/ โรแมนติก / เพียงใจ (Only you) / บทที่ 2 ไวไฟยิ่งกว่าสี่จี

공유

บทที่ 2 ไวไฟยิ่งกว่าสี่จี

last update 최신 업데이트: 2025-05-12 23:30:57

เรือนร่างสูงโปร่งที่สวมใส่เแค่กางเกงยีนส์เพียงตัวเดียวยืนเปลือยแผ่นหลังกำยำหันหน้าออกนอกระเบียง ควันสีเทาหม่นถูกพ่นครั้งแล้วครั้งเล่าเพื่อปลดปล่อยความอัดอั้นทั้งหลายทั้งมวล ทั้งกลิ่นและมลพิษมันตลบอบอวลคละคลุ้งไปทั่ว มันไม่ดีต่อสุขภาพใครๆเขาก็รู้กันทั้งนั้นแต่จะให้ทำยังไงได้ในเมื่อมันอยากหาที่ระบาย รื้อ ๆ ค้น ๆในลิ้นชักก็เจอเจ้าสิ่งนี้พอดีมันเลยถูกเลือกให้เป็นตัวช่วยในการดับอารมณ์ที่กำลังปั่นป่วนอยู่ในขณะนี้ จะระบายกับคนก็ไม่อยากยุ่งกับใครทั้งที่สามารถเรียกคนที่ถูกใจมาหาที่ห้องได้เพียงแค่กดโทรศัพท์แค่กริ๊งเดียว

เมื่อสูบมาเกือบจะหมดมวลที่สองมันก็ไม่ได้ช่วยให้ความคิดหรือความว้าวุ่นใจดีขึ้นจึงบดขยี้ส่วนที่เหลือจนมันมอดดับลง พลางถอนหายใจออกมายาวเหยียด คิ้วเรียวเข้มสีดำสนิทขมวดกันจนยุ่งไม่แพ้ใบหน้าหล่อจัด มือข้างซ้ายยกขึ้นเสยผมลวกๆแล้วกระแทกลงกับราวระเบียงอย่างแรง ดาวบนท้องฟ้าที่ทอประกายลิบ ๆ ก็ไม่อาจดึงความสนใจของคนหงุดหงิดให้ดีขึ้นได้ มันเกิดอะไร มันเกิดอะไร คำถามนี้มันวนเวียนอยู่ในหัวตั้งแต่ตอนขับรถกลับมาคอนโดแล้ว แค่ผู้หญิงตัวเล็ก ๆ คนเดียวทำเอาคนอย่างนายปริญเป็นได้ถึงขนาดนี้เชียวหรือ ได้แต่ยิ้มเยาะให้กับตัวเองอย่างไม่อยากจะเชื่อ

“เวียงพิงค์ เวียงพิงค์ เวียงพิงค์ โว้ย! ใครโทรมาวะ” ทวนชื่อสาวซ้ำไปซ้ำมาแล้วก็ต้องหงุดหงิดเมื่อแรงสั่นของโทรศัพท์ในกระเป๋ากางเกงรบกวนเวลาส่วนตัว

(ไอ้ปริ๊นท์อยู่ไหนวะ กลับถึงคอนโดยัง) 

“ถึงแล้ว แกมีอะไรอย่าชักช้าจะได้ไหมวะแทน พูดๆมาเลยเข้าประเด็นให้ไว” ถามเสียงห้วนเพราะยังไม่มีอารมณ์อยากจะคุยเล่นกับใครทั้งนั้น

(ไอ้เลวปริ๊นท์นี่! เดี๋ยวฉันก็ไม่บอกซะเลยว่าตอนนี้มีหนุ่มหล่อมาดเนี๊ยบมานั่งจีบพี่พิ้งค์อยู่พักใหญ่แล้ว) คนที่แกล้งพูดว่าจะไม่บอกแต่ดันตั้งใจเผยให้เพื่อนรักได้ล่วงรู้

“แล้วทำไมเพิ่งจะเสือกโทรมาบอกล่ะวะไอ้สารเลวแทน” คำรามใส่ปลายสายเสียงเหี้ยมก่อนจะกดวาง แล้วผลุนผลันกลับเข้าไปด้านในอย่างเร่งรีบ

เมื่อถูกตัดสายทิ้งทั้งที่ยังไม่ทันจะได้สวนกลับแทนไทก็มองโทรศัพท์ในมือนิ่งแล้วส่ายหน้ายิ้ม ๆ พลางพึมพำกับตัวเอง “ไอ้เลวนี่สงสัยจะเอาจริงเว้ยถึงได้ฟาดงวงฟาดงาเป็นช้างตกมันแบบนี้ มันมาถึงคงมีเรื่องสนุก ๆ ให้ดูชัวร์”

