ชายหนุ่มขับรถออกจากร.พ. เพื่อกลับมาบ้าน เขาบอกกับแพทย์ว่าเขาจะกลับมาเยี่ยมเธอใหม่อีกครั้งในวันถัดไป แพทย์ผู้ดูแลอาการ ยังอยากให้ชวกรช่วยติดตามหาญาติของคุณกชนันท์
เพราะเธอไม่ยอมบอกอะไรเลย ว่าบ้านอยู่ไหน ญาติชื่ออะไร ได้แต่ไม่ตอบหรือไม่ให้ความร่วมมือ พวกเขาค่อนข้างกลุ้มใจ หากเธอจะดื้อดึงแบบนี้ อาจจะต้องให้ตำรวจช่วยติดตามหาอีกแรง
ชวกรขับรถไปเรื่อยๆ และไปหยุดอยู่ที่สะพานพระรามแปด นั่งอยู่บนทางเท้าเพื่อใช้สมองคิดมากมาย เรื่องส่วนตัวเขาที่เกี่ยวข้องกับจิตสุภา ชีวิตความรักของเขากับเธอตอนแรก ทุกอย่างเป็นไปด้วยดี เหมือนกับความรักของคนหนุ่มสาวทั่วไป แต่เพราะอะไรจิตสุภาถึงได้แอบมีชู้ลับหลังเขาแบบนั้น
ถึงจะมาใช้คำถามนี้ย้อนหลังทิ่มแทงใจ ก็คงไม่มีประโยชน์อะไร หลังจากหย่าไปแล้ว ทุกอย่างที่เกี่ยวข้องกับเขาและจิตสุภา มันจบลงด้วยการจากกัน...
ชวกรจึงคิดว่าเขาควรจะขายบ้านทิ้ง บ้านซึ่งเป็นเรือนรักของเขากับภรรยาเก่า เพื่อนำเงินทั้งหมดไปซื้อบ้านหลังใหม่ ย้ายออกจากความทรงจำที่นั้นเสีย เขาไม่ควรคิดถึงจิตสุภาอีกต่อไป...
เมื่อเริ่มมีกำลังใจอีกครั้ง เขาจึงเริ่มทำตามที่คิดทั้งหมด และตั้งใจว่าพรุ่งนี้ควรจะไปเยี่ยมกชนันท์เสียหน่อย เผื่อว่าเธออาจจะยอมบอกว่าทำไมถึงพยายามฆ่าตัวตาย คืนนี้เธอคงไม่พยายามทำอะไรเจ็บตัวแบบนั้นอีก...
******
วันถัดมา ชวกรค้นหาเอกสารทั้งหมด เพื่อดำเนินขายบ้านทิ้งเพื่อนำเงินเข้าบัญชี ตั้งใจว่าหลังไปเยี่ยมกชนันท์ เขาจะมองหาบ้านหลังใหม่ ให้ไกลจากจิตสุภา ส่วนเรื่องที่ทำงานเขาตั้งใจว่า ถ้าเป็นไปได้อยากจะขอย้ายไปพร้อมๆ กับย้ายบ้านด้วยเลยก็ดีเหมือนกัน
เมื่อชวกรเดินทางมาถึงร.พ.ในเวลาเยี่ยมผู้ป่วย เขามาติดต่อในฐานะคนรับผิดชอบขับรถชนคนไข้ พยาบาลยังถามเขาอีกว่า...
“ติดต่อญาติผู้ป่วยได้หรือยังคะ?”
