ตอนที่ 3 เจ้าเสน่ห์ (ส่วนที่ 2)
ดารินทร์เพลิดเพลินกับการช็อปปิ้งที่มีชายหนุ่มคอยตามจ่ายเงินให้ จริงๆ มันก็เงินเธอนี่ เค้าบอกเองว่าจะส่งบิลไปเก็บ แล้วทำไมเธอจะต้องเกรงใจ ร้านค้าบนเรือไม่มีอะไรแตกต่างไปจากบนบกแต่อย่างไร แม้แต่ร้านกาแฟริมทางสไตล์ฝรั่งเศสก็จำลองมาเหมือนทุกรายละเอียด หญิงสาวรู้สึกตื่นตาไปหมดจนอดนึกถึงคนที่นอนพักอยู่ที่ห้องไม่ได้ เด็กหญิงคงสนุกสนานไม่น้อยถ้าได้มาเดินเที่ยวด้วยกัน
"นิต้าเคยมาที่นี่หรือยังคะ" เสียงหวานใสเอ่ยถามคนเป็นพ่อของเด็กหญิง
"ยังครับ เราเพิ่งขึ้นเรือมาก่อนคุณไม่นาน" ดวงหน้างดงามครุ่นคิดนิดนึงก่อนจะเอ่ยขึ้น
"เราน่าจะไปชวนแกนะคะ ป่านนี้แกคงตื่นแล้ว" ชายหนุ่มเหลือบตามองคนพูดแว้บหนึ่ง รอยยิ้มทาทับดวงตาสีอำพัน
"เดี๋ยวผมให้คนไปตามแกแล้วกัน เราไปนั่งรอแกที่ร้านกาแฟตรงนู้นดีกว่า" หญิงสาวพยักหน้ารับ เพราะเธอก็เริ่มรู้สึกเมื่อยแล้วเหมือนกัน
เสียงกรี๊ดกร๊าดดังขึ้นใกล้ๆ จนหญิงสาวต้องเงยหน้าขึ้นจากเมนูที่แสร้งทำเป็นสนใจเพื่อจะได้ไม่ต้องอึดอัดที่ไม่รู้จะคุยอะไรกับคนตัวโตที่นั่งอยู่ตรงข้าม
"ต๊าย คุณธรรศมากับใครกันค้า" สตรีวัยกลางคนทักทายเสียงสูง ดารินทร์มองไปยังต้นเสียงก็พบนักท่องเที่ยวชาวไทยกลุ่มย่อมๆกำลังเดินตรงเข้ามาหา และหนึ่งในนั้นมี'คุณขวัญ' ยืนหน้าบึ้งตึงรวมอยู่ด้วย หญิงสาวลอบถอนหายใจกับตัวเองเบาๆ เธอไม่น่ามากับเขาเลย ดูจากสายตาที่มองมาแล้ว ท่าทางชีวิตบนเรือของเธอต่อจากนี้อาจไม่สงบสุขซะแล้ว
"สวัสดีครับคุณป้า" ชายหนุ่มหันไปทักทายอย่างสุภาพ
"เมื่อกี้ป้าให้ยัยขวัญมาตาม ว่าจะชวนทานมื้อเย็น แต่เห็นน้องบอกยังไม่ทันได้คุยกัน คุณธรรศก็ไปกับ..." คนพูดตวัดตามองมายังร่างบางๆที่ทำไม่รู้ไม่ชี้ก้มมองเมนูไปเรื่อยๆ
"อ้อ นี่คุณรินทร์ครับ เพื่อนผมเอง คุณรินทร์นี่คุณป้าวันเพ็ญ แล้วก็เพื่อนๆ ของท่านครับ" เมื่อเลี่ยงไม่ได้ชายหนุ่มเลยจำเป็นต้องแนะนำทั้งสองฝ่าย แอบหวั่นใจว่าคุณหนูมาเฟียอาจจะทำฤทธิ์เดชอะไร เพราะเห็นดวงตาวาวๆ นั่นมองขวัญยิหวาอย่างไม่สบอารมณ์นัก
