تسجيل الدخولตอนที่2
“ใช่ค่ะ ว่าแต่นี่... ใช่ลุงอินหรือเปล่าคะ?”
“ครับ ยังอุตส่าห์จำผมได้ แต่ผมนี่สิเกือบจำคุณณิชาไม่ได้เลย ไม่เจอกันตั้งสองปีคุณณิชาโตขึ้นเยอะเลยนะครับ แถมสวยขึ้นจนผมเกือบจำไม่ได้เลย” เพราะตอนที่ฉันกลับมางานศพของแม่กับคุณลุงเมื่อสองปีที่แล้ว ฉันยังเรียนอยู่แค่ปีสองเป็นเด็กกะโปโลอยู่เลย แต่ตอนนี้ฉันก็เรียนจบแล้ว โตขึ้นทั้งร่างกายและความคิดด้วย
“แหม ชมกันต่อหน้าแบบนี้ณิก็เขินแย่สิคะ” ฉันพูดติดตลก ลุงอินแกเลยหัวเราะชอบใจ ถ้าจะให้นับคนที่ดีใจในการกลับมาของฉัน นอกจากยี่หวาเพื่อนสนิทเพียงคนเดียวของฉันแล้ว ก็คงจะมีแค่ลุงอินนี่แหละที่ดูจะดีใจในการกลับมาของฉัน ใช่สิ ยังมีคุณนมอิ่มอีกคนหนึ่งด้วย
“ไปครับ เดี๋ยวผมขนกระเป๋าไปที่รถให้ ตามมาครับคุณณิ” ลุงอินจัดการขนกระเป๋าเดินทางใบใหญ่เดินนำหน้าไป ส่วนฉันก็ลากกระเป๋าอีกใบตามไปเหมือนกัน
เราใช้เวลาในการเดินทางกลับบ้านไม่นาน รถก็ขับมาจอดเทียบบริเวณหน้าบ้าน ฉันก้าวลงจากรถมองไปรอบๆ บริเวณบ้าน กลับมาคราวนี้บ้านหลังนี้ดูแปลกตาขึ้นเยอะ นอกจากบริเวณสนามหน้าบ้านที่เหมือนจะได้รับการเปลี่ยนแปลงใหม่จนน่ามองแล้ว ถัดออกไปจากตัวบ้านก็เหมือนจะมีการสร้างตึกหลังใหม่อีกหลังเพิ่มขึ้นมาด้วย
บ้านใครกัน?
“บ้านคุณคิมครับ” ลุงอินไม่ปล่อยให้ฉันสงสัยนานเลยรีบบอก
“บ้านคุณคิมเหรอคะ?” ฉันถามอย่างสงสัย อดแปลกใจไม่ได้ที่อยู่ๆ ก็นึกอยากจะปลูกบ้านหลังใหม่ขึ้นมาเสียอย่างนั้น
เขาคงจะอึดอัดใจ จนถึงกับต้องแยกบ้านอยู่สินะ
ฉันมักจะเรียกลูกชายเพียงคนเดียวของคุณลุง ว่าคุณคิม ไม่ได้เรียกว่าพี่อย่างที่ใครๆ ต่างก็อยากให้ฉันเรียกเขาแบบนั้น ไม่ว่าจะเป็นคุณลุง แม่ของฉัน หรือแม้กระทั่งคุณนมที่เป็นคนเก่าแก่ของที่นี่
การเรียกพี่เหมือนพี่น้องที่สนิทกัน เป็นสิ่งที่ฉันไม่ต้องการ สรุปคือไม่อยากสนิทด้วยนั่นแหละ ส่วนคุณคิม ก็มาจากชื่อจริงของเขา คิมหันต์
ฤดูร้อน ที่พร้อมจะแผดเผาฉันตลอดเวลา
“รังเกียจกันถึงขนาดต้องแยกบ้านอยู่เลยเหรอคะเนี่ย” ฉันพูดกลั้วหัวเราะกับลุงอิน
“คุณคิมคงอยากให้คุณณิอยู่บนตึกอย่างสบายใจน่ะครับ”