“ยังเลยครับ ผมตั้งใจว่าวันนี้จะคุยกับเธอ หลังจากฟื้นมาเมื่อวานนี้”
“ทำไมคนไข้ลงจากเตียงแบบนั้นล่ะคะ มันอันตรายมากนะคะ” พยาบาลสาวกล่าวด้วยความสงสัย ไม่มีคนไข้ทำอะไรบ้าๆ แบบนั้น
“ผมเองก็ไม่ทราบครับ เธอทำอะไรเองหมด... ถ้างั้นผมขอตัวนะครับ” ชวกรขอตัวผละจาก คิดว่ารอช้าไม่ได้แล้วเรื่องติดต่อหาญาติของกชนันท์
******
กชนันท์กำลังสวมกอดกับธารินทร์ แฟนหนุ่มซึ่งคบอยู่ เขาบรรจงจูบเธออย่างถนุถนอมในอ้อมกอด เธอปกติดีและยิ้มแย้มเวลาที่ได้อยู่กับเขาสองคนภายในบ้าน
เสียงริมฝีปากสองคู่บดเบียดเข้าหากัน พลางสอดลิ้นแทรกตวัดดูดกลืน หญิงสาวหลับตาพริ้มพิมใจ รับความรักจากธารินทร์อย่างมีความสุข ชายหนุ่มเริ่มรุกบุกประชิดกายหญิงสาว พลางล้วงมือสอดเข้าไปใต้เสื้อ เพื่อเกาะกุมอกกลมไว้ครอบครอง กายหนาชายร้อนทับกายสาวซึ่งอยู่เบื้องล่างที่โซฟา
ความเงียบถูกทำลายด้วยเสียงยวบยาบของเครื่องหนังเฟอร์นิเจอร์ และเสียงความวุ่นวายกับการเปลื้องเปลื้องกางเกงชายหนุ่ม และกระโปรงหญิงสาวถูกถลกออกจากเอวบาง
เสื้อผ้าส่วนบนค่อยๆ ลอยหลุดออกไป จนเหลือเพียงกายเปล่าของทั้งสองคน ยังคงวกเวียนมองตากันยิ้มแย้ม และจูบบดเบียดจนบวมเจ่อ หอมหวนโหยหาแทบคลั่งเมื่อกชนันท์ ถูกปลุกเร้าอารมณ์ด้วยความต้องการของธารินทร์
ชายหนุ่มจูบหญิงสาวด้วยความรักและคลั่งไคล้ในตัวเธอ พลางใช้นิ้วหนาอวบแข็งสอดแหย่เข้าไปในที่ลับ เพื่อพยายามแหวกเรือนต้นขานวลให้เปิดกว้าง แทรกกายหนุ่มคั้นกลางกายบางไว้ มิให้เธอหุบขาปกปิดอีกต่อไป
ริมฝีปากบางสะดุดกระตุกเมื่อถูกรุกล้ำเข้ามาภายในส่วนสำคัญ พยายามสำรวจเปิดทางบุกเบิกเป็นอย่างแรก ในขณะที่ยังถูกบดเบียดริมฝีปากจากชายหนุ่มเบื้องบน เธอนอนเอนราบบนโซฟาในห้องรับแขก บ้านของพวกเขาสองคน
“ธารินทร์...” กชนันท์เปรยเรียกชื่อเขา เมื่อละริมฝีปาก แววตาสวยงามมองเขาไม่ละเว้นวาง มือหนาทั้งสองจับเรือนต้นขาเอาไว้ พลางยกสูงเพื่อเขาจะขอจุมพิตที่ฝ่าเท้ากำลังเชิดขึ้นสูงสู่เบื้องหน้าเขา กายเบื้องล่างชายกำลังคลานเข้าประชิดส่วนสำคัญของหญิงสาว
“ผมรักคุณ กชนันท์...” บางอย่างที่สัมผัสถึงไอร้อน กับมวลกล้ามเนื้ออวบหนา กำลังปะทะกับความเป็นสาว ซึ่งกำลังหลั่งรินความเปียกฉ่ำ จากการถูกจูบให้เคลิบเคลิ้ม กชนันท์กำลังถูกบุกรุกพื้นที่ส่วนสงวน แววตาหญิงสาวเริ่มขมวดคิ้วเข้าหากัน เมื่อมันกำลังแหวกทางเข้าอันคับแคบเข้าไปทุกที...
