แชร์

บทที่ 3 เซี่ยซูเหยาหายป่วย

last update ปรับปรุงล่าสุด: 2025-02-14 02:59:10

เซี่ยซูเหยาท้าวคางมองหน้าบ้านด้วยความเบื่อหน่าย เข้าวันที่เจ็ดแล้วที่นางได้มาอยู่ที่นี่ แต่เพราะมีร่างกายที่อ่อนแอจึงถูกสั่งห้ามไม่ให้ออกไปไหน แม้แต่แสงแดดก็ห้ามโดนจนกว่าอาการจะดีขึ้น

แต่ยามนี้อาการนางดีขึ้นมากแล้วเพราะได้กินน้ำแกงไก่บำรุงร่างกายเกือบทุกวัน ไหนจะการที่นางลอบออกกำลังกายในห้องนอนอีก อาการต่าง ๆ จึงไม่ค่อยมีแล้ว คงจะมีแต่ความเบื่อนี่แหละ

“พี่สาว อาเหยาเบื่ิอ” เซี่ยซูเหยาหันไปบอกเซี่ยซูเจี๋ยที่ล้างผักอยู่ ผักพวกนี้จะถูกนำไปดองเก็บไว้กิน

“อาเหยาเบื่อหรือ แต่ท่านพ่อไม่ให้อาเหยาออกไปไหน” เซี่ยซูเจี๋ยเงยหน้าขึ้นมอง

แม้ตัวน้องสาวจะบอกว่าหายดีแล้วแต่เซี่ยซูเจี๋ยกับผู้เป็นพ่อและน้องชายก็ไม่เชื่อ อาเหยาชอบบอกว่าหายดีแล้วเพราะไม่อยากให้เป็นห่วง

“เฮ้อ”

เซี่ยซูเหยาถอนหายใจครั้งที่เท่าไรของวันแล้วก็ไม่รู้ นางเบื่อจริง ๆ นะ แม้แต่งานในครัวพี่สาวก็ไม่ยอมให้นางแตะ ให้เหตุผลว่ารอให้อากาศดีกว่านี้เสียก่อน

“งั้นมาช่วยพี่สาวล้างผักดีไหม พรุงนี้พี่สาวจะทำเกี่ยมฉ่าย กับซึงไฉ่ เก็บไว้กินเดือนหน้า” เซี่ยซูเจี๋ยบอกน้องสาว

นางสามารถออกไปไหนมาไหนได้ แต่อาเหยาไม่สามารถออกไปได้เพราะทุกคนเป็นห่วง เซี่ยซูเจี๋ยก็สงสารน้องสาว แต่นางไม่กล้าขัดคำสั่งผู้เป็นพ่อ

“อือ อาเหยาจะช่วยพี่สาวเอง”

บางทีเซี่ยซูเหยาก็อดสงสารพี่สาวเหมือนกัน ทำงานทุกอย่างในบ้าน แต่นางกลับทำตัวสบายมองพี่สาวทำงานตัวเป็นเกลียว

เซี่ยซูเหยามองผักในตะกร้าพลางหยิบออกมาล้าง จริง ๆ นางเห็นพี่สาวถอนผักออกมาหลายชนิด แต่ยามนี้เหลือไม่มากแล้ว

“ท่านพ่อจะกลับยามไหนเจ้าคะ”

“อีกไม่นานคงกลับ” ช่วงนี้ผู้เป็นพ่อกลับบ้านช้ากว่าเดิม เซี่ยซูเจี๋ยจึงไม่กล้าตอบน้องสาว

“เจ้าค่ะ”

เซี่ยซูเหยาล้างผักช่วยพี่สาวไม่นานก็เสร็จ ก็มันเหลือไม่มากแล้วนี่ จากนั้นก็นั่งรอเซี่ยซูเจี๋ยเอาผักที่ล้างไปตากแดดให้ผักเฉาก่อนจะนำไปดอง

