แชร์

บทที่ 2 เซี่ยซูเหยา

last update ปรับปรุงล่าสุด: 2025-02-14 02:58:28

เนเน่ขยับตัวด้วยความอ่อนล้า ความจำล่าสุดของเธอก่อนที่จะหมดสติคือการที่เธอกลัวความมืดและกรีดร้องจนหมดสติ แต่พอลืมตาขึ้นมามันทำให้เธอถึงกับชะงัก เธอยังไม่ได้ออกจากบ้านร้างที่เก่าแก่?

แต่พอมองรอบ ๆ แล้วเนเน่ต้องขยี้ตาหลายรอบ ต่อให้เป็นความมืดแต่สิ่งที่เธอจำได้ก็คือ บ้านหลังนั้นมันรกมากและกลิ่นอับชื้นก็ตีขึ้นจมูก แต่ที่นี่ไม่ใช่ และเธอยังจำได้อีกว่าเธออยู่ที่หน้าประตู ตอนนี้เธอกลับนอนอยู่บนเตียงที่มีเศษผ้าเก่า และรู้สึกถึงมือที่เล็กลง

“อึก!”

เนเน่ยกมือขึ้นกุมขมับทันทีที่ครามทรงจำบางอย่างไหลเข้าหัว มันเป็นความเจ็บปวดที่ร่างกายแทบจะทนไม่ไหว เกือบสิบนาทีที่เนเน่ต้องทนเจ็บปวดก่อนที่ความเจ็บปวดมันจะหายไป

‘มันคืออะไร’

เนเน่นอนนิ่งก่อนจะทบทวนความทรงจำที่ได้รับมา ดูเหมือนว่าเธอจะตายในบ้านที่ถูกผลักเข้าไป และตื่นขึ้นมาบนร่างของ เซี่ยซูเหยา เด็กน้อยวัยสิบหนาวในแคว้นหนาน แคว้นที่เต็มไปด้วยความอุดมสมบูรณ์ของพืชผักและกำลังทหาร

เซี่ยซูเหยาเป็นลูกสาวคนเล็กของครอบครัวสกุลเซี่ย เป็นสกุลเล็ก ๆ ทางตอนใต้ของแคว้น และอยู่ในเมืองที่เลือกได้ว่ายากจนที่สุด ต่อให้แคว้นอุดมสมบูรณ์มากแค่ไหนแต่พอห่างไกลจากเมืองหลวง ความช่วยเหลือยากที่จะมาถึง

สกุลเซี่ยมีหลายสายยิ่งมีลูกเยอะยิ่งแยกย้ายกันไป ปัจจุบันสกุลเซี่ยมีมากถึงสิบเอ็ดสาย และสายหลักปัจจุบันคือครอบครัวของพวกนาง

บิดานามว่า เซี่ยห้าวไห่ ส่วนมารดานามว่า เซี่ยเมี่ยวผิง ปัจจุบันท่านเสียชีวิตตั้งแต่เซี่ยซูเหยาไม่กี่เดือน เซี่ยห้าวไห่เป็นนายพรานในหมู่บ้านที่จะขึ้นเขาล่าสัตว์เดือนละครั้ง และเข้าป่าทุกวันเพื่อล่าสัตว์ชนิดเล็ก ๆ

ลูกสาวคนโต เซี่ยซูเจี๋ย อายุสิบสี่หนาวใกล้ถึงวัยปักปิ่นแล้ว มีหน้าที่ดูแลภายในบ้านเนื่องจากเป็นลูกสาวคนโต และดูแลน้องสาวคนเล็ก

ลูกชายคนรอง เซี่ยซูเหยียน อายุสิบสองหนาว ตามบิดาเข้าป่าล่าสัตว์ทุกวัน หรือบางวันก็จะไปหารับจ้างชาวบ้านลงแปลงนา หรือบางวันก็จะเก็บฟืนไปขาย