“อ้า...” เธอร้องครางเปรยแผ่ว เมื่อองคชาติขนาดพอดีไม่เล็กเกินไป ค่อยๆ แทรกผ่านทางเข้า เพื่อเลื่อนเข้าไปในกายเธอให้ลึกมากยิ่งขึ้น ชายหนุ่มโน้มตัวลงมา เพื่อคลานกายประชิดหญิงสาว เสาะหาหน้าอกกลมเพื่อสูดดมให้ชื่นใจ
กชนันท์ยังคงครวญร้องครางในลำคอ เมื่อภายในของเธอถูกอัดแน่นไปด้วยมวลกล้ามเนื้อส่วนสงวนของเขา แทรกอยู่ภายในเต็มที่พื้น เป็นหนึ่งเดียวกับเขายามเมื่ออารมณ์รัญจวนยามนี้ ทำให้ไฟรักมิอาจถูกหยุดกลางคัน
ธารินทร์ขับเคลื่อนกาย โหมร้อนแรงกระหน่ำสัมผัสทุกการเคลื่อนไหว เพื่อสร้างอารมณ์สุขแก่กชนันท์ และเขาต้องการมันจากการกระทำอันเกิดจากพวกเขาทั้งสองคน
หญิงสาวกรีดร้องคร่ำครวญด้วยอารมณ์แห่งความสุข เมื่อธารินทร์กำลังปรนเปรอมาให้ เธออยากมีชีวิตอยู่กับเขาตลอดไป ...
เมื่อความเป็นชายกำลังขับเคลื่อนภายในกายหญิงสาวอย่างรวดเร็ว ทำให้กชนันท์มีความสุขเมื่อถูกเขากอด และทำให้เธอรู้สึกดีได้เพียงนี้ ธารินทร์ขยับกายช่วงล่างให้เร็ว และเน้นน้ำหนักกดเข้าไปภายในกายเธอให้แรงขึ้นเรื่อยๆ
ยิ่งทำให้กชนันท์เมามันกับอารมณ์เร่าร้อนจากเขา เธอมีความสุขมากราวกับจะขึ้นสวรรค์ กายบอบบางรู้สึกตัวเบายามถูกเขากระแทกความเป็นชายเข้ามาภายในกายเธอ ครั้งแล้วครั้งเล่า...
เสียงสัญญาณช่วยชีวิตแทรกเข้ามาในความสุขของกชนันท์ ทำให้ความฝันอันแสนสุขต้องจบลง เมื่อดวงตาปรือตื่นพบกับความจริงว่า เธอยังนอนอยู่ในร.พ. ห้องพักฟื้นพิเศษ และขาซ้ายของเธอก็ยังเข้าเฝือกอยู่...
“ฝันไปรึเนี่ย? ... บ้าชะมัดเลย ธา...รินทร์...” กชนันท์เปรยออกมาด้วยความหงุดหงิด และเสียใจ อย่างน้อยเธอยังได้พบเขาในความฝันก็ยังดี...
******
“ตื่นแล้วรึครับ?” ชวกรเดินเข้ามาในห้อง พร้อมกาแฟในมือ กลิ่นของมันเตะจมูกของกชนันท์ เธอรู้สึกต้องการคาเฟอีน เพื่อให้ตัวเองรู้สึกตื่น หลังจากเมื่อวานถูกนางพยาบาลสามคนรุมจับเธอขึ้นเตียง ผูกมัดติดเอาไว้ แถมยังฉีดยาอะไรก็ไม่รู้ ทำให้เธอมึนงง สลึมสลือจนหลับลึกในที่สุด...
ถ้าหากว่ายาฉีดกระบอกนั้นทำให้เธอหลับ และฝันถึงธารินทร์ได้ เธอไม่อยากตื่นขึ้นมาอีกเลย...
“ก็เห็นอยู่ว่า ตาฉันเปิด” หญิงสาวตอบไปตามตรง พบกับชายตรงหน้าตั้งแต่เมื่อวาน โดยไม่รู้เลยว่าเขาเป็นใครมาจากไหน และมาทำอะไรที่นี่ อยู่กับเธอ...
