LOGIN“เกิดมาในชีวิต...ลูกไม่เคยขออะไรเลย ครั้งนี้ลูกอยากขอ...ขอให้ลูกได้เจอพี่ชาย คนในครอบครัวเพียงคนเดียวที่ยังเหลืออยู่ของลูก อย่าให้ใครหรืออะไรพรากเราสองคนพี่น้องจากกันเลย หากลูกเกิดมามีกรรม การที่ลูกกลายเป็นเด็กกำพร้าต้องเสียทั้งพ่อและแม่ไปพร้อมกัน ขอให้มันคือผลกรรมที่ลูกควรได้รับอย่าได้มีเรื่องร้ายเกิดขึ้นกับชีวิตของลูกอีกเลย ลูกขอร้อง”
เสียงสะอื้นไห้ดังก้องภายในโบสถ์สายตาฉ่ำน้ำมองภาพขนาดใหญ่ตรงหน้าอย่างเว้าวอน เธอเชื่อมาตลอด เชื่อว่าพระผู้เป็นเจ้าคอยปกป้องคุ้มครองเธอถ้าหากเธอหมั่นทำแต่ความดี ตั้งแต่เด็กจนโตเธอเป็นคนดี เป็นเด็กดี เป็นผู้ใหญ่ที่ดี และความดีเหล่านี้มันคงจะช่วยให้เธอได้สมดั่งปรารถนา...เธอขอเพียงแค่นั้น
อนรรฆนั่งมองบิดาที่นอนนิ่งบนเตียงของโรงพยาบาลเอกชนอันดับหนึ่งของเชียงใหม่ ตอนแรกเขาจะย้ายบิดาไปยังโรงพยาบาลในกรุงเทพฯ แต่คุณหมอที่รักษาบิดาขอร้องว่าอย่าเพิ่งเคลื่อนย้ายคนไข้ในเวลานี้ เขาจึงยอมเพราะคิดว่านั่นคือความปลอดภัยของผู้เป็นบิดา อนรรฆถอนหายใจออกมายาวเหยียด ตอนนี้กันต์สามารถออกจากโรงพยาบาลกลับไปพักรักษาตัวที่บ้านได้แล้ว เหลือแต่บิดาของเขาเพียงคนเดียวที่ต้องพักอีกสองวัน คิ้วหนาได้รูปราวกับปีกนกขมวดเข้าหากันอีกครั้งเมื่อคิดถึงใครบางคนที่บิดาละเมอเรียกออกมาเมื่อคราฟื้นคืนสติใหม่ ๆ เธอเป็นใครกัน...จะได้ให้ค่าตอบแทนเป็นสินน้ำใจ บิดาของเขาจะได้เลิกเรียกหาผู้หญิงคนนั้นด้วยสำนึกในบุญคุณเสียที
“เอียน...”
เสียงแหบพร่าของคนเป็นบิดาทำให้อนรรฆหลุดจากภวังค์ความคิดของตัวเอง ร่างสูงเดินเข้าไปหาบิดาจนชิดขอบเตียง
“ครับพ่อ”
“แม่หนูคนนั้นที่พ่อให้ตามหา...เจอหรือยัง”
อนรรฆถอนหายใจออกมายาวเหยียด ไม่รู้เหมือนกันว่าบิดาจะถามหาผู้หญิงคนนั้นอีกทำไม ถ้าบิดากังวลเรื่องที่จะเป็นหนี้บุญคุณต่อกันเขาจะจัดการทดแทนบุญคุณผู้หญิงคนนั้นให้เต็มที่
“เรื่องนั้นพ่อไม่ต้องเป็นห่วงหรอกครับ...ถ้าผมเจอผู้หญิงคนนั้นผมจะตอบแทนน้ำใจของเธอให้คุ้ม พ่อจะได้เลิกกังวลเสียที”
คิ้วหนาของคริสขมวดเข้าหากันอย่างไม่พอใจ ปกติลูกชายของเขาไม่ใช่คนที่ชอบดูถูกคนอื่นแบบนี้ แต่ทำไมยามเมื่อเอ่ยถึงเด็กสาวคนนั้นน้ำเสียงของอนรรฆจึงฟังดูเยาะหยันอย่างไรก็ไม่รู้
