความผิดปกติ เสียงฝีเท้าจาง ๆ ดังขึ้น... และเมื่อเขาชะโงกมองไปที่ประตู ก็พบเงาร่างหนึ่งกำลังเปิดเข้ามา ชายคนนั้นสวมหมวกและหน้ากากปิดบังใบหน้า ดวงตาของทั้งสองประสานกันด้วยความตกใจ ก่อนที่อีกฝ่ายจะรีบหันหลังและวิ่งออกไปอย่างรวดเร็ว หัวใจของกนกเต้นระรัวด้วยความตื่นตระหนก เขาคว้าโทรศัพท์ขึ้นมาหมายจะโทรหาเพื่อน แต่เมื่อเห็นว่าเวลาล่วงเลยเกือบตีสามแล้ว จึงตัดสินใจคลุมโปงนอน... หรืออย่างน้อยก็พยายามข่มตาหลับ

เช้าวันถัดมา กนกเดินเข้าห้องเรียนด้วยสภาพอิดโรยราวกับคนไม่ได้นอน ดวงตาหม่นหมองและมีรอยคล้ำจาง ๆ จากการข่มตาหลับไม่ลงตลอดทั้งคืน เขาทิ้งตัวลงบนเก้าอี้ ถอนหายใจเฮือกใหญ่ ก่อนจะเล่าเรื่องเมื่อคืนให้เพื่อนฟังด้วยน้ำเสียงแผ่วเบาและยังคงสั่นเครือเล็กน้อย

"เวลาดึกขนาดนั้น ใครจะกล้าไปปล้น? หอก็ปลอดภัยนะ แต่ก็ไม่แน่..." มิวพูดพลางขมวดคิ้วด้วยความเป็นห่วง

"แล้วแกยังบอกว่า มีคนคอยจ้องมองแกอีก?" 

 "อืม... มันรู้สึกแปลก ๆ เหมือนมีใครเฝ้าดูเราอยู่ตลอดเวลา"

"หรือจะเป็น... ผี?" พราวแซวพร้อมหัวเราะเบา ๆ

"ก็ไม่แน่..." กนกพูดด้วยน้ำเสียงจริงจัง "ในนิยายที่เราอ่าน คนที่คอยเฝ้ามองเจ้าหญิงก็คือทาสที่เสียชีวิตไปแล้ว"

พราวหัวเราะหนักกว่าเดิม "แกเริ่มเพ้อเจ้อแล้วล่ะ อ่านนิยายเยอะเกินไปชัวร์!"

แต่กนกไม่ได้หัวเราะตาม ความรู้สึกไม่สบายใจจากเมื่อคืนยังคงอยู่ และยิ่งเมื่อมีสายตาลึกลับที่เหมือนจะคอยจับจ้องเขา... ความกลัวก็เริ่มแทรกซึมเข้ามา

"เรากลัวจริง ๆ นะ..." 

"โอเค ๆ ช่วงนี้เราจะอยู่ด้วยกันบ่อย ๆ แล้วกัน" พราวตบบ่าเขาเบา ๆ หันไปพยักหน้าให้มิว "เดี๋ยวพวกเราจะไปส่งแกถึงหน้าหอเลยนะ!"

"อืม... ขอบใจนะ" กนกพยายามยิ้มออกมา แม้ในใจยังเต็มไปด้วยความหวาดระแวง

แต่ถึงแม้จะมีเพื่อนอยู่ด้วย ความรู้สึกแปลก ๆ ในใจเขาก็ยังไม่จางหายไป...

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Related chapter

  • เขาคนนั้นเหมือนใครคนหนึ่ง   ประกอบสิ่งที่แตกสลาย

    ในวัย 13 ปี… เขากลายเป็นคนที่แตกสลายโดยสมบูรณ์ภาพในความทรงจำตีกลับมาอีกครั้ง...เสียงของพ่อตวาดดังลั่นเป็นสิ่งที่เด็ก 13 ปีไม่เคยเจอมาก่อนในชีวิต...เสียงของแม่กรีดร้องด้วยความทุกข์ทรมาณ...เลือดไหลเป็นสายลงบนพื้นไม้...และร่างของเขาถูกเหวี่ยงกระแทกกับโต๊ะอย่างแรง เสียงนั้นดังสะท้อนในหัวของเขาเหมือนแผ่นเสียงตกร่องภพสะดุ้งเฮือก ลืมตาโพลง หัวใจเต้นระรัวจนเหมือนจะระเบิดออกมา"ไม่ ไม่เอาแล้ว... พอเถอะ..."เขาอยากกรีดร้องออกมาดิ้นพราดอยู่บนเตียง ร่างกายสั่นเทาเหมือนคนกำลังจะจมน้ำป้าได้ยินเสียงผิดปกติ เธอรีบเข้ามาดูเขา และพบว่าเขากำลังกระตุกอยู่บนเตียง"ภพ! ใจเย็นๆ นะลูก ป้าอยู่ตรงนี้!"มือของป้ากอบกุมมือของเขาไว้แน่น น้ำตาของเธอไหลออกมาอย่างเงียบงัน เขาต้องฝืนใจมีชีวิตอยู่ ทั้งที่หัวใจของเขาแทบจะตายไปแล้วแม้จะเจ็บปวดแค่ไหน แม้จะร้องไห้ในใจมากเท่าไร แต่ไม่มีวันไหนที่ภพมีน้ำตา เขากัดฟันเผชิญหน้ากับทุกความเจ็บปวด... เพราะเขาไม่อยากให้แม่ต้องร้องไห้อีกแล้ว แม่คือคนเดียวที่เหล

