Home / อื่น ๆ / “เจ้าสาวของขุนศึกเงา” / ตอนที่ 6 — เมืองที่เชื่อในพระเจ้า แต่ปกครองด้วยความกลัว

Share

ตอนที่ 6 — เมืองที่เชื่อในพระเจ้า แต่ปกครองด้วยความกลัว

Author: mafath9
last update Last Updated: 2025-06-11 00:39:39

ตอนที่ 6 — เมืองที่เชื่อในพระเจ้า แต่ปกครองด้วยความกลัว

“ศรัทธาเป็นดั่งดาบ — ในมือของผู้มีเมตตา มันปกป้อง

แต่ในมือของผู้หวาดกลัว มันเฉือนแม้แต่เสียงของเทวดา”

— บันทึกลับจากพระโคเคียว


ทางเข้าชิโรยามะ

ขบวนของอากิระมาถึงประตูเมืองชิโรยามะภายใต้บรรยากาศอึมครึม

ผืนฟ้าปิดคลุมด้วยหมอกสีเทา

ป้ายไม้ใหญ่เขียนไว้ว่า:

“ศรัทธาคือกำแพง ศีลธรรมคือมีด ใครก้าวผ่าน…จงรับผล”

นางไม่ได้รับการต้อนรับแบบทูต

แต่ถูกควบคุมให้พักใน “เรือนรับรองของนักบวช” — สถานที่ที่ผู้คนเรียกเงียบ ๆ ว่า ห้องสารภาพบาป


การพบกับพระโคเคียว

ในห้องแคบสลัว

พระโคเคียว — ผู้นำจิตวิญญาณแห่งชิโรยามะ ปรากฏตัวพร้อมผ้าคลุมสีเลือดฝาด

โคเคียว: “เจ้ามาในนามสันติภาพ หรือในนามของชายผู้ใช้เจ้าเป็นดาบ?”

อากิระสบตานิ่ง

อากิระ: “ข้ามาเพื่อรับคำสารภาพ ไม่ใช่เพื่อกล่าวแก้ตัว”

โคเคียวยิ้มบาง

“ดี…เพราะเมืองนี้ไม่ยอมให้ใครสั่งสอน

เรามีพระเจ้า — แต่ข้าคือคนตีความพระเจ้า”


การสอบสวนผ่านพิธีกรรม

อากิระถูกบังคับให้ผ่าน “พิธีซักใจ”

โดยการต้องนั่งในห้องปิดแสงสามวัน สามคืน

ทุกวันจะมีนักบวชถามคำถามซ้ำ ๆ

แต่ในแต่ละครั้ง คำถามจะเปลี่ยนเพียงเล็กน้อย

— เพื่อจับพิรุธความคิด

นักบวช: “เจ้าศรัทธาในสันติภาพ หรือในชัยชนะ?”

นักบวช: “เจ้าปรารถนาให้เลือดหยุดไหล หรือเพียงอยากให้เลือดนั้นไม่ใช่ของเจ้า?”

นักบวช: “เมื่อเจ้าฆ่าเพื่อปกป้อง เจ้าปกป้องใครกันแน่…?”

อากิระไม่ตอบทุกคำถาม

แต่เลือกจะตอบเพียงครั้งเดียวในคืนที่สอง:

“ข้าไม่กลัวถูกเข้าใจผิด

แต่ข้ากลัวว่าคำพูดของข้าจะกลายเป็นเหตุผลให้ฆ่าผู้อื่น”


ข่าวลือที่มาก่อนดาบ

ระหว่างนั้น มีข่าวลือว่าอากิระคือ “ลูกนอกสายเลือดของท่านคาเงะ”

และการส่งนางมา...คือการตั้งฐานอำนาจในเมืองศักดิ์สิทธิ์

ชาวเมืองบางส่วนเริ่มแอบขีดข้อความในตรอกซอย:

“เงาแห่งสงครามแฝงมาในรูปของหญิงผู้ไม่ยิ้ม”

และแล้ว — ศิษย์เก่าของซันซูในเมือง ก็รวบรวมพลตั้งชื่อกลุ่มว่า
“เงาอาบเพลิง” พร้อมจะจุดชนวนความรุนแรง


บทสนทนาใต้ห้องสวด

คืนที่สาม

พระโคเคียวเชิญอากิระสนทนาในห้องใต้ดินใต้วิหาร — สถานที่ไม่มีใครได้เข้า ยกเว้นผู้ที่ "พระเจ้า" จะทดสอบ

โคเคียว: “เจ้ารู้ไหม...ที่นี่แต่ก่อนเคยเป็นคุก

นักโทษทุกคนถูกบังคับให้สวดมนต์จนลืมชื่อของตน

ข้าชอบสถานที่นี้… เพราะมันเงียบเหมือนความตาย”

อากิระ: “เจ้ากลัวความเงียบหรือชอบมันกันแน่?”

