แชร์

บทที่ 5 ไก่ย่างสมุนไพร

last update ปรับปรุงล่าสุด: 2025-02-14 03:00:12

ทุกคนดูชอบกุ้งนึ่งกับน้ำจิ้มที่เซี่ยซูเหยาทำมาก โดยเฉพาะเซี่ยห้าวไห่ที่เอ่ยชมลูกสาวไม่หยุด ซึ่งถือว่าเป็นการเริ่มต้นที่ดี เซี่ยซูเหยาจะทำอาหารให้คนในครอบครัวกินบ่อย ๆ ยามที่จะเปิดร้านอาหารจะได้ไม่มีใครกังวล และจะได้สนับสนุนนาง

วันนี้ทั้งเซี่ยห้าวไห่กับเซี่ยซูเหยียนออกไปรับจ้างนอกบ้านไม่ได้เข้าป่าล่าสัตว์ เซี่ยซูเจี๋ยก็นำตะกร้าผ้าไปซักที่ลำธาร ซึ่งที่บ้านก็เหลือเพียงเซี่ยซูเหยา

ผ่านมาสามวันแล้วพ่อของนางก็ยังไม่พานางเข้าป่าอีกครั้ง แต่นางเห็นว่ายุ่งเลยไม่ได้ไปอ้อนให้พาไป กุ้งกับปลาที่จับมายังไม่หมด เปลี่ยนน้ำทุกวันจึงยังไม่ตายและสดอยู่

เซี่ยซูเหยาอาศัยช่วงที่ไม่มีใครอยู่บ้านออกไปหาผักในแปลงผัก เซี่ยซูเจี๋ยจะย่างไก่ป่าที่ได้มาหลายวันก่อนแต่นางไปซักผ้าอยู่ เซี่ยซูเหยาเบื่อย่างแบบเกลือแล้ว

นางเห็นว่าแปลงผักมีผักหลายชนิดที่เป็นสมุนไพร สามารถนำมาปรุงอาหารได้ ไหน ๆ ในอนาคตนางต้องการจะเปิดร้านอาหารอยู่แล้ว เลยคิดค้นเมนูใหม่ของที่บ้าน แม้อาจเป็นเมนูที่หลายร้านมีก็ตาม เซี่ยซูเหยาคิดว่าต่อให้ชื่อเหมือนกันแต่วิธีปรุงหรือสูตรมันต่างกันก็เพียงพอแล้ว

เซี่ยซูเหยาเก็บเจียง หนันเจียง และหนิงเหมิงเฉ่า จากสวนหลังบ้าน แล้วนำไปล้างให้สะอาดรวมกับหนิงเหมิงเยี่ย โจ้วผีหนิงเหมิง และเจียงหวง ที่เห็นอยู่ในบ้าน ส่วนล่าเจียวนางไม่ได้ใส่เพราะกลัวว่าไก่จะเผ็ดเกินไป

หรือเรียกง่าย ๆ ก็พวกสมุนไพรที่มีในบ้าน เซี่ยซูเหยาใส่รวมกันทั้งหมด ดีที่เซี่ยซูเหยียนทำไก่ไว้แล้ว ไม่นั้นนางแย่แน่

เซี่ยซูเหยานำสมุนไพรที่ล้างไปวางให้สะเด็ดน้ำแล้วไปจุดเตารอ ไม่ถึงหนึ่งเค่อ สนิท จากนั้นก็นำไปโขลกรวมกันพร้อมทั้งใส่ซ้วนโถวและเกลือลงไปโขลกด้วย

โขลกจนละเอียดก็นำไปเทลงชามไก่ที่ถูกสับ เซี่ยซูเหยานับถือเซี่ยซูเจี๋ยจริง ๆ ที่ทำอาหารได้อย่างไม่เหนื่อย แต่ก็นั่นแหละคนทำมาตลอด

หมักไก่ทิ้งไว้หนึ่งเค่อเซี่ยซูเหยาก็นำไก่ไปเสียบไม้ นางไม่แน่ใจว่าทำถูกไหมแต่เห็นเซี่ยซูเจี๋ยทำแบบนี้ พร้อมทั้งใช้อะไรมัดปลายไม้ไว้ไม่ให้ไก่หล่น

