เจเนวีพาตัวเองกลับมายังที่พัก แน่นอนที่ด้านหน้าประตูทางเข้าเรือนรับรองของเธอ ผู้ที่ยืนอยู่ยังคงเป็นเบรเดนที่มีสีหน้าเย็นชาประดุจเจ้าชายน้ำแข็ง
แน่นอนว่าเมื่อเขาเห็นเธอที่กำลังเดินเข้ามายังเรือนรับรอง สิ่งที่เบรเดนทำคือการก้มหน้าลงเพื่อทำความเคารพตามปกติ หลังจากนั้นเขาก็เบือนหน้าหนีอย่างไม่คิดแยแสเธอเลย เจเนวีได้แต่มองหน้าของเบรเดนนิ่งๆ นั่นสินะ..เธอควรจะให้เวลาเขาหน่อย ให้เวลาเขาได้จัดการกับความรู้สึกของตัวเอง ส่วนเธอเองก็ควรจะให้เวลาตัวเองได้คิดจัดการหาข้ออ้างในการพบเจอเขาอีกหน่อย หรือว่าจะช่างแม่งภารกิจแล้วใช้ชีวิตสวยๆ รวยๆ ที่นี่ให้รู้แล้วรู้รอดไป ฉันล้มตัวนอนลงบนเตียง ชีวิตของฉันมันไม่เคยได้โรยด้วยกลีบกุหลาบหรือว่ามีความรักที่แสนดีอะไรแบบนั้นอยู่ ฉันมีชีวิตที่ต้องทำงานหนักและต้องดิ้นรนทำงานเพื่อให้มีเงินใช้จ่าย พอช่วงเย็นหลังจากกลับมาจากที่ทำงาน ฉันก็มักจะผล็อยหลับไปด้วยความเหนื่อยล้าอยู่เสมอๆ มันเป็นการทำงานอย่างหนักที่ได้พักสัปดาห์ละหนึ่งวัน การอยู่ที่นี่ก็ไม่ได้แย่อะไรเลยนี่ ฉันในตอนนี้คือเจ้าหญิงเจเนวี แน่นอนว่าเรื่องเงินนั้นไม่ต้องเป็นห่วงอะไรเลย ฉันมีเงินที่ใช้จ่ายสบายๆ ไปทั้งชาติโดยที่ไม่ต้องกังวลในส่วนนั้น ใจจริงฉันอยากจะพบเจอพ่อและแม่ของเจเนวีสักครั้งหนึ่ง.องค์จักรพรรดิและจักรพรรดินี..พวกท่านจะใจดีกับฉันไหมนะ ฉันไม่เคยอยู่กับพ่อและแม่มาก่อนเลย เพราะชีวิตจริงพ่อกับแม่ของฉันเลิกกันตั้งแต่ฉันยังเด็ก จึงถูกเลี้ยงมาผ่านคุณยายที่แก่ชรา และเมื่อท่านเสียชีวิต ฉันก็ต้องเผชิญหน้ากับความยากลำบาก กว่าจะผ่านมันมาได้ก็ทำเอาเกือบตายเหมือนกัน ฉันเองจะสามารถอยู่ที่นี่ได้รึเปล่า เป็นเจเนวีที่มีครอบครัวที่ดีพร้อมและรักนาง..การคาดหวังเช่นนั้นมันจะเป็นการโลภมากเกินไปรึเปล่านะ ........... “ลูกส่งเจนนี่ไปอยู่กับท่านป้าพ่ะย่ะค่ะ อย่างน้อยในระหว่างที่นางไม่อยู่ที่พระราชวัง ก็คงจะไม่มีเรื่องเสื่อมเสียอย่างแน่นอน” จักรพรรดินีมากาเรตส่งยิ้มให้กับองค์รัชทายาทที่กล่าวออกมาด้วยความแน่วแน่ “อันที่จริงการส่งเจนนี่ออกไปข้างนอกพระราชวังถือเป็นเรื่องที่ดีอยู่เหมือนกัน ถึงแม้ว่านางจะสร้างเรื่องราวที่เสื่อมเสียให้กับราชวงศ์แต่ทว่านางก็คือองค์หญิงและคือน้องสาวของเจ้าด้วย จีซัส..