โคเคียว: “ข้าชอบมัน — เพราะในความเงียบ ไม่มีคำโกหก”


ประกาศศักดิ์สิทธิ์

วันรุ่งขึ้น

โคเคียวประกาศให้ชาวเมืองรับรู้:

“อากิระแห่งคุโรมิเนะ…ผ่านการซักใจ

แต่การยอมรับนาง… ต้องผ่านการเลือกของฟ้าดิน

ข้าจะให้ท่านพิสูจน์ผ่าน ‘ศึกศรัทธา’ — การประลองกับผู้พิทักษ์แห่งศรัทธาเมืองนี้

ผู้ชนะจะได้สิทธิ์กล่าวแทนพระเจ้า

ผู้แพ้…จะถูกลืมไปตลอดกาล”


ฉากจบ: ดาบปะทะคำภาวนา

ในสนามศักดิ์สิทธิ์กลางเมือง

อากิระยืนประจันหน้ากับ “อินาริ” — นักรบหญิงผู้สาบานตนรับใช้วิหาร

เสียงสวดดังกึกก้อง

ดาบแรกฟาดลง

และเสียงสุดท้ายที่ผู้ชมได้ยินคือเสียงกรีดลมหายใจของนักรบทั้งสอง


ตอนที่ 6 จบ

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • “เจ้าสาวของขุนศึกเงา”   บทที่ 129: พระที่ล้มแท่นของตน

    “พระที่ล้มแท่นของตน”พระบางคนเผาตำราเก่า และฟังเสียงเด็กแทน“เมื่อศรัทธาถูกใช้เพื่อปิดหูบางคนจึงเลือกปิดตำรา...เพื่อเปิดใจ”วัดโฮเซ็นจิในหุบเขาตะวันตกเฉียงเหนือของโยะริมิยะเสียงระฆังทองแดงหนักเจ็ดร้อยชั่ง เคยดังก้องทุกเช้าค่ำเรียกชาวบ้านให้สวดตามสั่นเตือนให้พระผู้ถือบาตรเดินตามระเบียบก้องเตือนให้คนในศาสนจักรจำได้ว่า“คำข้างในตำรา...ศักดิ์สิทธิ์กว่าเสียงใด”แต่วันหนึ่งเสียงระฆังเงียบไม่มีใครตีไม่มีเสียงสวดมีเพียงกลิ่นควันจากกระดาษที่ถูกเผาพระที่เคยเทศน์จนเลือดเปื้อนหมึกชื่อของเขาคือ “คันริว”ในวัยหนุ่ม เขาเคยจารึกบทสวดด้วยเลือดตนเองเชื่อว่าศักดิ์สิทธิ์คือสิ่งที่ต้องบูชา ไม่ใช่ตั้งคำถามเขาเคยลงโทษพระลูกวัดที่ออกเสียงผิดเคยตราหน้าเด็กที่ถามว่า “ทำไมบทสวดไม่พูดชื่อพ่อแม่ข้าเลย”แต่เขาก็เป็นคนเดียวในวัดที่ทุกคืน…จะออกไปนั่งใต้ต้นสนเขียนสิ่งที่ไม่อยู่ในตำรา“เสียงที่แม่ร้องไห้”“ชื่อของคนที่ถูกฝังโดยไม่มีใครพูดถึง”“เสียงหัวเราะของเด็กที่ตายโดยไม่มีพิธี”เขาไม่เคยเผยสิ่งที่เขียนจนกระทั่งคืนหนึ่ง...ฝนตกเด็กที่เดินฝ่าฝนเข้าวัด โดยไม่ไหว้พระเด็กชายอายุราวแปดขวบชื่อ "อิโตะ"

  • “เจ้าสาวของขุนศึกเงา”   บทที่ 128: แผ่นดินที่ไม่มีตำรา

    แผ่นดินที่ไม่มีตำราเมื่อพื้นที่ที่ไม่มีศาสนจักรเข้าถึง เริ่มจัดพิธีฟังแทนศาสนา“เมื่อบทสวดไม่อาจเข้าถึงผู้คนก็เริ่มฟังกันเองโดยไม่ต้องอ้างคำใดในตำรา”กลางทุ่งอาเคะฮะ แคว้นที่ไม่มีชื่อบนแผนที่แผ่นดินแห่งนี้เคยถูกเรียกว่า "เขตต้องสาป" โดยศาสนจักร เพราะเป็นพื้นที่ที่ไม่เคยสร้างศาลา ไม่เคยมีแท่นสวด และไม่มีพระรูปใดตั้งรกรากยาวนานพอจะจารึกบทบูชาให้ถาวรแต่ในปีแห่งเงาเดินกลา

