Share

บทที่ 27

Author: Karawek House
last update Last Updated: 2025-08-27 22:54:11

กว่าจะรู้ตัวอีกที สองมือแกร่งก็ดึงร่างนุ่มนิ่มเข้ากอดแนบอก ก่อนเสียหลักล้มลงนอนหงาย กลายเป็นเบาะให้เธอ

“คุณ...” หญิงสาวอ่อนเยาว์เบิกตากว้าง ไม่รู้ว่าตกใจที่เห็นหน้าเขาหรือตกใจเพราะพลัดตกลงมา

เธอแข็งขืนเหมือนพยายามจะดันตัวลุกขึ้น

แต่เพราะทุกอย่างเกิดขึ้นเร็วเกินไป เขายังกอดร่างเธอไว้แน่น การกระทำนั้น เลยกลายเป็นการขยับตัวให้เส้นผมกรุ่นกลิ่นกุหลาบจางๆ คล้อยลงไล้แก้มเขาอย่างไม่ตั้งใจ

ความอ่อนนุ่มที่ขยุกขยิกอยู่บนตัวเขา...กลิ่นดอกไม้หอมรัญจวน...ดวงตาตื่นๆ คู่ที่เคยตรึงสายตาและเชิญชวนให้เขาทำเรื่องผิดบาป สามอย่างนี้ทำให้ทุกอย่างคล้ายหยุดนิ่งไปในวินาทีนั้น

เธออยู่ตรงนี้ อยู่บนตัวเขา อย่างแนบชิด

ไซรัสระบายลมหายใจอย่างยากลำบาก เขาต้องใช้ความพยายามอย่างมาก ในการประคองร่างบอบบางในอ้อมแขนลุกขึ้นยืน แล้วสอบถามอย่างมีอารยะ

“บาดเจ็บตรงไหนหรือเปล่าครับ?”

“ไม่...ไม่ค่ะ” ทั้งๆ ที่เธอตอบแบบนั้น แต่เขากลับสังเกตเห็นรอยบาดที่ฝ่ามือ

มันอาจจะเป็นบาดแผลเพียงเล็กน้อยเมื่อเทียบกับบาดแผลส่วนใหญ่ที่เขาพบเห็นมาในชีวิต แต่รอยแผลนั่น ก็ดูน่ากลัวเมื่อเกิดขึ้นบนฝ่ามือขาวๆ ที่ดูบอบบางกว่าใคร

ไซรัสเหลียวมองไปด้านบน นอกจากผ้าคลุมไหล่ผืนสวยที่เขาจำได้แม่นว่าเป็นผลงานปักจากร้านเขา บนนั้นมีกิ่งไม้หักอยู่หนึ่งกิ่ง พอเดาได้ว่าคงเป็นกิ่งเดียวกันกับที่เรียกเลือดสีแดงฉานให้ไหลอาบฝ่ามือเธออย่างรวดเร็ว

“อันตรายนะครับ” เขาตำหนิสั้นๆ ก่อนเหยียบลายแกะสลักหยักลึกบนเสาหิน ส่งตัวเองขึ้นไปบนระเบียง

จากบนนี้ พ่อค้าหนุ่มสามารถยื่นมือไปเก็บผ้าผืนที่เล่นงานจนคุณหนูคนเล็กของคฤหาสน์พลัดตกระเบียง ได้อย่างสบายๆ

เขาลอบยิ้มทันทีที่คว้าผ้าเจ้าปัญหาไว้ในมือ

อันที่จริงผ้าผืนนี้ก็ไม่ได้อยู่ห่างจากระเบียงสักเท่าไหร่ อัยน์นาจะเลือกเก็บผ้าคลุมไหล่ด้วยวิธีอื่นไม่ต้องฝืนทำขนาดนั้นก็ยังได้ และจากตรงนี้ ต่อให้พลัดตกลงไป ถ้าคนที่ตกลงไปรู้วิธีปกป้องตัวเองบ้างสักเล็กน้อย แข้งขาก็คงไม่หัก ไม่เสียโฉม ไม่มีอันตรายมากกว่าการได้บาดแผลยิบย่อย

...ที่ท่านหญิงกุหลาบทะเลทรายผู้เลื่องชื่อเลือกทำแบบนี้ อาจเพราะต้องการให้ภาพลักษณ์พี่สาวต่างมารดายิ่งเลวร้ายในขณะที่ตัวเองยิ่งดูน่าสงสาร...