ลูกสาวคนเล็ก เซี่ยซูเหยา อายุสิบหนาว ยามที่อยู่ในครรภ์มารดาก่อนจะคลอดออกมา เซี่ยเมี่ยวผิงลื่นล้มอยู่บ่อยครั้งจนเซี่ยซูเหยาเกือบไม่รอด พอคลอดมาร่างกายมารดาทรุดโทรมไม่สามารถให้ลูกสาวดื่มนมจากอกได้ และนับตั้งแต่นั้นมาเซี่ยซูเหยาจึงมีร่างกายที่ไม่แข็งแรง และเจ็บป่วยแทบทุกวัน เงินภายในบ้านจึงเริ่มหมดและไม่มีเงินใช้

ดูเหมือนว่าครั้งนี้เซี่ยซูเหยาจะล้มป่วยหลังช่วยพี่สาวทำอาหารรอบิดาและพี่ชาย และนอนซมถึงห้าวันก่อนที่จะจากไปอย่างสงบโดยที่ไม่มีใครรู้ และมีเนเน่เข้ามาอยู่

เนเน่ในร่างเซี่ยซูเหยาขยับตัวลุกขึ้นมามองรอบข้าง ในห้องแคบ ๆ นี้เป็นห้องไม้ที่น่าจะทำมาจากต้นไผ่ เป็นห้องที่เล็กมาก นางสามารถนอนได้คนเดียวและเดินไม่กี่ก้าวก็ถึงประตูไม้

เนเน่ก้มลงมองมือตัวเองที่เล็กลงกว่าเดิมและรีบยกมือขึ้นเช็ดน้ำตา ก่อนจะสะอื้นออกมาด้วยความไม่เข้าใจ ทำไมนางถึงต้องมาอยู่ที่นี่

อาป๊า หม่าม้า เฮียนรา และตี๋เล็กจะรู้หรือไม่ว่านางไม่อยู่แล้ว หากเอ่ยปฏิเสธอาจารย์ไปยามนี้นางคงได้เข้าไปช่วยหม่าม้าทำอาหารรอพี่ชายกับน้องชายแล้ว

“อาเหยา!”

เสียงร้องตกใจของเด็กสาวคนหนึ่งดังขึ้นหลังเปิดประตูห้อง พลางรีบวิ่งมาหาน้องสาวที่กำลังสะอื้น เซี่ยซูเจี๋ยรีบกอดปลอบน้องสาว

เซี่ยซูเหยาเป็นแก้วตาดวงใจของบิดาและพี่สาว พี่ชาย ท่านพ่อเคยกล่าวว่ามารดาทิ้งน้องสาวเอาไว้เป็นตัวแทนของนาง จึงควรจะรักน้องสาวมาก ๆ ยิ่งน้องสาวร่างกายอ่อนแอจึงต้องดูแลอย่างดี

แต่เพราะร่างกายที่อ่อนแอรวมถึงการร้องไห้ เนเน่ในร่างเซี่ยซูเหยาจึงหลับคาอ้อมกอดของพี่สาว ทั้งใบหน้ายังเต็มไปด้วยน้ำตา

สกุลเซี่ยสายหลักเป็นครอบครัวของเซี่ยห้าวไห่ ปัจจุบันเหลือสมาชิกเพียงสี่คน และที่บ้านก็ยากจนมาก เงินเก็บที่มีเหลือไม่ถึงสองตำลึง เงินที่หามาได้นอกจากค่าใช้จ่ายในบ้านแล้วก็จะใช้ซื้อสมุนไพรมารักษาอาการลูกสาวคนเล็ก

“ท่านพ่อ”

เซี่ยซูเจี๋ยมีสีหน้ากังวลเมื่อบิดาเดินเข้ามาในห้องของน้องสาวที่กำลังหลับอยู่ อาการของน้องเล็กเป็นแบบนี้ปกติ แต่ช่วงหลัง ๆ มานี้ อาการเริ่มแย่ลง เงินเก็บที่มีก็ซื้อสมุนไพรจนเงินไม่เหลือ

“เจ้าไปพักเถอะ”

เซี่ยห้าวไห่เอ่ยออกมาด้วยน้ำเสียงแหบแห้ง พลางลูบผมลูกสาวคนโตที่เริ่มจะร้องไห้ เขาเข้าใจลูกสาวดีที่ไม่อยากให้น้องสาวเจ็บปวด เขาก็ปวดใจไม่น้อยที่เห็นลูกสาวเป็นแบบนี้

