จันทร์หอมเดินทางไปโรงเรียนตามปกติ สีหน้ายิ้มแย้มแจ่มใส หน้าตาผ่องสวยผิดหูผิดตา กวินธิดารู้สึกว่าตาฝาดไปหรือเปล่าว่า ลูกสาวไม่ได้เป็นเด็กสาวต้องน้อยอีกต่อไป ราวกับว่าลูกสาวเธอเติบโตเป็นสาวเร็วมาก เพียงแค่เธอฝากทีปกรดูแล
เกิดความคลางแคลงใจว่าน้องชายดูแลลูกสาวเธอยังไง มือหนาของสามีจับบ่าของภรรยาและบอกว่า ระหว่างอยู่ในรถตามลำพัง เดินทางไปทำงานเช้าวันจันทร์...
“การปล่อยให้ทีปกรดูแลจันทร์หอม ทำให้หายห่วงเรื่องพี่เลี้ยงจ้างมาแล้วทำร้ายลูก จันทร์หอมก็กลายเป็นเด็กดี อารมณ์ดีแถมพูดจาดีขึ้น ไม่ติดเพื่อนแย่ๆ ไม่หนีไปเที่ยวกับเพื่อน มันก็ดีแล้วนะ” สามีของเธอจึงปลอบให้กวินธิดาควรปล่อยวางเรื่องทีปกรเรื่องลูกสาว
“คุณไม่ห่วงลูกแล้วรึ?”
“ลูกเราโตแล้วนะ กวินฯ” ชายหนุ่มตอบน้ำเสียงนิ่งๆ สายตาจดจ้องไปที่ถนน โดยคิดว่าการมีทีปกรมาช่วยดูแลลูกสาว ก็เป็นเรื่องดีแล้ว
“ช่วงนี้มึงแปลกไปนะ ทำไมไม่แอบออกมาเที่ยวกับพวกเราตอนกลางคืนเหมือนเดิม?” เพื่อนสาวของจันทร์หอมเริ่มทัก ราวกับว่าเพื่อนเริ่มแยกตัวออกไปทีละนิด
“กูแค่อายุ 12 เอง อยากจะนอนอยู่บ้าน ให้พ่อแม่สบายใจ เอาไว้เรียนมหาวิทยาลัย ค่อยว่ากันใหม่ก็ได้นะ กูใจเย็นพอจะหนีเที่ยว” จันทร์หอมปฏิเสธเพื่อน เพราะไม่อยากให้เรื่องได้เสียกับอากร ต้องความแตกเพราะความสอดรู้สอดเห็น
“มึงนี่แปลก กูอุตส่าห์หาผู้ชายมาให้มึง หรือว่ามึงมีแล้ววะ?”
“มีเชี้ยอะไรกัน กูรู้สึกตัวนะว่าอย่าทำตัวเป็นลูกที่แย่ ด้วยการติดผู้ชายสิ” แต่จันทร์หอมก็รู้สึกแย่จริงๆ ที่ติดอาหนุ่มของตัวเอง แต่มันจะดีกว่าหากเขาคืออาที่รัก และมันจะทำให้เธอรู้สึกดีกว่า เพื่อนจะเอาผู้ชายที่ไหนไม่รู้มาได้เสียกับเธอ
“มึงด่ากูหรอ? เออ งั้นกูเอาผู้ชายไว้เองก็ได้ มึงไม่อยากคบกับมึงละ” เพื่อนสาวเชิงชะนีได้คาบผู้ชายของตัวเองกลับไป และอยู่ห่างจากจันทร์หอม แม้หญิงสาวรู้สึกว่าจะเสียเพื่อนไป แต่เธอกลับได้อาหนุ่มที่แสนดี และรักเป็นห่วงเธอไว้แทน จันทร์หอมยิ้มปลอบใจให้ตัวเอง เธอมีสิ่งที่ดีที่สุดอยู่แล้วนิ จะไปแคร์เพื่อนทำไม...
