Home / วาย / เขื่อนขุนเขา / เขื่อนขุนเขา 5

Share

เขื่อนขุนเขา 5

Author: Meithimm
last update Last Updated: 2025-04-27 11:10:00

เสียงประตูห้องปิดลงเบาๆ แต่ภายในใจของขุนเขากลับดังก้องไปด้วยความรู้สึกมากมายจนแทบกลั้นไม่อยู่ เขาทรุดตัวลงบนเตียงกว้างที่ยังมีกลิ่นของเขื่อนอวลอยู่บนหมอน

ดวงตากลมมองออกไปนอกหน้าต่าง ริมฝีปากเม้มแน่น รู้ทั้งรู้ว่าไม่ควรคิดมาก ไม่ควรรู้สึกอะไรแบบนี้ เพราะคนคนนั้นก็คงเป็นแค่ ‘อดีต’ แต่… ทำไมมันหน่วงไปหมดแบบนี้นะ

“ก็แค่คนของเขาเอง” เขาพึมพำกับตัวเองเบาๆ พยายามไล่ความรู้สึกเจ็บออกไปจากอก

แต่ภาพที่อีกฝ่ายยืนอยู่หน้าบ้าน ยิ้มให้เขื่อนแบบนั้น มือที่แตะไหล่เขื่อนเหมือนเจ้าของ ไม่สิ…เหมือนคนที่เคยมีสิทธิ์ในตัวเขื่อนมาก่อน—มันทำให้ขุนเขาเจ็บจุกยังไงไม่รู้

เขาไม่อยากยอมรับหรอกว่ากำลังหึง กำลังน้อยใจ หรือกลัว… กลัวว่าจะมีใครบางคนที่เขื่อนเคยรัก มาก่อนเขา และอาจจะยังมีผลอยู่

เสียงประตูเปิดดังขึ้นเบาๆ ขุนเขาหันไปมอง เห็นร่างสูงของเขื่อนเดินเข้ามาช้าๆ มือถือแก้วน้ำกับนมอุ่นหนึ่งแก้ว

“นมอุ่น จะได้นอนพัก”

ขุนเขาเงียบ ไม่พูดอะไร มือรับแก้วไว้แต่ไม่แตะ ริมฝีปากเม้มแน่น ดวงตาหลบสายตาคู่นั้นที่มองมาด้วยความรู้สึกบางอย่างที่เขาไม่กล้าเดา

เขื่อนนั่งลงข้างเตียง มือใหญ่แตะเบาๆ ที่หลังมือของขุนเขา

“โกรธเหรอ”

“…เปล่า” ขุนเขาตอบเบาๆ

“ไม่เปล่าแน่ๆ” เขื่อนถอนหายใจเบาๆ “คนเมื่อกี้ชื่อภณ เราเคย…เจอกันก่อนหน้านี้ แต่เลิกยุ่งกันไปนานแล้ว ตั้งแต่พี่ย้ายมาอยู่ที่นี่”

ขุนเขายังเงียบ มือที่ถือแก้วนมนิ่งสนิท เขื่อนยื่นมือมารับแก้วไปวางไว้บนโต๊ะหัวเตียง แล้วจับมือของขุนเขามากุมไว้แทน

“พี่ไม่เคยให้ใครขึ้นห้องนี้…นอกจากเรา”

ดวงตาของขุนเขาเบิกกว้างเล็กน้อย เขาหันไปมองอีกฝ่ายอย่างไม่คาดคิด

“จริงเหรอ”

“จริง” เขื่อนพยักหน้า “และพี่ก็ไม่เคยคิดจะเริ่มใหม่กับใครอีก จนกระทั่งเจอเรา”

น้ำเสียงนิ่งของเขื่อนนั้นเรียบง่าย แต่ในความเรียบนั้นมีบางสิ่งมั่นคงจนน่าอุ่นใจ

หลังจากภณจากไป เขื่อนรีบปิดประตูลงกลอน ก่อนจะวิ่งขึ้นมาชั้นบนโดยไม่หยุดหายใจ ภาพใบหน้าขุนเขาที่เต็มไปด้วยความเสียใจยังตามหลอกหลอนเขาอยู่ทุกก้าว