“พูดชัดเจนขนาดนี้ คงจะอาการดีขึ้นเร็วๆ แน่นอน” ชวกรคิดว่า ถ้าเธอจะออกฤทธิ์ได้ขนาดนี้ เขาก็ไม่เห็นจะต้องมาลำบากดูแลอะไรเธออีก
“คุณมายุ่งวุ่นวายอะไรกับฉันที่นี่ละคะ?” กชนันท์พยายามจะขยับตัว แต่ยังถูกเชือกผูกยึดกับเตียง แววตาเธอมองมาเชิงขอร้องว่า อยากให้เขาปลดมันให้หน่อย
“ผมเองก็ไม่อยากวุ่นวายหรอกนะครับ และผมก็ไม่มีทางจะปลดเชือกมัดคุณด้วย ผมทำไม่เป็นหรอก...” ชวกรเห็นสีหน้าเธอแล้วยิ้มแย้ม ตอบไปตามตรง บังเอิญว่าเห็นแววตาเธอมองกาแฟ พลางกลืนกน้ำลายลงไป เขาถามเธออย่างสนใจ
“อยากทานกาแฟรึครับ?” ชวกรถาม พร้อมจะชักเท้าออกไปซื้อกาแฟสดมาให้ เธอพยักหน้า ยอมรับว่าอยากดื่มแทบใจจะขาด เธอติดคาเฟอีนหนักมาก หญิงสาวขมวดคิ้วอย่างยอมจำนน เพราะไม่อาจเคลื่อนกายขยับไปไหนได้
“ผมจะออกไปซื้อให้นะ อยากได้แบบไหนล่ะ?”
“ขอคาปูชิโน่ ใส่ผงโกโก้เยอะๆ หมอคงไม่ห้ามฉันกินใช่ป่าว?” แววตาเธอกระพริบหรี่เชิงขอร้อง อย่างน้อยถ้าเธอจะตาย ขอได้กาแฟอีกสักแก้วก็ยังดี ค่อยหาทางปลีกตัวไปโดดดาดฟ้า น่าจะทัน...
“ได้ครับ อีกสักพักผมจะกลับมาพร้อมกาแฟ แล้วก็อยากคุยกับคุณด้วยนะครับ คุณกชนันท์” ชายหนุ่มเรียกชื่อเธอชัดเจน ทำให้หญิงสาวต้องย้อนถามเขา ในเมื่อจะมีน้ำใจซื้อกาแฟมาให้แล้วทั้งที
“คุณชื่ออะไรคะ?”
“ชวกร ครับ” ชายหนุ่มยิ้มแย้มตอบเธอ ตั้งใจจะไปซื้อกาแฟมาให้ หวังเพียงว่าเธอจะยอมบอกว่า มาจากไหน ทำอะไร มีญาติติดต่อได้มั๊ย เพื่อเขาจะได้ไม่รู้สึกผิดที่ “ขับรถชนเธอบาดเจ็บ”
******
หลังจากนางสร้อยเงินเดินทางกลับมาถึงบ้าน พบเห็นว่าลูกสาวอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้า นั่งเย็บปักถักร้อยอยู่ภายในห้องขอตัวเอง โดยไม่ออกมาด้านนอกตามที่ตนสั่ง นางสร้อยเงินแวะไปเยี่ยมนายปวรุตม์เสียหน่อยว่ากำลังทำงานอยู่หรือเปล่าพบเห็นว่าชายหนุ่มดังกล่าว กำลังนั่งปอกเปลือกมะพร้าว และกำลังผ่าฟืนตามสั่ง เพื่อเป็นเชื้อเพลิงให้นางสร้อยเงิน ทำอาหารมื้อเย็นและเช้าวันถัดไป“ทำงานอยู่รึ ระวังมีดบาดนะ”“ครับ ผมทำงานใกล้จะเสร็จแล้วครับ” ปวรุตม์ยิ้มแย้มก่อนจะตั้งใจทำงานต่อไป แววตาของนางสร้อยเงินมองชายหนุ่มอย่างไม่ไว้ใจ ระหว่างที่ไม่อยู่นางน่าจะพากลิ่นจันทร์ไปด้วย