Share

เป็นเมียหมอผี บทที่ ๒ (๑)

Penulis: Madam Hangover
last update Terakhir Diperbarui: 2025-06-02 00:01:59

แพรวพราวค่อยๆ วางผ้าดึงให้ตึงแล้วถูไปตามพื้นเรือน นี่คือวันที่สามที่หล่อนอยู่ที่นี่ แน่นอนว่าต้องปรับตัวอย่างแรงกล้า เพราะวันๆ ต้องคลุกอยู่กับการทำงานบ้านงานเรือน แถมข้าวที่ได้กินก็เป็นเพียงห่อข้าวใบตองกับปลาย่างตัวเล็กๆ และน้ำพริกแห้ง บางอย่างที่คนรวยไม่ติดดินอย่างเธอไม่รู้จัก ห่อข้าวนิดเดียวพอทน (เพราะเธอชอบไดเอต) แต่น้ำพริกอะไรไม่รู้โคตรเผ็ด แต่พอจิ้มกินกับปลาย่างก็อร่อยดี แต่ผักที่แกล้มมาเป็นไปได้เธอจะเอาไปให้สุนัขที่พ่อครูคันศรเลี้ยงไว้กินแทน

สุนัขตัวนั้นเป็นสุนัขจรจัด เป็นหมาพันธุ์ไทยหลังอานตัวสีดำสนิท หน้าตาดูดุแถมยังตัวใหญ่ แต่เพราะแพรวพราวเป็นทาสหมามาก่อน เธอเคยเลี้ยงสุนัขจรจัดอยู่ตัวหนึ่ง มันเป็นเรื่องบังเอิญจากความใจบุญของพ่อ แต่ถ้าให้เล่าคงยาว ตอนนี้ก็คิดถึงเหมือนกันแต่กลับไปไม่ได้แล้ว แต่ผักน่ะให้กินเพราะไม่อยากกินด้วยล่ะนะ แต่มันก็ยอมกินให้อย่างเอร็ดอร่อย

ว่านอนสอนง่าย น่ารัก กินง่ายอยู่เป็น ชอบมาอ้อนขอผักขอข้าวจากหล่อนได้สองวันแล้ว

ไม่รู้ว่าพ่อหมอนั่นตั้งชื่อมันว่าอะไรเพราะวันๆ หน้าเธอเขาแทบไม่อยากจะมอง ก็เลยตั้งชื่อให้มันว่า ‘โรเบิร์ต’ แทน

ก็ถ้าทานอะไรเหลือ ดูอีกฝ่ายจะหน้าบึ้งบูด เขาดูรำคาญหล่อนทุกวินาที ถึงจะไม่แสดงออกมาตรงๆ

เวียนกลับมาที่ปัจจุบัน

สาวเจ้าโก่งโค้งถูพื้นด้วยความยากลำบาก เพราะไม่เคยทำงานอะไรพวกนี้ตั้งแต่เด็กอยู่แล้ว สักพักเอวก็เคล็ดจนต้องลุกขึ้นยืนร้องโอดโอย เธอออกกำลังกายและเล่นโยคะเป็นประจำเนื่องจากพอเป็นดาราก็ต้องควบคุมสรีระ แถมยังต้องคุมอาหารเพื่อให้หุ่นสวยตลอดเวลา แต่บางทีถ้าทำงานหนักไม่มีเวลาจนหุ่นที่เซ็ตมาพัง ก็ต้องพึ่งทางลัดบ้างอะไรบ้าง (อย่างเช่นฉีดแฟต)

แต่ต้องยอมรับว่าการออกกำลังกายกับเทรนเนอร์แล้ว การทำงานบ้านเป็นอะไรที่หนักหนาสาหัสกว่ามาก เรียกได้ว่าออกกำลังกายมันเฉพาะส่วน แต่พอทำงานบ้านเหมือนได้ออกทุกส่วน