    Последнее обновление : 2025-05-02
  • เขาคนนั้นเหมือนใครคนหนึ่ง   ตุ๊กตาหมีสีเหลือง

    ขณะที่พวกเขานั่งกินข้าวกันอยู่ที่โรงอาหาร บรรยากาศในช่วงบ่ายคล้อยยังคงเต็มไปด้วยเสียงพูดคุยจอแจของนักศึกษา คนเดินผ่านไปมาถือถาดอาหาร บ้างนั่งจับกลุ่มคุยกัน บ้างจดจ่ออยู่กับจอโทรศัพท์จู่ๆ รุ่นพี่ต่างคณะก็เดินเข้ามาหากนก พร้อมกับยื่นกล่องของขวัญขนาดใหญ่ให้โดยไม่พูดอะไรนัก กนกเงยหน้ามองงงๆ พลางรับของมา ก่อนที่พี่คนนั้นจะเดินจากไปท่ามกลางสายตาสงสัยของเพื่อนๆ“มิวกับพราวแซวเขาว่า เดี๋ยวนี้ฮอตมาก มีคนเอาของมาให้ตลอดเลยนะ”“ก็ไม่ขนาดนั้นหรอก” กนกตอบเรียบๆ พลางมองกล่องของขวัญในมือ“หรือจะเป็นพี่รหัสที่กำลังจะซิ่วไปเรียนที่อื่น?” มิวตั้งข้อสันนิษฐาน“ไม่รู้อะ” กนกส่ายหน้าพราวเบิกตากว้าง มือเกาะโต๊ะพลางเขย่าเบาๆ “แต่กล่องใหญ่มากอ่ะ! อยากดูแล้ว!”“เดี๋ยวเลิกเรียนก่อน ค่อยมาดูกัน” กนกหัวเราะกับท่าทางกระตือรือร้นของพราว“เย้ๆ” พราวแทบกระโดดมิวส่ายหน้าอย่างระอา “พราวเวอร์มาก อะไรจะดีใจ

    Последнее обновление : 2025-05-03
  • เขาคนนั้นเหมือนใครคนหนึ่ง   กนก

    "แม่ครับ อ่านเรื่องนี้ให้ฟังหน่อย!""นิยายเรื่องนี้สนุกไหมครับแม่?""กนกอยากนอนหลับไปกับกองนิยายเล้ยย!"เสียงสดใสของกนกดังขึ้นท่ามกลางบรรยากาศอบอุ่นของบ้านหลังเล็ก ที่นี่เต็มไปด้วยเสียงพูดคุยเกี่ยวกับหนังสือแทบทุกวัน แม่ของเขาชอบอ่านหนังสือสารคดีแปลก ๆ แล้วมักจะเล่าเรื่องให้ลูกชายฟังด้วยน้ำเสียงตื่นเต้น ส่วนพ่อก็เป็นสายหนังสือพัฒนาตัวเอง ชอบสอนกนกเรื่องแนวคิดการเติบโตและการใช้ชีวิต ทุกเย็นบ้านนี้แทบไม่เงียบเหงา เพราะมื้อค่ำมักกลายเป็นวงสนทนาเกี่ยวกับหนังสือที่แต่ละคนกำลังอ่าน ราวกับเป็นสโมสรนักอ่านขนาดย่อมแต่ในบรรดาหนังสือทั้งหมด กนกรักนิยายรักของแม่มากที่สุด ตู้หนังสือของแม่เต็มไปด้วยเล่มปกสีหวาน บางเล่มเก่าจนกระดาษเปลี่ยนเป็นสีเหลือง ตอนเด็ก ๆ เขาหยิบมาอ่านเพราะคิดว่ามันตลก แต่พอโตขึ้น เขากลับหลงรักเรื่องราวในนั้นอย่างไม่รู้ตัว"กนกลูก มากินข้าวกันครับ"เสียงแม่ดังแว่วมาจากชั้นล่าง ในขณะที่กนกกำลังจมอยู่กับฉากสำคัญของนิยาย"แป๊บนึงนะครับแม่... อีกนิดเดียวจะจบแล้ว!""แม่รอนะลูก แต่อย่านานล่ะ ข้าวจะเย็นหมด""ได้ครับแม่" กนกตอบลอย ๆ แต่สายตายังคงตรึงอยู่กับหน้ากระดาษ "อีกแค่สามหน้าเอง