เซี่ยห้าวไห่เป็นนายพรานมาตั้งแต่ยังเด็กจนกระทั่งได้แต่งงานเขาก็ยังทำอยู่ แม้จะไม่ค่อยได้อะไรแต่ก็พอขายได้เงินมาซื้อสมุนไพรให้ลูกสาว ส่วนเงินที่ใช้จ่ายในบ้านจะเป็นเงินที่ออกไปรับจ้างชาวบ้าน ไม่ก็หาฟืนไปขายกับลูกชาย ยังดีที่เซี่ยห้าวไห่ไม่คิดที่จะมีภรรยาใหม่ ไม่เช่นเซี่ยซูเหยาคงไม่รอด

แต่สำหรับเซี่ยซูเหยาแล้วนางคิดว่าเงินใช้จ่ายมันไม่พอ ตั้งแต่ที่นางได้มาอยู่ที่นี่ก็มีเพียงนางเท่านั้นที่กินอิ่มคนเดียว จะเหลือไว้ให้คนอื่นก็ไม่ได้เพราะพี่สาวน้ำตาคลอเพราะคิดว่าน้องสาวไม่ชอบฝีมือการทำอาหาร

เซี่ยซูเหยานั่งตีขาไปมาอยู่บนแคร่ไม้ไผ่ที่เพิ่งทำขึ้นมา พ่อของนางกลัวว่าแคร่ตัวเก่าจะมีฝุ่นจับเลยทำขึ้นมาใหม่ แม้นางจะห้ามแล้วก็ตาม

นางกำลังคิดว่าต่อจากนี้นางควรจะทำอะไรต่อ อย่าลืมว่าชีวิตก่อนนางเป็นใคร นางเป็นลูกสาวคนจีนที่ต้องทำงานในบ้านทุกอย่าง พอมาอยู่ที่นี่จะให้เพียงพี่สาวทำก็ไม่ใช่

นอกจากงานบ้าน กวาด ปัด ถูก ซักผ้า ทำอาหาร รดน้ำผักหรือแม้กระทั่งออกไปทำงานนอกบ้าน เพื่อแลกเงินไม่กี่อีแปะ เซี่ยซูเจี๋ยก็ยอมออกไปทำงาน ต่างจากนางที่วัน ๆ ไม่ต้องทำอะไร

จากที่เคยดูละครช่องหลากสี อ่านนวนิยายจนชิน เซี่ยซูเหยาก็นึกไม่ออกว่านางควรจะทำอะไร ถ้าเป็นหมอ คนไข้น่าจะตายเสียก่อน เป็นพระชายาก็อย่างหวังเลย นางเป็นลูกสาวชาวบ้าน ไหนจะอายุเพียงสิบหนาว คิดแล้วก็ปวดหัว

“อาเหยา ทำไมไม่เข้าไปในบ้าน ลมเริ่มแรงแล้ว”

ไม่รู้ว่าเซี่ยซูเหยาเหม่อนานแค่ไหน รู้สึกตัวก็ยามที่ผู้เป็นพ่อร้องเรียกนั่นแหละ เซี่ยซูเหยาละสายตาจากพื้นมองตรงไปยังเสียง นางเห็นเซี่ยห้าวไห่กับเซี่ยซูเหยียนถือไก่ป่ากลับมา

ไก่ป่าอีกแล้ว ใจคอจะให้นางกินแต่ไก่ป่าหรืออย่างไรกัน เซี่ยซูเหยาถอนหายใจก่อนจะเอ่ยถาม

“ท่านพ่อได้ไก่ป่ากลับมาอีกแล้วหรือเจ้าคะ”

“ใช่แล้วอาเหยา ช่วงนี้ไก่ป่าติดกับดักสัตว์ของพ่อหลายตัว นำไปขายแล้วเหลือกลับมาเพียงหนึ่งตัว” เซี่ยห้าวไห่ตอบลูกสาว

ช่วงนี้เขาโชคดีมาก หากไม่ได้ไก่ป่าก็จะได้สัตว์ชนิดอื่นอย่างกระต่าย หรือสัตว์ตัวเล็ก และก็นำไปขายหมดแล้ว เงินที่ไม่มีเหลือยามนี้ก็สามารถซื้อข้าวสารได้ แต่เซี่ยห้าวไห่ยังไม่วางใจ ลูกสาวของเขาอาการดีขึ้นก็จริงแต่ก็ป่วยแบบนี้มาตั้งแต่เกิด

“อาเหยาเบื่อ”

