โซอี้และสามีของเธอเอาใจใส่ทาขิธามาก คนหนึ่งรีบช่วยพยุงตัวทาบิธาขณะที่อีกคนถือกระเป๋าของเธอให้ โซอี้มองดูแอเรียนจากไปและถามว่า “แม่คะ แอเรียนได้มาส่งแม่ที่นี่หรือเปล่า? ทำไมเธอถึงไม่เข้ามานั่งข้างในก่อนล่ะ? เธอรังเกียจเราที่ใช้ชีวิตอยู่ในพื้นที่เล็ก ๆ แบบนี้เหรอ?”หญิงชรามีสีหน้าที่ซีดเผือดขณะที่เขาตอบว่า “ใช่ แอริทนอยู่ในที่แบบนี้ไม่ได้หรอก ฉันไม่ต้องการโดนดูถูก แม้ว่าเธอจะมีเจตนาที่ดี อย่าทำให้ฉันอายเลย”เมื่อได้ยินเช่นนี้สามีของโซอี้ก็รู้สึกว่ามีบางอย่างไม่ถูกต้อง “แม่ เราทุกคนเป็นครอบครัวเดียวกัน ทำไมเราจะคุยกันไม่ได้? แม่พูดแบบนั้นได้อย่างไร? อีกไม่นานก็จะปีใหม่แล้ว เราจะทำธุรกิจในเมืองหลวงนี้ ดังนั้นเราจึงวางแผนที่จะอยู่ที่นี่สักพัก เด็ก ๆ จะปิดเทอมในเร็ว ๆ นี้ ดังนั้นทั้งครอบครัวจะอยู่ที่นี่ เราอาจจะใช้เวลาปีใหม่ในคฤหาสน์ใหญ่ของหลานสาวของเราด้วย”โซอี้เห็นด้วย “ถูกต้อง ยิ่งมากคนยิ่งสนุก”หญิงชรายิ้มเยาะ “อย่าเรียกเขาว่าหลานสาวของเธอเหมือนว่าเธอเป็นมิตรกัน ฉันไม่มีปัญญาให้โชคแบบนั้นได้หรอก เธอเป็นแค่ญาติห่าง ๆ หยุดเพ้อฝันได้แล้ว ไม่ใช่ว่าใครก็ได้ที่ จะสามารถเดินเข้าไปเป็นเทร
หญิงชราโกรธมากจนหน้าซีดเผือด “พี่ชายของเธอตายไปนานหลายปีแล้วแต่เธอก็ยังยืนกรานที่จะดูดเลือดจากเขา เธอเห็นเขาเป็นบ่อเงินบ่อทองของเธอหรือไง? เธอยังเป็นมนุษย์อยู่หรือเปล่า? ถ้าฉันรู้เรื่องนี้ฉันคงเลือกที่จะมีลูกคนเดียวตลอดชีวิตแทนที่จะรับคนที่ไร้หัวใจอย่างเธอมาเลี้ยง! ฉันเลี้ยงหมายังจะดีกว่า!”โซอี้ไม่เห็นความผิดในการกระทำของตัวเอง ในมุมมองของเธอ เธอเป็นคนที่ได้รับความอยุติธรรมมากที่สุด เธอร้องไห้ออกมา “ในที่สุดแม่ก็พูดมันออกมา แม่ไม่เคยปฏิบัติกับฉันเหมือนลูกของตัวเองเลย แม่รับเลี้ยงฉันเพียงเพื่อจะได้มีคนดูแลศพแม่ใช่ไหมล่ะ? นั่นเป็นข้อตกลงทางธุรกิจไม่ใช่ความรัก! แม่คิดว่าฉันไม่มีหัวใจ ฉันใจร้าย แต่แม่นั้นแหละที่เป็นหญิงชราที่ใจร้ายที่สุด! ถ้าพี่ใหญ่ของฉันไม่มีลูก ฉันยอมรับว่าฉันต้องดูแลแม่ แต่เขามีแอเรียน ทำไมฉันจึงจะทวงหนี้นี้ไม่ได้? ลองย้อนกลับไปนับหมื่นก้าวแล้วสมมติว่าเธอยากจน ถ้าเป็นแบบนั้นก็คงดีแต่ชีวิตของเธอดีกว่าพวกเรามาก ทำไมแม่ถึงลำเอียงกับเธอมากนัก? แม่กำลังกล่าวหาว่าฉันดูดเลือดจากคนที่ตายไปแล้ว ถ้างั้นฉันก็คงมากกว่าความตายสำหรับแม่ ทำไมฉันจึงควรพิจารณาความรู้สึกใด ๆ ฉันไม่
