Share

ตอนที่6มีลูกหาบ

last update Last Updated: 2025-06-26 22:40:08

ท่านหมอไป๋อี้เฉิงไม่ทันฟังจนจบก็รีบทรุดตัวลงข้างจ้าวอินหลัว มือเขาคลำชีพจร กดเบาๆแล้วขมวดคิ้ว

"ยังเต้นอยู่...แต่แรงไม่เท่าเดิม"

อี้เฉิงควักยาถุงเล็กออกมา ชงยาสีคล้ำอีกถ้วย ปล่อยให้เย็นพอดี จากนั้นจึงใช้แขนข้างหนึ่งรองศีรษะอินหลัวขึ้นพิงอก ก้มลงป้อนยาทีละนิดอย่างระมัดระวัง

แต่เพราะจ้าวอินหลัวยังสลบเขาจึงต้องใช้ช้อนเขี่ยริมฝีปากให้อ้าเบาๆแล้วหยอดยาเข้าไป เช็ดคราบยาตามมุมปากด้วยผ้าขาว ละเมียดละไมไม่ต่างจากคนดูแลน้องสาวที่ป่วยหนัก

กระบวนการกินยาของจ้าวอินหลัว ใช้เวลานานกว่าที่ควรจะเป็นนัก หลี่เจินหรงมองภาพนั้นจากบนแท่นอนและเขาไม่พูดอะไร แต่สีหน้าดู...สงบขึ้นเล็กน้อย ไม่แน่ว่าเพราะยา หรือความโกรธลดลง เมื่อยาทั้งหมดถูกกลืนลงไปแล้ว อี้เฉิงถอนหายใจเสียงยาว เหมือนปล่อยลมที่กักไว้นาน

"โชคดีที่ยาปราณคู่นี้มีอีกสรรพคุณหนึ่ง..."

อี้เฉิงพูดกับหลี่เจินหรง พลางเก็บเครื่องไม้เครื่องมือ

"นอกจากจะแบ่งความเจ็บแล้ว...มันยังแบ่งผลของยาให้ด้วย ยาชาบรรเทาอาการบาดเจ็บของท่าน...เพราะผูกปราณกันไว้ ตอนที่นางกลืนยาเข้าไป ผลจึงส่งถึงท่านเช่นกัน"

"หมายความว่า..."หลี่เจินหรงขมวดคิ้วช้าๆ

"หมายความว่า...ข้ากำลังเสี่ยงให้หญิงสาวผู้นี้กินยาแทนท่าน โดยหวังว่า...อย่างน้อยท่านจะรู้สึกดีขึ้นสองเท่า" เขายิ้มจางๆ

"มันอาจช่วยไม่ได้มาก แต่มันดีกว่าท่าน...ต้องเจ็บอยู่คนเดียว"

"น่ารำคาญ..." สบถเบาๆตั้งใจอยากให้อินหลัวทรมานอยู่แบบนั้นเขากินยาเท่ากับนางบรรเทานางกินาเท่ากับเขาบรรเทาเช่นกัน

จ้าวอินหลัวรู้สึกตัว ตื่นขึ้นมาด้วยอาการมึนงงและร่างกายที่อ่อนแรงเหมือนเพิ่งวิ่งหนีเสือมาไกลสิบกิโลเมตร หัวหนัก ร่างกายเบาแปลกๆแต่ความเจ็บปวดที่เคยแผดเผาในกระดูกกลับหายไปเหมือนไม่เคยมีอยู่

อินหลัวค่อยๆกะพริบตา มองเพดานกระโจมแล้วขยับตัวเล็กน้อย พบว่าตนเองกำลังนอนอยู่บนแคร่ไม้ไผ่ ผ้าห่มหยาบๆปูพอประทังหนาว มือข้างหนึ่งยังมีคราบยาติดอยู่บางเบา

ดวงตานางเหลือบไปข้างซ้าย เห็นร่างสูงของบุรุษในชุดสีขาวสะอาดยืนอยู่ เขายืนห่างออกไปเล็กน้อย ข้างแท่นนอนอีกฝั่งของกระโจม กำลังเฝ้ามองดูอาการของหลี่เจินหรงที่นอนอยู่บนแท่นนอนนุ่มหรูหรากว่าหลายเท่า

