Masuk"มันไม่มีวันนั้นแน่นอนค่ะ ษาขอตัวนะคะ" หญิงสาวรีบตัดบทแล้วเดินออกไปทันที วินได้แต่มองหญิงสาวหายลับตาไปด้วยดวงตาที่แดงก่ำระทมทุกข์ในใจ เขาไม่คิดเลยว่าษาจะโกหกเขาทั้งๆ ที่จริงๆ แล้วเธอไปหานพพลถึงคอนโด หนึ่งสัปดาห์ต่อมา บัวตองอุ้มลูกน้อยยืนเคียงข้างกับทินมองดูช่างกำลังช่วยกันต่อเติมอาคารเก่าหลังหนึ่ง
"วินดูเหนื่อยๆ นะลูก" พูดพลางนั่งลงข้างๆ ลูกชาย "คุณแม่เองเหรอครับ" วินลืมตาขึ้นมามองหน้ามารดา "มีเรื่องอะไรไม่สบายใจระบายให้แม่ฟังได้นะ" "ไม่มีครับ ผมก็แค่เหนื่อยกับงานนิดหน่อย" "เมื่อวานศรีบอกว่าอยู่ๆหนูษาก็เกิดอาการคลื่นไส้อาเจียนขึ้นมาเป็นอะไรมากหรือเปล่าลูก" "ษาบอกว่าไม่เป็นไรครับหายแ
มือบางค่อยๆ ลูบหน้าท้องราบแบนของตนเองไปมา เธอจะให้ใครรู้เรื่องนี้ตอนนี้ไม่ได้นอกจากนพพลพ่อของลูกเท่านั้น ถ้าบิดาเธอรู้เรื่องต้องเอาเธอตายแน่ๆ ทุกวันนี้ที่เธอยังไม่สารภาพความจริงทุกอย่างกับวินก็เพราะบิดาที่ข่มขู่เธอเอาไว้ ตลอดหลายเดือนที่ผ่านมาบิดายอมตัดใจไม่มารบกวนเรื่องเงินกับวินอีกก็เพราะไม่อยากให
"บัวชอบไหมบรรยากาศแบบนี้" เสียงทุ้มเอ่ยถามขึ้น "ชอบสิคะ" ตอบพลางมองไปรอบๆ บริเวณสวน "พี่ดีใจนะ ที่บัวชอบ" มองด้วยสายตาสื่อความหมาย "ขอบคุณนะคะ ที่พาบัวมาทานมื้อเย็นในบรรยากาศดีๆ แบบนี้" พูดพลางหลบสายตาหวานฉ่ำที่ชายหนุ่มส่งมาให้ "บัวรู้ใช่ไหมว่าพี่คิดยังไงกับบัว" ชายหนุ่มเดินเข้าไปจับกุมมือบางเ
หนึ่งเดือนต่อมา ดำรงกำลังนั่งเปิดแฟ้มเอกสารยอดขายและรายได้ตลอดหนึ่งเดือนที่ผ่านมาของบริษัทอยู่ในห้องทำงานภายในบริษัท พอดำรงเห็นยอดขายและรายได้เพิ่มขึ้นก็ยิ้มออก เพราะเขาไม่คิดเลยว่านัทจะทำได้อย่างที่พูดไว้จริงๆ และตอนนี้คนที่ทำยอดขายพุ่งก็กำลังนอนป่วยเพราะหักโหมงานเกินไปอยู่ในโรงพยาบาล ดำรงจึงรีบบ
"ค่ะ ษารู้ และก็ไม่อยากจะได้เงินจากใครด้วยถ้าไม่จำเป็นจริงๆ ถ้าวินไม่สะดวกษากับคุณพ่อก็ไม่ได้ว่าอะไรหรอกค่ะ" "มันไม่ใช่ว่าไม่สะดวกอะไรหรอกนะษา เรื่องเงินมันไม่ใช่ปัญหาสำหรับผมอยู่แล้ว แต่ความจำเป็นของมันนั่นสิคือปัญหาสำหรับผม " พูดพลางเซนต์เช็กหนึ่งล้านบาทไปด้วย "งั้นษาขอไปคุยกับคุณพ่อก่อนนะคะ"