ทิฟฟานี่ขำอย่างแรงในความเพลิดเพลินใจที่ได้เสพประสบการณ์ความโชคร้ายของผู้อื่นนี้จนคนอื่นอาจจะเข้าใจผิดว่าเธอเป็นลมชักได้ "โอ้พระเจ้า! โอ้ พระ เจ้า หมายความว่าตอนนี้เธอเสียสิทธิ์เสรีส่วนบุคคลไปแล้วเหรอ? โถ่ ที่รัก เธอเป็นคนที่มีอัญมณีมงกุฏในท้องนะ! ตอนนี้เธอเป็นคนคลุมเกมส์ ไม่ใช่เขา! เธอสามารถบีบคอมาร์คจนตายโดยที่เขาจะไม่ทำร้ายเธอแม้แต่เส้นผมเพียงเส้นเดียวบนศีรษะของเธอเพื่อป้องกันตัวเองเลยแหละ เข้าใจไหม? ในขณะนี้เธอต้องโหดเหี้ยมบ้าง เดี๋ยวนี้เลย เพราะเธอจะไม่ได้รับโอกาสนี้อีก เธอไม่รู้เหรอว่าผู้หญิงมีอำนาจสูงสุดในระหว่างตั้งครรภ์? เพราะฉะนั้น เอาเลย เผด็จการเลยค่ะที่รัก! เมื่อเด็กคนนั้นเกิดมาเธอจะไม่มีวันได้พลังนี้คืน!”เธอยังเตือนว่า “ทีนี้ ถ้าเธอจัดการจนได้รับ 'การอนุญาต' ของเขาแล้วก็มาบอกฉันนะ ฉันจะได้โทรนัดธัญญ่า ตอนกลางคืนเราจะไปกินชาบูกันด้วย! พวกเราจะกินน้ำซุปที่เผ็ดและเธอก็กินน้ำซุปที่ไม่เผ็ดไป ฉันหมายความว่า ฉันได้ยินมาว่าอาหารที่เผ็ดเกินไปอาจเป็นอันตรายต่อแม่ที่กำลังตั้งครรภ์น่ะ”แค่พูดถึงชาบูก็ทำให้แอเรียนน้ำลายไหลแล้ว มีไม่กี่อย่างในชีวิตที่จะฟินได้เท่ากับการซดน้ำซุปอุ่
ในที่สุดข้อตกลงสุดท้ายก็คือมาร์คได้อนุมัติการไปกินชาบูของแอเรียนด้วยการประนีประนอมว่าเขาจะไปด้วย เขาไม่ได้ชอบชาบูขนาดนั้น แต่เขาก็ไปเป็นเพื่อนของแอเรียนอยู่ดีด้วยความไม่ต้องการที่จะมีบอดี้การ์ดที่มาในคราบของคนที่ขอไปด้วย แอเรียนจึงรู้สึกราวกับว่าเธอถูกผูกคอไว้และความตื่นเต้นของเธอก็ลดลงตามธรรมชาติ แต่เมื่อเธอไปถึงที่หมายและเห็นทิฟฟานี่สะท้อนความรู้สึกของเธอ เธอก็พองตัวขึ้น ทิฟฟานี่ไม่ได้รับอิสระที่จะจัดปาร์ตี้อย่างหนักเช่นกันเพราะแจ็คสันมากับเธอด้วยในที่สุดธัญญ่าก็พาเอริกมาด้วย ผู้ซึ่งอาจจะแค่กำลังมองหาที่สำหรับฆ่าเวลาว่าง ดังนั้นการรวมตัวกันครั้งนี้จึงครบสมบูรณ์ตั้งแต่ที่พวกเขาลงจากรถมือของมาร์คไม่เคยทิ้งตำแหน่งป้องกันที่วางไว้ที่เอวของแอเรียนเลย ซึ่งทำให้เกิดความสงสัยว่าเขาจะวางหญิงสาวไว้ตรงกลางฝ่ามือของเขาหรือไม่ถ้าเขาสามารถ นั่นไม่ใช่ทั้งหมด เขาหยุดระหว่างทุก ๆ สองสามก้าวด้วยคำเตือนว่า "ระวังด้วย พื้นลื่น"แอเรียนพึ่งพาคำแนะนำของเขามากจนเธอค่อย ๆ ดูเหมือนว่าว่าเธออ่อนแอมากจนต้องอ่อนน้อมกับเธอ เมื่อถึงเวลาที่เธอนั่งลงหลังจากที่เดินมาเหมือนหอยทาก ทิฟฟานี่ก็พูดให้สะดุ้งตกใจว่
