Share

ชิงรัก 1

Author: lianlian
last update Last Updated: 2025-05-15 11:54:19

ในเจ็ดวันต่อมา หลังจากฮ่องเต้เสวยพระกระยาหารเย็นพร้อมกับฮองเฮาเรียบร้อย ทางหัวหน้าฝ่ายในได้เทินป้ายชื่อนางสนมที่พร้อมถวายการปรนนิบัติในคืนนี้เข้ามา ฮ่องเต้บ้วนพระโอษฐ์แล้วใช้ผ้าเช็ดหน้าซับปากจนเรียบร้อย จากนั้นจึงเพียงปรายตามองป้ายชื่อทีละชื่อ ก็พาลรู้สึกขุ่นใจ ไม่มีหญิงสาวนางใดที่เข้ารู้สึกสนิทเสน่หา แม้กระทั่งจำต้องร่วมเตียงเพื่อผลประโยชน์ก็ไม่มี เขายกมือข้างหนึ่งเท้าคางมอง จรดจ้องบรรดาป้ายที่เรียงรายอยู่บนถาดด้วยสีหน้าราบเรียบปานผิวน้ำทะเลสาป ไม่มีท่าทีที่จะหยิบขึ้นมา หลี่ฮุ่ยที่ปรนนิบัติฮ่องเต้อยู่ข้างกายเองก็มิกล้าเอ่ยท้วงอันใด ฮองเฮาเพียงมองตาม แล้วเอ่ยเสียงนุ่ม “อาห์...มีป้ายชื่อของเซวียนเฟย ถ้าหม่อมฉันจำไม่ผิด วันนี้เป็นวันคล้ายวันเกิดของนาง”

ฮ่องเต้คล้ายหลุดจากภวังค์ เพียงเอ่ยเรียบๆ “ใช่ วันนี้เป็นวันเกิดของเซวียนเฟย เราได้ให้คนส่งของขวัญ งานเลี้ยงพร้อมกับนางรำอีกจำนวนหนึ่งไปแล้ว”

“วันเกิดนับว่าเป็นวันพิเศษสำหรับสตรีในวัง หม่อมฉันคิดว่าเซวียนเฟยคงปรารถนาให้ฝ่าบาทเสด็จไปร่วมงานวันเกิดของนาง”

ฮ่องเต้เพียงแค่นยิ้มเอ่ย “ฮองเฮาของเราช่างรู้จักเอาใจใส่เหล่าสนมนางในยิ่ง”

ฮองเฮาเพียง
Continue to read this book for free
Scan code to download App
Locked Chapter

Latest chapter

  • เล่ห์แค้นจินฉาน   ชิงรัก 4

    ณ ตำหนักผิงอันยามนี้มีกลิ่นหอมจรุงของกำยานผสมผสานกับกลิ่นหอมอันเป็นเอกลักษณ์ยามเทน้ำชาร้อนกรุ่นที่ชงจากชาอัดก้อนใส่ลงไปในถ้วยที่มีนมใส่รองไว้ที่ก้นถ้วย จากนั้นจึงเปิดตลับใบเล็กแล้วใช้ปลายเล็บที่ไว้ยาวสะกิดผงสีขาวในตลับขึ้นแล้วโรยลงไปที่ถ้วยชาทั้งสองใบ เรียบร้อยแล้วนางจึงเทินถ้วยชาใบหนึ่งนั้นส่งให้ฮ่องเต้ที่กำลังเอนกายอยู่ในท่ากึ่งนั่งกึ่งนอนอยู่บนเก้าอี้เซียงเฟย “ตกดึกน้ำค้างแรง หม่อมฉันเลยชงชานมถวาย พระวรกายจะได้อบอุ่นเพคะ”เขารับมาโดยใบหน้าที่ขมวดคิ้วน้อยๆ อย่างนึกสงสัย “เจ้าโรยอะไรลงไปในถ้วยชา”จินฉานยิ้มบางแล้วจึงหยิบตลับที่ว่าส่งให้เขา “มันคือเกลือเพคะ ทางเหนือของป๋ายอี้นั้นนิยมดื่มชานมใส่เกลือ เสด็จแม่ของหม่อมฉันเคยบอกว่าถ้าโรยเกลือลงไปในน้ำชาเล็กน้อยจะช่วยกำจัดรสขมฝาดเฝื่อนอันไม่พึงประสงค์ไปได้ด้วย” ว่าพลางนางจึงยกถ้วยชาขึ้นดื่ม พลางถอนใจน้อยๆ ท่าทางสบายอกสบายใจจนน่าอิจฉา ฮ่องเต้จับจ้องดูปฏิกิริยาของอีกฝ่ายอยู่อึดใจ จึงยกถ้วยชาขึ้นดื่ม นับว่ารสชาติกลมกล่อมกำลังดีตามที่อีกฝ่ายว่าไว้จริงๆ เด็กสาวยิ้มเมื่อเห็นท่าทีผ่อนคลายของอีกฝ่าย แล้วจึงกล่าวเสริม “ถ้าเปลี่ยนจากเกลือเป็นแผ่นขิง

