ฝ่ามือของคนที่นอนฟาดมาเต็มแรงที่ข้างแก้มของผู้หวังดี เจ้าหล่อนลุกขึ้นมานั่งรวดเร็วแล้วให้รางวัลอีธานด้วยแรงตบจนหน้าชาไปแถบหนึ่ง แล้วลุกขึ้นเดินหนีไปทันที
"เดี๋ยว" อีธานได้สติคว้าขาทั้งสองข้างของคนที่เพิ่งจะตบหน้าตนไว้
"ปล่อยนะ" สาวน้อยล้มลงและถูกคนตัวโตกว่าคร่อมตัวไว้ไม่อาจกระดุกกระดิกไปไหนได้
"ปล่อยนะ ไอ้ฝรั่งบ้า ไอ้ลามก ไอ้ฉวยโอกาส" สารพัดคำต่อว่าที่เจ้าหล่อนพรั่งพรูออกมา ยังไม่นับกำปั้นน้อยๆ ที่ทุบลงมาตรงหน้าอกแกร่งอีกนับไม่ถ้วน
อีธานทนต่อไปไม่ไหว เขาไม่ยอมถูกทำร้ายฝ่ายเดียวแน่ เจ้าหล่อนเป็นใครมาจากไหน มีคนมาช่วยแล้วยังไม่สำนึกกลับต่อว่าและทำร้ายผู้มีพระคุณงั้นหรือ แบบนี้ต้องสั่งสอนและเอาคืนหน่อยแล้ว
"ว้าย..." หญิงสาวร้องลั่น เมื่ออีธานโถมทับมาทั้งตัวเพื่อตรึงไม่ให้ขยับไปไหนได้
"ตบด้วยด่าด้วยจะเกินไปหน่อยไหม แม่คุณ" ภาษาไทยสำเนียงฝรั่งทำให้เธอชะงักเล็กน้อย เขาพูดภาษาบ้านเกิดของตนได้แม้จะดูตลกไปหน่อยก็ตาม
"ผมช่วยคุณนะ แทนที่จะขอบคุณกลับทำแบบนี้เหรอ" แววตาคู่คมจ้องเขม็ง ทำให้อีกฝ่ายก้มหน้าไม่กล้าสบตาตอบ
"ปล่อย" ดูเหมือนน้ำเสียงที่โวยวายเมื่อครู่จะสงบลงอย่างเห็นได้ชัด
อีธานปล่อยตามคำขอขยับตัวออกแล้วลุกขึ้นยืนรอ ร่างอวบอิ่มที่มีเพียงเสื้อเชิ้ตตัวใหญ่คลุมไว้ลุกขึ้นตาม
"เดี๋ยว จะไปไหน"
สาวน้อยนิรนามวิ่งหายไปในความมืด อีธานไม่ทันสังเกตว่าเจ้าหล่อนวิ่งไปทางไหนของรีสอร์ท เธออาจจะเป็นนักท่องเที่ยวที่มาพักที่นี่เช่นกัน ไม่เป็นไรพรุ่งนี้เช้าเขาจะไปดักรอที่ห้องอาหาร รับรองว่าจะต้องถามสิ่งที่เกิดขึ้นในรู้เรื่องแน่
ธามจิบน้ำส้มหมดเป็นแก้วที่สามอีธานก็ยังไม่มีทีท่าว่าอยากจะลุกจากโต๊ะไปไหน ชลาลัยออกมาต้อนรับแขกที่ห้องอาหารซึ่งมีเพียงโต๊ะสองหนุ่มตามปกติ สายตาของเพื่อนรักจับจ้องไปที่ผู้ดูแลคนสวยไม่ยอมห่าง
"แกอยากคุยกับเขาก็ลุกไปเลย ถ้าขืนมัวแต่มองคงไม่ได้ทำอะไรแน่วันนี้" ธามกระซิบเบาๆ
"นายอยากกลับที่พักเหรอ" สายตาของอีธานยังจับจ้องคอยดูบางสิ่งไม่วางตา เขาไม่ได้มองชลาลัยเพียงแต่เจ้าหล่อนอยู่ในตำแหน่งที่เป็นทางเข้าห้องอาหารเท่านั้น
รอจนครัวอาหารเช้าปิด อีธานก็ยังไม่มีทีท่าว่าจะเดินไปคุยกับชลาลัยให้เป็นเรื่องเป็นราวสักที ทำให้ธามทนไม่ไหวเป็นฝ่ายเข้าไปเดินหน้าเปิดทางให้เพื่อนก่อน
"อาหารเช้าถูกปากไหมคะ" ชลาลัยถามด้วยรอยยิ้ม
"อร่อยมากเลยครับ เอ่อ คุณชลาลัยครับ พอจะมีเวลาสักนิดไปคุยกับเพื่อนผมหน่อยได้ไหม พอดีอีธานอยากจะ..."