“ท่านพ่อไม่เข้าป่าหรือเจ้าคะ”

“อืม วันนี้เหมือนฝนจะตก”

“เช่นนั้นข้าจะไปซักผ้า”

เซี่ยซูเจี๋ยตอบบิดาก่อนจะเก็บเสื้อของน้องสาวออกไปซัก นอกจากเสื้อของนางแล้วก็มีเสื้อของน้องสาวที่นางต้องซัก ส่วนของบิดากับน้องชายนั้นทั้งสองจะซักเองเพื่อแบ่งเบาภาระของนาง

เซี่ยซูเหยารู้สึกตัวอีกที่ก็กลางยามโหย่ว เพราะทนเสียงร้องของของกระเพาะไม่ไหว และนางยังได้กลิ่นของเนื้อสัตว์อีก ถึงต้องประคองตัวเองออกมานอกห้องเพื่อตามกลิ่นอาหารไป

บ้านหลังนี้จริง ๆ แล้วเป็นบ้านดินผสมฟาง เพียงแต่ห้องของเซี่ยซูเหยาที่เป็นไม้เพราะนางไม่สามารถทนอยู่กับฝุ่นได้ บิดาจึงต้องทำห้องให้ใหม่

“อาเหยา”

เสียงเรียกทำให้เซี่ยซูเหยาหันไปมองอย่างคุ้นชิน คนตรงหน้าคงจะเป็นพี่ชายคนรองอย่างเซี่ยซูเหยียนจากความทรงจำ

“เจ้าคะ”

“หิวแล้วหรือ ไปรอที่ห้องก่อนหรือไม่ พี่ชายจะเอาเข้าไปให้” เซี่ยซูเหยียนตกใจไม่น้อยที่เห็นน้องสาวเดินออกจากห้องด้วยอาการอ่อนล้า

“ข้า…ข้า” เซี่ยซูเหยานึกอะไรไม่ออก นางไม่คิดว่าจะเจอพี่ชายเร็วขนาดนี้

“น้องรองพาอาเหยามานั่งรอที่โต๊ะเถิด พี่สาวจะยกอาหารออกมาให้ อาเหยาคงจะหิวแล้ว” เซี่ยซูเจี๋ยเดินเข้ามาในบ้านก่อนจะร้องบอก

“ขอรับ”

เซี่ยซูเหยาเดินไปนั่งเก้าอี้พร้อมทั้งถูกเซี่ยซูเหยียนพยุงตัว แต่พอมีคนมาพยุงนางก็เดินเร็วขึ้นจริง ๆ ยามนี้นางยังปรับตัวไม่ได้คงต้องให้คนอื่นช่วยไปก่อน

“ทะ…ท่านพ่อ” เซี่ยซูเหยาเรียกเซี่ยห้าวไห่ที่นั่งรออยู่ก่อนแล้ว

“เจ้าหายดีแล้วเหรอ” เซี่ยห้าวไห่เอ่ยถามลูกสาว

“เจ้าค่ะ”

“พรุ่งนี้พ่อจะไปล่าไก่ป่ามาทำน้ำแกงให้กินดีหรือไม่” เซี่ยห้าวไห่ถามลูกสาวด้วยรอยยิ้ม

นับวันลูกสาวคนเล็กยิ่งโตยิ่งงดงามเหมือนมารดา แต่ก่อนมารดาของนางเนื้อหอมยิ่ง เพียงแต่มีร่างกายที่อ่อนแอจึงไม่มีใครสนใจ ต่างจากลูกสาวคนโตที่หน้าตาได้เขามา คงจะมีแต่ดวงตาที่ได้มารดา

“เจ้าค่ะ”

เซี่ยซูเหยาไม่ได้บอกว่าดีหรือไม่ดี แต่เธอแค่ตอบผู้เป็นพ่อไปเพื่อคลายความสงสัย นางจำได้ว่าเซี่ยซูเหยาเป็นเด็กที่เก็บตัว ไม่ค่อยร่าเริงเพราะคิดว่าตัวเองเป็นภาระของคนในครอบครัว

