แชร์

ไออุ่นแห่งรัก [3]

ผู้เขียน: ภูผาสีน้ำเงิน
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2025-06-04 23:16:51

ชายหนุ่มกลับมาพร้อมกับกาแฟในมือสองแก้ว แก้วหนึ่งเป็นคาปูชิโน่เย็นพร้อมหลอดยังไม่แกะห่อพลาสติก และอีกแก้วหนึ่งเป็นกาแฟร้อนชงยกล้อแบบอาโกโบราณ ชวกรชอบดื่มเหมือนคนสูงอายุ เพราะเป็นลักษณะส่วนตัวเขา

“จะดีกว่านี้นะคะ ถ้าจะบอกพยาบาลให้ปลดเชือกฉัน เพื่อจะดื่มได้สะดวก” หญิงสาวกล่าวเชิงขอร้อง เป็นคนปกติก็ว่าลำบากแล้ว เป็นคนป่วยมันยิ่งลำบากเข้าไปอีก

“ผมจะป้อนให้ก็แล้วกัน จนกว่าหมอพยาบาลจะมาปลดให้คุณเองนะ”

“เห็นฉันพูดไม่น่าเชื่อถือรึไง?”

“ก็เห็นอยู่ว่าเมื่อวานคุณทำตัวงี่เง่าพอสมควรนะ พอฟื้นก็ดึงดันจะพยายามลงจากเตียง แล้วมาบอกผมว่าไม่อยากมีชีวิตอยู่...” ชวกรพยายามหยุดตัวเองระหว่างป้อนกาแฟให้ แต่หญิงสาวไม่ได้สนใจคำพูดเขานอกจากหลอดในมือ กำลังส่งกาแฟเข้าปากเธอ

ชายหนุ่มแอบลอบมองหญิงสาวดูดกลืนกาแฟด้วยความหิวโหยมาก เธอดูดมันอย่างรวดเร็วเมื่อริมฝีปากห่อเข้าหาหลอดกาแฟ ชวกรเผลอจินตนาการตอนที่จิตสุภาเคยดูดกลืนองคชาตเขาเต็มปาก รูดเข้าออกอย่างสนุกพร้อมกับอีกมือรูดขึ้นลง ชวกรเผลอมีอารมณ์ตื่นตัวจนต้องหนีบขาตัวเองอย่างลืมตัว

“ชื่นใจจริงๆ ขอบคุณนะคะ คุณ...” กชนันลืมชื่อเขาทันที โดยไม่เกินชม.นี้ ชายหนุ่มจึงย้ำชื่อเขาอีกครั้ง

“ชวกรครับ คุณกชนันท์” กาแฟเย็นในมือเขาหมดในทันที เขาจึงวางกาแฟออกให้ห่าง หญิงสาวหอบหายใจอย่างโล่งใจ เมื่อได้คาเฟอีนสมใจ

******

“ทำไมคุณชวกร ต้องมาดูแลฉันด้วยคะ?” ในที่สุดเธอต้องถามคำถามที่สงสัยอยู่นานหลายชม. คงเป็นเพราะฤทธิ์ยาทำให้เธอมึนงง หลงๆ ลืมๆ กว่าจะนึกคำถามออก ก็หลังจากได้คาเฟอีนช่วยกระตุ้นความจำนี่แหละ

“คุณรู้ตัวมั๊ยว่าเมื่อวานคุณถูกรถชน และผมก็เป็นคนขับรถคนนั้น โชคดีนะครับที่คุณยังไม่ตาย” ชวกรเล่าเหตุการณ์เมื่อวานให้กชนันท์ทราบ เธอตั้งใจฟังอย่างจดจ่อ เพราะนั้นเป็นความต้องการของเธอตั้งแต่ทีแรก และไม่คิดว่าชวกรจะเป็นคนขับ พร้อมพาเธอมาส่งร.พ.แบบนี้

“ฉันตั้งใจค่ะ... ขอโทษนะคะ ที่ทำให้คุณต้องลำบากแบบนี้” กชนันท์รู้สึกผิดที่ทำให้ชวกรต้องมาวุ่นวายกับเธอ ความจริงหากเธอจะประสงค์ให้เขาไปเสีย และแอบดอดไปดาดฟ้าเพื่อกระโดดลงมา มันจะได้จบโดยไม่มีใครเดือดร้อนเพราะเธออีก

“ทำไมคุณถึงพยายามฆ่าตัวตายครับ? บอกผมได้มั๊ย? แล้วญาติๆ ของคุณรู้บ้างหรือเปล่าครับ?” ชวกรถามคำถามที่ควรถาม ทำให้กชนันท์นิ่งเงียบ ครุ่นคิดอยู่พอสมควรว่าจะบอกเขาดีหรือเปล่า เธอมีเหตุผลที่ไม่อยากมีชีวิตอยู่...

