Share

ตอนที่8

last update Last Updated: 2025-01-02 21:28:16

“ฉันก็ไม่ขอบคุณอีกเหมือนเดิม….”ฉันก็เข้าใจที่เขาพูดจึงเอื้อมมือไปหยิบถุงพลาสติกนั้นมาจากมือเขาอย่างไวและเอ่ยบอกเขาไป

“ก็ไม่ได้ว่าอะไร”เขาไหวไหล่เล็กน้อยอย่างไม่ใส่ใจก่อนที่เขาจะค่อยๆนั่งลงบนเก้าอี้ตัวเดียวกับฉันและนั่งข้างๆฉัน

ฉันก็เริ่มเปิดถุงพลาสติกดูว่าเขาเอาอะไรมาบ้าง ก็มีน้ำยาแอลกอฮอล์ล้างแผลหนึ่งขวดใหญ่ยาแดงใส่แผลหนึ่งขวดใหญ่ยาแก้ปวดยาแก้อักเสบอย่างละสามชุดและสำลีอีกหนึ่งห่อใหญ่

“ทำไม….เธอถึงกลัวตาย….”อยู่ดีๆเขาก็เอ่ยขึ้นถามคำถามที่ฉันไม่คิดว่าคนปกติทั่วไปจะคิดแบบนี้ ใครบ้างล่ะไม่กลัวตายน่ะ ทุกคนกลัวตายกันทั้งนั้นแหละ ถึงแม้จะรู้อยู่แก่ใจว่า คนเราเกิดมาแล้วก็ต้องตายทุกคนจะช้าหรือจะเร็วก็แค่นั้นแหละ

“ก็ฉันกำลังมีความสุขอยู่กับชีวิตของฉันในตอนนี้มากกกกกก”ฉันบอกเขาไปตามความจริง

“ยังไง?”เขาขมวดคิ้วมองหน้าฉันอย่างงุนงงและสงสัย ฉันก็ผ่อนลมหายใจออกมาก่อนจะค่อยๆเล่าเรื่องของฉันที่ฉันมีความสุขให้เขาฟัง ว่าฉันมีความสุขยังไงบ้างกับชีวิตของฉันในตอนนี้^_^

“ฉันได้ทำในสิ่งที่ฉันรัก….และฉันชอบมาตั้งแต่ๆเด็กๆ…”

“ฉันได้ประสบความสำเร็จตามความฝันของฉัน…ด้วยอายุแค่ยี่สิบกว่าๆ…ฉันมีความสุขกับชีวิตของฉันในตอนนี้ที่ไม่ต้องแบมือของเงินพ่อแม่…”

“นาย….ไม่มีความสุขเหรอไง?”ฉันเอ่ยถามเขากลับไปทันทีอย่างคนที่ไม่ได้คิดอะไรเพราะฉันเห็นว่าเขามีแววตาที่เศร้าสลดลงอย่างเห็นได้ชัดตอนที่ฉันบอกเขาว่าฉันมีความสุขกับงานที่ฉันทำมาก แววตาที่ฉันพูดก็คงจะแพรวพราวล้นเปี่ยมไปด้วยความสุขที่ฉันมี

“กับงานที่นายทำน่ะ….หรือนายไม่มีงานทำ?”

“เธอทำงานอะไรเหรอ….ที่เธอบอกว่ารักน่ะ?”เขาไม่ตอบคำถามฉันแต่กลับยิงคำถามใส่ฉันแทน

“ฉันเป็นนักเขียนนิยาย^_^”ฉันตอบเขาไปอย่างภาคภูมิใจและยิ้มกว้างจนแก้มแทบปริ

“งานของฉันขายได้เป็นหมื่นๆเล่มเลยนะ…”

“และได้ตีพิมพ์ถึงสามครั้งต่อหนึ่งปีแหนะ^_^”

“ไม่เชื่อฉันเหรอ….ถึงทำหน้าแบบนั้น?”ฉันถามเขาเสียงเข้มที่เขาทำหน้าเหมือนไม่เชื่อในสิ่งที่ฉันพูด

“ก็เชื่อ….แต่เธอก็มองดูมีความสุขจริงๆด้วย”

“ใช่ไหมล่ะ…^_^”ฉันยิ้มกว้างจนลืมไปเลยว่าฉันกำลังทำแผลค้างไว้อยู่

“แล้วนายล่ะ….นายได้ทำในสิ่งที่ตัวเองรักไหม?”