ดวงตาของแอเรียนจ้องไปที่มาร์คเป็นเวลาหนึ่งมิลลิวินาทีก่อนที่เธอจะก้มศีรษะลงและจดจ่อกับอาหารของเธอ ความคิดผุดขึ้นในใจเธอเหมือนระลอกคลื่นอีกครั้งที่มาร์คทำให้เธอหวาดกลัวด้วยการรับรู้ที่ผิดปกติของเขาราวกับว่าดวงตาของเขาลอดผ่านกระโหลกศีรษะของเธอตลอดเวลาและทำให้เขาสามารถอ่านความคิดทั้งหมดที่เกิดขึ้นในหัวของเธอได้ด้วย “ความช่วยเหลือ” ของเขา แอเรียนจึงทานอาหารจนอิ่มเอิบที่สุดเท่าที่เธอเคยกินมานับตั้งแต่ที่เธอตั้งครรภ์ ด้วยเหตุผลบางอย่างวันนี้เธอมีความอยากอาหารมากเป็นพิเศษเมื่ออาหารเย็นใกล้จะสิ้นสุด ทิฟฟานี่ก็ลากแอเรียนและธัญญ่าไปที่ห้องน้ำเธอรอไม่ได้ที่จะบ่นว่า “พระเจ้า ฉันคิดว่ามาร์คจะเสนอมาห้องน้ำด้วยแล้ว! แค่ดูโหมดพ่อบ้านที่ ‘ฉันต้องคอยระวังตัวตลอดเวลา!’ ที่เขาเป็นอยู่ตลอดการแฮงเอาท์นี้สิ ฉันเกือบจะเชื่อว่ามีอะไรเข้าสิงเขาเสียแล้ว! แต่พูดตามจริงนะ การดูเขาตอนนี้ทำให้ฉันนึกถึงวิธีที่วิลปฏิบัติต่อเธอในตอนนั้น”นี่เป็นครั้งแรกที่ทิฟฟานี่เห็นว่าแง่มุมหนึ่งของมาร์คเทียบเท่ากับวิลการกล่าวถึงชื่อนี้ทำให้แอเรียนเห็นภาพคน ๆ หนึ่ง แต่น่าเสียดายที่มันเป็นเพียงภาพเงาที่เบลอและไร้ตัวตน ดูเหม
แอเรียนขมวดคิ้วพลางดึงทิฟฟานี่ออกมาและตอบแทนเพื่อนเธอว่า “เรื่องนั้นกับอีธานจบลงไปนานแล้วเอนเจิล… และด้วยเหตุผลที่ดีด้วย ทิฟฟานี่ดีเกินสำหรับไอ้บ้านั่นมาก และเธอเพิ่งหมั้นกับแจ็คสัน เวสต์ด้วย ซึ่งเมื่อพิจารณาจากการที่เธอบริโภคข่าวโลภ ๆ แบบนี้ ฉันแน่ใจว่าเธอคงเคยได้ยินชื่อนั้นใช่ไหม? หากเธอติดต่อกับทิฟฟานี่เร็วกว่านี้ ทิฟฟ์ก็คงจะชวนเธอไปงานหมั้นด้วยแล้ว”จริง ๆ แล้ว ก่อนที่แอเรียนจะพูด เอนเจิลไม่รู้เลยว่าเธออยู่ในห้องน้ำด้วย แต่ตอนนี้ ความสนใจของเธอได้หันไปที่บุคคลที่โด่งดังที่สุดในฐานะผู้หญิงของมาร์ค เทรมอนต์ เอนเจิลรู้ดีถึงเรื่องราวของแอเรียน เพราะเธอเสพข่าวอีกแล้วนั้นเองเธอสำรวจมองแอเรียนอยู่ครู่หนึ่งก่อนที่จะตอบกลับด้วยน้ำเสียงที่น่าสงสัย “โอ้ ไม่! ฉันพลาดงานหมั้นหรอกเหรอ ช่างน่าเสียดาย! อยากรู้อยากเห็นใช่ไหม? ทั้งเธอและทิฟฟานี่ลงเอยด้วยการแต่งงานกับคนที่ไม่ใช่คนที่คุณรักตั้งแต่แรก ซึ่งพิสูจน์ให้เห็นอีกครั้งว่าไม่มีสิ่งใดในโลกนี้ที่แน่วแน่ ฉันสงสัยจัง ตอนนั้นเธอคบกับวิล ซีวานใช่ไหม? มีคนปล่อยรูปถ่ายส่วนตัวเหล่านั้นที่เธอสองคนถ่ายด้วยกันด้วย แต่ถ้าฉันจำไม่ผิด ตอนนี้พวกมันได้หา