ถูพื้นเรือนไปจนหมดหนึ่งห้องก็แทบหอบ หล่อนจึงมานั่งพักอยู่หลังกระไดเรือนติดกับป่ากล้วย พอเป็นตอนกลางวันก็ดูน่ากลัวน้อยลงหน่อย จึงวักน้ำจากตุ่มมาล้างหน้าล้างตาที่ชื้นเหงื่อ

แต่ยังพักไม่ทันไร ก็ปรากฏร่างสูงใหญ่ในชุดไทยโบราณที่ยืนอยู่บนกระไดเรือน สาวเจ้าสะดุ้งโหยงนึกว่าผี ไม่ชินกับบรรยากาศไทยๆ จนบางครั้งก็ตกใจที่เขาปรากฏตัวเงียบๆ แบบไม่บอกไม่กล่าว

“ถูเรือนเสร็จแล้วหรือ?” เขาไขว้หลังหน้าตึงกวาดสายตามองหล่อนตั้งแต่หัวจรดเท้า “ในห้องบูชาอย่าได้ยุ่มย่ามเป็นอันขาด กูจักดูแลของกูเอง ในนั้นมีพ่อแก่ ฤาษี มิควรชิดของต่ำ”

“...”

“อ้อ...” เมื่อเห็นว่าหญิงสาวนิ่งชะงักไป เขาเลยฉีกยิ้ม “หมายถึงผ้าขี้ริ้วน่ะ ที่กูว่าเป็นของต่ำ”

“จ้ะ” หล่อนรับคำ แอบฉุนหน่อยๆ เพราะรู้สึกเหมือนโดนเหน็บทางอ้อม แต่ก็ช่างมัน เธอเป็นคนสวยจิตใจงามที่ไม่ถือสาปากหมาๆ ของใครสักคนอยู่แล้ว เพราะมั่นใจในตัวเองมากพอว่าไม่ได้เป็นอย่างที่คนพวกนั้นพูด หล่อนคือของสูงที่สูงจนเรียกได้ว่าหนาว! “เสร็จไปห้องหนึ่งเจ้าค่ะ มีอะไรอีกไหมคะ?”

“โอ่งมังกรที่มึงวักล้างหน้าอยู่นั้น ใกล้เหือดเต็มทีแล้วเห็นหรือไม่”

“คะ?” แพรวพราวรู้สึกเหมือนตัวเองหูฝาด เขาพูดเหมือนกำลังจะใช้ให้หล่อนไป...

“หาบน้ำมาเติมให้เต็มโอ่งเสีย”

ไม่อยากจะเชื่อว่าพ่อหมอหน้าหล่อคนนั้นจะกล้าใช้ดาราดังอย่างเธอไปแบกตุ่มน้ำ ที่เป็นเพียงคานหาบถังไม้เล็กๆ ที่ดูเหมือนวนรอบเดียวยังไม่ถึงครึ่งโอ่งด้วยซ้ำ อีแบบนี้มันแกล้งกันชัดๆ หล่อนขัดเคืองใจเหลือเกิน อยากจะจับหัวเขามาเขย่าๆ ให้หลุดมาทั้งหัวว่าคิดบ้าอะไรอยู่ แต่เพราะตอนนี้ตัวเองถือเบี้ยต่ำกว่า เลยทำได้เพียงแค่กัดฟันกรอดเดินหาบถังไม้ไปตามทางลาดดิน ฝ่าป่าดงกล้วยไปอย่างไม่กลัวตาย

“แถวนี้เป็นป่ากล้วยขนาดใหญ่ เมื่อพ้นจากป่าไปจักมีหมู่บ้านเล็กๆ เมื่อข้ามหมู่บ้านเล็กๆ ไปจักเป็นท่าน้ำใหญ่”