“ก็….ทำนะ…”

“ตอนเด็กๆนายฝันว่าอยากเป็นอะไรเหรอ?”

“นักร้อง….”

“นักร้อง?”ฉันแทบจะหัวเราะออกมาเมื่อได้ยินความฝันของอีตาหน้าหล่อนี่ หน้าอย่างเขานี่น่ะเหรอที่จะเป็นนักร้อง รอยสักเต็มตัวแบบนี้ ใครเขาจะรับเข้าสังกัดไปทำเพลงอ่ะ

“หน้าอย่างฉันเนี่ย….ไม่เหมาะที่จะเป็นนักร้องเหรอ?”เขาเอ่ยถามฉันมาด้วยหน้าตาที่โคตรน่าขำอะ คนอะไรทำหน้าเหวอได้เท่ห์สุดๆ ช่างขัดกับรอยสักบนตัวเขามากเลยน่ะเนี่ย

“ฮ่าๆๆๆ…อุ๊ย….ขอโทษ…”ฉันขอโทษเขาไปที่เผลอลืมตัวหัวเราะเขาซะได้

“เธอ….ไม่รู้จักฉันเหรอ?”เขาเอ่ยถามฉันกลับมาพร้อมกับใช้นิ้วชี้ของเขาชี้ไปที่ตัวเขาเอง

“ฉันจะรู้จักนายได้ยังไง….ในเมื่อเราเพิ่งเคยเจอกันครั้งแรก…..”

“และฉันยังไม่ได้ถามชื่อนายเลยด้วย”ฉันพูดต่อพลางทำหน้างงๆใส่เขาและเริ่มหันมาก้มหน้าก้มตาทำแผลบนขาของฉันต่อ มันก็ไม่ได้เป็นแผลลึกอะไรมากหรอก แต่ทำไมเลือดมันออกเยอะจังนะ?

ติ๊ดดดดด

“โทรศัพท์เธอ?”เขาพูดพร้อมกับมองตรงไปที่แสงจากหน้าจอโทรศัพท์เครื่องหรูของฉันที่มีสายเรียกเข้าจากลูกหว้าโทรเข้ามา

“อืม…ใช่…เพื่อนฉันโทรมาน่ะ…แต่มันรับไม่ได้เพราะหน้าจอแตกละเอียดขนาดนี้…”ฉันว่าพร้อมกับหมดอาลัยตายอยากกับโทรศัพท์ราคาแพงของฉันที่เพิ่งจะซื้อออกมาได้ไม่ถึงเดือนเอง

พรึบ

“เอาของฉันไปดิ….”เขาว่าพร้อมกับยื่นโทรศัพท์ให้ฉัน ซึ่งมันเป็นรุ่นเดียวกับของฉันแต่เป็นสีดำ

“เพราะยังไงๆฉันก็คงจะไม่ได้ใช้มันอีกแล้ว….”เขาพูดออกมาด้วยน้ำเสียงเศร้าลงหน้าตาดูเศร้าหมองทำให้ฉันมองหน้าเขาอย่างสงสัย ว่าเขาเป็นอะไรกันแน่

“ทำไมล่ะ…เอ่อจริงสิ…เมื่อกี้ฉันเห็นนายทำท่าจะกระโดดน้ำด้วย…”

“นายจะฆ่าตัวตายเหรอ?”ฉันโผงผางถามออกไปอย่างอยากรู้

“อืม…”เขาตอบฉันสั้นๆก่อนจะเงยหน้าขึ้นไปมองท้องฟ้าด้วยแววตาเอื่อยเฉื่อยและเหม่อลอย

แววตาที่เต็มไปด้วยความเศร้า ความเหงา…

พรึบ

“อย่าฆ่าตัวตายเลยนะ….มันเป็นบาป….”ฉันโผเข้าสวมกอดร่างของเขาและเอาหน้าซุกลงไปบนหน้าอกของเขาและเอ่ยบอกเขาไป อาการแบบนี้…โรคซึมเศร้าแน่ๆ

เขาคนนี้ต้องเป็นโรคซึมเศร้าอยู่แน่ๆ….