“สรุปว่าไอ้ปริ๊นท์ของเราชอบพี่สาวคนสวยเพื่อนเจ๊หมวยจริงๆเหรอวะแทน” เคนโด้ที่หยุดยุ่งกับร่างกายสาวชั่วครู่เอ่ยถามเพื่อนสนิท คำตอบก่อนหน้าที่เคยถามไปยังไม่กระจ่างก็จริงแต่เท่าที่ฟังดูก็พอจะเรียบเรียงเรื่องราวได้บ้างแล้ว

“ก็คงอย่างงั้นแหละ แล้วส่วนแกอะนะฉันจะบอกอะไรให้ถ้าอยากมากก็ไปจัดการอะไร ๆ ในที่ลับตาคนโน่นไปอย่ามาทำบัดสีบัดเถลิงแถวนี้เดี๋ยวจะทำให้คนอื่นเสียลูกตาหมด หรือถ้าไม่อายจะทำตรงนี้ก็ได้นะฉันจะทนดูจนกว่าแกจะทำกิจกามเสร็จ” ความจริงมันไม่ได้ทำอะไรมากไปกว่ากอดจูบหรอกแต่ที่พูดออกไปแบบนั้นเป็นเพราะว่าหมั่นไส้ปนรำคาญสายตา ถ้าไม่ติดว่าอยากอยู่รอไอ้ปริ๊นท์ไม่มีทางจะมานั่งเซ็งคนเดียวแบบนี้หรอก มีเพื่อนอยู่ด้วยก็เหมือนไม่มี

“ปากดี งั้นก็เชิญนั่งไปคนเดียวเลยอยากชี้โพรงดีนัก เราไปกันเถอะครับคนสวยนั่งอยู่นี่แล้วไม่ค่อยรื่นรมย์” ชูนิ้วกลางให้เพื่อนแล้วประคองร่างอวบอิ่มในชุดรัดรูปเน้นสัดส่วนให้ลุกขึ้นยืนพลางจูบแก้มสาวโชว์อีกฟอดใหญ่

“งั้นก็ไปกันเลยสิคะ” เสียงหวานตอบรับอย่างยั่วเย้าไม่มีบิดพลิ้วหรือเกี่ยงงอนใดๆทั้งสิ้น

“นั่งหง่าวรอไอ้ปริ๊นท์ไปคนเดียวก่อนนะคืนนี้ เพราะกระผมคงต้องขอตัวไปจัดการธุระตามที่ถูกชี้แนะแล้วล่ะ” โค้งคำนับแล้วเดินโอบเอวประคับประคองกันออกไปอย่างอารมณ์ดี

“ไอ้หื่นเอ๊ย!” บริภาษตามหลังไปติด ๆ

ทางด้านสองสาวสวยและหนึ่งหนุ่มหล่อมาดเนี้ยบที่กำลังนั่งคุยกันอย่างสนุกสนานคละเคล้าเสียงหัวเราะในบรรยากาศที่ค่อนข้างจะเป็นกันเอง บ่งบอกให้รู้ว่าทั้งสามคนรู้จักสนิทสนมกันเป็นอย่างดี เครื่องดื่มก็มีตั้งวางไว้ตรงหน้าคนละแก้ว

“เพื่อนป้องจะมากันเมื่อไหร่เนี่ย ปล่อยให้นายมานั่งรอคนเดียวตั้งนานแล้วนะ” เวียงพิงค์ถามคนตรงข้ามที่มานั่งคุยด้วยพักใหญ่แล้วยิ้ม ๆ ถ้าหมวยไม่ชวนนั่งต่อก็คงไม่ได้พบปะกับเพื่อนที่เคยเรียนด้วยกันมาตอนสมัยมหาวิทยาลัยคนนี้แน่ ๆ เพราะตั้งแต่เรียนจบรายนี้เขาก็ไปเรียนต่อที่ต่างประเทศเลยทำให้ไม่ค่อยมีโอกาสได้เจอกันสักเท่าไหร่ ครั้งนี้ครั้งแรกเลยมั้งที่โคจรมาเจอกันโดยบังเอิญ