ที่เซี่ยซูเหยาทำก่อนเซี่ยซูเจี๋ยกลับจะได้ไม่มีข้ออ้างให้เก็บไก่ไว้ตุ๋นให้นาง นางเบื่อไก่ตุ๋นจริง ๆ นะ แต่จะให้บอกเซี่ยซูเจี๋ยก็ไม่กล้า

“อาเหยา! นั่นเจ้ากำลังทำอะไร”

เซี่ยซูเหยาที่พลิกไก่ไปมาถึงกับสะดุ้ง พี่สาวของนางเสียงดังมาก อีกทั้งมายามที่นางเผลอ ไม่แปลกที่จะตกใจ

“ย่างไก่เจ้าค่ะ”

อาการป่วยไม่มีแล้วและเซี่ยซูเหยาคิดว่ามันจะไม่มีอีก ก็นางไม่ใช่เซี่ยซูเหยาตัวจริงนี่ นางคือวิญญาณที่มาอยู่ในร่างนี้ ถ้าป่วยก็แปลกแล้ว

“ทำไมไม่รอให้พี่สาวกลับมาทำ”

เซี่ยซูเจี๋ยถอนหายใจพลางวางตะกร้าผ้าที่ซักเพิ่งเสร็จลงพื้น วันนี้นางไปช่วยย่าเฟิงซักผ้าด้วยจึงกลับมาช้า จะว่าช่วยก็ไม่ถูก เรียกว่าไปรับจ้างดีกว่า ได้มาสองอีแปะก็ยังดี

แต่พอกลับมาถึงบ้านนางก็ได้กลิ่นอาหารที่หอมมาก และนอกจากนางในบ้านก็ไม่ได้ทำอาหารจึงรีบเข้ามาดูในครัว พบว่าเป็นน้องสาวจึงคลายกังวล

“พี่สาวไปซักผ้าไม่ใช่หรือเจ้าคะ อาเหยาอยากช่วย”

เซี่ยซูเหยาค้นพบวิธีที่ทำให้ทุกคนยอมนาง นั่นก็คือการที่นางแทนตัวเองว่าอาเหยา และแทนอีกฝ่ายด้วยสถานะ อย่างเซี่ยซูเจี๋ยนางจะเรียกว่าพี่สาว เรียกเซี่ยซูเหยียนว่าพี่ชาย และเรียกเซี่ยห้าวไห่ว่าท่านพ่อ

“เอาเถอะ พี่สาวขอไปตากผ้าก่อน เดียวกลับมาทำต่อเอง” เซี่ยซูเจี๋ยบอก

“เจ้าค่ะ”

เซี่ยซูเจี๋ยเดินออกไปแล้วนางถึงกลับถอนหายใจออกมา พี่สาวของนางก็เหมือนแม่เข้าไปทุกวัน แต่ก็นะ เลี้ยงนางมาตั้งแต่เล็ก ๆ เลย เพราะพ่อของพวกนางต้องทำงาน ไหนจะไปล่าสัตว์อีก

กว่าเซี่ยซูเจี๋ยจะกลับเข้ามาช่วยน้องสาวทำอาหารมื้อกลางวัน เวลาก็ล่วงเลยใกล้ถึงเวลากินข้าวแล้ว กลางยามอู่เซี่ยห้าวไห่กับเซี่ยซูเหยียนก็กลับมากินข้าวที่บ้าน และจะกลับไปทำงานอีกทีก็ยามเว่ย

แม้จะมีเวลาพักน้อยแต่ทั้งสองก็ไม่สามารถทำอะไรได้ ทั้งลูกสาว พี่สาว และน้องสาวยังรออยู่ที่บ้าน

“หือ กลิ่นอะไรหอมจัง”

เซี่ยซูเหยียนเอ่ยขึ้นเมื่อก้าวเข้ามาในห้องโถงของบ้าน วันนี้กลิ่นอาหารหอมมากและน่าจะเป็นไก่ที่สับไว้ก่อนจะไปทำงาน

“วันนี้มีไก่ย่างสมุนไพรจ้ะ น้องรองก็ไปล้างมือ เดี๋ยวพี่จะตักข้าวให้” เซี่ยซูเจี๋ยตอบน้องชาย

“ขอรับ”

