รินรดา จัดเสื้อผ้าใส่กระเป๋า เตรียมตัวเดินทางไปเที่ยวทัวร์ต่างจังหวัด มันเป็นการเที่ยวทะเลที่แสนเศร้า เพราะแทนที่จะได้ไปเที่ยวกับแฟนสองคน ดันมาเลิกกลางคันกันเสียก่อน จะได้ไปด้วยกันแท้ๆ ทั้งๆ เป็นวันครบรอบปีแรก และเขาก็ไม่ยอมมา
เพื่อนรักหักเหลี่ยมโหด แอบแทงหลังเธอ หลังจาก จิรัชญา เพื่อนรักสมัยเรียนม.ปลาย แอบจีบกับแฟนหนุ่มเธอ แถมแอบไปได้เสียกันอีกลับหลัง จนเขาตัดสินใจเลิกคบกับเธอ หันไปคบกับ จิรัชญา เมื่อเดือนที่แล้ว
รินรดาสูดลมหายใจหนักแน่นอีกครั้ง ถึงจะไปเที่ยวคนเดียว แต่จ่ายค่าเที่ยวสองคนไปแล้ว เธอจะไม่ให้ตั๋วเที่ยวครั้งนี้สูญเปล่า ถึงจะไปคนเดียว เธอคิดเสียว่าไปพักผ่อน เผื่อจะหายจากความเศร้า ที่แฟนหนุ่มและเพื่อนรัก หักหลังเธอ...
******
การเดินทางนั่งรถทัวร์เพียงลำพัง ทำให้ใครต่อใครมองเธอว่า ทำไมมาคนเดียว แต่ไม่มีใครสนใจหรอก นอกจากไกด์ต้องจัดที่พักให้ตามเงินที่ได้รับ เขาไม่คืนเงินเธอ เพราะจ่ายค่าที่พักและอาหารไปหมดแล้ว รินรดาทำอะไรตัวคนเดียวตลอดเวลา
“ไปเที่ยวด้วยกันมั๊ยครับ ไปหลายๆ คนสนุกดีนะครับ” ชายหนุ่มหน้าตาดี อายุน่าจะรุ่นใกล้เคียงกัน เดินเข้ามาทัก ในชุดนักท่องเที่ยว เสื้อเชิ้ตสีสดใส กับกางเกงขาสามส่วน พร้อมด้วยกล้องถ่ายรูปดิจิตอลจัดเต็ม ชักชวนเธอเพราะเห็นมาคนเดียว
รินรดาปรายตามอง แม้จะแสดงสีหน้าเศร้า แต่เธอก็ยิ้มบางๆ ตอบรับ ไหนๆ ก็มาเที่ยวแล้ว จะมานั่งอมทุกข์ทำไม
“อืม ก็ดีค่ะ”
“ชื่ออะไรครับ? ผมชื่อ อธิวัฒน์ นะ เรียกผมสั้นๆ ว่า วัฒน์ นะ” เขาแนะนำตัวเองให้รู้จัก
“รินรดา เรียก ดา พอนะ” เธอยื่นมือเช็คแฮนด์ทักทายกับวัฒน์ แต่ถูกเขาดึงมือขึ้นมาจูบหลังฝ่ามือในทันใด หญิงสาวตกใจชักมือกลับ รู้สึกเขินเมื่อถูกเขากระทำเช่นนั้น ในการแนะนำตัวเองให้รู้จักกันครั้งแรก ใจเต้นแรงพูดอะไรไม่ออก
“ไปเถอะ ทะเลแถวนั้นสวยมากเลยนะครับ” เขายิ้มแย้ม ก่อนจะชักชวนเธอไปเที่ยวด้วยกัน ไม่ต่างกับแฟนคบกันใหม่ๆ ก็แค่เพื่อนที่มาเที่ยวทัวร์ พบหน้าและเจอกันครั้งแรก เป็นธรรมดาที่จะหาเพื่อนผูกมิตร ทำความรู้จักกัน
“แล้วมาคนเดียวไม่เหงาหรอ?” อธิวัฒน์ถามอย่างสนใจ ในมือถือกล้องถ่ายรูป มันเป็นทะเลพังงาที่สวยงาม
“ไม่หรอก ชินแล้ว วัฒน์มาคนเดียวหรอ?” รินรดาได้โอกาสถามกลับบ้าง สีหน้าเขายังสบายอารมณ์ เจือเซ็งเล็กน้อย
“มากับเพื่อนอีกสองคนน่ะ ตอนนี้พวกนั้นมันคงเดินเที่ยวไปไกลมากละ ผมตามไม่ทันเห็นดานั่งอยู่คนเดียว ก็เลยชวนมาเป็นเพื่อน จะไม่พลัดหลงกันไง” อธิวัฒน์ตอบสั้นๆ โดยไม่ได้บอกอะไรหมด
“แล้วเพื่อนที่ว่า เขานอนห้องเดียวกันสามคนเลยหรอ?”