“อีกสักพักพวกมันก็คงจะถึงกันแล้วล่ะ คนมาก่อนเวลานัดนานก็ต้องเป็นฝ่ายรอแบบนี้แหละถูกแล้ว ถ้าไม่บังเอิญเจอพิ้งค์กับหมวยก็คงนั่งกร่อยอยู่คนเดียว ว่าแต่พิ้งค์ถามแบบนี้เบื่อที่จะคุยกับเราแล้วล่ะสิ” คนพูดยิ้มกว้างจนเห็นฟันเมื่อใบหน้าสวยหวานส่ายไปมาพร้อมกับโบกไม้โบกมือเป็นพัลวันว่าไม่ได้คิดอะไรอย่างนั้น

“เปล่าเลย คิดมากไปได้ป้องน่ะ เราแค่ถามเฉย ๆ เห็นว่ามารอนานแล้วต่างหาก” มองค้อนแล้วย่นจมูกใส่อากัปกิริยาที่เป็นธรรมชาติที่แสดงออกมาทำเอาคนมองยิ้มไม่หุบ มันเพลินตาเพลินใจไปหมดทุกอย่างยามได้เห็นท่าทางต่าง ๆ ของเธอ

“ฮัลโหลล พรรคพวกอย่าลืมฉันสิ ฉันก็นั่งจุ้มปุ๊กร่วมโต๊ะอยู่ด้วยเห็นไหมเนี่ย ไม่ได้หายไปไหนนะจ๊ะ” แกล้งแซวเล่นเมื่อเห็นว่าเพื่อนหนุ่มเอาแต่นั่งทำตาหวานหยดย้อยมองหน้าเวียงพิงค์แต่เพียงผู้เดียวโดยไม่สนใจอะไรเลย

“ใครจะกล้าลืมเพื่อนที่แสนดีอย่างเธอกันเล่าแม่นางหมวยเกี๊ยะน้อยใจอะไรกันยะ” เวียงพิงค์เอนศีรษะลงบนไหล่บางแล้วเอื้อมแขนหยิบมันฝรั่งทอดกรอบใส่ปากเพื่อนอย่างเอาใจ รู้หรอกว่าเพื่อนไม่ได้จริงจังอะไรแต่ก็แค่รับมุขเท่านั้นแหละ

“ไม่ต้องมาประจบเอาใจฉันเลยเลยแม่ตัวดี อื้อค่อยๆป้อนเคี้ยวไม่ทันแล้วนะอย่ายัดสิ” หมวยแกล้งตีหน้าบึ้งแต่ก็ทำได้ไม่นานก็ต้องยิ้มออกมาจนได้

“พิ้งค์ผมมีเรื่องจะคุยด้วย” เสียงห้วน ๆ ของผู้มาใหม่เอ่ยพูดอย่างไม่ให้ใครได้ตั้งตัวทั้งนั้น มาถึงก็เดินตรงดิ่งมาตรงนี้เลยทันทีและก็ทันเห็นว่าไอ้ส่วนเกินที่นั่งอยู่ก่อนกำลังทำตาเยิ้มใส่เวียงพิงค์ของเขาอย่างออกนอกหน้า

“กลับไปแล้วไม่ใช่เหรอปริ๊นท์แล้วทำไมถึงกลับมาอีกล่ะ” หมวยถามอย่างแปลกใจที่อยู่ ๆ เพื่อนน้องชายก็มาปรากฏกายอีกครั้งพร้อมกับหน้าบึ้งๆเหมือนกับอยากจะอาละวาดใส่ใครอย่างงั้นแหละ แถมมันยังบอกว่ามีเรื่องจะคุยกับเพื่อนของเธออีก ซึ่งมันไม่น่าจะมีเรื่องอะไรให้คุยกันนะ 

“ปริ๊นท์มีอะไรกับพะ...” ยังไม่ทันจะกล่าวจบประโยคแขนเรียวเล็กก็ถูกดึงเสียก่อนเลยทำให้ต้องลุกขึ้นยืนโดยอัตโนมัติแล้วทำหน้างงหนักมากเพราะไม่เข้าใจว่าเหตุใดหนุ่มหล่อรุ่นน้องคนนี้ถึงทำท่าเหมือนโกรธเธอด้วย

“ขอเวลาส่วนตัวสำหรับเราสองคนหน่อยนะครับ ขอย้ำชัด ๆอีกครั้งว่าว่าต้องการความเป็นส่วนตัว” เขาพูดแค่นั้นก็ลากคนตัวบางให้ออกไปด้วยกันท่ามกลางความงุนงงของหมวยและปกป้อง