"ผมอยากทราบว่าแขกผู้หญิงที่มาพักที่นี่อยู่ห้องไหนครับ" จู่ๆ อีธานก็โพล่งขึ้นมาอย่างไม่มีปี่มีขลุ่ย
"มีปัญหาอะไรหรือเปล่าคะ" ชลาลัยถามกลับด้วยสีหน้าตกใจเล็กน้อย ในขณะที่ธามเองก็หันมามองหน้าเพื่อนด้วยความแปลกใจเช่นกัน
"เมื่อคืนนี้ที่ริมหาดของคุณเกือบมีคนฆ่าตัวตาย"
"ฆ่าตัวตาย เฮ้ย..." ธามอุทานด้วยความตกใจ
ชลาลัยส่ายหน้าทันที ตอนนี้แขกที่จันทร์เจ้ารีสอร์ทมีเพียงแค่ธามกับอีธานเท่านั้น ไม่มีแขกอื่นมาพักที่นี่เลยแม้แต่คนเดียว ถ้าเช่นนั้นผู้หญิงที่ชายหนุ่มเห็นคือใคร
"เธอลงไปที่ทะเลตอนดึก คงคิดว่าปลอดคนแล้วแต่บังเอิญผมยังไม่นอนจึงลงมาช่วยไว้ทัน แต่พอเอาขึ้นฝั่งได้ก็หนีไปไหนไม่รู้" อีธานไม่ได้เล่ารายละเอียดว่าแม่ตัวดีทำอะไรกับตนไว้บ้าง
"อาจจะเป็นคนจากรีสอร์ทอื่นหรือเปล่าคะ คือว่าตอนนี้เราไม่มีแขกอื่นเลยนอกจากคุณสองคนเท่านั้น"
เป็นไปไม่ได้ ก็เขาเห็นกับตาว่าเจ้าหล่อนวิ่งหนีหายเข้ามาในรีสอร์ท แล้วจะเป็นคนอื่นไปได้อย่างไรกัน อีธานมั่นใจว่าเป็นคนจริงแท้ร้อยเปอร์เซ็นต์ไม่ใช่ภูตผีหรือนางเงือกที่ไหนแน่
"ทำไมถึงมีเราสองคนมาพักแค่นั้นล่ะครับ" ธามเอ่ยถามขึ้นมาด้วยความอยากรู้
สภาพห้องพักแม้จะดูเก่าและไม่มีเครื่องอำนวยความสะดวกใดๆ แต่พออยู่จริงธามก็พบว่ามันเหมาะสำหรับการพักผ่อนท่ามกลางธรรมชาติ ลมทะเลที่พัดโชยตลอดทั้งคืน ไม่ทำให้รู้สึกร้อนจนคิดถึงเครื่องปรับอากาศที่เคยนอนทุกค่ำคืน ตื่นมาได้ยินเสียงคลื่นกระทบฝั่ง ได้สูดอากาศบริสุทธิ์สดชื่นที่หาได้ยากในสังคมเมืองกรุง
ที่สำคัญเมื่อเช้าตื่นมาเดินเล่นริมหาดกับอีธานทำให้พบว่าวิวของจันทร์เจ้ารีสอร์ทสวยมาก โค้งน้ำสีครามตัดรับกับแสดงอาทิตย์ที่เส้นขอบฟ้าเป็นภาพที่น่าประทับใจมาก
"แต่ผมมั่นใจและเห็นกับตาว่า ผู้หญิงคนนั้นวิ่งหายเข้ามาในรีสอร์ทของคุณ" อีธานยังไม่ยอมลืมเรื่องที่ติดใจมาตลอดทั้งคืน