“ฉันพึ่งไปงานศพมา... เผาเขาไปแล้ว ฉันไร้ที่พึ่งพิง และก็เริ่มจะไม่มีบ้าน... ไม่มีกำลังใจจะอยู่ต่อแล้ว...” กชนันท์เปรยออกมา แทบจะหมดแรงลมหายใจเสียด้วยซ้ำ เสียงชีพจรหัวใจเธอก็ดังช้าลงและกลับมาถี่อีกครั้งหนึ่ง

“ทำไมครับ? เกิดอะไรขึ้นกับงานศพที่นั้น?” ชวกรถามต่อไป เขายังไม่เข้าใจว่า ทำไมเธอถึงคิดสั้นเพียงนี้

“มันเป็นงานศพของสามีฉันเองค่ะ เขาหัวใจล้มเหลวเพราะทำงานหนักเกินไป เสียชีวิตกะทันหัน และฉันก็เสียบ้านเพราะถูกธนาคารยึดไป เนื่องจากฉันไม่มีอาชีพ ตอนทำงานศพโชคดีที่ยังมีเพื่อนร่วมงานของธารินทร์ช่วยเป็นเจ้าภาพ และจ่ายค่างานศพให้ แต่ฉันไม่มีเงินพอจะเลี้ยงตัวเอง เริ่มต้นก็ไม่ได้...”

“ผมช่วยหางานดีมั๊ยครับ?”

“ไม่ได้หรอกค่ะ ฉันเป็นเด็กกำพร้า และมีเอกสารที่ไม่สามารถรับรองการทำงานได้ หากไม่มีธารินทร์เป็นผู้ค้ำประกัน เขาตายไปแล้ว ก็เท่ากับพาฉันตายไปด้วย แต่ฉันก็ยินดีที่จะตาย... ถ้าหากจะได้พบเขาอีก...” กชนันท์ก็อยากจะบอกชวกรว่า เธอได้พบเขาแล้วจริงๆ ความฝันเมื่อเช้านี้...

“แล้วคุณมีญาติที่ไหนอีกหรือเปล่า?” ชวกรรู้สึกว่า เจอเรื่องลำบากใจสุดๆ เข้าให้แล้ว

“ไม่มีค่ะ ยังคิดอยู่ว่า ค่ารักษาพยาบาลที่นี่จะทำยังไงดี คุณอย่าพยายามจ่ายค่ารักษาให้ฉันเลยนะคะ อย่าพยายามรับผิดชอบ เพราะฉันจะเป็นคนแบกรับมันเองค่ะ” กชนันท์ไม่อยากทำให้ชวกรต้องลำบากใจอีกคน แค่เธอบาดเจ็บโดยไม่ตายคาที่ มันก็ผิดมากที่เป็นภาระสำหรับเขา

“คุณต้องอยู่ต่อนะครับ คุณกชนันท์ ทุกอย่าง...มันเริ่มต้นใหม่ได้นะครับ” ชวกรไม่อยากให้กชนันท์พยายามคิดฆ่าตัวตายอีก มันจะไม่เป็นผลดีต่อตัวเธอเอง หากจะคิดในแง่ของโลกจิตวิญญาณ

“ฉันบอกแล้วยังไงคะ? ว่าฉันไม่มีบ้าน ไม่มีที่ไป ฉันเป็นเด็กกำพร้า และไร้คนค้ำประกันเรื่องเอกสาร” กชนันท์ถอดใจ ไม่รู้จะอยู่ต่อยังไงดี แม้กระทั่งเรื่องทำมาหากิน หรือเรื่องปากท้องยามนี้ เธอตัวคนเดียว...