ปริญพาเวียงพิ้งค์ออกมายืนตรงด้านข้างของคลับเพราะต้องการความเป็นส่วนตัว ต่างฝ่ายต่างจ้องหน้ากันโดยที่ยังไม่มีใครเอื้อนเอ่ยอะไรออกมา จนกระทั่งฝ่ายหญิงสาวทนไม่ไหว

이 책을 계속 무료로 읽어보세요.
QR 코드를 스캔하여 앱을 다운로드하세요

최신 챕터

  • เพียงใจ (Only you)   Special 2 (2)

    สองปีต่อมา... สิ่งที่ตั้งใจประสบความสำเร็จจนได้หลังจากใช้เวลาไม่นานตามที่ใจปรารถนา ครอบครัวจะเป็นครอบครัวเมื่อมีสิ่งมีชีวิตเล็กๆมาเติมเต็มให้สมบูรณ์ยิ่งขึ้น “พ่อจ๋า พ่อจ๋ามา” เสียงใสๆของเด็กหญิงตัวน้อยร้องเรียกบิดาอย่างชัดเจน ชูแขนป้อมๆขึ้นแล้วกระโดดโลดเต้นอย่างดีใจเมื่อเห็นพ่อจ๋าเดินยิ้มร่าเข้ามาหา “อย่าวิ่งสิลูกเดี๋ยวหกล้มแล้วหนูจะเจ็บตัวนะคะคนสวยของพ่อจ๋า” ดุลูกสาวที่ยังเดินไม่แข็งแล้วอ้าแขนออกกว้างเพื่อให้เจ้าหญิงตัวน้อยเข้ามากอดมาหอม “อุ้มๆ ลิซ” ปากจิ้มลิ้มยิ้มแฉ่งเอาใจพ่อจ๋าแล้วชูแขนขึ้นอย่างรู้งานเพื่อให้อุ้มเมื่อไม่อยากเดินเอง คนเป็นพ่อที่หลงลูกสาวหัวปักหัวปรำมีหรือจะขัดศรัทธา เต็มอกเต็มใจช้อนลูกสาวตัวจ้อยขึ้นมาไว้ในวงแขน พลางจูบหอมแก้มป่องอมชมพูซ้ายขวาอย่างมันเขี้ยว “เราไปหาแม่จ๋ากันดีกว่านะคะน้องอลิซ” ชวนลูกสาววัยสองขวบเศษคุยแล้วส่งยิ้มให้เมียรักที่ยืนกอดอกมองดูอยู่ที่ระเบียง บ้านหลังนี้สร้างขึ้นหลังจากแต่งงานได้ไม่นานเพื่อเตรียมพร้อมสำหรับสมาชิกใหม่และมันก็เพิ่งจะเสร็จไม่นานนี้เอง มีสวนดอกไม้สวยๆหลากหลายชนิด มีต้นไม้น้อยใหญ่ให้ความร่มรื่น และมีสนามหญ้ากว้างๆให้ลูกได้ว

  • เพียงใจ (Only you)   Special 2

    ร่างสูงทรุดตัวลงนั่งคุกเข่าลงตรงเบื้องหน้าเมื่อจับเมียสาวคนสวยเปลื้องผ้าออกจนหมดลมหายใจร้อนระอุเป่ารดกลางกายเวียงพิงค์ระลอกแล้วระลอกเล่า ใบหน้าเห่อแดงลามเลียจนถึงลำคอแกร่งไม่ต่างจากเมียรักที่ยืนเอนแอ่นตัวโดยให้แผ่นหลังพิงเคาน์เตอร์คิดเงินแล้วใช้แขนเท้าไว้อีกทีอย่างยั่วยวน เรียวขาสองข้างถูกจับแยกออกจากกันจนกว้าง กลีบกุหลาบสีแดงสดที่ปิดจุกนมน่าดูดไว้หมิ่นเหม่ช่างเรียกเลือดลมให้สูบฉีดเดือดพล่านไปทั่วทั้งร่างกาย ใจกลางความสาวตรงนาผืนน้อยมีดอกกล้วยไม้สีขาวโป๊ะอยู่ตรงกลาง เห็นเส้นไหมดำขลับเลือนรางเพราะมันปิดไม่มิด อารมณ์ตอนนี้คล้ายกำลังจับเมียถ่ายแบบเซ็กซี่อยู่ ซึ่งเขาคิดว่าเมียตัวเองสวยกว่านางแบบพวกนั้นอีก รูปร่างหน้าตา กิริยาท่าทาง โอยย หัวใจไอ้ปริ๊นท์จะวายตาย เลือดกำเดาแทบพุ่งออกมา ไม่มีวันไหนที่เขาไม่ตื่นเต้นยามได้เห็นเมียแก้ผ้าให้มอง เวียงพิงค์เม้มปากแน่น มองตัวเองในตอนนี้ไม่ต่างจากนางยั่วสวาทตามบาร์สักเท่าไหร่ ทั้งหมดทั้งมวลเธอไม่ได้คิดแต่สามีจอมหื่นต่างหากที่จับแล้วบังคับให้ยืนหรือแม้กระทั่งหาอะไรมาปิดตามเนื้อตัวซึ่งมันช่วยอะไรไม่ได้เลย “หอมจังพิ้งค์จ๋า แม่นางฟ้านางสวรรค์ของผัว” จม