หนทางที่จะออกจากรั้วบ้านได้ก็คงต้องให้ผู้เป็นพ่อพาออกไป เซี่ยซูเหยาไม่คิดที่จะลักลอบออกไป นางไม่รู้ทางที่นี่ ถ้าไปแล้วกลับมาไม่ได้จะทำยังไง

“หื้อ” เซี่ยห้าวไห่ไม่เข้าใจ ปกติลูกสาวคนเล็กจะเก็บตัวเงียบในห้อง คงมีเพียงหายป่วยรอบนี้ที่นางชอบออกมานั่งตากลมจนเป็นห่วง

“อาเหยาอยากไปกับท่านพ่อ”

ยามนี้ไม่มีชาวบ้านจ้างงานอะไร เซี่ยห้าวไห่ก็เข้าป่าล่าสัตว์ตามปกติไม่มีวันไหนที่หยุด เซี่ยซูเหยาจึงอยากขอไปด้วย อย่างน้อยถ้าไปถึงคงจะคิดอะไรออกบ้าง

เซี่ยห้าวไห่มองลูกสาวด้วยความแปลกใจ ครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่ลูกสาวขอติดตามไปด้วย เพียงแต่คนเป็นพ่อเช่นเขานั้นห่วงลูกสาว

“ในป่ามีสัตว์เล็กเยอะมากอาเหยา พ่อกลัวว่าอาเหยาจะโดนกัด” เซี่ยห้าวไห่ตอบ

“ท่านพ่อ” เซี่ยซูเหยารีบวิ่งมาเกาะแขนเซี่ยห้าวไห่ที่นั่งพักอยู่อย่างออดอ้อน นางไม่เชื่อว่าถ้านางอ้อนท่านพ่อจะไม่พานางไป

“เฮ้อ อาเหยา ช่วงนี้อาการเจ้าแปลก ๆ”

คนเป็นพ่อที่เฝ้าฟูมฟักเลี้ยงลูกมามีหรือจะไม่สังเกต แค่ลูกสาวไม่เก็บตัวเงียบก็ว่าแปลกแล้ว ยังจะขอติดตามเข้าป่าอีก มันไม่ใช่อาเหยาเลย

“ก็อาเหยาเบื่อ”

“ได้ ๆ เดี๋ยวพ่อจะพาเจ้าไป แต่ไม่ใช่ยามนี้” เซี่ยห้าวไห่พยักหน้า

ยามนี้อากาศมันร้อนมาก ยิ่งเข้าไปในป่าต่อให้อยู่ใกล้น้ำมันก่อนร้อนอยู่ดี รอให้อากาศมันเย็นหรืออากาศดีกว่านี้ก่อนถึงจะพาไปได้ ช่วงนั้นพวกสัตว์เล็กคงไม่ค่อยออกมาแล้ว

“ไม่ได้นะเจ้าคะท่านพ่อ! ถ้ามีแมลงมากัดอาเหยาล่ะ” เซี่ยซูเจี๋ยที่ออกมาตักน้ำได้ยินบทสนทนาผู้เป็นพ่อกับน้องสาวพอดีจึงรีบเอ่ยปากห้าม

นางรู้ว่าอาเหยาเบื่อ แต่ก็สามารถพาไปเล่นข้างนอกบ้านได้ ทำไมอาเหยาถึงอยากเข้าป่า

“พี่สาว”

เซี่ยซูเหยาหน้าเสีย ท่านพ่ออนุญาตแล้วแต่ยังเหลือพี่สาวที่เหมือนแม่อีกคน นางลืมไปได้อย่างไรว่าพี่สาวเป็นห่วงนางมาก

“น้องอาการแข็งแรงขึ้นมากแล้วอาเจี๋ย พ่อว่าถ้าน้องอยากไปก็ให้ไปเถอะ”

สำหรับเซี่ยห้าวไห่แล้วเขาคิดว่าพาลูกสาวไปด้วยครั้งนี้ ครั้งหน้านางคงจะไม่เข้าไปอีก หรือไม่ถ้าเกิดล้มป่วยอีกก็จะได้มีข้ออ้างไม่พาไปได้