เซี่ยซูเจี๋ยทำอาหารไม่นานก็ยกออกมา มีเซี่ยซูเหยียนไปช่วยยกด้วย ทั้งหมดจึงกินข้าวมื้อเย็นเพราะเซี่ยซูเหยาจะได้ไปพัก

อาหารมื้อเย็นมีเพียงน้ำต้มข้าวเพราะเซี่ยซูเจี๋ยตักให้น้องสาวคนเล็กไป และน้ำแกงปลาที่เซี่ยห้าวไห่ได้มาเมื่อวานเท่านั้น

เซี่ยซูเหยาตื่นขึ้นมายามเช้า อาการของนางดีขึ้นมาก ร่างกายที่เจ็บปวดก็ค่อยหายไป คงเป็นเพราะพี่สาวนำสมุนไพรมาให้ก่อนนอน เช้านี้เซี่ยซูเหยาจึงอาการดีขึ้นมาก

“พี่สาว”

“อาเหยา”

เซี่ยซูเจี๋ยยิ้มกว้างเมื่อน้องสาวเดินเข้าครัวมาหา พอมองดูแล้วอาการของน้องสาวคงจะดีขึ้นมาก ไม่นั้นคงไม่ตื่นเช้าเช่นนี้

“พี่สาวทำอาหารหรือ” เซี่ยซูเหยาชะโงกหน้ามองหม้อที่กำลังต้มข้าวอยู่

“ใช่แล้ว”

ฟ้ายังไม่สางมีเพียงแสงไฟจากบ้านอื่นที่เป็นแสงสว่างให้เซี่ยซูเจี๋ยต้มข้าว รอฟ้าสว่างกว่านี้ถึงจะออกไปดูแปลงผักว่ามีผักอะไรให้ทำอาหารใด้บ้าง ส่วนของเซี่ยซูเหยานั้นเซี่ยห้าวไห่ออกไปล่าสัตว์ตามที่ได้บอกลูกสาวเอาไว้

“มีอะไรให้ข้าช่วยหรือไม่”

เซี่ยซูเหยารู้สึกไม่คุ้นชิน ในยามที่เป็นเนเน่นางต้องตื่นแต่เช้ามาทำอาหาร และทำเวลาให้ไปถึงมหาวิทยาลัยให้ทันก่อนเข้าเรียน พอเรียนเสร็จก็กลับมาทำงานในบ้าน ต่อให้ป่วยก็ต้องทำให้เสร็จก่อน แต่พอมาที่นี่แค่วันเดียวเซี่ยซูเหยาก็ไม่ชิน

“ไม่ต้อง ๆ อาเหยาไปพักเถิด พี่สาวจะทำเอง” เซี่ยซูเจี๋ยรีบปฏิเสธ

ยามนี้เป็นฤดูร้อนพอเซี่ยซูเหยาเข้าครัวทีไรเหงื่อก็ท่วมตัวตลอด เซี่ยซูเจี๋ยจึงชอบปฏิเสธน้องสาว หรือเวลาเข้าครัวส่วนมากก็เป็นยามที่อากาศไม่หนาวและไม่ร้อน

“ท่านพ่อกับพี่รองเล่า”

จากควาทรงจำเวลานี้เซี่ยห้าวไห่กับเซี่ยซูเหยียนควรจะตื่นหมดแล้ว แต่เซี่ยซูเหยาไม่เห็น เห็นเพียงพี่สาวคนโต

“ท่านพ่อกับน้องรองออกไปล่าสัตว์ตั้งแต่ยามอิ๋น คงจะกลับยามเฉิน เหมือนเดิม” เซี่ยซูเจี๋ยตอบน้องสาว

“เจ้าค่ะ”

เซี่ยซูเหยาถูกพี่สาวห้ามช่วย นางจึงทำได้แค่เดินมานั่งโต๊ะในห้องโถงของบ้านอย่างปลงตก นางคงต้องรีบบำรุงร่างกายนี้เร็ว ๆ ไม่เช่นนั้นคงไม่ได้ทำอะไรแน่ ๆ

เป็นไปตามที่เซี่ยซูเจี๋ยบอก กลางยามเฉินเซี่ยห้าวไห่กับเซี่ยซูเหยียนกับมาจากการล่าสัตว์และกลับมาช้ากว่าปกติ เพราะทุกวันจะกลับมาต้นยามเฉิน

“ท่านพ่อได้ไก่ป่ามาด้วย!” เซี่ยซูเจี๋ยร้องด้วยความดีใจ

หลายวันมานี้นอกจากปลาที่ไปจับมาก็แทบจะไม่มีเนื้อให้กินเลย ส่วนมากจะนำไปขายแลกเงินและเหลือกลับมาเพียงเสี้ยวเดียวให้น้องสาวคนเล็ก

“วันนี้พ่อได้ไก่มา 3 ตัว อีก 2 ตัวขายไปแล้ว ตัวนี้อาเจี๋ยนำไปตุ๋นให้น้องสาวแล้วก็ย่างเถิด” เซี่ยห้าวไห่พูดด้วยความเหนื่อย

เพราะต้องเอาไก่เข้าไปขายในเมืองจึงต้องรีบทำเวลา ยามนี้ลูกสาวคนเล็กควรที่จะกินข้าวและดื่มสมุนไพรแล้ว

“เจ้าค่ะ”

เซี่ยซูเหยารีบรับไก่ป่ามาด้วยดวงตาที่เป็นประกาย นาน ๆ ที จะได้กินเนื้อ นางจึงรีบเอาไก่เข้าไปทำความสะอาด น้องสาวคนเล็กคงจะหิวมากแล้ว มีเซี่ยซูเหยียนที่เข้าไปช่วยพี่สาวฆ่าไก่ป่าด้วย

อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทล่าสุด

  • เด็กสาวสกุลเซี่ย เซี่ยซูเหยา   บทที่ 80 ตราบชั่วนิรันดร์

    เช้าวันนี้ในเมืองหลวงแคว้นหนานมีการถกเถียงเรื่องเมื่อหลายปีก่อนของคนสกุลเจิ้ง ว่ากันว่าวันนั้นภรรยาทั้งสามคนของอดีตเสนาบดีเจิ้งที่ล่วงลับไปแล้วคลอดบุตรพร้อมกันหนึ่งฮูหยินใหญ่ภรรยาเอกของเสนาบดีเจิ้งคลอดบุตรชายออกมาเป็นคนที่สอง บุตรชายของนางจึงกลายเป็นคุณชายรองไปโดยปริยาย หากไม่เกิดเรื่องถูกไล่ออกจากสกุลครานั้นคงได้ขึ้นเป็นเสนาบดีเจิ้งคนปัจจุบัน แทนพี่ชายที่เป็นบุตรอนุสองฮูหยินรองที่คลอดบุตรสาวคนเล็กพร้อมเสียชีวิตลงระหว่างคลอดบุตรสาวออกมา จากการสอบถามหมอที่ทำคลอด หมอผู้นั้นกล่าวว่าฮูหยินรองเสียเลือดมาก อีกทั้งเด็กขาดอากาศหายใจจึงไม่สามารถช่วยชีวิตไว้ได้สามคืออนุสามที่คลอดบุตรชายคนโตของสกุลเจิ้งก่อนฮูหยินทั้งสอง กล่าวได้ง่ายๆ ก็คือคุณชายใหญ่เจิ้ง หรือประมุขสกุลเจิ้งคนปัจจุบันนั่นเองทว่าเรื่องที่ถกเถียงในวันนี้ก็คือบุตรชายของฮูหยินผู้เฒ่าเจิ้งนั้นเป็นบุตรชายแท้ๆ ของฮูหยินรอง! ส่วนบุตรแท้ๆ ของนางนั้นเป็นบุตรสาวที่คลอดออกมาแล้วเสียชีวิต หมอทำคลอดกล่าวว่าฮูหยินผู้เฒ่าเจิ้งในยามนั้นเสียเลือดมากและไม่มีโอกาสที่จะมีบุตรได้อีก จึงทำการสลับเปลี่ยนตัวเด็กทั้งยังสังหารฮูหยินรองทิ้ง ซึ่งเรื่องนี