พ่อว่าลูกควรจะมองหาคฤหาสน์สักหลังเพื่อส่งเจเนวีไปอยู่ที่นั่นและให้นางได้ใช้ชีวิตอย่างมีความสุขในสิ่งที่นางเลือก แน่นอนว่าพ่อไม่เห็นด้วยหรอกนะหากว่าลูกจะให้น้องแต่งงานน่ะ..พ่อรู้ว่าลูกและแกรนด์ดยุคสนิทสนมกันและการแต่งงานระหว่างเจนนี่กับไอแซ็คนั้นก็นับว่าเหมาะสม แต่ทว่าพ่อไม่ชอบเด็กที่ไม่มีสายเลือดอันสูงส่งของราชวงศ์เลยจีซัส ดยุคโรแลนด์เดิมทีเป็นเพียงทหารรับจ้างเท่านั้น สายเลือดของพวกเขาต่ำต้อยมากไปหน่อย หากจะเทียบกับเจนนี่ของเราน่ะ” จารีอัลยกยิ้มขึ้นมา “ลูกไม่คิดจะให้เจนนี่และไอแซ็คสานสัมพันธ์กันอยู่แล้วพ่ะย่ะค่ะเสด็จพ่อ ลูกแค่อยากให้น้องสาวของลูกได้พักผ่อนจึงส่งนางไปที่นั่น อีกทั้งท่านป้าก็เอ็นดูนางมากกว่าใครอยู่แล้ว” องค์จักรพรรดิอาเธอร์หรี่ตามองลูกชาย “เช่นนั้นก็ดีจีซัส เจนนี่คือน้องสาวเพียงผู้เดียวของเจ้านะ เพราะฉะนั้นแล้วเจ้าจะต้องปกป้องนางให้ถึงที่สุดในฐานะของพี่ชายน่ะ” เขาเกลียดน้องสาวที่ขยันสร้างเรื่อง เกลียดเสด็จพ่อที่เอาแต่เข้าข้างนาง เกลียดเสด็จแม่ที่เอาแต่ยิ้มเพียงอย่างเดียวเท่านั้นไม่ว่าจะเกิดเรื่องอะไรขึ้นมา เขาถูกเลี้ยงมาในกรอบที่ถูกตีเอาไว้ ขณะที่เจเนวีนางถูกเลี้ยงมาด้วยความรักและความตามใจ ที่นางทำตัวอื้อฉาวเช่นนั้น ส่วนหนึ่งมาจากเสด็จพ่อและเสด็จแม่ที่ตามใจนางด้วยกันทั้งสิ้น! “พ่ะย่ะค่ะเสด็จพ่อ ลูกรู้ดีว่าจะต้องทำเช่นไร” องค์จักรพรรดิอาเธอร์พยักหน้า “เช่นนั้นเจ้าก็ออกไปเถิด พ่ออยากจะคุยกับแม่ของเจ้าเป็นการส่วนตัว” มีกำแพงเกิดขึ้นมาเสมอระหว่างเขาและเสด็จพ่อ กำแพงนั่นไม่มีวันจางหายไปและไม่มีวันสลายหายไปไหน..ทำไมเสด็จพ่อถึงได้รักเจนนี่มากกว่าเขากันนะ? เขาทำอะไรผิดงั้นหรือ ทั้งๆ ที่เขาก็ทำทุกอย่างได้ดีเสมอ “การทำให้ลูกรู้สึกด้อยค่าในตัวเองคือความสุขของฝ่าบาทอย่างนั้นหรือเพคะ” จักรพรรดินีเอ่ยถามด้วยความรู้สึกเจ็บปวด รอยยิ้มจางหายไปจากใบหน้าที่แสนงดงามของพระองค์ “ใช่แล้วมากาเรต..การมองดูจีซัสเคียดแค้นคือความสุขของข้าเลยล่ะ เพราะทุกครั้งที่ข้าแสดงออกว่าข้าสนใจเจนนี่มากกว่า ความอยากเอาชนะของเขาก็จะมีมากขึ้น เจ้าเองก็ควรจะสวดภาวนาให้มากหน่อยสิ ให้ลูกสาวของเจ้ารอดพ้นจากคมดาบแห่งความเคียดแค้นของ จีซัสต่อไปเรื่อยๆ” กับบางอย่าง..