แต่อยากให้ลูกสาวประหลาดใจ เมื่ออีกไม่กี่วันบิดาของเธอจะกลับมาวันเวลาผ่านไปราวอาทิตย์หนึ่ง ปรากฏร่างของชายหนุ่มสูงวัย เดินทางมาถึงบ้านของนางสร้องเงิน ปวรุตม์กำลังขุดดินปลูกต้นไม้อยู่ข้างบ่อน้ำ เขาถอดเสื้อสวมผ้าถุงสีทึบเพียงชิ้นเดียว ปวรุตม์พบเห็นร่างของชายดูดีมีภูมิฐาน เขารู้สึกกลัวขึ้นมาในทันใด หน้าตาก็คล้ายๆ กับกลิ่นจันทร์“ไอ้หนุ่ม... เอ็งเป็นใครมาจากไหน มาอยู่บ้านข้าวะ?” แววตาที่ดุดันมองมายังชายหนุ่มอย่างไม่ไว้ใจ“สวัสดีครับ ผมชื่อ ปวรุตม์ คุณส
หลังจากนั้นเป็นต้นมา... ปวรุตม์จึงเปลี่ยนเสื้อผ้า ทำตัวกลมกลืนกับคนที่บ้านของกลิ่นจันทร์ ช่วยเหลืองานบ้าน และงานสวน ทำให้สร้อยเงินรู้สึกพอใจว่า ชายแปลกหน้าจากกรุงเทพฯ ซึ่งหาบ้านยายแสงดาวไม่เจอ กลายเป็นคนงานคนสวนไปโดยปริยายชายหนุ่มอาศัยอยู่ในเรือนรับรองเล็กๆ อีกแห่งของเขตบ้าน เพราะนางสร้อยเงินไม่ยอมให้อยู่ในบ้านเดียวกับลูกสาว หวังว่าจะไหว้วานผู้ใหญ่บ้าน ช่วยเขียนจดหมายไปบอกสามีในเมืองว่า ช่วยแวะกลับมาบ้าน เรื่องไอ้หนุ่มกรุงเทพฯ มาอาศัยอยู่ในบ้าน“แม่เดินทางปลอดภัย โชคดีนะจ๊ะ” หลังจากที่แอบลักลอบได้เสียกับปวรุตม์ เธอระมัดระวังตัวมิให้มารดารู้ว่า ลูกเสียสาวไปแล้วกับชายแปลกหน้า แต่เขาทำให้กลิ่นจันทร์มีความสุขยามเมื่อได้สวมกอด และบางสิ่งที่ทำให้เธอหลงใหล“แม่จะรีบไปรีบกลับนะ อยู่ดูแลบ้านดีๆ ล่ะ” นางสร้อยเงิน ใช้แรงงานทาสขับเกวียนไปส่งนางที่บ้านผู้ใหญ่ หวังจะขอให้ผู้มีความรู้เขียนจดหมายส่งไปให้สามีทราบเรื่องที่บ้านทีหลังจากนั้นเมื่อไม่มีใครอยู่เป็นเพื่อน กลิ่นจันทร์จึงเดินไปที่เรือนรับรองของปวรุตม์ เพื่อขอมีอะไรด้วยกันเพราะความคิดถึงมากมาย...ชายหนุ่มกำลังรอเวลานี้ที่จะได้อยู่กับกลิ่นจันท
เรือนกายหญิงสาวยืนพิงหลังต้นไม้ใหญ่ บดบังเรือนร่าของเธอและปวรุตม์ให้พ้นสายตาใครอื่น สองแขนหญิงสาวซึ่งกันเอาไว้ระหว่างอกเขาและกายบางได้ลดลง แขนบางทั้งสองโอบกอดตอบรับชายหนุ่มเบื้องหน้าทำให้ปวรุตม์ดีใจเหลือเกินเมื่อเธอยินยอมเขาแล้ว มือของชายหนุ่มทั้งสองจึงทำงานปลดตะขอกางเกง ทำให้แววตาหญิงสาวตกใจว่า นี่เขาจะแก้ผ้าทำไมกันนะ...“ปวรุตม์ คุณจะทำอะไรรึ?” เธอไม่เข้าใจว่า เขากำลังทำอะไรแปลกๆ ออกมา หลังจากบอกรักเธอ ต้องแก้ผ้าด้วยรึ?