“เฮ้อ” เซี่ยซูเจี๋ยส่ายหน้าแล้วรีบไปตักน้ำ ต่อให้นางห้ามยังไงก็ไม่มีใครฟัง เห็นทีถ้าอาเหยาจะเข้าไปจริง ๆ นางคงต้องไปด้วย ไม่เช่นนั้นผู้เป็นพ่อกับน้องชายคงไม่มีใครห้ามอาเหยาได้

เซี่ยซูเหยาขอตัวเข้าไปพักในห้องนางให้เหตุผลว่ารู้สึกเหนื่อย แต่จริง ๆ แล้วนางจะกลับไปคิดต่างหากว่าเข้าป่าไปนางต้องทำอะไร

ชั่วชีวิตที่ผ่านมานางทำอาหารตั้งแต่จบประถมเพราะอาป๊ากับหม่าม้าสอน ที่บ้านมีกิจการร้านอาหารเป็นไปไม่ได้ที่นางจะทำไม่เป็น อีกอย่างที่คิดไว้หลังเรียนจบจะเข้าไปช่วยอาป๊า แต่เฮ้อ นางไม่สามารถกลับไปช่วยได้อีกแล้ว

หรือนางจะเปิดร้านอาหาร? จริงสิ ในความทรงจำของอาเหยาเหมือนที่นี่จะแห้งแล้งและยากจนมาก หากให้เทียบกับเมืองอื่น แต่ในเมืองก็พอจะค้าขายได้บ้าง เหมือนอย่างที่พ่อของนางเอาไก่หรือสัตว์เข้าไปขาย ยังดีที่ผักสามารถปลูกได้ และป่ายังมีสัตว์ให้ล่า

อีกทั้งเหมือนกับว่านางจะสานต่อความต้องการของนางในชาติก่อนก็ได้ ต่อให้ไม่เหมือนกันแต่นางเชื่อว่าครอบครัวเซี่ยจะสนับสนุน ต่อให้นางไม่ลงแรงเองแต่พี่สาวอย่างเซี่ยซูเจี๋ยนั้นฝีมือดีมาก

วัยเพียงสิบสี่หนาวแต่ทำอาหารออกมาได้รสชาติที่ดี ในขณะเครื่องปรุงไม่มีให้ใช้เยอะ แต่ก็สามารถทำอาหารออกมาได้ถูกใจคนป่วยอย่างเซี่ยซูเหยา

แต่ก่อนจะเปิดร้านเห็นทีนางต้องไปหาทุนเสียก่อน ในความทรงจำญาติสกุลเซี่ยก็ไม่สามารถช่วยได้ ซ้ำยังผลักไสครอบครัวของนางเสียอีก

เหมือนว่ายามนี้จะมีเงินเก็บอยู่หลายตำลึงเงิน แต่มันก็ได้มาจากน้ำพักน้ำแรงของเซี่ยห้าวไห่กับเซี่ยซูเหยียน เซี่ยซูเหยาอยากเริ่มทำอะไรด้วยตัวเองเสียก่อน

เห็นว่าในตำบลมีตลาดทุกวัน เซี่ยซูเหยาก็จะเริ่มจากตรงนี้เสียก่อน ยังเหลือเวลาอีกหลายปีกว่านางจะโตเต็มวัย พอถึงเวลานางก็จะทำอะไรสะดวกมากขึ้น

“อาเหยา ออกมากินมื้อเย็นได้แล้ว”

เสียงของเซี่ยซูเหยียนดังขึ้นนอกห้อง ทำให้เซี่ยซูเหยาหลุดออกจากภวังค์ นางคงจะคิดเพลินมากเกินไปจนพี่สาวทำอาหารเสร็จแล้ว

“เจ้าค่ะ”

เซี่ยซูเหยาอ้าปากหาว มาอยู่ที่นี่นางใช้ชีวิตส่วนมากไปกับการนอน จึงไม่แปลกที่จะตื่นเช้าและอยากนอนเร็ว

เซี่ยซูเหยาส่ายหน้าเมื่อเห็นกับข้าววันนี้ ตุ๋นไก่ที่เต็มไปด้วยเนื้อเป็นของนางโดยเฉพาะ ส่วนของคนอื่นจะมีเพียงกระดูกกับน้ำแกง และมีผัดเนื้อไก่ที่นางก็ได้ไม่ต่างกัน