“ถ้านายฆ่าตัวตาย….นายจะยังไม่ได้ไปเกิด…มันเป็นกรรมที่ผิดมหันต์…”

“คนเราเกิดมา….กว่าจะได้เกิดเป็นมนุษย์…มันไม่ง่ายเลยนะ…”

“นายไม่สงสารพ่อแม่นายเหรอ…ที่พวกท่านเลี้ยงดูนายมาจนนายโตได้ขนาดนี้…นายไม่คิดที่จะตอบแทนบุญคุณพวกท่านเลยเหรอ?”

ตึกตักๆๆๆๆ

เสียงหัวใจเต้นรัวของร่างสูงที่นั่งตัวแข็งทื่อส่งเสียงดังออกมาทำให้ฉันค่อยๆเงยหน้าขึ้นไปมองหน้าเขาหน้าตาขาวใสของเขากำลังอึ้งตกใจอยู่ ดวงตาชั้นเดียวของเขาเบิกโพลงขึ้น ฉันก็ค่อยๆคลายกอดของเขาและกลับมานั่งตัวตรงตามเดิมพร้อมกับเม้มปากแน่น

ที่ฉันเผลอกอดเขาไป จนลืมไปว่าเขาจะรังเกียจและหวาดกลัวฉันไหม แล้วเขาจะหาว่าฉันเป็นผู้หญิงใจแตกเหรอเปล่า ที่กล้ากอดผู้ชายที่เพิ่งจะพบเจอกันไม่ถึงชั่วโมงเนี่ย

“ขอโทษ….”ฉันเอ่ยเสียงเศร้าสลดขอโทษเขาไป เขาก็ดูเหมือนจะได้สติก็ค่อยๆหันกลับมามองหน้าฉัน แววตาของเขาสั่นไหว

พรึบ

“นะนาย”ฉันร้องเสียงหลงที่อยู่ดีๆนายหน้าหล่อนี่ก็คว้าร่างของฉันเข้าไปสวมกอดอีกครั้ง คราวนี้ ไม่ใช่แค่เสียงหัวใจของเขาแล้วล่ะ ที่เต้นรัวเร็วแต่มันเป็นเสียงหัวใจของฉันด้วย….น่ะสิ เต้นแรงไม่แพ้ของเขา และกลิ่นน้ำหอมอ่อนๆที่ลอยออกมาจากตัวของเขาอีก กำลังทำให้ฉันหวั่นไหว

ตึกตักๆๆๆๆ

“ฟอดดดด”เขาใช้น้ำหอมกลิ่นอะไรนะ…หอมจัง^//^ ฉันว่าในใจหลังจากที่ใช้จมูกสูดดมกลิ่นกายของเขาที่จมูกฉันไปอยู่ตรงหน้าอกของเขาพอดี…

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • เมื่อรักเดินทางมาเจอกัน   ตอนที่50

    เซฟเฮ้าส์ของไดร์ฟ…. 20:30น.ไอริส อันฤดี…..พรึบเพลี๊ย“โอ้ย!”ฉันร้องออกมาด้วยความเจ็บและคันขาทั้งสองข้างของตัวเองไปหมด นี่ฉันนั่งตบยุงที่มาดูดเลือดฉันตายไปกี่พันตัวแล้วหนิ!และที่ฉันเจ็บเพราะฉันตบขาตัวเองตรงที่โดนยุงกัดแรงไปน่ะสิ เวรกรรมๆแท้ๆๆเลย“เมื่อไหร่ไดร์ฟจะกลับมานะ….?”ฉันพึมพำขึ้นอย่างสงสัยและค่อยๆชะโงกหน้าเข้าไปมองในกระจกห้องนอนของไดร์ฟที่ตอนนี้ไปในห้องมืดมิดและดูเหมือนจะไม่มีคนอยู่เลย การ์ดชุดดำที่เคยเฝ้าตามจุดต่างๆตอนที่ฉันมาอยู่ที่นี่ครั้งแรกก็ไม่มีแล้ว “หรือ….ไดร์ฟจะไม่ได้อยู่ที่นี่แล้วนะ…”ฉันพึมพำอีกครั้งอย่างคนที่ใจเสียเพราะมันเงียบเกินไป ถ้าไดร์ฟอยู่ที่นี่มันต้องมีคนเดินไปเดินมาบ้างแหละ ป้าแม่บ้านไง“เอ่อใช่!”ฉันว่าอย่างนึกขึ้นได้ก่อนลุกขึ้นยืนทันที ฉันมานั่งโง่ให้ยุงกินเลือดอยู่ได้ไงเนี่ยตั้งนานสองนานตึกๆๆๆๆออดดดดดดดดดดเมื่อฉันนึกได้ว่าฉันพอจะรู้จักป้าแม่บ้านและป้าแม่บ้านก็พอจะรู้จักฉันอยู่บ้าง ฉันก็เดินมากดกริ่งหน้าประตูทางเข้าเซฟเฮ้าส์ทันที ตอนนี้ฉันอยู่ในตัวของบ้านหลังใหญ่นี้แล้วนะ ฉันแอบปีนรั้วเข้ามาก่อนน่ะ นึกว่ามีการ์ดชุดดำอยู่เยอะเหมือนเมื่อก่อนที่ไหนกล

