“พี่จ๋า...หนูไม่ไหวแล้ว”
“พี่ก็ด้วย ตอดดีชะมัด งั้นไปพร้อมกันนะ” คนฟังพยักหน้ารับทั้งที่ไม่รู้ว่าเขาชวนไปไหน
เสียงหอบพร่าปนกระเส่าผสานกับเสียงหวานดังขึ้นๆ ก่อนที่ทั้งสองจะกระตุกอย่างรุนแรงเมื่อถึงปลายทางความสุขที่รออยู่ เมื่อสายธารอุ่นๆ ถูกฉีดอัดเข้าไปในกายสาวจนล้นทะลัก ชายหนุ่มก็ซบใบหน้าลงมาที่ซอกคอหอมๆ ของเธอ และกระซิบชมไม่ขาดปาก
“เธอเก่งมากสาวน้อย เยี่ยมที่สุด มันส์มาก”
แม่สาวเวอร์จิ้นบ้านนานี่ทำให้เขาเสร็จสมได้อย่างถึงใจมากที่สุดเท่าที่เขาเคยพบมา เสียงครางหวานหูบ่งบอกว่าเธอเองก็ชื่นชอบบทรักที่เขามอบให้
“ยัยเด็กแก่แดด ถ้ายังไม่หยุดตอดพี่ จะโดนดีไม่รู้ด้วยนะ”
“อือ...” ดูเถอะ เด็กน้อยนี่คิดจะยั่วกันหรือไง เธอมันร้ายนัก แต่เขากลับชอบแฮะ
“พี่เตือนแล้วนะ” เขากระซิบ รู้สึกถึงความคึกคักที่จุดศูนย์รวมความรู้สึกกลางลำตัวอีกครั้ง ทั้งที่เพิ่งปลดปล่อยออกไปจนหมดแม็ก แต่ไม่ใช่เรื่องแปลก ในเมื่อปกติเขาไม่เคยหยุดตัวเองในยกเดียวอยู่แล้ว ยิ่งได้เจอของดีของแรร์ไอเท็ม แถมยังใหม่สดซิงแบบนี้ น่าจะมากกว่าสี่ยกเป็นอย่างต่ำ
ฝนนอกชายคามุงด้วยจากยังคงตกกระหน่ำไม่ลืมหูลืมตา ยามที่เขารวบเอวบางของเธอกดเข้าหาลำตัวแกร่งอีกครั้ง พร้อมกับพร่ำกระซิบที่ข้างหูเบาๆ
“ต่อกันอีกรอบนะ”
“อือ...”
เปลือกตาที่มีแพขนตายาวเฟื้อยขยับเบาๆ แทนคำตอบรับ ทำให้ชายหนุ่มกระตุกยิ้มกร้าว ดวงตาฉ่ำเยิ้มด้วยฤทธิ์เสน่หาและน้ำเมาสูตรเด็ด ก่อนที่จะเริ่มบรรเลงเพลงรักบทใหม่กับเรือนร่างที่แสนหอมหวานเร้าใจของวัยสาวแรกผลิตรงหน้า
จากนั้นห้างนาน้อยก็เริ่มสั่นไหวโยกสะเทือนไปด้วยแรงขับเคลื่อนของอารมณ์ปรารถนาที่โหมสาดเข้าใส่กันไม่ยั้งของของสองหนุ่มสาววัยกลัดมัน ท่ามกลางผืนนาที่ถูกฝนเทใส่จนชุ่มฉ่ำครั้งแล้วครั้งเล่า จนเมล็ดพันธุ์ที่ถูกหว่านไถไว้หยั่งรากลึกสู่นาผืนน้อยรอวันเติบโตออกรวงให้เก็บเกี่ยวผลผลิตในอีกไม่นานเกินรอ
โดยสาวน้อยไม่รู้เลยว่าทันทีที่ตื่นขึ้นมา คนที่ฝากรักไว้ในกายเธอถึงสี่ยกก็หายไปพร้อมกับสายฝนที่ซาลง และเหลือทิ้งไว้เพียงแต่...ให้เธอได้ดูต่างหน้า
/////////////////////////////////
“สามจอกสี่จอกมากรอกเข้า เมรีขี้เมา ชะเอิงเอย...ก็หลับไป...”