  • เพียงใจ (Only you)   Special (2)

    (ฮัลโหลล) “มีอะไรวะโด้” ถามเสียงห้วนติดงัวเงีย คิ้วผูกกันเป็นโบว์ หน้าตาก็บึ้งหน่อยๆ สายตาก็คอยสอดส่องมองหาเมียรักที่ไม่รู้หายไปอยู่ส่วนไหนของร้าน (ปริ๊นท์เพื่อนรักเราไปนั่งจิบบรั่นดีรสเลิศกันดีกว่า ห่างหายไปนานแล้วนะเว้ยอยากผ่อนคลายหลังจากต้องตรากตำทำงานหนักมาหลายวัน ชวนแกเสร็จแล้วเดี๋ยวค่อยชวนไอ้แทน) เสียงลั้นลาสุดๆเมื่อพูดถึงเรื่องดื่มเหล้าและอาจมีเคล้านารีควบคู่ไปด้วย คนโสดก็ดีเงี้ยอยากทำอะไรก็ได้ทำแต่ติดที่ว่าชอบให้เพื่อนรักเพื่อนซี้ไปด้วยทุกครั้งเพราะมันสนุกกว่าเป็นไหนๆ เหล่สาวสวยไปด้วยคุยไปด้วยกระชุ่มกระชวยดี “กูไม่ไป มึงชวนไอ้แทนเถอะเคนโด้” ชัดถ้อยชัดคำ ตัดความรื่นรมย์ของเคนโด้ให้จางหายไปในบัดดล (ไอ้นี่ ถ้าไม่อยากมาคนเดียวก็หอบเมียมานั่งกอดด้วยเหมือนทุกครั้งสิวะ ปฏิเสธแบบไม่คิดงี้ฉันเสียใจนะเว้ย ไม่เจอกันหลายวันละนะคิดถึง) ตั้งแต่ก่อนแต่งหรือหลังแต่งมันเอาเมียไปด้วยทุกครั้งมาครั้งนี้ทำเล่นตัว อยู่ใกล้ๆพ่อจะเตะก้นให้ “อย่ามาทำน้ำเสียงงอน ขนลุก!” (งอนจริงนี่หว่า น่านะมาเถอะ) “ไม่เอา ไม่ว่างไปไหนทั้งนั้นแหละโว้ย! กูจะทำลูก ทำลูกน่ะเข้าใจไหมวะไอ้หมาโด้ เลิกเซ้าซี้สักทีเถอะ

  • เพียงใจ (Only you)   Special

    การเข้าทำงานที่บริษัทเต็มตัวพร้อมมีตำแหน่งรองประธานพ่วงท้ายประหนึ่งนามสกุลอีกหนึ่งนามสกุลย่อมมีบทพิสูจน์ให้ได้ทดสอบศักยภาพนับไม่ถ้วนแม้ว่าตนเองเป็นถึงลูกชายผู้ก่อตั้งบริษัทหรือน้องชายของท่านประธานหนุ่มหล่อคนปัจจุบัน ถือคติที่ว่ากว่าจะเก่งได้ต้องมีประสบการณ์ที่แน่น ดังนั้นใครจะอยากลองภูมิเขาก็ไม่เคยหวั่นหรือย่อท้อต่ออุปสรรคทั้งหลายทั้งปวงที่ดาหน้าเข้ามาหาเพราะโดยส่วนตัวชื่นชอบเรื่องท้าทายเป็นทุนเดิมอยู่แล้วจึงสบายๆออกจะผ่อนคลายเสียด้วยซ้ำรวมถึงมีกำลังใจที่ดีมากๆ ซึ่งเป็นใครไปไม่ได้นอกจากเมียคนสวยของเขาที่นับวันยิ่งสวยชวนตะลึงให้ผัวปวดหัวไม่เว้นแต่ละวัน แต่งงานกันมาเกือบเข้าสู่เดือนที่สี่ที่ห้าเข้าไปแล้วแต่ความรู้สึกเขาเหมือนมันเพิ่งผ่านพ้นไปแค่ประมาณสองถึงสามอาทิตย์เท่านั้นเอง จะเรียกว่ากำลังอยู่ในช่วงเห่อเมียหลงเมียหรือช่วงข้าวใหม่ปลามันก็คงไม่ใช่เพราะเขาเห่อพิ้งค์หลงพิ้งค์มาแต่ไหนแต่ไรจนเป็นที่รู้กันในหมู่ของคนสนิทว่าอาการนี้คงไม่มีทางแก้หายไปได้ นึกถึงเรื่องแต่งงานขึ้นมาก็พาลคิดถึงช่วงเวลาที่ไปฮันนีมูนที่ญี่ปุ่น มันชุ่มชื่นหัวใจเป็นบ้าแม้จะต้องแลกกับการโดนเมียงอนและโกรธแทบทุกวันก็