******
ยามเย็นจันทร์หอมเดินทางกลับมาบ้าน เพื่อรอทีปกรเดินทางมาดูแล ระหว่างที่บ้านยังมีแค่เธออยู่บ้านคนเดียว วันจันทร์เป็นวันที่พ่อแม่เธอกลับบ้านดึกที่สุด เวลาห้าทุ่มกว่าแม่จะกลับมา กริ่งประตูดังตอนสี่โมงครึ่ง จันทร์หอมรีบวิ่งออกไปเปิดประตู พบร่างของอาหนุ่มเดินทางมาด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม เมื่อได้พบหลานสาวอยู่บ้านคนเดียวอีกครั้ง
“คิดถึงอากรจังเลยค่ะ” จันทร์หอมสวมกอดชายที่รักไว้แน่น และความต้องการอยากจะร่วมรักของเธอ ได้เกิดขึ้นอีกครั้ง
“อาก็คิดถึงจันทร์หอมเหมือนกัน วันนี้มีการบ้านหรือเปล่า?” แววตาชายหนุ่มหันเหลือบมองเด็กสาวในอ้อมแขน
“มีค่ะ อยากจะให้อาช่วยหนูทำการบ้านหน่อย” เด็กสาวยิ้มแย้มอย่างสนใจ เธออยากมีอาหนุ่มมาช่วยทำการบ้านแบบนี้ทุกๆ วัน
“ถ้างั้นเข้าบ้านกันเถอะ อาจะช่วยจันทร์หอมทำการบ้านบ่อยๆ นะ” น้ำเสียงร่าเริงของอาหนุ่มและหลานสาวคุยกันสนุกสนาน โดยไม่มีใครได้ล่วงรู้เลยว่า เขาแอบลักลอบได้เสียกับหลานสาว เพราะรักและหวงแหนมากแค่ไหน
อาหนุ่มยังคงปลดปล่อยความเป็นชายออกมา ให้หลานสาวได้กลืนกินอิ่มท้อง เต็มคำยามเมื่อกลืนกินองคชาติ ไหลเข้าภายในโพรงปาก รูดดูดดื่มปลายหัวหยักองคชาติอย่างสนุกปาก ในขณะที่อาหนุ่มใช้มือหนากดศีรษะหลานสาวแผ่วเบา
สีหน้าหนุ่มแสดงอารมณ์เสียวซ่าน ร้องครวญแผ่วในห้องนอนหลานสาว เสียงน้ำลายปะทะอากาศดังแผ่ว ส่งผลให้ฟังดูน่าเอร็ดอร่อย ยามนี้แล้วทีปกรอยากจะร่วมรักกับหลานสาวแบบรวบรัดตัดตอน และเด็กสาวยินยอมพร้อมใจ เพื่อให้เขาสอดใส่เข้ามาในร่างกายเหมือนเดิม
ถุงยางถูกสวมกับองคชาติอวบอิ่มใหญ่ยาว แววตาเด็กสาวมองอาหนุ่มอย่างพึงพอใจ ก่อนจะคว่ำหน้าเข้าหาเตียง พร้อมกอดหมอนไว้ที่หน้าอก เธอพร้อมจะกรีดร้องสุดเสียง ยามเมื่อถูกกระแทกหนักๆ นับครั้งไม่ถ้วน เพื่อเสพสุขจนสำลักความรู้สึกดีที่ถาโถม
แรงอัดกระแทกองคชาติอวบใหญ่ พยายามทะลวงช่องสวาทซึ่งแนบแน่นบวมภายในหลายครั้งที่ จันทร์หอมแอบลักลอบได้เสียกับอาหนุ่ม เธอต้องการแบบนี้ เพราะมันมีความสุขมากกว่าอยู่กับเพื่อนตัวป่วน ซึ่งเอาใครไม่รู้มาคุยขี้โม้ น่าเบื่อน่ารำคาญ
จันทร์หอมมีความสุขแทบตัวลอย เมื่อองคชาติใหญ่ยาว ไหลเข้าไหลออกสร้างอารมณ์กระสันเสียวซ่านแทบครวญคราง สะโพกกลมกลึงแทบสะท้านเด้งไหว ยามเมื่อกายแกร่งแบนเรียบของอาหนุ่ม กระแทบกระเทือนด้วยแรงกระแทกซ้ำแล้วซ้ำเล่า
เด็กสาวแทบชาชินภายในช่องสวาท หลั่งไหลสายน้ำแทบแตกทะลักอาบองคชาติซึ่งกำลังบุกทะลวงอยู่ภายใน ชายหนุ่มรู้สึกถึงหลานสาวเสร็จสมถึงสวรรค์ และเขายิ่งกระหน่ำรัวให้เร็วขึ้น หนักหน่วงขึ้น เน้นกระแทกแรงๆ ให้หลานสาวสุขสม
“อาคะ... หนูเสียวมาก!!!” จันทร์หอมแทบน้ำลายไหลยืดเพราะเอร็ดอร่อยมากจนลืมตัว ยามเมื่อองคชาติกระแทกลึกหนักๆ ยิ่งซอยเร็วรัวมากเท่าไหร่ เธอยิ่งเมามันหนักขึ้นไปอีก... ชอบเหลือเกินเมื่ออาหนุ่มทำให้มีความสุขเพียงนี้...