คิดถึงการบอกทางที่เป็นรูปประโยคกว้างๆ ที่หาสาระสำคัญอะไรไม่ได้ของหมอผีหน้าหล่อคนนั้นแล้วก็ได้แต่เจ็บใจ ถ้าที่นี่เป็นยมโลกและเธอก็เป็นวิญญาณแล้วจริงๆ บุญที่สร้างมาควรทำให้แพรวพราวสามารถเหาะเหินลอยอยู่บนอากาศได้บ้างสิ (ก่อนตายเธอเคยร่วมเงินสร้างโอบสถ วิหารเจดีห์หลักหลายล้าน) เหมือนวิญญาณตามปกติน่ะ แต่ทำไมคราวนี้เหมือนหล่อนจำต้องเดิน เดินและเดินไปเรื่อยๆ อย่างไม่มีจุดหมาย ต้นกล้วยก็ใหญ่โตบดบังทางไปจนหมด เสียงนกอีการ้องแสกหน้าดังอยู่เป็นระยะๆ ทั้งที่ในพื้นที่แห่งนี้ไม่ควรมีสัตว์จำพวกนี้อยู่ด้วยซ้ำ แถมแสงตะวันส่องลงมาเสียดแทงก็สว่างโร่จนแสบตา

หล่อนไม่รู้ว่าทำไมถึงต้องเชื่อฟังเขาด้วย เพราะไม่มีทางเลือกก็คงใช่ แต่แบบนี้มันไม่ใช่สถานะที่เคยเป็นอยู่เลยสักนิด

คอยดูเถอะถ้ารอดไปได้แม่จะเล่นให้ไม่มีที่ยืนเลยคอยดู

ไม่ว่าจะโหนกระแสหรือรายการแฉ หรือแม้แต่ข่าวใส่ไข่ เธอจะไปออกรายการเหล่านั้นแล้วทำลายชีวิตเขาด้วยพลังโซเชี่ยลให้พังทลายแบบย่อยยับไม่มีชิ้นดี (ถ้าสมมุติว่าตอนนี้เธอยังมีชีวิตอยู่จริงๆ) ให้มันรู้ไปว่าแฟนคลับของเธอพอรวมตัวแล้วช่างมีพลังแกร่งกล้าแค่ไหน

เดินฮึดฮัดนึกขบฟันหาวิธีแก้แค้นพ่อครูคันศรอยู่สารพัดวิธี แต่ไม่ทันไรก็รู้สึกเหมือนตัวเองจะเวียนกลับมาที่ต้นกล้วยสูงๆ ต้นเดิม ต้นที่ผลกล้วยสุกเต็มต้นนั่นแหละ เธอเดินผ่านต้นกล้วยต้นนี้มาสองครั้งแล้ว

“นี่หลงป่ากล้วยเหรอเนี่ย?” หญิงสาวแทบกุมขมับ แต่สมัยออกกองถ่ายละครก็ไม่ใช่ว่าจะไม่มีงานที่สมบุกสมบันบ้าง เธอปอกเปลือกกล้วยเครือหนึ่งไว้ให้ลอกทั้งหมดเพื่อเป็นจุดสังเกตง่ายๆ แล้วตัดสินใจเดินต่อไป

และแล้วก็เป็นต้นเดิม เครือที่ปอกเปลือกกล้วยออกด้วยฝีมือหล่อนนั่นเอง แพรวพราวมองซ้ายมองขวาหาเส้นทางใหม่ เธอไม่มีเข็มทิศจึงไม่รู้ว่าตอนนี้ตัวเองเดินไปถึงส่วนไหนของป่า และป่ากล้วยมันลึกแค่ไหน

แต่ดูจากสายตาตอนอยู่ที่เรือนไทยนั่น ก็ลึกอยู่พอประมาณ

แล้วแบบนี้จะไปต่อทางไหนดีล่ะ!

ตัดภาพมาที่เรือนไทยใหญ่ ในขณะเดียวกันพ่อครูคันศรก็กำลังนั่งทางในและรู้ได้ว่าอีกฝ่ายที่ออกเพทุบายให้เข้าไปหาบน้ำในป่ากำลังหลงอยูในป่ากล้วยรกชัฎ ดวงหน้าชายหนุ่มปรากฏรอยยิ้มเหยียดหยามอย่างรุนแรงที่สุด

“หญิงโง่ แถมยังวิปลาส กูปลูกป่าด้วยคาถาลวงตาเช่นนี้ มึงมิมีทางหลุดรอดไปจากป่านี้ รวมถึงหลุดไปเป็นเมียพระยาสิงห์แน่”