ทั้งสี่คนลงมือกินข้าวมื้อกลางวันอย่างเอร็ดอร่อย เซี่ยซูเหยาได้รับคำชมจากทั้งสามคนว่ารสชาติไก่ย่างสมุนไพรอร่อยมากถึงกับยิ้มจนแก้มแดง ไม่มีใครว่าสักคนว่าไก่ย่างรสชาติไม่อร่อย

“อาเหยาทำอาหารอร่อยมาก” เซี่ยซูเหยียนเอ่ยชมน้องสาว

นี่เป็นครั้งที่สองที่เซี่ยซูเหยาทำอาหารเอง และรสชาติกุ้งนึ่งกับน้ำจิ้มรอบแรกก็ทำอร่อย ทุกคนแม้แปลกใจแต่ก็ไม่ได้ว่าอะไร น้องสาวคนเล็กของบ้านทำอาหารอร่อยพวกเขาก็ต้องชม

“จริงเหรอ”

“ใช่แล้วอาเหยา อาเหยาทำอร่อยกว่าพี่สาวเสียอีก” เซี่ยซูเจี๋ยยิ้มกว้าง นางกังวลมาตลอดว่าหากน้องสาวออกเรือนไปแล้ว จะถูกครอบครัวสามีตำหนิเรื่องทำอาหารไม่เป็น แต่ยามนี้อาเหยากลับทำอร่อยกว่านางเสียอีก

“ฮ่า ฮ่า”

ทุกคนพูดหยอกล้อกันเมื่อเห็นเซี่ยซูเหยาหน้าแดง ยิ่งเห็นนางเป็นแบบนี้ยิ่งหน้าแกล้ง แต่ก็แกล้งได้ไม่นานเซี่ยห้าวไห่กับเซี่ยซูเหยียนก็ขอตัวไปนอนพัก แม้หนึ่งเค่อก็ถือว่าพัก ส่วนเซี่ยซูเจี๋ยเก็บของไปล้าง และเซี่ยซูเหยานั่งเล่นที่แคร่ไม้ไผ่หน้าบ้านอย่างเกียจคร้าน ก็พี่สาวไม่ให้นางช่วยนี่

หมดเวลาพักเซี่ยห้าวไห่กับเซี่ยซูเหยียนก็กลับไปทำงาน ส่วนเซี่ยซูเหยารู้สึกง่วงนอนเลยขอพี่สาวเข้าไปนอนกลางวัน

‘มีอะไรหรือเจ้าคะ’

‘ทำไม ข้ามาไม่ได้หรือ’

‘ท่านพ่อไม่อยู่เจ้าค่ะ ถ้าจะมาหาท่านพ่อ ป้าสะใภ้ใหญ่รอมายามเย็นจะดีกว่า’

‘แต่ข้าจะมายามนี้’

เซี่ยซูเหยาที่นอนงีบไปได้สักพักก็ต้องตื่นเพราะได้ยินเสียงดังนอกบ้าน นางเพิ่งจะหลับไปแท้ ๆ กลับต้องตื่นเพราะเสียงข้างนอก

“พี่สาว”

เซี่ยซูเหยาชะโงกหน้าออกจากในบ้านมาดูข้างนอก นางเห็นเซี่ยซูเจี๋ยยืนอยู่กับผู้หญิงวัยกลางคนที่ไม่คุ้นหน้า หรืออันที่จริงอาจรู้จัก แต่นางจำไม่ได้ก็ไม่รู้

“อาเหยา”

“แหม่ ๆ เดี๋ยวนี้กินดีอยู่ดีเชียวนะ!” นางซือหลิงร้องขึ้นมาอย่างโมโห

ป่วยใกล้ตายอยู่แล้วแต่น้องชายของสามีนางก็ยังโง่อยู่ เอาเงินที่หามาได้ไปจ่ายค่าสมุนไพรให้เด็กผู้หญิง นางรึมายืมเงินให้ลูกชายเรียนหนังสือกลับปฏิเสธ บอกไม่มีเงิน

“พี่สาว”

 เซี่ยซูเหยาหลุบตามองพื้นอย่างใช้ความคิด ผู้หญิงตรงหน้านางคือสะใภ้ใหญ่ของสกุลจางสายรอง พ่อสามีของนางคือน้องชายของท่านปู่เซี่ยซูเหยา พวกสกุลสายรองไม่ชอบหน้าครอบครัวของเธอ