การพยายามที่จะเปลี่ยนแปลงมันไม่มีทางเป็นไปได้เลย เพราะกับบางคนการพยายามมากแค่ไหนก็ไม่สามารถทำให้เขาเชื่อเธอได้ หากว่าเขาปักใจเชื่อไปแล้วว่าเจเนวีมิใช่ลูกสาวของเขา.. ............... “เจนนี่หลานรัก มันเป็นเรื่องปกติอยู่แล้วที่หลานจะสามารถมีความสัมพันธ์กับองครักษ์ อย่าลืมสิว่าหลานคือราชวงศ์น่ะ อย่าลืมว่าหลานมีอำนาจในการชี้นิ้วสั่งการ..” ฉันกำลังนั่งรถม้าเพื่อเดินทางไปที่วิหารกับท่านป้า วันนี้มีงานวันขอบคุณพระเจ้า ที่สองข้างทางเต็มไปด้วยโคมไฟสีต่างๆ ที่ประดับประดาเอาไว้หน้าบ้านเรือน “แล้วถ้าหากว่าสิ่งที่หลานต้องการมันคือความรักล่ะคะ ความรักมิใช่ร่างกาย..” ท่านป้าเซียร่าหัวเราะออกมา “นั่นคือเรื่องอันตรายแล้วเจนนี่เพราะการต้องการความรักนั้นไม่ใช่เรื่องที่ดีเท่าไหร่นัก เจ้าจะจมปลักอยู่ในวังวนที่ไม่อาจหลุดพ้น และจะทุ่มเททุกสิ่งอย่างเพื่อให้ได้ความรักกลับมา หากเกิดผลตรงกันข้าม หากไม่ได้รับความรักกลับมาผู้ที่เจ็บปวดก็คือเจ้าเพียงผู้เดียวเพราะแบบนั้นป้าขอแนะนำว่า อย่าไปอยากได้ความรักจากใครทั้งนั้น จงอยากได้ความภักดีหรือว่าความเชื่อใจจะดีกว่า” การเป็นเจเนวีก็ไม่ง่ายเหมือนกันแฮะ.. เมื่อรถม้าจอดเทียบที่ด้านหน้าของวิหาร เหล่านักบุญก็รีบเดินมาต้อนรับท่านป้าของเธอในทันที ไม่เว้นแม้แต่คาดินันอีริค เขาขยับแว่นตาเล็กน้อยเมื่อมองเห็นใบหน้าของสตรีที่ไม่ควรอยู่ที่นี่เลยแม้แต่น้อย องค์หญิงเจเนวีมาที่นี่ทำไมกัน? “อีริค..ข้าจะเข้าไปที่ห้องสวดภาวนาสักหน่อย ฝากเจ้าช่วยดูแลหลานสาวของข้าด้วยนะ ข้าอาจจะเข้าไปนานกลัวว่านางจะ เหงาน่ะ” ตัวเขานั้นปฏิเสธคำขอของท่านเซียร่ามิได้อยู่แล้วเพราะว่านางคือผู้สนับสนุนหลักของวิหารแห่งนี้ “เชิญทางนี้พ่ะย่ะค่ะองค์หญิง”เบรเดนกำลังผูกผ้าโพกหัวให้กับเจเนวี และนี่คือปัญหาเพราะว่าเขาทำมันได้ยากเย็นมากยิ่งนัก สาเหตุหลักๆ มันมาจากสายตาของเธอที่กำลังจ้องมองหน้าเขาไม่ละสายตาเลย“อย่ามองกันแบบนั้นสิครับ..”ใบหน้าที่แดงระเรื่อของเขามันน่ารักชะมัดเลย ไม่ว่าเราจะอยู่กันกี่ปีแต่ความเขินอายของเขาก็ทำให้เธออดแกล้งไม่ได้ทุกทีเลย“อันที่จริงท่านเจนนี่รออยู่ที่นี่ก็ได้นะครับ วันนี้แดดแรงยิ่งนัก ข้าจะไปขุดหัวมันมาให้ท่านเอง”“ข้าไม่อยากรออยู่เฉยๆ นี่คะ ให้ข้าไปด้วยเถอะนะ เห็นแบบนี้แต่ข้าก็ขุดหัวมันเก่งมากเลยนะ ไม่เชื่อถามมีนาได้เลย”มีนาลาออกจากการเป็นสาวใช้ของท่านแกรนด์ดัชเชสมาสร้างครอบครัวอยู่ที่ชนบท..