  • “เจ้าสาวของขุนศึกเงา”   บทที่ 127: พิธีจำที่ไม่มีผู้สั่ง

    พิธีจำที่ไม่มีผู้สั่ง— คนทั่วแผ่นดินเริ่มร่วมพิธีจำชื่อผู้ตายแบบไม่มีลำดับชั้นแผ่นดินโยะริมิยะไม่เคยมีเสียงสวดที่ไหลจากทุ่งสู่พระราชวังไม่เคยมีเสียงชื่อชาวนาถูกเอ่ยในที่ที่เจ้าเมืองเคยยืนไม่เคยมีใครกล้าจดจำ “คนที่ไม่มีชื่อ” อย่างเปิดเผย…จนกระทั่งค่ำคืนหนึ่งในต้นฤดูใบไม้ร่วงเมื่อสายลมเย็นพัดมาจากทิศเหนือ และฝุ่นจากพายุฤดูแล้งยังไม่ทันจางมีหญิงชราในหมู่บ้านอิซานะ นั่งอยู่หน้ากองฟืนที่ยังไม่จุดลูบสมุดเก่าเล่มหนึ่ง แล้วพูดขึ้นกลางวงว่า“คืนนี้...ข้าจะอ่านชื่อสามีของข้าที่ศพเขาไม่เคยมีใครเผาให้…เพราะไม่มีใครมาฟัง”ไม่มีพระ ไม่มีเจ้าเมือง ไม่มีผู้อาวุโสมีเพียงคนในหมู่บ้านนั่งเงียบ ฟังเสียงคนชราสะอื้นจากนั้น เด็กชายคนหนึ่งก็ค่อย ๆ หยิบสมุดฟังเล่มใหม่มาเขียนชื่อของ “อาคิระ” — พ่อของเขา ที่เคยหายไปกลางป่าระหว่างทางไปตลาดไม่มีใครสั่งให้ทำไม่มีตำราบอกให้พูดไม่มีเสียงระฆังเริ่มพิธีแต่เมื่อดวงจันทร์ครึ่งดวงขยับพ้นยอดไผ่เสียงชื่อผู้ตายเริ่มถูกอ่านเรียงต่อกัน โดยผู้เป็นลูก ผู้เป็นภรรยา หรือแม้แต่เพื่อนบ้านที่ไม่เคยรู้ว่าคนตายนั้นมีชื่อจริงว่าอะไรมันเริ่มที่หมู่บ้านหนึ่งแล้วต่อมา มี

  • “เจ้าสาวของขุนศึกเงา”   บทที่ 126: ผู้เงียบที่เริ่มพูด

    ผู้เงียบที่เริ่มพูด- เมื่อคนเงียบในตระกูลใหญ่กลายเป็นผู้นำใหม่ในสายลมเย็นของฤดูใบไม้ร่วงต้นปีที่ 17 แห่งยุคโยะริมิยะใหม่เสียงกระดิ่งไม้ของศาลาฟังในหมู่บ้านซุยโฮดังขึ้นอย่างอ่อนโยนไม่ใช่เพื่อเรียกให้ฟังเทศน์ ไม่ใช่เพื่อเริ่มพิธีศักดิ์สิทธิ์แต่เพื่อแจ้งว่ามีเด็กคนหนึ่ง…เริ่มจดประโยคแรกในสมุดฟังเวียนเล่มใหม่ศาลานั้นไม่มีแท่นบูชา ไม่มีคนควบคุม ไม่มีเสื้อผ้าศักดิ์สิทธิ์แต่มีคนมากกว่าสี่สิบคน นั่งเงียบพร้อมกัน โดยไม่มีใครบอกให้ทำเด็กผู้นั้นชื่อว่า "ริสึ"เขาไม่ใช่คนในตระกูลใหญ่ ไม่เคยถูกสอนให้นำแต่เป็นคนเดียวในหมู่บ้านที่จำชื่อของหญิงชราที่เพิ่งตายได้ครบถ้วนแม้หญิงชรานั้นจะไม่มีหลาน ไม่มีลูกหลงเหลือและศาสนจักรไม่ยอมจัดพิธีให้ผู้ไม่มีตระกูลริสึยืนหน้าศาลามือสั่นเทาแต่พูดอย่างมั่นคง:“ข้าขอให้เราจำเธอ…แม้เธอไม่มีใครเหลือให้จำเพราะถ้าชื่อของเธอเงียบหายวันหนึ่งชื่อของพวกเราก็จะหายไปเช่นกัน”ในห้องใต้ดินของตระกูลยามาโนะขณะเดียวกัน ที่แคว้นกลางของโยะริมิยะในห้องใต้ดินลับของตระกูลยามาโนะ — หนึ่งใน 12 ตระกูลใหญ่หญิงสาวคนหนึ่งยืนอยู่หน้าสมุดฟังที่ไม่มีชื่อผู้เขียนดวงตาของนางมืดแน

