Masuk“ว้าว น้องไข่ตุ๋นไม่ได้เฉิ่มเหมือนที่มึงเรียกนะไอ้ปาย” พี่ตั้มพูดขึ้นพร้อมกับมองหน้าอกของฉันอย่างเปิดเผย ฉันที่กำลังจะเอาเสื้อแขนยาวขึ้นมาปิดก็มีเสื้อยีนเย็น ๆ พาดลงมาซะก่อน
“ถ้ามึงยังพูดเหี้ย ๆ แบบนี้ก็กลับบ้านมึงไป ไม่งั้นก็แยกโต๊ะ” พี่ปายพูดขึ้นเสียงเข้ม ใช้สายตาคมกริบมองสองคนนั้นเหมือนพร้อมที่จะลุกทุกเมื่อ ส่วนมือก็กระชับเสื้อที่พาดอยู่บนตัวฉันแน่น “ใส่เสื้อพี่” เพราะได้ยินเสียงเข้ม ๆ บวกกับชุดมันรัดนมจนเห็นเป็นเต้ากลมก็เลยยอมใส่เสื้อยีนของพี่ปายแต่โดยดี ที่เลือกใส่ของเขาก็เพราะมันไม่ค่อยร้อน ถ้าใส่ของตัวเองก็เตรียมเหงื่อแตกได้เลย “กูว่าพวกมึงแยกกันก่อนที่มันจะเละดีกว่า” พี่เดย์เอ่ยปากขึ้นอีกคน มองหน้าพี่ปายสลับกับสองคนนั้นด้วยสายตานิ่ง ๆ “พวกกูไปก็ได้ แค่พูดนิดพูดหน่อยทำเป็นโมโห” พี่โอพูดด้วยสีหน้าและท่าทางที่ไม่รู้สึกรู้สาอะไร แล้วย้ายสายตามามองฉันบ้าง “แล้วเจอกันใหม่นะน้องไข่ตุ๋น” ว่าจบก็เดินออกไปทันที ตอนนี้ทั้งโต๊ะก็เลยเหลือแค่กลุ่มแก๊งเดิมที่เคยเจอวันนั้น ที่จริงหน้าพวกเขาโหดเถื่อนมากเลยนะ แต่ไม่น่าเชื่อว่าจะเป็นสุภาพบุรุษได้ “เอ้า ๆ แดกต่อ” พี่คินพูดดึงบรรยากาศที่อึมครึมกลับมา ทั้งโต๊ะก็น่าจะมีเขานี่แหละที่ยังมีสีหน้าดี ๆ เหมือนสนุกไปกับทุกเรื่องยังไงก็ไม่รู้ “พวกหนูมาทำให้พวกพี่เสียบรรยากาศไหมเนี่ย” เจนพูดขึ้นพร้อมกับมองไปรอบ ๆ โต๊ะแล้วหันหน้ามาหาฉัน “ทีหลังไม่ต้องแต่งตัวแล้วนะไอ้ตุ๋น ผู้ชายแย่งกันแล้ว” “เออ ทีไปบ้านเฮียแต่งตัวอย่างกับแม่ลูกอ่อน” แม่ลูกอ่อน… ว้อท? “แม่ลูกอ่อนอะไร หนูเพิ่งยี่สิบเองนะ” อดที่จะมองค้อนพี่ปายไม่ได้ พูดออกมาได้ไงว่าฉันเหมือนแม่ลูกอ่อน วันนั้นก็หาว่าฉันเหมือนผีหลอก ขอเก็บคำชมที่ว่า ‘สุภาพบุรุษ’ คืนนะ ไม่ปลื้มแล้ว! “ไอ้เฉิ่ม” จากหน้าตึง ๆ เมื่อกี้ก็ยิ้มออกมา แถมยังวางมือใหญ่ของตัวเองลงบนหัวพร้อมกับโยกไปมาแผ่วเบา “ทำไมเฉิ่มแบบนี้วะ” “ใครบอกว่าหนูเฉิ่ม หนูไม่ได้เฉิ่ม!” เริ่มจะโมโหแล้วนะ “เฉิ่ม…” เขาก็ยังลอยหน้าลอยตาล้อเลียนฉัน จนกระทั่งพี่เดย์พูดขึ้น “มึงหยอกไข่ตุ๋นคิดอะไรไหมไอ้ปาย” “เฉิ่ม ๆ เซ่อ ๆ แบบนี้กูจะคิดอะไรได้” เขาตอบพลางแสดงสีหน้าอ่อนโยนออกมา “กูก็เอ็นดูเหมือนน้อง” “ดี ๆ มีพี่ชายรวยขนาดนี้ หนูยอม” “กูว่าน้องมึงไม่ได้เฉิ่มหรอกไอ้ปาย” พี่ภีมที่นั่งกินเหล้าเงียบ ๆ พูดขึ้นบ้าง เขามองหน้าฉันเหมือนกำลังตลกอะไรสักอย่าง “ใช่ เพื่อนหนูไม่ได้เฉิ่มสักหน่อย พี่ไม่รู้จักของแซ่บซะแล้ว” เจนรีบพยักหน้าให้กับคำพูดของพี่ภีมถี่รัว “ของแซ่บนะรู้ไหม” “แซ่บ?” “ใช่ ของแซ่บ” ว่าแล้วลอยหน้าลอยตาตอบคำถามของพี่ปายบ้าง “หนูไม่ได้เฉิ่มสักหน่อย” “งั้นมาดวลเหล้ากันคืนนี้ ถ้าเมาแล้วไม่รั่วแสดงว่าแซ่บจริง แล้วพี่จะเลิกเรียกว่าเฉิ่ม” แก้วเหล้าที่อยู่ตรงหน้าถูกเลื่อนมาหาฉัน เขายกยิ้มขึ้นอย่างท้าทาย แต่แววตาก็ยังสื่อออกมาว่าเอ็นดูฉันอยู่ดี เห็นแบบนั้นจึงตอบรับเสียงดัง “จัดไป!” หลังจากนั้นเราก็ดวลเหล้ากันชนิดที่ว่าซดไม่ยั้ง มีเท่าไหร่เอามาให้หมด แต่ไม่ได้ดวลแค่ฉันกับพี่ปายหรอก คนอื่น ๆ ในแก๊งก็ยกประชันไม่ต่างกัน เราสลับวนเวียนกันยกอย่างไม่มีใครยอมใคร โดยเฉพาะฉันกับไอ้เจนที่โดนยุยงโดยพี่คินซ้ำแล้วซ้ำเล่า ‘น้องอย่าไปยอม ซดอีก’ ‘น้อง ไอ้ปายมันหมดแก้วอีกแล้ว’ ‘น้องอย่าอ่อนดิ เพื่อนพี่มันมองเยาะเย้ยแล้วเห้ย’ อะไรไม่รู้เยอะแยะไปหมด และตอนนี้เราทั้งคู่ก็เมาไปแล้วเรียบร้อย “ไหวไหมเห้ย” เสียงขำขันของพี่ปายดังขึ้นใกล้หู “ไหว…ไปเต้นกันปะ” ฉันพยักหน้าหงึกหงักแล้วเขย่าแขนพี่ปายเพื่อชวนเขาไปเต้น “แข่งเต้นกันเปล่า” “สภาพนี้ยืนให้ไหวเถอะไอ้เฉิ่ม” “อยากเต้นอะ” งอแงขึ้นเสียงดัง ตอนนี้รู้สึกเหมือนสายตาฟ่าฟางไปแล้วเรียบร้อย เหมือนพี่ปายมีสามร่างซะด้วย “ถอดเสื้อให้หน่อย ร้อน” “ถอดทำไม ใส่ไว้แบบนั้นแหละ” เขากระชับเสื้อให้แน่นขึ้นเมื่อฉันกำลังจะดึงเสื้อออก “ไอ้เจนไปเต้นกันไหม” ไม่สนใจการกระทำนั้นแล้วหันไปหาเจนที่นั่งเมาอยู่ข้าง ๆ “ไม่ได้เต้นนานแล้ว” “เต้นนี่แหละ ออกไปข้างนอกอันตราย” “เอาแบบที่ไอ้ได๋ว่านั่นแหละ เต้นที่โต๊ะก็ได้” คนข้างกายสนับสนุนคำพูดของพี่ได๋ “เฉิ่ม ๆ แบบนี้เดี๋ยวโดนฉุดไปหรอก” “ก็บอกว่าไม่ได้เฉิ่ม!” แหวขึ้นเสียงดัง “ไม่เฉิ่มได้ไง