เขื่อนทรุดตัวลงนั่งตรงหน้าเขาและพูดคุยกับร่างบางก่อนที่จะดึงร่างบางเข้ามากอดแน่นแนบอก เสียงหัวใจของเขาส่งผ่านผ่านผิวหนัง เขื่อนโน้มตัวลงกระซิบที่ข้างหูอย่างแผ่วเบาว่าพี่ขอรักและขอดูแลหนูได้ไหม

พี่ไม่ยอมให้ขุนหายไปไหนอีกแล้ว… ต่อให้ขุนจะผลักพี่ออก พี่ก็จะตามขุนไปทุกที่ พี่จะปกป้องขุน สหัสวรรษพูดกับความคิดตัวเองไม่ได้เอ่ยเอื้อนอะไรออกไป

ขุนเขานิ่งไปเล็กน้อย ก่อนจะกำเสื้อของเขื่อนแน่นขึ้น ยอมให้ตัวเองจมอยู่ในอ้อมกอดนั้นอย่างเต็มที่

และในคืนนั้น… สหัสวรรษ เพื่อนสนิทของเขื่อนส่งข้อมูลทั้งหมดมาทางไลน์ — เรื่องหนี้ที่พ่อแท้ๆ ของขุนเขาติดไว้กับเจ้าหนี้ใหญ่แห่งบ่อนชื่อดัง เรื่องการหลบหนีของขุนเขาในวัยเพียง 23 ปี และการที่เกือบถูกจับตัวไปเมื่อไม่กี่เดือนก่อนจะได้เจอเขื่อน

เขื่อนอ่านข้อความทั้งหมดด้วยใบหน้าเคร่งเครียด แต่ดวงตากลับเต็มไปด้วยความมุ่งมั่น เขาไม่คิดเลยว่าขุนเขาจะต้องใช้ชีวิตอย่างโดดเดี่ยว และแบกภาระมากขนาดนี้

เขาตัดสินใจโอนเงินจำนวนมหาศาลเพื่อเคลียร์หนี้ทั้งหมด พร้อมส่งคนไปเจรจาอีกทางให้เรื่องเงียบและไม่ตามรังควานขุนเขาอีกต่อไป เขาไม่เคยลังเลเลย—เพราะสำหรับเขา ชีวิตของขุนเขามีค่ากว่าสิ่งอื่นใด แม้เราจะพึ่งพบกันแต่เขาก็เริ่มมีความรู้สึกดีๆให้กับอีกคนแล้ว

ในวันถัดๆมา

ขุนเขาทำงานบ้านอย่างตั้งใจ ไม่ว่าจะกวาด ถู ซัก หรือล้าง เขาอยากตอบแทนคนที่ยื่นมือช่วยเขาในวันที่เขาไม่มีอะไรเลย แม้แต่ศักดิ์ศรี

และเพราะคำสั่งของเขื่อน…เขาจึงถูกย้ายเข้ามานอนในห้องของร่างสูงอย่างถาวร

แรกๆ ขุนเขาเขินจนแทบไม่กล้ามองหน้าอีกฝ่าย โดยเฉพาะในตอนกลางคืนที่ต้องแบ่งเตียงเดียวกัน แต่เขื่อนกลับไม่ล้ำเส้น ไม่แตะต้อง ไม่เร่งรัด จนกระทั่งคืนหนึ่ง…

ในคืนที่ลมพัดเอื่อยเบา เสียงคลื่นกระทบฝั่งดังแผ่วจากหน้าต่างที่แง้มไว้

เขื่อนลูบเส้นผมนุ่มของขุนเขาที่ยังนอนตาโตอยู่ข้างๆ พลางกระซิบเบาๆ

“ถ้าขุนไม่อยาก… พี่จะไม่ทำอะไร”

ขุนเขาสบตาอีกคน ก่อนจะค่อยๆ ขยับตัวเข้าไปใกล้เขื่อน ซุกใบหน้าลงที่อกกว้างของเขา แล้วพูดเสียงแผ่วจนแทบไม่ได้ยิน

“……” ปลายขอบฟ้าเงียบงัน ริมฝีปากสั่นไหวแต่ไม่อาจเปล่งเสียงใดออกมา ดวงตาคู่นั้นหม่นแสงราวกับกลืนคำพูดทั้งหมดไว้ในอก หากสิ่งเดียวที่เขาสามารถทำได้เพื่อตอบแทนบุญคุณของคนที่ช่วยชีวิตเขาไว้ คือการมอบกายและใจให้ ขุนเขาก็ยินดีจะทำมันอย่างไม่มีข้อแม้