    Последнее обновление : 2025-04-24
  • เขาคนนั้นเหมือนใครคนหนึ่ง   ความฝัน

    แล้วพวกเขา 3 คนก็เดินทางไปห้องสมุดด้วยกัน สถานที่ที่กว้างขวาง เงียบสงบเหมาะสำหรับการอ่านหนังสือและการทำงานอย่างจริงจัง กนก มิวและพราวต่างก็มีเป้าหมายของตัวเอง มิวและพราวตั้งใจจะหาหนังสือเกี่ยวกับวิชาเคมีเพื่อใช้เป็นข้อมูลอ้างอิงสำหรับรายงาน ส่วนกนกนั้นแม้ว่าจะไม่ได้มีงานเร่งด่วนอะไรแต่เขาก็อยากมาหาหนังสือนิยายรักโรแมนติกเล่มใหม่เอาไว้อ่านสักหน่อยเมื่อเดินเข้าไปในห้องสมุด มิวและพราวก็แยกย้ายไปหาหนังสือในส่วนของวิทยาศาสตร์ ในขณะที่กนกเดินตรงไปที่ชั้นหนังสือวรรณกรรม เขาหยิบนิยายรักโรแมนติกเล่มหนึ่งที่เขาคิดว่าน่าสนใจแล้วก็หามุมสงบในห้องสมุดเพื่อนั่งอ่านต่อหลังจากนั้นไม่นาน มิวและพราวก็เสร็จสิ้นจากการค้นหาหนังสือและเดินมาหากนก ที่กำลังจดจ่ออยู่กับหนังสือเล่มหนา"นี่กนก ยังอ่านไม่จบอีกเหรอ" มิวยื่นหน้าไปถามกระซิบเสียงเบา"กำลังถึงตอนสำคัญเลย พระเอกเพิ่งจะสารภาพรักนางเอก" กนกตอบด้วยแววตาที่เป็นประกาย"แกนี่น่ะ..." พราวยิ้มเล็กๆหมั่นไส้เจ้าเพื่อนหนอนหนังสือ "แต่เอาเถอะ เราเสร็จแล้ว กลับกันไหม?"กนกพยักหน้าแล้วปิดหนังสืออย่างเสียดายแต่เขาก็รู้ว่าต้องกลับมาอ่านต่อในวันหลัง พวกเขาทั้งสามเดิน

    Последнее обновление : 2025-04-24
  • เขาคนนั้นเหมือนใครคนหนึ่ง   ความรู้สึกแปลก

    ร่างของชายปริศนาแนบชิดเข้ามา กนกแทบไม่ได้มีเวลาตั้งตัว ก่อนที่ลมหายใจร้อนจะเคลื่อนเข้าใกล้ กลิ่นหอมอ่อนๆ ที่เขาไม่คุ้นเคยลอยอวลอยู่รอบตัว เสี้ยววินาทีต่อมา ริมฝีปากของชายแปลกหน้ากดลงมาบนริมฝีปากของเขา...อ่อนโยน ทว่าตราตึงในความรู้สึกเขา กนกเบิกตากว้างพร้อมหัวใจเต้นกระหน่ำราวกับจะทะลุออกจากอก เขาพยายามจะขยับตัวแต่กลับถูกอ้อมแขนแข็งแรงตรึงไว้อย่างมั่นคง ไม่ใช่การบังคับขืนใจแต่เป็นสัมผัสที่เต็มไปด้วยแรงดึงดูดลึกลับราวกับอีกฝ่ายกำลังเฝ้าค้นหาอะไรบางอย่างจากตัวเขา“คุณ...” เสียงของกนกสั่นไหว ไม่แน่ใจว่าควรผลักออกหรือหยุดนิ่ง ความอบอุ่นที่แนบชิดส่งผ่านความรู้สึกบางอย่างที่เขาอธิบายไม่ได้ชายปริศนาโน้มลงมา สูดลมหายใจช้าๆ ใกล้ต้นคอของเขา ปลายนิ้วเย็นเฉียบไล้ผ่านข้างแก้มก่อนกระซิบเบาๆ ข้างหู“...ในที่สุด พี่ก็เจอเราสักที”นี่มันอะไรกัน... เขาคิดในใจ แต่ร่างกายของเขากลับตอบสนองต่อความรู้สึกที่แปลกใหม่นี้ผู้ชายคนนั้นยิ้มให้เขาอีกครั้งแล้วก็พูดด้วยน้ำเสียงที่อ่อนโยน"ไม่ต้องกลัวนะ...พี่จะไม่ทำร้ายเธอ"กนกรู้สึกว่าหัวใจของเขาเต้นแรงขึ้น เขาพยายามจะพูดอะไรแต่คำพูดก็ติดอยู่ในลำคอ ผู้ชายคนนั้นยิ้มให