เสียงเพลงไตเติ้ลละครจักร์ๆ วงศ์ๆ จากทีวีเครื่องเดิมแผดลั่นไปทั้งบ้าน ทำให้คนที่กำลังจมกับห้วงฝันแสนหวิวหวามต้องตื่นลืมตาฉับพลัน
เธอฝันถึงไอ้คนหื่นนั่นอีกแล้ว!
เมรีเม้มริมฝีปากแน่นระงับอารมณ์วาบหวามที่ยังคงไหลเวียนในร่างกายจนร้อนผ่าว น่าเจ็บใจเหลือเกินที่จนถึงตอนนี้เธอยังจดจำรสสัมผัสชวนสยิวกิ้วของหมอนั่นได้ราวกับเรื่องมันเพิ่งเกิดขึ้นเมื่อวาน
ไม่ใช่ผ่านมาถึงสี่ปี!
จากสาวน้อยวัยสดใสมองโลกสวยงาม ตอนนี้เธอเปลี่ยนเป็นหญิงสาวเต็มตัวที่ไม่โลกสวยอีกต่อไป เพราะจำต้องแบกภาระหน้าที่ยิ่งใหญ่ซึ่งเป็นผลพวงจากเหตุการณ์ในวันนั้น
ป่านนี้ตัวการคงลืมเรื่องราวที่เกิดขึ้นไปแล้ว แต่เธอนี่สิเมื่อไหร่จะลืมมันได้เสียที เมื่อไหร่จะลืมว่าตัวเองเคยสุขสมกับประสบการณ์ครั้งนั้นแค่ไหน แม้สุดท้ายคนที่มอบประสบการณ์รักแรกให้จะหายหน้าเข้ากลีบเมฆทันทีที่ฝนซา ทิ้งเธอไว้ที่ห้างนาน้อยแห่งนั้น พร้อมกับใจดียัดธนบัตรสีเทาในมือให้ดูต่างหน้าหล่อๆ ตั้งหนึ่งใบ
อนิจจา...ใครจะคิดว่าผู้หญิงอย่างนังเมรีคนนี้จะถูกไอ้หนุ่มเมืองกรุงตีค่าความสาวบริสุทธิ์ผุดผ่องด้วยเงินแค่พันเดียว ไม่ใช่สิ! เขาจัดให้เธอแบบจุกๆ ถึงสี่ยก หากเอาเงินพันหารสี่ก็เท่ากับเธอได้ยกละสองร้อยห้าสิบน่ะสิ คุ้มกันไหมนั่น ไม่สิๆ ต้องบอกว่า...อย่างนี้มันหยามหน้ากันเกินไปแล้ว
แซ่บๆ ซิงๆ แบบนี้จ่ายแค่พันเดียวเนี่ยนะ ดูถูกกันชะมัด ไม่ให้กันเลยสักบาทยังไม่น่าเจ็บใจเท่านี้
ยิ่งคิดก็ยิ่งโมโห จะไปโทษใครก็ไม่ได้ในเมื่อเธอง่ายเองที่หลงใหลได้ปลื้มไปกับความหล่อความเท่และคิดง่ายๆ ว่าคนที่มีสายเลือดเดียวกัน มีพ่อแม่เดียวกัน เติบโตมาด้วยกัน ก็คงจะมีนิสัยสันดานเหมือนๆ กัน กว่าจะรู้ว่าคิดผิด ก็ต้องเสียตัวให้เขาไปแล้ว
ทว่าโดนฟันแล้วทิ้งก็ว่าเจ็บแล้ว แต่สิ่งที่ทำให้สาวน้อยที่ใครๆ ต่างคาดหวังว่าอนาคตจะไปได้ไกลไม่ต่างจากพี่สาวผู้เป็นไอดอลคนสำคัญของเธอที่ตกคู่ครองระดับพรีเมียมเกรดเอบวกๆ อย่างพี่สาธุคุณหนุ่มหล่อเจ้าของไร่แห้วได้อยู่หมัด แต่เธอนี่สิกลับต้องมาพบจุดเปลี่ยนครั้งใหญ่เมื่อต้องเปลี่ยนสถานะจากว่าที่นักศึกษามหาวิทยาลัยชื่อดังของเมืองกรุง กลายมาเป็น...