“เปลี่ยนท่าสิ อาอยากเห็นหน้าจันทร์หอม” อาหนุ่มพลิกกายหลานสาว พลางถ่างขาหลานสาวให้กว้างขึ้น แหวกปากทางเข้าช่องสวาท แล้วแหวกมันด้วยองคชาติ กระแทกรัวๆ จนหลานสาวเสียวซ่านจนกายสั่นระริก
นับครั้งไม่ถ้วนที่ถูกบุกเข้าพื้นที่ภายในอันคับแคบ แต่จันทร์หอมรู้สึกดีจนอยากจะจูบอาหนุ่ม และกอดเขาไว้ให้ใกล้ตัวที่สุด
“หนูรักอากรที่สุดเลย”
“อาก็รักจันทร์หอมเหมือนกัน” เมื่ออาหนุ่มกล่าวจบ เขาเร่งจังหวะให้เร็วขึ้น จนเด็กสาวร้องครวญคราง ราวกับรู้ว่าอาหนุ่มเธอเร่งให้จบกิจกามในครั้งนี้
เมื่อความอุ่นร้อนแนบแน่นอยู่ภายในปากมดลูกเหมือนครั้งก่อน ริมฝีปากบางกำลังบดเบียดอยู่กับชายหนุ่มเบื้องบน ซึ่งกำลังป้อนให้พร้อมๆ กับสายน้ำขุ่นกำลังระเบิดอยู่ภายในถุงยาง ซึ่งกำลังชนกับปากมดลูกหลานสาว เขารักเธอสุดหัวใจ
******
กับทุกท่วงท่าหลากหลายลีลา ทีปกรได้ร่วมรักกับจันทร์หอมมากมาย นับครั้งไม่ถ้วน เขาพยายามไม่ลืมเรื่องถุงยางอนามัย และจะต้องทำลายหลักฐานเพื่อเอาไปทิ้งในห้องน้ำไม่ให้พ่อแม่เธอมาเห็น...
เด็กสาวยินดีทุกๆ ครั้งเมื่อทีปกรร่วมรักสอดองคชาติ กระหน่ำกระแทกนับครั้งไม่ถ้วนตลอดช่วงเย็นเป็นเวลานับชม. เธอมีความสุขมาก และรู้สึกดีจนไม่อยากให้มันจบลง... กลายเป็นว่าอาหนุ่มจะต้องมาบ้านเธอทุกวันเพื่อดูแลในความคิดของกวินธิดา และพ่อของเธอ
ซึ่งในความเป็นจริงแล้ว... จันทร์หอมมีชายไว้ในครอบครอง เพื่อเสพสุขร่วมรักกับอาหนุ่มที่แสนดี...