  • เล่ห์แค้นจินฉาน   ชิงรัก 3

    เสียงดนตรีจากตำหนักปี้ติงเหลียนเงียบลงไปแล้ว เหล่านางรำและนักสังคีตที่ได้รับบัญชาจากฮ่องเต้เพื่อสร้างความสำราญให้กับเซวียนเฟยต่างทูลลากลับออกมาจากตำหนักอย่างพร้อมเพรียง คืนความสงบสู่นายตำหนักอย่างแท้จริงบนโต๊ะที่ปูด้วยผ้าไหมสีแดงสดเดินด้ายทองด้วยลายมงคล จานสำรับอาหารพระราชทานค่อยๆ ถูกลำเลียงออกไป เซวียนเฟยยังนั่งนิ่ง ยกมือเท้าคางข้างหนึ่ง อีกข้างหนึ่งถือจอกสุราเอาไว้ ดวงตาคู่งามหวานซึ้งด้วยฤทธิ์เมรัยจ้องมองของเหลวสีอำพันในจอกนิ่ง เนิ่นนานจนกระทั่งหยวนจิ่นเอ่ยเรียกอย่างกังวล “นายหญิง”“หยวนจิ่น เจ้าว่าฝ่าบาทจะเสด็จมาหรือไม่?” นางเอ่ยอย่างเลื่อนลอย ก่อนแค่นยิ้มนิดหนึ่งแล้วจึงยกจอกสุราขึ้นดื่ม กลิ่นและรสสุราเลื่องชื่อไหลล่วงเข้าคอ สัมผัสได้ถึงรสและกลิ่นอันหวานนุ่มอบอวล แต่ยังคงทิ้งทวนด้วยความเผ็ดร้อนหลงเหลือแผ่ซ่านในลำคอ คล้ายกับความรู้สึกของนางในตอนนี้ คาดหวังรอคอย จากนั้นเมื่อความหวังอันหอมหวานมลายสิ้น พลันเหลือเพียงความเจ็บปวดผิดหวังไว้ในหัวใจจนแปลบร้าว “จริงสิ เขาจะมาได้อย่างไร ในเมื่อเขามีอี๋เหม่ยเหรินเป็นยอดดวงใจอยู่แล้ว”“นายหญิง สิ่งที่เราทำได้ก็ทำไปจนหมดสิ้นแล้ว ถ้าอย่างไรเสียท