“ผมอยากได้คุณ ปลดผ้าถุงสิ” เขาบอกให้เธอทำบ้าง หญิงสาวยังรู้สึกสับสนว่า ทำไม แต่ถ้าลองดูก็อาจจะคลายความสงสัยได้บ้างเพียงช่วงล่างเปล่าเปลือยปวรุตม์ไม่เห็นมีที่ร่วมรักใดได้ คิดเสียว่าคงต้องเลือกท่ายืนนอกสถานที่ในป่าลับเช่นนี้เขาโอบอุ้มเธอเอาไว้ใต้สองแขน ทำให้กายบางหญิงสาวลอยสูง ปลายเท้าไม่แตะพื้นและช่วงต้นขาของเธอต้องกางออก เพราะเขาดึงร่างบางเข้าหาชายหนุ่ม เรือนหน้าหญิงสาวตกใจและหน้าแดงก่ำ เธอรู้สึกอายจริงๆ“อย่าตกใจนะ กลิ่นจันทร์... ผมจะทำให้คุณรู้สึกดีเอง” ชายหนุ่มพยายามกระซิบข้างหู มิให้เธอตกใจดิ้นหลุดจากแขนเขา เธอกลัวจนตัวสั่น ระหว่างถูกดึงเข้าหาร่างชายหนุ่ม ต้นข
หลังจากเขาแนะนำตัวเองกับแม่ของกลิ่นจันทร์ เธอชื่อสร้อยเงิน กำลังทำอาหารกับทาสสองคน สีหน้าของเธอไม่ค่อยไว้ใจที่มีผู้ชายแปลกหน้ามาคุยกับลูกสาว“แม่ อย่าไปว่าเขาสิ เขาคงหลงทางมาถึงบ้าน ถามหายายแสงดาว แม่พอจะรู้จักคุณยายแสงดาวไหม” กลิ่นจันทร์ถามด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม คิดว่าหากช่วยเหลือเขาไปแล้ว เธอกับแม่จะได้บุญ และเขาคงจะไปทำธุระเรื่องครอบครัวได้เสียที“โอ๊ย...อยู่มาตั้งนาน ไม่เคยได้ยินยายชื่อแสงดาวอะไรนั้นเลยนะ พ่อหนุ่มมาจากกรุงเทพฯ ลองไปถามญาติตัวเองใหม่เถอะ... กลับไปได้แล้ว ลูกสาวฉันจะเสียชื่อหมด” นางสร้อยเงินตอบปัด จึงอยากให้ทาสพาเขาออกจากเรือน“ไม่เป็นไรจ้าแม่... ให้ทาสช่วยแม่ทำอาหารเถอะ ฉันจะไปส่งเขาเองจ๊ะ” กลิ่นจันทร์รับอาสาเอง เพราะคิดว่าตนคงเป็นเหตุนำพาเรื่องวุ่นวายเข้าบ้าน คิดเสียว่าแนะนำให้เขาไปคุยกับผู้ใหญ่บ้าน เผื่อจะได้รับความช่วยเหลือที่ดีกว่านี้“ขอโทษนะครับ คุณแม่สร้อยเงิน ผมขอตัวกลับก่อนนะครับ” ปวรุตม์รู้สึกเสียใจที่ไม่ได้พบญาติหรือแม่ ทุกคนหายไปไหนหมด อีกทั้งทุกๆ คนที่นี่ใส่ชุดสมัยร.๕ทั้งนั้น เขามาหลงอยู่บ้านใครกันเนี่ย... ชายหนุ่มแอบคิด******กลิ่นจันทร์พาเขาเดินออกจากบร