“ครับ” สีหน้าค่อนข้างจะหัวเราะแห้งๆ ราวกับมีอะไรบางอย่าง ท่าทางเขาไม่น่ามีปัญหา รินรดาเลยไม่ได้เอะใจอะไร หญิงสาวเลยเดินตามไปกับวัฒน์ ได้รู้จักเพื่อนใหม่ในการเที่ยวทัวร์ครั้งแรก มันก็น่าจะทำให้เธอหายเศร้าไปได้บ้าง
******
กวินทร์และนิธิ เป็นเพื่อนรักเพื่อนสนิทกันมาก แต่ที่สนิทมากไปกว่านั้น พวกเขาเป็นเกย์ที่รักกันเอง แต่การมาของพวกเขาสองคน อาจจะทำให้ใครหลายๆ คนมองเขาสองคนในแง่ลบ เลยชวนอธิวัฒน์มาด้วย
ยังไงเสีย ความต้องการของพวกเขา ก็ยังอยากจะมีเวลาตามลำพังเพียงสองคนอยู่ดี แม้จะชวนอธิวัฒน์มาเล่น P3 ด้วยกัน เพื่อนชายดันตีตัวออกห่าง แม้จะไม่เกลียดแต่ก็ไม่เอาด้วย
กวินทร์ได้โอกาส หาที่หลบตามซอกมุมในสถานที่ท่องเที่ยว ทั้งอากาศดีและตื่นเต้น เขาโอบคู่รักตนดันเข้าหากำแพง แนบริมฝีปากหนาอุ่นเข้าหานิธิอย่างหิวกระหาย บดเบียดกายช่วงล่าง แทรกหัวเข่าระหว่างต้นขา เมื่ออารมณ์ตื่นตัวของพวกเขากำลังพองนูนชนเข้าหากัน ดาบเนื้อสองเล่มพร้อมจะถูกใช้งาน...
รสจูบจากชายหนุ่มละมุนนุ่มลิ้น บดเบียดเสียดลิ้นโลมเลีย หลับตาพริ้มรู้สึกถึงกัน สองแขนแกร่งโอบกอดแน่นกาย แนบเรือนร่างแบนเรียบ เนื้อแน่นแกร่ง ความนูนของดาบเนื้อทั้งสองท่อน กำลังถูไถใต้กางเกงผ้าขาสั้นอย่างเร้าใจ
“อยากกลับโรงแรมไวๆ ทำไมเวลามันเดินช้าจริงๆ” นิธิบ่น กว่าจะได้เข้าโรงแรม คงจะใกล้ตอนเย็น ยามนี้มีแต่นักท่องเที่ยวอายุรุ่นพ่อแม่ปู่ย่าตายาย มาเล่นน้ำทะเลร่วมกับลูกและหลานตัวเล็กๆ พวกเขาเบื่อจึงเลี่ยงออกมาอยู่กันตามลำพัง นิธิโน้มศรีษะเข้าหากวินทร์ บดเบียดริมฝีปากอย่างหิวโหย
กวินทร์ดูดดื่มอย่างเต็มใจ ใช้สองมือลูบไล้ไปทั่วกาย เลื่อนต่ำลงมากำท่อนเนื้อของนิธิไว้ในมือ พลางรูดสร้างอารมณ์ อีกมือของนิธิตอบสนองกำท่อนเนื้อแน่นใหญ่ยาวใกล้เคียงไว้ รูดไปจูบไป ในที่ลับตาคน...