“คุณจะต้องรักษาตัวนะ ถ้าไม่รู้จะไปไหน อยู่บ้านกับผมก่อนก็ได้ ในฐานะแม่บ้าน” เขาไม่ได้ตั้งใจจะหาแม่บ้านตั้งแต่ทีแรกหรอก เขาสงสารเธอ และไม่อยากให้เธอต้องพยายามฆ่าตัวตายอีก เขารู้สึกแย่เมื่อได้ยินเธอพูดออกมาแบบนั้น

“หมายความว่าคุณจ้างฉัน?” กชนันท์เริ่มเสียงสูง หลังจากชวกรเชิญเธอไปอยู่กับเขา รู้สึกเกรงใจมากหากว่าเขามีภรรยาอยู่แล้ว มันจะทำให้เธอคิดมากเรื่องกชนันท์หรือเปล่า?

“ครับ มาทำงานที่บ้านผมก่อน เผื่อคุณคิดออกว่าจะทำอะไรต่อ ก็แค่บอกผม...” ชวกรคิดว่าพยายามช่วยเหลือเธอไปก่อน เขาจะไม่รู้สึกผิดอีกเลย หลังจากขับรถชนเธอไปแล้ว

“ขอบคุณมากๆ นะคะ รบกวนคุณจริงๆ ภรรยาคุณคงจะไม่มีปัญหาอะไรกับคุณใช่มั๊ย?” เธอเดาว่าเขาอายุประมาณสามสิบกว่า อาจจะมีเมียแล้วก็ได้ เลยอยากจะคุยกันตรงนี้ให้เข้าใจกันไปก่อน

“ผมเพิ่งเลิกกับเธอครับ รายละเอียดขอไม่พูดนะครับ” ชวกรตอบไปตามตรงอย่างน้อย กชนันท์อาจจะสบายใจขึ้นก็ได้ เมื่อไม่มีภรรยาเขาทำให้เธอลำบากใจเข้าไปอีก

“ถ้างั้นแปลว่า...”

“ไม่ต้องห่วงนะครับ... ผมจะแยกห้องนอนของคุณกับผม จะไม่มีอะไรทำให้คุณไม่สบายใจอีก พร้อมจะย้ายเข้า หรือย้ายออกเมื่อไหร่ บอกผมก็แล้วกัน” ชวกรคิดว่า การให้ความช่วยเหลือครั้งนี้ อาจจะทำให้เธอสบายใจขึ้นมาบ้าง

“กว่าฉันจะออกจากร.พ.ก็หลายเดือนอยู่นะ แถมไปอยู่บ้านคุณ... จะทำงานบ้านให้คุณไหวหรือเปล่า ก็ยังไม่แน่ใจเลยขาซ้ายฉันก็หัก” กชนันท์เริ่มจะหัวเราะ นี่เธอทำบุญด้วยอะไรมา... อยากตายแต่ไม่ได้ตาย ทำไมสวรรค์กลั่นแกล้งเธอแบบนี้

“งานที่ไม่ต้องยืนทำก็มีนะครับ”

“งานอะไรบ้างล่ะคะ?”

“คัดแยกเอกสารให้ผมไง กำลังอยากได้มาช่วยพอดี” ชวกรพูดแก้ขัด ทั้งๆ ที่มันไม่ได้มีงานอะไรแบบนั้น อย่างน้อยตอนกชนันทัหัวเราะ มันทำให้หัวใจที่ห่อเหี่ยวของเขาเริ่มสดชื่น ปลอดโปร่งโล่งใจ

“คุณไม่เปลี่ยนใจแน่นะคะ ถ้าคุณล้อเล่นฉันล่ะก็... รับรองเลยว่าฉันจะบินขึ้นสวรรค์ทันที”

“ผมต้องฉุดนางฟ้าเข้าเฝือกเอาไว้ก่อนล่ะครับ อย่าเพิ่งรีบกลับสวรรค์สิ” ชวกรยิ้มกริ่ม ก่อนจะรับปากกับเธอเป็นมั่นเป็นเหมาะว่า เขาจะรับผิดชอบเธอ จนกว่าเธอจะพร้อมบอกเขาอีกครั้งว่า จะเอายังไงกับชีวิตที่ยังมีอยู่...

******

ชวกรให้การกับตำรวจว่า ได้ข้อมูลอะไรจากกชนันท์บ้าง และทางแพทย์ผู้รักษาก็รับทราบรายละเอียดแล้ว เวลาผ่านไปกว่าสองเดือนครึ่ง เธอเปลี่ยนจากเฝือกแข็ง เป็นเฝือกอ่อนหลังจากชวกรไปเยี่ยมเธอบ่อยๆ ทุกวันหลังเลิกงาน อาการของเธอก็ดีขึ้นตามลำดับรวดเร็วมาก จนแพทย์ตกใจ...