  • เพียงใจ (Only you)   บทส่งท้าย (3)

    “ไม่ว่าจะอยู่ในชุดอะไรพิ้งค์ก็เร้าใจอยู่เสมอ” ดันตัวเองขึ้นแล้วตลบชายกระโปรงด้วยความรวดเร็ว เวียงพิงค์ไม่ทันได้ตั้งหลักต้องยึดท่อนแขนแข็งแรงไว้มั่น แรงกอดรัดทางด้านหลังทำให้แก่นกายโป่งพองเสียดสีแถวสะโพกกลมกลึง แม้ชุดจะหนาแต่มันก็ยังรับรู้ถึงความต้องการของสามีหนุ่มได้ กางเกงสแล็คสีดำหลุดร่วงลงไปกองอยู่ที่พื้นเช่นเดียวกับเสื้อ ตอนนี้ร่างกายกำยำของบุรุษเพศเปลือยเปล่าต้องแสงไฟสีส้มในห้องนอนไรขนอ่อนลุกพรึ่บน่าลูบไล้เล่น ใบหน้าหล่อจัดเครียดเขม็งพอๆกับแก่นกายที่ดีดขยายแข็งปั๋ง “ปริ๊นท์” กวาดสายตามองเรือนร่างกำยำที่น่าซุกซบและมีเธอคนเดียวเท่านั้นที่ทำได้อย่างชื่นชม “จับชายกระโปรงชุดสวยของพิ้งค์ให้ปริ๊นท์หน่อยสิครับ ให้จับเองมันทำรักไม่ถนัด” เวียงพิงค์พยักหน้าว่าง่าย ถลกชายขึ้นแล้วกำเอาไว้แน่น เมื่อเริ่มเข้าที่เข้าทางดีแล้วปริญก็ยึดเรียวแขนเล็ก พลางแอ่นตัวไปข้างหน้าแล้วเริ่มสอดใส่แก่นกายเข้าไปอย่างช้าๆ “อ๊ะ...จุก” เม้มปากแน่น “เดี๋ยวก็ดีขึ้น อดทนหน่อยนะที่รักจ๋า” ยังใส่ไม่หมดก็เริ่มรู้สึกว่ามันตึงเปรี๊ยะ เลยเอามือข้างหนึ่งเอื้อมไปเคล้นหน้าอกอวบที่ยังไม่ได้ปล่อยให้ออกมาสูดอากาศภายนอก เพ

  • เพียงใจ (Only you)   บทส่งท้าย (2)