ทั้งๆ ที่รู้ว่าแม่กุหลาบแรกแย้มดอกนี้หนามแหลมคมนัก แต่เขากลับรู้สึกตื่นเต้นอยากเอาชนะมากกว่าจะหยามหมิ่น

อัยน์นา ไร้สกุล ‘โฉมงาม’ นางนี้...ช่างไม่ธรรมดาเลย

“ของดิฉันเองค่ะ” เสียงเกือบจะตะโกนจากพริสซิลล่า ดึงให้ไซรัสหลุดจากห้วงคิด

เจ้าหล่อนรีบปราดเข้ามาแสดงตัว ทำเหมือนกลัวเขาหนีหน้าหรือส่งผ้าในมือให้คนอื่นด้วยความเข้าใจผิดอย่างไรอย่างนั้น

พ่อค้าหนุ่มเหลียวมองลงไปด้านล่าง...ตอนนี้หญิงสาวที่เขาช่วยไว้เดินจากไปแล้ว เธอเดินออกไปทางอาคารหลังเล็กด้านซ้ายโดยมีสาวใช้สองนางช่วยประคอง ในขณะที่คนอื่นๆ ต่างมองตามด้วยสีหน้าเป็นห่วงปนสงสาร

ด้านซ้ายมือเธอยังมีสาวใช้สองสามรายลอบปาดน้ำตาด้วยซ้ำ

น่าสงสารหรือ...บางทีตอนนี้ท่านหญิงทั้งสองกับมารดา อาจจะน่าสงสารยิ่งกว่าด้วยซ้ำ

“ท่านหญิงพริสซิลล่า” ไซรัสหันกลับมามองสบตาหญิงสาวผมทองหยักสวยตรงหน้าด้วยความเวทนา

ดูเผินๆ สตรีนางนี้อาจจะดูเหมือนเสือ ในขณะที่อัยน์นาไม่ต่างอะไรไปจากลูกแกะน้อย แต่ความจริงแล้ว ท่านหญิงผู้นี้ก็แค่แมว ในขณะที่อีกฝ่ายเป็นหมาป่าที่ถลกหนังแกะมาสวมไว้

“หากนี่เป็นการเสียมารยาท ผมต้องขออภัย แต่ผมจะไม่อ้อมค้อม...”

พริสซิลล่าพยักหน้าน้อยๆ อย่างสุภาพสตรีชั้นสูงแทนการอนุญาตให้เขาพูดต่อ

แก้มเจ้าหล่อนขึ้นสีชมพูระเรื่อ สายตาคาดหวัง ทำท่าราวกับกำลังรอคอยคนรักคุกเข่าขอแต่งงาน

ไซรัสไม่ได้สนใจท่าทางนั้น ทำเพียงพูดเรื่องที่คิดว่าควรเตือนก่อนที่คุณหนูรายนี้จะคิดเลยเถิดไปไกล

“ผมไม่ทราบว่าเรื่องจริงเป็นแบบไหน แต่ก็เชื่อว่าผู้หญิงบอบบางงดงามอย่างท่านหญิงไม่ใช่คนร้ายกาจอย่างเรื่องเล่า” เขาจ้องลึกลงในดวงตาสีเขียวดั่งมรกต เพื่อแสดงความจริงใจ “เห็นแก่มรกตงดงามในตาคุณ ถ้าอย่างไร นับจากนี้ลองละวางเรื่องอัยน์นาบ้างดีไหม ปล่อยเธอไว้อย่างนั้น อย่าไปยุ่งเกี่ยวกับเธอมากนัก”

“พูดอะไรกันคะ คุณพี่ไม่ได้ทำอะไรสักหน่อย” แอนนาเบลรีบเถียงแทนพี่สาว “คุณพี่แค่ให้เก็บผ้า แต่แม่นั่นดันเซ่อซ่าจนตกลงไป มันทำตัวเองต่างหาก!”