"ลูกจ้างน่ะ ไม่ต้องยกย่องกันจนตีเสมอก็ได้นะคุณธรรศ เดี๋ยวจะปกครองลำบาก"ได้ฟังประโยคนั้น ดารินทร์ก็พอจะรู้แล้วว่าความคิดคำพูดคำจาขวัญยิหวาเหมือนใคร
"กลัวดิฉันจะตีเสมอเจ้านายหรอคะ อย่าห่วงเลยค่ะ ดิฉันได้รับการอบรมมาดี รู้ว่าอะไรควรทำไม่ควรทำแค่ไหน อย่างไร คงไม่เที่ยววุ่นวายให้คุณธรรศลำบากใจหรอกค่ะ" เสียงหวานใสเอ่ยชัดถ้อยชัดคำ ดวงตาคมรีสบสายตากับผู้ที่มากวัยกว่าอย่างไม่เกรงกลัว ผู้ใหญ่ที่ทำตัวไม่น่านับถือก็ไม่เห็นต้องไปนับถืออะไรเลยนี่นา
"นิดมาแล้วค่ะ พี่รินทร์กับปาป้ารอนานมั้ยคะ" เสียงใสๆ ดังแทรกขึ้น พร้อมกับร่างเล็กๆ เดินมานั้งตรงเก้าอี้ข้างๆ ดารินทร์ ศีรษะของคนตัวเล็กเอนเข้าหาหญิงสาวเพื่อดูเมนูในมือของอีกฝ่ายด้วยท่าทางสนิทสนม ทำเหมือนมองไม่เห็นใครหลายๆ คนที่ยืนอยู่
ธรรศมองดูสองสาวต่างวัยอย่างหนักใจ เขาอาจจะตัดสินใจผิดที่ให้ทั้งคู่มาอยู่ด้วยกัน กลายเป็นการผนึกกำลังความแสบ ดูอย่างตอนนี้ไงเมื่อกี้นี้ดารินทร์ยอกย้อนเพื่อนมารดาของเขาอย่างไม่สนใจหรือกลัวเกรงอะไร ส่วนนิตาเธอไม่ชอบคุณหญิงคุณนายกลุ่มนี้อยู่แล้ว และเด็กหญิงก็แสดงออกมาชัดเจนให้อีกฝ่ายได้รับรู้
สุดท้ายแล้วฝ่ายที่เข้ามาทักทายก็จำต้องล่าถอยไปอย่างไม่พอใจ เมื่อเห็นว่าคนกลางอย่างชายหนุ่มไม่คิดจะจัดการอะไรกับสองสาว ธรรศมั่นใจเลยว่าฝ่ายนั้นคงจะรีบรายงานแม่ของเขาทันที่มีโอกาส
"พวกน่าเบื่อ" นิตาเอ่ยดังๆ เมื่อคนกลุ่มนั้นพ้นไปแล้ว ดารินทร์พยายามกลั้นยิ้มกับความเฮี้ยวของเด็กหญิง ยัยตุ๊กตาน้อยแสบใช่เล่น
"นิต้าทำตัวไม่น่ารักเลยนะ" ชายหนุ่มตำหนิเบาๆ หากดูไม่ได้จริงจังอะไรนัก
"เขาก็ไม่เคยทำตัวน่ารักกับนิดเหมือนกันนี่" เสียงใสๆ สวนทันควัน
"ปาป้า ถ้าคิดจะเอาคุณขวัญนั่นเป็นแฟน บอกไว้เลยนะว่าเราขาดกัน" เด็กหญิงเอ่ยอย่างเอาแต่ใจ ดารินทร์สะดุดใจกับคำพูดของเด็กหญิง หมายความว่าอย่างไรกัน ยังไงๆปาป้าของเด็กหญิงก็ไม่น่าจะเอาใครมาเป็นแฟนได้อยู่แล้วนี่ ก็ในเมื่อตัวเองมีครอบครัวแล้ว หรืออีตานี่เจ้าชู้ให้ลูกสาวเห็นจนเป็นเรื่องปกติ