“พ่อไม่เคยสอนให้แกดูถูกน้ำใจคนอื่นแบบนี้นะอนรรฆ”
อนรรฆเริ่มรู้ตัวว่าตัวเองหงุดหงิดเกี่ยวกับผู้หญิงคนนั้นมากเกินไปจนแสดงออกกับบิดา เพราะปกติบิดาจะไม่เคยเรียกชื่อไทยของเขา และถ้าเรียกเมื่อไรแสดงว่าเริ่มไม่พอใจ
“ขอโทษครับพ่อ”
“พ่ออยากขอบคุณแม่หนูคนนั้นด้วยตัวพ่อเอง...ถ้าไม่ได้เธอ ป่านนี้พ่อคงตายไปแล้ว”
“เราก็จ่ายค่าตอบแทนเธอเป็นเงินสิครับ...ดีไม่ดีผู้หญิงคนนั้นอาจจะรู้ว่ากำลังช่วยเหลือเจ้าของบริษัทนำเข้าและส่งออกซอฟต์แวร์คอมพิวเตอร์ขนาดใหญ่ทำรายได้ปีละหลายพันล้านเลยจงใจช่วยพ่อก็เป็นได้ เพราะรู้ดีว่าจะได้รับค่าตอบแทนมากขนาดไหน คนสมัยนี้เชื่อถือไม่ค่อยได้นะครับพ่อ ไม่ว่าจะหญิงหรือชาย”
“ตายแล้ว...ทำไมพูดแบบนั้นล่ะเอียน ไม่น่ารักเลย”
เสียงที่ร้องอุทานออกมาอย่างตกใจไม่ใช่ของคุณคริสแต่เป็นของมารดาเขาที่เข้ามาได้ยินพอดี คุณอรรดาทำสีหน้าบึ้งตึงเล็กน้อยก่อนจะเดินเข้ามาพร้อมกับตีที่ต้นแขนของอนรรฆตั้งใจลงโทษกับคำพูดที่ฟังดูไร้น้ำใจของอนรรฆ
“แม่หนูคนนั้นน่ารักมากนะ อยู่เป็นเพื่อนแม่ คอยปลอบแม่ เอียนอย่ามาพูดจาดูถูกน้ำใจยัยหนูแก้มของแม่เด็ดขาด”
คิ้วหนาได้รูปของอนรรฆขมวดเข้าหากันเมื่อได้ยินชื่อที่เขาไม่รู้จักหลุดออกมาจากปากมารดา แก้มคือใครและใครคือแก้ม
“ยัยหนูแก้ม...คือใครครับแม่”
เรียวปากบางของคุณอรรดาแย้มออกมาเป็นรอยยิ้มอย่างยินดีเมื่อได้ยินคำถามนั้นของลูกชาย
“ก็คนที่ช่วยชีวิตพ่อไว้ไง เธอชื่อ แก้ม...แม่รู้แค่นี้แหละ”
มุมปากหนาของอนรรฆยกสูงขึ้นเล็กน้อยเยาะหยัน ก็เพราะเธอรู้ล่ะสิว่ามารดาของเขาเป็นใคร ร่ำรวยมากแค่ไหน ใครเลยจะช่วยกันได้ง่าย ๆ แบบนี้ถ้าไม่ได้หวังผลประโยชน์ เขาคิดแบบนี้เพราะเจอมาเยอะแล้ว...ของฟรีไม่มีในโลกใบนี้
“ยัยหนูแก้มน่ารักใช่ไหมแม่”
คุณคริสถามภรรยาสุดที่รักออกไปด้วยน้ำเสียงที่ฟังดูตื่นเต้น เขามักเรียกภรรยาตามลูกชาย และภรรยามักเรียกเขาว่าพ่อตามลูกชายด้วยเช่นเดียวกัน
“น่ารักมาก...ถึงแม้จะรู้จักกันไม่กี่ชั่วโมง แต่เธอก็มีน้ำใจ อยู่เป็นเพื่อนแม่ตอนที่พ่ออยู่ในห้องผ่าตัดแถมยังลงไปซื้อของใช้ส่วนตัวให้แม่อีก...แต่ก็น่าสงสาร”