  • เมื่อรักเดินทางมาเจอกัน   ตอนที่49

    2วันต่อมา…. คาเฟ่Aไอริส อันฤดี….พรึบ“ไอ….”“ยัยไอ…”“ไอริส!!!”“ห๊ะ!”ฉันร้องเสียงหลงพร้อมกับสะดุ้งสุดตัวด้วยความตกใจที่อยู่ดีๆยัยลูกหว้าก็มาตะโกนใส่หูของฉัน พรึบ“มีอะไรลูกหว้า…?”ฉันหันไปถามเธอพลางยกมือขึ้นมาจับหูตัวเองไปด้วยเพราะฉันรู้สึกแสบเเก้วหูเหลือเกินก็ยัยลูกหว้าเล่นตะโกนใส่หูฉันซะเสียงดังขนาดนั้น“แกนั้นแหละ…เป็นไร….เห็นนั่งเหม่อมาสองวันแล้ว..?”ลูกหว้าทิ้งตัวลงนั่งบนเก้าอี้ฝั่งตรงข้ามกับฉันพลางมองหน้าฉันและเอ่ยถามฉันด้วยความเป็นห่วง ฉันก็มองหน้าเธอด้วยแววตาสั่นไหวและเศร้านิดๆ ก็ตั้งแต่วันนั้นที่ไดร์ฟมาหาฉันที่คาเฟ่ลูกหว้าเขาก็ไม่เคยโทรหาฉันอีกเลย ฉันทักไลน์ไปก็อ่านแต่ไม่ตอบอะไรกลับมา โทรไปไดร์ฟก็ตัดสายฉันทิ้ง“ทำอย่างกับคนอกหัก…”ลูกหว้าว่าพลางดูดน้ำส้มในแก้วของเธอด้วยท่าทางมีจริต ฉันก็ไว้อาลัยให้กับชุดของเธอวันนี้ ฉันไม่รู้ว่าเป็นชุดหรือผ้าสีที่เขาใช้ผูกกันตามต้นไม้เพื่อขอเลขเด็ดกันแน่ หลายสีซะ“นี่…ตกลงแกกับท่านไดร์ฟเป็นอะไรกัน?”ลูกหว้าเอ่ยถามฉันเสียงเเข็งอย่างคาดคั้นเอาคำตอบจากฉันหลังจากที่เธอดื่มน้ำส้มในแก้วของเธอหมดไปครึ่งแก้วแล้ว ฉันก็มองหน้าลูกหว้าพร้อมกับถอนหายใจ