“ก็ดีค่ะ ต่างคนต่างอยู่ จะได้ไม่ต้องมีปัญหา” ฉันหวังไว้อย่างนั้นนะ ลุงอินได้แต่ยิ้มเจื่อน ฉันรู้ว่าลุงอิน และคนอื่นๆ ในบ้านที่เป็นคนเก่าคนแก่ของคุณลุงอยากให้ฉันกับคุณคิมดีต่อกัน แต่สิ่งที่ทุกคนหวังมันเกินความสามารถของฉันจริงๆ
หลังจากที่ลุงอินกับเด็กรับใช้ในบ้านช่วยกันขนกระเป๋าขึ้นมาเก็บที่ห้องจนเรียบร้อย ทุกคนก็แยกย้ายกันไปทำงานของตัวเองต่อ ฉันเลยหันมาจัดข้าวของในกระเป๋าเก็บเข้าตู้ ห้องนี้เคยเป็นห้องของฉันเมื่อห้าปีก่อน ตอนที่ฉันย้ายเข้ามาอยู่ที่นี่ครั้งแรก แต่ฉันก็อยู่ที่นี่ได้ไม่นานหรอก เพราะหลังจากนั้นไม่กี่วันฉันก็บินไปเรียนต่อทันที
แต่คราวนี้ฉันอาจต้องอยู่ที่นี่อีกนานเลย จนกว่าจะได้ที่อยู่ใหม่แล้วธุรกิจที่กำลังจะเริ่มขึ้นไปได้สวย หรือไม่ก็จนกว่าเจ้าของบ้านเขาจะไล่นั่นแหละ แต่อย่างหลังคงจะยากสักหน่อย เพราะตามพินัยกรรม ฉันก็คือเจ้าของบ้านคนหนึ่งเหมือนกัน
ฉันจัดข้าวของต่างๆ จนเข้าที่เข้าทาง และเผลอหลับไปตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้ กระทั่งมีเสียงเรียกจากหน้าห้องพร้อมกับเสียงเคาะประตูรั้ว ฉันรีบลงจากเตียงด้วยสภาพที่เสื้อผ้ายับยู่ยี่จากการนอน ที่น่าจะหลายชั่วโมงอยู่
“มีอะไรหรือเปล่าคะ พอดีณิเผลอหลับไปน่ะค่ะเลยมาเปิดประตูช้า” เมื่อเปิดประตูแล้วพบว่าเป็นคุณนมอิ่มที่มาเคาะประตูเรียก
คุณนมอิ่ม เป็นคุณนมของคุณคิม คุณนมเลี้ยงคุณคิมมาตั้งแต่เกิด รู้จักนิสัยใจคอของคุณคิมดีกว่าใครๆ แล้วคุณคิมเองก็รักและเกรงใจคุณนมมากที่สุดรองจากคุณลุงแล้วก็คุณแม่ของเขาด้วย
ตอนที่35ตอนบ่าย คุณนพที่เป็นผู้ช่วยของคุณคิมมาหาที่ร้าน มาคุยเรื่องงาน และเรื่องของคุณประพรตด้วย คุณนพบอกว่าเจอเอกสารที่เกี่ยวกับการยักยอกเงินของคุณประพรต ตามที่คุณคิมให้ช่วยสืบ ซึ่งมีการถ่ายโอนเงินหลายสิบล้านเข้าไปในบัญชีตัวกลาง ก่อนจะโอนเข้าบัญชีของคุณประพรตและคุณจารวี คุณคิมเลยให้คุณนพช่วยจัดการเรื่องจัดตั้งทีมตรวจสอบ หลักฐาน และช่องทางการยักยอกต่างๆ เอาไว้ รวมทั้งเรียกทนายเข้าไปดูแลด้วย และคุณคิมจะเข้าไปเคลียร์ที่บริษัทด้วยตัวเองในวันพรุ่งนี้ คุณคิมบอกว่าคุณประพรตกับจารวีน่าจะเตรียมหลบหนีนั่นแหละ หลังจากที่สั่งคนมารอบยิงคุณคิมแต่ยิงพลาด เพราะคุณประพรตน่าจะรู้ว่าคุณคิมรู้แล้วว่าเป็นฝีมือของเขา ฉันกับคุณคิมกลับเข้าบ้านมาในช่วงเย็น ซึ่งคุณนมอิ่มเตรียมอาหารมื้อค่ำเอาไว้ให้เราเรียบร้อย หลังจบมื้อค่ำฉันกับคุณคิมจึงพากันขึ้นมาบนห้องเพราะอยากที่จะอาบน้ำเต็มที “ตกลงณิจะย้ายไปนอนที่ห้องของผมเมื่อไหร่” คุณคิมเอ่ยถาม หลังจากที่เราทั้งคู่อาบน้ำเรียบร้อย และเวลานี้เราก็ขึ้นมานอนอยู่บนเตียงนอนภายในห้องของฉันแล้ว ฉันนอนซบกับอกแกร่งของเข
ตอนที่34คุณคิมได้กลับมาพักรักษาตัวที่บ้านแล้ว หลังจากที่อยู่โรงพยาบาลหลายวัน แต่ก็ยังไม่ได้ไปทำงานที่บริษัทหรอก ฉันอยากให้เขาหายดีกว่านี้ ซึ่งเขาก็ยอมที่จะทำตามที่ฉันบอก วันนี้ฉันว่าจะเข้าไปที่ร้าน เพราะทิ้งให้ยี่หวาดูแลร้านอยู่คนเดียวเป็นอาทิตย์แล้ว และคุณคิมเลยขอตามฉันไปที่ร้านด้วย เขาบอกว่าอยากเห็นเวลาฉันทำงาน แต่ฉันคิดว่าเขาจะตามไปเฝ้าเสียมากกว่า เพราะก่อนหน้านั้นเขายังเอ่ยถามถึงพี่ตรินอยู่เลย ว่าเป็นหุ้นส่วนที่ร้านด้วยหรือเปล่า เห็นไปอยู่ที่ร้านบ่อยๆ ซึ่งฉันก็บอกกับเขาไปแล้วว่าพี่ตรินเป็นรุ่นพี่ของยี่หวา และฉันก็เห็นเขาเหมือนพี่ชายคนหนึ่งด้วย การที่พี่ตรินไปที่ร้าน ก็แค่แวะไปทักทายตามประสาคนรู้จักกัน ไม่ได้มีอะไรมากไปกว่านั้น แต่คุณคิมก็คือคุณคิม ต่อให้เขาจะเปลี่ยนแปลงไปจากเดิมมากแค่ไหน ความหัวดื้อหัวรั้นของเขาก็ยังคงมีอยู่เหมือนเดิมไม่เปลี่ยนนั่นแหละ ในเมื่อเขาอยากไปฉันก็จะยอมให้ไป แถมยังจัดเตรียมเอางานของตัวเองไปทำที่ร้านด้วยอีก ดูแล้วน่าจะอยู่รอจนฉันปิดร้านเลยนั่นแหละ “ยังไงเนี่ย หายไปเป็นอาทิ
ตอนที่33“คุณคิดว่าคุณจาก็รู้เรื่องนี้ด้วยเหรอคะ” เพราะฉันไม่คิดว่าจารวีจะรู้เห็นกับเรื่องนี้สักเท่าไหร่ เพราะเห็นว่าเมื่อก่อนเธอกับคุณคิมควงกันออกจะบ่อย “จารวีคือหมากตัวหนึ่งของคุณประพรต การที่เขาส่งลูกสาวเข้ามาสนิทสนมกับผม ก็เพื่อหวังผลประโยชน์และเอื้อให้กับเขาด้วย” “นี่คุณก็รู้มาตลอดเหรอคะ? แล้วทำไม…” ฉันงงไปหมด ก็ไหนเห็นรักกันดี อี๋อ๋อกันตลอด ตกลงคุณคิมกับจารวีมีความสัมพันธ์แบบไหนกันแน่เนี่ย “ทำไมยังปล่อยให้เขามาวุ่นวายใช่ไหม” คุณคิมเอ่ยแทรกขึ้น “ฉันก็เห็นควงกันออกบ่อย อีกอย่างเธอก็เป็นคู่นอนของคุณด้วยไม่ใช่เหรอ” แค่พูดคำว่าคู่นอนออกมา ฉันก็หงุดหงิดแล้วให้ตายเถอะ “อาจจะเคยควงกันอยู่บ้าง แต่ก็ไม่บ่อยหรอก ส่วนมากจาจะเป็นฝ่ายมาหาผมเองมากกว่า แต่เรื่องคู่นอน คุณเข้าใจไปเองทั้งนั้น” “หมายความว่าไง? คุณจะบอกว่าคุณไม่เคยมีอะไรกับเธออย่างนั้นเหรอ” ฉันควรเชื่อได้จริงเหรอ? “ใช่ ผมไม่เคยมีอะไรกับจา” “…” “คุณคิดว่าผมจะนอนกับคนที่หวังผลประโยชน์จากผมอย่างนั้นเหรอณิ” พูดจบ เขาก็คว้าฉันเข้า
ตอนที่32ฉันอยู่ดูแลคุณคิมที่โรงพยาบาล จนถึงเย็น ก่อนที่จะขอตัวไปเอาเสื้อผ้าที่คอนโด เพราะคืนนี้คงต้องค้างกับเขาที่โรงพยาบาลด้วย“แล้วคุณจะไปยังไง”“แท็กซี่ค่ะ”“อย่าดีกว่าผมเป็นห่วง เพราะนี่ก็เย็นมากแล้วด้วย คุณเอารถของผมไปก็แล้วกัน” เขาบอก ก่อนที่จะหยิบกุญแจที่วางอยู่ที่โต๊ะหัวเตียงมาให้ฉัน“ก็ได้ค่ะ เดี๋ยวฉันจะรีบมานะคะ”ฉันกลับมาที่โรงพยาบาลอีกทีก็เกือบสองทุ่ม เพราะตอนเย็นรถค่อนข้างติด แต่ยังไม่ทันที่ฉันจะเปิดประตูห้องเข้าไปก็ได้ยินกับเสียงของจารวีที่ดังอยู่ในห้อง“คุณเป็นยังไงบ้างคะ พอจารู้ว่าคุณถูกยิง จาก็รีบมาหาเลย” เธอบอกกับเขาด้วยเสียงออดอ้อนตามเคยนั่นแหละ“ผมไม่เป็นอะไรมากแล้ว”“ก็ดีแล้วละค่ะ คุณพ่อฝากมาเยี่ยมด้วยนะคะ ท่านเป็นห่วงคุณนะคะ”“ผมต้องฝากขอบคุณคุณประพรตด้วย ที่ยังอุตส่าห์มีน้ำใจ ยังไงผมก็ฝากคุณไปบอกกับเขาด้วยนะครับ ว่าผมยังไม่ตายง่ายๆ หรอกครับ” คุณคิมมองยัยจารวีด้วยแววตาที่นิ่งมาก ซึ่งฉันไม่เคยเห็นเขามีสีหน้าแบบนี้จารวีมาก่อนเลยแต่น่าเสียดายที่ฉันไม่เห็นว่ายัยจาระบีมีสีหน้าแบบไหน ที่คุณคิมพูดไปแบบนั้น เพราะเธอหันหลังให้ประตูห้อง“พูดอะไรแบบนั้นล่ะคะ คุณก็ปลอดภัยแ