เขาจะอยู่ตรงนี้ ทำหน้าที่นี้ เพื่อทดแทนบุญคุณไปตลอดชีวิต จนกว่าจะถึงวันที่เขื่อนมีใครสักคนที่รักและเลือกเดินไปด้วยกัน…

และในวันนั้น เขาจะถอยออกมาอย่างเงียบงัน โดยไม่เรียกร้องสิ่งใดเลย

ร่างสูงมองดวงตากลมนั้น แล้วจูบเบาๆ ที่หน้าผากก่อนจะครอบครองกันอย่างแผ่วเบาแต่ลึกซึ้ง ทุกการสัมผัสคือความห่วงใย ทุกจังหวะคือการบอกรักโดยไม่ต้องพูด

คืนนั้น… เต็มไปด้วยลมหายใจที่ประสานกันอย่างเนิบช้า สอดประสานกันอย่างกลมกลืน…ไม่มีอดีต ไม่มีบาดแผล มีเพียงตอนนี้ ที่ขุนเขาอยู่ในอ้อมกอดของใครสักคน ที่ไม่ปล่อยให้เขาโดดเดี่ยวอีกต่อไป

รุ่งเช้า วันใหม่เริ่มต้นพร้อมแสงอ่อนๆ ที่เล็ดลอดผ่านหน้าต่าง เขื่อนลุกขึ้นอาบน้ำ แต่งตัวเรียบร้อย ก่อนจะโน้มตัวจูบขมับของคนตัวเล็กที่ยังหลับสนิทอยู่บนเตียงอย่างแผ่วเบา จากนั้นจึงออกจากบ้านไปตั้งแต่เช้ามืด

เวลาตีห้า เขื่อนเดินมาถึงท่าเรือ ลูกน้องสองคน ชัยและหนึ่ง ยืนรออยู่ก่อนแล้ว ชัยเอ่ยรายงานด้วยน้ำเสียงเครียด

“ช่วงนี้มีคนลักลอบเข้าเกาะทางใต้ครับ เหมือนจะมาขโมยข้อมูลไปให้เจ้านายมัน”

เขื่อนพยักหน้า ริมฝีปากตึงเครียด “งั้นรีบไปจัดการ”

ลูกน้องทั้งสองรีบขึ้นเรือพร้อมเขื่อน เรือแล่นฝ่าคลื่นไปยังเกาะสัมปทานทางใต้ที่ใหญ่ที่สุด ใช้เวลาไม่ถึงครึ่งชั่วโมงก็ถึงฝั่ง หนึ่งเอ่ยขึ้นขณะจอดเรือ

“ไม่แน่อาจเป็นพวกเจษ พวกมันเคยลอบเข้ามาแล้วครั้งหนึ่ง”

เขื่อนขบกรามแน่น จำชื่อศัตรูคู่อาฆาตได้ดี — เจษ ตระกูลที่ชิงชังกันมาตั้งแต่รุ่นปู่รุ่นพ่อ

ทั้งสามเดินตรงไปยังชายชุดดำที่ถูกจับกุมไว้ สภาพสะบักสะบอมจากการถูกซ้อม เขื่อนปรายตามองเย็นชา ก่อนจะเอ่ยเสียงต่ำจนเสียวสันหลัง

“ใครส่งมึงมา? อยากตายหรือไง ถึงกล้าล้ำเข้าถิ่นกู”

เขื่อนด่าอย่างขุ่นเคือง ก่อนจะคว้าปืนขึ้นมาฟาดเข้าที่ตัวชายชุดดำจนล้มกลิ้ง

“กูฝากไปบอกนายมึงด้วย — อย่าเสือกมาเหยียบที่นี่อีก”

เสียงปืนลั่นสามนัด กระหึ่มก้องไปทั่วเกาะ ก่อนที่เขื่อนจะโยนปืนให้หนึ่ง และสั่งเสียงเย็น

“เอาศพมันไปโยนหน้าบ้านไอ้เจษซะ”

เขื่อนขบฟันแน่น รู้ดีว่าป่านนี้ศัตรูคงไหวตัวและรู้แผนส่งของแล้ว การเคลื่อนไหวต้องเปลี่ยน เขาต้องเลื่อนวันเวลาทุกอย่างออกไป — แผนการที่เขาเตรียมมานานอาจต้องเริ่มใหม่ทั้งหมด