สีหน้าของคุณอรรดาหม่นลงเล็กน้อยเมื่อคิดถึงกมิตตราเด็กสาวผู้น่าสงสาร ที่ต้องอยู่บนโลกนี้เพียงลำพังไร้คนในครอบครัว มีเพียงคุณพ่อบาทหลวงและคุณแม่อธิการสองท่านดูแลจนเติบใหญ่
“น่าสงสารอะไรแม่”
“เธอเป็นเด็กกำพร้า อยู่ในสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า...แม่เห็นแล้วถูกชะตาอยากได้มาเป็นลูกสาวเราเหลือเกิน”
“ไม่ครับแม่...ไม่อย่างแน่นอน...ผมไม่อยากมีน้องสาวตอนโต”
อนรรฆทนฟังอีกต่อไปไม่ได้ ยิ่งได้ฟังก็ยิ่งมีความรู้สึกด้านลบกับผู้หญิงคนนั้น อะไรกัน...เจอกับมารดาเขาแค่ไม่กี่ชั่วโมง มารดาของเขากลับปลาบปลื้ม เอ็นดู จนเอ่ยปากอยากขอมาเป็นลูกเสียอย่างนั้น คุณอรรดาได้ฟังคำพูดของลูกชายนางถึงกับค้อนคมใส่ลูกชายอย่างหมั่นไส้
“ผมไม่เคยเชื่อเรื่องไสยศาสตร์มาก่อนเลย แต่วันนี้ผมชักจะเชื่อแล้วสิ ยัยแม่หนูแก้มอะไรของแม่ดีดยาเสน่ห์ใส่พ่อกับแม่หรือเปล่าถึงได้พูดถึงไม่ขาดปากแบบนี้”
สิ้นคำพูดของลูกชายนิ้วเรียวของผู้เป็นมารดาก็หยิกหมับเข้าที่ต้นแขนคนเป็นลูกทันที หมั่นไส้กับคำพูดของลูกชายเหลือเกิน
“เดี๋ยวนะ สถานเลี้ยงเด็กกำพร้าเรอะ...แดน...แดน...ไอ้แดนมานี่หน่อย”
เสียงคริสตะโกนเรียกบอดี้การ์ดส่วนตัวของคนเป็นลูกเสียงดังแต่แดนไทยกลับเดินเข้ามาด้วยสีหน้ามุ่ยอย่างไม่พอใจ
“มาแล้วฮ่ะ”
“เป็นอะไรของแกไอ้แดน ทำหน้าอย่างกับปวดอึ”
อนรรฆเอ่ยถามลูกน้องด้วยน้ำเสียงยียวนเล็กน้อยเพราะรู้ดีทีเดียวว่าแดนไทยไม่พอใจเรื่องอะไร
สีหน้าหงุดหงิดของอนรรฆไม่อาจรอดพ้นสายตาของแดนไทยได้เลย บอดี้การ์ดหนุ่มหัวใจสาวจึงหัวเราะออกมาเสียงดังอย่างไม่เก็บอารมณ์จนคนเป็นเจ้านายตวัดสายตาคมกริบไปมองลูกน้องตัวเองเขม็ง“แกจะหัวเราะอะไรไอ้แดน”“เอ๊า...ก็หัวเราะอะไรเน่า ๆ แถวนี้ เจ้านายดมหัวแดนนี่หน่อยได้ไหม พักนี้แดนนี่รู้สึกตัวเองหัวเหม็น ๆ เน่า ๆ ยังไงก็ไม่รู้”เมื่อสบตาวาววับของคนเป็นเจ้านายบอดี้การ์ดหัวใจสาวก็วิ่งปนหัวเราะไปหากันต์กับกมิตตราพลางกระซิบอะไรบางอย่างกับหญิงสาวจนหญิงสาวหันมามองอนรรฆด้วยสีหน้าร้อนรน ยิ่งเมื่อเห็นร่างสูงของอนรรฆเดินหนีไปแบบนั้น กมิตตราถึงกับหันไปมองกันต์อย่างขอความคิดเห็นว่าเธอควรจะทำอย่างไร“ไปง้อหน่อยเถอะ...