    Последнее обновление : 2025-04-24
  • เขาคนนั้นเหมือนใครคนหนึ่ง   ใคร

    เขารู้สึกว่าวันนี้เป็นวันที่ยาวนานและวุ่นวายเพราะเขามีเรียนตั้งแต่เช้าถึงสองทุ่ม ทั้งบรรยายวิชาชีวะและทำแล็ปการทดลองเคมีภาคค่ำ กว่าจะลากสังขารกลับหอได้ก็พากันหมดแรง"ทำไมวันนี้โหดขนาดนี้...ใครจัดตารางเรียนว่ะ" "นั่นนะสิ...จะแบ้ล้า นี่มันเด็กปีหนึ่งนะเว้ย" พราวสมทบอีกหนึ่งเสียง"แล้วพวกแกจะบ่นเพื่อ...กินข้าว กลับบ้านแยกย้ายกัน" "เย้ อาหารจะช่วยชีวิตพวกเรา ฉันอยากกินยำ อยากกินยำ" พราวพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความตื่นเต้น"กนกกินอะไรดี?" "อ่า...อะไรดีอ่าา อยากกินกระเพาะแล้วกัน กระเพาะเนื้อ" "อืม งั้นไปร้านป้าข้างหอพราว แล้วค่อยเดินกลับมาหอในแล้วกัน" "อืม..." กนกพยักหน้ารับระหว่างทาง กนกก็เหม่อมองบรรยากาศโดยรอบ วันนี้รู้สึกเหนื่อยตั้งแต่เช้าที่ต้องวิ่งมาเรียน ข้าวเช้าก็ไม่ได้กินแล้วมาเรียนแล็ปต่อ ปวดหัวจะแย่ คิดถึงหนังสือนิยายที่อยู่ที่หอจะแย่อยู่แล้ว เมื่อไหร่จะได้กลับไปอ่านต่อนะ... แต่ในตอนนี้ เขาต้องกินข้าวให้อิ่มก่อนแล้วค่อยกลับไปหาหนังสือเล่มโปรดที่รอเขาอยู่"ป้าคะ หนูขอยำแซ่บๆหนึ่งจานค่ะ ขอเผ็ดๆเลยนะคะ" พราวสั่งอาหารด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยหิวกระหาย"กินเผ็ดเดี๋ยวก็ปว

    Последнее обновление : 2025-04-24
  • เขาคนนั้นเหมือนใครคนหนึ่ง   กลับบ้าน

    เพราะความรู้สึกบางอย่างที่ทำให้อยากกลับบ้าน จึงตัดสินใจว่ากลับบ้านไปตามหาอะไรบางอย่างน่าจะดีกว่า"อ้าว...ทำไมกลับ เดินทางตั้งหลายชั่วโมงนะ" ใช่...เพื่อนเขาพูดถูก พวกเราทั้งสามคนสอบติดมหาวิทยาลัยในกรุงเทพ แต่บ้านของพวกเราอยู่ชลบุรี ถึงจะนั่งรถตู้ไปถึงสถานีใช้เวลาประมาณสองชั่วโมงแต่จากสถานีก็ต้องนั่งรถสองแถวเข้าบ้านอีกตั้งสี่สิบนาที นานๆ ทีพวกเราถึงจะกลับบ้านกัน"อืม...มีธุระนิดหน่อยน่ะ" เขาไลน์บอกแม่ว่าจะกลับบ้านไปทำธุระ แม่ก็ไม่ได้ว่าอะไร"เป็นไงบ้าง เหนื่อยไหม มาถึงดึกเชียว" "เหนื่อยครับแม่ ดีที่วันนี้กนกเรียนแค่คาบเช้า ไม่งั้นดึกกว่านี้แน่เลย" "งั้นไปพักผ่อนแล้วลงมาทานข้าวเย็นด้วยกันนะ" "ไม่เป็นไรครับ ผมกินข้าวบ้านน้าแป้นมาแล้ว""อ่อ...เออ พูดถึงน้าแป้น" "หืมม...ทำไมหรอครับ" "เห็นแกบอกว่าลูกชายเขาก็ไปเรียนกรุงเทพนะ แต่ที่ไหนแม่ก็จำไม่ได้""หรอครับ แต่พี่...อ่าา จำไม่ได้แล้วอ่า" "อืมม... จำได้ว่าน่าจะเป็นรุ่นพี่เรานะ" "อ่าา...ครับ" กนกพยักหน้า"กนกขึ้นไปพักก่อนนะ""รีบพักนะลูก" กนกรีบขึ้นไปพักบนห้องของตัวเอง บ้านของเขาไม่ได้ใหญ่โตมากนัก แม้ว่าพ่อกับแม่จะรักการอ่านหนังสือมากแ

    Последнее обновление : 2025-04-24
  • เขาคนนั้นเหมือนใครคนหนึ่ง   ลึกลับ

    ถึงแม้ว่ารู้สึกยังพักผ่อนไม่เต็มที่ แต่ด้วยภารกิจในการเรียนทำให้กนกต้องเดินทางกลับมาที่หอตั้งแต่เช้ามืด ความเศร้าที่อยู่ภายในใจยังเกาะกิน ความผูกพันธ์ที่เขามีต่อหนังสือเล่มนั้นทำให้เขารู้สึกว่ามันอาจมีอะไรซ่อนอยู่ ซึ่งอาจจะเชื่อมโยงกับตัวเขาเอง ทำให้รู้สึกว่าวันนี้บรรยากาศรอบตัวมีแต่ความหมองหม่น ความเหม่อลอยตลอดเส้นทางการเดินไปมหาวิทยาลัยทำให้เขาเกือบจะโดนรถเฉี่ยวปิ๊ดดด!แต่ทันใดนั้น กลับมีใครบางคนดึงตัวเขากลับมาได้ทันเวลา หัวใจเขาตื่นระรัวด้วยความตกใจ และกำลังจะหันกลับไปขอบคุณคนใจดีคนนั้น แต่กลับไม่เห็นใครอยู่ตรงนั้นเลย มีเพียงสายลมที่พัดผ่านและเสียงใบไม้ที่สั่นไหว เหมือนกับว่ามีใครสักคนหายไปในอากาศ“ใครนะ...?” เขาพูดเบาๆ กับตัวเอง แต่ไม่มีใครตอบ มีเพียงเสียงลมพัดผ่านหูเบาๆ เหมือนเสียงกระซิบที่เขาคุ้นเคยถึงแม้จะยังคงสงสัย แต่พอดูนาฬิกาก็พบว่าใกล้จะถึงเวลาเข้าเรียนแล้ว เลยรีบกวดฝีเท้าให้เร็วขึ้นเพื่อจะเข้าเรียนให้ทัน เขาวิ่งกระหืดกระหอบมาทันเวลาพอดี มองหาเพื่อนสนิทก็เห็นพราวโบกมือทักทายให้มานั่งข้าง เมื่อถึงที่นั่งก็ฟุบลงกับโต๊ะ แสดงอาการเหนื่อยหอบ“เป็นไงกลับบ้านมา...สนุกไหม?” “น่