  • เล่ห์แค้นจินฉาน   ชิงรัก 2

    หน้าไหนที่คิดว่าเขาเป็นบุรุษที่น่าอิจฉาที่สุดในแผ่นดินที่ได้สาวงามนับพันนางห้อมล้อม เขาอยากจับคนพวกนั้นมาแทนที่เขาสักเดือนสองเดือน เขาอยากรู้นักว่าพวกมันจะมีปัญญาพ่นถ้อยคำแบบไม่รู้ตื้นลึกหนาบางแบบนั้นได้อีกหรือไม่เพราะในท้ายที่สุด ฮ่องเต้จึงตัดสินใจว่าจะเสด็จฯ เยือนยังตำหนักตำหนักปิงตี้เหลียน (บงกชแฝด) ของเซวียนเฟย...ซึ่งบงกชแฝดนั้นเป็นสัญลักษณ์นิมิตรหมายมงคลอันดี สื่อถึงว่าผู้ใดได้พำนักย่อมมีวาสนาอย่างหาที่สุดมิได้ถึงแม้ความหมายของตำหนักจะเป็นมงคล แต่ฮ่องเต้ก็ยังไม่อยากย่างกรายเข้าไปและอยากไปหาสนมคนโปรดตามที่หัวใจต้องการมากกว่า แต่ถึงต้องการเพียงใดก็ตาม เขาก็ทำได้เพียงแค่คิด ทั้งนี้เพื่อไม่ให้สายป่านทั้งฝ่ายในและฝ่ายหน้าขาดตอน...เพราะเวินเยว่ฉางผู้เป็นบิดาของเซวียนเฟยตอนนี้เริ่มมีผลงานโดดเด่นเข้าตามากขึ้นนับตั้งแต่ภารกิจปราบปรามป๋ายอี้ อีกทั้งตำแหน่งหน้าที่และอายุราชการเหมาะสมที่จะได้เลื่อนตำแหน่งแทนเสนาบดีโยธาที่กำลังจะขอทูลลาจากตำแหน่งหน้าที่ด้วยเหตุเพราะสุขภาพและสังขารที่ร่วงโรย สิ่งที่เขาทำได้เพื่อรักษาความจงรักภักดีของเวินเยว่ฉางคือเติมเต็มความปรารถนาของตระกูลเวินที่ยอมพรากบุต

  • เล่ห์แค้นจินฉาน   ชิงรัก 1

    ในเจ็ดวันต่อมา หลังจากฮ่องเต้เสวยพระกระยาหารเย็นพร้อมกับฮองเฮาเรียบร้อย ทางหัวหน้าฝ่ายในได้เทินป้ายชื่อนางสนมที่พร้อมถวายการปรนนิบัติในคืนนี้เข้ามา ฮ่องเต้บ้วนพระโอษฐ์แล้วใช้ผ้าเช็ดหน้าซับปากจนเรียบร้อย จากนั้นจึงเพียงปรายตามองป้ายชื่อทีละชื่อ ก็พาลรู้สึกขุ่นใจ ไม่มีหญิงสาวนางใดที่เข้ารู้สึกสนิทเสน่หา แม้กระทั่งจำต้องร่วมเตียงเพื่อผลประโยชน์ก็ไม่มี เขายกมือข้างหนึ่งเท้าคางมอง จรดจ้องบรรดาป้ายที่เรียงรายอยู่บนถาดด้วยสีหน้าราบเรียบปานผิวน้ำทะเลสาป ไม่มีท่าทีที่จะหยิบขึ้นมา หลี่ฮุ่ยที่ปรนนิบัติฮ่องเต้อยู่ข้างกายเองก็มิกล้าเอ่ยท้วงอันใด ฮองเฮาเพียงมองตาม แล้วเอ่ยเสียงนุ่ม “อาห์...มีป้ายชื่อของเซวียนเฟย ถ้าหม่อมฉันจำไม่ผิด วันนี้เป็นวันคล้ายวันเกิดของนาง”ฮ่องเต้คล้ายหลุดจากภวังค์ เพียงเอ่ยเรียบๆ “ใช่ วันนี้เป็นวันเกิดของเซวียนเฟย เราได้ให้คนส่งของขวัญ งานเลี้ยงพร้อมกับนางรำอีกจำนวนหนึ่งไปแล้ว”“วันเกิดนับว่าเป็นวันพิเศษสำหรับสตรีในวัง หม่อมฉันคิดว่าเซวียนเฟยคงปรารถนาให้ฝ่าบาทเสด็จไปร่วมงานวันเกิดของนาง”ฮ่องเต้เพียงแค่นยิ้มเอ่ย “ฮองเฮาของเราช่างรู้จักเอาใจใส่เหล่าสนมนางในยิ่ง”ฮองเฮาเพียง