“ท่านพ่อเจ้าคะ อาเหยาตักข้าวให้”

เซี่ยซูเหยาอาศัยเวลาเซี่ยซูเจี๋ยยกของมาวางบนโต๊ะไปตักข้าวให้ทุกคน ทุกวันนี้พี่สาวหุงข้าวเพิ่มเยอะขึ้น

 แต่ส่วนมากก็ให้แค่นาง คนอื่นได้เพียงนิด นางรู้ว่าผู้เป็นพ่อไม่อิ่ม แต่ก็ไม่ยอมกินเพิ่มเพราะกลัวลูกไม่อิ่ม ก็แน่สิ มีทั้งลูกสาวคนโต ลูกชายคนกลาง ไหนจะลูกสาวคนเล็กอีก เขาจะกินอิ่มได้อย่างไรหากลูกไม่อิ่ม

“เก่งมาก”

เซี่ยซูเหยายิ้มกว้างเมื่อได้รับคำชม นานมากแล้วเหมือนกันที่นางไม่ได้รับคำชมแบบนี้ พอได้รับมันก็อุ่นใจขึ้นมาก

“อาเหยาของพี่พอแล้ว” เซี่ยซูเจี๋ยรีบห้ามเมื่อเห็นว่าน้องสาวตักให้นางเยอะเกินไป

“เจ้าค่ะ”

เซี่ยซูเหยายอมหยุดตักเพราะแค่นี้พี่สาวก็คงจะกินไม่หมดแล้ว จากนั้นก็ปีนขึ้นไปนั่งเก้าอี้ที่ติดกับของพ่อ ปกติเซี่ยซูเหยาจะกินข้าวในห้อง แต่พอมีนางมา นางก็ออกมากินข้าวนอกห้อง

อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทล่าสุด

  • เด็กสาวสกุลเซี่ย เซี่ยซูเหยา   บทที่ 80 ตราบชั่วนิรันดร์

    เช้าวันนี้ในเมืองหลวงแคว้นหนานมีการถกเถียงเรื่องเมื่อหลายปีก่อนของคนสกุลเจิ้ง ว่ากันว่าวันนั้นภรรยาทั้งสามคนของอดีตเสนาบดีเจิ้งที่ล่วงลับไปแล้วคลอดบุตรพร้อมกันหนึ่งฮูหยินใหญ่ภรรยาเอกของเสนาบดีเจิ้งคลอดบุตรชายออกมาเป็นคนที่สอง บุตรชายของนางจึงกลายเป็นคุณชายรองไปโดยปริยาย หากไม่เกิดเรื่องถูกไล่ออกจากสกุลครานั้นคงได้ขึ้นเป็นเสนาบดีเจิ้งคนปัจจุบัน แทนพี่ชายที่เป็นบุตรอนุสองฮูหยินรองที่คลอดบุตรสาวคนเล็กพร้อมเสียชีวิตลงระหว่างคลอดบุตรสาวออกมา จากการสอบถามหมอที่ทำคลอด หมอผู้นั้นกล่าวว่าฮูหยินรองเสียเลือดมาก อีกทั้งเด็กขาดอากาศหายใจจึงไม่สามารถช่วยชีวิตไว้ได้สามคืออนุสามที่คลอดบุตรชายคนโตของสกุลเจิ้งก่อนฮูหยินทั้งสอง กล่าวได้ง่ายๆ ก็คือคุณชายใหญ่เจิ้ง หรือประมุขสกุลเจิ้งคนปัจจุบันนั่นเองทว่าเรื่องที่ถกเถียงในวันนี้ก็คือบุตรชายของฮูหยินผู้เฒ่าเจิ้งนั้นเป็นบุตรชายแท้ๆ ของฮูหยินรอง! ส่วนบุตรแท้ๆ ของนางนั้นเป็นบุตรสาวที่คลอดออกมาแล้วเสียชีวิต หมอทำคลอดกล่าวว่าฮูหยินผู้เฒ่าเจิ้งในยามนั้นเสียเลือดมากและไม่มีโอกาสที่จะมีบุตรได้อีก จึงทำการสลับเปลี่ยนตัวเด็กทั้งยังสังหารฮูหยินรองทิ้ง ซึ่งเรื่องนี