ชลาลัยไม่รู้จะตอบคำถามไหนของลูกค้าดี เรื่องผู้หญิงที่อีธานเห็นเมื่อคืนคิดว่าน่าจะไปไล่หาตัวตนได้และพอจะรู้ว่าเป็นฝีมือใคร แต่คำถามเรื่องว่าทำไมถึงมีแขกแค่สองคนมาพักต่างหากเป็นเรื่องที่ไม่รู้จะพูดอย่างไรดี
ยังไม่ทันได้ตอบคำถามใดๆ ทั้งสิ้น มนัสก็รีบร้อนเดินมาหาชลาลัยแล้วกระซิบกระซาบบางอย่างที่ทำให้หญิงสาวต้องขอตัวไปทำธุระสำคัญก่อน เธอบอกให้ทั้งสองไปรอที่หน้าบ้านพัก เพราะอีกสักครู่จะมีคนของรีสอร์ทมาพาไปล่องเรือตามโปรแกรม
ธามไม่ติดใจคำถามที่ไม่ได้รับคำตอบ แต่อีธานยังไม่เลิกครุ่นคิดที่จะตามหาผู้หญิงคนนั้น เจ้าหล่อนต้องอยู่ในรีสอร์ทแห่งนี้แน่ เขามั่นใจเช่นนั้นจริงๆ
หนึ่งสัปดาห์ต่อมา "ฉันจะกลับไปที่เกาะนั่น เจ้าของรีสอร์ทสนใจที่จะลงทุนด้วย" อีธานแวะมาบอกเจ้าของบ้านที่กำลังหงุดหงิดเพราะคู่หมั้นหายไปตั้งแต่เช้า เห็นเพื่อนรักท่าทางอารมณ์ดีเป็นพิเศษทำให้ธามคิดว่าอีธานคงดีใจที่จะได้ไปในสถานที่ชอบอีกครั้ง ทะเลกับปลาไหลคงเป็นของคู่กันไปแล้ว แต่เปล่าเลย ที่อีธานดีใจไม่ใช่เพราะชลาลัยตัดสินใจเชิญเขาไปฟังเงื่อนไขบางอย่างที่เกาะหวน แต่เป็นเพราะชายหนุ่มจะมีโอกาสได้จัดการกับข้อกังขาที่อยู่ในใจมาตลอดหนึ่งสัปดาห์ที่กลับมา ภายหลังจากที่กลับมาจากเกาะหวน อีธานมีเวลาทบทวนถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้นกับมีนา สิ่งหนึ่งที่เป็นกังวลมากที่สุดในตอนนี้ก็คือ มีนาท้อง เพราะคืนนั้นเขาไม่ได้ป้องกัน ดังนั้นถึงตกลงกับเจ้าตัวไม่ได้ก็ไม่ใช่เรื่องใหญ่ แต่ถ้ามีเด็กเกิดขึ้นอีธานก็ไม่มีวันปล่อยให้เลือดเนื้อเชื้อไขตัวเ
คำแนะนำของอีธานเป็นวิธีที่ดีไม่ใช่น้อย แต่ปัญหาของจันทร์เจ้ารีสอร์ทไม่ใช่แค่หนี้สิ้นที่พอกเป็นหางหมูเท่านั้น แต่ยังติดปัญหาอื่นซึ่งไม่รู้ว่าจะหาทางแก้ไขอย่างไรด้วยต่างหาก "ใครจะกล้ามาลงทุนกับรีสอร์ทเล็กๆ อย่างเรา" ชลาลัยพูดอย่างหมดหวัง ความงดงามของทิวทัศน์ที่ตนเองเป็นเจ้าของแต่กลับไม่มีใครกล้าเข้ามายุ่งหรือให้ความช่วยเหลือ ไม่ใช่ไม่มีมิตรภาพหรือความสนใจ หากแต่อิทธิพลของคนที่อยากครอบครองพื้นที่ต่างหาก