ซิงเกิลมัมวัยใส ที่ท้องไม่มีพ่อตั้งแต่ยังเรียนไม่จบ งามหน้าไหมล่ะคุณผู้ชม!
“เมื่อไหร่นายจะเลิกตามมาหลอกหลอนฉันสักทีเนี่ย ไปผุดไปเกิดได้แล้วไป๊ เฮ้อ...หงุดหงิด!”
หญิงสาวหลับตาลงแน่นเพื่อขับไล่ภาพสุดสยิวในสมองออกไป ก่อนลุกขึ้นจากเตียง ไปจัดการตัวเองพร้อมรับวันใหม่อีกครั้ง
“ไม่รักงั้นเหรอ!”“ครับ เราไม่ได้รักกัน ผมมีผู้หญิงที่รักและอยากแต่งงานด้วยอยู่แล้ว”“อ้าว แล้วทำไมลูกไม่บอกพ่อกับแม่ล่ะ ว่าแต่ผู้หญิงคนนั้นเป็นลูกเต้าเหล่าใคร ตอนนี้เขาอยู่ที่ไหนล่ะ” คุณมาลินีซักด้วยน้ำเสียงพิศวง “หรือเราจะไปขอให้แม่หนูคนนั้นมาเข้าพิธีกับลูกดีไหม”“ผมก็อยากให้เป็นแบบนั้นครับแม่ แต่ว่าตอนนี้ผมก็ไม่รู้เหมือนกันว่าเธอกับลูกหนีผมไปอยู่ที่ไหน และถึงตามตัวเจอ เธอก็คงไม่ยอมแต่งงานกับผู้ชายอย่างผมอยู่ดี”“อ้าว! นี่แกไปหลงรักแม่หม้ายหรือเมียใครกัน มีลูกติดด้วยเนี่ยนะ โอย...ฉันจะเป็นลม” คนพูดรีบควักยาดมในกระเป๋ามาโบก ร้อนถึงสามีต้องหาพัดมาวีให้“ไม่ใช่ครับแม่ ไม่ใช่ลูกติดของใคร แต่เป็นลูกสาวของผมเองครับ หลานแท้ๆ ของคุณพ่อกับคุณแม่” ยิ่งฟังก็ยิ่งงุนงง“ว่าไงนะ แล้วนี่แกไปทำลูกสาวใครเขาท้องมาตั้งแต่เมื่อไหร่ฮะตาชิษ ทำไมเพิ่งมาบอกพวกเราเอาตอนนี้”“สี่ปีที่แล้วครับ ผมเองก็เพิ่งรู้ว่าตัวเองมีลูกเมื่อไม่นานมานี้”“โอ๊ย ลูกหนอลูก ทำสาวท้องตั้งสี่ปีเพิ่งมารู้ ก็สมควรแล้วให้เขาพาลูกเต้าหนี แล้วนี่จะยังไง เจ้าสาวก็หนี เมียก็ยังมาหอบลูกหนีอีก งามหน้าไหมลูกชายฉัน”“ใจเย็นๆ ก่อนครับคุณแม่”
บรรยากาศในไร่สาธุคุณวันนี้คึกคักกว่าปกติ เพราะกำลังจะมีงานมงคลเกิดขึ้น คนงานในไร่ช่วยกันตกแต่งสถานที่กันอย่างขมีขมันเป็นพิเศษ เพราะเจ้าภาพของงานเป็นถึงน้องชายคนเดียวของเจ้าของไร่ แถมมีแม่เลี้ยงรจนาและสามีลงมาคุมงานด้วยตัวเองทุกขั้นตอนในขณะที่ใครต่อใครกำลังวุ่นวายทำหน้าที่ มีเพียงคนเดียวที่ไม่อยากให้งานนี้เกิดขึ้น ว่าที่เจ้าบ่าวของงานยืนทอดสายตามองที่ระเบียงห้องนอนปล่อยใจล่องลอยไปถึงใครบางคนป่านนี้เธอคนนั้นจะเป็นยังไงบ้าง อยู่ที่ไหน อยู่กับใครกัน สบายดีหรือเปล่า และจะรู้บ้างไหมว่ามีคนคิดถึงเธอมากแค่ไหน“อ้าว มาอยู่นี่เองเหรอเจ้าบ่าว”เสียงนั้นทำให้คนใจลอยได้สติ หันไปมองต้นเสียงด้วยสายตาที่ทำให้คนเป็นพี่ชายใจหาย เพราะมันคือสายตาของความสิ้นหวัง หม่นหมอง ผิดวิสัยของคนกำลังจะเข้าประตูวิวาห์ที่ควรมีความสุข ดวงตาเป็นประกายแวววาว ไม่ใช่ไร้วิญญาณเช่นนี้“อย่าบอกนะว่านายคิดจะโดดลงจากระเบียงฆ่าตัวตายหนีงานแต่งวันนี้” สาธุคุณแกล้งหยอกแรงๆ“หึ! ผมดูเหมือนคนคิดสั้นขนาดนั้นเลยหรือครับพี่”“ไม่ใช่ก็ใกล้เคียง นายลองไปส่องกระจกดูสิ หน้าตาไม่เหมือนคนจะเข้าหอ แต่เหมือนคนจะโดนประหารยังไงยังงั้น ทำไมวะ ไ
“พี่รจจะมาวันนี้ทำไมเห็นโทรมาบอกเลยล่ะจ๊ะ”“พอดีพี่รีบมากะทันหันน่ะ มีคนบอกว่าอยากเจอเธอ”เมรีชะงักกึก ชะเง้อมองไปข้างหลังที่มีใครอีกคนเพิ่งเปิดประตูลงมาจากรถก่อนอุทานลั่น“พี่แนน!”นันทิกามองสบตาหญิงสาวตรงหน้านิ่ง ก่อนที่จะคลี่ยิ้มออกมา“ไม่เจอกันนานเลยนะคะน้องเมรี”“เอ่อ...” เมรีมองหญิงสาวตรงหน้าอย่างอึดอัดปนอยากรู้ในเจตนาของอีกฝ่าย เธอสู้อุตส่าห์หนีมาหลบกะว่าให้ผ่านพ้นงานแต่งของอีกฝ่ายเพราะเกรงจะเกิดปัญหาตามมา แต่ไม่คิดว่านันทิกาจะอยากพบหน้าเธออีกทำไมไม่ใช่ว่าอีกฝ่ายจะตามมาตบเธอหน้าแหกใช่ไหม“เชิญเข้าบ้านก่อนสิคะ เดี๋ยวเมรีไปเอาน้ำมาให้”“อย่าลำบากเลยค่ะ พี่มีเรื่องอยากจะถามน้องเมรีนิดหน่อย ได้คำตอบแล้วพี่ก็จะไป”คำว่าไปของอีกฝ่ายทำให้เมรีแอบฉงน แต่ก็ไม่ได้ติดใจอะไร“ไปเจ้าลูกหมู ไปดูการ์ตูนกับป้ารจดีกว่า” รจนาพาหลานเลี่ยงไปที่ห้องรับแขก ปล่อยให้สองสาวได้คุยกัน แต่ก็ไม่วายแอบดูสถานการณ์อยู่ห่างๆ อย่างห่วงๆเมื่อได้อยู่ตามลำพังนันทิกาก็ไม่พูดพล่ามทำเพลงตรงเข้าประเด็นทันที“พี่ขอถามน้องเมรีตรงๆ ได้ไหมว่าน้องเมรีรู้สึกยังไงกับพี่ชิษคะ”มาคำถามแรกก็ทำคนถูกถามอึ้งเสียแล้ว เมรีมองสบตาอี