    Последнее обновление : 2025-04-25

Latest chapter

  • เขาคนนั้นเหมือนใครคนหนึ่ง   ตุ๊กตาหมีสีเหลือง

    ขณะที่พวกเขานั่งกินข้าวกันอยู่ที่โรงอาหาร บรรยากาศในช่วงบ่ายคล้อยยังคงเต็มไปด้วยเสียงพูดคุยจอแจของนักศึกษา คนเดินผ่านไปมาถือถาดอาหาร บ้างนั่งจับกลุ่มคุยกัน บ้างจดจ่ออยู่กับจอโทรศัพท์จู่ๆ รุ่นพี่ต่างคณะก็เดินเข้ามาหากนก พร้อมกับยื่นกล่องของขวัญขนาดใหญ่ให้โดยไม่พูดอะไรนัก กนกเงยหน้ามองงงๆ พลางรับของมา ก่อนที่พี่คนนั้นจะเดินจากไปท่ามกลางสายตาสงสัยของเพื่อนๆ“มิวกับพราวแซวเขาว่า เดี๋ยวนี้ฮอตมาก มีคนเอาของมาให้ตลอดเลยนะ”“ก็ไม่ขนาดนั้นหรอก” กนกตอบเรียบๆ พลางมองกล่องของขวัญในมือ“หรือจะเป็นพี่รหัสที่กำลังจะซิ่วไปเรียนที่อื่น?” มิวตั้งข้อสันนิษฐาน“ไม่รู้อะ” กนกส่ายหน้าพราวเบิกตากว้าง มือเกาะโต๊ะพลางเขย่าเบาๆ “แต่กล่องใหญ่มากอ่ะ! อยากดูแล้ว!”“เดี๋ยวเลิกเรียนก่อน ค่อยมาดูกัน” กนกหัวเราะกับท่าทางกระตือรือร้นของพราว“เย้ๆ” พราวแทบกระโดดมิวส่ายหน้าอย่างระอา “พราวเวอร์มาก อะไรจะดีใจ

  • เขาคนนั้นเหมือนใครคนหนึ่ง   ประกอบสิ่งที่แตกสลาย

    ในวัย 13 ปี… เขากลายเป็นคนที่แตกสลายโดยสมบูรณ์ภาพในความทรงจำตีกลับมาอีกครั้ง...เสียงของพ่อตวาดดังลั่นเป็นสิ่งที่เด็ก 13 ปีไม่เคยเจอมาก่อนในชีวิต...เสียงของแม่กรีดร้องด้วยความทุกข์ทรมาณ...เลือดไหลเป็นสายลงบนพื้นไม้...และร่างของเขาถูกเหวี่ยงกระแทกกับโต๊ะอย่างแรง เสียงนั้นดังสะท้อนในหัวของเขาเหมือนแผ่นเสียงตกร่องภพสะดุ้งเฮือก ลืมตาโพลง หัวใจเต้นระรัวจนเหมือนจะระเบิดออกมา"ไม่ ไม่เอาแล้ว... พอเถอะ..."เขาอยากกรีดร้องออกมาดิ้นพราดอยู่บนเตียง ร่างกายสั่นเทาเหมือนคนกำลังจะจมน้ำป้าได้ยินเสียงผิดปกติ เธอรีบเข้ามาดูเขา และพบว่าเขากำลังกระตุกอยู่บนเตียง"ภพ! ใจเย็นๆ นะลูก ป้าอยู่ตรงนี้!"มือของป้ากอบกุมมือของเขาไว้แน่น น้ำตาของเธอไหลออกมาอย่างเงียบงัน เขาต้องฝืนใจมีชีวิตอยู่ ทั้งที่หัวใจของเขาแทบจะตายไปแล้วแม้จะเจ็บปวดแค่ไหน แม้จะร้องไห้ในใจมากเท่าไร แต่ไม่มีวันไหนที่ภพมีน้ำตา เขากัดฟันเผชิญหน้ากับทุกความเจ็บปวด... เพราะเขาไม่อยากให้แม่ต้องร้องไห้อีกแล้ว แม่คือคนเดียวที่เหล