    “แม่คิดว่าจะต้องขึ้นไปตามลูกสองคนถึงบนห้องเองแล้วนะเนี่ย” คุณหญิงสิรินาถเข้ามาจูงแขนลูกสะใภ้พลางมองค้อนลูกชายที่อมยิ้มอย่างหมั่นไส้ “แยกกันอยู่กับพิ้งค์มาตั้งอาทิตย์หนึ่งผมก็อยากอยู่กับเมียให้หายคิดถึงนานๆหน่อยสิครับ” บีบแขนมารดาอย่างประจบเอาใจแต่คำตอบดันไม่ถูกใจทั้งแม่ทั้งเมีย “น้อยๆหน่อยเถอะพ่อตัวดี พูดมากนักเราน่ะ” บิดเอวลูกชายสุดที่รักเต็มแรง “โอ๊ย! เจ็บนะครับคุณแม่ พิ้งค์จ๋าเจ็บจัง” แกล้งสำออยให้มียโอ๋แต่ปรากฎว่านอกจากจะไม่สนใจแล้วยังเบ้ปากใส่อีก แม่เผลอเมื่อไหร่จะจับจูบให้หายมันเขี้ยวเลยคอยดูเถอะ “มาถ่ายรูปกันก่อนอย่ามัวแต่มองหนูพิ้งค์เจ้าปริ๊นท์” คุณหญิงกวักมือเร่งเจ้าบ่าวที่เอาแต่มองเจ้าสาวตาปรอย การจัดดอกไม้ของงานแต่งงานงานนี้อลังการงานสร้างมากเนื่องจากเจ้าสาวเป็นถึงเจ้าของร้านดอกไม้เองโดยตรงจะให้ธรรมดาได้ยังไงกัน หัวเรือใหญ่ก็ไม่ใช่ใครที่ไหนจีน่าและบรรดาพนักงานในร้านที่ลงทุนทุ่มกันสุดตัวเพื่อเจ้านายสาวคนสวย กลิ่นหอมตลบอบอวลของมวลบุปผาทั้งหลายช่วยให้แขกที่มาร่วมงานต่างพากันชื่นชม “ยิ้มจนแก้มปริแล้วนะยะยัยเจ้าสาวคนสวยแห่งปี” หมวยแซวเมื่อเดินเข้ามาสวมกอดเพื่อนรัก

  • เพียงใจ (Only you)   บทส่งท้าย

    เงาสะท้อนจากกระจกบานใหญ่ของเวียงพิงค์ในชุดเจ้าสาวสีขาวบริสุทธิ์ทรงสุ่ม ตัวเสื้อเป็นแขนกุด ชายประดับลูกไม้เรียบหรู แต่งหน้าโทนสีพีชทำให้ดูสวยแพง ยิ่งมองยิ่งเก๋ ทรงผมจัดทรงเรียบง่ายด้วยการรวบผมม้วนไว้ด้านหลังท้ายทอย เพิ่มกิมมิคเก๋ๆด้วยการแซมดอกไม้สดเข้ากับเครื่องประดับอย่างสร้อยคอและต่างหูชุดใหญ่ได้อย่างลงตัวพอดี ไม่มีอะไรเยอะเกิน จากวันที่ถูกขอแต่งงานแบบห่ามๆไร้ซึ่งความโรแมนติกถึงวันนี้ก็เป็นเวลากว่าหกเดือนแล้ว ปริ๊นท์เองหลังเรียนจบได้ไม่นานก็เข้ารับตำแหน่งรองประธานช่วยงานในบริษัทเต็มตัวแล้ว ตอนนี้กลายเป็นผู้บริหารหนุ่มหล่อไฟแรงที่ใครๆก็พากันชื่นชมแม้กระทั่งตัวเธอเองยังอดปลื้มไม่ได้เลย อายุยังน้อยแต่เอาการเอางานทำเอาสาวๆหลายคนต่างพากันอิจฉาเธอกันยกใหญ่ ส่วนฤกษ์งามยามดีที่คุณแม่ปริ๊นท์ท่านหามาให้จากพระผู้ใหญ่ที่นับถือเร็วได้สุดก็คือในวันนี้ แม้ว่าก่อนหน้านี้จะใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันแล้วโดยที่คุณพ่อคุณแม่ทั้งสองฝ่ายรับทราบแต่เด็กดื้อของเธอก็ยังไม่ค่อยจะพอใจเรื่องการจัดงานที่ล้าช้าสักเท่าไหร่ และความใจร้อนของปริ๊นท์ก็ถูกสยบลงเมื่อทุกคนเห็นพ้องต้องกันว่าถ้ายังไม่หยุดงี่เง่างานจะถูกเลื่อนออ

  • เพียงใจ (Only you)   ตอนอวสาน แบบนี้ก็ได้เหรอ (3)