“มาตรฐานอยู่ตรงไหนเลือกปฎิบัตินี่”

ดวงตาของหมอไป๋อี้เฉิงที่มักจะเรียบเฉย เวลานี้กลับมองอ๋องหลี่เจินหรงด้วยสีหน้าจริงจังและห่วงใย อินหลัวกลืนน้ำลายลงคอช้าๆรู้สึกแห้งผาก

"หึ..." เสียงในลำคอเบาๆพลางขมวดคิ้ว

อินหลัวหันหน้ามองเพดานอีกครั้ง ก่อนจะคิดขึ้นมาในหัวเสียงชัดเจน

"หมอคนนี้...ช่างไร้จรรยาบรรณแพทย์จริงๆ ทำไมต้องไปดูแลเขาก่อน คนที่นอนขาดใจอยู่ตรงนี้เขาไม่คิดมาดูบ้างเลยหรือยังไง"

ดวงตากลมโตขยับไปทางอีกฝั่งอีกครั้ง จ้องไปยังร่างของหลี่เจินหรงที่ยังหลับตา ใบหน้าซีดแต่ดูสงบ

"ดูนั่นสิ...นอนนิ่งๆแบบนั้นเหมือนไม่ได้เจ็บอะไรเลย ยังจะทำท่าทางเหมือนโลกเป็นของตัวเอง ดวงตาเขายังแข็งกร้าวแม้ตอนหลับ เฮอะ...แบบนี้เรียกว่าคนป่วยตรงไหน”

อินหลัวขบฟันกรอดในใจ พลางเบือนหน้าหนีอีกครั้งอย่างหงุดหงิด นางไม่รู้ว่าเพราะยานั่นหรือไม่ แต่อารมณ์เหมือนอยากยกหมอนข้างขึ้นฟาดใครสักคนสักที ...โดยเฉพาะคนที่ต้องผูกปราณด้วยโดยไม่เต็มใจ ในโลกนี้มียาบ้าๆแบบนี้ด้วยหรอ ไม่อยากเชื่อก็ต้องเชื่อ เขาเจ็บข้าเจ็บมันทำได้ไง นี่บลูทูธความรู้สึกเจ็บกันหรอ

พอเห็นนางฟื้นขึ้นมา เจินหรงไม่พูดพล่ามทำเพลง กลับตะโกนเสียงกร้าวทันที

“เสี่ยวหม่า เจ้าโง่เสี่ยวหม่า เข้ามาจับนางมัดไว้”

“มาแล้วขอรับ นายท่าน เสี่ยวหม่ามาแล้วขอรับ” ขันทีหนุ่มหน้าเด่อวิ่งเข้ามาพร้อมกับเชือกในมือ ไปหามาจากไหนไวมาก

"มัดนางไว้ เอาเชือกมัดแขนกับเตียงให้แน่น ห้ามให้นางหนีได้อีก"

เสียงตวาดของเจินหรงดังเหมือนฟ้าผ่ากลางกระโจม อินหลัวเบิกตากว้าง

"ห๊ะ เดี๋ยว เดี๋ยวก่อน นี่ข้ายังไม่ทันได้กระดิกตัวเลยนะ ฟื้นขึ้นมายังไม่ทันได้หายใจครบหนึ่งรอบเลย"

แต่คนสั่งพยักหน้าให้กับขันทีเสี่ยวหม่า สีหน้าเย็นเฉียบไร้เยื่อใย

"เจ้าเคยหนีได้ครั้งหนึ่งแล้ว จ้าวอินหลัว ข้าจะไม่ประมาทอีก"

ท่ามกลางบรรยากาศตึงเครียด  เสียงถอนหายใจยาวก็ดังขึ้นเบาๆใต้ลมหายใจใครคนหนึ่ง

"...อีกแล้ว...หรือ"

ไป๋อี้เฉิงพูดเบาๆพลางส่ายหน้าเดินมาทรุดกายข้างแคร่ไม้ไผ่ เสี่ยวหม่ายืนรอท่าอยู่ตรงนั้น 

สองนิ้วของเขาแตะลงบนข้อมือของจ้าวอินหลัว วัดชีพจรอย่างเงียบงันด้วยท่าทีอ่อนโยน ด้วยความสงสารร่างเล็กกระจิดเดียวที่ถูกอ๋องหลี่เจินหรงจองล้างจองผลาญ