เพราะจริง ๆ แล้วก่อนที่จะตั้งผู้นำสกุลเซี่ยสายหลักปัจจุบัน ครอบครัวของนางซือหลิงก็มีสิทธิ์ที่จะได้ตำแหน่งนี้ เพียงแต่พวกผู้อาวุโสในสกุลต่างไม่ยอมรับสามีของนาง เซี่ยห้าวไห่ที่สืบเชื้อสายมาจากบรรพบุรุษหลักจริง ๆ จึงเป็นตัวเลือกที่ไม่เลว

“ท่านป้ากลับไปก่อนเถิดเจ้าค่ะ ท่านพ่อกลับมาข้าจะบอกให้ไปหาที่บ้าน” เซี่ยซูเจี๋ยเอ่ยบอกผู้เป็นป้าสะใภ้ใหญ่ของสกุลเซี่ย

“กลับรึ? ฮ่า ฮ่า ถ้าข้าจะมาหาพ่อของพวกแก ข้าจะมาทำไมเวลานี้” นางซือหลิงหัวเราะออกมาอย่างน่ารังเกียจ

เซี่ยซูเหยาอาศัยยามที่นางซือหลิงคุยกับพี่สาวรีบลงกลอนประตู ถึงเซี่ยซูเจี๋ยจะอยู่นอกบ้านนางซือหลิงคงจะไม่กล้าลงมือ และรีบไปลงกลอนประตูห้องครัวที่อยู่หลังบ้าน

โชคดีที่ปลาเหลือห้าตัวและจับมาขังไว้ในครัว เซี่ยซูเหยาไม่ไว้ใจนางซือหลิง ดูเหมือนว่านางรอเวลาที่ผู้ชายในบ้านไม่อยู่มารังแกพวกนางสองพี่น้อง

“นี่!”

“ท่านป้าสะใภ้ อาเหยาป่วย น้องสาวของข้ายังต้องพักผ่อน”

เซี่ยซูเจี๋ยรีบวิ่งมาขวางหน้าประตูบ้านพลางกางแขนไม่ให้นางซือหลิงเข้าไป แม้นางจะเตี้ยกว่าและมีพละกำลังที่น้อยกว่าแต่ในมือของเซี่ยซูเจี๋ยถือมีดอยู่ ช่วยไม่ได้ที่นางซือหลิงมาเวลานี้

“นังเด็กนี่!” ฝ่ามือที่กำลังจะตีลงที่ใบหน้าของลูกสาวคนโตของบ้านถึงกับชะงัก เมื่อเซี่ยซูเจี๋ยง้างมีดขึ้นมาเหมือนกัน

เซี่ยซูเจี๋ยเป็นเด็กสาวที่เรียบร้อย งานบ้านงานเรือนนางสามารถทำได้ทุกอย่าง แต่ก็ไม่ได้อ่อนแอ

ยิ่งน้องสาวของนางเพิ่งหลับไปแต่ป้าสะใภ้ใหญ่กลับมาทำให้อาเหยาตื่นนางจึงโมโห

และเซี่ยซูเจี๋ยก็ไม่ได้กลัวจะถูกด่าว่าเป็นเด็กอกตัญญู ยามนี้มีเพียงนางกลับน้องสาว นางแค่อ้างว่าปกป้องน้องสาวก็ไม่มีใครว่าได้แล้ว ใคร ๆ ก็รู้ว่าคนที่ใช้สกุลเซี่ยนั้นเป็นคนยังไง

“ฝากไว้ก่อนเถอะ!”