เขื่อนกลับมาถึงบ้านในช่วงสาย แดดเช้าส่องลอดใบไม้เป็นแสงริ้วๆ ทอดผ่านลานบ้าน แต่ในใจเขากลับขุ่นมัวไม่ต่างจากพายุ เขายังเก็บอารมณ์ไม่ตกจากเหตุการณ์ที่เกาะทางใต้ ทันทีที่เดินเข้ามาถึง เขื่อนก็ต้องชะงัก — ภาพตรงหน้า คือขุนเขากำลังหัวเราะเบาๆ อยู่กับคนงานชายหนุ่มคนหนึ่ง รอยยิ้มบนใบหน้าเล็กดูไร้เดียงสา แต่กลับบาดตาเขื่อนอย่างประหลาด

ความหงุดหงิดเดิมที่ยังอัดแน่นในอก พอเจอภาพนี้ก็ยิ่งลุกลาม เขื่อนข่มอารมณ์ และเดินเข้าไปหาช้าๆ ขุนเขาหันมาเห็นพอดี รอยยิ้มเล็กปรากฏขึ้นบนใบหน้า ทว่าเมื่อสบตากับชายร่างสูง ความลังเลบางอย่างก็ผุดขึ้นในใจเขาทันที

มือที่ตั้งใจจะยื่นออกไปกอดกลับชะงักกลางอากาศ ก่อนจะเปลี่ยนเป็นเพียงการโบกมือเบาๆ

“กลับมาแล้วเหรอครับ…” น้ำเสียงของขุนเขานุ่มนวล แต่เจือแววหงอย เขาไม่ได้ถามว่าเหนื่อยไหม ไม่ได้พูดอะไรมากไปกว่านั้น เพราะรู้ดีว่าเขาไม่มีสิทธิ์จะทำเช่นนั้น

เขื่อนเลิกคิ้วเล็กน้อย แววตานิ่งขรึม “อืม” เป็นคำตอบสั้นๆ ก่อนจะปรายตามองชายหนุ่มที่ยืนอยู่ไม่ไกลด้วยสายตาประเมิน

“หนูทำกับข้าวไว้ให้แล้ว… อยากทานเลยไหม” ขุนเขาถามเสียงเบา

“ไปสิ” เขื่อนตอบ ก่อนจะเดินนำเข้าไปในบ้าน ทว่าไม่ใช่เพียงแค่เขาและขุนเขาเท่านั้นที่อยู่ในนั้น — หน้าประตูมีหญิงสาวรูปร่างสวย หุ่นดี ผมยาวเคลียไหล่ กำลังยืนรอด้วยรอยยิ้มบางๆ ที่มองดูเขื่อนด้วยสายตาคุ้นเคย

“พี่เขื่อน…” เสียงหวานเรียกขณะที่หญิงสาวเดินเข้ามาใกล้

เขื่อนยิ้มรับโดยไม่ได้ปิดบัง พร้อมพยักหน้าเชื้อเชิญให้เธอเข้าไปในบ้าน ขุนเขายืนอยู่ข้างๆ แต่กลับรู้สึกราวกับตัวเองเป็นเพียงเงาในมุมห้อง

เขาก้มหน้าลง ถอนหายใจเงียบๆ รู้ดีว่าไม่ควรหวัง ไม่ควรคิดเข้าข้างตัวเอง ว่าความห่วงใยที่เขื่อนไม่เคยละเลยนั้น…จะมีความหมายอะไรไปมากกว่าแค่การตอบแทนที่เขาช่วยไว้

และเมื่อเข้ามานั่งที่โต๊ะอาหาร เสียงหัวเราะของหญิงสาวคนนั้น และบทสนทนาอย่างสนิทสนมก็ทำให้ขุนเขารู้สึกเหมือนถูกกดทับด้วยความเงียบในหัวใจ โลกทั้งใบค่อยๆ เหลือเพียงสองคน — เขื่อน และเธอคนนั้น…

ภายในบ้านเงียบสงบ มีเพียงเสียงถ้วยชามกระทบกันเบาๆ กับเสียงพูดคุยของสองหนุ่มสาวที่นั่งอยู่ที่โต๊ะอาหาร

ปานวาดนั่งลงข้างเขื่อนด้วยท่าทีเป็นกันเอง รอยยิ้มหวานประดับอยู่บนใบหน้าอย่างไม่ปิดบังความสนิทสนม