และเบรเดนพาเธอมาเยี่ยมมีนาทุกปีเลย“ให้ท่านหญิงได้ทำด้วยเถิดเบรเดน แต่ไหนแต่ไหนท่านล้วนแล้วแต่ชื่นชอบการลงมือทำด้วยตัวเองทั้งนั้น”เบรเดนรู้ดีว่าเขาไม่สามารถขัดใจสตรีผู้นี้ได้หรอก“เช่นนั้นตามข้ามาครับ..ต้องรับปากก่อนนะครับว่าหากท่านทนแดดไม่ไหวหรือมีอาการเวียนหัวท่านจะต้องบอกข้าในทันที”“เห็นแบบนี้ข้าแข็งแรงมากกว่าที่เจ้าคิดนะ ไม่อย่างนั้นในปีแรกที่แต่งงานข้าคงจะตายไปแล้ว..”เธอกระซิบบอกเขาด้วยใบหน้าที่ระบายไปด้วยรอยยิ
เจเนวีกำลังนั่งเท้าคางเพื่อมองดูพิธีอะไรสักอย่างที่แม่หมอกำลังทำกับป้ายหลุมศพของท่านอีเรน ส่วนท่านอีริค..เขากำลังตั้งอกตั้งใจมองดูการทำพิธีของแม่หมอมากทีเดียวหรือว่าเขาจะหันมาเอาดีทางด้านการทำนายและการทำพิธีอะไรพวกนั้นกันนะ“พิธีในปีนี้เสร็จแล้วค่ะ..ปีหน้าเราพบเจอกันใหม่นะคะท่านแกรนด์ดัชเชส”อีริคจ่ายเงินให้กับแม่หมอพวกนั้น ส่วนเจเนวีเธอลุกขึ้นแล้วบิดขี้เกียจเพื่อยืดเส้นยืดสาย“วันนี้รอบๆ วิหารมีงานเทศกาลนะคะท่านแกรนด์ดัชเชส หากว่าท่านไม่รีบกลับลองไปเดินเที่ยวดูได้นะคะ”เจเนวีส่งยิ้มให้กับแม่หมอ“ขอบคุณนะคะ ข้าจะลองไปเดินดูสักหน่อย”งานเทศกาลอย่างนั้นหรือ น่าตื่นเต้นชะมัดเลย“คิดอะไรซนๆ อีกรึเปล่าครับ..ที่รัก”คำว่าที่รักที่ถูกเรียกออกมาจากริมฝีปากของท่านอีริคไม่ว่าจะฟังกี่ครั้งก็ชวนให้หัวใจเต้นแรงทุกครั้งสิน่า..เธอจิ้มปลายนิ้วลงบนกรอบแว่นตาของเขา“แล้วจะตีข้ารึเปล่าคะ หากว่าข้าซนน่ะ”อีริคอมยิ้ม เขากระซิบที่ข้างหูของเจเนวีเบาๆ“ตีแน่ๆ ครับ..รับรองได้เลยว่าท่านจะต้องถูกตีที่ก้นแน่ๆ”ความหวานละมุนโอบล้อมรอบตัวเธอเอาไว้ เพียงแค่เขามองสบตามาก็ทำให้เธอรู้สึกเหมือนกับว่าโลกทั้งใบหยุดหมุน