เซี่ยซูเหยาส่ายหน้าอย่างไม่เข้าใจ นางยืนอยู่หลังประตู พอเห็นนางซือหลิงออกไปไกลแล้วถึงยอมเปิดประตูให้พี่สาว

“เฮ้อ”

“ใครหรือเจ้าคะ”

เซี่ยซูเหยาเป็นเด็กฉลาด นางจำรายละเอียดได้อย่างรวดเร็วแม้เจอกันเพียงครั้งเดียว ในความทรงจำที่มีนางเคยเจอนางซือหลิงเมื่อยามห้าหนาว

“ป้าสะใภ้ใหญ่ สะใภ้ของปู่รองน่ะ” เซี่ยซูเจี๋ยตอบน้องสาว

ทุกคนในหมู่บ้านรู้ว่าสกุลเซี่ยไม่ถูกกัน ยิ่งสายหลักกับสายรองปัจจุบันนั้นต่างแย่งชิงกันมาตลอด ยามขึ้นเขาล่าสัตว์ก็เป็นเซี่ยห้าวไห่พ่อของพวกนางที่ได้ดีกว่า ไม่ว่าจะเป็นการล่าสัตว์ การเอาตัวรอด เรียกได้ว่าเซี่ยห้าวไห่นั้นเก่งรอบด้าน ไม่เช่นนั้นเขาคงไม่สามารถเลี้ยงลูกสามคนมาได้ถึงทุกวันนี้

“นางไม่ชอบข้าหรือ”

“ไม่ใช่ นางมายืมเงินท่านพ่อ แต่ท่านพ่อไม่ให้ไป นางเลยไม่ชอบบ้านเรา”

เซี่ยซูเจี๋ยไม่ได้เล่ารายละเอียดให้น้องสาวฟัง บางอย่างก็ยังไม่ถึงเวลาที่ต้องรู้ แต่บางอย่างนางก็ไม่อยากเล่าให้อาเหยาเก็บไปคิดให้ช้ำใจ

“เจ้าค่ะ”

“อาเหยากลับไปนอนต่อเถิด พี่สาวเก็บผักอีกนิดก็เสร็จแล้ว” เซี่ยซูเจี๋ยบอกน้องสาว

เซี่ยซูเหยาพยักหน้า นางก็ง่วงอีกเหมือนกัน นางชอบตื่นตั้งแต่เช้าจึงไม่แปลกที่จะง่วงนอน ยิ่งแต่ก่อนร่างกายจะได้นอนพักกลางวัน เซี่ยซูเหยาจึงต้องได้นอน

อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทล่าสุด

  • เด็กสาวสกุลเซี่ย เซี่ยซูเหยา   บทที่ 80 ตราบชั่วนิรันดร์

    เช้าวันนี้ในเมืองหลวงแคว้นหนานมีการถกเถียงเรื่องเมื่อหลายปีก่อนของคนสกุลเจิ้ง ว่ากันว่าวันนั้นภรรยาทั้งสามคนของอดีตเสนาบดีเจิ้งที่ล่วงลับไปแล้วคลอดบุตรพร้อมกันหนึ่งฮูหยินใหญ่ภรรยาเอกของเสนาบดีเจิ้งคลอดบุตรชายออกมาเป็นคนที่สอง บุตรชายของนางจึงกลายเป็นคุณชายรองไปโดยปริยาย หากไม่เกิดเรื่องถูกไล่ออกจากสกุลครานั้นคงได้ขึ้นเป็นเสนาบดีเจิ้งคนปัจจุบัน แทนพี่ชายที่เป็นบุตรอนุสองฮูหยินรองที่คลอดบุตรสาวคนเล็กพร้อมเสียชีวิตลงระหว่างคลอดบุตรสาวออกมา จากการสอบถามหมอที่ทำคลอด หมอผู้นั้นกล่าวว่าฮูหยินรองเสียเลือดมาก อีกทั้งเด็กขาดอากาศหายใจจึงไม่สามารถช่วยชีวิตไว้ได้สามคืออนุสามที่คลอดบุตรชายคนโตของสกุลเจิ้งก่อนฮูหยินทั้งสอง กล่าวได้ง่ายๆ ก็คือคุณชายใหญ่เจิ้ง หรือประมุขสกุลเจิ้งคนปัจจุบันนั่นเองทว่าเรื่องที่ถกเถียงในวันนี้ก็คือบุตรชายของฮูหยินผู้เฒ่าเจิ้งนั้นเป็นบุตรชายแท้ๆ ของฮูหยินรอง! ส่วนบุตรแท้ๆ ของนางนั้นเป็นบุตรสาวที่คลอดออกมาแล้วเสียชีวิต หมอทำคลอดกล่าวว่าฮูหยินผู้เฒ่าเจิ้งในยามนั้นเสียเลือดมากและไม่มีโอกาสที่จะมีบุตรได้อีก จึงทำการสลับเปลี่ยนตัวเด็กทั้งยังสังหารฮูหยินรองทิ้ง ซึ่งเรื่องนี