ชวกรซื้อบ้านใหม่ตกแต่งภายในเรียบร้อยแล้ว เขาขับรถไปรับกชนันท์กลับไปบ้านกับเขา เพื่อพาเธอไปอยู่ด้วยกัน ในฐานะจ้าง –แม่บ้าน-

ชวกรพากชนันท์ไปซื้อเสื้อผ้าที่สวยงาม แม้ว่าเธอจะเดินค่อนข้างลำบาก ทำให้ใครต่อใครที่ได้พบเห็น คิดว่าหญิงสาวซึ่งบาดเจ็บอยู่เป็นแฟนกับชวกรกันเสียส่วนใหญ่ แม้กระทั่งเพื่อนร่วมงานยังคิดว่าชวกรลืมจิตสุภาได้ง่ายดาย เพราะมีแฟนใหม่นี่เอง...

ชายหนุ่มมักจะปฏิเสธเพื่อนเสมอ แต่ไม่อาจจะลบล้างความคิดเหล่านั้นไปได้ ถึงจะพยายามบอกไปเท่าไหร่ว่าเป็นแค่แม่บ้านมาทำงาน แต่สิ่งที่เขาทำไม่ต่างกับคู่รักเขาทำกัน...

“เสื้อผ้าสวยจังเลยค่ะ” กชนันท์ชื่นชอบมาก ทั้งกางเกง กระโปรงสั้นและยาว แม้กระทั่งชุดชั้นใสเธอได้เลือกอย่างที่ชอบ ทำให้รู้สึกปลื้มชวกรไม่ต่างกับตอนที่อยู่กับธารินทร์

“ขาดเหลืออะไรก็บอกผมนะ ได้เวลากลับบ้านแล้วครับ” ชวกรจึงจับแขนเธอเอาไว้ ช่วยพยุงเวลาเดิน ในขณะที่หญิงสาวใช้ไม้คั้นพากายเดินไปกับเขา มองดูชายหนุ่มถือถุงกระดาษมากมาย ซึ่งใส่เสื้อผ้าของเธอทั้งหมด

หญิงสาวยิ้มออก แอบลอบมองชวกรอย่างซึ้งใจ หากไม่ได้เขาขับรถชนตาย และเป็นรถสิบล้อในวันนั้น เธอคงได้พบกับธารินทร์ตอนหมดลมหายใจไปแล้ว... อย่างน้อยตอนยังมีชีวิตอยู่ เธอมีชวกรซึ่งดูแลเธอไม่ต่างกับธารินทร์

******

อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทล่าสุด

  • เสพตัณหา+เสพราคะ+เสพสวาท [รวมเรื่องสั้น 3 เล่ม]   ข้ามภพมากินตับ [6] -จบ-

    หลังจากนางสร้อยเงินเดินทางกลับมาถึงบ้าน พบเห็นว่าลูกสาวอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้า นั่งเย็บปักถักร้อยอยู่ภายในห้องขอตัวเอง โดยไม่ออกมาด้านนอกตามที่ตนสั่ง นางสร้อยเงินแวะไปเยี่ยมนายปวรุตม์เสียหน่อยว่ากำลังทำงานอยู่หรือเปล่าพบเห็นว่าชายหนุ่มดังกล่าว กำลังนั่งปอกเปลือกมะพร้าว และกำลังผ่าฟืนตามสั่ง เพื่อเป็นเชื้อเพลิงให้นางสร้อยเงิน ทำอาหารมื้อเย็นและเช้าวันถัดไป“ทำงานอยู่รึ ระวังมีดบาดนะ”“ครับ ผมทำงานใกล้จะเสร็จแล้วครับ” ปวรุตม์ยิ้มแย้มก่อนจะตั้งใจทำงานต่อไป แววตาของนางสร้อยเงินมองชายหนุ่มอย่างไม่ไว้ใจ ระหว่างที่ไม่อยู่นางน่าจะพากลิ่นจันทร์ไปด้วย แต่อยากให้ลูกสาวประหลาดใจ เมื่ออีกไม่กี่วันบิดาของเธอจะกลับมาวันเวลาผ่านไปราวอาทิตย์หนึ่ง ปรากฏร่างของชายหนุ่มสูงวัย เดินทางมาถึงบ้านของนางสร้องเงิน ปวรุตม์กำลังขุดดินปลูกต้นไม้อยู่ข้างบ่อน้ำ เขาถอดเสื้อสวมผ้าถุงสีทึบเพียงชิ้นเดียว ปวรุตม์พบเห็นร่างของชายดูดีมีภูมิฐาน เขารู้สึกกลัวขึ้นมาในทันใด หน้าตาก็คล้ายๆ กับกลิ่นจันทร์“ไอ้หนุ่ม... เอ็งเป็นใครมาจากไหน มาอยู่บ้านข้าวะ?” แววตาที่ดุดันมองมายังชายหนุ่มอย่างไม่ไว้ใจ“สวัสดีครับ ผมชื่อ ปวรุตม์ คุณส