“นิดเบื่อพวกนั้นมากเลย” เด็กหญิงบ่นอย่างหงุดหงุดทันทีที่อยู่ด้วยกันตามลำพังกับดารินทร์ ดวงหน้าเล็กๆงอง้ำ
“เดี๋ยวเราจะต้องเจอแบบนี้อีกหลายคนเลย ปาป้าน่ะมีเสน่ห์มากเกินไป” คนตัวน้อยบ่นจ้อยๆ ขณะทิ้งตัวลงบนเตียงแรงๆ ดารินทร์มองท่าทางของเด็กหญิงอย่างขำๆ คงหวงพ่อละซิ
“แล้วยังงี้แม่นิต้าไม่ว่าอะไรหรอคะ” หญิงสาวถาม ขณะค่อยๆ จัดของที่พึ่งขนซื้อมาเข้าไปในตู้ด้านที่เด็กหญิงแบ่งให้
“ทำไมแม่นิดถึงจะว่าละคะ”
“อ้าว ก็...” ดารินทร์ถึงกับพูดไม่ถูกเมื่อถูกย้อนถาม หรือว่าเด็กหญิงจะยังเด็กจนไม่เข้าใจเรื่องหึงหวง
“อ้อ” ดวงหน้าเล็กๆ ทำท่าทางเหมือนจะเข้าใจ
“แม่นิดไม่ว่าหรอกค่ะ แม่นิดไม่อยู่แล้ว แม่เสียตั้งแต่นิดเกิดค่ะ” เสียงใสๆ มีแววเศร้า จนดารินทร์รู้สึกเสียใจที่ไม่น่าไปสะกิด ร่างระหงเดินตรงไปนั่งข้างๆ คนตัวเล็ก
“พี่รินทร์ก็ไม่มีแม่ค่ะ แม่พี่รินทร์เสียตั้งแต่พี่รินทร์ยังเด็กเหมือนกัน แต่ไม่เป็นไรหรอก เพราะแม่อยู่ในใจอยู่ในความรู้สึกของเราไงคะ” รอยยิ้มที่ส่งมายังเด็กหญิงตัวน้อยอ่อนโยน จนเด็กหญิงรู้สึกตื้นตันในหัวใจ ร่างน้อยลุกขึ้นกอดเพื่อนใหม่ที่พึ่งพบเจอได้ไม่นาน หากถูกชะตานักหนา
“ค่ะ นิดชอบพี่รินทร์จัง ถ้าปาป้าจะมีแฟนซักคน นิดอยากให้เป็นพี่รินทร์”
ตอนที่ 5 งานใหม่ (ส่วนที่ 2) สุดท้ายแล้วดารินทร์ก็ไม่สามารถขัด'จอมเผด็จการ' ภายใต้ท่าทางแสนสุภาพได้ ต้องยอมให้เขาพามายังด้านหนึ่งของเรือ ซึ่งจัดเป็นออฟฟิศขนาดย่อมๆ หญิงสาวยังไม่รู้ด้วยซ้ำว่านอกจากดูแลเรือลำนี้แล้ว ชายหนุ่มยังต้องทำงานอะไรอีก เธอพอจะได้ข้อมูลเกี่ยวกับธรรศมาบ้างจากเด็กหญิงนิตา เด็กหญิงเล่าว่าปาป้าของเธอเป็นลูกชายคนโตของตระกูลมอเรล ตระกูลที่รวยติดอันดับโลกเพราะมีธุรกิจหลายอย่าง เรือลำนี้ก็เป็นหนึ่งในนั้น ถึงแม้ดารินทร์จะได้ชื่อว่าเป็นลูกสาวตระกูลเหริน ตระกูลมาเฟียแห่งเกาะฮ่องกง มีธุรกิจมากมายเช่นกัน หากแต่เธอไม่เคยไปข้องเกี่ยวกับกิจการใดๆของตระกูล เพราะถูกเลี้ยงดูโดยตากับยายที่เมืองไทย