Share

บทที่ 36 (3)

last update Last Updated: 2025-12-01 21:19:43

บทที่ 36 (3)

 

เหิงซานรับเศษผ้าผืนเล็กมา พลิกหน้าหลังซ้ายขวาดู

“เอาไว้ปิดที่ปากแล้วจมูกขอรับ ทำแบบนี้ขอรับ”

สิ้นคำกว่างอานก็ทำให้ดู เขานำเชือกผูกรอบศีรษะและจัดให้ผืนผ้าปิดเหนือจมูกและปากจนเหลือให้เห็นเพียงครึ่งหน้า

…อืม เขาคลับคล้ายเคยเห็นหมอชันสูตรหรือหมอทำแบบนี้บางช่วง เพียงแต่ไม่เคยใช้สักครา

“เหตุใดต้องปิดจมูกและปากด้วย?”

เหิงซานพูดไปขณะที่มือก็ผูกผ้าอย่างที่กว่างอานทำ เขาพูดคุยไประหว่างที่กำลังเดินเข้าสู่หมู่บ้านเทียนหลิวในส่วนของแหล่งที่พักอาศัย ซึ่งตรงหน้าเห็นเป็นกระท่อมตั้งเรียงอย่างไม่เป็นระเบียบ

“ก่อนหน้านี้เป็นเพราะหลายคนที่ออกจากหมู่บ้านแห่งนี้หลังจากมาตรวจดูอย่างพวกใต้เท้าส่วนใหญ่จะมีอาการท้องร่วงกันขอรับ เลยคาดว่าโรคเหล่านี้ติดเชื้อง่ายเพียงหายใจร่วมกันขอรับจึงป้องกันไว้ก่อน”

สิ้นคำของกว่างอานไป๋เหิงซานก็นิ่งเงียบเพื่อคิดอะไรคนเดียวสักครู่ก่อนเอ่ยถามอีกครา

“สาเหตุนี้ด้วยหรือไม่ที่ทำให้ไม่ค่อยมีข้าราชการมาดูเเล”

กว่างอานได้แต่หยักยิ้มอย่างไม่เต็มใจส่งมาให้กับคำพูดเชิงต่อว่านั่น

เมื่อวานเขาให้คนนำรายงานจำพวกบันทึกการทำงานของข้าราชการในท้องที่มาดูซึ่งจากรายงานก็พบว่าความถี่ในการออกตรวจและส่งคนมาดูแลหมู่บ้านแห่งนี้ค่อนข้างน้อยผิดปรกติ พอได้มาที่นี่ด้วยตัวเองจึงพอเข้าใจอะไรขึ้นมาบ้าง

พอกลุ่มข้าราชการนำโดยนายอำเภอถางเดินเข้ามาในหมู่บ้านก็มีหัวหน้าหมู่บ้านเป็นบุรุษชราร่างผอมผิวหนังเหี่ยวย่นคนหนึ่งมาต้อนรับ บ้านแต่ละบ้านปิดประตูหน้าต่างมิดชิดเงียบกริบราวหมู่บ้านร้าง จะมีเสียงร้องไห้ของเด็กเล็กบ้าง หรือเสียงร้องไห้อย่างโศกเศร้าของบางครอบครัวที่ต้องจากลาคนในครอบครัวมองดูทหารยศน้อยหามร่างไร้วิญญาณออกไป

“มาทางนี้เถิดขอรับ เดี๋ยวข้าน้อยจะพาพวกท่านไปที่โรงรักษา” 

นายอำเภอถางเดินนำเลี้ยวไปทางขวาเดินมาสักพักก็เจอกับสถานที่แห่งหนึ่ง มีเสาไม้ค้ำหลังคาที่ทำจากใบไม้ชนิดหนึ่ง ภายในมีผู้ป่วยนอนเรียงบนเสื่อหญ้าคนละผืนรวมกันทั้งชายและหญิง สีหน้าของแต่ละคนฉายความเจ็บปวดไร้เรี่ยวแรง พอเดินเข้าไปใกล้ก็ได้กลิ่นไม่พึงประสงค์ลอยเข้าสู่จมูกทำเอาเหล่าผู้มาใหม่พากันหยุดเท้าแทบไม่ทัน

“คนเหล่านี้คือผู้ป่วยทั้งหมดหรือ?”

เหิงซานคือคนหนึ่งที่ไม่มีสีหน้าพะอืดพะอม

“ขอรับ แต่นี่ยังไม่ใช่ทั้งหมดขอรับ เป็นเพียงผู้ป่วยที่อาการหนัก ส่วนคนที่มีอาการถ่ายบ่อยซึ่งคืออาการเริ่มต้นก่อนมีไข้และไม่ได้สติจะยังรักษาตัวอยู่บ้านตัวเองขอรับ”

เหิงซานเดินเข้าไปในโรงรักษาที่มีคนป่วยนอนอยู่ราวเกือบครึ่งร้อย พื้นที่แน่นขนัดแทบไม่มีที่ให้เดิน เขาสอดสายตามองดูรอบ ๆพลันคิ้วดำก็ขมวดมุ่น

“คนพวกนั้นคือหมอหรือ?”

นิ้วของร่างสมส่วนในชุดสีกรมชี้ไปยังกลุ่มคนราวสองถึงสามคนที่ก้ม ๆเงย ๆตรงหน้าผู้ป่วยแต่ละคน และก็ได้รับการพยักหน้าเป็นการตอบรับ

“มีแค่นี้หรือ?”

“ขอรับ”

หมอเพียงสามคนกับการดูแลคนป่วยครึ่งร้อยนั้นหากเขาไม่มาเห็นกับตาคงไม่เชื่อ

“เอ่อ ความจริงทางนายอำเภอได้ประกาศรับสมัครหมอจากทั่วสารทิศแล้วขอรับ เงินค่าจ้างก็ให้มากกว่าหลายเท่าตัว แต่ด้วยข่าวลือที่กระจายออกไปว่าหมู่บ้านแห่งนี้เป็นโรคที่สามารถติดกันได้เพียงหายใจร่วมจึงไม่ค่อยมีหมอคนใดยอมเสี่ยงมาสักเท่าใด”

กว่างอานเอ่ยถึงนายอำเภอถางซึ่งเจ้าตัวและข้าราชการที่เดินตามมาก่อนหน้านั้นยืนรอกันอยู่ข้างนอกไม่เข้ามาเพราะทนกลิ่นเหม็นไม่ไหว 

“อ้อ เเต่ล่าสุดมีหมอจากโรงโอสถชื่อดังท่านหนึ่งตอบรับว่าจะอาสามาตรวจดูอาการคนป่วยที่นี่ให้ขอรับ ตอนนี้น่าจะกำลังเดินทางใกล้ถึงแล้ว”

เหิงซานพยักหน้ารับคำ เขาและกว่างซานเดินดูคนไข้สักครู่จากนั้นก็ไปคุยกับหมอท่านหนึ่งแล้วก็เดินกลับออกมายังกลุ่มที่นายอำเภอถางยืนรออยู่

“ข้าอยากไปดูที่กองเสบียง”

“ได้ขอรับ เชิญทางนี้”

นายอำเภอถางรีบเร่งเดินนำไปยังสถานที่เก็บเสบียงที่ถูกเก็บรวบรวมไว้หลังจากเกิดเรื่อง ซึ่งเสบียงนี้ถูกตรวจสอบจากเจ้าหน้าที่มือปราบของอำเภอนี้แล้วก่อนหน้าว่าคุณภาพไม่ดีจนทำให้คนในหมู่บ้านที่กินไปเกิดอาการท้องร่วงและลามมาถึงเจ็บป่วยอย่างโรคปัจจุบัน ซึ่งดูจากเสบียงแล้วก็เป็นอย่างที่เขียนในรายงานทุกประการ มีเสบียงบางส่วนเกิดราขึ้น สภาพแบบนี้เขามั่นใจว่าผู้เป็นบิดาของเขาไม่น่าปล่อยผ่านให้มาที่นี่ได้

หลังจากดูสิ่งที่ต้องการหมด เหิงซานและกลุ่มข้าราชการก็เดินทางกลับในช่วงก่อนมื้อกลางวัน ระหว่างทางก่อนเข้าสู่ตัวอำเภอ เขาผ่านกลุ่มคนกลุ่มใหญ่ที่ดูเหมือนจะมุ่งไปยังหมู่บ้านเทียนหลิวที่เขาเพิ่งจากมาเมื่อครู่เช่นกัน แต่ดูจากลักษณะของรถม้าที่ดูดีเกินรถม้ารับจ้างทั่วไปและเกินกว่าที่ข้าราชการท้องถิ่นจะมีใช้แล้ว เหิงซานคาดว่ากลุ่มพวกนั้นอาจจะเป็นกลุ่มพ่อค้าผู้มั่งคั่งที่เดินผ่านโดยใช้เส้นทางนี้เฉย ๆกระมัง ไม่น่าจะมุ่งไปยังหมู่บ้านที่ตอนนี้เกิดโรคได้อย่างที่เขาคิด

“ทำไมเข้าไม่ได้หรือ?”