ดูสภาพตัวเองบ้าง” “ไอ้ตุ๋นพิสูจน์ให้เขาเห็นไปเลยว่าแกไม่ได้เฉิ่ม!” เจนพูดขึ้นเสียงดังไม่ต่างกัน เพียงเท่านั้นก็ได้ยินเสียงหัวเราะลอยมา เพราะโดนท้าโดนว่าก็เลยทำให้อารมณ์พุ่งสูงแล้วตอนนี้ “จัดไป!” “มิวสิคมา!” สิ้นสุดเสียงของเพื่อนก็ถอดเสื้อของพี่ปายออก แล้วโชว์ลีลาท่าเต้นสุดฮอตที่ดูมาจากยูทูป พยายามทำตัวอ่อนที่สุดเท่าที่จะทำได้ โดยมีเสียงเพื่อนเชียร์ไม่ห่าง “ลม…พัดตึ้ง ตึ้ง ตึ้ง ตึ้ง ตึ้ง ตึ้ง ตึ้ง ตึ้ง ตึ้ง ตึ้ง ตึ้ง” และเมื่อได้ยินเพลงนี้ก็กระดกเอวไปตามจังหวะเพลงทันที ไม่รู้หรอกว่าเซ็กซี่หรือขายขำ แต่ก็ใส่จนสุดแรงเกิดเหมือนกัน ยังไงวันนี้ก็ต้องเกิด! ทุกคนต้องหยุดเรียกฉันว่าไอ้เฉิ่ม!! “เห้ย ๆ เดี๋ยวเอวหัก” “ไอ้สัสโคตรจี้” “หนูบอกแล้วว่าเพื่อนหนูแซ่บ” เจนหัวเราะขึ้นเสียงดังไม่ต่างจากคนอื่น ๆ ในกลุ่ม ส่วนฉันก็พักยกเพราะรู้สึกเหนื่อย แล้วหันไปหาพี่ปายด้วยใบหน้าเมา ๆ “เห็นยังว่าหนูไม่ได้เฉิ่ม” “เฉิ่มอยู่ดี” แล้วนิ้วเรียวยาวก็เคาะลงที่กรอบแว่นของฉัน “งั้นเอาใหม่ คราวนี้ไม่เฉิ่มแล้ว” “พอ ๆ เดินแทบจะไม่ตรงทางอยู่แล้ว” พี่ปายจับให้ฉันนั่งลงเหมือนเดิมเมื่อเห็นฉันจะออกสเต็ปเต้นอีกครั้ง ด้วยความที่เมา ๆ ก็เลยทิ้งตัวนั่งลงอย่างง่ายดาย ก่อนที่จะพูดขึ้นแล้วทำให้คนทั้งโต๊ะแตกตื่น “จะอ้วก…”เวลาต่อมา…“โอ้ยเนาะ ว่าสิมาโรแมนติกจักนอย โซ่กะตก ห่าแดกมึงหนิ” ฉันบ่นไปทำไป ประเด็นคือตอนนี้กำลังใส่โซ่รถจักรยานอยู่ ปั่นยังไม่ครึ่งทางเลย โซ่ตกซะแล้ว“เดี๋ยวพี่ใส่ให้ มือเปื้อนหมดแล้ว” พี่ปายที่ยืนขำอยู่ข้างหลังพูดขึ้น คงจะขำที่ฉันบ่นเป็นภาษาอีสาน เพราะนาน ๆ ทีจะพูดให้ได้ยิน “เฉิ่มเอ้ย”“พี่ใส่เป็นเหรอ” หันไปมองพี่ปายงง ๆ“ใส่เป็น” เขาพยักหน้ารับแล้วทิ้งตัวนั่งลงข้างฉัน “ไปจับจักรยาน เดี๋ยวพี่ใส่เอง”“โอเค” ตอบรับแค่นั้นก็ลุกขึ้นยืน ชะเง้อมองพี่ปายใส่โซ่จักรยานด้วยความชำนาญ และเพียงไม่นานก็ใส่เสร็จ จักรยานกลับมาปั่นได้เหมือนเดิม“โห ไม่น่าเชื่อว่าจะใส่ได้”“เรื่องแค่นี้” เขากระโดดขึ้นจักรยานแล้วหันมาหาฉันอีกครั้ง “กลับบ้านไปล้างมือก่อน ค่อยออกมาใหม่”แล้วเราสองคนก็กลับบ้านไปล้างไม้ล้างมือ ไม่นานก็ปั่นออกมาอีกเหมือนเดิม ฉันชี้บอกทางไปเรื่อย ๆ ด้วยความที่บ้านติดทุ่งนาบรรยากาศก็เลยดี ไม่ค่อยมีคนพลุกพล่านด้วย“เคยเลี้ยงควายไหมเฉิ่ม” พี่ปายถามขึ้นพร้อมกับชะลอความเร็วของการปั่นลง คงจะเห็นควายเดินผ่านหน้าไปก็เลยถาม“ไม่เคยเลี้ยง” ฉันส่ายหน้าพัลวัน ยกมือขึ้นกอดรอบเอวพี่ปายแน่น “เคยเลี้ยงแต
บ้านต่างจังหวัด“ยายยยย หนูกลับมาแล้ว” ฉันวิ่งไปหายายที่กำลังยืนด้อม ๆ มอง ๆ อยู่หน้าบ้าน สีหน้าและท่าทางแสดงความสงสัยออกมาชัดเจนเมื่อเห็นรถพี่ปาย ดีนะที่เขาเอารถออดี้ทรงเก๋งมา ถ้าเอาซูเปอร์คาร์ลูกรักมา ป่านนี้ยายฉันคงเอาสากกะเบือโยนใส่แล้ว ข้อหาเสียงดัง“ยายกะว่าแม่นผู้ได๋ขับรถมาหา อีตุ๋นของยายนี่เอง” ยายรับฉันเข้าไปกอดพร้อมกับพูดออกมา “แล้วมานำไผหั่น”“พี่ปายแฟนหนูเอง” ว่าแล้วก็กวักพี่ปายที่ยืนอยู่ไม่ใกล้ไม่ไกลให้เดินเข้ามาหายาย “นี่ยายหนู สวยไหม เจ็ดสิบแล้วยังไม่แก่เลย”“สวัสดีครับ” พี่ปายยกมือไหว้ยายไม่ได้สนใจต่อคำพูดไปเรื่อยของฉัน“ไหว้พระ ๆ” ยายรับไหว้ในขณะที่กำลังมองพี่ปายอย่างพิจารณา “แมนแฟนหลานยายอิหลิติสู คือมาหล่อปานดาราแท้ ว่าแมนมาริโอ้”“หล่อบ่ยาย หนูเลือกมาอย่างดีเลยเด้หนิ” ไม่ได้เลือกหรอก เพราะความอยากลองเรื่องสิบแปดบวกล้วน ๆ ก็เลยตกกระไดพลอยโจนคบกับพี่ปายมาจนถึงทุกวันนี้ แต่ก็พูดหยอกยายไปอย่างนั้นเอง“หล่อ ๆ” ยายพยักหน้ารับ “ไป ๆ เข้าบ้าน”“พี่ปายไม่ต้องเกร็งนะ ยายหนูใจดีมาก ยายไม่โหด” ฉันผละตัวออกจากยายแล้วเดินเข้าไปหาพี่ปายที่ยืนนิ่ง ๆ เหมือนไม่ใช่พี่ปายที่ฉันรู้จัก
“เก็บแล้วออกไปข้างนอก ไอ้คินมันซื้อของกินมาเยอะ” ปายยอมลุกออกจากเมียตัวน้อยของตัวเอง ไม่ลืมที่จะดึงแขนเธอขึ้นตาม“พี่คินมาเหรอ?”“อือ อยู่ข้างนอก”“งั้นขอเก็บของแป๊บ เดี๋ยวตามออกไป” พอได้ยินคำว่า ‘ของกิน’ หูก็ผึ่งทันที ดวงตากลมโตวาววับเหมือนกำลังถูกใจกับอะไรสักอย่าง ตาคมมองเมียตัวเองอยู่อึดใจก็เดินออกไปหาเพื่อนที่อยู่ข้างนอก ไม่อยากอยู่นานเพราะกลัวอดใจไม่ไหว เห็นไข่ตุ๋นทีไร เขาของขึ้นทุกที“ที่จริงมึงไม่ต้องมาดูแลกูก็ได้นะ” คินละสายตาจากโทรศัพท์มามองเพื่อน “กูจะคิดว่าที่นี่คือห้องของกูเอง”“หน้าด้านฉิบหาย” ปายหยิบของกินขึ้นมาถือแล้วเดินเข้าไปในครัว จัดแจงอาหารใส่จานแล้วเอามาวางต่อหน้าคิน คนที่เล่นโทรศัพท์อยู่นั้นเงยหน้ามองทันที“เสิร์ฟกู?”