เธอเลยไม่เคยรู้ว่าลูกหลานเศรษฐีนี่จะต้องสืบทอดงานอะไรของครอบครัวบ้าง แล้วบนเรือลำนี้มีอะไรให้ธรรศทำอีก "ผมต้องบริหารธุรกิจของครอบครัวหลายๆอย่าง ถึงตอนนี้ผมจะมาอยู่บนเรือ แต่งานหลายๆอย่างมันหยุดไม่ได้" จริงๆแล้วชายหนุ่มตั้งใจจะใช้เวลาช่วงที่ล่องเรือจากฮ่องกงกลับไทย เป็นช่วงเวลาพักผ่อน แต่ภาระหน้าที่หลายๆอย่างก็ทำให้เขาละทิ้งงานไม่ได้เลย โชคดีที่เทคโนโลยีปัจจุบั
ตอนที่ 5 งานใหม่ (ส่วนที่ 1) ดารินทร์ลืมตาตื่นขึ้นในเช้าวันใหม่ พบว่าตัวเองกำลังนอนกอดอยู่กับนิตา อีกฝากหนึ่งของเตียงว่างเปล่า เขาคงลุกออกไปตั้งแต่เช้าแล้ว เมื่อคืนกว่าเธอจะข่มตาหลับได้ก็ดึกมาก เพราะความรู้สึกปั่นป่วน และไม่คาดคิดกับสิ่งที่เกิดขึ้น มือเรียวยกแตะริมฝีปากบางของตัวเอง บ้า! เขาจู่โจมทำแบบนั้นจริงหรือนี่ จูปิเตอร์ มอเรล จูบเธอ เพียงแค่สัมผัสแผ่วเบานั้นถึงกับทำให้เธอแยกไม่ออกว่าเป็นความฝันหรือความจริงเชียวหรือ หญิงสาวสั่นศีรษะแรงๆไล่ความคิดฟุ้งซ่านในหัว รีบลุกเข้าห้องน้ำเพื่อจัดการธุระส่วนตัว พอเงยหน้ามองกระจกเงาบานกว้าง หญิงสาวก็เห็นกระดาษโน๊ตแผ่นหนึ่งแปะเอาไว้ ดารินทร์กวาดสายตาผ่านตัวหนังสือสวยงามเป็นระเบียบเร็วๆ เมื่อเช้าตื่นมามอนิ่งคิสคุณแล้ว แต่คุณไม่ยอมตื่น เจอกันที่ห้องอาหารนะครับ.......ธรรศ มือเรียวขยำกระดาษโน๊ตในมือ ตาบ้าเอ้ย! เขาทำบ้าอะไรเนี่ย ถ้านิตาตื่นมาเข้าห้องน้ำก่อนเธอ เธอจะเอาหน้าไปไว้ที่ไหน แล้วเด็กหญิงจะรู้สึกยังไง ดารินทร์ยกมือแตะริมฝีปากตัวเองอีกครั้งอย่างเผลอตัว เขาจูบเธอจริงๆหรือนี่ หรือมันเพ
ตอนที่ 4 เรื่องเล่า (ส่วนที่ 2)สุดท้ายธรรศก็ต้องเดินไปส่งสองสาวต่างวัยที่กลายเป็นคู่หูที่แสนจะเข้ากันดีเพราะกลัวผีขึ้นสมองเหมือนกัน พอทานอาหารเสร็จทั้งคู่ก็แสร้งทำเป็นโอเอ้ไม่ยอมกลับห้อง ขณะที่ธรรศพูดคุยทักทายกับผู้โดยสารหลังทานอาหาร ทั้งๆ ที่ปกติทั้งคู่จะพยายามไม่อยู่ในห้องอาหารนาน เพราะไม่อยากปะทะกับบรรดาคุณหญิงคุณนายหลายคนที่ไม่ลงรอยกัน ตอนแรกชายหนุ่มตั้งใจจะคุยธุรกิจกับแขกบางคน