  • เด็กสาวสกุลเซี่ย เซี่ยซูเหยา   บทที่ 79 ง้อ

    ซื่อจื่อหมิงซูเหยียนที่กำลังช่วยสหายสะสางฎีกาต้องรีบกลับตำหนักบูรพาทันทีเมื่อได้ยินว่าน้องสาวมีใบหน้าเศร้าหมองมาจากจวนสกุลเจิ้ง พอๆ กับผู้เป็นสามีอย่างรองแม่ทัพเจิ้งที่ตามพี่ภรรยาไปด้วยตำหนักบูรพาเดิมทีเป็นตำหนักขององค์รัชทายาทที่จะได้รับตำแหน่งฮ่องเต้องค์ถัดไป ทว่าฮ่องเต้หมิงหลงอันกลับไม่ยอมให้องค์รัชทายาทเข้าไปอยู่และสร้างตำหนักใหม่ให้แทน ในระหว่างนี้องค์รัชทายาทก็ต้องอยู่ในตำหนักเดิมของพระองค์ไปก่อนส่วนตำหนักบูรพาถูกยกให้เป็นจวนสกุลเซี่ยที่มีรองแม่ทัพเซี่ยเป็นประมุขสกุล ซึ่งองค์รัชทายาทไม่มีปัญหาในเรื่องนี้เพราะหากเขายอมรับตำหนักใหม่ยังสามารถเลือกได้ว่าต้องการตำหนักแบบใด และเรื่องนี้เหล่าขุนนางก็ไม่มีผู้ใดคัดค้าน อาจเป็นเพราะแต่ละคนล้วนเป็นขุนนางที่ขึ้นตรงต่อฮ่องเต้หมิงหลงอันเพียงผู้เดียวก็ได้ยิ่งยามนี้จวนสกุลเซี่ยเพิ่งถูกองค์หญิงเจิ้นกั๋วหมิงเมี่ยวซือจ่างกงจู่สั่งทุบไป และจะสร้างเป็นสวนดอกไม้เพื่อรำลึกถึงคนที่เสียชีวิตแทน ทำให้สามพี่น้องไม่ได้ย้ายไปพักที่นี่ อีกอย่างความทรงจำต่างๆ คงไม่ดีสำหรับผู้รอดชีวิตในวันนั้นรองแม่ทัพเจิ้งกระโดดลงจากรถม้าด้วยความเร่งรีบ เมื่อสอบถามนางกำนั

  • เด็กสาวสกุลเซี่ย เซี่ยซูเหยา   บทที่ 78 ย่าสามีหรือ ข้าไม่ต้องการ

    เสียงการเคลื่อนไหวที่ข้างนอกห้องนอนทำให้เซี่ยซูเหยารู้สึกตัวตื่นขึ้นบนที่นอน ตั้งแต่แต่งงานมาตลอดหนึ่งสัปดาห์ วันนี้นางตื่นสายมากๆ ได้ยินว่าวันนี้ฮูหยินผู้เฒ่าเจิ้งกลับมาจากเยี่ยมบุตรชายที่นอกเมืองหลวง นางผู้เป็นหลานสะใภ้จึงต้องไปยกน้ำชาเพื่อแสดงความเคารพสักหน่อย“องค์หญิง”“ยามใดแล้ว” เสียงแหบพร่าเอ่ยถามคนสนิทที่เข้ามาช่วยพยุงตัวให้ลุกขึ้น ทั้งยังยกอ่างล้างหน้ามาให้ผู้เป็นฮูหยินน้อยสกุลเจิ้งหมาดๆ นางพยักหน้า“ยามซื่อแล้วเพคะ ท่านเขยกล่าวว่าไม่ต้องปลุกท่าน บ่าวจึงรอให้ท่านตื่นเอง”“ยามซื่อ!”สามวันมานี้เหลาอาหารอิ้งเยว่เกิดเรื่องขึ้น นางจึงต้องจัดการปัญหาต่างๆ จะให้สามีจัดการให้ก็ไม่ได้ เขาไม่รู้เรื่องในเหลาอาหารทั้งยังมีเพียงนางที่แก้ปัญหาได้ จึงต้องนอนดึกและตื่นเช้ามาตลอดสามวัน เพียงทว่าเมื่อคืนนางคงจะเหนื่อยจริงๆ จึงหลับลึกมากชนิดที่ว่าคนข้างกายลุกไปก็ยังไม่รู้สึกตัว“เพคะ”“เขาล่ะ” นางหมายถึงสามีของนางที่ไม่เห็นหน้าเมื่อตื่นนอน“ท่านเขยออกไปพบองค์รัชทายาทเพคะ ได้ยินว่าพระองค์ป่วยหนักหลังจากถูกฝ่าบาททิ้งงานไว้ให้หลายวัน” หลิวซิ่นกล่าวยิ้มๆ อย่างขบขัน เมื่อองค์รัชทายาทถูกบิดาและบรรด