ที่ทำให้ไม่มีใครกล้าเข้ามายุ่งเกี่ยวพร้อมทั้งบีบให้จันทร์เจ้ารีสอร์ทค่อยๆ ตายลงทีละน้อย เพื่อหวังให้ในที่สุดชลาลัยจะยอมขายที่ดินอันเป็นมรดกตกทอดให้กับนายทุนเจ้าเล่ห์ที่รออยู่ทุกขณะ "แต่เราก็จะดิ้นให้ถึงที่สุดใช่ไหม พี่ลัย" มีนากุมมือปลอบใจพี่สาว "ใช่ เราจะสู้ไปด้วยกัน" พี่สาวคนสวยฝืนยิ้มออกมาได้อีกครั้ง&nb
อีธานไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับที่นี่ แต่ในเวลานี้สายตาเขาจับจ้องไปskแม่สาวที่กำลังกอดชลาลัยอยู่ ท่าทางของมีนาเข้มแข็งมากตอนนี้ไม่ได้สนใจที่จะมองใครนอกจากปลอบประโลมพี่สาวคนสวยเพียงอย่างเดียว "ไม่เป็นไรแล้วพี่ลัย สงสัยต้องนิมนต์ท่านมาปัดเสนียดจัญไรพวกหน้าเลือดหน่อยแล้ว" มีนาพนมมือไหว้พระพุทธรูปก่อนจะอุ้มอัญเชิญเข้าไปในห้องทำงานตามเดิม เธอเพิ่งรู้ว่าพี่สาวไม่ได้อยู่กับคุณนายสร้อยทองเพียงลำพัง หากแต่มีใครบางคนที่หญิงสาวไม่อยากเจออยู่ด้วย มาทำอะไรที่นี่ แล้วมาตั้งแต่เมื่อไร "ทำไมไม่กลับไปอีก" มีนาเอ่ยขึ้นลอยๆ จงใจให้ใครบางคนได้ยิน แต่ไม่เจาะจงชื่อว่าเป็นใครเพราะไม่ต้องการพูดด้วย และเข้าใจว่าอีกไม่กี่นาทีคนที่ไม่อยากเจอตลอดชีวิตก็จะไม่อยู่ให้เห็นหน้าแล้ว หลังจากที่กลับ
เรือพร้อมจะไปส่งนักท่องเที่ยวขึ้นฝั่งในอีกครึ่งชั่วโมง ธามเตรียมตัวพร้อมจะเดินทางกลับกรุงเทพฯ ในขณะที่อีธานเอาแต่ครุ่นคิดว่าจะทำอย่างไรกับสิ่งที่ค้างคาใจในเวลานี้ ชายหนุ่มพยายามหาทางพบมีนาตั้งแต่ที่หญิงสาววิ่งหนีหายไป แต่ไร้เงาราวกับว่าไม่ได้อยู่ในจันทร์เจ้ารีสอร์ทนี้ ทางเดียวที่อีธานจะรู้ว่าเธออยู่ที่ไหน ก็คงต้องถามชลาลัยเท่านั้น เขาจึงให้ธามรออยู่ที่ล็อบบี้แล้วกลับไปที่ออฟฟิศทันที อีธานเดินมาเรื่อยๆ จนมาถึงหน้าออฟฟิศของจันทร์เจ้ารีสอร์ท ก็ได้พบกับชลาลัยอีกครั้ง แต่วันนี้สีหน้าเธอดูเคร่งเครียดจนไม่เหลือรอยยิ้มหวานๆ บนใบหน้าอีกเลย "สวัสดีค่ะ จะกลับวันนี้แล้วใช่ไหมคะ" ชลาลัยพยายามจะยิ้มหวานๆ ให้ลูกค้า แต่ตอนนี้เรื่องที่กำลังปวดหัวทำให้ยิ้มไม่ออกสักเท่าไร "ครับ เอ่อ คุณ เอ่อ คือ" อีธานไม่รู้จะเริ่มต้นถามถึงมีนาอย่างไร
