เมรี่ และทีมของเธอออกเดินทางจากเอดินบะระในเช้าวันรุ่งขึ้น พวกเขาใช้รถยนต์เก่าๆ คันหนึ่งที่ นักสืบโธมัส เตรียมไว้ให้ เพื่อหลีกเลี่ยงการเดินทางด้วยรถไฟที่เต็มไปด้วยความวุ่นวาย แผนที่สู่ห้วงเวลาที่ได้มาจากนักสืบโธมัสดูจะนำพวกเขาไปยังสถานที่ที่ห่างไกลจากความเจริญ และเป็นจุดที่ไม่มีใครคาดคิดว่าจะมีสิ่งมีชีวิตใดๆ อยู่
การเดินทางของพวกเขากินเวลากว่าสองวันเต็มๆ พวกเขาขับรถผ่านทิวทัศน์ที่สวยงามของชนบทในสกอตแลนด์ ท่ามกลางเนินเขาที่เขียวขจี ทุ่งหญ้าที่กว้างใหญ่ และทะเลสาบที่เงียบสงบ แต่ในใจของพวกเขายังคงเต็มไปด้วยความสงสัยและความตื่นเต้นกับภารกิจที่กำลังจะมาถึง ในที่สุด แผนที่ก็พาพวกเขามาถึงปลายทาง มันเป็น ปราสาทเก่าแก่ ที่ตั้งอยู่บนเนินเขาที่โดดเดี่ยว ท่ามกลางหุบเขาที่ปกคลุมไปด้วยหมอกและต้นไม้ที่ดูน่าเกรงขาม ปราสาทแห่งนี้ดูทรุดโทรมและถูกทิ้งร้างมานานหลายศตวรรษ แต่ก็ยังคงความยิ่งใหญ่และน่ากลัวเอาไว้ "ที่นี่แหละ" เอดิสัน กล่าวขณะมองไปที่แผนที่ "จุดหมายปลายทางของเราคือที่นี่" "แล้ว 'ผู้ส่งสารจากอนาคต' อยู่ที่ไหนกันครับ?" เฟรเดอริค ถามด้วยความสงสัย "เขาน่าจะอยู่ในปราสาทแห่งนี้ครับ" ปู่ทวด ตอบ "เราต้องหาทางเข้าไปในนั้นให้ได้" กับดักแห่งกาลเวลา พวกเขาเดินสำรวจไปรอบๆ ปราสาทอย่างระมัดระวัง กำแพงปราสาทเต็มไปด้วยต้นไม้และเถาวัลย์ที่เลื้อยพันจนดูเหมือนเป็นส่วนหนึ่งของธรรมชาติไปแล้ว พวกเขาไม่พบทางเข้าหลักใดๆ มีเพียงประตูเหล็กที่ถูกปิดตายด้วยโซ่ขนาดใหญ่และสนิมเกาะ "ต้องมีทางเข้าลับที่ไหนสักแห่งแน่ๆ ครับ" เบ็น พึมพำ อเล็กซานเดอร์ เดินไปที่กำแพงปราสาท เขาใช้มือสัมผัสไปตามก้อนหินที่เรียงรายกันอย่างประณีต และสังเกตเห็นบางอย่างที่ผิดปกติ ก้อนหินก้อนหนึ่งดูเหมือนจะสามารถขยับได้! "นี่ไงครับ!" อเล็กซานเดอร์กล่าว "มันคือสวิตช์ลับ!" เขาดันก้อนหินนั้นเข้าไป เสียงกลไกเก่าแก่ก็ดังขึ้นจากด้านใน กำแพงหินส่วนหนึ่งเลื่อนเปิดออกอย่างช้าๆ เผยให้เห็น ทางเดินลับ ที่ทอดยาวลงสู่ใต้ดิน พวกเขารีบเข้าไปในนั้นทันที ทางเดินนั้นมืดสนิทและเงียบงัน มีเพียงเสียงฝีเท้าเบาๆ ของพวกเขาเท่านั้นที่ดังก้องไปมา แต่ในขณะที่พวกเขากำลังเดินไปตามทางเดิน จู่ๆ ก็มีเสียงทุ้มต่ำดังขึ้นมาจากด้านหลัง... "พวกแกมาทำอะไรที่นี่!" ทุกคนหันขวับด้วยความตกใจ! พวกเขาเห็น ชายฉกรรจ์ในชุดคลุมสีดำสองคน กำลังยืนอยู่ตรงนั้น ดวงตาของพวกเขาเปล่งประกายสีแดงราวกับถ่านไฟ! "พวกเขาคือใครกันครับ!" เฟรเดอริคกระซิบ "พวกเขาไม่ใช่ 'เงาที่หลงเหลือ'" ปู่ทวดตอบด้วยน้ำเสียงเคร่งขรึม "พวกเขาคือ ผู้พิทักษ์ของปราสาท... และพวกเขาก็ไม่ได้อยู่ในยุคสมัยเดียวกับเรา" การต่อสู้เกิดขึ้นอย่างฉับพลัน! ผู้พิทักษ์ทั้งสองคนพุ่งเข้ามาโจมตีพวกเขาอย่างรวดเร็ว พวกเขามีความว่องไวและพละกำลังที่เหนือกว่ามนุษย์ทั่วไปมากนัก การเคลื่อนไหวของพวกเขาดูราวกับสัตว์ร้ายที่จู่โจมอย่างรวดเร็ว "เราจะทำอย่างไรกันดีคะ!" เมรี่ตะโกน "เราต้องหลบการโจมตีของพวกมันให้ได้ครับ!" เอดิสันกล่าว "แล้วหาจุดอ่อนของพวกมันให้เจอ!" ผู้ส่งสารจากอนาคต ในขณะที่การต่อสู้ดำเนินไปอย่างดุเดือด จู่ๆ ก็มีแสงสว่างจ้าสีม่วงส่องประกายมาจากด้านในปราสาท! "หยุดเดี๋ยวนี้!" เสียงทุ้มต่ำที่พวกเขาเคยได้ยินในวิทยุดังขึ้น ผู้พิทักษ์ทั้งสองหยุดการโจมตีทันที พวกเขาก้มหัวลงอย่างเคารพ 'ผู้ส่งสารจากอนาคต' ปรากฏตัวขึ้น! เขาไม่ได้แต่งกายในชุดคลุมสีดำสนิทเหมือนอย่างในภาพลวงตาที่พวกเขามองเห็น แต่สวมชุดที่ดูทันสมัยแต่ก็เต็มไปด้วยลวดลายและสัญลักษณ์ที่แปลกตา เขามีใบหน้าที่ดูสงบนิ่ง แต่แววตาของเขากลับเต็มไปด้วยความเศร้าและเหนื่อยล้า "ปล่อยพวกเขาไป" 'ผู้ส่งสารจากอนาคต' สั่ง "พวกเขาคือผู้ที่ได้รับการเลือกสรร" ผู้พิทักษ์ทั้งสองโค้งคำนับ แล้วเดินจากไปอย่างเงียบสงบ 'ผู้ส่งสารจากอนาคต' หันมามองเมรี่และทีม ใบหน้าของเขาดูคุ้นเคยอย่างน่าประหลาดใจ "ข้าขอโทษที่ทำให้พวกเจ้าต้องเผชิญกับเรื่องที่อันตราย" 'ผู้ส่งสารจากอนาคต' กล่าว "แต่ข้าก็ไม่มีทางเลือกอื่นแล้ว" "คุณเป็นใครกันแน่คะ!" เมรี่ถามอย่างไม่ไว้ใจ "แล้วทำไมคุณถึงต้องการให้เรามาที่นี่!" "ข้าคือ ผู้พิทักษ์แห่งกาลเวลา" 'ผู้ส่งสารจากอนาคต' ตอบ "และข้าขอให้พวกเจ้าช่วยข้า..." เขาหยิบ กระดาษแผ่นหนึ่ง ออกมาจากกระเป๋าเสื้อ กระดาษนั้นดูเหมือนเป็นแผนที่ แต่กลับเต็มไปด้วยภาพต่างๆ ที่ดูเหมือนจะเป็นภาพในอนาคต! "นี่คืออะไรคะ!" เมรี่อุทานด้วยความประหลาดใจ "นี่คือ แผนที่แห่งอนาคต" 'ผู้ส่งสารจากอนาคต' ตอบ "และมันแสดงถึงเส้นทางที่พวกเจ้าจะต้องไป...