“ช่วงนี้งานเป็นยังไงบ้างคะ พี่เขื่อน สบายดีไหม” ปานวาดเอ่ยถามเสียงใส พลางตักอาหารใส่จานตัวเองด้วยท่าทีสบายๆ เหมือนคนที่รู้จักกันมานาน

เขื่อนพยักหน้าเบาๆ “เรื่อยๆ น่ะ มีเรื่องต้องจัดการบ้าง แต่ไม่หนักมาก”

ขุนเขายืนอยู่ไม่ห่างจากโต๊ะ ท่าทีเรียบร้อย รอว่ามีอะไรให้รับใช้ ก่อนที่สายตาของหญิงสาวจะปรายมาหาเขา

“น้องคนนี้ใช่ไหมคะ คนที่อยู่ด้วยตลอดช่วงนี้” ปานวาดถามอย่างยิ้มๆ ก่อนจะหันไปพูดต่อกับเขื่อน “น่ารักดีนะคะ ขยันด้วย”

เขื่อนทำท่าจะลุกขึ้นตักข้าวเอง แต่ปานวาดยกมือห้ามไว้ “ไม่ต้องหรอกค่ะ ให้เด็กเขาทำให้ดีกว่า น่ารักจะตาย”

ขุนเขายิ้มบางๆ แม้ในใจจะปวดหนึบ แต่ก็ไม่กล้าแสดงออก เขาเดินเข้าไปหยิบถ้วยข้าว และค่อยๆ ตักข้าวสวยร้อนๆ ใส่จานให้กับเขื่อนและปานวาดอย่างนุ่มนวล ระมัดระวังเหมือนกลัวทำเสียงดังเกินไป

เมื่อตักเสร็จ ขุนเขาวางช้อนลง ก่อนจะยกมือไหว้อย่างนอบน้อมแล้วเอ่ยเบาๆ

“หนูขอตัวไปทำงานหลังบ้านต่อนะ”

เสียงของเขาอ่อนแอจนแทบกลืนไปกับลมหายใจ แต่เขื่อนที่กำลังหันไปคุยกับปานวาดก็ไม่ได้เอะใจอะไรนัก เพียงพยักหน้าให้ผ่านๆ

ขุนเขาเดินออกมายังหลังบ้าน ความรู้สึกหนักอึ้งกดทับหัวใจจนแทบหายใจไม่ออก ดวงตาร้อนผ่าว แต่เขาก็กลั้นน้ำตาเอาไว้ไม่ให้ไหล

‘อย่าร้องนะ… อย่าเอาใจไปผูกไว้กับเขา’

ขุนเขากัดริมฝีปากตัวเองแน่น ก่อนจะเริ่มลงมือทำงานบ้านที่กองสุมอยู่ตรงหน้า ซักผ้า ถูพื้น ล้างภาชนะด้วยท่าทีตั้งใจราวกับจะใช้มันกลบเสียงหัวใจที่กำลังร้องไห้อยู่เงียบๆ ในอก

เขายอมทุกอย่างเพื่อพี่เขื่อน…ยอมแม้กระทั่งการเป็นเงาที่ไม่มีวันได้เข้าไปอยู่ในแสงสว่างของอีกคน

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • เขื่อนขุนเขา    เขื่อนขุนเขา 25