เท่านี้อีแพรวก็จะไม่สามารถทำร้ายคุณหญิงวาดรักได้อีกต่อไป

“ผีกะ จงไปเอาชีวิตนางกลางป่าเสีย” เขาเรียกภูตผีบริวารของตนออกมาจากหม้อดินลงผ้ายันต์ใบใหญ่เก่าแก่ที่เปื้อนเลือดพร้อมกับลอกผ้ายันต์ออก มวลสารปรากฏเป็นผีกะตายโหงตนหนึ่ง ดวงหน้าสะอิดสะเอียนผิดรูปมิต่างจากศพคนเดินดินค่อยๆ จางหายไป ดวงหน้าคมคายจึงกรีดยิ้มชั่ว

“มึงมีรอดดอก กูจักกำจัดมึงให้สิ้น!”

Lanjutkan membaca buku ini secara gratis
Pindai kode untuk mengunduh Aplikasi

Bab terbaru

  • เมื่อนางร้ายเกิดใหม่เป็นเมียหมอผีเเห่งกรุงศรีอโยธยา   เป็นเมียหมอผี ปัจฉิมบท

    เมื่อสุดท้ายเขาต้องจากกับเธอ ทั้งความตายที่เคยเป็นคำสาปแช่งที่มาจากอคติ ทั้งความรู้สึกชิงชังในวันนั้น ที่ในวันนี้มันกลายเป็นเพียงคำหลอกลวง เพราะเขานั้นหลงรักอีแพรวตั้งแต่แรกเจอแรกเริ่มอาจจะเป็นเพราะดวงหน้าที่คล้ายคลึงกับดอกรัก จนรู้สึกไปเองว่านั่นอาจเป็นความชิงชังที่ดูคล้ายกับยาพิษอันหอมหวาน ความรู้สึกในตอนที่ร่วมรักกับเธอ นั่นราวกับการมอบพรหมจรรย์ให้กับโอกาสสุดท้ายที่ก้าวเข้ามา ไม่ว่าหล่อนจะเป็นใครแปลงกายมากันแน่ทุกวันเขาบอกตนเองว่า ดอกรักไม่มีจริง คนที่คล้ายคลึงกับดอกรักเองก็ไม่มีจริงเช่นเดียวกัน ผู้หญิงที่อยู่ตรงหน้านั้น ไม่ใช่ดอกรัก เธอเป็นเพียงสัตว์ประหลาด ที่หน้าตาคล้ายกับคนอัครที่เขาเคยรักเท่านั้นการปฏิบัติตัวที่ผ่านมากับแพรวพราวนั้น ราวกับเป็นการชดเชยในสิ่งที่ตัวเองอยากจะทำกับดอกรักมาโดยตลอด ที่เธอเคยปฏิเสธเขา ที่เธอทำท่ารังเกียจรังงอนเขา ที่เธอไม่แม้แต่จะมอบดวงใจให้เป็นของเขา เขาใช้ความรู้สึกน่ารังเกียจด้านมืดเหล่านี้ ส่งต่อให้กับแพรวพราวซึ่งไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับไร ในเรื่องราว ระหว่างเขา และอดีตคนที่เขาแอบรักมาโดยตลอดเลยสักนิดแต่เมื่อรู้ว่าหล่อนไม่ใช่มนุษย์ อคตินั้นยิ่งบ

  • เมื่อนางร้ายเกิดใหม่เป็นเมียหมอผีเเห่งกรุงศรีอโยธยา   เป็นเมียหมอผี บทที่ ๑๓ (๖) จบตอน