  • เมื่อรักเดินทางมาเจอกัน   ตอนที่48

    “มาได้ไงเนี่ย?”ฉันถามไดร์ฟไปอย่างสงสัยในขณะที่เราทั้งคู่กำลังเดินตามหลังของธามไฟท์เพื่อนของไดร์ฟที่อุ้มร่างที่ไร้สติของยัยลูกหว้าด้วยท่าเจ้าหญิงเพื่อพาเธอไปนอนพักยังที่ห้องนอนของเธอ “ตามเสียงหัวใจมา…หาจนเจอ^_^”ไดร์ฟตอบเสียงสดใสพร้อมยิ้มกว้าง ฉันก็ส่ายศีรษะไปมากับความทะเล้นของไดร์ฟ“ฉันถามจริงๆ!”“อ่ะๆๆไม่เห็นต้องอารมณ์เสียเลย^_^”ไดร์ฟว่าพร้อมกับยื่นมือมาลูบต้นแขนของฉันให้ฉันใจเย็นลง“ฉันตามจีพีเอสโทรศัพท์เธอมา^_^”ไดร์ฟตอบเสียงใสพร้อมกับยกหน้าจอโทรศัพท์ของเขาที่มีรูปหน้าของฉันกับรูปหน้าของไดร์ฟปรากฏอยู่บนหน้าจอสาร์ทโฟนเครื่องหรู โดยบอกที่ตั้งตำแหน่งเสร็จสรรพพร้อม“นี่นายแอบเอาโทรศัพท์ฉันไปเชื่อมกับโทรศัพท์ของนายหรือไง?”ฉันถามเสียงเเข็งอย่างไม่ค่อยพอใจไดร์ฟเท่าไหร่ ที่เขาแอบแชร์โลเคชั่นและแอบตามติดว่าโทรศัพท์ฉันอยู่ที่ไหน นั่นก็หมายความว่าไม่ว่าฉันจะไปที่ไหน ไดร์ฟก็สามารถรู้หมดเลย“ก็ฉันเอาไว้ดูเวลาคิดถึงเธอ…จะได้ตามมาหาถูกไง^_^”คำตอบของไดร์ฟทำให้ฉันถึงกับต้องเปลี่ยนสีหน้าทันที หัวใจก็พองโตเต้นตึกตักมาดื้อๆซะอย่างงั้น ความโกรธก่อนหน้านี้หายไปหมดเลย“^_^”ไดร์ฟยิ้มให้ฉันก่อนจะเอื้อมมือมา

  • เมื่อรักเดินทางมาเจอกัน   ตอนที่47

    16:30น. คาเฟ่Aไอริส อันฤดี……..พรึบ“นี่แก….”“ว่า?”ฉันขานรับพร้อมกับหันไปมองหน้าลูกหว้าที่ตอนนี้เธอกำลังง่วนอยู่กับการเก็บของตรงหน้าเคาน์เตอร์ที่ประจำของเธอเพราะเวลานี้เป็นเวลาเย็นแล้ว ลูกค้าก็ไม่มีแล้วและอีกสักพักก็ถึงเวลาปิดร้านของลูกหว้าแล้วด้วย วันนี้คุณแม่ของลูกหว้าและลูกน้องในร้านไปเปิดบูธที่ห้าง เลยเหลือแค่ยัยลูกหน้าเฝ้าร้านคนเดียว โดยมีฉันมาอยู่เป็นเพื่อนเธอและยังคอยเป็นเด็กเสิร์ฟให้เธออีกด้วย ในตอนที่ลูกค้าเยอะๆน่ะ“แกไม่สบายเหรอ?”ลูกหว้าเดินดุ่มๆมานั่งลงบนเก้าอี้ฝั่งตรงข้ามกับฉันพร้อมกับใบหน้าที่สงสัยและจับผิดฉันสุดๆที่ฉันใส่ผ้าปิดปากสีชมพูเพราะปกปิดริมฝีปากที่บวมเจ่อของฉันที่โดนไดร์ฟจูบไม่พักไปเมื่อคืนน่ะสิพูดแล้วโมโห!!!“อืม…แค่เจ็บคอน่ะ…ฉันกลัวว่าแกจะติดไปด้วย…”“เลยใส่แมสกันไว้เพื่อความปลอดภัย^_^”“จริงเหรอ?”ลูกหว้ามองหน้าฉันด้วยสายตาไม่เชื่อ เอาแล้วไง ฉันยิ่งเป็นคนที่โกหกไม่เนียนอยู่ด้วย“ก็อีกไม่กี่วันจะคอนเสิร์ตแล้ว….กลัวแกเจ็บคอและไม่มีเสียงกรี๊ดอ่ะ…”ฉันเลยหาข้ออ้างโดยใช้งานคอนเสิร์ตของวงเดอะปรินซ์ที่จะจัดขึ้นในอีกไม่กี่วันข้างหน้านี่มาเพื่อแสดงความเป็นห่วงเป็นใย