  • เล่ห์แค้นจินฉาน   ซานเว่ยเสี้ยน 5

    ...วันถัดมา กิจวัตรประจำอารามหลวงยังคงดำเนินต่อไป กลิ่นหอมของธูปขดขนาดใหญ่ทั้งสองด้านที่ถูกจุดผสมผสานกับกำยานตำรับเฉพาะของอารามหลวง ยามเมื่อได้สูดดมชวนให้รู้สึกสงบมีสมาธิ เมื่อผสานกับเสียงสวดมนต์และเสียงเคาะไม้หัวปลาม่ออวี๋ของต้าซืออู่คงที่ดังเป็นจังหวะสม่ำเสมอยิ่งเสริมส่งให้บรรยากาศในโถงใหญ่นั้นดูเข้มขลังเปี่ยมศรัทธา อีกฝ่ายกำลังจรดจ่อไปยังบทสวดและการนับเม็ดประคำไม้จันทน์หอมร้อยแปดเม็ดในมือเมื่อบทสวดจบหนึ่งบทจนกระทั่งไม่ทันสังเกตว่ามีสตรีสองนางกำลังยืนมองอยู่เงียบๆ รอให้การสวดมนต์เสร็จแล้วอู่คงลุกขึ้นยืนเพื่อออกไปทำธุระต่อ เมื่อเห็นมาเห็น อู่คงมีท่าทีตระหนกน้อยๆ ก่อนทำการคารวะ “ถวายบังคมพระสนมอี๋”จินฉานเพียงประสานมือทำความเคารพตอบ “คารวะต้าซือ”“พระสนมเสด็จมา มิได้ให้การต้อนรับ เสียมารยาทแล้ว”“หามิได้ ตัวข้าไม่ได้ให้บอกเพราะไม่ต้องการรบกวนสมาธิต้าซือที่กำลังท่องบ่นบทสวด ถ้าเกิดข้าหาญกล้าทำเช่นนั้นยามตายข้าคงถูกลากไปชดใช้กรรมในนรกเป็นแน่”ต้าซือหนุ่มเพียงแค่ยิ้มบางออกมา “เห็นพระสนมตรัสเรื่องนรกภูมิก็ให้นึกแปลกใจนัก เท่าที่ข้าสังเกต พระสนมดูมิใช่ผู้นับถือพุทธลึกซึ้งถึงเพียงนั้น”จิน

  • เล่ห์แค้นจินฉาน   ซานเว่ยเสี้ยน 4

    เซวียนเฟยไม่รู้ว่าตนเองกับหยวนจิ่นนางกำนัลคนสนิทประคองตนเองกลับมาถึงตำหนักของตนในสภาพใด เพียงแต่เมื่อถึงตำหนัก เหล่านางกำนัลขันทีต่างไม่กล้าสู้หน้านางสักคน จึงพอเดาได้ว่านางกลับมาในสภาพที่ไม่น่าดูเพียงไหน หยวนจิ่นที่เห็นเจ้านายของตนนั่งนิ่งไม่เอ่ยวาจา ในมือเพียงกำพู่ห้อยไข่มุกสีส้มประดับไหมทะเลที่เพิ่งได้มาจนเหงื่อที่ซึมทั่วแทบจะกลั่นออกมาเป็นโลหิต นางทำได้เพียงเทินชาดอกสายน้ำผึ้งถ้วยหนึ่งส่งให้ด้วยท่าทีนบนอบ “นายหญิงได้โปรดเสวยชาดอกสายน้ำผึ้งให้พระทัยเย็นลงก่อนเถิดเพคะ”สตรีสูงศักดิ์ยื่นมือสั่นระริกเข้าหา ทว่ามือข้างนั้นกลับปัดถ้วยชานั้นจนตกแตก “ใจเย็นหรือ จะให้ข้าใจเย็นลงได้อย่างไร ในเมื่อข้าถูกนางเด็กนั่นหยามน้ำหน้าถึงเพียงนี้!”“นายหญิง เรื่องไข่มุกสีส้มนั้น คงเป็นเหตุบังเอิญ...”“เหตุบังเอิญอันใด วันที่ปิ่นอวิ๋นเหยาประดับมุกสีส้มของข้าหายไป เป็นวันที่ข้าไปอารามหลวงกับอี๋เหม่ยเหรินพอดี แล้ววันนี้มันก็กลายเป็นพู่ห้อยประดับเช่นนี้ ถ้าไม่โฉดเขลาจนเกินเยียวยาก็รู้ได้ว่านางเป็นคนเก็บมันไป!” นางขวับไปโต้เถียงพลางกัดฟันกรืดกรอด “ฝ่าหลุนคือธรรมจักร คือกงล้อแห่งธรรม หมายเตือนสติข้ามิให้หลง