สายของวันถัดมามีนาลืมตาตื่นขึ้นมาด้วยอาการปวดศีรษะอย่างรุนแรง ร่างกายเมื่อยล้าและปวดร้าวอย่างบอกไม่ถูก สงสัยว่าอาจจะเป็นเพราะเมื่อคืนลงเล่นน้ำทะเลดึกมากไปหน่อยเช้านี้ก็เลยพาลจะไม่สบายเอาหญิงสาวขยับตัวลุกขึ้นจะเข้าห้องน้ำไปทำธุระ มีนาชะงักเมื่อเตียงที่กำลังนอนและห้องที่อยู่ในเวลานี้ไม่ใช้ห้องนอนของตน แต่มันเป็นห้องพักห้องใดห้องหนึ่งในรีสอร์ทและตอนนี้มีเสียงใครบางคนกำลังคุยโทรศัพท์อยู่ไม่ไกล"ครับ วิกกี้ ขอบคุณมากที่นึกถึงผม เดินทางโดยสวัสดิภาพนะครับ" อีธานอวยพรอดีตคู่ขาที่วันนี้โทรศัพท์มาร่ำลาว่าจะกลับประเทศของตนแล้ว"ถ้าปีหน้าคุณมางานทอมอีก เราก็อาจจะได้เจอกันอีกแต่ถึงตอนนั้นคุณคงจำผมไม่ได้แล้ว เพราะผู้หญิงสวยอย่างคุณคงมีคนมารายล้อมมากมายจนลืมผู้ชายกระจอกๆ อย่างผมไปเลยน่ะซิครับ" อีธานเหลือบมาเห็นมีนารู้สึกตัวแล้ว เพียงแค่เห็นสีหน้าก็รู้ว่านาทีต่อจากนี้ไปอะไรจะเกิดขึ้น"บายครับ วิกกี้ ผมจะคิดถึงคุณนะ""อุ๊บ..."หมอนใบใหญ่เขวี้ยงมาที่หน้าแม่นยำราวกับมืออาชีพ อีธานกำลังจะอ้าปากพูดแต่เปลี่ยนใจวิ่งหาที่หลบภัยจากข้าวของที
มีนาเปิดประตูห้องน้ำออกมาแล้วรีบเดินออกไปจากห้องโดยไม่สนใจว่าจะมีใครรออยู่ อีธานรีบวิ่งตามออกมาแล้วคว้าแขนหญิงสาวไว้ "ปล่อยนะ" เจ้าตัวสะบัดไม่ยอมให้จับ "เรายังไม่ได้คุยกันเลย" อีธานไม่ยอมปล่อย "ไม่มีอะไรต้องพูดกันอีก ปล่อย" มีนาออกแรงสะบัดแขนอีกครั้ง แต่ชายหนุ่มยึดเอาไว้แน่นซ้ำยังรวบสองมือไว้ ดึงเข้ามาหาไม่ยอมปล่อยไปไหนอีกด้วย "ถ้าไม่คุยกันดีๆ เราไปคุยต่อหน้าพี่สาวคุณก็ได้ เอาไหม" ท่าทางอีธานเอาจริงแน่ "ขู่ฉันเหรอ" หญิงสาวเม้มปากแน่นด้วยความโกรธ "ไม่ได้ขู่แต่ผมทำจริง หรือจะไปตอนนี้เลยก็ได้ เมื่อเช้าคุณลัยเพิ่งถามว่าไปเที่ยวเมื่อคืนสนุกไหม คุณอยากให้ผมตอบไหมล่ะว่าสนุกจนเกือบโต้รุ่ง แต่คนที่สนุกคือคุณไม