  • เด็กสาวสกุลเซี่ย เซี่ยซูเหยา   บทที่ 79 ง้อ

    ซื่อจื่อหมิงซูเหยียนที่กำลังช่วยสหายสะสางฎีกาต้องรีบกลับตำหนักบูรพาทันทีเมื่อได้ยินว่าน้องสาวมีใบหน้าเศร้าหมองมาจากจวนสกุลเจิ้ง พอๆ กับผู้เป็นสามีอย่างรองแม่ทัพเจิ้งที่ตามพี่ภรรยาไปด้วยตำหนักบูรพาเดิมทีเป็นตำหนักขององค์รัชทายาทที่จะได้รับตำแหน่งฮ่องเต้องค์ถัดไป ทว่าฮ่องเต้หมิงหลงอันกลับไม่ยอมให้องค์รัชทายาทเข้าไปอยู่และสร้างตำหนักใหม่ให้แทน ในระหว่างนี้องค์รัชทายาทก็ต้องอยู่ในตำหนักเดิมของพระองค์ไปก่อนส่วนตำหนักบูรพาถูกยกให้เป็นจวนสกุลเซี่ยที่มีรองแม่ทัพเซี่ยเป็นประมุขสกุล ซึ่งองค์รัชทายาทไม่มีปัญหาในเรื่องนี้เพราะหากเขายอมรับตำหนักใหม่ยังสามารถเลือกได้ว่าต้องการตำหนักแบบใด และเรื่องนี้เหล่าขุนนางก็ไม่มีผู้ใดคัดค้าน อาจเป็นเพราะแต่ละคนล้วนเป็นขุนนางที่ขึ้นตรงต่อฮ่องเต้หมิงหลงอันเพียงผู้เดียวก็ได้ยิ่งยามนี้จวนสกุลเซี่ยเพิ่งถูกองค์หญิงเจิ้นกั๋วหมิงเมี่ยวซือจ่างกงจู่สั่งทุบไป และจะสร้างเป็นสวนดอกไม้เพื่อรำลึกถึงคนที่เสียชีวิตแทน ทำให้สามพี่น้องไม่ได้ย้ายไปพักที่นี่ อีกอย่างความทรงจำต่างๆ คงไม่ดีสำหรับผู้รอดชีวิตในวันนั้นรองแม่ทัพเจิ้งกระโดดลงจากรถม้าด้วยความเร่งรีบ เมื่อสอบถามนางกำนั

  • เด็กสาวสกุลเซี่ย เซี่ยซูเหยา   บทที่ 78 ย่าสามีหรือ ข้าไม่ต้องการ

    เสียงการเคลื่อนไหวที่ข้างนอกห้องนอนทำให้เซี่ยซูเหยารู้สึกตัวตื่นขึ้นบนที่นอน ตั้งแต่แต่งงานมาตลอดหนึ่งสัปดาห์ วันนี้นางตื่นสายมากๆ ได้ยินว่าวันนี้ฮูหยินผู้เฒ่าเจิ้งกลับมาจากเยี่ยมบุตรชายที่นอกเมืองหลวง นางผู้เป็นหลานสะใภ้จึงต้องไปยกน้ำชาเพื่อแสดงความเคารพสักหน่อย“องค์หญิง”“ยามใดแล้ว” เสียงแหบพร่าเอ่ยถามคนสนิทที่เข้ามาช่วยพยุงตัวให้ลุกขึ้น ทั้งยังยกอ่างล้างหน้ามาให้ผู้เป็นฮูหยินน้อยสกุลเจิ้งหมาดๆ นางพยักหน้า“ยามซื่อแล้วเพคะ ท่านเขยกล่าวว่าไม่ต้องปลุกท่าน บ่าวจึงรอให้ท่านตื่นเอง”“ยามซื่อ!”สามวันมานี้เหลาอาหารอิ้งเยว่เกิดเรื่องขึ้น นางจึงต้องจัดการปัญหาต่างๆ จะให้สามีจัดการให้ก็ไม่ได้ เขาไม่รู้เรื่องในเหลาอาหารทั้งยังมีเพียงนางที่แก้ปัญหาได้ จึงต้องนอนดึกและตื่นเช้ามาตลอดสามวัน เพียงทว่าเมื่อคืนนางคงจะเหนื่อยจริงๆ จึงหลับลึกมากชนิดที่ว่าคนข้างกายลุกไปก็ยังไม่รู้สึกตัว“เพคะ”“เขาล่ะ” นางหมายถึงสามีของนางที่ไม่เห็นหน้าเมื่อตื่นนอน“ท่านเขยออกไปพบองค์รัชทายาทเพคะ ได้ยินว่าพระองค์ป่วยหนักหลังจากถูกฝ่าบาททิ้งงานไว้ให้หลายวัน” หลิวซิ่นกล่าวยิ้มๆ อย่างขบขัน เมื่อองค์รัชทายาทถูกบิดาและบรรด