รุ่งเช้าท่ามกลางเสียงโวกเวกโวยวาย ผู้คนเดินไปมา สลับวิ่งจนพื้นไม้ภายในบ้านสั่นสะเทือน ปวรุตม์รู้สึกว่าถูกรบกวนจากการนอนแสนสบาย จึงลืมตาปรือตื่น หันมองว่าร่างของแม่ข้างๆ หายไป คงจะสมทบกับญาติ ซึ่งกำลังทำอะไรสักอย่าง“เร็วๆ เข้า!!! อุ้มคุณแม่ขึ้นรถ!!!” เสียงของผู้หลักผู้ใหญ่กำลังวุ่นวาย กับการนำร่างของคุณยายซึ่งเริ่มหายใจช้าลง หลับตาโดยไม่มีการตอบสนอง ครอบครัวญาติฝ่ายแม่ตกใจมากพวกเขาพาร่างของคุณยายขึ้นรถ ออกตัวจากบ้านไปอย่างรวดเร็ว รวมไปถึงญาติทุกๆ ต่างคนกลับไปที่รถของตัวเอง ต่างขับรถแห่ไปทีละคันจนหมดบ้าน...เหลือไว้เพียงเขายังยืนงงอยู่ภายในบ้านคนเดียว“ไปกันหมดเลย” ปวรุตม์ไม่อาจจะพูดถามใคร ในช่วงเวลาอันฉุกละหุกได้เลย ว่าเขาควรทำตัวอย่างไร พ่อแม่เขาค่อนข้างวุ่นวายกับการพาร่างของคุณยายขึ้นรถ และรีบพาไปร.พ. ในขณะที่ญาติๆ คนอื่นๆ ต่างแยกย้ายขับรถตามไป“กลิ่นจันทร์ไปกับเขาด้วยหรือเปล่านะ?” ปวรุตม์ยังคงนึกถึงสาวเมื่อคืนนี้ หากไม่อยู่ในพุ่มไม้มืด เขาอาจจะจำหน้าเธอได้ชัดกว่านี้ ตะวันในเช้านี้ทอแสงนวลแผ่วเบา แต่ท้องเขานี่สิ ร้องออกมาอย่างหิวโหย ไม่รู้ว่าตอนนี้จะเหลืออะไรใหเขากินได้บ้าง******ช
ในความเงียบภายในรถยนต์ ระหว่างเดินทางออกมาตจว. นอกเขตเมือง สู่ชนบทในท้องนา ภาพบรรยากาศของตึกราบ้านช่องหายไปจากสายตาของชายหนุ่มคนหนึ่ง ซึ่งเป็นคนหนุ่มสมัยใหม่ อาศัยอยู่ในเมืองเขาจำใจต้องเดินทางมากับพ่อแม่ เพื่อไปบ้านของยายแสงดาวซึ่งอยู่ตจว. เขาเบื่อมากกับการไปอยู่บ้านนอก โบราณ คนแก่หัวเก่าๆ ซึ่งมันไม่มีอะไรน่าสนใจสำหรับเขาเลยปวรุตม์ (ปะ-วะ-รุด) หยิบมือถือสมาร์ทโฟนขึ้นมาเพื่อแชทกับเพื่อน และนัดกันว่ากลับบ้านจากญาติแล้ว จะไปดื่มเหล้าเที่ยวผับ ควงสาวมาฟันให้สนุกแก้เบื่อเสียเลย เขายิ้มเงียบๆ โดยมิให้พ่อซึ่งกำลังขับรถหันมาดุได้อีกแม่ของเขานั่งอยู่หน้ารถ กำลังชี้ทางบอกไปทางคุณยาย คือคุณแม่ของเธอค่อนข้างมีอายุมากแล้ว พวกเขาทั้งครอบครัวถูกเรียกให้มาบ้านญาติตจว. เพื่อให้มารับทราบว่า คุณยายใกล้จะไปสบายดีแล้ว ญาติคนอื่นๆ เรียกพ่อแม่และปวรุตม์ ให้มาดูใจกันครั้งท้าย ก่อนคุณยายจะเสีย“ทำตัวดีๆ นะแกไอ้รุตม์ เดี๋ยวจะไม่ได้รับมรดกกันพอดี” คุณพ่อของเขา เป็นลูกเขยของญาติข้างแม่ ชายหนุ่มอายุราวยี่สิบสองปี ทำตัวสงบเสงี่ยมเจียมตัวเรียบร้อย อย่างน้อยเขาอยากจะกลับเมือง มากกว่านอนค้างอยู่บ้านนอกตจว.แบบนี้