คนแก่งอนง้อยากหน่อยนะ”นับเป็นครั้งแรกที่ได้ยินกันต์พูดออกมาแบบนั้น แดนไทยถึงกับมองเพื่อนหนุ่มอย่างอึ้ง ๆ ปกติเห็นกันต์เงียบขรึมตลอดเวลา“แกพูดอะไรแบบนี้เป็นด้วยเหรอวะกันต์”“ฉันฟังแกมาเยอะไง...แดนนี่”พูดจบกันต์ก็เดินออกไปจากตรงนั้น ทิ้งให้แดนนี่ยืนทบทวนคำพูดของเพื่อนรักว่ามันด่าหรือว่าชมเขากันแน่ กว่าจะนึกออกกันต์ก็เดินหายไปแล้วทิ้งให้แดนไทยก่นด่าเพื่อนรักอยู่ในใจ“โกรธอะไรคะ”“เปล่า”กมิตตราย
ทั้งอนรรฆและแดนไทยเดินออกมาห่าง ปล่อยให้พี่น้องได้มีโอกาสคุยกันหลังจากที่พลัดพรากจากกันมานาน แต่ทั้งคู่ก็ยังอยู่ในสายตาของอนรรฆตลอดเวลา บอดี้การ์ดหนุ่มหัวใจสาวมองภาพประทับใจนั้นด้วยดวงตาแดงก่ำ น้ำตาคลอเต็มสองตา ในที่สุด...กันต์ก็ได้หัวใจตัวเองกลับคืนมา ต่อไปนี้เพื่อนหนุ่มของเขาคงยิ้มได้เต็มหน้าเสียที ไม่ต่างอะไรกับอนรรฆ นับตั้งแต่ได้กันต์มาทำงานด้วยกัน เขาไม่เคยเห็นลูกน้องคนนี้มีความสุขจริง ๆ จัง ๆ สักครั้ง รอยยิ้มที่มีก็เป็นแค่การแยกเรียวปากออกจากกัน มันไม่ใช่รอยยิ้มที่มีความสุข ไม่ใช่รอยยิ้มที่ออกมาจากหัวใจ แต่ว่า...สองคนนี้จะกอดกันอีกนานไหม ถึงแม้จะเป็นพี่น้องก็เถอะ หัวใจของเขามันคัน ๆ ชอบกล อนรรฆรีบหลับตาพึมพำนิด ๆ ราวกับสวดมนต์บอกกับตัวเองว่าพี่น้อง...พี่น้อง ไอ้อาการหึงหวงนี่เขาก็ห้ามมันไม่ได้เสียด้วย และอาการทั้งหมดตกอยู่ในสายตาของแดนไทยถนัดตา“เจ้านายเป็นอะไรฮะ ทำปากขมุบขมิบเหมือนจะแช่งใคร หรือว่า...”คำพูดของแดนไทยหยุดเพียงแค่นั้น เมื่อหันไปมองกันต์กับกมิตตราที่กอดกันแน่น พอจะเดาอาการของคนเป็นเจ้านายถูก เขาก็อยากจะหัวเราะออกมาให้ดังลั่น แต่ก็หวั่นใจว่าปลายเท้าของเจ้านายจะตวัด
กันต์พยักหน้าก่อนจะมองแหวนอีกวงหนึ่งซึ่งอยู่ในมือของอนรรฆราวกับว่ามันคือสิ่งประหลาด หัวใจของเขาเต้นแรงจนแทบจะหลุดออกมาจากอก“นายดูแหวนวงนี้สิ...ว่าเหมือนของนายหรือเปล่า”อนรรฆยื่นแหวนอีกวงที่เขาถือเอาไว้ให้กันต์ทันที มือที่ยื่นไปรับแหวนจากอนรรฆสั่นเล็กน้อย หัวใจแทบจะหยุดเต้น นับเป็นครั้งแรกที่เขานึกวิงวอนต่อพระผู้เป็นเจ้า ขอให้เรื่องที่เขารอคอยมานานเป็นจริงเสียทีเถอะกันต์มองแหวนวงน้อยในมือก่อนจะพลิกดูด้านใน ดวงตาของกันต์เบิกกว้างมองอนรรฆอย่างดีใจ รอยยิ้มปรากฎบนใบหน้าเคร่งขรึม นับเป็นรอยยิ้มอย่างดีใจรอยยิ้มแรกที่อนรรฆเห็นจากใบหน้าของกันต์ก็ว่าได้“เจ้านายได้แหวนวงนี้มาจากใครครับ เขาอยู่ที่ไหน...