ถงฝูที่รับหน้าที่เป็นคนออกหน้าเข้าไปสอบถามบุรุษคนหนึ่งที่เฝ้าหน้าทางเข้าหมู่บ้านเทียนหลิว พอเข้าได้รับคำตอบเรียบร้อยก็เดินเข้ามายังรถม้าที่ทำจากไม้สีดำเงาเรียบหรู ก่อนเป็นม่านผืนใหญ่ที่ปิดทางเข้าออกรถม้า

“คนเฝ้าบอกว่าเวลานี้ไม่สามารถเข้าไปตรวจดูข้างในได้ขอรับ เขาบอกว่าจะเข้าไปในหมู่บ้านได้ต้องมีนายอำเภอถางเป็นผู้นำเข้าเท่านั้นขอรับ”

ซือหมิงที่ตอนนี้อยู่ในชุดดำยาวไร้ลวดลายเหมือนอย่างสวมใส่ยามอยู่เมืองหลวง แต่เนื้อผ้านั้นมองเพียงผิวเผินก็รู้ว่าเป็นผ้าเนื้อดีหายาก ชายหนุ่มภายต้ายหน้ากากสีดำปิดครึ่งหน้าลืมตาขึ้นมองเจ้าของเสียงเพียงครู่หนึ่งก่อนเอ่ยเสียงเบา

“ก็ไปตามมา”

ร่างในชุดสีขาวออกเขียวเจือจางลวดลายเมฆงดงามสะอาดตาซึ่งก็คือซูเมิ่งที่แต่งกายเป็นชายโดยรวบผมขึ้นและพันผ้ารอบอกนั่นเอง นางนั่งมองสองนายบ่าวพูดคุยในใจแอบรู้สึกสงสารถงฝูบ้างแต่ตัวนางก็ไม่สามารถทำอะไรได้

“คงไม่ได้ขอรับนายท่าน คือชายผู้นั้นบอกว่านายอำเภอเพิ่งออกไปเมื่อสักครู่นี้และได้เอ่ยไว้ว่าวันนี้ทั้งวันไม่ต้องการให้ผู้ใดรบกวนขอรับเพราะเหมือนว่าเขาต้องต้อนรับข้าราชการผู้ใหญ่กลุ่มหนึ่ง”

…เอ หรือจะเป็นพี่ใหญ่ของนางหว่า

“แล้ว?”

พอได้ฟังคำตอบรับของซือหมิงหรือตอนนี้อยู่ในฐานะช่างอินก็ถึงกับขมวดคิ้วมุ่น

“ข้าน้อยจะไปตามนายอำเภอมาเดี๋ยวนี้ขอรับ”

ถงฝูซึ่งตอนนี้เขาก็คือคนติดตามคนนั้นที่นางเคยเจออยู่กับคุณชายช่างอินคนนั้นตอนไปที่งานประมูลหอสรรพสิ่งในนามหลิงอีซึ่งตอนนี้ก็สวมหน้ากากบังเสี้ยวใบหน้าสีดำสนิทเช่นกัน กำลังหมุนตัวออกไปแต่ก็ต้องหยุดชะงักเพราะได้ยินเสียงของชายร่างบางอีกคนที่นั่งตรงข้างผู้เป็นนาย

“เดี๋ยว! ไม่ต้องไปหรอก” ซูเมิ่งหันกลับมาพูดกับชินหวังต่อ

“ข้าว่าเราค่อยมาวันพรุ่งนี้ก็ได้ ท่านเห็นว่าอย่างไร? หลังจากนี้ก็ให้หลิ่งอีไปนัดหมายนายอำเภอก่อน”

ที่ซูเมิ่งขัดขึ้นเพราะไม่อยากให้นายอำเภอที่น่าจะกำลังต้อนรับพี่ใหญ่ของตนอยู่ต้องรีบออกมาแล้วทิ้งการดูเเลพี่ใหญ่ และอีกอย่างถึงได้เข้าไปดูพรุ่งนี้ก็ไม่ได้ล่าช้าอะไรมาก

“ตามเจ้าว่าก็ได้”

สิ้นคำถงฝูก็สั่งให้สารถีกลับหัวรถม้าและมุ่งหน้ากลับไปยังคฤหาสน์หลังที่เพิ่งหาซื้อได้ไม่นานก่อนขบวนซือหมิงจะมาถึงที่อำเภอนี้ โดยคฤหาสน์หลังนี้คือที่พักของพวกเขาขณะที่จัดการเรื่องนี้อยู่ที่นี่นั่นเอง รถม้ามุ่งเข้าสู่ตัวอำเภออีกครั้งผ่านถนนฝั่งประจิมซึ่งเป็นเเหล่งร้านค้าของที่นี่จากนั้นก็มุ่งเลยผ่านไปจนกระทั่งหายลึกเข้าไปตรอก ๆหนึ่งอันเงียบสงัด