[จบตอนสั้น หลานขอเล่นเซ็กซ์]
******
หลังจากนางสร้อยเงินเดินทางกลับมาถึงบ้าน พบเห็นว่าลูกสาวอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้า นั่งเย็บปักถักร้อยอยู่ภายในห้องขอตัวเอง โดยไม่ออกมาด้านนอกตามที่ตนสั่ง นางสร้อยเงินแวะไปเยี่ยมนายปวรุตม์เสียหน่อยว่ากำลังทำงานอยู่หรือเปล่าพบเห็นว่าชายหนุ่มดังกล่าว กำลังนั่งปอกเปลือกมะพร้าว และกำลังผ่าฟืนตามสั่ง เพื่อเป็นเชื้อเพลิงให้นางสร้อยเงิน ทำอาหารมื้อเย็นและเช้าวันถัดไป“ทำงานอยู่รึ ระวังมีดบาดนะ”“ครับ ผมทำงานใกล้จะเสร็จแล้วครับ” ปวรุตม์ยิ้มแย้มก่อนจะตั้งใจทำงานต่อไป แววตาของนางสร้อยเงินมองชายหนุ่มอย่างไม่ไว้ใจ ระหว่างที่ไม่อยู่นางน่าจะพากลิ่นจันทร์ไปด้วย แต่อยากให้ลูกสาวประหลาดใจ เมื่ออีกไม่กี่วันบิดาของเธอจะกลับมาวันเวลาผ่านไปราวอาทิตย์หนึ่ง ปรากฏร่างของชายหนุ่มสูงวัย เดินทางมาถึงบ้านของนางสร้องเงิน ปวรุตม์กำลังขุดดินปลูกต้นไม้อยู่ข้างบ่อน้ำ เขาถอดเสื้อสวมผ้าถุงสีทึบเพียงชิ้นเดียว ปวรุตม์พบเห็นร่างของชายดูดีมีภูมิฐาน เขารู้สึกกลัวขึ้นมาในทันใด หน้าตาก็คล้ายๆ กับกลิ่นจันทร์“ไอ้หนุ่ม... เอ็งเป็นใครมาจากไหน มาอยู่บ้านข้าวะ?” แววตาที่ดุดันมองมายังชายหนุ่มอย่างไม่ไว้ใจ“สวัสดีครับ ผมชื่อ ปวรุตม์ คุณส
หลังจากนั้นเป็นต้นมา... ปวรุตม์จึงเปลี่ยนเสื้อผ้า ทำตัวกลมกลืนกับคนที่บ้านของกลิ่นจันทร์ ช่วยเหลืองานบ้าน และงานสวน ทำให้สร้อยเงินรู้สึกพอใจว่า ชายแปลกหน้าจากกรุงเทพฯ ซึ่งหาบ้านยายแสงดาวไม่เจอ กลายเป็นคนงานคนสวนไปโดยปริยายชายหนุ่มอาศัยอยู่ในเรือนรับรองเล็กๆ อีกแห่งของเขตบ้าน เพราะนางสร้อยเงินไม่ยอมให้อยู่ในบ้านเดียวกับลูกสาว หวังว่าจะไหว้วานผู้ใหญ่บ้าน ช่วยเขียนจดหมายไปบอกสามีในเมืองว่า ช่วยแวะกลับมาบ้าน เรื่องไอ้หนุ่มกรุงเทพฯ มาอาศัยอยู่ในบ้าน“แม่เดินทางปลอดภัย โชคดีนะจ๊ะ” หลังจากที่แอบลักลอบได้เสียกับปวรุตม์ เธอระมัดระวังตัวมิให้มารดารู้ว่า ลูกเสียสาวไปแล้วกับชายแปลกหน้า แต่เขาทำให้กลิ่นจันทร์มีความสุขยามเมื่อได้สวมกอด และบางสิ่งที่ทำให้เธอหลงใหล“แม่จะรีบไปรีบกลับนะ อยู่ดูแลบ้านดีๆ ล่ะ” นางสร้อยเงิน ใช้แรงงานทาสขับเกวียนไปส่งนางที่บ้านผู้ใหญ่ หวังจะขอให้ผู้มีความรู้เขียนจดหมายส่งไปให้สามีทราบเรื่องที่บ้านทีหลังจากนั้นเมื่อไม่มีใครอยู่เป็นเพื่อน กลิ่นจันทร์จึงเดินไปที่เรือนรับรองของปวรุตม์ เพื่อขอมีอะไรด้วยกันเพราะความคิดถึงมากมาย...ชายหนุ่มกำลังรอเวลานี้ที่จะได้อยู่กับกลิ่นจันท