เพื่อช่วยโลกใบนี้ให้รอดพ้นจากหายนะที่กำลังจะมาถึง!" "หายนะอะไรหรือครับ!" เฟรเดอริคถาม "ในอนาคตอันใกล้ สงครามแห่งกาลเวลา จะเกิดขึ้นอีกครั้ง" 'ผู้ส่งสารจากอนาคต' กล่าว "และในครั้งนี้ มันจะรุนแรงกว่าครั้งไหนๆ ที่ผ่านมา" "แต่เราทำลาย 'สถาปนิกแห่งหายนะ' ไปแล้วไม่ใช่หรือคะ!" เมรี่กล่าว "ใช่...แต่เขาเป็นเพียงส่วนหนึ่งของแผนการที่ใหญ่กว่านั้นมาก" 'ผู้ส่งสารจากอนาคต' ตอบ "มีบุคคลอีกคนหนึ่งที่อยู่เบื้องหลังทุกสิ่งทุกอย่างมาตั้งแต่ต้น...และเขาคือคนที่เราจะต้องหยุดยั้งให้ได้" "เขาคือใครครับ!" ปู่ทวดถาม 'ผู้ส่งสารจากอนาคต' สูดหายใจเข้าลึกๆ แล้วมองไปที่เมรี่ด้วยแววตาที่เต็มไปด้วยความคาดหวัง "เขาคือผู้ที่เจ้าจะต้องเผชิญหน้าในอนาคต...และเขาคือ..." เสียงของเขาขาดหายไปในทันที ร่างของเขาเริ่มสั่นไหวและจางหายไปในอากาศ! "ไม่นะ!" เมรี่ร้องออกมาด้วยความตกใจ "เกิดอะไรขึ้นคะ!" ก่อนที่เขาจะหายไปอย่างสมบูรณ์ 'ผู้ส่งสารจากอนาคต' ได้ส่งกระดาษที่เต็มไปด้วยภาพในอนาคตมาให้เมรี่ พร้อมกับคำพูดสุดท้าย... "จงไปที่ 'จุดเริ่มต้น' ...และหาทางช่วยเขา...ก่อนที่ทุกสิ่งทุกอย่างจะสายเกินไป!" กระดาษร่วงลงสู่พื้น เมรี่รีบหยิบมันขึ้นมาอย่างรวดเร็ว เธอจ้องมองไปที่ภาพต่างๆ ที่อยู่บนแผนที่ด้วยความสับสน... และหนึ่งในภาพเหล่านั้น มีภาพของ มิสเตอร์คลาร์ก กำลังยืนอยู่ในสถานที่แห่งหนึ่งที่ดูคุ้นเคยอย่างน่าประหลาดใจ!ความจริงที่ มิสเตอร์คลาร์ก เปิดเผยนั้นหนักหน่วงเกินกว่าที่ใครจะคาดคิด 'สถาปนิกแห่งหายนะ' ไม่ได้แค่ต้องการทำลายกาลเวลา แต่ยังล้างแค้นราชวงศ์อังกฤษจากการกระทำในอดีต นั่นหมายความว่าพวกเขากำลังต่อสู้กับภัยคุกคามที่หยั่งรากลึกมาหลายศตวรรษ การที่กษัตริย์ทรงถูกควบคุมอยู่คือหัวใจของแผนการทั้งหมดนี้"ถ้าอย่างนั้น 'สายรัดแห่งคำสาป' ที่ควบคุมกษัตริย์อยู่คืออะไรคะ?" เมรี่ ถาม มิสเตอร์คลาร์กที่ดูอ่อนล้าแล้วมิสเตอร์คลาร์กพาพวกเขาเดินลึกเข้าไปในทางเดินใต้ดินของพระราชวังวินด์เซอร์ โดยมี 'ผู้พิทักษ์แห่งราชบัลลังก์' ที่ตอนนี้ปลอดจากคำสาป