“เปล่า” เจ้าของห้องส่ายหน้า “เอามาเสิร์ฟเมีย เดี๋ยวเมียออกมา”“หลงเมียฉิบหาย”“ไม่เถียง” เพราะเถียงไปก็ไม่มีประโยชน์ สิ่งที่คินพูดมันก็คือเรื่องจริง ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อว่าผู้ชายที่ตัวโตแบบเขาจะมาเสียรู้ให้ผู้หญิงตัวเล็ก ๆ ตัวเล็กมากจริง ๆ แถมยังเป็นเด็กอายุยี่สิบเท่านั้น ไม่ใช่ผู้หญิงจัดจ้าน แต่งตัวบ้าน ๆ แถมยังใส่แว่นตาหนาเตอะ แต่เขาก็หลงรักจริง ๆ
ช่วงปิดภาคเรียน“กลับไปเยี่ยมยายหรือย้ายบ้าน?” ปายมองเมียตัวน้อยที่กำลังเก็บเสื้อผ้าทั้งตู้ออกมาพับด้วยความสงสัย ตอนนี้ไข่ตุ๋นปิดภาคเรียนปีที่สองแล้ว ส่วนปายก็จบปีสี่เรียบร้อย แต่ก็ยังคิดอยู่ว่าจะต่อโทหรือเปล่า ตอนนี้กำลังอยู่ในช่วงตัดสินใจ“ก็เยี่ยมยายไง”“ไม่ขนช่วยนะ เยอะขนาดนั้น” เพียงเท่านั้นหน้ากลม ๆ ก็บูดเบี้ยวทันที หน้าเริ่มงอง้ำเหมือนกำลังจะงอน “เอาไปแค่สิบชุดก็พอ”“เผื่อลงไร่ลงนาไง ก็ต้องเอาไปเยอะ ๆ สิ”“ตามใจ แต่พี่ไม่ขนช่วยนะ”“ขนช่วยหน่อย” ไข่ตุ๋นละมือจากการเก็บพับผ้า เดินเข้าไปหาปายที่นั่งมองเธอนิ่ง ๆ อยู่ปลายเตียง คนตัวเล็กทิ้งตัวนั่งลงบนตักแกร่งเหมือนที่ชอบทำ ซบหน้าลงที่อกกว้างอย่างออดอ้อน“ทำไมนับวันยิ่งอ้อนวะ” แม้ปากจะพูดแบบนั้นแต่ก็ยอมยกแขนโอบกอดเอวเล็กไว้ พูดได้เต็มปากเลยว่าตอนนี้เขาหลงเมียจนโงหัวไม่ขึ้นจริง ๆ แค่เห็นตากลม ๆ แก้มป่อง ๆ ก็อดใจไม่ไหวแล้ว รู้สึกเหมือนตกหลุมรักไอ้เฉิ่มของตัวเองทุกวันอยากขอบคุณทับทิมมากที่ทำแบบนั้นกับเขา เพราะถ้าเธอไม่ทำแบบนั้น ก็คงไม่ได้มารักกับไอ้เฉิ่มแบบนี้“ไม่ดีเหรอ หนูอ้อนเยอะ ๆ พี่ปายจะได้รักหนูเยอะ ๆ ไง”“แค่นี้ก็รักไม่รู้จะรักย
