ด้วยน้ำใจของชวกร ทำให้กชนันท์กลายเป็นแม่บ้าน ทำงานอยู่ภายในบ้าน ตั้งแต่ทำกับข้าว ซักเสื้อผ้า เก็บกวาดทำความสะอาดบ้าน หรือแม้กระทั่ง ขัดล้างห้องน้ำภายในบ้านทุกอย่าง เมื่อถึงเวลาไปถอดเฝือก อาการขาซ้ายหัก หายดีแล้ว เธอกลับมาเดินได้เป็นปกติ...
กชนันท์ทำงานบ้านได้ดีมาก จนทำให้ชวกรรู้สึกดีกับเธอไปด้วย อีกอย่างเขาเห็นเธอเป็นคนหน้าตาดี จิตใจดี ยังไม่อยากเชื่อเลยว่าเธออยากฆ่าตัวตาย แม้การมีเธออยู่ภายในบ้าน จะทำให้ใครต่อใครคิดว่าเขากับเธอเป็นผัวเมียกัน ซึ่งในความจริงนั้นไม่มีเลย... เขาก็เลือกที่จะไม่สนใจ พร้อมให้เธอใช้ชีวิตร่วมกับเขาภายในบ้าน ต่างคนต่างอยู่ในห้องของตัวเอง
วันหนึ่ง... ชวกรกลับมาบ้านเป็นเวลาปกติ ตอนสามทุ่มครึ่งพบว่าเธอแต่งตัวสวย และออกมายืนรอต้อนรับเขากลับมา
“มีอะไรพิเศษหรือเปล่า?” ชวกรรู้สึกแปลกใจที่ภายในบ้านมืดสนิท และยิ่งไปกว่านั้นเธอทำตัวแปลกๆ
“ค่ะ... ผูกตาก่อนนะคะ” กชนันท์ขอร้องเขา พลางดึงกระเป๋าเอกสารออกจากมือเขา และผูกผ้าปิดตา เพื่อพาเขาเดินเข้าบ้างซึ่งปิดไฟอยู่
“ก็ได้ครับ มีอะไรอยากเซอร์ไพร์สผมรึครับ?” ชวกรเริ่มจะยิ้มออก ไม่ได้รู้สึกตื่นเต้นอะไรแบบนี้นานแล้ว ตั้งแต่เลิกกับจิตสุภา
กชนันท์พาเขาเดินเข้าบ้าน พร้อมกับเปิดไฟสว่างทั่วบ้าน เพราะเธอรู้ว่า วันนี้มันเป็นวันเกิดเขา หลังจากแอบเปิดดูข้อมูลเขาจากหลายๆ ที่ รวมไปถึงภาพอัลบั้มเก่าๆ ของเขา แม้อาจจะรู้สึกว่าถือวิสาสะไปบ้าง เธอแค่บังเอิญไปเจอตอนทำความสะอาด ก็อยากจะทำอะไรดีๆ เพื่อเขาบ้าง หลังจากที่เขาช่วยเหลือ เมตตาเธอให้มาอยู่ที่นี่
“เปิดตาได้แล้วค่ะ” กชนันท์บอกเพื่อให้เขาได้พบกับสิ่งที่อยู่เบื้องหน้า
“นี่มัน...” หญิงสาวเริ่มร้องเพลงอวยพรวันเกิดให้แก่เขา เมื่อชวกรได้พบกับอาหารที่น่าทาน โต๊ะอาหารจัดวางอย่างดี พร้อมกับเค้กวันเกิด ซึ่งเขาไม่แน่ใจว่า นี่เธอสั่งมาหรือว่าทำเอง มันสวยงามมาก ใต้แสงเทียนและไฟหลอดแสงจันทร์ วันเกิดเขาปีนี้รู้สึกพิเศษขึ้นมาทันใด...