เรือนกายหญิงสาวยืนพิงหลังต้นไม้ใหญ่ บดบังเรือนร่าของเธอและปวรุตม์ให้พ้นสายตาใครอื่น สองแขนหญิงสาวซึ่งกันเอาไว้ระหว่างอกเขาและกายบางได้ลดลง แขนบางทั้งสองโอบกอดตอบรับชายหนุ่มเบื้องหน้าทำให้ปวรุตม์ดีใจเหลือเกินเมื่อเธอยินยอมเขาแล้ว มือของชายหนุ่มทั้งสองจึงทำงานปลดตะขอกางเกง ทำให้แววตาหญิงสาวตกใจว่า นี่เขาจะแก้ผ้าทำไมกันนะ...“ปวรุตม์ คุณจะทำอะไรรึ?” เธอไม่เข้าใจว่า เขากำลังทำอะไรแปลกๆ ออกมา หลังจากบอกรักเธอ ต้องแก้ผ้าด้วยรึ?“ผมอยากได้คุณ ปลดผ้าถุงสิ” เขาบอกให้เธอทำบ้าง หญิงสาวยังรู้สึกสับสนว่า ทำไม แต่ถ้าลองดูก็อาจจะคลายความสงสัยได้บ้างเพียงช่วงล่างเปล่าเปลือยปวรุตม์ไม่เห็นมีที่ร่วมรักใดได้ คิดเสียว่าคงต้องเลือกท่ายืนนอกสถานที่ในป่าลับเช่นนี้เขาโอบอุ้มเธอเอาไว้ใต้สองแขน ทำให้กายบางหญิงสาวลอยสูง ปลายเท้าไม่แตะพื้นและช่วงต้นขาของเธอต้องกางออก เพราะเขาดึงร่างบางเข้าหาชายหนุ่ม เรือนหน้าหญิงสาวตกใจและหน้าแดงก่ำ เธอรู้สึกอายจริงๆ“อย่าตกใจนะ กลิ่นจันทร์... ผมจะทำให้คุณรู้สึกดีเอง” ชายหนุ่มพยายามกระซิบข้างหู มิให้เธอตกใจดิ้นหลุดจากแขนเขา เธอกลัวจนตัวสั่น ระหว่างถูกดึงเข้าหาร่างชายหนุ่ม ต้นข
หลังจากเขาแนะนำตัวเองกับแม่ของกลิ่นจันทร์ เธอชื่อสร้อยเงิน กำลังทำอาหารกับทาสสองคน สีหน้าของเธอไม่ค่อยไว้ใจที่มีผู้ชายแปลกหน้ามาคุยกับลูกสาว“แม่ อย่าไปว่าเขาสิ เขาคงหลงทางมาถึงบ้าน ถามหายายแสงดาว แม่พอจะรู้จักคุณยายแสงดาวไหม” กลิ่นจันทร์ถามด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม คิดว่าหากช่วยเหลือเขาไปแล้ว เธอกับแม่จะได้บุญ และเขาคงจะไปทำธุระเรื่องครอบครัวได้เสียที“โอ๊ย...อยู่มาตั้งนาน ไม่เคยได้ยินยายชื่อแสงดาวอะไรนั้นเลยนะ พ่อหนุ่มมาจากกรุงเทพฯ ลองไปถามญาติตัวเองใหม่เถอะ... กลับไปได้แล้ว ลูกสาวฉันจะเสียชื่อหมด” นางสร้อยเงินตอบปัด จึงอยากให้ทาสพาเขาออกจากเรือน“ไม่เป็นไรจ้าแม่... ให้ทาสช่วยแม่ทำอาหารเถอะ ฉันจะไปส่งเขาเองจ๊ะ” กลิ่นจันทร์รับอาสาเอง เพราะคิดว่าตนคงเป็นเหตุนำพาเรื่องวุ่นวายเข้าบ้าน คิดเสียว่าแนะนำให้เขาไปคุยกับผู้ใหญ่บ้าน เผื่อจะได้รับความช่วยเหลือที่ดีกว่านี้“ขอโทษนะครับ คุณแม่สร้อยเงิน ผมขอตัวกลับก่อนนะครับ” ปวรุตม์รู้สึกเสียใจที่ไม่ได้พบญาติหรือแม่ ทุกคนหายไปไหนหมด อีกทั้งทุกๆ คนที่นี่ใส่ชุดสมัยร.๕ทั้งนั้น เขามาหลงอยู่บ้านใครกันเนี่ย... ชายหนุ่มแอบคิด******กลิ่นจันทร์พาเขาเดินออกจากบร