  • เด็กสาวสกุลเซี่ย เซี่ยซูเหยา   บทที่ 77 งานมงคล

    วันที่สิบเจ็ด เดือนสอง รัชศกหมิงปีที่ยี่สิบเอ็ด แคว้นหนานมีงานมงคลครั้งใหญ่โดยมีฮ่องเต้หมิงหลงอันเป็นญาติผู้ใหญ่ของฝ่ายหญิง หรือก็คือองค์หญิงเจิ้นกั๋วหมิงเมี่ยวซือจ่างกงจู่ ที่สมรสกับรองแม่ทัพเจิ้งรั่วซาน คุณชายรองเจิ้งแห่งสกุลเจิ้งแม้จะมีเสียงกล่าวว่าไม่เหมาะสมบ้าง แต่ใครจะสนกันล่ะ องค์หญิงเจิ้นกั๋วหมิงเมี่ยวลี่จ่างกงจู่ผู้เป็นพี่สาวไม่ปราถนาที่จะแต่งงานเร็วๆ นี้ ทั้งได้ยินว่านางจะออกบวชชีที่อารามนอกเมือง หากรอพี่สาวแต่งงาน องค์หญิงเจิ้นกั๋วหมิงเมี่ยวซือจ่างกงจู่ผู้เป็นน้องสาวก็คงไม่ได้แต่งงานแล้วชีวิตนี้ฮ่องเต้หมิงหลงอันมีราชโองการให้องค์หญิงเจิ้นกั๋วหมิงเมี่ยวซือจ่างกงจู่แต่งให้รองแม่ทัพเจิ้งรั่วซาน โดยที่ไม่ต้องลดบรรดาศักดิ์เชื้อพระวงศ์หญิงอันดับหนึ่ง ยังเป็นองค์หญิงเจิ้นกั๋วเช่นเดิม ไม่ต้องกล่าวก็รู้ว่าเป็นคนโปรดเพียงใด ขนาดองค์หญิงรอง องค์หญิงสี่ที่แต่งไปกับเชื้อพระวงศ์แคว้นอื่นยังต้องลดบรรดาศักดิ์ลงเลยเสียงสนทนาเบาๆ ดังขึ้นที่หน้าห้องแต่งตัวของผู้เป็นเจ้าสาว ทำให้เซี่ยซูเหยาที่แต่งตัวอยู่อดที่จะมองดูไม่ได้ เมื่อได้ยินว่าคนสนิทของนางเดินทางมาถึงแล้ว“องค์หญิง”“ฟางไฉ่!”ฟางไฉ