ในชีวิตของเรานั้นจะมีสักกี่คนที่ทำให้เรารู้สึกอยากจะเป็นคนดี แน่นอนว่าในชีวิตของไอแซ็คเขาไม่เคยรู้สึกเช่นนี้มาก่อน ไม่เคยนึกอยากที่จะเป็นคนดีขึ้นในสายตาของผู้อื่น..จนเขาได้มาพูดคุยและทำความรู้จักกับเจเนวีภายนอกนั้นไม่ต้องอธิบายสิ่งใดเพิ่มเติมเลยเพราะว่าเธองดงามชนิดที่ว่าแทบจะละสายตาออกไปจากใบหน้านั้นไม่ได้เลย เป็นความสวยที่เจิดจรัสราวกับดวงดาวที่ค้างอยู่บนฟ้า แต่ทว่าข่าวลือเกี่ยวกับองค์หญิงผู้นั้นไม่สู้ดีเท่าไหร่นัก นางมีดีแค่ความงามและชอบเริงรักกับบุรุษมากหน้าหลายตา..อีกทั้งจีซัสสั่งให้เขาสังหารนาง..แล้วโยนความผิดให้กับแม่เลี้ยงของเขาว่านี่คือการกระทำที่เป็นการทวงคืนอำนาจของอดีตองค์หญิง คราแรกเขาตั้งใจว่าจะทำเช่นนั้นจะสังหารเจเนวีด้วยมือคู่นี้ จัดการนางให้ย่อยยับและสิ้นซาก แต่บังเอิญว่าวันนั้นกลับมีเรื่องราวมากมายเกิดขึ้นกับเราเธอเอายาแปลกๆ ให้เขาทานและนั่นทำให้ส่วนลับของเขาตั้งโด่ขึ้นมาไม่ยอมล้มเป็นระยะเวลาหนึ่งเดือนเต็มๆ นั่นคือเรื่องยุ่งยากมากจริงๆ ในความคิดของไอแซ็ค เขาก่นด่าชื่อของเจเนวีออกมาวันละหลายๆ ครั้งเลยทีเดียวแต่เรื่องราวมันเริ่มเปลี่ยนไปเมื่อเขาและเธอใกล้ชิดกันมากยิ
ชีวิตของฉันเปลี่ยนไปจากเดิมนิดหน่อย..ไม่สิไม่นิดหน่อยเพราะว่ามันเปลี่ยนไปจากเดิมมากทีเดียวข้อแรกหลังจากที่ฉันแต่งงานอย่างเรียบง่ายภายในคฤหาสน์โรแลนด์ที่มีแค่คนรู้จักและคนที่สนิทเท่านั้นที่มาร่วมงาน ท่านอีริคยังคงเป็นคาดินันอยู่เพราะแบบนั้นท่านจึงทำพิธีแต่งงานให้ฉันและท่านไอแซ็คด้วยตัวเองท่านป้ายังคงร้องไห้และก่นด่าท่านไอแซ็คไม่หยุด บ่นว่าท่านไอแซ็คนั้นไม่เหมาะสมกับฉันเลยสักนิดเดียว แต่สิ่งที่ทำให้ท่านยินดีอย่างที่สุดก็หนีไม้พ้นที่ฉันเข้าไปเป็นลูกสะใภ้ของท่านป้า จากหลานเดินทางเข้าสู่การเป็นลูกสะใภ้ ความสัมพันธ์ในครอบครัวของเราก็ยุ่งเหยิงเหมือนสายไฟฟ้าเหมือนกันนะเนี่ยเรื่องภายในระหว่างแม่สามีกับลูกสะใภ้ลืมไปได้เลยจ้าเพราะว่ามันไม่มีเรื่องอะไรแบบนั้นเกิดขึ้นมาแน่ๆ ท่านป้าเลี้ยงเจเนวีมาเองกับมือและรักเจเนวีเป็นที่สุด เพราะแบบนั้นไม่มีทางที่ท่านป้าจะด่าหรือว่าฉันเลย แต่ท่านกลับบ่นท่านไอแซ็คแทน..หลังจากที่ฉันแต่งงานท่านอีริคก็ยื่นเรื่องลาออกจากการเป็นคาดินันต่อวิหาร และเขาได้รับการยินยอมอย่างง่ายดาย นั่นทำให้ตอนนี้ท่านอีริคคือผู้ช่วยของท่านไอแซ็คไปโดยปริยาย เนื่องจากธุรกิจของตระกูลโรแลน