รุ่งเช้าท่ามกลางเสียงโวกเวกโวยวาย ผู้คนเดินไปมา สลับวิ่งจนพื้นไม้ภายในบ้านสั่นสะเทือน ปวรุตม์รู้สึกว่าถูกรบกวนจากการนอนแสนสบาย จึงลืมตาปรือตื่น หันมองว่าร่างของแม่ข้างๆ หายไป คงจะสมทบกับญาติ ซึ่งกำลังทำอะไรสักอย่าง“เร็วๆ เข้า!!! อุ้มคุณแม่ขึ้นรถ!!!” เสียงของผู้หลักผู้ใหญ่กำลังวุ่นวาย กับการนำร่างของคุณยายซึ่งเริ่มหายใจช้าลง หลับตาโดยไม่มีการตอบสนอง ครอบครัวญาติฝ่ายแม่ตกใจมากพวกเขาพาร่างของคุณยายขึ้นรถ ออกตัวจากบ้านไปอย่างรวดเร็ว รวมไปถึงญาติทุกๆ ต่างคนกลับไปที่รถของตัวเอง ต่างขับรถแห่ไปทีละคันจนหมดบ้าน...เหลือไว้เพียงเขายังยืนงงอยู่ภายในบ้านคนเดียว“ไปกันหมดเลย” ปวรุตม์ไม่อาจจะพูดถามใคร ในช่วงเวลาอันฉุกละหุกได้เลย ว่าเขาควรทำตัวอย่างไร พ่อแม่เขาค่อนข้างวุ่นวายกับการพาร่างของคุณยายขึ้นรถ และรีบพาไปร.พ. ในขณะที่ญาติๆ คนอื่นๆ ต่างแยกย้ายขับรถตามไป“กลิ่นจันทร์ไปกับเขาด้วยหรือเปล่านะ?” ปวรุตม์ยังคงนึกถึงสาวเมื่อคืนนี้ หากไม่อยู่ในพุ่มไม้มืด เขาอาจจะจำหน้าเธอได้ชัดกว่านี้ ตะวันในเช้านี้ทอแสงนวลแผ่วเบา แต่ท้องเขานี่สิ ร้องออกมาอย่างหิวโหย ไม่รู้ว่าตอนนี้จะเหลืออะไรใหเขากินได้บ้าง******ช
ในความเงียบภายในรถยนต์ ระหว่างเดินทางออกมาตจว. นอกเขตเมือง สู่ชนบทในท้องนา ภาพบรรยากาศของตึกราบ้านช่องหายไปจากสายตาของชายหนุ่มคนหนึ่ง ซึ่งเป็นคนหนุ่มสมัยใหม่ อาศัยอยู่ในเมืองเขาจำใจต้องเดินทางมากับพ่อแม่ เพื่อไปบ้านของยายแสงดาวซึ่งอยู่ตจว. เขาเบื่อมากกับการไปอยู่บ้านนอก โบราณ คนแก่หัวเก่าๆ ซึ่งมันไม่มีอะไรน่าสนใจสำหรับเขาเลยปวรุตม์ (ปะ-วะ-รุด) หยิบมือถือสมาร์ทโฟนขึ้นมาเพื่อแชทกับเพื่อน และนัดกันว่ากลับบ้านจากญาติแล้ว จะไปดื่มเหล้าเที่ยวผับ ควงสาวมาฟันให้สนุกแก้เบื่อเสียเลย เขายิ้มเงียบๆ โดยมิให้พ่อซึ่งกำลังขับรถหันมาดุได้อีกแม่ของเขานั่งอยู่หน้ารถ กำลังชี้ทางบอกไปทางคุณยาย คือคุณแม่ของเธอค่อนข้างมีอายุมากแล้ว พวกเขาทั้งครอบครัวถูกเรียกให้มาบ้านญาติตจว. เพื่อให้มารับทราบว่า คุณยายใกล้จะไปสบายดีแล้ว ญาติคนอื่นๆ เรียกพ่อแม่และปวรุตม์ ให้มาดูใจกันครั้งท้าย ก่อนคุณยายจะเสีย“ทำตัวดีๆ นะแกไอ้รุตม์ เดี๋ยวจะไม่ได้รับมรดกกันพอดี” คุณพ่อของเขา เป็นลูกเขยของญาติข้างแม่ ชายหนุ่มอายุราวยี่สิบสองปี ทำตัวสงบเสงี่ยมเจียมตัวเรียบร้อย อย่างน้อยเขาอยากจะกลับเมือง มากกว่านอนค้างอยู่บ้านนอกตจว.แบบนี้