  • เล่ห์แค้นจินฉาน   ซานเว่ยเสี้ยน 3

    จินฉานยิ้มเอ่ยอย่างนึกปลาบปลื้ม “จะว่าไปพี่หญิงอาจจะไม่เชื่อ วันหนึ่งหม่อมฉันไปขอพรที่อารามหลวง หลังจากสวดมนต์อธิษฐานว่าขอให้หม่อมฉันตอบแทนความดีของพี่หญิงเซวียนเฟยและผู้ที่ดีต่อหม่อมฉันด้วยของที่วิเศษล้ำค่าที่สุด หม่อมฉันยังมิทันอธิษฐานจบดี ไข่มุกสีส้มเม็ดนี้ก็ปรากฏขึ้นต่อหน้าหม่อมฉัน” ว่าจบเด็กสาวพลันยกมือขึ้นพนมด้วยความซาบซึ้งจริงใจ“ที่อารามหลวงหรือ...ประเสริฐ...ประเสริฐยิ่ง” เซวียนเฟยพยักหน้าช้าๆ จากนั้นจึงถามต่อ “แล้วเงื่อนนี้ คือเงื่อนอันใด”“เรียกว่า เงื่อนฝ่าหลุน เพคะ” จินฉานเอ่ยด้วยรอยยิ้มราบเรียบ “จินเฟยตรัสว่า ฝ่าหลุนคือธรรมจักร คือกงล้อแห่งธรรม เพื่อใช้เป็นเครื่องเตือนใจว่าให้ใช้พระธรรมนำทาง อย่าได้หลงตกไปในห้วงแห่งกิเลสราคะเป็นอันขาด หม่อมฉันเองว่าเงื่อนเชือกนี้เหมาะกับนิสัยของพี่หญิงที่ใจบุญสุนทานนัก จึงได้ตั้งใจทำสุดฝีมือเพคะ”เซวียนเฟยเพียงยิ้มไม่ตอบคำ ทว่ามือที่กำพู่ห้อยไข่มุกนั้นสั่นระริก ราวกับมันกำลังร้อนลวกเผาไหม้ที่มือของนางอย่างแช่มช้า ค่อยๆ ลุกลามไปจนถึงหัวใจที่เต้นระรัวราวกับกลองศึก ใบหน้างดงามมีเหงื่อผุดซึมเล็กน้อย หัวไหล่สั่นไหว ประหนึ่งความหนาวเหน็บอันไร้ท