ชายหนุ่มเร้าอารมณ์กันตามลำพังภายในซอกหลืบที่ไม่มีใครสังเกต กวินทร์เหลือบแววตามองข้ามนิธิ เห็นอธิวัฒน์ กำลังเดินเที่ยวสนุกอยู่กับหญิงสาวที่ไม่รู้จัก เขาลอบมองอย่างสนใจ แต่มิได้พูดหรือส่งเสียงให้คู่ตนรู้ตัว
“ดูดให้หน่อยได้มั๊ยอ่ะ” นิธิวิงวอนหลังจากละริมฝีปาก กวินทร์ยิ้มร่าก่อนจะตอบสนองความต้องการนี้ให้แก่นิธิ
******
หลังจากนางสร้อยเงินเดินทางกลับมาถึงบ้าน พบเห็นว่าลูกสาวอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้า นั่งเย็บปักถักร้อยอยู่ภายในห้องขอตัวเอง โดยไม่ออกมาด้านนอกตามที่ตนสั่ง นางสร้อยเงินแวะไปเยี่ยมนายปวรุตม์เสียหน่อยว่ากำลังทำงานอยู่หรือเปล่าพบเห็นว่าชายหนุ่มดังกล่าว กำลังนั่งปอกเปลือกมะพร้าว และกำลังผ่าฟืนตามสั่ง เพื่อเป็นเชื้อเพลิงให้นางสร้อยเงิน ทำอาหารมื้อเย็นและเช้าวันถัดไป“ทำงานอยู่รึ ระวังมีดบาดนะ”“ครับ ผมทำงานใกล้จะเสร็จแล้วครับ” ปวรุตม์ยิ้มแย้มก่อนจะตั้งใจทำงานต่อไป แววตาของนางสร้อยเงินมองชายหนุ่มอย่างไม่ไว้ใจ ระหว่างที่ไม่อยู่นางน่าจะพากลิ่นจันทร์ไปด้วย แต่อยากให้ลูกสาวประหลาดใจ เมื่ออีกไม่กี่วันบิดาของเธอจะกลับมาวันเวลาผ่านไปราวอาทิตย์หนึ่ง ปรากฏร่างของชายหนุ่มสูงวัย เดินทางมาถึงบ้านของนางสร้องเงิน ปวรุตม์กำลังขุดดินปลูกต้นไม้อยู่ข้างบ่อน้ำ เขาถอดเสื้อสวมผ้าถุงสีทึบเพียงชิ้นเดียว ปวรุตม์พบเห็นร่างของชายดูดีมีภูมิฐาน เขารู้สึกกลัวขึ้นมาในทันใด หน้าตาก็คล้ายๆ กับกลิ่นจันทร์“ไอ้หนุ่ม... เอ็งเป็นใครมาจากไหน มาอยู่บ้านข้าวะ?” แววตาที่ดุดันมองมายังชายหนุ่มอย่างไม่ไว้ใจ“สวัสดีครับ ผมชื่อ ปวรุตม์ คุณส
หลังจากนั้นเป็นต้นมา... ปวรุตม์จึงเปลี่ยนเสื้อผ้า ทำตัวกลมกลืนกับคนที่บ้านของกลิ่นจันทร์ ช่วยเหลืองานบ้าน และงานสวน ทำให้สร้อยเงินรู้สึกพอใจว่า ชายแปลกหน้าจากกรุงเทพฯ ซึ่งหาบ้านยายแสงดาวไม่เจอ กลายเป็นคนงานคนสวนไปโดยปริยายชายหนุ่มอาศัยอยู่ในเรือนรับรองเล็กๆ อีกแห่งของเขตบ้าน เพราะนางสร้อยเงินไม่ยอมให้อยู่ในบ้านเดียวกับลูกสาว หวังว่าจะไหว้วานผู้ใหญ่บ้าน ช่วยเขียนจดหมายไปบอกสามีในเมืองว่า ช่วยแวะกลับมาบ้าน เรื่องไอ้หนุ่มกรุงเทพฯ มาอาศัยอยู่ในบ้าน“แม่เดินทางปลอดภัย โชคดีนะจ๊ะ” หลังจากที่แอบลักลอบได้เสียกับปวรุตม์ เธอระมัดระวังตัวมิให้มารดารู้ว่า ลูกเสียสาวไปแล้วกับชายแปลกหน้า แต่เขาทำให้กลิ่นจันทร์มีความสุขยามเมื่อได้สวมกอด และบางสิ่งที่ทำให้เธอหลงใหล“แม่จะรีบไปรีบกลับนะ อยู่ดูแลบ้านดีๆ ล่ะ” นางสร้อยเงิน ใช้แรงงานทาสขับเกวียนไปส่งนางที่บ้านผู้ใหญ่ หวังจะขอให้ผู้มีความรู้เขียนจดหมายส่งไปให้สามีทราบเรื่องที่บ้านทีหลังจากนั้นเมื่อไม่มีใครอยู่เป็นเพื่อน กลิ่นจันทร์จึงเดินไปที่เรือนรับรองของปวรุตม์ เพื่อขอมีอะไรด้วยกันเพราะความคิดถึงมากมาย...ชายหนุ่มกำลังรอเวลานี้ที่จะได้อยู่กับกลิ่นจันท