  • เสพตัณหา+เสพราคะ+เสพสวาท [รวมเรื่องสั้น 3 เล่ม]   ข้ามภพมากินตับ [5]

    หลังจากนั้นเป็นต้นมา... ปวรุตม์จึงเปลี่ยนเสื้อผ้า ทำตัวกลมกลืนกับคนที่บ้านของกลิ่นจันทร์ ช่วยเหลืองานบ้าน และงานสวน ทำให้สร้อยเงินรู้สึกพอใจว่า ชายแปลกหน้าจากกรุงเทพฯ ซึ่งหาบ้านยายแสงดาวไม่เจอ กลายเป็นคนงานคนสวนไปโดยปริยายชายหนุ่มอาศัยอยู่ในเรือนรับรองเล็กๆ อีกแห่งของเขตบ้าน เพราะนางสร้อยเงินไม่ยอมให้อยู่ในบ้านเดียวกับลูกสาว หวังว่าจะไหว้วานผู้ใหญ่บ้าน ช่วยเขียนจดหมายไปบอกสามีในเมืองว่า ช่วยแวะกลับมาบ้าน เรื่องไอ้หนุ่มกรุงเทพฯ มาอาศัยอยู่ในบ้าน“แม่เดินทางปลอดภัย โชคดีนะจ๊ะ” หลังจากที่แอบลักลอบได้เสียกับปวรุตม์ เธอระมัดระวังตัวมิให้มารดารู้ว่า ลูกเสียสาวไปแล้วกับชายแปลกหน้า แต่เขาทำให้กลิ่นจันทร์มีความสุขยามเมื่อได้สวมกอด และบางสิ่งที่ทำให้เธอหลงใหล“แม่จะรีบไปรีบกลับนะ อยู่ดูแลบ้านดีๆ ล่ะ” นางสร้อยเงิน ใช้แรงงานทาสขับเกวียนไปส่งนางที่บ้านผู้ใหญ่ หวังจะขอให้ผู้มีความรู้เขียนจดหมายส่งไปให้สามีทราบเรื่องที่บ้านทีหลังจากนั้นเมื่อไม่มีใครอยู่เป็นเพื่อน กลิ่นจันทร์จึงเดินไปที่เรือนรับรองของปวรุตม์ เพื่อขอมีอะไรด้วยกันเพราะความคิดถึงมากมาย...ชายหนุ่มกำลังรอเวลานี้ที่จะได้อยู่กับกลิ่นจันท

  • เสพตัณหา+เสพราคะ+เสพสวาท [รวมเรื่องสั้น 3 เล่ม]   ข้ามภพมากินตับ [4]