“ตรอกเเห่งนี้ราคาเเพงหรือไรไยไม่มีคนมาอยู่อาศัยเลย”

ซูเมิ่งละมือที่เลิกม่านขึ้นมองมาตลอดทาง นางพึมพัมกับตัวเองอย่างสงสัย แต่ไม่อาจรอดพ้นหูของซือหมิงที่อยู่ตรงข้างได้

“เปล่า ข้าสั่งให้คนซื้อบ้านเเถวนี้หมดแล้ว พอดีข้าไม่ชอบเสียงเอะอะและความวุ่นวาย”

ริมฝีปากบางสั่นกระตุกทันทีที่ได้ยินประโยคก่อนหน้า 

…จ้า พ่อรวยล้นฟ้า

“ไม่ต้องมองข้าด้วยสายตาเยี่ยงนั้น พวกเขายินยอมออกไปเองต่างหากข้ามิบังคับใครอยู่แล้ว”

ซือหมิงรีบเอ่ยทันที เขารับรู้ถึงสายตากร่นด่าของสตรีตรงหน้า ซึ่งสิ่งที่เขาบอกไปหาใช่เรื่องปดไม่ ชาวบ้านเหล่านั้นรับเงินก้อนโตและย้ายออกอย่างเต็มใจทุกคน เขาต่างหากที่ขาดทุนทั้งที่ราคาบ้านจริง ๆยังไม่ถึงครึ่งของเงินที่เขาให้เป็นค่าย้ายออกเลยด้วยซ้ำ

“ข้าก็ยังมิได้ว่าอะไรท่านเลยสักหน่อย"

หลังจากจบประโยคของซูเมิ่งรถม้าก็เข้าสู่ความเงียบอีกครั้ง ก่อนที่สุรเสียงทุ้มจะเอ่ยขึ้น

“แล้ววันนี้รู้สึกไม่สบายตรงไหนหรือไม่?”

ซูเมิ่งเหลือบสายตามองเจ้าของคำพูด เลิกคิ้วขึ้นอย่างแปลกใจ

“ไม่เจ็บปวดแล้ว เอ่อ ขอบคุณท่านพี่ช่างอินขอรับ”

พูดจบใบหน้าขาวนวลก็ขึ้นสีแดงระเรื่อ ส่วนคนที่ถูกเรียกว่าท่านพี่ก็หยักยิ้มมุมปาก

…คำเรียกนี้ทำเอานางรู้สึกแปลก ๆแฮะ และด้วยตอนนี้อยู่กับสองคนแล้วก็เป็นพื้นที่แคบด้วยกระมัง

ไม่ถึงหนึ่งเค่อหลังจากที่รถม้าเคลื่อนเข้าซอยหนึ่งก็หยุดอยู่หน้าบ้านเรือนหลังหนึ่ง จะเรียกว่าคฤหาสน์ก็น่าจะเหมาะกว่า เพราะขนาดมันใหญ่ไม่น้อยกว่าหลังที่แล้วที่นางพักเลย

“มีห้องใหญ่อยู่ตรงหน้าหนึ่งห้องขอรับ แล้วทางปีกซ้ายมีห้องนอนขนาดกลางหนึ่งห้องแล้วทางปีกขวามีห้องนอนขนาดเล็กสองห้องขอรับ ไม่ทราบว่านายท่านต้องการพักห้องไหนขอรับ”

ถงฝูหันมาถามซูเมิ่งโดยตรง คงเพราะรู้ว่าอย่างไรนายท่านอีกคนต้องพักห้องใหญ่เป็นแน่เลยไม่จำเป็นต้องถาม

“ห้องไหนก็ได้”

“งั้นนายท่านเชิญทางนี้ขอรับ”

ถงฝูตัดสินใจให้คนเอาของใช้ส่วนตัวของซูเมิ่งไปเก็บไว้ที่ห้องทางปีกขวาห้องในสุด ส่วนอีกห้องก็น่าจะปล่อยว่างไว้เผื่อให้ท่านหมอมาพักเผื่อคุณหนูซูเมิ่งอาการกำเริบ แต่ก่อนจะเดินไปตามทางเดินต้องเข้าไปยังลานกลางก่อนแล้วถึงแยกย้ายไปทางขวาเพื่อไปห้องทางปีกขวา ส่วนห้องของชินหวังนั้นเดินตรงไปข้างในก็ถึงแล้ว ซึ่งถงฝูให้บ่าวสตรีคนหนึ่งทำหน้าที่นำซูเมิ่งไป ส่วนถงฝูก็เดินนำให้เจ้านายในชุดดำไป