เดินนำทางไปเงียบๆ เขาเล่าเรื่องราวที่น่าสะพรึงกลัวเกี่ยวกับชะตากรรมของราชวงศ์วินด์เซอร์"มันคือ 'มงกุฎแห่งเวลา' ที่แท้จริงครับ" มิสเตอร์คลาร์กตอบ "ไม่ใช่แค่สายรัด แต่เป็นมงกุฎที่ 'สถาปนิกแห่งหายนะ' สร้างขึ้นจากพลังของ 'กระจกแห่งความจริง' เพื่อผูกมัดกษัตริย์องค์ปัจจุบันให้เป็นหุ่นเชิดของเขา""แล้วเราจะถอดมันออกได้อย่างไรครับ?" เอดิสัน ถาม"มันถูกออกแบบมาให้หลอมรวมกับผู้สวมใส่ครับ" มิสเตอร์คลาร์กถอนหายใจ "วิธีเดียวที่จะถอดมันได้คือต้องใช้พลังที่แข็งแกร่งกว่า 'กระจกแห่งค
กระดาษที่ 'ผู้ส่งสารจากอนาคต' มอบให้เมรี่ไม่ได้เป็นแค่แผนที่ แต่มันเป็นเหมือนภาพวาดที่สลักเสลาด้วยลายมือประณีต บอกเล่าถึงอนาคตที่กำลังจะมาถึง หนึ่งในภาพเหล่านั้นคือภาพของ มิสเตอร์คลาร์ก กำลังยืนอยู่หน้าอาคารเก่าแก่แห่งหนึ่งในลอนดอน ซึ่งดูเหมือนจะเป็นส่วนหนึ่งของ พระราชวังวินด์เซอร์ สถานที่พำนักของราชวงศ์อังกฤษ"มิสเตอร์คลาร์กไปที่นั่นทำไมครับ!" เฟรเดอริค อุทานด้วยความแปลกใจ"ดูเหมือนว่าเขากำลังรอเราอยู่ที่นั่น" เมรี่ ตอบ เธอกำแผนที่ไว้ในมือแน่น "เราต้องไปที่นั่นให้เร็วที่สุด"หลังจากเดินทางกลับมายังลอนดอน เมรี่และทีมใช้เวลาสองวันเต็มๆ ในการเตรียมตัวและรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับพระราชวังวินด์เซอร์ แต่การจะเข้าไปในสถานที่ศักดิ์สิทธิ์เช่นนั้นไม่ใช่เรื่องง่าย พวกเขารู้ว่าต้องใช้แผนการที่แยบยลและละเอียดรอบคอบ"เราจะเข้าไปได้อย่างไรครับ?" อเล็กซานเดอร์ ถาม "ที่นั่นมีทหารรักษาการณ์อยู่ทุกตารางนิ้วเลยนะครับ""เราต้องหาทางเข้าที่ไม่มีใครสังเกตเห็น" เบ็น ตอบ "และผมคิดว่าผมรู้ว่ามันอยู่ตรงไหน"ภารกิจลับใต้ดินพวกเขาเดินทางไปยังพระราชวังวินด์เซอร์ในคืนหนึ่งที่มืดมิดและไร้ดวงจันทร์ พวกเขาแต่งกายด้วยชุด
เมรี่ และทีมของเธอออกเดินทางจากเอดินบะระในเช้าวันรุ่งขึ้น พวกเขาใช้รถยนต์เก่าๆ คันหนึ่งที่ นักสืบโธมัส เตรียมไว้ให้ เพื่อหลีกเลี่ยงการเดินทางด้วยรถไฟที่เต็มไปด้วยความวุ่นวาย แผนที่สู่ห้วงเวลาที่ได้มาจากนักสืบโธมัสดูจะนำพวกเขาไปยังสถานที่ที่ห่างไกลจากความเจริญ และเป็นจุดที่ไม่มีใครคาดคิดว่าจะมีสิ่งมีชีวิตใดๆ อยู่การเดินทางของพวกเขากินเวลากว่าสองวันเต็มๆ พวกเขาขับรถผ่านทิวทัศน์ที่สวยงามของชนบทในสกอตแลนด์ ท่ามกลางเนินเขาที่เขียวขจี ทุ่งหญ้าที่กว้างใหญ่ และทะเลสาบที่เงียบสงบ แต่ในใจของพวกเขายังคงเต็มไปด้วยความสงสัยและความตื่นเต้นกับภารกิจที่กำลังจะมาถึงในที่สุด แผนที่ก็พาพวกเขามาถึงปลายทาง มันเป็น ปราสาทเก่าแก่ ที่ตั้งอยู่บนเนินเขาที่โดดเดี่ยว ท่ามกลางหุบเขาที่ปกคลุมไปด้วยหมอกและต้นไม้ที่ดูน่าเกรงขาม ปราสาทแห่งนี้ดูทรุดโทรมและถูกทิ้งร้างมานานหลายศตวรรษ แต่ก็ยังคงความยิ่งใหญ่และน่ากลัวเอาไว้"ที่นี่แหละ" เอดิสัน กล่าวขณะมองไปที่แผนที่ "จุดหมายปลายทางของเราคือที่นี่""แล้ว 'ผู้ส่งสารจากอนาคต' อยู่ที่ไหนกันครับ?" เฟรเดอริค ถามด้วยความสงสัย"เขาน่าจะอยู่ในปราสาทแห่งนี้ครับ" ปู่ทวด ตอบ "เราต
หลังจากที่ 'สถาปนิกแห่งหายนะ' ถูกลบเลือนออกจากกาลเวลา บรรยากาศในห้องลับใต้พระราชวังเอดินบะระก็กลับมาสู่ความสงบเงียบอีกครั้ง เมรี่และทีมยังคงยืนอยู่ที่เดิมด้วยความรู้สึกที่ผสมปนเปกันระหว่างความโล่งใจจากชัยชนะและความสับสนจากคำพูดปริศนาที่พวกเขาได้ยิน"อนาคต...ของพวกเจ้า...ได้เปลี่ยนไปแล้ว..." เสียงนั้นยังคงดังก้องอยู่ในหัวของเมรี่เอดิสัน ก้มลงเก็บเศษ 'กระจกแห่งความจริง' ที่แตกกระจายอยู่บนพื้น เศษกระจกชิ้นหนึ่งยังคงเรืองแสงสีฟ้าอ่อนๆ อยู่ในมือของเขา"เราควรจะทำอย่างไรกับมันดีครับ?" เอดิสันถามด้วยความลังเลปู่ทวด มองไปที่เศษกระจกนั้นด้วยแววตาที่เต็มไปด้วยความระมัดระวัง "มันอันตรายนัก...มันคือพลังที่เกินกว่ามนุษย์จะควบคุมได้""แต่เราก็ต้องเก็บมันไว้ครับ" อเล็กซานเดอร์ กล่าว "ถ้าปล่อยทิ้งไว้ที่นี่ อาจจะมีคนอื่นมาเจอมันอีก""อเล็กซานเดอร์พูดถูก" เฟรเดอริค เสริม "เราไม่สามารถปล่อยให้พลังแบบนี้ไปอยู่ในมือคนผิดได้อีกแล้ว"เมรี่พยักหน้าอย่างเห็นด้วย เธอรู้ว่าภารกิจของพวกเขายังไม่จบลง การที่ 'สถาปนิกแห่งหายนะ' ถูกลบเลือนไปไม่ได้หมายความว่าอันตรายจะหมดไป"เราต้องหาที่เก็บมันไว้ในที่ที่ปลอดภัยที่ส