    โรงพยาบาล – ห้องพักผู้ป่วยพิเศษ ข้างห้อง ICU, เวลา 10:15 น. เสียงสายลมเบาๆ พัดผ่านม่านสีขาวสะอาด ขุนเขานั่งอยู่บนโซฟานุ่มริมหน้าต่าง แสงแดดยามสายตกต้องบนใบหน้าที่ซีดเซียวแต่ยังคงความอ่อนโยน ร่างเล็กที่พึ่งผ่านการคลอดไม่กี่วัน อุ้มลูกน้อยไว้ในอ้อมแขนแนบอก เด็กชายหน้าตาจิ้มลิ้มผิวขาวอมชมพูจ้องตาแม่ไม่กระพริบ ริมฝีปากเล็กๆ ขยับเบาเหมือนจะพยายามพูดอะไรสักอย่าง “หนูดูพ่อสิลูก ขี้เซามาก ไม่ยอมตื่นมาเล่นกับเราเลย…” เสียงอ่อนโยนของขุนเขาเอ่ยขึ้นเบาๆ ก่อนจะหยุดพูดไปเมื่อได้ยินเสียงเด็กน้อยเปล่งออกมาเป็นเสียงอ้อแอ้ “แอ๊ะ… แอ๊ะ…” ขุนเขาหัวเราะเบาๆ ทั้งน้ำตาคลอหน่วย เอียงหน้ามาแตะหน้าผากลูกอย่างแผ่วเบา “ไว้พ่อฟื้น แม่จะพาหนูมาใหม่นะครับ ไม่ร้องนะคนเก่ง…” เขายกมือขึ้นลูบผมนิ่มๆ ของลูก แล้วเงยหน้ามองเตียงคนไข้เบื้องหน้า… เขื่อน นอนนิ่งอยู่บนเตียง เครื่องช่วยหายใจยังคงทำงานช้าๆ สม่ำเสมอ สายรัดและอุปกรณ์ทางการแพทย์ยังพันเต็มร่างกาย สีหน้าของเขาดูสงบ แต่ก็ยังไม่ขยับเลยแม้แต่น้อย ขุนเขากัดปากแน่น พยายามกลั้นน้ำตา แต่ก็ไม่อาจต้านทานได้ “ด…เดี๋ยวพ่อก็ฟื้น… พ่อจะต้องฟื้น…” เสียงสั่นเค

  • เขื่อนขุนเขา    เขื่อนขุนเขา 24

    เสียงไซเรนของรถพยาบาลและรถตำรวจดังแหวกอากาศมาแต่ไกลแสงไฟวูบวาบตัดกับท้องฟ้ายามบ่ายแก่ที่เริ่มขมุกขมัว ผู้คนมุงดูอยู่ริมถนนสายหลักที่ทอดผ่านเขตชานเมือง ตรงบริเวณโค้งลงเขาซึ่งขึ้นชื่อว่าอันตรายมากที่สุดแห่งหนึ่งรถ SUV สีดำขลับ พังยับเยินจนเกือบจำเค้าเดิมไม่ได้ ฝากระโปรงยุบย่นกระแทกเข้าไปถึงที่นั่งคนขับ กระจกหน้าแตกละเอียดกระจายเต็มพื้นถนน ล้อหน้าข้างหนึ่งหลุดกลิ้งออกไปไกลจากจุดเกิดเหตุ กลิ่นน้ำมันและเขม่าควันโชยตลบอบอวลเสียงหวอของเจ้าหน้าที่กู้ภัยประสานกับเสียงวิทยุสื่อสารตลอดเวลา“เราพบผู้บาดเจ็บติดอยู่ในรถคนเดียวครับ เป็นชาย… อายุประมาณสามสิบต้นๆ หมดสติ มีเลือดออกจากศีรษะและอกด้านซ้ายอย่างรุนแรง!”เจ้าหน้าที่รีบใช้เครื่องตัดถ่างแงะประตูด้านคนขับที่บิดเบี้ยวอย่างหนัก เสียงเหล็กเสียดสีกันแหลมคมสะท้านเข้าไปถึงหัวใจภาพของเขื่อน—ร่างกายแน่นิ่งคาอยู่กับพวงมาลัย ใบหน้าเต็มไปด้วยเลือดและเศษกระจกเสื้อเชิ้ตสีขาวมีเลือดเปรอะเปื้อน ส่วนอกด้านซ้ายบุบยุบจนน่ากลัว กระจกแตกทิ่มเข้าเนื้อและแขนจนเห็นเนื้อแดงฉาน“ได้ตัวแล้วครับ! เตรียมเปลนิ่มเร็ว!”เสียงตะโกนของเจ้าหน้าที่ดังแทรก“ชีพจรยังมี แต่อ่อ