    “แพรว ข้า...” ฝ่ามือหยาบหนานั้นกำหมัดแน่นจนสั่นเทิ้ม เขาแค้นใจและนึกอาฆาตเธอมาตลอดทั้งเรื่องราว แต่ทันทีที่เธอยอมรับความคิดนั้นของเขาและยอมที่จะตายโดยไม่มีข้อแม้ เขากลับรู้สึกเจ็บปวดไปทั้งหัวใจ “ข้า... ไม่กล้าพอที่จักฆ่าเจ้า ข้าจึงใช้สังวรีราพณ์เป็นข้ออ้างเท่านั้น”“แล้วมันต่างกันตรงไหน?”“วันนี้ข้ารู้แล้วว่าเจ้าคือสิ่งสำคัญ ข้าไม่ได้อยากขอโอกาสจากเจ้า ข้ารู้ว่ากำลังถูกหลอกใช้ แต่ข้า... กลับใช้สิ่งนั้นเป็นที่ยึดเหนี่ยวจิตใจเพียงเพื่อที่จะกำจัดเจ้า เจ้าจักไปจากข้าก็ได้ แต่ขออย่างเดียวให้ข้าได้แก้ไขในสิ่งที่ข้าเคยทำผิดพลาดไปด้วยเถิด” พ่อหมอไม่ได้เข้าใจความรู้สึกของตนเองอย่างถ่องแท้หรอก เขาก็แค่กลัวว่าจะเสียเธอไปทั้งอย่างนี้เท่านั้น เพราะความรู้สึกในตอนที่เห็นว่าไม่มีเธออยู่ตรงนั้น และห้องอันว่างเปล่านั่นทำให้เขาทรมานยิ่งกว่าตอนที่ดอกรักตายจากไปในอ้อมแขนของเขาเสียอีกอาจจะเพราะหล่อนหน้าตาคล้ายกับเมียที่ตายจากไปแล้วก็ได้ ผู้หญิงที่เขาจะไม่มีวันได้ครอบครอง ผู้หญิงที่ทั้งหัวใจมีเพียงแค่พรานสมิงเท่านั้น ผู้หญิงที่แม้แต่ลูกที่เขาเฝ้าดูแล ยังไม่ใช่ลูกที่เกิดมาจากเลือดเนื้อของเขาด้วยซ้ำเขาทำลา

  • เมื่อนางร้ายเกิดใหม่เป็นเมียหมอผีเเห่งกรุงศรีอโยธยา   เป็นเมียหมอผี บทที่ ๑๓ (๕)

    คำพูดของพรานสมิงทำให้แพรวพราวได้ฉุกคิด ที่ผ่านมาเธออาจไม่อยากยอมรับความจริงที่ว่าที่เธอรักนับสิบ และคิดว่าเขาคือคนที่อยู่เคียงข้างเธอ แสนดีกับเธอมาโดยตลอด อาจจะเป็นความรู้สึกถึงชัยชนะที่เธอมีต่อฟ้าลดา ผู้หญิงที่เป็นที่ต้องการของแม่มากกว่าเธอ เมื่อเธอตั้งท้องและคันศรไม่ต้องการกัน ทำให้แพรวพราวรู้สึกเหมือนถูกปฏิเสธอีกครั้ง เธอเสียใจ และเมื่อเขาพาวาดรักเข้ามา เธอจึงรู้สึกเหมือนถูกเหยียบย่ำตัวตนของตนเองจนลบเลือนหายไปที่บอกว่าการไม่มีแม่ก็ไม่เห็นเป็นไรที่จริงแล้วเธออาจจะโกหกตัวเอง การที่เธอบอกว่าเธอรักนับสิบอาจจะเพราะว่ามันคือชัยชนะที่โหยหามาโดยตลอด กับผู้ชายที่ฟ้าลดาหลงรัก แพรวพราวไม่มีวันลืมวันที่เธอก้าวเข้าหาเขา เพราะว่าข่าวลือที่ฟ้าลดาคนนั้นชอบพอกับคนในวงการเดียวกันที่เล่นละครด้วยกันเป็นคู่พระนางตลอดมาเหมือนที่ฟ้าลดาเป็นที่ต้องการของแม่มากกว่าเธอผู้หญิงคนนั้นไม่ได้ทำอะไรผิด เธอไม่รู้เรื่องราวการมีอยู่ระหว่าง DNA ของแม่กับแพรวพราวด้วยซ้ำ นับสิบเองก็ไม่ได้ผิดที่หลงรักเธอ มันก็แค่ความเห็นแก่ตัว และต้องการเรียกร้องความรักจากแม่ของเธอเท่านั้นมันก็แค่ความอิจฉาที่น่ารังเกียจของเธอเอง... ค