บอกผมเถอะครับ”น้ำเสียงกับสีหน้ายินดีของกันต์ ทำให้หญิงสาวอีกคนที่ยืนนิ่งอึ้งพูดอะไรไม่ออก ทำได้เพียงมองหน้ากันต์อย่างพิจารณาเป็นครั้งแรก“มันเป็นของแก้มเองค่ะ”สิ้นเสียงสั่น ๆ ของกมิตตราสายตาของกันต์หันไปมองหญิงสาวตรงหน้าอย่างตกตะลึงและคาดไม่ถึง“มะ...หมายความว่ายังไง...แก้มเป็นเจ้าของแหวนวงนี้หรือ”“ค่ะ...คุณแม่อธิการบอกว่ามันห้อยคอแก้มมาตั้งแต่เด็ก”กมิตตราตอบออกไปอย่างแผ่วเบา ดวงตากลมโตคลอค
บทส่งท้ายสายตาเหม่อลอยของหญิงสาวทอดมองไปยังท้องทะเลด้านหน้า ความฝันเมื่อคืนยังคงติดตาติดใจของเธอจนถึงตอนนี้ กระบอกตาของหญิงสาวร้อนผ่าวยามที่คิดถึงคนเป็นพี่...ครอบครัวเพียงคนเดียวที่เธอเหลืออยู่ ป่านนี้เขาจะอยู่ที่ไหนจะเป็นตายร้ายดีอย่างไร“หนีพี่ออกมาแบบนี้...คืนนี้จะลงโทษให้ครางทั้งคืนเลยคอยดูเถอะ”ร่างสูงเดินเข้ามากอดหญิงสาวทางด้านหลัง ใบหน้าคมเข้มก้มลงจุมพิตหัวไหล่บอบบางของกมิตตราหนึ่งทีก่อนจะกระชับวงแขนที่รัดเอวบางของหญิงสาวให้แน่นขึ้นอีกนิด“คิดเรื่องอะไร...เรื่องฝันร้ายเมื่อคืนนี้เหรอ”กมิตตราพยักหน้าหงึก ๆ ยกมือขึ้นปาดหยาดน้ำตาที่ซึมออกมา“พี่ช่วยตามหาพี่ชายให้เอาไหม เรื่องยุ่ง ๆ ทุกอย่างมันจบลงไปหมดแล้ว ทีนี้คงมีเวลาที่จะตามหาพี่ชายของแก้มได้”ร่างบางหันขวับมามองคนตัวสูงทันทีอย่างดีใจ“จริงนะคะ”อนรรฆพยักหน้าอย่างหนักแน่น ก่อนจะจุมพิตที่หน้าผากกลมมนของหญิงสาวคนรักเบา ๆ“จริงสิจ๊ะ”สายตาของอนรรฆทอดมองไปยังชายหาดด้านล่าง เมื่อเห็นร่างสูงของกันต์ คิ้วหนาของชายหนุ่มก็ขมวดเข้าหากันอีกครั้ง“โน่นก็อีกคน...น้องหาย ถ้าเอาแก้มกับกันต์มาอยู่ด้วยกันคงเหมือนพี่น้องกันเลย อีกคนตามหาพี่ อี