ปาก สะ หว่าง

ท่านหญิงคนโตของคฤหาสน์ลอบขยับริมฝีปากตำหนิน้องสาว แต่ไซรัสก็ตาไวพอจะทันเห็น

“ไม่ว่าเรื่องจะเป็นมายังไง แต่คนอื่นก็มองไม่ดีนะครับ” เขาแสร้งทำเป็นไม่รู้ไม่เห็น เลือกเตือนสั้นๆ

ไม่กล่าวโทษใคร ไม่ตัดสิน

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • เล่ห์รักเจ้าชายอสูร   บทที่ 61

    “ขออภัย ขอผมอกไปสูดอากาศข้างนอกสักครู่” นี่เป็นคำพูดตัดบทขอปลีกตัวที่ไซรัสมองว่าช่างฟังดูทื่อและเสียมารยาทที่สุดเท่าที่เขาเคยทำหลุดจากริมฝีปาก แต่ตอนนี้สมองเขาเริ่มตื้อตันเกินกว่าจะนึกอะไรไหว“สีหน้าคุณดูไม่ดีเลย ไม่สบายหรือเปล่าคะ เราติดต่อขอความช่วยเหลือมหาดเล็กขอให้เขาช่วยจัดห้องพักให้คุณดีไหม”“อย่าให้ใครต้องลำบากเลยครับ ผมแค่มึนหัวนิดหน่อยเท่านั้น” เขาเริ่มนึกถึงสวน นึกถึงต้นไม้รกครึ้ม ยิ่งรู้สึกว่าตัวเองไม่ปกติก็ยิ่งอยากซ่อนตัวมากขึ้นเท่านั้น“ถ้าอย่างนั้น เราออกไปที่อุทยานกลางดีไหมคะ” สิ่งที่พริสซิลล่าเสนอ ตรงใจเขาพอดี “นะคะ เดินออกไปทางประตูตะวันออก แป๊บเดียวก็ถึงแล้ว เดี๋ยวดิฉันจะพาไป”“เปลี่ยนเป็นบอกทางดีกว่าครับ หายไปด้วยกัน ใครเห็นเข้าจะดูไม่ดี”พริสซิลล่ากัดริมฝีปากอย่างขัดใจ“แต่คุณบอกว่ามึนหัวนี่คะ” เธอจ้องหน้าเขา แววตาบ่งบอกว่าจะไม่ยอมทำตามที่บอกแน่ๆบทจะดื้อ ก็ดื้อดึงขึ้นมาแววตาท่านหญิงผมทองยามนี้ ดูรั้น ไม่ยอมคน คล้ายอัยน์นาอย

  • เล่ห์รักเจ้าชายอสูร   บทที่ 60

    “ตาถั่วน่ะสิ” แอนนาเบลถลึงตาใส่ “เถียงคำไม่ตกฟาก แค่ถามว่าฉันทำหายที่ไหนแล้วช่วยกันหาไม่ได้หรือไง นั่นของแพงมากนะยะ”“แล้วคุณพี่ไปทำตกไว้ที่ไหนล่ะคะ”คำถามสั้นๆ จากอันย์นา ทำเอาท่านหญิงคนรองสะอึกหล่อนกลอกตา ก่อนตอบ“ในสวน”“ในสวน...? สวนไหนคะ”“ก็สวนใกล้ๆ นี่น่ะสิ!” แอนนาเบลแหวใส่ “เอาเป็นว่าหล่อนต้องมาช่วยฉันหา เดี๋ยวนี้!” บอกแล้ว คนอ้างว่าทำของหายก็เดินนำเธอมุ่งหน้าเข้าหาอุทยานที่เต็มไปด้วยพุ่มไม้ดอก ไม้ดัด และซุ้มไม้เลื้อยนานาชนิดแสงสลัวรางจากเสาติดตะเกียง ส่องให้คุณหนูทั้งสองจากตระกูลแกรนเทรนท์เห็นว่าอุทยานแห่งนี้กว้างขวางจนน่าตกใจ“คุณพี่ไปทำหายบริเวณไหนคะ” อัยน์นาถามหลังกวาดสายตามองไปรอบๆเธอแน่ใจว่าคนอย่างแอนนาเบลไม่มีทางทิ้งงานเลี้ยงหรูหราลงมาที่อุทยานซึ่งทั้งมืดสลัว ทั้งกว้างขวาง ทั้งเงียบเชียบ แบบนี้คนเดียวแน่ แต่ครั้นจะพูดว่ารู้ทัน ประเดี๋ยวพี่สาวจอมโวยวายรายนี้ ก็คงส่งเสียงแหลมแสบแก้วหูปฏิเสธคอเป็นเอ็น กลาย