เวลาต่อมาสิบนาทีหรือสิบชั่วโมงก็ไม่รู้ ลืมตาขึ้นมาอีกทีก็มืดแล้ว บอกให้ปลุกก็ไม่ยอมปลุก แถมยังหนีไปสังสรรค์อีกนะ ทิ้งให้ฉันนอนน้ำลายยืดอยู่คนเดียว“เมียมึงหน้ายุ่งมาแล้วไอ้ปาย” พี่เดย์พยักพเยิดหน้ามาที่ฉันที่กำลังมุ่งตรงไปที่กลุ่มเหล้า ทุกสายตาจับจ้องมาทางนี้นิดหน่อยก็หันกลับไปโฟกัสแก้วเหล้าตัวเองเหมือนเดิม“โดนแน่มึง”“ทำไมไม่ใส่เสื้อแขนยาวมาด้วย อากาศมันเย็น” แต่พี่ปายก็ไม่ได้สนใจคำเพื่อนอยู่ดี เขาอ้าแขนออกรอรับร่างฉันให้นั่งลงที่ตักแกร่ง ซึ่งฉันก็ยอมทำตาม“ทำไมไม่ปลุกหนูล่ะ” ไม่ลืมที่จะว้ากใส่เขา“เห็นนอนเพลิน ไม่อยากปลุก” สองแขนกระชับอ้อมกอดแน่น เหมือนกำลังจะง้อทางอ้อมยังไงก็ไม่รู้“เฮียบอกมันแล้ว แต่มันบอกน้องใช้พลังงานเยอะ ต้องนอนพักผ่อน เฮียก็เลยไม่พูดอะไรต่อ” เฮียกปรากพูดออกมาด้วยสีหน้าเอือมระอาไม่ต่างจากคนอื่นที่มองพี่ปายแบบเหม็น ๆ แต่นั่นไม่ใช่ประเด็นที่ทำให้ฉันหุบปากเงียบหรอก ประเด็นก็คือพี่ปายบอกคนอื่นว่า ‘ฉันใช้พลังงานเยอะ’ นี่สิ จะเกินไปไหม!!“มา ๆ เล่นเกมกันดีกว่า” พี่ได๋คงเห็นสีหน้าที่ไม่ค่อยดีของฉันก็พูดขึ้น เธอเอาขวดมาวางไว้กลางวงพร้อมกับเคลียร์อาหารออก “เกมง่าย ๆ ข
“พี่ปาย…” ฉันกดเล็บเท้าลงกับแผ่นหลังกว้างเมื่ออีกคนกำลังละเลงจุดอ่อนไหวของฉันด้วยลิ้น และเป็นการละเลงที่ยาวนานมาก ละเลงแบบไม่พักเลยเชื่อไหมว่าหลังจากที่พี่ปายบอกว่าจะพาฉันเข้าห้อง เขาก็ทำจริง ๆ และเมื่อเข้ามาแล้วก็จับฉันยัดใส่ห้องน้ำไม่พูดไม่จา อุ้มร่างเล็ก ๆ ของฉันให้นั่งบนชักโครก ส่วนเขาก็ทิ้งตัวนั่งลงบนพื้น ยกขาสองข้างวางบนไหล่กว้างแล้วก็ทำอย่างที่เห็นปรนเปรอกันด้วยลิ้น…“อ๊ะ” ความรู้สึกดีที่โคตรทรมานตีแล่นเข้ามาจนต้องเงยหน้าปล่อยเสียงร้องครวญครางออกมาไม่ขาดสาย ลมหายใจสะดุดครั้งแล้วครั้งเล่า เรียวขาสั่นจนไม่รู้จะสั่นยังไง ฉันไม่สามารถอธิบายความรู้สึกตอนนี้ได้ รู้แค่ว่ามันเป็นความรู้สึกที่ดีมาก ๆ แต่ก็ทรมานมากเช่นกัน ทรมานมาก ๆ เลย“อื้อ…”“อยากได้กี่นิ้ว” เขาถอนปากออกแล้วถามกันเสียงพร่า สอดนิ้วเข้ามาในช่องคับแน่นแล้วแยงเข้าออกไปมา เหมือนกำลังจะเล่นกับน้ำรักที่มันกำลังไหลเยิ้มเพราะความใคร่ยังไงก็ไม่รู้“อยากได้ไอ้นั่น”“ยังไม่ให้ เอานิ้วก่อน” พูดแค่นั้นก็กดหน้าลงไปดูดดึงกับติ่งเกสรกลางร่าง จากตอนแรกที่สอดเข้ามาหนึ่งนิ้ว ตอนนี้แปรเปลี่ยนเป็นสองนิ้วแล้วเรียบร้อย แยงความนิ่มถูไถกับโพ