ตึง!ขาเม้าท์ทั้งฝูงสะดุ้งโหยง หันมองต้นเสียงกันเลิ่กลั่ก พอเห็นว่าเป็นใครต่างก็หน้าเสียไปตามๆ กัน“รับอะไรดีจ๊ะพ่อหนุ่ม” เจ้าของร้านเปลี่ยนสีหน้ายิ้มแย้มรับลูกค้าทันใด“น้ำเย็นขวดหนึ่งครับป้า”“ได้จ้ะ รอเดี๋ยวนะ”“นั่นไงๆ ผัวเก่ายัยเมรี หูย...หน้าอย่างกับมหาโจร หนวดเครางี้ครึ้มเชียว”คนถูกนินทายังคงวางหน้านิ่ง“หน้าโหดแบบนี้ไงเล่าถึงโดนเมียทิ้งหอบลูกหอบเต้าหนีไปกับผัวใหม่”กร๊อบบบบเสียงขวดน้ำดื่มในมือถูกบีบจนแตกยับเยินคามือ ก่อนที่ดวงตาดุเข้มปรายมองฝูงไฮยีนากระหายเลือดอย่างเย็นชาและเหี้ยมเกรียม“ขอโทษนะครับป้า ผมขอแก้ข่าวหน่อย”“จ๊ะ...กะ แก้ข่าวอะไรหรือพ่อหนุ่ม”“ผมชื่อชิษณุกร ไม่ใช่ผัวเก่าของเมรีลูกแม่สีดา แต่เป็นผัวคนปัจจุบัน และผัวคนเดียวของเธอต่างหาก อ้อ! แล้วน้องเวียงพิงค์นั่นก็ลูกผมเอง ไม่ใช่เด็กไม่มีพ่อที่ไหน แล้วถ้าใครอยากเสือก เอ๊ย! สงสัยอยากรู้อะไรก็ไปถามผมได้ทุกเมื่อที่ไร่พี่สาธุ แต่ถ้าผมได้ยินว่ามีคนปากหมามาว่าลูกเมียผมในทางไม่ดีหรือไม่จริงอีกล่ะก็ รอรับหมายศาลถึงบ้านเลยก็แล้วกัน งานนี้ผมรับคำขอโทษเป็นเงินสดหกหลักขึ้นเท่านั้น หวังว่าป้าๆ ทุกคนคงเข้าใจนะครับ”พอพูดจบ ความ
เขาคิดถึงและเป็นห่วงเธอจะแย่แล้ว ไหนจะคิดถึงลูกสาวตัวน้อยที่ไม่ได้เจอหน้าตั้งหลายวัน หลังจากวันนั้นที่เขาบอกกับแม่ของเธอว่าจะมาหาในวันรุ่งขึ้น แต่พอมาถึงนางสีดาก็บอกว่าเธอไปทำงานแล้ว และหลังจากนั้นมาเขาก็ไม่ได้พบหน้าเธอและลูกสาวอีกเลยคิดเป็นอย่างอื่นไม่ได้นอกจากอีกฝ่ายต้องการหลบหน้ากัน แต่เขาก็ไม่ยอมแพ้ยังแอบมาส่องหน้าบ้านเธอทุกคืน ไม่ได้เห็นหน้าขอเห็นหลังคาก็ยังดีแต่วันนี้เขาต้องพบเธอให้ได้ ก่อนที่อกจะแตกตายเพราะความอัดอั้นที่มีจนมากล้น