  • เมื่อนางร้ายเกิดใหม่เป็นเมียหมอผีเเห่งกรุงศรีอโยธยา   เป็นเมียหมอผี บทที่ ๑๓ (๔)

    “นึกสงสัยขึ้นมาได้แล้วหรือแม่หญิงของข้า?”แต่ทว่าในขณะที่กำลังจมอยู่ในห้วงความคิดของตนเอง ท่ามกลางร่างใหญ่มหึมาของกานพลูนั้นปรากฏร่างของชายผู้หนึ่งโผล่ตัวขึ้นมาเหนือกายยักษ์ของช้างเชือกนั้น“... พรานสมิง” แพรวพราวยอมรับตามตรงว่าตกใจ ก็ไหนว่าเขาหนีหายออกไปแล้วยังไงล่ะ เพราะว่ารับไม่ได้ที่เธอตั้งท้องกับคันศร หรือว่าผัวเธอโป้ปดกันอีกแล้ว?“คิดถึงข้าหรือไม่” เขาไถ่ถาม โดยไม่ดูสถานการณ์ว่าหล่อนกำลังเข้าตาจนอยู่เลยสักนิด“นะ... ไหนพี่ศรบอกว่านายหนีไปแล้ว?”“ข้าแค่แวะไปหาลูกเท่านั้นแล” ชายหนุ่มทำได้แค่เพียงยักไหล่ปัดป้องและบอกความเป็นจริง “โดนทิ้งมาอีกแล้วสินะ”หากแต่ประโยคต่อมากลับทำให้เธอรู้สึกเจ็บที่หัวใจดวงน้อยๆ โดยไม่มีสาเหตุ จะว่าอย่างนั้นก็ไม่เชิง หรือจะยอมรับว่ามันไม่ใช่ก็ได้ เพราะเธอเป็นคนตัดสินใจหนีออกมาด้วยตัวเองต่างหาก… แต่นั่นก็เพราะว่าคนๆ นั้นแสดงออกว่าไม่ต้องการกันแล้วไม่ใช่หรือยังไง ก็เลยเจ็บใจเหมือนโดนแทงใจดำกันอย่างช่วยไม่ได้“พูดบ้าๆ ฉันต่างหากที่อุ้มท้องหนีออกมาเพราะเขาพาคุณวาดรักกลับมาที่เรือนนั่น” หญิงสาวคิดว่าเธอไม่จำเป็นต้องโกหกผู้ชายตรงหน้าหรอก เขาเห็นสภาพน่าสมเพชน

  • เมื่อนางร้ายเกิดใหม่เป็นเมียหมอผีเเห่งกรุงศรีอโยธยา   เป็นเมียหมอผี บทที่ ๑๓ (๓)