  • “เจ้าสาวของขุนศึกเงา”   บทที่ 125: บทที่ไม่มีผู้เขียน

    บทที่ไม่มีผู้เขียนสมุดฟังถูกเวียนเขียนโดยไม่ลงชื่อในเช้าวันหนึ่งที่ไร้หมอก...ศาลาหลังใหม่ในหมู่บ้านอิซุระเต็มไปด้วยเสียงกระซิบ แต่ไม่มีใครพูดเสียงดังเด็กหญิงคนหนึ่งเปิดสมุดอ่านชื่อแม่ของเพื่อน แล้วปิดตาไว้ครู่หนึ่งไม่มีพิธีไม่มีใครสั่งให้ทำและที่สำคัญ…ไม่มีใครบอกว่าต้องเขียนอะไรสมุดฟังเล่มนั้น วางอยู่กลางศาลาใครจะเขียนก็ได้จะเขียนแค่ชื่อจะวาดรูปหรือจะเล่าเรื่องบางอย่างก็ได้ที่ข้างปก…มีเพียงคำเดียวที่ถูกเขียนไว้ในหมึกจาง“เพื่อผู้ที่ไม่มีใครเขียนถึง”เสียงที่ไม่มีเจ้าของความเปลี่ยนแปลงไม่ได้เริ่มจากเสียงใหญ่โตแต่มาจากการเวียนกันอ่าน…เวียนกันเขียน…เวียนกันฟังเมื่อไม่กี่เดือนก่อน สมุดฟังยังเป็นของ “ใครบางคน”อิโตะมีสมุดของเขาซาโยะมีเล่มของพ่อฮากุโร่เคยถือสมุดที่เขียนชื่อศัตรูแต่ตอนนี้ ทุกสมุดกลายเป็นสมุดเดียวกันไม่มีผู้เขียนไม่มีคนถือครองไม่มีแม้กระทั่งลายเซ็นเด็กคนหนึ่งจะเขียน แล้วทิ้งไว้คนถัดไปก็จะเติมเรื่องของตนแล้วส่งให้คนอื่นบางครั้งสมุดก็หายไปเป็นสัปดาห์แต่วันหนึ่ง…มันจะกลับมา พร้อมชื่อใหม่หนึ่งชื่อ และเรื่องเล่าใหม่หนึ่งเรื่องศาลาในหมู่บ้านอิซุระจึงกลา

  • “เจ้าสาวของขุนศึกเงา”   บทที่ 124: บ้านที่ไม่มีประตู

    บ้านที่ไม่มีประตู - เด็กสร้างศาลาฟังใหม่ที่ทุกคนเข้าได้หุบเขาตะวันตกของโยะริมิยะ เคยเป็นพื้นที่ต้องห้ามของศาสนจักรแต่วันนี้ กลายเป็นที่แรกที่มี “บ้าน” หลังหนึ่ง ซึ่งไม่ใช่บ้านของใครคนใดคนหนึ่งไม่มีประตูไม่มีระฆังไม่มีแท่นมีเพียงเสาสี่ต้น หลังคาฟาง และพื้นดินเปล่าตรงกลางปูเสื่อไม้ไผ่สานหยาบ ๆ วางสมุดฟังเล่มหนึ่ง ซึ่งหน้าแรกยังว่างเปล่าและมีป้ายไม้เก่าเขียนไว้ด้วยลายมือเด็กว่า:“ศาลาฟัง – ไม่มีผู้นำ ไม่มีผู้อนุญาต”พวกเขาไม่ได้รอใครให้สั่งไม่ได้ขอพระรูปใดมาเปิดพิธีไม่ได้ถือธงตระกูล หรือสัญลักษณ์ทางศาสนาพวกเขาคือกลุ่มเด็กสิบสองคนจากหมู่บ้านรอบนอกบางคนเคยเป็นลูกกำพร้าที่พ่อแม่ถูกประหารโดยคำสั่งศาสนจักรบางคนเป็นหลานของผู้ถูกลืมบางคนเคยเขียนชื่อคนตายด้วยดินเพราะไม่มีหมึกและวันนี้ พวกเขามีหมึกพอมีมือที่สั่นแต่แน่นพอมีใจที่ยังจำ“เราจะไม่เปิดประตู…เพราะเราไม่เคยปิด”— ยามาโกะ, เด็กหญิงคนหนึ่งที่เขียนป้ายเสียงแรกในศาลาฟัง“ท่านเคยได้ยินชื่อ ฮานาโกะหรือไม่?”เสียงของเด็กชายชื่อโคจิ เอ่ยขึ้นกลางวงไม่มีใครตอบไม่มีใครรู้ว่าเธอคือใครแต่ทุกคนฟัง“เธอเป็นคนที่เคยให้ขนมฉันโดยไม่ถ

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status