    เรือนกายหญิงสาวยืนพิงหลังต้นไม้ใหญ่ บดบังเรือนร่าของเธอและปวรุตม์ให้พ้นสายตาใครอื่น สองแขนหญิงสาวซึ่งกันเอาไว้ระหว่างอกเขาและกายบางได้ลดลง แขนบางทั้งสองโอบกอดตอบรับชายหนุ่มเบื้องหน้าทำให้ปวรุตม์ดีใจเหลือเกินเมื่อเธอยินยอมเขาแล้ว มือของชายหนุ่มทั้งสองจึงทำงานปลดตะขอกางเกง ทำให้แววตาหญิงสาวตกใจว่า นี่เขาจะแก้ผ้าทำไมกันนะ...“ปวรุตม์ คุณจะทำอะไรรึ?” เธอไม่เข้าใจว่า เขากำลังทำอะไรแปลกๆ ออกมา หลังจากบอกรักเธอ ต้องแก้ผ้าด้วยรึ?“ผมอยากได้คุณ ปลดผ้าถุงสิ” เขาบอกให้เธอทำบ้าง หญิงสาวยังรู้สึกสับสนว่า ทำไม แต่ถ้าลองดูก็อาจจะคลายความสงสัยได้บ้างเพียงช่วงล่างเปล่าเปลือยปวรุตม์ไม่เห็นมีที่ร่วมรักใดได้ คิดเสียว่าคงต้องเลือกท่ายืนนอกสถานที่ในป่าลับเช่นนี้เขาโอบอุ้มเธอเอาไว้ใต้สองแขน ทำให้กายบางหญิงสาวลอยสูง ปลายเท้าไม่แตะพื้นและช่วงต้นขาของเธอต้องกางออก เพราะเขาดึงร่างบางเข้าหาชายหนุ่ม เรือนหน้าหญิงสาวตกใจและหน้าแดงก่ำ เธอรู้สึกอายจริงๆ“อย่าตกใจนะ กลิ่นจันทร์... ผมจะทำให้คุณรู้สึกดีเอง” ชายหนุ่มพยายามกระซิบข้างหู มิให้เธอตกใจดิ้นหลุดจากแขนเขา เธอกลัวจนตัวสั่น ระหว่างถูกดึงเข้าหาร่างชายหนุ่ม ต้นข

  • เสพตัณหา+เสพราคะ+เสพสวาท [รวมเรื่องสั้น 3 เล่ม]   ข้ามภพมากินตับ [3]

    หลังจากเขาแนะนำตัวเองกับแม่ของกลิ่นจันทร์ เธอชื่อสร้อยเงิน กำลังทำอาหารกับทาสสองคน สีหน้าของเธอไม่ค่อยไว้ใจที่มีผู้ชายแปลกหน้ามาคุยกับลูกสาว“แม่ อย่าไปว่าเขาสิ เขาคงหลงทางมาถึงบ้าน ถามหายายแสงดาว แม่พอจะรู้จักคุณยายแสงดาวไหม” กลิ่นจันทร์ถามด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม คิดว่าหากช่วยเหลือเขาไปแล้ว เธอกับแม่จะได้บุญ และเขาคงจะไปทำธุระเรื่องครอบครัวได้เสียที“โอ๊ย...อยู่มาตั้งนาน ไม่เคยได้ยินยายชื่อแสงดาวอะไรนั้นเลยนะ พ่อหนุ่มมาจากกรุงเทพฯ ลองไปถามญาติตัวเองใหม่เถอะ... กลับไปได้แล้ว ลูกสาวฉันจะเสียชื่อหมด” นางสร้อยเงินตอบปัด จึงอยากให้ทาสพาเขาออกจากเรือน“ไม่เป็นไรจ้าแม่... ให้ทาสช่วยแม่ทำอาหารเถอะ ฉันจะไปส่งเขาเองจ๊ะ” กลิ่นจันทร์รับอาสาเอง เพราะคิดว่าตนคงเป็นเหตุนำพาเรื่องวุ่นวายเข้าบ้าน คิดเสียว่าแนะนำให้เขาไปคุยกับผู้ใหญ่บ้าน เผื่อจะได้รับความช่วยเหลือที่ดีกว่านี้“ขอโทษนะครับ คุณแม่สร้อยเงิน ผมขอตัวกลับก่อนนะครับ” ปวรุตม์รู้สึกเสียใจที่ไม่ได้พบญาติหรือแม่ ทุกคนหายไปไหนหมด อีกทั้งทุกๆ คนที่นี่ใส่ชุดสมัยร.๕ทั้งนั้น เขามาหลงอยู่บ้านใครกันเนี่ย... ชายหนุ่มแอบคิด******กลิ่นจันทร์พาเขาเดินออกจากบร

  • เสพตัณหา+เสพราคะ+เสพสวาท [รวมเรื่องสั้น 3 เล่ม]   ข้ามภพมากินตับ [2]