เพราะเรื่องหลังจากนี้ไม่มีอะไรต้องให้คิดเยอะอยู่แล้ว เช่นนั้นหากระหว่างทางฉันแวะเล็กน้อยเพื่อดื่มด่ำบรรยากาศระหว่างทางก็คงจะไม่นับว่าเป็นอะไรหรอกใช่ไหมบนรถม้าสั่นคลอนเล็กน้อยเมื่อเจเนวีลุกขึ้นมานั่งบนตักของอีริค เธอฝังริมฝีปากลงไปบนริมฝีปากของเขาอย่างลืมตัว แน่นอนว่าอีริคเองก็จูบตอบด้วยความเร่าร้อนเช่นเดียวราวกับว่าเขารอคอยจุมพิตนี้มาทั้งชีวิต เขาดูดดึงเรียวลิ้นเล็กๆ นั้นอย่างแรง เราจูบกันเนิ่นนานจนเกิดเสียงดังฉ่ำแฉะไปทั่วรถม้า เธอร้องครางในลำคอเมื่อมือของเขาเลิกกระโปรงของเธอขึ้นมาอีริคในวันนี้ดูร้อนรนอย่างบอกไม่ถูก อาจจะเพราะว่าเราไม่ต้องคำนึงถึงอะไรทั้งนั้น..จากนี้ไปเราแค่คิดถึงความต้องการของตัวเองแค่เท่านั้นก็พอ เรื่องหลังจากนั้นไม่ต้องมาคอยวิตกกังวลใดๆ ทั้งสิ้นเขาใช้นิ้วจับแหวกกางเกงซับในของเธอไปไว้ที่ด้านข้างเพื่อให้นิ้วมือของเขาได้ลูบไล้กับกลีบดอกไม้ที่ฉ่ำแย้มนั้นโดยตรง เจเนวีเธอก็ไม่ยอมแพ้เธอจู่โจมเข้าที่กลางลำตัวของเขาอย่างอุกอาจ ปลายนิ้วกำลังเล่นสนุกอยู่กับความโค้งมนตรงส่วนปลายก่อนที่เธอจะเริ่มรูดรั้งมันขึ้นมาเพื่อปลุกสัญชาตญาณดิบเถื่อนในใจของเขาขึ้นมาเขาจดจ้องดวงตาคู่นั้
อีริคเลิกคิ้วขึ้นด้วยความประหลาดใจเมื่อเขาพบเจอท่านข้าหลวงที่เดินทางมาที่วิหารด้วยความเร่งรีบ“องค์จักรพรรดิทรงมีรับสั่งให้จัดเตรียมจอกศักดิ์สิทธิ์และให้คาดินันระดับสูงไปทำพิธีหลั่งเลือดด้วย..เก็บเรื่องนี้เอาไว้เป็นความลับแล้วเร่งรีบตามมาเถิด”อีริครีบเดินเข้าไปหาท่านคาดินันลำดับที่หนึ่ง“ให้ข้าช่วยนะครับ ท่านคาดินันไปเตรียมตัวเถิด ส่วนข้าจะไปจัดเตรียมของให้เอง”จะมีเรื่องใดอีกเล่าที่ต้องใช้วิธีการหลั่งเลือดใส่จอกศักดิ์สิทธิ์ หากมิใช่การเทียบเคียงสายเลือด พิธีนี่คือพิธีที่มีตั้งแต่แรกเริ่มก่อตั้งจักรวรรดิ เพราะองค์จักรพรรดิองค์แรกมีความสัมพันธ์กับสตรีมากมาย นั่นทำให้มีผู้คนจำนวนไม่น้อยที่มาแอบอ้างว่าตนเองคือองค์หญิงและองค์ชาย เรื่องนี้ทำให้เมืองหลวงปั่นป่วนมากทีเดียว ท่านคาดินันระดับสูงในช่วงเวลานั้นจึงเดินทางเพื่อตามหาจอกศักดิ์สิทธิ์ในตำนานเพื่อหาข้อพิสูจน์ว่าผู้ใดที่กันแน่ที่มีสายเลือดขององค์จักรพรรดิจริงๆหากเป็นสายเลือดเดียวกัน เลือดที่หลั่งรินลงในจอกศักดิ์จะหลอมรวมเป็นหนึ่ง แต่ทว่าหากมิใช่สายเลือดเดียวกัน เลือดจะแยกตัวและไม่ทำให้น้ำในจอกเปลี่ยนเป็นสีแดง..หากอีริคคาดเดาไม่ผิด นี่