ถงฝูเดินไปไม่กี่ก้าวก็หยุดชะงัก หันกลับมองด้านหลัง

“…”

…เบื้องหลังของตนว่างเปล่าไร้เงาของพ่อหนุ่มช่างอินเสียแล้ว

ซูเมิ่งเดินตามบ่าวรับใช้มายังปีกขวา นางเดินตามจนมาหยุดอยู่หน้าประตูของห้องนอนตนเองซึ่งประตูถูกเปิดอ้าออกต้อนรับเจ้าของห้องคนใหม่

“เอ่อ ท่านไม่กลับไปห้องตนเองหรือ?”

สายตาแฝงความสงสัยเต็มเปี่ยมมองไปยังบุรุษตรงหน้า เขาคือซือหมิงนั่นเอง ตอนเเรกที่เขานามนางมาก็คาดว่าอาจอยากเดินมาส่งตนหรือเที่ยวชมสถานที่ใหม่เลยไม่คิดขัด แต่นี่กลับมาหยุดอยู่หน้าห้องนางเสียอย่างนั้นจึงจำต้องเอ่ยปาก

“กลับสิ”

“แล้วไม่ไปหรือ ห้องท่านอยู่ทางนู…”

“ข้าพักห้องนี้”

ห้องนี้! หมายถึงห้องเดียวกับนางหรือ? …ไม่ใช่ม้าง

“แม้ท่านจะมีตำแหน่งใหญ่โตจะทำอะไรก็ไม่มีใครขัดท่านได้แต่การที่ท่านจะมาพักห้องเด…” 

ซูเมิ่งพูดยังไม่ทันจบประโยคซือหมิงก็เอ่ยขึ้นขัดพลางหยักยิ้มมุมปาก

“ข้าพักห้องนี้”

นิ้วเรียวยาวของบุรุษชุดดำชี้ไปยังห้องข้าง ๆ ทำเอาซูเมิ่งกลืนคำพูดตัวเองกลับไปแทบทันที เปลือกตางามงอนกระพริบปริบ ๆ 

“เมื่อครู่เจ้าจะพูดอะไรหรือ? ข้านอนห้องนี้ไม่ได้หรือ?”

…เพล้ง! เสียงหน้าของนางแตกกระจุย ไหนจะใบหน้าหล่อภายใต้หน้ากากสีดำราวรัติกาลนั่นที่ดูเหมือนกำลังเยาะเย้ยนางลาง ๆนั่นอีก

“อ่อ เอ่อ ได้สิ ๆ ข้าเเค่เพียงคิดว่าคนอย่างท่านไม่เหมาะกับนอนห้องเล็ก ๆอย่างนี้เท่านั้น งั้นข้าไปก่อนนะ”

พูดจบก็วิ่งปรูดเข้าไปภายในห้องและปิดประตูทันที หากหันกลับมาจะเห็นใบหน้าภายใต้หน้ากากนั้นหยักยิ้มพร้อมดวงตาเปล่งประกาย

ถงฝูที่เดินตามหาเจ้านายตนจนมาถึงห้องปีกขวาถึงเพิ่งมาเจอคนที่ตามหาอยู่ที่นี่ และทันได้เห็นรอยยิ้มนั่นพอดี สองเท้าพลันชะงักลำตัวแข็งทื่ออ้าปากค้าง

…นายท่านยิ้ม!!!

พอสะบัดหัวเพื่อเรียกสติ หลับตาลงและลืมขึ้นมองอีกครั้งก็ค่อยถอนหายใจอย่างโล่งอก

…เมื่อครู่เขาคงเหนื่อยเกินตาฝาดเห็นเจ้านายตนยิ้มเสียได้

“ข้าน้อยย้ายของเข้าห้องพักเรียบร้อยแล้ว เชิญพัก…”

“ย้ายของมาห้องนี้ แล้วก็เตรียมน้ำอาบด้วย”

พูดจบก็เดินเข้าไปทันที ปล่อยให้ลูกน้องคนสนิททำหน้าหมดอาลัยตายอยากอยู่นอกห้อง…

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • เล่ห์รักบุปผาซ่อนพิษ   บทส่งท้าย