  • เด็กสาวสกุลเซี่ย เซี่ยซูเหยา   บทที่ 79 ง้อ

    ซื่อจื่อหมิงซูเหยียนที่กำลังช่วยสหายสะสางฎีกาต้องรีบกลับตำหนักบูรพาทันทีเมื่อได้ยินว่าน้องสาวมีใบหน้าเศร้าหมองมาจากจวนสกุลเจิ้ง พอๆ กับผู้เป็นสามีอย่างรองแม่ทัพเจิ้งที่ตามพี่ภรรยาไปด้วยตำหนักบูรพาเดิมทีเป็นตำหนักขององค์รัชทายาทที่จะได้รับตำแหน่งฮ่องเต้องค์ถัดไป ทว่าฮ่องเต้หมิงหลงอันกลับไม่ยอมให้องค์รัชทายาทเข้าไปอยู่และสร้างตำหนักใหม่ให้แทน ในระหว่างนี้องค์รัชทายาทก็ต้องอยู่ในตำหนักเดิมของพระองค์ไปก่อนส่วนตำหนักบูรพาถูกยกให้เป็นจวนสกุลเซี่ยที่มีรองแม่ทัพเซี่ยเป็นประมุขสกุล ซึ่งองค์รัชทายาทไม่มีปัญหาในเรื่องนี้เพราะหากเขายอมรับตำหนักใหม่ยังสามารถเลือกได้ว่าต้องการตำหนักแบบใด และเรื่องนี้เหล่าขุนนางก็ไม่มีผู้ใดคัดค้าน อาจเป็นเพราะแต่ละคนล้วนเป็นขุนนางที่ขึ้นตรงต่อฮ่องเต้หมิงหลงอันเพียงผู้เดียวก็ได้ยิ่งยามนี้จวนสกุลเซี่ยเพิ่งถูกองค์หญิงเจิ้นกั๋วหมิงเมี่ยวซือจ่างกงจู่สั่งทุบไป และจะสร้างเป็นสวนดอกไม้เพื่อรำลึกถึงคนที่เสียชีวิตแทน ทำให้สามพี่น้องไม่ได้ย้ายไปพักที่นี่ อีกอย่างความทรงจำต่างๆ คงไม่ดีสำหรับผู้รอดชีวิตในวันนั้นรองแม่ทัพเจิ้งกระโดดลงจากรถม้าด้วยความเร่งรีบ เมื่อสอบถามนางกำนั

  • เด็กสาวสกุลเซี่ย เซี่ยซูเหยา   บทที่ 78 ย่าสามีหรือ ข้าไม่ต้องการ

    เสียงการเคลื่อนไหวที่ข้างนอกห้องนอนทำให้เซี่ยซูเหยารู้สึกตัวตื่นขึ้นบนที่นอน ตั้งแต่แต่งงานมาตลอดหนึ่งสัปดาห์ วันนี้นางตื่นสายมากๆ ได้ยินว่าวันนี้ฮูหยินผู้เฒ่าเจิ้งกลับมาจากเยี่ยมบุตรชายที่นอกเมืองหลวง นางผู้เป็นหลานสะใภ้จึงต้องไปยกน้ำชาเพื่อแสดงความเคารพสักหน่อย“องค์หญิง”“ยามใดแล้ว” เสียงแหบพร่าเอ่ยถามคนสนิทที่เข้ามาช่วยพยุงตัวให้ลุกขึ้น ทั้งยังยกอ่างล้างหน้ามาให้ผู้เป็นฮูหยินน้อยสกุลเจิ้งหมาดๆ นางพยักหน้า“ยามซื่อแล้วเพคะ ท่านเขยกล่าวว่าไม่ต้องปลุกท่าน บ่าวจึงรอให้ท่านตื่นเอง”“ยามซื่อ!”สามวันมานี้เหลาอาหารอิ้งเยว่เกิดเรื่องขึ้น นางจึงต้องจัดการปัญหาต่างๆ จะให้สามีจัดการให้ก็ไม่ได้ เขาไม่รู้เรื่องในเหลาอาหารทั้งยังมีเพียงนางที่แก้ปัญหาได้ จึงต้องนอนดึกและตื่นเช้ามาตลอดสามวัน เพียงทว่าเมื่อคืนนางคงจะเหนื่อยจริงๆ จึงหลับลึกมากชนิดที่ว่าคนข้างกายลุกไปก็ยังไม่รู้สึกตัว“เพคะ”“เขาล่ะ” นางหมายถึงสามีของนางที่ไม่เห็นหน้าเมื่อตื่นนอน“ท่านเขยออกไปพบองค์รัชทายาทเพคะ ได้ยินว่าพระองค์ป่วยหนักหลังจากถูกฝ่าบาททิ้งงานไว้ให้หลายวัน” หลิวซิ่นกล่าวยิ้มๆ อย่างขบขัน เมื่อองค์รัชทายาทถูกบิดาและบรรด