  • เขาคนนั้นเหมือนใครคนหนึ่ง   ลิขิตรักจากฟากฟ้า

    หลังจากสอบกลางภาคเสร็จ กนกก็มีเวลาผ่อนคลายมากขึ้น เขากลับมาหาเพื่อนเก่าที่เขารัก นั่นคือหนังสือนิยาย เย็นวันนั้น ฝนโปรยปรายลงมาบางเบา กลิ่นดินหลังฝนอบอวลอยู่ในอากาศ ลมเย็นพัดผ่านหน้าต่างที่เปิดแง้มไว้ทำให้ผ้าม่านสีขาวพลิ้วไหวไปตามจังหวะลม กนกนั่งขัดสมาธิอยู่บนเตียง ผ้าห่มนุ่มคลุมกาย เขาหยิบหนังสือเรื่อง ลิขิตรักจากฟากฟ้า มาอ่านอีกครั้งแสงไฟจากโคมข้างเตียงส่องกระทบตัวอักษร สะท้อนเป็นเงาจาง ๆ บนหน้ากระดาษ เรื่องราวความรักที่เศร้าและซับซ้อนในเล่มเหมือนพาเขาหลุดเข้าไปอยู่ในโลกของเจ้าหญิงและองครักษ์ซึ่งเปรียบเสมือนตนเองเป็นทาสผู้ซื่อสัตย์ เสียงฝนที่ตกกระทบกลายเป็นท่วงทำนองแผ่วเบา คลอเคล้าไปกับเสียงหัวใจที่เต้นตามจังหวะของเนื้อเรื่อง ดอกเยอบีร่าและความรักที่เบ่งบาน''องค์หญิงดูนี่สิพะยะค่ะ'' ซาเลล องค์รักษ์หนุ่มคุกเข่าลงข้างหนึ่ง ยื่นมือไปเด็ดดอกไม้ป่าที่ขึ้นอยู่ริมลำธาร ก่อนเงยหน้าขึ้นมององค์หญิงเอมม่า ผู้เป็นองค์หญิงน้องสุดท้องของอาณาจักร บัดนี้พระองค์ทรงก้าวเข้าสู่วัยสาวแล้ว พระบิดาจึงเข้มงวดกับทุกเรื่องราวรอบตัว กระทั่งการออกไปสู

  • เขาคนนั้นเหมือนใครคนหนึ่ง   พี่รหัส

    หลังจากสอบเสร็จ วันเฉลยพี่รหัสก็มาถึงช่วงเย็น พวกเรานัดรวมตัวกันที่โถงกลางคณะ เสียงจอแจของพี่ปีสองและปีสามดังไปทั่ว ทำให้บรรยากาศคึกคักเต็มไปด้วยความตื่นเต้น เสียงหัวเราะแทรกผ่านเสียงพูดคุย ดนตรีจากลำโพงเปิดคลอสร้างความสนุกสนาน ไฟสีส้มจากโถงกลางทอดเงาลงบนพื้น ทำให้ทุกอย่างดูอบอุ่นและคึกครื้นกว่าปกติ นี่เป็นครั้งแรกที่เราจะได้รู้ว่าพี่รหัสที่คอยดูแลเราอยู่เงียบ ๆ เป็นใครกัน“สำหรับน้องๆ คนไหนที่มาถึงโถงกลางแล้ว ก็ไปนั่งรวมกับเพื่อนได้เลยนะ” เสียงประกาศจากพี่ฝ่ายสันทนาการดังขึ้น ท่ามกลางความตื่นเต้นของทุกคน กนกกับเพื่อน ๆ เพิ่งเรียนเสร็จ เมื่อได้ยินประกาศจึงรีบไปรวมตัวที่โถงกลางทันที“ชั้นว่าพี่รหัสชั้นต้องเป็นผู้ชายแน่เลย” พราวกระซิบ พลางมองไปรอบ ๆ ด้วยสายตาเป็นประกาย“ทำไม?” มิวถามเสริมขึ้นมา“ก็ไม่เคยให้อะไรเลยไง”“แต่ของกนกต้องเป็นผู้หญิงแน่ ๆ”“ทำไมล่ะ?” กนกเลิกคิ้ว“ก็แกได้ของตลอดไง เนอะ มิว”“อืม...อาจจะ” กนกตอบแบบไม่แน่ใจนัก ก่อนจะหันไปมองรอบ ๆ อย่างครุ่นคิด