หากพอเห็นท่าทางของดารินทร์และนิตา ก็ต้องตัดสินใจจะพักเรื่องงานเอาไว้ก่อน แล้วไปส่งสองสาวที่ห้องพัก คนสามคนเดินเรียงแถวไปตามทางเดินสลัวๆของเรือโดยมีธรรศนำหน้า ดารินทร์รั้งท้ายและเด็กหญิงนิตาเดินตรงกลาง ดารินทร์รู็สึกว่าวันนี้ทางเดินจากห้องอาหารกลับห้องพักดูทั้งไกลและมืดกว่าทุกวัน นิตาก็คงรู้สึกเหมือนเธอเพราะเด็กหญิงทำท่าเหมือนไม่มีแรงจะก้าวขาเอาซะเลย "คุณธรรศ ฉันว่าคุณอุ้มนิต้าเถอะค่ะ ดูแกเดินไม่ค่อยจะไหวแล้ว" จริงๆ นิตาก็โตเกินกว่าจะให้คนเป็นพ่ออุ้มแลัว หากดารินทร์เห็นท่าทางแล้วว่าถ้าปล่อยให้เด็กหญิงเดินต่อไปเอง คงไม่ถึงห้องพักง่ายๆ แน่ ธรรศหันมามองหน้าซีดๆ ของเด็กหญิงตัวน้อยแ
ตอนที่ 4 เรื่องเล่า (ส่วนที่ 1) "พี่รินทร์ขา" เสียงใสๆ ดังแจ้วๆ มาก่อนตัว ดารินทร์เงยหน้าขึ้นจากหนังสือที่กำลังนอนอ่านอยู่บนเตียงอาบแดด มองดูร่างเล็กที่วิ่งมาหยุดหอบตัวโยนอยู่ข้างๆ "ใจเย็นๆ นิต้า หายใจก่อน" มือเรียวเอื้อมไปช่วยประคองร่างของเด็กหญิงให้นั่งลงข้างๆ สังเกตเห็นแววตาตื่นตระหนกบนวงหน้าเล็กๆ นั่นๆ "แย่แล้วค่ะ แย่มากๆ" พอหายเหนื่อยเด็กหญิงก็ละล่ำละลักกับพี่เลี้ยงจำเป็นทันที "อะไรจ้ะนิต้า แล้วไปไหนมา" วันนี้ดารินทร์ชวนเด็กหญิงมานั่งเล่นที่ระเบียงด้านหนึ่งของเรือ การได้นอนอ่านหนังสือท่ามกลางท้องทะเลกว้างมันก็ทำให้ลืมๆไปได้ว่าทำไมเธอถึงมาอยู่ที่นี่ ส่วนหนึ่งคงเพราะเด็กหญิงตัวน้อยแสนน่ารักที่ทำให้เธอรู้สึกไม่เหงา วันนี้เด็กหญิงนิตาขนเอาสมุดสเก็ตมานั่งวาดรูปเล่น เด็กหญิงมีพรสวรรค์ทางด้านศิลปะพอตัวเลยทีเดียว หากวาดไปได้ซักพักก็ขอไปเอาอุปกรณ์เพิ่ม โดยให้ดารินทร์นั่งเฝ้าของไว้ แล้วเด็กหญิงก็หายไปเสียนาน ก่อนจะวิ่งหน้าเริ่ดกลับมา "ไปเอาของค่ะ แล้วไปเจอป้าแม่บ้าน" เด็กหญิงนั่งแปะลงบนเตียงอาบแดดข้างๆ อาการหอบเพราะ