  • เด็กสาวสกุลเซี่ย เซี่ยซูเหยา   บทที่ 77 งานมงคล

    วันที่สิบเจ็ด เดือนสอง รัชศกหมิงปีที่ยี่สิบเอ็ด แคว้นหนานมีงานมงคลครั้งใหญ่โดยมีฮ่องเต้หมิงหลงอันเป็นญาติผู้ใหญ่ของฝ่ายหญิง หรือก็คือองค์หญิงเจิ้นกั๋วหมิงเมี่ยวซือจ่างกงจู่ ที่สมรสกับรองแม่ทัพเจิ้งรั่วซาน คุณชายรองเจิ้งแห่งสกุลเจิ้งแม้จะมีเสียงกล่าวว่าไม่เหมาะสมบ้าง แต่ใครจะสนกันล่ะ องค์หญิงเจิ้นกั๋วหมิงเมี่ยวลี่จ่างกงจู่ผู้เป็นพี่สาวไม่ปราถนาที่จะแต่งงานเร็วๆ นี้ ทั้งได้ยินว่านางจะออกบวชชีที่อารามนอกเมือง หากรอพี่สาวแต่งงาน องค์หญิงเจิ้นกั๋วหมิงเมี่ยวซือจ่างกงจู่ผู้เป็นน้องสาวก็คงไม่ได้แต่งงานแล้วชีวิตนี้ฮ่องเต้หมิงหลงอันมีราชโองการให้องค์หญิงเจิ้นกั๋วหมิงเมี่ยวซือจ่างกงจู่แต่งให้รองแม่ทัพเจิ้งรั่วซาน โดยที่ไม่ต้องลดบรรดาศักดิ์เชื้อพระวงศ์หญิงอันดับหนึ่ง ยังเป็นองค์หญิงเจิ้นกั๋วเช่นเดิม ไม่ต้องกล่าวก็รู้ว่าเป็นคนโปรดเพียงใด ขนาดองค์หญิงรอง องค์หญิงสี่ที่แต่งไปกับเชื้อพระวงศ์แคว้นอื่นยังต้องลดบรรดาศักดิ์ลงเลยเสียงสนทนาเบาๆ ดังขึ้นที่หน้าห้องแต่งตัวของผู้เป็นเจ้าสาว ทำให้เซี่ยซูเหยาที่แต่งตัวอยู่อดที่จะมองดูไม่ได้ เมื่อได้ยินว่าคนสนิทของนางเดินทางมาถึงแล้ว“องค์หญิง”“ฟางไฉ่!”ฟางไฉ