    “ทำไมถึงได้พากันเมาเละเทะแบบนี้เนี่ย ปกติคุณพ่อไม่ได้ชอบดื่มนี่นา ชวนกันยังไงนะ” จับแขนที่เหวี่ยงไปทั่วของปริญให้หยุดก่อนที่มันจะฟาดโดนหน้าเธอ “น้าชุ่มช่วยพาคุณพ่อขึ้นไปนอนบนห้องทีนะคะแล้วรบกวนเช็ดตัวให้ท่านด้วย ส่วนรายนี้เดี๋ยวพิ้งค์จัดการเองค่ะ” “ได้ครับคุณหนู” “โอยย เหนื่อยเป็นบ้าเลย” ยืนเท้าเอวตัวงอหอบหายใจแรงอยู่ข้างเตียง พลางช้อนสายตาเงยหน้าขึ้นมองค้อนคนนอนสลบไสลอย่างเคืองๆกว่าจะประคองกึ่งลากร่างสูงใหญ่ขึ้นมาบนห้องได้ก็ทำเอาแทบหมดแรงคาบันได ตัวก็ไม่ใช่เล็กๆ ปล่อยให้นอนทั้งกลิ่นเหม็นเหล้าเหม็นบุหรี่แบบนี้ไม่ไหวแน่ ต้องเอาผ้าชุบน้ำมาเช็ดตัวให้จะได้นอนสบายเนื้อสบายตัวหน่อย “อือ” น้ำเย็นที่สัมผัสบริเวณลำคอ และตามแขนช่วยปลุกให้คนเมาสะลึมสะลือลืมตาปรือๆขึ้นมามองอย่างงงๆ นี่มันคือความจริงหรือว่าความฝันกันวะเนี่ย ทำไมเมียเขาถึงมานั่งอยู่ข้างๆได้ล่ะ จำได้ลางๆว่าเมียบอกว่าขอเวลาส่วนตัวสักสองสามวัน ยิ่งคิดก็ยิ่งปวดหัวจนต้องยกมือขึ้นมากุมศีรษะเอาไว้ “ปวดหัวมากเลยสิท่า งั้นรอแป๊บนึงนะพิ้งค์จะลงไปในครัวหาอะไรอุ่นๆมาให้ดื่มแก้แฮงค์” วางผ้าในมือลงในอ่างแก้วใบโต ลูบหน้าผากเกลี้ยงใสเบาๆก่อนจ

  • เพียงใจ (Only you)   ตอนอวสาน แบบนี้ก็ได้เหรอ (2)

    “แต่งเลยจริงเหรอวะ พี่พิ้งค์ไม่น่ายอมแกง่ายๆนะ” แทนไทเลิกคิ้วมองหน้าเพื่อนสนิทที่ยืนกดโทรศัพท์ยุกยิก มันท่องมาพักใหญ่แล้วถึงเรื่องแต่งงานของมันกับพี่พิ้งค์เนี่ย แต่ก็ยังไม่เชื่อมันเต็มร้อยว่าจะแต่งเลย เพราะมันดูเร็วเกินไป “ถึงไม่ยอมยังไงก็เป็นเมียฉันแล้ว” ตอบโดยไม่มองหน้าเพื่อนเพราะความสนใจยังคงอยู่ที่โทรศัพท์ ไลน์ไปหาเมียตั้งแต่ออกจากห้องสอบป่านนี้ก็ยังไม่ยอมอ่าน มัวแต่จัดดอกไม้อยู่หรือยังไง เริ่มจะหัวเสียแล้วนะ “เบื่อคนขี้อวดว่ะ” เคนโด้กระแทกเสียง ย้ำจังเรื่องที่พี่พิ้งค์เป็นเมียมันแล้วเนี่ย ไม่บอกใครเขาก็เดาได้ล่ะวะ เจอมันตอนอยู่กับพี่พิ้งค์ทีไรกระตุ้นต่อมอิจฉาเขาทุกที มุ้งมิ้งกุ๊งกิ๊งกันอยู่สองคน สิงเมียมันได้ไอ้ปริ๊นท์มันคงสิงไปแล้ว หายใจเข้าก็พิ้งค์หายใจออกก็พิ้งค์ จ๊ะจ๋านี่ยกมาหมด ไหนจะปริ๊นท์อย่างนั้นปริ๊นท์อย่างนี้อีก ความรักหนอความรักช่างมีอิทธิพลอะไรปานนี้ เห็นเพื่อนมีความรักที่ดีจนน่าอิจฉาเคนโด้ก็ชักอยากลิ้มรสชาติแบบมันบ้างแล้วสิเนี่ย บ่นอุบอยู่ในใจคนเดียว ขืนพูดให้มันสองคนได้ยินมีหวังโดนรุมแน่ “ฉันไปอวดอะไรแกตอนไหนวะไอ้คุณเคนโด่ เอ๊ย! ขอโทษทีพูดผิด คุณเคนโด้ มีแต่แกนั่

좋은 소설을 무료로 찾아 읽어보세요
GoodNovel 앱에서 수많은 인기 소설을 무료로 즐기세요! 마음에 드는 책을 다운로드하고, 언제 어디서나 편하게 읽을 수 있습니다
앱에서 책을 무료로 읽어보세요
앱에서 읽으려면 QR 코드를 스캔하세요.
DMCA.com Protection Status