“ถ้าเป็นกรณีนี้ มันคงจะดีกว่าถ้าเธอเพียงคิดว่าเขาตายไปแล้ว” แอเรียนกล่าวพร้อมยืดปลอกคอของทิฟฟานี่ “การจมอยู่กับอดีตจะไม่มีประโยชน์ใด ๆ สิ่งที่สำคัญที่สุดในตอนนี้คือชีวิตที่มีความสุขของเธอกับแจ็คสัน ทุกสิ่งทุกอย่างได้สูญหายไปกับกาลเวลาแล้ว ที่สำคัญกว่านั้น อนาคตของเธอจะไม่ถูกรบกวนจากคนเลวนั่นอีกแล้ว เขาไม่สามารถทำร้ายเธอได้อีกต่อไป”ในเวลานี้เองที่ประตูห้องเล็ก ๆ ถัดไปเปิดออกและเผยให้เห็นธัญญ่าที่กำลังเดินออกมา “อ-เอ่อ หนู…! หนูจะพูดว่า...” เธออึกอัก “หนูไม่ได้ยินอะไรเลย! หนูหมายถึง… อืม หนูขอโทษที่อาจจะได้ยินอะไรนิดหน่อย?”ทิฟฟานี่วางมือบนหน้าผากของตัวเอง “อุบส์ ฉันเกือบลืมเธอไปเลย เธอซ่อนอยู่นานมาก ฉันเกือบคิดว่าเธอตกชักโครกไปแล้วด้วยซ้ำ ไม่ต้องคิดมาก ถ้าเธอได้ยินอะไร แล้วไงล่ะ? ฉันเคยคบใคร แอเรียนเคยคบใคร ใครจะสน? ยังไงก็ตาม เราไปกันเถอะ ถ้าเราไม่ออกไปจากที่นี่เร็ว ๆ นี้ คุณเทรมอนต์จะต้องบุกเข้ามาอย่างเอฟบีไอแน่นอน!”ธัญญ่าพยักหน้าเห็นด้วยเงียบ ๆ เธอไม่กล้าที่จะออกมาตอนที่การสนทนาเริ่มต้นขึ้นเพราะทั้งแอเรียนและทิฟฟานี่ไม่เคยพูดถึงความลับในอดีตเหล่านั้น เธอกล้าออกมาข้างนอกหลังจ
เมื่อเห็นว่าเขาไปนอนบนเตียงจริง ๆ เธอก็ผ่อนคลาย แต่เธอยังคงตกใจอยู่ เธอไม่ชินกับการต้องเปิดประตูทิ้งไว้ระหว่างที่อาบน้ำ แม้ว่าประตูห้องน้ำจะค่อนข้างโปร่งใสแต่ก็มีหมอกหนาที่สามารถปกปิดร่างของเธอตอนอาบน้ำได้ แต่ตอนนี้ เมื่อประตูเปิดอยู่ เธอก็รู้สึกอึดอัดแม้ว่าเขาจะไม่ได้มอง...เธอปิดประตูลงอีกเล็กน้อยตอนที่เขาไม่ได้มองพลางทิ้งช่องไว้ที่ประตูเพียงครึ่งเดียวเมื่อเธออาบน้ำเสร็จมาร์คก็ปิดไฟและนอนลง ความมืดจะทำให้นอนหลับได้ง่ายกว่าแอเรียนอารมณ์ดีอย่างประหลาดและไม่รู้สึกง่วงนอนเลย อาจเป็นเพราะเธอได้กินของที่เธอต้องการจริง ๆ หลังจากที่ไม่มีความอยากอาหารมาเป็นเวลานาน แล้วได้อาบน้ำอย่างสดชื่นหลังจากนั้นด้วย มันเป็นวันที่หนาวเย็นในฤดูหนาวและผ้าห่มก็ทำให้รู้สึกดีและอบอุ่น ไม่มีอะไรสบายไปกว่านี้อีกแล้ว ทำให้คน ๆ หนึ่งสามารถโยนความกังวลใจทิ้งไปและเพียงแต่เพลิดเพลินกับความสงบและความเงียบนั้นจู่ ๆ มาร์คก็เอื้อมมือออกไปกอดเธอ “ฉันขอโทษ”แอเรียนตัวแข็งทื่อ เธอคิดว่าเขากำลังเดือดปุด ๆ และคงจะดีขึ้นหลังจากที่ได้นอน หรือถ้าเขาเปิดปากพูดมันก็คงเป็นการทะเลาะวิวาทกัน แต่ที่ทำให้เธอแปลกใจคือคำขอโทษ เธ