    #####บทส่งท้ายมือหนาควานหาร่างอุ่นนุ่มอย่างที่ทำเป็นประจำทุกวัน ทว่าควานไปพบแต่ความว่างเปล่า สองตาค่อย ๆลืมขึ้น ไฉนวันนี้เขาถึงรู้สึกมึนหัวประหลาดหือ วันนี้เขาตื่นสายหรือ ไยเป็นภรรยาเขาที่ตื่นก่อนได้เล่า นางตื่นแล้วไยไม่เรียกเขาเสียหน่อยล่ะ“ใครอยู่ด้านนอกเข้ามาที”เป็นเย่าถิงที่เดินเข้ามา นางชะงักนิดหน่อยเพราะกลิ่นที่เกิดจากการทำกิจกรรมของสองข้าวใหม่ปลามันคละคลุ้งทั่วห้อง ซึ่งเมื่อคืนพวกนางต่างรู้ดีกว่าเกิดอะไรขึ้นในห้อง เพราะเสียงที่ดังทะลุกำแพงออกมาตลอดคืน“นายหญิงไปไหนหรือ?”เย่าถิงยกคิ้วฉงนก่อนตอบ “ก็ไม่ได้อยู่ในห้องหรอกหรือเพคะ” พูดพลางสอดส่องมองทั่วห้องก็ไม่เห็นคุณหนูของตนจริง จึงขออนุญาตเรียกไป๋จื่อและบ่าวคนอื่น ๆมาถามไถ่ แต่ก็ไม่มีใครพบเห็นเลย พอไม่เจอสตรีที่ตนเรียกหาจึงกลายเป็นเรื่องใหญ่ คนของชินหวังทั่วทั้งจวนต่างกระจายกำลังหาทั่วจวน แต่หานานหลายชั่วยามก็ไม่มีใครพบ“พวกเจ้าดูแลนางอย่างไรนายหญิงออกจากห้องไปไยไม่มีใครเห็น!”บรรยากาศโดยรอบของบุรุษผู้ทรงอำนาจเย็นยะเยือกลามไปทั่วทั้งจวน นัยน์ตาดุดันจ้องมองเขม็งไปที่เหล่าบ่าวใช้ที่คุกเข้าตรงหน้า“หม่อมฉันเฝ้าหน้าห้องตลอดไม่เห็

  • เล่ห์รักบุปผาซ่อนพิษ   บทที่ 50

    #####บทที่ 50นับจากวันที่กลับจากไปเยี่ยมจวนตระกูลไป๋ซูเมิ่งก็รอบางอย่างจนสิ่งที่นางรอคอยก็มาถึง ไป๋จื่อเข้ามาหาซูเมิ่งในห้องหนังสือพร้อมปิดประตูแน่น จนในห้องเหลือเพียงซูเมิ่งและไป๋จื่อสองคน“ครานี้ได้เรื่องแล้วเพคะพระชายา”“ว่ามา...”ตามที่ให้ไป๋จื่อออกไปรับเรื่องที่นางให้เป่าต้ง บ่าวบุรุษที่ซูเมิ่งไว้ใจในจวนตระกูลไป๋ทำเรื่องบางอย่างในจวน การมารายงานครานี้ของเป่าต้งนั้นต่างออกไปจากครั้งก่อน ๆแล้ว เรื่องที่ซูเมิ่งกำลังเฝ้าคอยเป็นเรื่องเกี่ยวกับไป๋หย่งคังบิดาของซูเมิ่งเอง ในวันที่นางกลับไปเยี่ยมบ้านนั้นนอกจากซูเมิ่งจะเข้าไปขอพบหย่งคังเป็นการส่วนตัวแล้วนางยังเรียกเป่าต้งเพื่อมอบหมายงานให้ทำด้วยนั่นก็คือ ให้เขาคอยจับตาดูไป๋หย่งคังตลอดทุกฝีก้าวตอนที่อยู่ในจวนไม่เว้นแม้กระทั่งช่วงกลางคืน และให้มารายงานนางทุก ๆสามวัน ในช่วงแรก ๆ สิ่งที่ไป๋หย่งคังทำนั้นซูเมิ่งคิดว่าปรกติทั่วไป แต่พอได้ฟังคำจากเป่าต้งรายงานหลาย ๆคราซูเมิ่งเริ่มสงสัยบางอย่างเข้าให้แล้ว กิจวัตรหนึ่งที่น่าสงสัยคือไป๋หย่งคังมักจะเทียวไปเรือน ๆหนึ่งทุก ๆสองหรือสามวันเสมอและใช้เวลาอยู่ที่นั่นราวสองเค่อ สิ่งที่น่าประหลาดคือเรือนแห่ง