เรือนกายหญิงสาวยืนพิงหลังต้นไม้ใหญ่ บดบังเรือนร่าของเธอและปวรุตม์ให้พ้นสายตาใครอื่น สองแขนหญิงสาวซึ่งกันเอาไว้ระหว่างอกเขาและกายบางได้ลดลง แขนบางทั้งสองโอบกอดตอบรับชายหนุ่มเบื้องหน้าทำให้ปวรุตม์ดีใจเหลือเกินเมื่อเธอยินยอมเขาแล้ว มือของชายหนุ่มทั้งสองจึงทำงานปลดตะขอกางเกง ทำให้แววตาหญิงสาวตกใจว่า นี่เขาจะแก้ผ้าทำไมกันนะ...“ปวรุตม์ คุณจะทำอะไรรึ?” เธอไม่เข้าใจว่า เขากำลังทำอะไรแปลกๆ ออกมา หลังจากบอกรักเธอ ต้องแก้ผ้าด้วยรึ?“ผมอยากได้คุณ ปลดผ้าถุงสิ” เขาบอกให้เธอทำบ้าง หญิงสาวยังรู้สึกสับสนว่า ทำไม แต่ถ้าลองดูก็อาจจะคลายความสงสัยได้บ้างเพียงช่วงล่างเปล่าเปลือยปวรุตม์ไม่เห็นมีที่ร่วมรักใดได้ คิดเสียว่าคงต้องเลือกท่ายืนนอกสถานที่ในป่าลับเช่นนี้เขาโอบอุ้มเธอเอาไว้ใต้สองแขน ทำให้กายบางหญิงสาวลอยสูง ปลายเท้าไม่แตะพื้นและช่วงต้นขาของเธอต้องกางออก เพราะเขาดึงร่างบางเข้าหาชายหนุ่ม เรือนหน้าหญิงสาวตกใจและหน้าแดงก่ำ เธอรู้สึกอายจริงๆ“อย่าตกใจนะ กลิ่นจันทร์... ผมจะทำให้คุณรู้สึกดีเอง” ชายหนุ่มพยายามกระซิบข้างหู มิให้เธอตกใจดิ้นหลุดจากแขนเขา เธอกลัวจนตัวสั่น ระหว่างถูกดึงเข้าหาร่างชายหนุ่ม ต้นข
หลังจากเขาแนะนำตัวเองกับแม่ของกลิ่นจันทร์ เธอชื่อสร้อยเงิน กำลังทำอาหารกับทาสสองคน สีหน้าของเธอไม่ค่อยไว้ใจที่มีผู้ชายแปลกหน้ามาคุยกับลูกสาว“แม่ อย่าไปว่าเขาสิ เขาคงหลงทางมาถึงบ้าน ถามหายายแสงดาว แม่พอจะรู้จักคุณยายแสงดาวไหม” กลิ่นจันทร์ถามด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม คิดว่าหากช่วยเหลือเขาไปแล้ว เธอกับแม่จะได้บุญ และเขาคงจะไปทำธุระเรื่องครอบครัวได้เสียที“โอ๊ย...อยู่มาตั้งนาน ไม่เคยได้ยินยายชื่อแสงดาวอะไรนั้นเลยนะ พ่อหนุ่มมาจากกรุงเทพฯ ลองไปถามญาติตัวเองใหม่เถอะ... กลับไปได้แล้ว ลูกสาวฉันจะเสียชื่อหมด” นางสร้อยเงินตอบปัด จึงอยากให้ทาสพาเขาออกจากเรือน“ไม่เป็นไรจ้าแม่... ให้ทาสช่วยแม่ทำอาหารเถอะ ฉันจะไปส่งเขาเองจ๊ะ” กลิ่นจันทร์รับอาสาเอง เพราะคิดว่าตนคงเป็นเหตุนำพาเรื่องวุ่นวายเข้าบ้าน คิดเสียว่าแนะนำให้เขาไปคุยกับผู้ใหญ่บ้าน เผื่อจะได้รับความช่วยเหลือที่ดีกว่านี้“ขอโทษนะครับ คุณแม่สร้อยเงิน ผมขอตัวกลับก่อนนะครับ” ปวรุตม์รู้สึกเสียใจที่ไม่ได้พบญาติหรือแม่ ทุกคนหายไปไหนหมด อีกทั้งทุกๆ คนที่นี่ใส่ชุดสมัยร.๕ทั้งนั้น เขามาหลงอยู่บ้านใครกันเนี่ย... ชายหนุ่มแอบคิด******กลิ่นจันทร์พาเขาเดินออกจากบร