  • เขาคนนั้นเหมือนใครคนหนึ่ง   อบอุ่น

    เป็นครั้งแรกที่นักศึกษาปีหนึ่งได้สัมผัสกับบรรยากาศของการสอบในมหาวิทยาลัยแตกต่างจากสมัยมัธยมโดยสิ้นเชิง ไม่มีอาจารย์มาเดินเตือน ไม่มีใครคอยกำกับให้เข้าห้องสอบเป็นแถวเป็นแนว ทุกอย่างขึ้นอยู่กับตัวเองล้วนๆกนกนั่งอยู่ที่โต๊ะอ่านหนังสือของห้องพัก หอพักนักศึกษาดูเงียบผิดปกติ เพราะทุกคนต่างจมอยู่กับกองตำรา บางคนท่องจำจนหัวหมุน บางคนยังนั่งกุมขมับเหมือนเพิ่งเริ่มต้นอ่านวันนี้ บรรยากาศของมหาวิทยาลัยที่เคยเต็มไปด้วยเสียงพูดคุยกลับเงียบลงเหลือเพียงเสียงพลิกกระดาษและเสียงถอนหายใจเบาๆ เขาก็เป็นหนึ่งในนั้นที่รู้สึกว่าชีวิตมหาวิทยาลัยให้เวลาอิสระมากกว่าสมัยมัธยม แต่นั่นก็หมายความว่าความรับผิดชอบเพิ่มขึ้นด้วยการสอบไม่ได้มีขอบเขตที่แน่นอนเหมือนเดิม และเขาต้องวางแผนการอ่านเองทั้งหมด ถึงจะพยายามแบ่งเวลา แต่สุดท้ายแล้ว เวลาว่างของเขาก็ถูกกลืนหายไปหมด จนไม่มีแม้แต่เวลาแตะนิยายเล่มโปรดที่เคยอ่านก่อนนอน คืนนี้เขาใช้เวลาทบทวนเนื้อหาไปเรื่อยๆ จนรู้สึกว่าตัวหนังสือเริ่มซ้อนกันไปมา เปลือกตาหนักอึ้ง แต่สมองยังคงวนเวียนคิดถึงเนื้อหาสอบ วันพรุ่งนี้จะเป็นอย่างไรนะ... เช้านี้มหาว

  • เขาคนนั้นเหมือนใครคนหนึ่ง   ของขวัญกำลังใจ

    ช่วงเวลาสอบกลางภาคกำลังจะเริ่มขึ้น ทำให้บรรยากาศของนักศึกษาใหม่ชั้นปีที่ 1 เต็มไปด้วยความกดดัน อาจารย์เร่งสอนเนื้อหาให้ทันก่อนสอบ ขณะที่นักศึกษาทุกคนต่างต้องเร่งอ่านหนังสือและทบทวนบทเรียนอย่างเคร่งเครียด ไม่เว้นแม้แต่กลุ่มของกนกเองที่ตอนนี้กำลังปรึกษากันว่าหลังจากทานอาหารกลางวันเสร็จแล้วพวกเขาจะไปอ่านหนังสือกันที่ไหนต่อ“หลังจากนี้คงต้องติวให้เยอะกว่าเดิม” กนกพูดขึ้นขณะที่พราวและมิวกำลังกดโทรศัทพ์เปิดดูแหล่งบันเทิงเพื่อผ่อนคลายจากความเคร่งเครียดที่เพิ่งผ่านกันมา“ก็คงงั้นแหละ เพราะบางคาบแกก็หลับในห้องไง กนก” พราวอมยิ้มและดูสนุกที่ได้แซวเพื่อนตัวเล็ก“ทำเป็นพูดนะพราว เหมือนแกไม่เคยหลับ”“ถึงชั้นจะหลับ แต่ก็ไม่ได้หลับเกือบทุกคาบเหมือนแก” ก่อนที่เพื่อนทั้งสองจะเถียงกันจะเกิดเสียงดังและอาจจะมีการโกรธเคืองเกิดขึ้น“ทั้งสองหยุดเลย เลิกทะเลาะกันได้แล้ว” มิวแทรกเข้ามาด้วยเสียงหนักแน่น“หลังจากกินข้าววันนี้ เราจะไปหาหนังสือที่ห้องสมุด ใครจะไปบ้าง?”“เราไป&rdquo

  • เขาคนนั้นเหมือนใครคนหนึ่ง   พี่หรอ

    วันนี้ชั่วโมงเรียนของกนกลากยาวมาถึง 5 โมงเย็น ความเหนื่อยล้าตั้งแต่เช้าส่งผลให้ช่วงเย็น ขณะที่กำลังรออาหารตามสั่งจากร้านป้านิด เขาก็เผลอพิงศีรษะกับแขนตัวเอง ดวงตาปรือคล้ายจะหลับสนิท ท่ามกลางเสียงพูดคุยของเพื่อน ๆ ที่ยังดังอยู่รอบตัว“กนก ตื่นก่อน!” พราวเรียกด้วยเสียงดัง“ใช่ๆ กินข้าวก่อน นี่กระเพาะกุ้งของชอบแกไง กินก่อนแล้วค่อยกลับไปนอน” มิวพูดพร้อมกับยื่นช้อนให้“อืมม...” กนกพยักหน้าเบาๆ แต่สายตาของเขาดูเหมือนจะปิดลงทุกที เขายิ้มบาง ๆ แต่ก็ยังไม่ยอมลืมตาขึ้นเต็มที่ ความเหนื่อยสะสมทำให้ร่างกายของเขาหนักอึ้ง จนเผลอคิดไปว่า... ถ้าตอนนี้ได้เอนตัวลงนอนที่ไหนสักที่ก็คงดี แต่ระหว่างที่กำลังจะหลับตาลงอีกครั้ง “ป้าได้ยังคะ? เพื่อนหนูจะหลับตาโต๊ะแล้วค่าา” พราวหันไปเรียกป้านิด เจ้าของร้านอาหาร“ฮ่ะๆ วันนี้เรียนหนักกันหรอคะ? เพิ่งวันจันทร์กันเอง” ป้านิดถามด้วยน้ำเสียงอบอุ่น“วันนี้ไม่หนักเท่าไรค่ะป้านิด แต่กนกมันเพิ่งกลับบ้านมา ตื่นตั้งแต่ตี 4 วันนี้เรียนตั้งแต่เช้าลากถึงเย็นคงจะง่วงเต็มที่” “น้องกนกรีบทานจะได้รีบไปพักนะคะ” ป้านิดพูดพร้อมกับยิ้มให้“ขอบคุณครับป้านิด ผมจะรีบกิน...จะได้รีบไปนอน