  • เด็กสาวสกุลเซี่ย เซี่ยซูเหยา   บทที่ 76 สมรสพระราชทาน

    เสียงหัวเราะท่ามกลางบรรยากาศเงียบสงบสร้างความสุขให้แก่นางกำนัลและองครักษ์ในตำหนักบูรพาเป็นอย่างยิ่ง ทั้งอากาศยังเย็นสบาย“ได้ยินมาว่าพี่หญิงถูกชินอ๋องแคว้นหลิงตามเกี้ยวหรือขอรับ” ซื่อจื่อหมิงซูเหยียนที่นั่งตรงข้ามกล่าวถามองค์หญิงเจิ้นกั๋วหมิงเมี่ยวลี่จ่างกงจู่ชะงักมือที่ยกถ้วยน้ำชาขึ้นจิบ ริมฝีปากบางยกยิ้มเล็กน้อย หวนนึกถึงคนผู้หนึ่งที่ตามเกี้ยวมาตลอดห้าปีอย่างขบขัน“อืม”“พี่หญิงยังไม่ใจอ่อนให้เขาอีกหรือเจ้าคะ” เซี่ยซูเหยาผู้นั่งข้างๆ พี่สาวเอ่ยถามบ้าง“ใจอ่อนอันใด นางมาปรึกษาข้าว่าอยากบวชชีอยู่เลย”แค่กๆหลายคนถึงกับน้ำพุ่งออกจากปากเมื่อได้ยินคุณหนูเจ็ดเย่กล่าว ทั้งยังหันมององค์หญิงเจิ้นกั๋วหมิงเมี่ยวลี่จ่างกงจู่ที่นั่งจิบน้ำชาอย่างไม่รู้ร้อนรู้หนาวเป็นตาเดียว“ฮ่าๆ เหตุใดสีหน้าพวกเจ้าจึงเป็นเช่นนั้น” นางเพียงอยากบวชชีก็เท่านั้นเองเซี่ยซูเหยามองพี่สาวอย่างอึ้งๆ หลายปีที่ผ่านมาชินอ๋องผู้นั้นยังพิชิตใจพี่หญิงของนางไม่ได้อีกหรือ นางคิดว่าเขาจะตามเกี้ยวพี่สาวจนยอมตกลงแล้วเสียอีก“แล้วชินอ๋องแคว้นหลิงเล่า”“ชินอ๋องผู้นนั้นหรือ พี่ไล่เขากลับแคว้นหลิงแล้ว เชื้อพระวงศ์สองแคว้นควรเกี่ยวดอง

  • เด็กสาวสกุลเซี่ย เซี่ยซูเหยา   บทที่ 75 พี่น้องพบหน้า

    ต้นไม้สั่นไหวไปตามสายลมที่พัดมาเอื่อย ๆ บนเนินเขาเต็มไปด้วยทุ่งดอกไม้อยู่ไม่ห่างจากเมืองหลวงมาก ทั้งยังเงียบสงบเหมาะแก่การพักผ่อน ทั่วทั้งเนินเขาไม่มีผู้ใดอาศัยอยู่ เพราะเป็นพื้นที่ขององค์หญิงเจิ้นกั๋วหมิงเมี่ยวซือจ่างกงจู่ที่ได้รับพระราชทานมาในยามที่ได้รับตำแหน่งองค์หญิงเจิ้นกั๋วม้าสองตัวถูกบังคับตามกันขึ้นไปยังเนินเขาที่มีเหล่าองครักษ์รออยู่ตีนเขา เสียงหัวเราะของสองพี่น้องช่างทำให้ฟางไฉ่และผู้ที่ติดตามมาตั้งแต่เมืองเฟิงยิ้มกว้าง หลายปีที่ผ่านมาองค์หญิงของพวกเขาร่าเริงเมื่ออยู่ต่อหน้าผู้คนก็จริงทว่าโดดเดี่ยวนักเมื่ออยู่เพียงลำพังเด็กหนุ่มเด็กสาวที่เคยเรียกว่าคุณชาย คุณหนู ยามนี้กลายเป็นองค์หญิงและซื่อจื่อกันหมดแล้ว ยิ่งแต่ละคนเติบโตการมีบรรดาศักดิ์ยิ่งแตกต่างกันมากขึ้นองค์หญิงเจิ้นกั๋วหมิงเมี่ยวลี่จ่างกงจู่ผู้เป็นพี่สาวคนโต ยามนี้มีชื่อเสียงเป็นที่เลื่องลือนั่นก็คือการเป็นศิษย์ของหมอเทวดาหญิง ทั้งยังมีชื่อเรียกว่าองค์หญิงเทพธิดาจากการช่วยเหลือชาวบ้านที่ยากจน กลับมาหาน้องสาวเพียงปีละครั้งเท่านั้นซื่อจื่อหมิงซูเหยียนพี่ชายคนรองที่อีกไม่กี่ปีข้างหน้าจะได้รับบรรดาศักดิ์อ๋องและยามนี้เ

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status