  • เล่ห์รักบุปผาซ่อนพิษ   บทที่ 49

    #####บทที่ 49และแล้ววันที่ท่านหมอพิษมาถึงจวนชินหวังก็มาถึง เขาเข้ามาพร้อมกับหยางเหวินเพื่อมาตรวจอาการของซูเมิ่ง “แปลก พระชายาไม่น่ามีพิษชนิดนี้อยู่ในกายได้พะยะค่ะ”หมอพิษพูดพลางลองตรวจสอบพิษอีกรอบผลปรากฎว่าเลือดที่มาจากร่างกายซูเมิ่งนั้นเป็นพิษชนิดที่เขาคิดจริง ๆ“อย่างไรหรือท่านหมอ”ซูเมิ่งเอ่ยถาม นางอยากรู้อย่างที่สุดว่าพิษที่อยู่ในร่างกายนางแต่กำเนิดนั้นคือชนิดใดกันแน่โดยท่านหมอพิษบอกว่าพิษนี้คือพิษที่มีแหล่งกำเนิดจากอาณาจักรชิงจง ซึ่งคืออาณาจักรข้างเคียงที่เป็นศัตรูกับอาณาจักรที่นางอยู่นี้มาช้านานแล้ว โดยพิษนี้เป็นพิษที่หากออกฤทธิ์จะค่อย ๆทำลายอวัยวะทั้งหมดในร่างกาย แต่เงื่อนไขการออกฤทธิ์จะออกฤทธิ์เมื่ออยู่ในกระแสเลือดของบุคคลผู้นั้นนานเป็นเวลาสองปี ซึ่งพิษนี้ไม่ค่อยมีผู้คนนำมาใช้เท่าไหร่นัก แทบไม่มีคนในอาณาจักรนี้รู้จักเลยด้วยซ้ำ แต่สำหรับอาณาจักรชิงจงพิษชนิดนี้จะใช้เฉพาะกับทหารที่ฝึกไว้เพื่อเป็นสายลับเท่านั้น ด้วยเงื่อนไขการออกฤทธิ์นี้ทำให้สามารถใช้เพื่อควบคุมเหล่าทหารยามต้องออกไปปฏิบัติการได้ โดยการให้สายลับทุกคนดื่มพิษชนิดนี้เข้าไปและหากต้องการมีชีวิตต่อเพียงแค่กลับไปที่ฐาน

  • เล่ห์รักบุปผาซ่อนพิษ   บทที่ 48

    #####บทที่ 48“คุณหนูเจ้าคะ ตื่นได้แล้วเจ้าค่ะ”เป็นเย่าถิงที่เข้ามาปลุกซูเมิ่งที่กำลังกอดกองผ้าห่มนุ่มด้วยอาการมึนงง นางลืมตามองเย่าถิงอย่างเกียจคร้าน“ข้าขอนอนอีกหน่อยได้หรือไม่”ไม่พูดเปล่าซูเมิ่งปิดเปลือกตาลงอีกครั้ง นางรู้สึกอ่อนเพลีย และปวดเนื้อปวดตัวไปหมดจนไม่อยากขยับเขยื้อน แต่ก็ต้องลืมตาขึ้นอีกครั้งเพราะแขนตัวเองถูกดึงให้ลุกขึ้นและทันทีที่เย่าถิงดึงแขนของซูเมิ่งพ้นผ้าห่มก็ต้องตกใจ นางมองไปยังรอยสีกุหลาบบนผิวขาวผุดผาดของผู้เป็นนายที่ตอนนี้ขึ้นรอยแดงราวถูกแมลงกัดต่อย และยิ่งพอซูเมิ่งเอนตัวขึ้นตามแรงดึงของเย่าถิงแล้วผ้าห่มที่คลุมร่างอยู่ไหลกองลงปิดเพียงเอวยิ่งตระหนกไปใหญ่ ทั้งรอยมือและบางแห่งเกิดเป็นรอยช้ำ เย่าถิงพอนึกถึงว่าที่มารอยพวกนี้มาจากไหนจึงใบหน้าแดงขึ้นลามจนถึงใบหู“ไป๋จื่อเตรียมน้ำอุ่นผสมสมุนไพรให้แล้วเจ้าค่ะ ให้บ่าวพยุงไปนะเจ้าคะ”ซูเมิ่งพยักหน้ารับคำอย่างว่าง่าย นางรู้สึกล้าเกินจะลืมตาตื่นด้วยซ้ำ แต่ก็รู้ว่าตามธรรมเนียมแล้วตนจะต้องไปไหว้บุพการีของซือหมิง ซูเมิ่งแทบจะอยากไปหักคอของบุรุษน่าตายนามซือหมิงให้ตายคามือเสียเดี๋ยวนี้เลย เมื่อคืนเขารู้ทั้งรู้แท้ ๆว่าไม่ควรเข้

  • เล่ห์รักบุปผาซ่อนพิษ   บทที่ 47 (ต่อ)