  • เขาคนนั้นเหมือนใครคนหนึ่ง   ลึกลับ

    ถึงแม้ว่ารู้สึกยังพักผ่อนไม่เต็มที่ แต่ด้วยภารกิจในการเรียนทำให้กนกต้องเดินทางกลับมาที่หอตั้งแต่เช้ามืด ความเศร้าที่อยู่ภายในใจยังเกาะกิน ความผูกพันธ์ที่เขามีต่อหนังสือเล่มนั้นทำให้เขารู้สึกว่ามันอาจมีอะไรซ่อนอยู่ ซึ่งอาจจะเชื่อมโยงกับตัวเขาเอง ทำให้รู้สึกว่าวันนี้บรรยากาศรอบตัวมีแต่ความหมองหม่น ความเหม่อลอยตลอดเส้นทางการเดินไปมหาวิทยาลัยทำให้เขาเกือบจะโดนรถเฉี่ยวปิ๊ดดด!แต่ทันใดนั้น กลับมีใครบางคนดึงตัวเขากลับมาได้ทันเวลา หัวใจเขาตื่นระรัวด้วยความตกใจ และกำลังจะหันกลับไปขอบคุณคนใจดีคนนั้น แต่กลับไม่เห็นใครอยู่ตรงนั้นเลย มีเพียงสายลมที่พัดผ่านและเสียงใบไม้ที่สั่นไหว เหมือนกับว่ามีใครสักคนหายไปในอากาศ“ใครนะ...?” เขาพูดเบาๆ กับตัวเอง แต่ไม่มีใครตอบ มีเพียงเสียงลมพัดผ่านหูเบาๆ เหมือนเสียงกระซิบที่เขาคุ้นเคยถึงแม้จะยังคงสงสัย แต่พอดูนาฬิกาก็พบว่าใกล้จะถึงเวลาเข้าเรียนแล้ว เลยรีบกวดฝีเท้าให้เร็วขึ้นเพื่อจะเข้าเรียนให้ทัน เขาวิ่งกระหืดกระหอบมาทันเวลาพอดี มองหาเพื่อนสนิทก็เห็นพราวโบกมือทักทายให้มานั่งข้าง เมื่อถึงที่นั่งก็ฟุบลงกับโต๊ะ แสดงอาการเหนื่อยหอบ“เป็นไงกลับบ้านมา...สนุกไหม?” “น่

  • เขาคนนั้นเหมือนใครคนหนึ่ง   กลับบ้าน

    เพราะความรู้สึกบางอย่างที่ทำให้อยากกลับบ้าน จึงตัดสินใจว่ากลับบ้านไปตามหาอะไรบางอย่างน่าจะดีกว่า"อ้าว...ทำไมกลับ เดินทางตั้งหลายชั่วโมงนะ" ใช่...เพื่อนเขาพูดถูก พวกเราทั้งสามคนสอบติดมหาวิทยาลัยในกรุงเทพ แต่บ้านของพวกเราอยู่ชลบุรี ถึงจะนั่งรถตู้ไปถึงสถานีใช้เวลาประมาณสองชั่วโมงแต่จากสถานีก็ต้องนั่งรถสองแถวเข้าบ้านอีกตั้งสี่สิบนาที นานๆ ทีพวกเราถึงจะกลับบ้านกัน"อืม...มีธุระนิดหน่อยน่ะ" เขาไลน์บอกแม่ว่าจะกลับบ้านไปทำธุระ แม่ก็ไม่ได้ว่าอะไร"เป็นไงบ้าง เหนื่อยไหม มาถึงดึกเชียว" "เหนื่อยครับแม่ ดีที่วันนี้กนกเรียนแค่คาบเช้า ไม่งั้นดึกกว่านี้แน่เลย" "งั้นไปพักผ่อนแล้วลงมาทานข้าวเย็นด้วยกันนะ" "ไม่เป็นไรครับ ผมกินข้าวบ้านน้าแป้นมาแล้ว""อ่อ...เออ พูดถึงน้าแป้น" "หืมม...ทำไมหรอครับ" "เห็นแกบอกว่าลูกชายเขาก็ไปเรียนกรุงเทพนะ แต่ที่ไหนแม่ก็จำไม่ได้""หรอครับ แต่พี่...อ่าา จำไม่ได้แล้วอ่า" "อืมม... จำได้ว่าน่าจะเป็นรุ่นพี่เรานะ" "อ่าา...ครับ" กนกพยักหน้า"กนกขึ้นไปพักก่อนนะ""รีบพักนะลูก" กนกรีบขึ้นไปพักบนห้องของตัวเอง บ้านของเขาไม่ได้ใหญ่โตมากนัก แม้ว่าพ่อกับแม่จะรักการอ่านหนังสือมากแ

Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status