  • เล่ห์รักเจ้าชายอสูร   บทที่ 59

    “คุณจืดชืดจนใครต่อใครอิจฉา...จืดชืดเสียจนผมละสายตาจากคุณไม่ได้”กระทั่งคำพูดเชิงลบแบบนี้ ยังใช้เกี้ยวพาราสีผู้หญิงได้...เชื่อเขาเลยอัยน์นาพยายามเตือนตัวเองว่าชายคนนี้เป็นจอมเสแสร้ง ทั้งที่เกิดขัดเขินขึ้นมาจนแก้มตึง“ข่าวว่าท่านผู้หญิงสั่งตัดชุดราตรีสีฟ้าสดใสให้คุณสวมมางานนี้...เพราะอะไรถึงกลายเป็นสีทองไปได้” จู่ๆ เขาก็ชวนเปลี่ยนหัวข้อพูดคุยเสียอย่างนั้นไม่เปลี่ยนเรื่องเปล่า ยังมองเสไปทางอื่นชั่วครู่อีกด้วยคุณหนูเจ้ากรมการเมืองไม่ถึงกับรับความเปลี่ยนแปลงนี้ไม่ทัน เพียงแต่รู้สึกชัดเจน ว่าเขาจงใจพาเธอออกจากบทสนทนาเกี้ยวพาราสีที่ตัวเขาเองเป็นคนเริ่ม ชวนให้สงสัยว่าภายใต้ใบหน้าสวมหน้ากากยิ้มแย้ม เป็นมิตร พ่อค้ารายนี้ คิดอะไรอยู่ในใจท่ามกลางบรรยากาศคลอเคล้าเสียงดนตรี อัยน์นาเผลอจ้องมองนัยน์ตาสีดำ นิ่ง นาน“ความลับค่ะ” เธอเลือกตอบสั้นๆ เพราะไม่อยากพูดเรื่องตัวเองให้ใครฟังเกินจำเป็น“น่าเสียดาย ที่ผมจะไม่มีโอกาสทำความรู้จักช่

  • เล่ห์รักเจ้าชายอสูร   บทที่ 58

    คิดได้ไม่เท่าไหร่ สายตาคมกริบก็สังเกตเห็นชายหนุ่มร่างสูง ผิวขาว รูปร่างสมส่วน สวมชุดสีดำ ขลิบขอบปกคอเสื้อไล่ยาวมาถึงชายด้วยดิ้นเงิน ดูเข้มขรึม น่าเกรงขามเธอจำเขาได้ดี...ถึงวันนี้เขาจะแต่งกายเป็นทางการผิดหูผิดตา แต่นัยน์ตาสีดำกับเส้นผมยาวเหยียดสีเดียวกันและท่าทีทรงอำนาจดุจราชาอย่างนี้ จะเป็นใครไปไม่ได้ นอกเสียจากพ่อค้าน่าสงสัยวันนี้ไซรัสไม่ได้รวบผมต่ำอย่างทุกที แต่ปล่อยให้มันพลิ้วสยาย ติดจะดูเป็นทรงผมที่ดูสบายๆ เกินเหตุ แต่กลับน่ามองอย่างที่สุดเธอส่งยิ้มให้แล้วเดินตรงไปหาเขาทันที‘วันนี้คุณหนูอัยน์นาก็ยังต้องเป็นมิตรที่ดีต่อไซรัส’ นั่นเป็นสิ่งที่เธอบอกตัวเอง เมื่อเกิดแปลกใจที่สองขาพาร่างกายเข้าใกล้เขาโดยไม่แม้แต่จะหยุดคิดไซรัสเองก็คลี่ยิ้มน้อยๆ ให้เธอเช่นกันภาพเหล่านี้ ทำให้บรรดาสาวน้อยสาวใหญ่ในวงสังคมพึงพอใจ...นัยว่าหมดคู่แข่งไปอีกราย แต่ไม่ใช่พริสซิลล่าตอนเห็นอัยน์นาเต้นรำกับเจ้าชาย เธออาจจะริษยา แต่ก็ยังรู้สึกดีกว่าตอนนี้ ตอนที่น้องสาวต่างมารดาพุ่งตรงเข้าหาผู้ชายที่เธอพึงใจโดยไม่หยุดคิดเล