  • เด็กสาวสกุลเซี่ย เซี่ยซูเหยา   บทที่ 76 สมรสพระราชทาน

    เสียงหัวเราะท่ามกลางบรรยากาศเงียบสงบสร้างความสุขให้แก่นางกำนัลและองครักษ์ในตำหนักบูรพาเป็นอย่างยิ่ง ทั้งอากาศยังเย็นสบาย“ได้ยินมาว่าพี่หญิงถูกชินอ๋องแคว้นหลิงตามเกี้ยวหรือขอรับ” ซื่อจื่อหมิงซูเหยียนที่นั่งตรงข้ามกล่าวถามองค์หญิงเจิ้นกั๋วหมิงเมี่ยวลี่จ่างกงจู่ชะงักมือที่ยกถ้วยน้ำชาขึ้นจิบ ริมฝีปากบางยกยิ้มเล็กน้อย หวนนึกถึงคนผู้หนึ่งที่ตามเกี้ยวมาตลอดห้าปีอย่างขบขัน“อืม”“พี่หญิงยังไม่ใจอ่อนให้เขาอีกหรือเจ้าคะ” เซี่ยซูเหยาผู้นั่งข้างๆ พี่สาวเอ่ยถามบ้าง“ใจอ่อนอันใด นางมาปรึกษาข้าว่าอยากบวชชีอยู่เลย”แค่กๆหลายคนถึงกับน้ำพุ่งออกจากปากเมื่อได้ยินคุณหนูเจ็ดเย่กล่าว ทั้งยังหันมององค์หญิงเจิ้นกั๋วหมิงเมี่ยวลี่จ่างกงจู่ที่นั่งจิบน้ำชาอย่างไม่รู้ร้อนรู้หนาวเป็นตาเดียว“ฮ่าๆ เหตุใดสีหน้าพวกเจ้าจึงเป็นเช่นนั้น” นางเพียงอยากบวชชีก็เท่านั้นเองเซี่ยซูเหยามองพี่สาวอย่างอึ้งๆ หลายปีที่ผ่านมาชินอ๋องผู้นั้นยังพิชิตใจพี่หญิงของนางไม่ได้อีกหรือ นางคิดว่าเขาจะตามเกี้ยวพี่สาวจนยอมตกลงแล้วเสียอีก“แล้วชินอ๋องแคว้นหลิงเล่า”“ชินอ๋องผู้นนั้นหรือ พี่ไล่เขากลับแคว้นหลิงแล้ว เชื้อพระวงศ์สองแคว้นควรเกี่ยวดอง

  • เด็กสาวสกุลเซี่ย เซี่ยซูเหยา   บทที่ 75 พี่น้องพบหน้า

    ต้นไม้สั่นไหวไปตามสายลมที่พัดมาเอื่อย ๆ บนเนินเขาเต็มไปด้วยทุ่งดอกไม้อยู่ไม่ห่างจากเมืองหลวงมาก ทั้งยังเงียบสงบเหมาะแก่การพักผ่อน ทั่วทั้งเนินเขาไม่มีผู้ใดอาศัยอยู่ เพราะเป็นพื้นที่ขององค์หญิงเจิ้นกั๋วหมิงเมี่ยวซือจ่างกงจู่ที่ได้รับพระราชทานมาในยามที่ได้รับตำแหน่งองค์หญิงเจิ้นกั๋วม้าสองตัวถูกบังคับตามกันขึ้นไปยังเนินเขาที่มีเหล่าองครักษ์รออยู่ตีนเขา เสียงหัวเราะของสองพี่น้องช่างทำให้ฟางไฉ่และผู้ที่ติดตามมาตั้งแต่เมืองเฟิงยิ้มกว้าง หลายปีที่ผ่านมาองค์หญิงของพวกเขาร่าเริงเมื่ออยู่ต่อหน้าผู้คนก็จริงทว่าโดดเดี่ยวนักเมื่ออยู่เพียงลำพังเด็กหนุ่มเด็กสาวที่เคยเรียกว่าคุณชาย คุณหนู ยามนี้กลายเป็นองค์หญิงและซื่อจื่อกันหมดแล้ว ยิ่งแต่ละคนเติบโตการมีบรรดาศักดิ์ยิ่งแตกต่างกันมากขึ้นองค์หญิงเจิ้นกั๋วหมิงเมี่ยวลี่จ่างกงจู่ผู้เป็นพี่สาวคนโต ยามนี้มีชื่อเสียงเป็นที่เลื่องลือนั่นก็คือการเป็นศิษย์ของหมอเทวดาหญิง ทั้งยังมีชื่อเรียกว่าองค์หญิงเทพธิดาจากการช่วยเหลือชาวบ้านที่ยากจน กลับมาหาน้องสาวเพียงปีละครั้งเท่านั้นซื่อจื่อหมิงซูเหยียนพี่ชายคนรองที่อีกไม่กี่ปีข้างหน้าจะได้รับบรรดาศักดิ์อ๋องและยามนี้เ

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status