มือเขาอุ่นและนิ่ง อ่อนโยน ไม่ได้คิดว่านางเป็นเชลยหรือนักโทษ อินหลัวเหลือบตามองคนตรงหน้า

“ทำไมต้องดูแลนางด้วย ตามที่ตกลงกันก็แค่ไม่ให้ตาย”

หลี่เจินหรงพูดด้วยน้ำเสียงเรียบเฉยไป๋อี้เฉิงชะงักไปนิดเดียว แต่ไม่ได้ละมือ เขาไม่ยิ้ม แต่ดวงตาไหวเล็กน้อย

"ข้าแค่ทำหน้าที่หมอ" เขาตอบเรียบๆ

"จรรยาบรรณของเจ้าชักสั่นคลอนนะท่านหมอ เจ้าดูอ๋องหลี่นั่น ท่านดูแลเขาไม่ห่างแต่ข้าแค่จับชีพจรยังมีปัญหา" อินหลัวหัวเราะในลำคอเบาๆ

หลี่เจินหรงที่นั่งฟังอยู่ข้างๆชำเลืองตามามอง  คิ้วเขากระตุกเล็กน้อย ก่อนจะพูดเสียงนิ่งเรียบ

"ปากดีนักนะ ปกติแล้วชายาอ๋องเหล่ยปากดีอย่างนี้หรือ"

“ใช่ๆๆๆข้าเคยได้ยินว่าชายาอ๋องเหล่ย อ่อนหวานงดงาม และมีเมตตาราวกับเจ้าแม่กวนอิม ท่านอ๋องท่านจับมาผิดคนหรือเปล่านี่อาจเป็นสาวใช้ปากมากสักคนของชายาอ๋องเหล่ย”

เสี่ยวหม่าตั้งข้อสังเกต เพราะที่ได้ยินมาเกี่ยวกับจ้าวอินหลัวแบบนั้นไม่มีผิด แต่ที่เห็นนี่คืออะไรไม่เหมือนที่เขาพูดกันสักนิด

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • เจ็บแทนข้า เจ้าห้ามตาย   ตอนที่7อุดปาก

    อินหลัวหันไปมองเขาแล้วเบ้ปากนิดๆ จะต้องคี๊บคาสินะ จะว่าไปก็ดีนะไม่อยากพูดก็แค่วางท่าสง่างามเหมือนหงส์" ข้านะน่ะที่พูดเหมือนกระจกอย่างไรเล่าสะท้อนสิ่งที่พวกท่านทำกับข้า และท่านก็เพิ่งจะให้ข้ากินยาประหลาดโดยไม่ถามความยินยอม ข้ายังไม่ได้ฟ้องกรมแพทย์สภาเลยนะ แค่บ่นนี่ถือว่ายังน้อยไปกับที่ถูกกระทำ ข้าทำอะไรให้ท่านบอกแล้วว่าไม่ใช่ข้าไม่ใช่ข้าสักหน่อยที่แทงท่าน ข้าแค่มาผิดคิว ดีนะที่ข้ารอดมา ไม่งั้นข้าจะกลายเป็นศพเงียบที่สุดในประวัติศาสตร์ของการข้ามเวลาเพราะห้ามพูดนี่แหละ"พูดได้เข้าใจบ้างไม่เข้าใจบ้างแต่ความโมโหจัดเต็มไป๋อี้เฉิงถอนหายใจยาวอีกรอบ แล้วยกมือขึ้นให้ขันทีเสี่ยวหม่าถอยห่างไปก่อน"ไม่ต้องมัดตอนนี้หรอก ขอให้ข้าดูอาการนางให้ดีก่อน เดี๋ยวนางดิ้นเชือกขาดเอา"หลี่เจินหรงไม่ได้ว่าอะไร เพียงแต่ขยับลุกขึ้นเดินไปยืนพิงเสาไม้ไผ่ด้านข้าง สายตาเย็นชานั้นยังจับจ้องมาทางอินหลัวไม่วางตาบรรยากาศในกระโจมที่เพิ่งจะเริ่มสงบลงได้ไม่ถึงครึ่งชั่วยามหลี่เจินหรงที่ยืนกอดอกพิงเสาอยู่เงียบๆ ก็เลื่อนสายตาคมกริบไปยังขันทีร่างเล็กที่ยืนก้มหน้าอยู่ริมประตู เสี่ยวหม่า หน้าตาไม่ได้ฉลาดนัก แต่ซื่อสัตย์อย่างไร้