  • เด็กสาวสกุลเซี่ย เซี่ยซูเหยา   บทที่ 77 งานมงคล

    วันที่สิบเจ็ด เดือนสอง รัชศกหมิงปีที่ยี่สิบเอ็ด แคว้นหนานมีงานมงคลครั้งใหญ่โดยมีฮ่องเต้หมิงหลงอันเป็นญาติผู้ใหญ่ของฝ่ายหญิง หรือก็คือองค์หญิงเจิ้นกั๋วหมิงเมี่ยวซือจ่างกงจู่ ที่สมรสกับรองแม่ทัพเจิ้งรั่วซาน คุณชายรองเจิ้งแห่งสกุลเจิ้งแม้จะมีเสียงกล่าวว่าไม่เหมาะสมบ้าง แต่ใครจะสนกันล่ะ องค์หญิงเจิ้นกั๋วหมิงเมี่ยวลี่จ่างกงจู่ผู้เป็นพี่สาวไม่ปราถนาที่จะแต่งงานเร็วๆ นี้ ทั้งได้ยินว่านางจะออกบวชชีที่อารามนอกเมือง หากรอพี่สาวแต่งงาน องค์หญิงเจิ้นกั๋วหมิงเมี่ยวซือจ่างกงจู่ผู้เป็นน้องสาวก็คงไม่ได้แต่งงานแล้วชีวิตนี้ฮ่องเต้หมิงหลงอันมีราชโองการให้องค์หญิงเจิ้นกั๋วหมิงเมี่ยวซือจ่างกงจู่แต่งให้รองแม่ทัพเจิ้งรั่วซาน โดยที่ไม่ต้องลดบรรดาศักดิ์เชื้อพระวงศ์หญิงอันดับหนึ่ง ยังเป็นองค์หญิงเจิ้นกั๋วเช่นเดิม ไม่ต้องกล่าวก็รู้ว่าเป็นคนโปรดเพียงใด ขนาดองค์หญิงรอง องค์หญิงสี่ที่แต่งไปกับเชื้อพระวงศ์แคว้นอื่นยังต้องลดบรรดาศักดิ์ลงเลยเสียงสนทนาเบาๆ ดังขึ้นที่หน้าห้องแต่งตัวของผู้เป็นเจ้าสาว ทำให้เซี่ยซูเหยาที่แต่งตัวอยู่อดที่จะมองดูไม่ได้ เมื่อได้ยินว่าคนสนิทของนางเดินทางมาถึงแล้ว“องค์หญิง”“ฟางไฉ่!”ฟางไฉ