  • เมื่อรักเดินทางมาเจอกัน   ตอนที่46

    วันต่อมาห้องประชุม ค่ายTEชั้นที่20ไดร์ฟ ดรัณภพ….พรึบ“วันนี้ที่เรียกพวกเรามาประชุม…เพื่อจะจับฉลากกันเหรอครับ?”เอพริ้วที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้ามกับผมเอ่ยขึ้นหลังจากที่สายตาของเขาเพิ่งจะละมาจากหน้าจอสมาร์ทโฟนเครื่องหรูของเขาเอง“ใช่….”คุณมิตรหรือผู้จัดการประจำวงและมีหน้าที่คอยดูแลพวกเราทั้งห้าคนเอ่ยขึ้น ผมที่นั่งอยู่คนสุดท้ายในโต๊ะประชุมก็มองไปที่หน้าตาของเพื่อนร่วมวงแต่ละคน ทุกคนมีสีหน้าที่ตื่นเต้นและรอลุ้นกันอย่างใจจดใจจ่อตอนนี้ผมกลับไปเป็นปกติเหมือนเดิมแล้ว ไม่ใช่เอาแต่เก็บตัวเงียบและปลีกตัวไปอยู่คนเดียวเหมือนเมื่อก่อน“ตื่นเต้น…จังเลยครับ…ที่ผมจะได้จับฉลาก…”“ว่าแต่….นางเอกของเราเป็นใครกันเหรอครับ?”ธามไฟท์เอ่ยออกมาด้วยน้ำเสียงตื่นเต้นแววตาเป็นประกาย คุณมิตรก็ยกยิ้มที่มุมปากขึ้นมาอย่างมีเลศนัย“เธอคนนี้กำลังโด่งดังอยู่ในตอนนี้….”คุณมิตรเอ่ยต่อพร้อมกับกดเปิดจอมอนิเตอร์จ่อใหญ่ที่ตั้งอยู่ตรงกลางของห้องประชุมด้านหน้าของพวกเราขึ้นมาด้วย ผมก็จ้องมองอย่างไม่ค่อยใส่ใจ เพราะผมคงไม่ร่วมจับฉลากเหมือนเช่นทุกทีนั่นแหละครับ…“ว้าวววววววววว”เสียงของเพื่อนร่วมวงของผมต่างร้องออกมาด้วยความตกใจและตื่น

  • เมื่อรักเดินทางมาเจอกัน   ตอนที่45

    มีผู้คนอยู่มากมายแต่หัวใจมันกลับเหงาขึ้นทุกทีแต่เมื่อฉันได้พบกับเธอสิ่งที่เธอให้ฉันไม่รู้มันคืออะไรโลกใบใหญ่ใบเดิมกลับไม่เคยต้องเหงาใจแค่ฉันนั้นยังมีเธออยู่ตรงนี้เธอเป็นมากกว่ารักเพราะเธอนั้นคือครึ่งชีวิตฉันใช้เวลาทั้งชีวิตเพื่อตามหาและรอคอยเธอมาแสนนานและสุดท้ายก็เจอว่าเธอคือทุกอย่างที่เติมเต็มหัวใจจากนี้ทุกลมหายใจฉันคือเธอ….ไดร์ฟหันมายิ้มและมองหน้าฉันตลอดเวลาเสียงของเขาที่ขับร้องเพลงนี้ มันช่างเต็มไปด้วยความละมุนนุ่มนวลและความรักที่เขาต้องการจะสื่อความหมายและความรู้สึกที่อยู่ในหัวใจของเขาเพื่อขับร้องออกมาเป็นเนื้อเพลงจริงๆหากว่าเธอนั้นคือความรักก็เป็นรักที่ดีจนไม่มีคำบรรยายฉันโชคดีเหลือเกินที่มีเธอเดินข้างกายชีวิตนั้นได้เติมเต็มสิ่งที่ขาดหายเสียงของเพลงได้เงียบลงไปแต่ไดร์ฟกลับยิ้มให้ฉันและร้องเพลงด้วยเสียงที่ไร้ดนตรีและท่วงทำนองให้ฉันฟังแบบสดๆ“เธอเป็นมากกว่า…เพราะเธอนั้นคือครึ่งชีวิต…”“ฉันใช้เวลาทั้งชีวิตเพื่อรอ…เพื่อตามหาและรอคอยเธอมาแสนนาน”“และสุดท้ายก็เจอว่าเธอคือทุกอย่างที่เติมเต็มหัวใจ”“จากนี้ทุกลมหายใจฉันคือเธอ….”ไดร์ฟร้องจบก็ขยับใบหน้าของเขาเข้ามาหาฉันจ

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status