  • เจ็บแทนข้า เจ้าห้ามตาย   ตอนที่6มีลูกหาบ

    ท่านหมอไป๋อี้เฉิงไม่ทันฟังจนจบก็รีบทรุดตัวลงข้างจ้าวอินหลัว มือเขาคลำชีพจร กดเบาๆแล้วขมวดคิ้ว"ยังเต้นอยู่...แต่แรงไม่เท่าเดิม"อี้เฉิงควักยาถุงเล็กออกมา ชงยาสีคล้ำอีกถ้วย ปล่อยให้เย็นพอดี จากนั้นจึงใช้แขนข้างหนึ่งรองศีรษะอินหลัวขึ้นพิงอก ก้มลงป้อนยาทีละนิดอย่างระมัดระวังแต่เพราะจ้าวอินหลัวยังสลบเขาจึงต้องใช้ช้อนเขี่ยริมฝีปากให้อ้าเบาๆแล้วหยอดยาเข้าไป เช็ดคราบยาตามมุมปากด้วยผ้าขาว ละเมียดละไมไม่ต่างจากคนดูแลน้องสาวที่ป่วยหนักกระบวนการกินยาของจ้าวอินหลัว ใช้เวลานานกว่าที่ควรจะเป็นนัก หลี่เจินหรงมองภาพนั้นจากบนแท่นอนและเขาไม่พูดอะไร แต่สีหน้าดู...สงบขึ้นเล็กน้อย ไม่แน่ว่าเพราะยา หรือความโกรธลดลง เมื่อยาทั้งหมดถูกกลืนลงไปแล้ว อี้เฉิงถอนหายใจเสียงยาว เหมือนปล่อยลมที่กักไว้นาน"โชคดีที่ยาปราณคู่นี้มีอีกสรรพคุณหนึ่ง..."อี้เฉิงพูดกับหลี่เจินหรง พลางเก็บเครื่องไม้เครื่องมือ"นอกจากจะแบ่งความเจ็บแล้ว...มันยังแบ่งผลของยาให้ด้วย ยาชาบรรเทาอาการบาดเจ็บของท่าน...เพราะผูกปราณกันไว้ ตอนที่นางกลืนยาเข้าไป ผลจึงส่งถึงท่านเช่นกัน""หมายความว่า..."หลี่เจินหรงขมวดคิ้วช้าๆ"หมายความว่า...ข้ากำลังเสี่ยง

  • เจ็บแทนข้า เจ้าห้ามตาย   ตอนที่5ท่านเจ็บข้าเจ็บ

    "เป็นไปไม่ได้... ข้าไม่มีทางรู้ด้วยซ้ำว่ามันมีพิษ ข้านึกว่าข้าแทงท่านเฉย…สักจึก" อินหลัวเบิกตากว้าง ข้าจะรู้ได้ไงก็ข้าไม่ใช่จ้าวอินหลัว ไอ้ที่พูดไปก็เพื่อเอาตัวรอดทั้งนั้น แต่หมอนี้เหมือนจะเชื่อคนยาก จ้าวอินหลัวเอ๊ย จ้าวอินหลัว ไปทำเขาทำไมเนี้ยะ "แน่นอนว่าเจ้าไม่รู้" เขากระซิบเสียงเบาแต่หนักแน่น "เพราะสามีของเจ้า อ๋องชั่วตระกูลซ่งนั่นต่างหาก ที่เล่นไม่ซื่อ เขาอาบพิษไว้ในมีดสั้นเล่มนั้น เพื่อให้เจ้ากลายเป็นมือลอบสังหารโดยไม่รู้ตัว...และข้า... ต้องรับพิษนั้นไปทั้งร่าง"จ้าวอินหลัวพูดอะไรไม่ออก ลมหายใจสะดุด ร่างกายสั่นเล็กน้อย หลี่เจินหรงยิ้มเย็น เหยียดมุมปากอย่างผู้ควบคุมเกมทุกอย่างไว้แล้ว"เจ้าว่า เจ้าสมควรถูกลงโทษหรือไม่...เพราะเจ้าคือผู้ลงมือ เจ้าคือภรรยาของคนที่วางแผนและเจ้าจะต้องชดใช้มัน... ด้วยความทรมาน เจ็บแทนข้า…ครึ่งหนึ่ง...แต่อย่าได้ตายไป" หลี่เจินหรง กระซิบชิดใบหูอินหลัว"ข้าจะไม่มีทางให้เจ้าตายง่ายดายจะต้องอยู่ทรมานกับข้าก่อนเพื่อชดใช้สิ่งที่อ๋องชั่วสามีเจ้าและเจ้าทำกับข้า"อินหลัวใจเต้นแรงจนแทบแตกเป็นเสี่ยง หายใจไม่ทัน มือสั่น สัญชาตญาณเดียวที่สั่งนางในยามนี้คือ หนี แต่