รุ่งเช้าท่ามกลางเสียงโวกเวกโวยวาย ผู้คนเดินไปมา สลับวิ่งจนพื้นไม้ภายในบ้านสั่นสะเทือน ปวรุตม์รู้สึกว่าถูกรบกวนจากการนอนแสนสบาย จึงลืมตาปรือตื่น หันมองว่าร่างของแม่ข้างๆ หายไป คงจะสมทบกับญาติ ซึ่งกำลังทำอะไรสักอย่าง“เร็วๆ เข้า!!! อุ้มคุณแม่ขึ้นรถ!!!” เสียงของผู้หลักผู้ใหญ่กำลังวุ่นวาย กับการนำร่างของคุณยายซึ่งเริ่มหายใจช้าลง หลับตาโดยไม่มีการตอบสนอง ครอบครัวญาติฝ่ายแม่ตกใจมากพวกเขาพาร่างของคุณยายขึ้นรถ ออกตัวจากบ้านไปอย่างรวดเร็ว รวมไปถึงญาติทุกๆ ต่างคนกลับไปที่รถของตัวเอง ต่างขับรถแห่ไปทีละคันจนหมดบ้าน...เหลือไว้เพียงเขายังยืนงงอยู่ภายในบ้านคนเดียว“ไปกันหมดเลย” ปวรุตม์ไม่อาจจะพูดถามใคร ในช่วงเวลาอันฉุกละหุกได้เลย ว่าเขาควรทำตัวอย่างไร พ่อแม่เขาค่อนข้างวุ่นวายกับการพาร่างของคุณยายขึ้นรถ และรีบพาไปร.พ. ในขณะที่ญาติๆ คนอื่นๆ ต่างแยกย้ายขับรถตามไป“กลิ่นจันทร์ไปกับเขาด้วยหรือเปล่านะ?” ปวรุตม์ยังคงนึกถึงสาวเมื่อคืนนี้ หากไม่อยู่ในพุ่มไม้มืด เขาอาจจะจำหน้าเธอได้ชัดกว่านี้ ตะวันในเช้านี้ทอแสงนวลแผ่วเบา แต่ท้องเขานี่สิ ร้องออกมาอย่างหิวโหย ไม่รู้ว่าตอนนี้จะเหลืออะไรใหเขากินได้บ้าง******ช
ในความเงียบภายในรถยนต์ ระหว่างเดินทางออกมาตจว. นอกเขตเมือง สู่ชนบทในท้องนา ภาพบรรยากาศของตึกราบ้านช่องหายไปจากสายตาของชายหนุ่มคนหนึ่ง ซึ่งเป็นคนหนุ่มสมัยใหม่ อาศัยอยู่ในเมืองเขาจำใจต้องเดินทางมากับพ่อแม่ เพื่อไปบ้านของยายแสงดาวซึ่งอยู่ตจว. เขาเบื่อมากกับการไปอยู่บ้านนอก โบราณ คนแก่หัวเก่าๆ ซึ่งมันไม่มีอะไรน่าสนใจสำหรับเขาเลยปวรุตม์ (ปะ-วะ-รุด) หยิบมือถือสมาร์ทโฟนขึ้นมาเพื่อแชทกับเพื่อน และนัดกันว่ากลับบ้านจากญาติแล้ว จะไปดื่มเหล้าเที่ยวผับ ควงสาวมาฟันให้สนุกแก้เบื่อเสียเลย เขายิ้มเงียบๆ โดยมิให้พ่อซึ่งกำลังขับรถหันมาดุได้อีกแม่ของเขานั่งอยู่หน้ารถ กำลังชี้ทางบอกไปทางคุณยาย คือคุณแม่ของเธอค่อนข้างมีอายุมากแล้ว พวกเขาทั้งครอบครัวถูกเรียกให้มาบ้านญาติตจว. เพื่อให้มารับทราบว่า คุณยายใกล้จะไปสบายดีแล้ว ญาติคนอื่นๆ เรียกพ่อแม่และปวรุตม์ ให้มาดูใจกันครั้งท้าย ก่อนคุณยายจะเสีย“ทำตัวดีๆ นะแกไอ้รุตม์ เดี๋ยวจะไม่ได้รับมรดกกันพอดี” คุณพ่อของเขา เป็นลูกเขยของญาติข้างแม่ ชายหนุ่มอายุราวยี่สิบสองปี ทำตัวสงบเสงี่ยมเจียมตัวเรียบร้อย อย่างน้อยเขาอยากจะกลับเมือง มากกว่านอนค้างอยู่บ้านนอกตจว.แบบนี้