ตอนที่ 3 เจ้าเสน่ห์ (ส่วนที่ 2)ดารินทร์เพลิดเพลินกับการช็อปปิ้งที่มีชายหนุ่มคอยตามจ่ายเงินให้ จริงๆ มันก็เงินเธอนี่ เค้าบอกเองว่าจะส่งบิลไปเก็บ แล้วทำไมเธอจะต้องเกรงใจ ร้านค้าบนเรือไม่มีอะไรแตกต่างไปจากบนบกแต่อย่างไร แม้แต่ร้านกาแฟริมทางสไตล์ฝรั่งเศสก็จำลองมาเหมือนทุกรายละเอียด หญิงสาวรู้สึกตื่นตาไปหมดจนอดนึกถึงคนที่นอนพักอยู่ที่ห้องไม่ได้ เด็กหญิงคงสนุกสนานไม่น้อยถ้าได้มาเดินเที่ยวด้วยกัน "นิต้าเคยมาที่นี่หรือยังคะ" เสียงหวานใสเอ่ยถามคนเป็นพ่อของเด็กหญิง "ยังครับ เราเพิ่งขึ้นเรือมาก่อนคุณไม่นาน" ดวงหน้างดงามครุ่นคิดนิดนึงก่อนจะเอ่ยขึ้น "เราน่าจะไปชวนแกนะคะ ป่านนี้แกคงตื่นแล้ว" ชายหนุ่มเหลือบตามองคนพูดแว้บหนึ่ง รอยยิ้มทาทับดวงตาสีอำพัน "เดี๋ยวผมให้คนไปตามแกแล้วกัน เราไปนั่งรอแกที่ร้านกาแฟตรงนู้นดีกว่า" หญิงสาวพยักหน้ารับ เพราะเธอก็เริ่มรู้สึกเมื่อยแล้วเหมือนกัน เสียงกรี๊ดกร๊าดดังขึ้นใกล้ๆ จนหญิงสาวต้องเงยหน้าขึ้นจากเมนูที่แสร้งทำเป็นสนใจเพื่อจะได้ไม่ต้องอึดอัดที่ไม่รู้จะคุยอะไรกับคนตัวโตที่นั่งอยู่ตรงข้าม
ตอนที่ 3 เจ้าเสน่ห์ (ส่วนที่ 1) ร่างบางระหงเดินเลาะริมระเบียงท่ามกลางแสงแดดอ่อนๆในยามบ่าย น้ำทะเลเบื่องล่างเป็นสีเขียวใสราวมรกต ระยิบระยับท่ามกลางเปลวแดด ดารินทร์รู้สึกว่าเธอคงดื่มด่ำกับความงามรอบๆตัวมากกว่านี้ หากการที่เธอมาอยู่บนเรือลำนี้ตอนนี้ไม่ใช่เพราะหนีการตามล่า แล้วจับพลัดจับผลูมาอยู่กับสองพ่อลูกประหลาดคู่นี้ ประหลาดตรงไหนน่ะหรือก็ประหลาดตั้งแต่ผู้ชายคนนั้นมีลูกสาวโตขนาดนี้ โตจนน่าจะเป็นน้องสาวได้เลย เธอไม่มั่นใจว่าผู้ชายคนนั้น จูปิเตอร์ มอเรล อายุเท่าไหร่ หากจากรูปลักษณ์อายุของเขาไม่น่าจะเกินสามสิบ นั่นแปลว่าเขามีลูกตั้งแต่อายุสิบกว่าๆเท่านั้นเอง เด็กหญิงลูกสาวของเขานั่นก็งดงามน่ารักราวตุ๊กตาตัวน้อย ดวงตากลมโตดำสนิท จมูกปากจิ้มลิ้มพริ้มเพราแบบไทยแท้ๆ ต่างจากพ่อที่หน้าฝรั่งจ๋า แม่ของเด็กหญิงคงเป็นสาวไทยแสนสวย แต่แปลกที่ไม่เห็นพ่อลูกจะพูดถึงเลย แล้วอยู่ๆคนที่กำลังคิดถึงก็โผล่มาในสายตา ร่างสูงในชุดลำลองชุดเดียวกับเมื่อเช้าเดินลิ่วๆมาจากด้านตรงข้ามของเรือ คิ้วได้รูปสีเดียวกับเรือนผมสีน้ำตาลอ่อนเลิกขึ้นอย่างแปลกใจ "คุณมาทำอะไรตรงนี้" หญ