  • เจ็บแทนข้า เจ้าห้ามตาย   ตอนที่4จำคนผิดหรือเปล่า

    จ้าวอินหลัวสะดุ้งเฮือก แล้วพลิกตัวลุกนั่งทันทีอย่างไว ดวงตากลมโตใสแจ๋วแบบเด็กขอของกินตอนไม่มีเงิน แหงนมองเขา พร้อมยกมือขึ้นสองข้างส่ายไปมา"ไม่ๆๆ เดี๋ยวก่อน ท่านอ๋อง...ท่านอาจจะจำผิดคนก็ได้นะ ข้าไม่ใช่จ้าวอินหลัว ข้า...ชื่อจ้าวอิ๋งอั่ว หรือไม่ก็...หลัวอินจิ๋ว หรืออะไรก็ได้ที่ไม่ใช่คนนั้น ข้าเป็นชาวบ้านบ้าเดินหลงทางมาจากหมู่บ้านข้างเขาเจ้าค่ะ ท่านอ๋อง"นางพูดพลางชูสองนิ้วประกอบคำว่า หมู่บ้าน หลี่เจินหรงเลิกคิ้วข้างหนึ่ง ค่อยๆ ลุกขึ้นมานั่งตรง มองนางราวกับมองคนเสียสติ"เจ้าจะกล้าแสร้งทำเป็นไม่รู้เรื่อง ทั้งที่มือของเจ้าถือมีดแทงข้า""อ๋ออออ มีดนั่น โอ้...ข้าจำได้แล้ว" อินหลัวดีดนิ้ว แปะ แล้วทำตาโต"...ว่าไม่ใช่ข้า" ยิ้มฟันขาวทันที"บางทีท่านอาจฝันไปก็ได้นะ ตอนถูกแทง ท่านอาจเมามาก่อนแล้วละเมอเห็นข้าเป็นนักฆ่าหญิงก็เป็นได้"เขากระตุกยิ้ม...แต่เป็นรอยยิ้มที่น่ากลัว“ใครจะลืมเจ้าได้ คนที่กล้าถือมีดต่อหน้าข้าไม่เหลือใครสักคนที่มีชีวิตรอดนอกจากเจ้าคนเดียวจ้าวอินหลัว” อินหลัวกลืนน้ำลายลงคออย่างยากเย็น ข้ามาผิดภพแน่นอน มันต้องไม่ใช่อย่างนี้สิ “ท่านลองคิดดูดีๆ ก่อน ข้าตัวเล็กนิดเดียวใครจะกล้าเ