  • เด็กสาวสกุลเซี่ย เซี่ยซูเหยา   บทที่ 76 สมรสพระราชทาน

    เสียงหัวเราะท่ามกลางบรรยากาศเงียบสงบสร้างความสุขให้แก่นางกำนัลและองครักษ์ในตำหนักบูรพาเป็นอย่างยิ่ง ทั้งอากาศยังเย็นสบาย“ได้ยินมาว่าพี่หญิงถูกชินอ๋องแคว้นหลิงตามเกี้ยวหรือขอรับ” ซื่อจื่อหมิงซูเหยียนที่นั่งตรงข้ามกล่าวถามองค์หญิงเจิ้นกั๋วหมิงเมี่ยวลี่จ่างกงจู่ชะงักมือที่ยกถ้วยน้ำชาขึ้นจิบ ริมฝีปากบางยกยิ้มเล็กน้อย หวนนึกถึงคนผู้หนึ่งที่ตามเกี้ยวมาตลอดห้าปีอย่างขบขัน“อืม”“พี่หญิงยังไม่ใจอ่อนให้เขาอีกหรือเจ้าคะ” เซี่ยซูเหยาผู้นั่งข้างๆ พี่สาวเอ่ยถามบ้าง“ใจอ่อนอันใด นางมาปรึกษาข้าว่าอยากบวชชีอยู่เลย”แค่กๆหลายคนถึงกับน้ำพุ่งออกจากปากเมื่อได้ยินคุณหนูเจ็ดเย่กล่าว ทั้งยังหันมององค์หญิงเจิ้นกั๋วหมิงเมี่ยวลี่จ่างกงจู่ที่นั่งจิบน้ำชาอย่างไม่รู้ร้อนรู้หนาวเป็นตาเดียว“ฮ่าๆ เหตุใดสีหน้าพวกเจ้าจึงเป็นเช่นนั้น” นางเพียงอยากบวชชีก็เท่านั้นเองเซี่ยซูเหยามองพี่สาวอย่างอึ้งๆ หลายปีที่ผ่านมาชินอ๋องผู้นั้นยังพิชิตใจพี่หญิงของนางไม่ได้อีกหรือ นางคิดว่าเขาจะตามเกี้ยวพี่สาวจนยอมตกลงแล้วเสียอีก“แล้วชินอ๋องแคว้นหลิงเล่า”“ชินอ๋องผู้นนั้นหรือ พี่ไล่เขากลับแคว้นหลิงแล้ว เชื้อพระวงศ์สองแคว้นควรเกี่ยวดอง

  • เด็กสาวสกุลเซี่ย เซี่ยซูเหยา   บทที่ 75 พี่น้องพบหน้า

    ต้นไม้สั่นไหวไปตามสายลมที่พัดมาเอื่อย ๆ บนเนินเขาเต็มไปด้วยทุ่งดอกไม้อยู่ไม่ห่างจากเมืองหลวงมาก ทั้งยังเงียบสงบเหมาะแก่การพักผ่อน ทั่วทั้งเนินเขาไม่มีผู้ใดอาศัยอยู่ เพราะเป็นพื้นที่ขององค์หญิงเจิ้นกั๋วหมิงเมี่ยวซือจ่างกงจู่ที่ได้รับพระราชทานมาในยามที่ได้รับตำแหน่งองค์หญิงเจิ้นกั๋วม้าสองตัวถูกบังคับตามกันขึ้นไปยังเนินเขาที่มีเหล่าองครักษ์รออยู่ตีนเขา เสียงหัวเราะของสองพี่น้องช่างทำให้ฟางไฉ่และผู้ที่ติดตามมาตั้งแต่เมืองเฟิงยิ้มกว้าง หลายปีที่ผ่านมาองค์หญิงของพวกเขาร่าเริงเมื่ออยู่ต่อหน้าผู้คนก็จริงทว่าโดดเดี่ยวนักเมื่ออยู่เพียงลำพังเด็กหนุ่มเด็กสาวที่เคยเรียกว่าคุณชาย คุณหนู ยามนี้กลายเป็นองค์หญิงและซื่อจื่อกันหมดแล้ว ยิ่งแต่ละคนเติบโตการมีบรรดาศักดิ์ยิ่งแตกต่างกันมากขึ้นองค์หญิงเจิ้นกั๋วหมิงเมี่ยวลี่จ่างกงจู่ผู้เป็นพี่สาวคนโต ยามนี้มีชื่อเสียงเป็นที่เลื่องลือนั่นก็คือการเป็นศิษย์ของหมอเทวดาหญิง ทั้งยังมีชื่อเรียกว่าองค์หญิงเทพธิดาจากการช่วยเหลือชาวบ้านที่ยากจน กลับมาหาน้องสาวเพียงปีละครั้งเท่านั้นซื่อจื่อหมิงซูเหยียนพี่ชายคนรองที่อีกไม่กี่ปีข้างหน้าจะได้รับบรรดาศักดิ์อ๋องและยามนี้เ

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status