แต่พอชายหนุ่มไปถึงบ้านของเมรีก็พบว่ามันปิดเงียบเชียบเหมือนไม่มีคนอยู่“มีใครอยู่ไหมครับ” ชิษณุกรตะโกนเรียก แต่ก็ไม่มีเสียงตอบรับกลับมา และไม่ว่าจะเรียกอย่างไรก็ไม่มีใครขานตอบจากในบ้าน ไหนว่าลาป่วย หรือว่าอาการหนักจนต้องไปโรงพยาบาลยิ่งคิดก็ยิ่งห่วง รออยู่นานจนแน่ใจว่าไม่มีใครอยู่แน่ๆ ชายหนุ่มจึงยอมถอยไปตั้งหลักที่บ้านพี่ชาย แต่ทว่าตอนที่เขากำลังจะเข้าบ้านนั้นเอง ก็มีใครบางคนเดินสวนออกมาเสียก่อน“น้าสีดา น้าแผน”ชิษณุกรเผลอยิ้มออกมาอย่างดีใจ โดยไม่ทันสังเกตสีหน้าของอีกฝ่ายที่ดูไม่ค่อยสู้ดีเท่าไร“ที่แท้ก็มาอยู่นี่เอง เมื่อกี้ผมไปหาที่บ้าน แต่เห็นปิดป
“สะดุดตกคันนามาน่ะแม่ ฉันมันโง่เองน่ะแม่ เดินไม่ระวัง ไม่สิจริงๆก็ระวังแล้วล่ะ แต่ก็ยังอุตส่าห์พลาดอีกจนได้” เมรียิ้มเยาะตัวเอง ทั้งที่ตอนนี้ขอบตาร้อนผ่าวแต่เธอพยายามสะกดกลั้นไม่ปล่อยให้ความรู้สึกที่กำลังเอ่อท้นล้นออกมาฟ้องความอ่อนแอให้ใครเห็นเธอไม่ต้องการให้พ่อแม่หรือใครต้องเป็นห่วงหรือสงสัยว่าเกิดอะไรขึ้น“พูดอะไรของแกน่ะ แม่งงไปหมดแล้ว”“ไม่มีอะไรหรอกจ้ะแม่ อย่าสนใจเลย แล้วนี่เจ้าเวียงพิงค์ล่ะ ขึ้นนอนแล้วเหรอ”“อืม งอแงตั้งแต่หัวค่ำ บอกจะให้พาไปหาแกกับพ่อจ๋าที่ไร่โน้น แม่กับพ่อแกทั้งกล่อมทั้งปลอบอยู่ตั้งนานกว่าจะยอมนอนหลับได้”คำว่า ‘พ่อจ๋า’ ทำให้คนฟังสะอึก คงเป็นสายใยผูกพันทางสายเลือดที่ทำให้ลูกเธอติดเขา แม้ว่าจะพบกันไม่กี่หนลูกติดเขายังพออ้างได้ แต่เธอนี่สิหลงเชื่อเขาซ้ำๆ มากี่ครั้งกี่หนแล้วจะอ้างอะไรดี“งั้นฉันขึ้นไปดูลูกก่อนนะแม่”“อ้าว ไม่กินข้าวกินปลาก่อนเหรอ” คนเป็นแม่มองตามหลังแม่ลูกสาวที่เดินคอตกขึ้นบ้านไปเงียบๆ อย่างแปลกใจ“เป็นอะไรของมันไปอีกล่ะนั่น หรือว่า...”“เมรี! เมรี...” ยังไม่ทันได้คำตอบ ก็มีเสียงเรียกขึ้นที่หน้าบ้านอีกครั้ง“ใครกันมาตะโกนเรียกค่ำๆ มืดๆ” นางสีดา