  • เล่ห์รักเจ้าชายอสูร   บทที่ 57

    นานมากแล้วที่เสียงเพลงหวานซึ้งจากเครื่องสายดังกังวานใสขับกล่อมผู้คน และทำหน้าที่ต่างเสียงบอกจังหวะก้าวขาให้คู่เต้นรำที่เหลืออยู่เพียงคู่เดียวเท่านั้น“เธอเต้นเก่งมาก” คู่เต้นหนุ่มกระซิบแผ่วเบาในจังหวะที่อัยน์นาต้องหมุนตัวเข้าใกล้เขาอย่างช่วยไม่ได้“ไม่หรอกค่ะ เพราะคุณเต้นเก่งมากกว่า” เธอหมายความตามนั้นจริงๆถ้ามีใครมาถามว่าชายตรงหน้าเต้นรำเก่งแค่ไหน อัยน์นากล้าบอกทันทีว่าชายคนนี้เต้นเก่งมาก มากจนสามารถเปลี่ยนให้คนเต้นรำพอได้อย่างเธอกลายเป็นคนที่เหมือนเต้นเก่งได้ในพริบตาอยู่ในวงแขนเขา เธอก็ไม่ต่างจากขนนก ได้แต่ล่องลอยพลิ้วไหวไปตามสายลมทุกฝีเท้า ทุกการก้าวเดิน ทุกท่วงท่าการหมุนที่เขาชี้นำ ทำให้เธอได้รับเสียงปรบมือจากแขกในงานเป็นระยะเวลานี้ ใครต่อใครล้วนไม่กล้าก้าวขาเข้ามาเต้นเทียบเคียง พวกเขาเอาแต่เฝ้ามองเธอกับคู่เต้น...นั่นเป็นเรื่องที่น่าอึดอัดที่สุด“ฉันไม่เคยเห็นหน้าเธอมาก่อน” นักเต้นหนุ่มบอกพลางยกแขนส่งให้เธอหมุนตัวใต้การควบคุมอีกครั้ง “

  • เล่ห์รักเจ้าชายอสูร   บทที่ 56

    กว่าตระกูลแกรนเทรนท์จะมาถึงประตูท้องพระโรงที่ใช้เป็นสถานที่จัดงานเลี้ยงหนนี้ งานเลี้ยงก็เริ่มไปนานแล้วอย่างที่ท่านผู้หญิงว่า สร้างความพึงพอใจให้ท่านผู้หญิง พริสซิลล่า และแอนนาเบลไม่น้อยงานเลี้ยงหนนี้ จัดเป็นงานเลี้ยงเต้นรำอย่างที่อัยน์นาเคยได้ข่าวมันเป็นงานเลี้ยงขนาดใหญ่ ภายในท้องพระโรงกว้างขวางปูพรมสีแดงจัดผู้คนมากมายในชุดหรูหราต่างจับคู่เต้นรำ บ้างก็พูดคุย ยิ้มแย้มผู้คนและการแต่งกายว่าน่าประทับใจแล้ว ต้นเสาและเพดานโค้งสีขาวสลักลายละเอียดอ่อน โคมไฟระย้าคริสตัลขนาดใหญ่ใจกลางเพดาน สายประดับคริสตัลที่ห้อยทิ้งตัวเป็นสาย ช่อดอกลิลลี่สีขาวดอกใหญ่จำนวนนับไม่ถ้วน ทหารยืนยามและบริกรในชุดหรูหรา วงดนตรีเล่นสดขนาดมหึมา เครื่องดื่มสีสันแปลกตามากกว่าสิบชนิด ม้านั่งบุกำมะหยี่สีแดงเข้มขาตั้งฉลุลายแบบเดียวกับเพดานดูเรียบหรูรับกับพื้นพรมและผนัง อาหารและของว่างนับร้อยชนิดจัดไว้เป็นคำๆ ประดับประดาด้วยผงสีทองสวยเด่น แต่ละรายละเอียดในงานเลี้ยงล้วนดูสวยงามมีระดับจนไม่อาจนิยามเพียงสั้นๆ ได้ว่า ‘น่าประทับใจ’“เข้าไปตอนนี้ต้องเด่นแน่ๆ ”

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status