ความเงียบสงัดเข้าปกคลุมห้องลับใต้พระราชวังเอดินบะระ มีเพียงเสียงหัวใจที่เต้นรัวของทุกคนเท่านั้นที่ดังก้องไปมา แสงสลัวๆ จากโคมไฟโบราณส่องกระทบใบหน้าของ 'สถาปนิกแห่งหายนะ' ที่กำลังยืนถือ 'กระจกแห่งความจริง' ไว้ในมืออย่างเยือกเย็น แสงสีฟ้าอ่อนๆ จากกระจกสะท้อนอยู่ในดวงตาของเขา ทำให้เขาดูเหมือนไม่ใช่คนอีกต่อไป"แกไม่ควรเข้ามาถึงที่นี่" 'สถาปนิกแห่งหายนะ' กล่าวด้วยน้ำเสียงที่ไร้อารมณ์ "พวกแกได้ทำลายแผนการที่ข้าใช้เวลาหลายร้อยปีสร้างขึ้นมา"เขาเหลือบไปมองศพของทหารรักษาการณ์ที่ไม่มีเงา แล้วยิ้มเยาะ "การต่อต้านเป็นสิ่งไร้ค่า... เพราะสุดท้ายแล้ว พวกแกก็จะถูกลบเลือนออกจากประวัติศาสตร์เหมือนอย่างเขา"นักสืบโธมัสไม่รอช้า เขาและทหารอีกคนพุ่งเข้าใส่ 'สถาปนิกแห่งหายนะ' ทันที ปืนพกในมือของพวกเขายิงกระสุนออกไปไม่ยั้ง!"ไร้ประโยชน์" 'สถาปนิกแห่งหายนะ' พึมพำก่อนที่กระสุนจะถึงตัวเขา 'สถาปนิกแห่งหายนะ' เพียงแค่โบกมือเบาๆ แล้วเวลาก็หยุดลง! กระสุนที่พุ่งไปข้างหน้าทั้งหมดหยุดนิ่งอยู่กลางอากาศราวกับถูกแช่แข็ง เขาก้าวผ่านพวกมันไปอย่างช้าๆ แล้วใช้มือแตะที่หน้าอกของนักสืบโธมัสและทหารคนนั้น"ไปสู่ความว่างเปล่าเถอ
เมรี่กอดบันทึกสำคัญที่ได้จากเลดี้เอลีนอร์ไว้แน่น เธอวิ่งไปตามทางเดินลับใต้พระราชวังเอดินบะระ ทิ้งกลิ่นอายของตำนานและคำเตือนจาก 'ผู้พิทักษ์แห่งเวลา' ไว้เบื้องหลัง ในใจของเธอมีเพียงเป้าหมายเดียว นั่นคือการไปถึง 'กระจกแห่งความจริง' ก่อนที่ 'สถาปนิกแห่งหายนะ' จะใช้มันเปิดฉาก 'สงครามแห่งกาลเวลา'ทางเดินลับสิ้นสุดลงที่กำแพงหินทึบ เมรี่รู้ว่าห้องลับที่เธอตามหาจะต้องอยู่หลังกำแพงนี้ แผนผังของจอห์น สมิธ แสดงให้เห็นจุดที่ซ่อนกลไกไว้ แต่เธอจะเปิดมันได้อย่างไรท่ามกลางความมืดมิดและไร้ซึ่งเครื่องมือ?ทันใดนั้น แสงสว่างจ้าก็สาดเข้ามาจากด้านหลัง พร้อมกับเสียงฝีเท้าที่ก้าวเข้ามาอย่างหนักแน่น เมรี่หันขวับด้วยความตกใจ พร้อมที่จะป้องกันตัว แต่เมื่อแสงนั้นส่องชัดเจนขึ้น เธอก็เห็นร่างที่คุ้นเคย"เมรี่! เธอปลอดภัยนะ!"อเล็กซานเดอร์, เฟรเดอริค, เอดิสัน, เบ็น, และปู่ทวด ก้าวเข้ามาในทางเดินลับ ใบหน้าของพวกเขาเต็มไปด้วยรอยขีดข่วนและคราบฝุ่นจากการต่อสู้ แต่แววตาของพวกเขากลับเต็มไปด้วยความโล่งใจที่ได้เจอเมรี่"ปู่ทวด! ทุกคน!" เมรี่โผเข้ากอดพวกเขาอย่างดีใจ "พวกคุณจัดการกับ 'เงาที่หลงเหลือ' ได้แล้วเหรอคะ!""ใช่แล้ว