  • เขื่อนขุนเขา    เขื่อนขุนเขา 23

    ย้อนกลับไปในค่ำคืนนั้นที่งานเปิดตัวโรงแรมของเครือขุนเขาเป็นไปด้วยความหรูหรา แขกมากหน้าหลายตาเข้าร่วมงาน ทั้งนักลงทุน พันธมิตรทางธุรกิจ และบุคคลสำคัญในวงการต่าง ๆท่ามกลางเสียงพูดคุย เสียงดนตรี และแสงแฟลชจากกล้องมากมายขุนเขาในชุดเรียบหรูแบบคนมีฐานะ แต่ไม่มีใครรู้ว่าเขาเป็นใคร เพราะเขื่อนเองก็ไม่ได้แนะนำออกไมโครโฟนอย่างเป็นทางการทว่าทุกคนกลับรู้สึกได้ว่า คนคนนี้พิเศษกับเขื่อน มากและนั่น… คือสิ่งที่สายตาหนึ่งจับจ้องอย่างสนใจจากชั้นสองของโถงจัดงาน มีชายคนหนึ่งในชุดสูทสีเข้ม ยืนพิงราวบันไดมองลงมาด้านล่าง ดวงตาคมเฉียบเต็มไปด้วยแววรังสีที่คล้ายกับงูเห่าเมื่อจับเหยื่อไว้ในสายตา“หึ…หน้าคุ้นแปลก ๆ นะ…”“หน้าตาแบบนี้…เหมือนใครบางคนที่กูเคยเห็น…”เขาหยิบมือถือขึ้นมา แอบถ่ายภาพของขุนเขาอย่างแนบเนียน ก่อนจะส่งไปยังเครือข่ายของตนให้สืบข้อมูลทันทีชายคนนั้น หรือที่ผู้คนในวงการใต้ดินรู้จักในนาม “อาคิระ”ชายสัญชาติญี่ปุ่น หนึ่งในศัตรูเก่าแก่ที่มีคดีขัดผลประโยชน์กับขุนแผนมานานหลายปี เปิดแฟ้มข้อมูลที่เพิ่งได้รับจากสายข่าวภาพใบหน้าของขุนเขาปรากฏชัดเจน พร้อมชื่อเดิม สถานที่เคยอยู่ และ…“…ลูกของไอชา

  • เขื่อนขุนเขา    เขื่อนขุนเขา 22

    ยามค่ำคืนในเพ้นต์เฮ้าส์เงียบสงบ แสงไฟสีอุ่นจากโคมตั้งพื้นทาบทาลงบนโซฟาและพื้นไม้ ขุนเขานั่งพิงอกเขื่อนอยู่บนเตียงกว้าง กลิ่นสบู่จาง ๆ จากร่างกายสะอาดของกันและกันยังลอยอ้อยอิ่งในอากาศ พวกเขานอนคุยกันเรื่อยเปื่อย หัวเราะบ้าง ล้อเล่นกันบ้าง ก่อนที่ความเงียบจะค่อย ๆ ปกคลุมลงทีละน้อย เสียงของเขื่อนดังขึ้นเบา ๆ ราวกลัวจะรบกวนช่วงเวลาสงบตรงหน้า “ขุนเขา… ถ้าวันหนึ่งเราลืมกันไป… ขุนเขาจะยังจำความรู้สึกนี้ได้ไหมครับ” ขุนเขาขยับตัวเล็กน้อยก่อนจะเงยหน้าขึ้นสบตาเขื่อน ยิ้มอ่อน ๆ ที่มุมปาก ราวกับว่าคำตอบนั้นชัดเจนอยู่แล้ว “จำได้สิครับ… มันดีมากเลยนะในตอนนี้” เสียงของขุนเขานุ่มนวลแต่หนักแน่น แฝงความมั่นคงอย่างไม่ต้องอธิบาย พูดจบ ขุนเขาก็ขยับตัวเข้าไปใกล้ ใช้สองแขนโอบกอดเขื่อนเอาไว้แน่นอย่างที่ใจต้องการ หน้าแนบอกอีกฝ่าย ฟังเสียงหัวใจที่เต้นเป็นจังหวะมั่นคง เขื่อนเงยหน้าขึ้นเล็กน้อย มองคนในอ้อมแขน ก่อนจะโน้มตัวลงจูบเบา ๆ บนหน้าผาก สัมผัสนั้นอ่อนโยนนัก เหมือนสัญญา เขื่อนกระซิบเบา ๆ ด้วยน้ำเสียงอบอุ่น “ถ้าไม่เป็นการรบกวน… ถ้าพี่อยากจะขอดูแลขุนเขานับต่อจากนี้… ขุนเขาจะว่าอะไรไหมครับ” ขุนเขาส่