  • เล่ห์แค้นจินฉาน   ซานเว่ยเสี้ยน 2

    อีกฝ่ายอมยิ้มขวยเขิน “หม่อมฉันแค่รู้สึกคิดถึงบ้าน จินเฟยจึงให้หม่อมฉันยืมซานเว่ยเสี้ยนมาดีดเล่นเพื่อคลายเหงาเท่านั้น อีกอย่าง หม่อมฉันฝีมือยังอ่อนด้อย มิอาจรำขวานต่อหน้าลู่ปัน เอาตนเองไปเทียบกับฝีมือล้ำเลิศของจินเฟยหรอกเพคะ”“ฟังพูดเข้า นับวันยิ่งถ่อมตนเข้าไปทุกที” เซวียนเฟยยกยิ้มอ่อนโยน จินฉานได้ยินเช่นนั้นก็ยิ่งอมยิ้มไม่ตอบ เพียงหันไปสั่งชุนเยี่ยนให้นำขนมและน้ำชามารับรอง แล้วจึงเอ่ยถาม “ไม่ทราบว่าพี่หญิงเซวียนเฟยมีสิ่งใดให้หม่อมฉันรับใช้ หรือว่าวันนี้ท่านจะให้หม่อมฉันไปเป็นเพื่อนสวดมนต์ขอพรที่อารามหลวงอีกครา?”“ตัวข้าเพิ่งกลับมาจากอารามหลวง เห็นว่าไปแต่ย่ำรุ่ง ไม่อยากรบกวนการพักผ่อนของเจ้า ข้าต้องขออภัย ส่วนที่มาวันนี้ ตั้งใจจะมาถามเจ้า ว่างานเทศกาลตวนอู่ปีนี้เจ้าจะเข้าร่วมการแสดงด้วยหรือไม่?”จินฉานเลิกคิ้วน้อยๆ “หม่อมฉันได้ยินว่ามีเหล่าสนมได้ส่งการแสดงเข้าร่วมมากมายแล้ว หม่อมฉันเลยคิดว่าตนเองคงไม่มีความจำเป็น จึงมิได้ส่งไปเพคะ”เซวียนเฟยถอนใจเบาๆ ขณะยกชาหลงจิ่งร้อนกรุ่นที่ชุนเยี่ยนยกมาขึ้นจิบช้าๆ “จริงอยู่ที่ว่าพระนางฮองเฮาทรงมีพระเมตตาให้อิสระกับสนมนางในในการคิดการแสดงจึงมีผู้ส่ง

  • เล่ห์แค้นจินฉาน   ซานเว่ยเสี้ยน 1

    เข้าช่วงกลางวสันตฤดู ต้นจื่อเถิงที่ปลูกไว้เหนือศาลาน้อยหน้าตำหนักผิงอันเริ่มเลื้อยรัดราวกับอ้อมกอดอันอ่อนโยน แล้วผลิใบออกช่อดอกสีม่วงอ่อนปกคลุมทั่วศาลา สายลมอ่อนพาให้ดอกจื่อเถิงที่ห้อยระย้านั้นระบัดไหวชวนให้ผู้ที่นั่งอยู่ใต้ศาลานั้นรู้สึกรื่นรมย์ชุนเยี่ยนที่พักผ่อนจนอาการดีขึ้นแล้วอยู่รับใช้จินฉานเงียบๆ ดวงตากลมโตจ้องมองปลายนิ้วอ่อนช้อยของผู้เป็นนายพรมลงบนเส้นไหมสามเส้นที่ขึงอยู่กับพิณสามสาย พร้อมเสียงนุ่มนวลอ่อนหวานขับร้องบทเพลงพื้นบ้านของป๋ายอี้คลอไปด้วย เด็กสาวยิ่งฟังยิ่งรู้สึกจนอดอมยิ้มไม่ได้ “นานแล้วที่หม่อมฉันไม่ได้ฟังเพลงพื้นบ้านของป๋ายอี้ ชวนให้คิดถึงบ้านเหลือเกินเพคะ”“ต้องขอบคุณจินเฟยที่ให้ยืมพิณซานเว่ยเสี้ยน (พิณสามสายชนิดหนึ่ง ที่ญี่ปุ่นเรียกว่าซามิเซ็ง) คันนี้มา” จินฉานว่า “อ้อ เจ้าต้องไปขอบพระทัยฮ่องเต้ด้วย ที่หมู่นี้มิเรียกตัวข้าไปปรนนิบัติจนหาเวลามาดีดซานเว่ยเสี้ยนให้เจ้าฟังได้”“หม่อมฉันเพียงเห็นพระสนมติดตามข้างวรกายฝ่าบาทตลอดทั้งวันอยู่หลายวันแล้วหม่อมฉันรู้สึกเหน็ดเหนื่อยแทนยิ่งนักเพคะ” ชุนเยี่ยนเอ่ย จินฉานเพียงอมยิ้มจาง ขณะที่นิ้วยังคงขยับบรรเลงเพลงเนิบช้าต่อไปนั

Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status