    บทที่ 47 (ต่อ)“คุณหนู พร้อมแล้วออกมาได้เลยนะเจ้าคะขบวนของชินหวังใกล้มาถึงแล้วคุณหนูออกมาได้เลยเจ้าค่ะ”ร่างงามระหงเดินตามนางกำนัลเจี่ยงและคนอื่นออกจากห้องนอนเพื่อไปยังโถงจัดงานไม่นานขบวนเสด็จของชินหวังก็หยุดลง ทั้งขุนนาง และทหารรักษาพระองค์ตั้งขบวนจนหางยาวไปไกลลิบตา บนม้าต้นขบวนร่างกำยำงามสง่าในชุดแดงผ่าเผย นัยน์ตานิ่งลึกล้ำยากคาดเดา ยามปรายตาไปทางใดเหล่าบ่าวใช้ที่ติดตามเจ้านายจวนตระกูลไป๋ออกมาต้อนรับต่างเขินหน้าแดงเป็นลูกตำลึง ซือหมิงเหวี่ยงตัวลงจากอานม้าท่าทางงามสง่าเต็มไปด้วยอำนาจแม้วันนี้เขาจะยังคงท่าทาดุดันเข้าถึงยากอยู่แต่หากเป็นคนสนิทของซือหมิงย่อมมองออกมาเจ้านายของพวกเขานั้นนัยน์ตาเปล่งประกายเจิดจ้ากว่าวันใด และริมฝีปากบางนั่นก็หยักยกเล็กน้อยด้วยพอซือหมิงถูกเชิญเข้ามาในจวนเพื่อไปยังห้องโถงกลาง ก็พอดีกับที่นางกำนัลเจี่ยงจูงมือซูเมิ่งซึ่งมีผ้าสีแดงผืนใหญ่ปิดใบหน้าเดินออกมา ขนาดไม่เห็นหน้าตาซือหมิงยังรู้สึกใจเต้นแรงขึ้นมา เขามองเห็นเพียงทรวดทรงและท่าทางการเดินนั่นก็รู้สึกภาคภูมิใจเป็นไหน ๆ พอถึงย้อนไปคราที่เขาพบนางครั้งแรก ท่ามความมืดมิดในค่ำคืนหนึ่งในป่ากว้าง ร่างงามสง่าผิวข

  • เล่ห์รักบุปผาซ่อนพิษ   บทที่ 47

    #####บทที่ 47วันรุ่งขึ้นตื่นขึ้นมาร่างกายของซูเมิ่งก็เริ่มกลับมาปรกติแล้ว ความเจ็บปวดเมื่อตอนก่อนได้รับเทียบยาถอนพิษคลายลง ทำให้ร่างกายซูเมิ่งกลับมามีแรงอีกครา เมื่อคืนตอนที่นางนั่งคุยกับหยางเหวินทำให้ได้รู้ว่าหมอพิษคนที่ท่านหมอจูบอกว่าเป็นหมอกำจัดพิษที่เก่งที่สุดนั้นแท้จริงคืออาจารย์ผู้สอนหยางเหวินนั่นเอง จากคำกล่าวของหยางเหวิน เขาบอกว่าอาจารย์ของเขาผู้นี้รักความสงบมากมักจะเร้นกายไม่ให้คนขอพบได้ง่าย และเนื่องด้วยเขาอายุมากแล้วไม่แข็งแรงกำยำเหมือนสมัยหนุ่ม ๆจึงไม่รับรักษาคนอีก เหมือนว่าหยางเหวินจะคือลูกศิษย์คนสุดท้ายของเขา แต่แม้หยางเหวินจะได้รับการถ่ายทอดวิชาแต่ด้วยประสบการณ์ตรงในความรอบรู้เรื่องพิษต่าง ๆก็ไม่สู้อาจารย์ได้อยู่ดี แต่หยางเหวินอาจสามารถขอให้อาจารย์มารักษาซูเมิ่งได้เป็นกรณีพิเศษ นี่คือเหตุผลที่ซูเมิ่งคุยกับหยางเหวินจนดึกดื่นใครจะไม่ตื่นเต้นเล่าที่พบหนทางกำจัดพิษได้ นางไม่อยากเป็นสตรีอ่อนแออย่างนี้หรอกนะ ซูเมิ่งตื่นขึ้นมาอีกทีก็ยามเว่ยแล้ว ไป๋จื่อนำอาหารอ่อนเข้ามาให้ซูเมิ่งกินถึงหน้าเตียง พอทานเสร็จก็ขอร้องแกมบังคับให้นางนอนพักผ่อนต่ออีก แต่ด้วยความที่นางเพิ่งทานข้าวไป

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status