หลังสิ้นเสียงเพลงจากหญิงสาวร้องจบ เธอตลบมือเร่งเร้าให้เขาเป่าเทียน ชายหนุ่มไม่รู้จะเอื้อนเอ่ยอะไรนอกจากขอบคุณกชนันท์ที่ทำให้เขาได้มีความสุขกลับมาอีกครั้ง แค่มีเธอมาดูแลบ้านให้ เขาก็ซาบซึ้งใจมากอยู่แล้ว
“ทานข้าวเถอะค่ะ ฉันหิวจะแย่อยู่ละ” หญิงสาวบอกตรงไปตรงมา หลังจากหาอะไรทานระหว่างวัน และทำทุกอย่างเพื่อให้วันเกิดของเขาพิเศษกว่าทุกๆ วัน
“ขอบคุณมากๆ นะครับ คุณกชนันท์” ชายหนุ่มโผเข้าสวมกอดหญิงสาว โดยที่เธอไม่ทันตั้งตัวรับ ตั้งแต่เขารับเธอเข้ามาอยู่ในบ้านด้วยกัน เขารักษาระยะห่าง และไม่เคยคิดจะละลาบละล้วงเธอแม้แต่น้อย แต่สำหรับวันนี้เขาสวมกอดเธอแนบแน่นกายจนเธอเริ่มจะขัดเขิน
“เอ่อ... ค่ะ ปล่อยได้แล้วนะคะ” กชนันท์กล่าวอย่างเกรงใจ กอดนานไปมันจะไม่ดี เพราะเธอกลัวตัวเองจะคิดไม่ซื่อกับเขามากกว่านี้ ยิ่งไปกว่านั้นเธอไม่รู้ว่าเขาจะมีแฟนใหม่หรือเปล่า? ในขณะที่เธอมีแต่เขาอยู่ในใจแทนที่ธารินทร์
“ทานข้าวกันเถอะครับ อาหารหอมน่าทานมาก” ชวกรไม่ได้คิดอะไรนอกจากรู้สึกมีความสุขเหลือเกินเมื่อได้รับสิ่งเหล่านี้จากกชนันท์
ชวกรตั้งใจทานอาหารบนโต๊ะ และตัดเค้กทานกับกชนันท์สองคน เขาแค่อยากรู้ว่าเธอได้มันมายังไง หญิงสาวจึงเฉลยว่าเธอทำเองกับมือ เพราะเคยไปเรียนคอร์สทำเบเกอรี่ ชวกรคิดว่าน่าจะลองเปิดร้านเบเกอรี่เพื่อให้เธอทำเป็นอาชีพเลี้ยงตัว หญิงสาวเลยรู้สึกว่าเหมือนโดนเขาผลักออก เพื่อให้เธอเลี้ยงตัวเอง... นั้นคงจะเป็นสิ่งที่เขาคิดว่าเธอน่าจะทำได้
หญิงสาวเงียบลงโดยไม่ตอบ หรือสิ่งที่ทำมา เขาไม่ได้คิดอะไรกับเธอเลย กชนันท์จึงขอตัวไปพักผ่อนเข้านอน ปล่อยให้ชวกรยังคงทานอาหารเพียงลำพัง นี่เขาพูดอะไรผิดหูไปรึ...
“เดี๋ยวก่อน กชนันท์ ผมทำอะไรให้คุณไม่พอใจหรือเปล่า?” หญิงสาวรีบเดินหนีห่างจากเขา เพื่อกลับห้องตัวเอง เขาแค่อยากจะผลักเธอออก เพื่อไปทำงานเลี้ยงชีพตัวเอง บางทีเขาอาจจะมีแฟนใหม่แล้วก็ได้ หญิงสาวคิดเองเป็นตุเป็นตะ
“ฉันจะพักผ่อนแล้วค่ะ ราตรีสวัสดิ์” หญิงสาวกำลังจะปิดประตู ระหว่างที่ชายหนุ่มรีบวิ่งมาค้ำประตูห้องไว้ก่อน เรือนหน้าสองคนมองประสานกันระหว่างช่องเล็กๆ ของประตูห้องนอน
******
สิ่งที่เกิดขึ้นหลังจากที่พวกเขาอยู่ระหว่างกลางประตู คือร่างของชวกรเข้าไปอยู่ในห้องนอของกชนันท พร้อมกับดึงเธอเข้ามาสวมกอดแนบกาย เขายอมรับว่า ตั้งแต่มีเธอเข้ามาอยู่ในบ้านด้วยกัน ถึงปากจะบอกว่าเธอเป็นแค่แม่บ้าน แต่กลับทำให้เขารู้สึกมีความสุข สบายใจ
ร่างบางถูกชายหนุ่มสวมกอดแน่น พร้อมกับริมฝีปากหนาบรรจงจุมพิตเธออย่างกระหาย หลังจากแอบลอบมองมาหลายครั้ง และวันนี้มันถึงคราวเขาสมหวัง กอดเธอในอ้อมกอด วันเกิดเขาค่ำคืนนี้...