    อยู่ดีๆ เมื่อรู้ว่าหล่อนได้หนีหายออกไปหลังจากที่เขาได้พาวาดรักกลับมาและปลดแอกทุกอย่าง คันศรที่เคยมั่นอกมั่นใจว่าเขาเกลียดชังหล่อนเหลือเกิน และต้องการจะฆ่าหล่อนมากที่สุด กลับรู้สึกเจ็บปวดกับการที่ไม่มีเธออยู่ในห้อง และได้รับรู้ว่าเธอหนีออกไปแล้วเพราะทนอยู่ร่วมกันไม่ได้อีกต่อไป การตามหาเธออาจจะยากเย็นเพราะว่าอีกฝ่ายไม่ใช่มนุษย์ แถมยังเป็นอสุรกายในตำนานอีกต่างหาก ยิ่งอีกฝ่ายต้องการจะหนีหน้าเขาด้วยแล้ว คงสามารถลบกลิ่นอายของเดรัจฉานได้จนไม่เหลือร่องรอยเป็นแน่ทำไมเขาถึงได้เพิ่งมารู้สึกตัวเอาป่านนี้?ทำไมถึงเพิ่งมารู้สึกได้ว่าเธอและลูกสำคัญกับเขาเพียงไหน ทั้งที่รู้อยู่แก่ใจว่าลูกในท้องนั้นอาจจะไม่ใช่เด็กคนหนึ่ง แต่จะเป็นยาพิษเสียด้วยซ้ำ“ภูติผีทุกตนที่กูมีอยู่ในขณะนี้ จงออกไปตามหานางแลพานางกลับมาหากูให้ได้ ไม่ว่าจะเจอนางในสภาพไหน ก็จงบอกนางว่ากู...” ท้ายประโยคเขากลืนน้ำลายเพียงอึกเดียวด้วยความยากเย็นที่จะกล้าก้าวผ่านทิฐิที่สูงเสียดฟ้า เผลอลืมตัวไปว่าเคยพูดว่าเกลียดเธอขนาดไหน ก่อนที่จะกลั้นใจโพล่งขึ้นประกาศิตออกมา “ต้องการนาง”เงามืดจำนวนมากหลุดพ้นออกไปจากเขตอาคมของเขา และออกตามหาหญิงสาวที่เ

  • เมื่อนางร้ายเกิดใหม่เป็นเมียหมอผีเเห่งกรุงศรีอโยธยา   เป็นเมียหมอผี บทที่ ๑๓ (๒)

    “อย่างไรลูกก็รู้สึกไม่ดีเจ้าค่ะ ที่ราวกับว่าจะเข้ามาคั่นกลางระหว่างพ่อกับเมียของท่านเช่นนี้”วาดรักโพล่งขึ้นมาหลังจากที่คันศรเข้ามาดูแลเธอด้วยการนวดปลายนิ้วเท้าที่ชาวางลงกับขันรองน้ำอุ่น คอยนวดส่วนไม่งามและอาจผิดครูให้ลูกที่ไม่ใช่เลือดเนื้อเชื้อไขของตนทั้งที่ไม่จำเป็นเลยด้วยซ้ำแน่นอนว่าเขาเองไม่รู้ว่ากำลังคิดอะไรอยู่ถึงเข้ามาทำเช่นนี้โดยไม่มีปี่ไม่มีขลุ่ย หลังเห็นว่าลูกสาวที่พากลับมาที่บ้านกำลังพยายามนวดปลายนิ้วเท้าของตนเอง อาการชาน่าจะมาจากท้องที่ใหญ่โตเกินร่างกายไปกระมังแม้นิสัยจะไม่ใช่คนที่มีความละเอียดอ่อนอะไรนัก แต่เขาเองก็พอเคยดูแลเมียท้องแก่ที่ไม่ได้รักเขาเลยอยู่บ้าง จะให้มาดูแลลูกเลี้ยงที่ไม่มีแม้แต่เลือดเนื้อของตนเองเลยอีกก็ไม่เห็นเป็นอะไรเลยนี่ก็แค่... อาจเพราะว่าดวงของเขาดึงดูดมาแต่คนที่ไม่ได้เป็นของตัวเองมาทั้งชีวิตก็ได้ล่ะมั้งหากแต่สิ่งเดียวที่ชัดเจนในวันนี้... คือหลังจากที่วาดรักได้กลับมาที่นี่ ความรู้สึกสงบในจิตใจจึงได้หวนคืนกลับมาอีกครั้ง อาจเพราะได้เจอกับผู้หญิงคนนั้นชีวิตที่ผ่านมาจึงปั่นป่วนรวนเร ทั้งความรู้สึกแย่ๆ จิตใจอันคิดลบและความฟุ้งซ่านเกี่ยวกับอดีตที่เลวร

Bab Lainnya
Jelajahi dan baca novel bagus secara gratis
Akses gratis ke berbagai novel bagus di aplikasi GoodNovel. Unduh buku yang kamu suka dan baca di mana saja & kapan saja.
Baca buku gratis di Aplikasi
Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status