  • เขื่อนขุนเขา    เขื่อนขุนเขา 21

    เช้าวันต่อมา แสงแดดอุ่นยามเช้าส่องลอดผ้าม่านเข้ามาในห้องอย่างนุ่มนวล ขุนเขาค่อยๆ ลืมตาขึ้นก่อนจะหันไปมองข้างกาย ที่ตรงนั้น… เขื่อนยังนอนอยู่บนฟูกที่ปูไว้ข้างเตียง ใบหน้าหล่อดูสงบและผ่อนคลายเหมือนเด็กชายในยามหลับ ขุนเขามองนิ่งอยู่สักพัก ก่อนจะอมยิ้มอย่างไม่รู้ตัว หลังจากลุกขึ้นล้างหน้าแปรงฟันและเปลี่ยนเสื้อผ้าเรียบร้อย ขุนเขาก็เดินออกมาที่ห้องนั่งเล่น และพบว่าเขื่อนตื่นแล้ว แถมยังเตรียมอาหารเช้าไว้บนโต๊ะอย่างเรียบร้อย “ตื่นแล้วเหรอครับ” ขุนเขาทักเสียงเบา “ครับ วันนี้หน้าคุณดูสดใสดีนะ” เขื่อนยิ้มพลางยื่นขนมปังปิ้งให้ “รับรองว่าไม่ไหม้แน่ครับ เพราะผมตั้งใจเฝ้าเตาอย่างดี” ขุนเขาหัวเราะเบาๆ รับขนมปังมาถือไว้ “ขอบคุณนะครับ” หลังจากนั่งกินข้าวกันอยู่สักพัก ในจังหวะที่บรรยากาศเงียบสงบ เขื่อนก็เอ่ยขึ้นเบาๆ “คุณขุนเขาครับ…” “ครับ?” “ไปเที่ยวทะเลกับผมไหมครับ?” ขุนเขาชะงักนิดหน่อย มองเขื่อนนิ่งด้วยแววตาแปลกใจ “ผมหมายถึง…แค่สองวันหนึ่งคืนก็ได้ครับ ผมเห็นคุณอยู่แต่ในบ้านกับโรงพยาบาล คงเบื่อแย่ อยากให้คุณได้ออกไปเจอลม เจอคลื่น เจอท้องฟ้า…ก่อนที่คุณจะรู้สึกว่ามันไม่สะดวก” ขุนเขานิ่งคิด แต

  • เขื่อนขุนเขา    เขื่อนขุนเขา 20

    หลังจากที่ทั้งคู่ เขื่อนและขุนเขาไปมาหาสู่กันก็เข้าสัปดาห์ที่3ที่ในชีวิตของขุนเขามีเขื่อนอยู่ด้วย เขาเคยแกล้งถามว่ามาหาตนทุกวันอย่างนี้แล้วงานล่ะใครจะทำ เขื่อนก็ได้แต่ยิ้มแล้วก็บอกว่ามีคนดูอยู่ ขุนเขาเลยไม่ตื้อไม่อะไร และเดือนนี้ก็เข้าสู่ช่วงปลายเดือนที่6ของการตั้งครรภ์แล้ว ขุนเขาเริ่มจะทำอะไรไม่สะดวก ไม่ค่อยออกไปไหนเพราะกลัวจะลำบากและรบกวนขุนแผน ภายในบ้านยามบ่าย แดดลอดผ่านผ้าม่านบางเบา ขุนเขานั่งพิงหมอนใบใหญ่บนโซฟา มือหนึ่งลูบท้องกลมเบาๆ อีกข้างถือโทรศัพท์เลื่อนดูรูปอาหารที่อยากกิน ก่อนจะเงยหน้าขึ้นทันทีเมื่อเสียงกริ่งประตูดัง “มาอีกแล้วเหรอครับ” เสียงพูดเหมือนจะบ่น แต่รอยยิ้มกลับแต้มขึ้นบนใบหน้าทันทีที่เห็นว่าเป็นเขื่อน “ก็คิดถึงนี่ครับ” เขื่อนพูดหยอกล้อและยกถุงขนมและของโปรดของขุนเขาเข้ามา พร้อมกับน้ำผลไม้เย็นจัดในมือ “วันนี้ไม่ต้องมาก็ได้ครับ ผมไม่เป็นไร” ขุนเขาวางโทรศัพท์ลง “ไม่มาไม่ได้ครับ เดี๋ยวลูกงอน” เขื่อนพูดขำๆ แล้วค่อยๆ นั่งลงข้างๆ อย่างไม่เร่งรัด “จะลูกใครก็ยังไม่รู้เลยนะครับ” ขุนเขาว่าทั้งที่ไม่ได้โกรธ สีหน้ายังมีรอยยิ้มเจือจางอยู่ “ผมไม่ซีเรียสครับ ไม

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status