ตอนที่31ณิชามองเบอร์แปลกที่โทรเข้ามาอย่างสงสัย ทำไมช่วงนี้มีเบอร์ที่ไม่ได้บันทึกเอาไว้โทรหาเธอบ่อยเหลือเกิน เมื่อเช้าก็จารวี แล้วคราวนี้เป็นใครอีกล่ะ“สวัสดีค่ะ”“คุณณิชาหรือเปล่าครับ ผมธนาเป็นเพื่อนไอ้คิมนะครับ”“ค่ะ คุณเอาเบอร์ของฉันมาจากไหนคะ?”“ไอ้คิมครับ พอดีว่าโทรศัพท์มันแบตหมด ก็เลยให้ผมโทรหาคุณ”“โทรหาฉันทำไมคะ”“ตอนนี้ไอ้คิมมันถูกยิงอยู่ที่โรงพยาบาลครับแต่ไม่ได้เป็นอะไรมากแล้ว ไอ้คิมมันอยากให้ผมโทรมาบอกคุณ” คำบอกเล่าของปลายสายทำให้ณิชาถึงกับชาไปทั้งตัว ทั้งตกใจทั้งเป็นห่วง แต่ก็ยังพูดเฉไฉตอบกลับไป ว่ามันไม่เกี่ยวอะไรกับเธอเลยเพราะเธอไม่เหลือความรู้สึกอะไรกับเขาแล้ว“แล้วคุณมาบอกฉันทำไมคะ คนที่คุณควรจะโทรไปหาคือคุณจารวีมากกว่านะคะ”“คุณจาเกี่ยวอะไรด้วยครับ”“ก็เมื่อคืนเขาอยู่ด้วยกันทั้งคืน คุณก็ตามให้เขาไปดูแลเพื่อนของคุณสิคะ”“เมื่อคืนเหรอครับ? เมื่อคืนไอ้คิมมันอยู่กับผมนะครับ พอดีมีเรื่องต้องไปเคลียร์กันนิดหน่อย มันก็เลยค้างกับผม”เมื่อคืนคิมหันต์โทรหาเขา ให้ช่วยจองเที่ยวบินกลับญี่ปุ่นให้คุณฮาดะแบบเร่งด่วน เพราะธนาคือเจ้าของสายการบินจึงช่วยเคลียร์เรื่องไฟล์บินให้คุณฮาดะได้ก
ตอนที่30คิมหันต์กลับเข้ามาในบ้านในตอนสาย ซึ่งคลาดกับณิชาที่เพิ่งจะออกจากบ้านไปเหมือนกันหลังจากที่อาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าเรียบร้อย เขาก็ตรงดิ่งไปที่คอนโดของเธอทันที“คุณมาที่นี่อีกทำไม?” ประโยคแรกของณิชาที่เอ่ยขึ้น เมื่อประตูเปิดแล้วผู้ที่มาเคาะประตูเรียกคือคิมหันต์“ณิ ทำไมคุณถามผมแบบนี้ล่ะ” เขาเดินเข้ามาสวมกอดคนที่ได้ชื่อว่าภรรยา หลังจากเดินตามเธอเข้ามาภายในห้องแล้ว“ปล่อยฉัน! แล้วคุณก็กลับไปได้แล้ว” คำพูดที่เย็นชาของคนในอ้อมกอด ทำให้คิมหันต์อดที่จะแปลกใจไม่ได้ว่าคนตรงหน้าไปอารมณ์เสียอะไรมา“คุณเป็นอะไรณิ”“ฉันน่ะเหรอ? ก็เป็นแค่หมากในเกมของคุณไง”“นี่คุณพูดเรื่องอะไร ผมไม่เข้าใจ”“คุณเลิกทำตัวเป็นคนดีกับฉันได้แล้ว เพราะฉันจะไม่หลงเชื่อคุณอีกแล้ว” พูดจบร่างบางก็ทั้งผลักทั้งดันร่างสูงให้ออกไปนอกห้อง ก่อนที่จะปิดประตูล็อกห้องอย่างไม่ใส่ใจกับเขาที่เอาแต่เคาะประตูเรียกเธออยู่ด้านนอก ท่ามกลางความงุนงงที่เกิดขึ้นคิมหันต์กลับออกมาที่รถอย่างหัวเสีย เขามีแต่คำถามในหัวเต็มไปหมดว่าเกิดอะไรขึ้นกับณิชา ทำไมเธอถึงได้เย็นชาและไล่เขาอย่างกับตัวอะไรก็ไม่รู้ ทั้งที่ก่อนหน้านั้นเรายังดีๆ กันอยู่เลย แถม