  • เจ็บแทนข้า เจ้าห้ามตาย   ตอนที่3ข้าแค่มาผิดภพ

    "เจ้าหมายความว่า…" ดวงตาหลี่เจินหรงเป็นประกายไป๋อี้เฉิงสบตาเขาอย่างจริงจัง"ยานี้เรียกอีกชื่อว่า ยาปราณคู่ ผู้ที่กินเม็ดที่สองเข้าไปจะรับความเจ็บปวดจากพิษในร่างท่านอ๋องไปครึ่งหนึ่ง...เหมือนผูกลมหายใจเดียวกัน"“สวรรค์มีตาแล้วสินะ ดีจังมียาดีๆ แบบนี้ด้วย”"แต่ว่า... ขอเตือนให้จดจำไว้ให้มั่น หากคนที่กินเม็ดยาคู่ตายลง...ท่านอ๋องจะต้องตายตามในเวลาไม่เกินหนึ่งชั่วยาม" ไป๋อี้เฉิงพูดเสียงเบาแต่ชัดทุกถ้อยคำ ยกขวดยาขึ้นด้วยมือที่มั่นคง แม้สีหน้าจะเรียบนิ่งเช่นเดิม "ข้าน้อยเห็นว่าท่านอ๋องรีบกลืนยาเม็ดแรกเสียเถิด ยานี้มีเพียงคู่เดียวในแผ่นดิน หากหล่นหาย ถูกขโมย หรือเคราะห์ร้ายใดเกิดขึ้น… อย่างน้อย ท่านอ๋องก็ยังได้กินยาเม็ดสำคัญไปแล้ว" ไป๋อี้เฉิงรู้ดีแก่ใจว่าหลี่เจินหรงมีศัตรูไม่น้อยหลี่เจินหรงรับเม็ดยากลมเรียบขึ้นพินิจ แสงตะเกียงสะท้อนยาสีฟ้าหม่นจางๆ โดยไม่ลังเลแม้แต่น้อย เขากลืนเม็ดนั้นลงคอ ไป๋อี้เฉิงถอนหายใจเฮือกหนึ่ง "ส่วนยาเม็ดที่สอง...กระหม่อมจะเก็บไว้ให้ดี และจะเลือก…" หมอหนุ่มยื่นมือจะเก็บเข้ากล่องไม้ "ไม่ต้อง" เสียงทุ้มต่ำตัดขึ้นมาทันควัน หลี่เจินหรงยกมือขึ้นช้าๆ หยุดการเคลื่อนไหวขอ

  • เจ็บแทนข้า เจ้าห้ามตาย   ตอนที่ยาปราณคู่

    ภายใต้แสงคบเพลิงที่ริบหรี่ เสียงโซ่เหล็กที่พันข้อเท้าอยู่นั้นหยุดนิ่งแล้ว แต่ในสมองของขนมกลับวุ่นวายดั่งเสียงกลองศึก“นำตัวนางไปพบท่านอ๋อง” เสียงสั่งดังอยู่ไม่ไกลนักฉันไม่ได้เอามือจกกระเป๋าไว้ ก็เข้ามาซี่ แน่จริงก็เข้ามาแม่จะถีบให้แม้ในโลกที่จากมาก่อนจะตายด้วยอุบัติเหตุเพราะช่วยคนอื่น แต่โลกนี้ขนมปฏิญาณไว้ว่าจะช่วยตัวเองให้ถึงที่สุดตอนนั้นเอง ประตูกรงถูกเปิดออก เสียงเหล็กเสียดสีกันดังแสบหู ทหารนายหนึ่งเดินเข้ามาพร้อมโซ่ใหม่ในมือ ก้าวมาใกล้อย่างอหังการ"จ้าวอินหลัวถึงเวลาแล้ว…ไปพบท่านอ๋อง"ดวงตาของจ้าวอินหลัวฉายแวววาบ ร่างเธอยังอ่อนแรงแต่ยังมีเรี่ยวแรงพอจะดิ้น เมื่อทหารก้มลงจะคล้องกุญแจโซ่ เธอเตะเข้าที่เป้าของทหารคนนั้นเต็มแรง“พลั๊ก” ก่อนจะฟาดข้อศอกเข้าที่คางอีกฝ่ายจนอีกฝ่ายหงายหลังล้มลงกุมเป้าแน่นเสียงร้องลั่นขึ้นพร้อมความโกลาหล ขนมไม่รอช้า พุ่งตัวหนีไปในความมืด ลัดเลาะตามเส้นทางค่ายที่ไม่รู้จัก เหงื่อเย็นไหลตามแผ่นหลัง และเมื่อเห็นกระโจมใหญ่ผ้าแดงปักทองลวดลายหมาป่าโดดเด่นกลางลานค่ายก็วิ่งเข้าไปซุกตัวโดยไม่ต้องคิดนานภายในเงียบสงัด กลิ่นหอมบางเบาของสมุนไพรจากกำยานลอยปะปนกับกลิ่นห

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status