    รุ่งเช้าท่ามกลางเสียงโวกเวกโวยวาย ผู้คนเดินไปมา สลับวิ่งจนพื้นไม้ภายในบ้านสั่นสะเทือน ปวรุตม์รู้สึกว่าถูกรบกวนจากการนอนแสนสบาย จึงลืมตาปรือตื่น หันมองว่าร่างของแม่ข้างๆ หายไป คงจะสมทบกับญาติ ซึ่งกำลังทำอะไรสักอย่าง“เร็วๆ เข้า!!! อุ้มคุณแม่ขึ้นรถ!!!” เสียงของผู้หลักผู้ใหญ่กำลังวุ่นวาย กับการนำร่างของคุณยายซึ่งเริ่มหายใจช้าลง หลับตาโดยไม่มีการตอบสนอง ครอบครัวญาติฝ่ายแม่ตกใจมากพวกเขาพาร่างของคุณยายขึ้นรถ ออกตัวจากบ้านไปอย่างรวดเร็ว รวมไปถึงญาติทุกๆ ต่างคนกลับไปที่รถของตัวเอง ต่างขับรถแห่ไปทีละคันจนหมดบ้าน...เหลือไว้เพียงเขายังยืนงงอยู่ภายในบ้านคนเดียว“ไปกันหมดเลย” ปวรุตม์ไม่อาจจะพูดถามใคร ในช่วงเวลาอันฉุกละหุกได้เลย ว่าเขาควรทำตัวอย่างไร พ่อแม่เขาค่อนข้างวุ่นวายกับการพาร่างของคุณยายขึ้นรถ และรีบพาไปร.พ. ในขณะที่ญาติๆ คนอื่นๆ ต่างแยกย้ายขับรถตามไป“กลิ่นจันทร์ไปกับเขาด้วยหรือเปล่านะ?” ปวรุตม์ยังคงนึกถึงสาวเมื่อคืนนี้ หากไม่อยู่ในพุ่มไม้มืด เขาอาจจะจำหน้าเธอได้ชัดกว่านี้ ตะวันในเช้านี้ทอแสงนวลแผ่วเบา แต่ท้องเขานี่สิ ร้องออกมาอย่างหิวโหย ไม่รู้ว่าตอนนี้จะเหลืออะไรใหเขากินได้บ้าง******ช

  • เสพตัณหา+เสพราคะ+เสพสวาท [รวมเรื่องสั้น 3 เล่ม]   ข้ามภพมากินตับ [1]

    ในความเงียบภายในรถยนต์ ระหว่างเดินทางออกมาตจว. นอกเขตเมือง สู่ชนบทในท้องนา ภาพบรรยากาศของตึกราบ้านช่องหายไปจากสายตาของชายหนุ่มคนหนึ่ง ซึ่งเป็นคนหนุ่มสมัยใหม่ อาศัยอยู่ในเมืองเขาจำใจต้องเดินทางมากับพ่อแม่ เพื่อไปบ้านของยายแสงดาวซึ่งอยู่ตจว. เขาเบื่อมากกับการไปอยู่บ้านนอก โบราณ คนแก่หัวเก่าๆ ซึ่งมันไม่มีอะไรน่าสนใจสำหรับเขาเลยปวรุตม์ (ปะ-วะ-รุด) หยิบมือถือสมาร์ทโฟนขึ้นมาเพื่อแชทกับเพื่อน และนัดกันว่ากลับบ้านจากญาติแล้ว จะไปดื่มเหล้าเที่ยวผับ ควงสาวมาฟันให้สนุกแก้เบื่อเสียเลย เขายิ้มเงียบๆ โดยมิให้พ่อซึ่งกำลังขับรถหันมาดุได้อีกแม่ของเขานั่งอยู่หน้ารถ กำลังชี้ทางบอกไปทางคุณยาย คือคุณแม่ของเธอค่อนข้างมีอายุมากแล้ว พวกเขาทั้งครอบครัวถูกเรียกให้มาบ้านญาติตจว. เพื่อให้มารับทราบว่า คุณยายใกล้จะไปสบายดีแล้ว ญาติคนอื่นๆ เรียกพ่อแม่และปวรุตม์ ให้มาดูใจกันครั้งท้าย ก่อนคุณยายจะเสีย“ทำตัวดีๆ นะแกไอ้รุตม์ เดี๋ยวจะไม่ได้รับมรดกกันพอดี” คุณพ่อของเขา เป็นลูกเขยของญาติข้างแม่ ชายหนุ่มอายุราวยี่สิบสองปี ทำตัวสงบเสงี่ยมเจียมตัวเรียบร้อย อย่างน้อยเขาอยากจะกลับเมือง มากกว่านอนค้างอยู่บ้านนอกตจว.แบบนี้

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status