ประโยคแรกหญิงสาวตะโกนหมายจะบอกให้เขาทั้งสองได้รับรู้ในสิ่งที่เธอพูดไป ในขณะที่ประโยคถัดมาเธอตะโกนเสียงดังเพื่อให้อนรรฆตอบเธอมาเสียงดังด้วยเช่นเดียวกัน อนรรฆหลับตาลงพลางนึกสีหน้าของลูกน้องทั้งสองคนออกเลยทีเดียวโดยเฉพาะแดนไทย“เร็ว ๆ สิฮะคุณเอียน แดนนี่รอเป็นพยานอยู่นะ”เมื่ออนรรฆยังไม่ตอบออกมาแดนไทยจึงเป็นฝ่ายพูดขึ้นมาเสียก่อน“รัก”“อะไรนะ...รัก...รักใคร...รักแดนนี่หรือฮะ”อนรรฆหลับตาลงนิดพลางนึกคาดแค้นแดนไทยในใจ อย่าให้ถึงทีฉันบ้างนะแดนนี่ ฉันจะซัดแกให้น่วม ร่างสูงสูดลมหายใจเข้าปอดพลางมองหญิงสาวที่รอคอยคำตอบจากเขาด้วยความหวัง“พี่รักแก้ม...รักที่สุด”เสียงหัวเราะของแดนนี่ดังออกมาทันทีที่เขาพูดจบ ในขณะที่กันต์ยิ้มออกมาอย่างดีใจ ในที่สุดอนรรฆก็พูดออกมาเสียที ทั้งสองมองหน้ากันก่อนจะเดินออกไปจากตรงนั้นปล่อยให้คนทั้งคู่ได้อยู่กันตามลำพัง“แสบนักนะ...ยัยตัวร้าย”“เอาคืนนิดหน่อยเอง โทษฐานที่พี่เอียนหลอกแก้มก่อน...เล่นน้ำทะเลกันดีกว่า”หญิงสาวตัวเล็กจูงมืออนรรฆลงเล่นน้ำทะเลกันอย่างสนุกสนาน กมิตตรากวักน้ำใส่หน้าอนรรฆจนอีกฝ่ายหลบไม่ทัน เสียงเข้มห้ามปรามหญิงสาวแล้วแต่อีกฝ่ายหาเชื่อไม่ มือหนาของ
กมิตตรามองหน้าอนรรฆอย่างยั่วเย้า หญิงสาวถอยหลังลงไปในทะเลอีกนิดก่อนจะตัดสินใจปลดกางเกงขาสั้นที่สวมออก มือหนาของอนรรฆกำที่วางแขนบนรถเข็นแน่น มองไปรอบด้านว่ามีใครนอกเหนือจากเขาอีกหรือเปล่าที่จะเห็นภาพกมิตตราในตอนนี้อนรรฆพยายามนับหนึ่งถึงร้อยไม่ให้ตัวเองวิ่งถลาเข้าไปโอบร่างบางของกมิตตราเอาไว้เมื่อคิดว่าจะมีใครเห็นเนื้อนวลขาวที่ตัดกับชุดว่ายน้ำสีส้มนั้นอีกนอกจากเขา“แต่แก้มว่า...เล่นแบบไม่ใส่อะไรเลยดีกว่า”นิ้วเรียวของกมิตตราปลดสายชุดว่ายน้ำออกจากหัวไหล่บอบบางของตัวเองออกจนมันหล่นลงไปกองกับต้นแขนเพียงเท่านั้นอนรรฆก็ทนมองอีกไม่ไหว ร่างสูงวิ่งเข้าไปกอดรัดร่างบางของกมิตตราไว้แน่น พร้อมกับต่อว่าหญิงสาวเสียงขรม“ผู้หญิงบ้าอะไร ไม่อายคนอื่นหรือยังไง”“จะอายทำไม แก้มใส่ชุดว่ายน้ำอยู่นะคะ”อนรรฆมองซ้ายมองขวาก่อนจะรัดร่างบางไว้แน่น พยายามใช้ร่างหนาของตัวเองบดบังไม่ให้ใครได้เห็นสาวน้อยคนนี้ในชุดที่เรียกอารมณ์หนุ่มของเขาให้สูงขึ้น“แดน กันต์ ออกไปไกล ๆ เลย ไม่ต้องอยู่ตรงนี้”เสียงดังลั่นของอนรรฆเรียกรอยยิ้มจากกมิตตราได้ทันที ดูเหมือนอนรรฆจะลืมตัวแล้วว่ากำลังเล่นบทคนพิการกับเธออยู่ ถึงได้ถลาเข้ามาบั