เรือนกายเปลือยเปล่าสองกายสอดประสาน ร่วมรักอยู่บนเตียงหนานุ่ม ซึ่งกำลังสั่นสะเทือนจากแรงกระแทกน้ำหักจากเรือนกายชาย หญิงสาวลุกกึ่งนั่งบนเตียง สวมกอดชายหนุ่มเบื้องหน้า ปล่อยให้เขาได้ลุกล้ำส่วนสำคัญด้วยองคชาติอวบอิ่มเข้าไปภายในกาย สองแขนบอบบางกอดเรือนแกร่งไว้ในอ้อมแขน พร้อมรับแรงกระแทกจากเขาตลอดเวลา
ชวกรแทรกกายผ่านแก่นกลางหญิงสาว ด้วยองคชาติตนซึ่งกำลังสอดใส่ภายในช่องสวาทเธอ เปียกฉ่ำไหลผ่านสร้างอารมณ์ให้เขาลุ่มหลง กอดรัดบรรจงจุมพิตด้วยความรักก่อตัว ตอนไหนก็ไม่รู้... สิ่งที่เขารู้ตอนนี้เพียงอย่างเดียว คืออยู่ใกล้เธอให้มากที่สุด...
หญิงสาวครวญครางอย่างอารมณ์สุข เมื่อความเสียวซ่านผ่านเข้ามาในกาย ไม่นึกเลยว่า เธอกำลังสวมกอดกับชวกร และเก็บธารินทร์เอาไว้ในใจ เขาตายไปนานแล้ว และเธอยังคงรำลึกถึงเสมอ
แรงสั่นสะเทือนจากกายชายยังคงกระแทกซ้ำเข้าไปภายในให้สุดโคน ริมฝีปากหญิงสาวสั่นระริกเมื่อมันเขย่าอารมณ์เธอแทบกระเจิดกระเจิง กายบางเริ่มเอนลงนอนราบ ปล่อยให้ชวกรอยู่เบื้องบนเพื่อลงน้ำหนักให้มากขึ้นไปอีก
ความเร็วเพิ่มขึ้น แรงรักโหมกระหน่ำตอกย้ำภายในกายซ้ำๆ หลายๆ รอบยิ่งทำให้หญิงสาวเคลิบเคลิ้ม หลงตัวถึงสามัญสำนึกไปเลยว่า เธอเป็นเพียงแค่แม่บ้าน แต่ตอนนี้เธออยู่ใต้ร่างเจ้าของบ้านด้วยกายเปล่าเปลือย รู้สึกดีเพียงใด จากแรงรักซึ่งเขากำลังกระหน่ำแนบชิดในร่างเธอ
ชวกรรู้สึกดีมากแค่ไหน มันเป็นเรื่องที่ไม่น่าเกิดขึ้นเสียด้วยซ้ำ ตั้งแต่เขาขับรถชนเธอ พยายามจะรับผิดชอบ เพื่อกลับมาจัดการกับชีวิตตัวเอง หลังหย่าในวันนั้น ทำให้เขาได้พบกับกชนันท์ที่สวยงาม และคืนนี้... เธอตกเป็นของเขา...
******
รุ่งเช้าหลังฝนตกกระหน่ำ กิจกรรมเมื่อคืนมันไม่ใช่ความฝัน มันเป็นความจริงที่เกิดขึ้นกับกชนันท์ เธอปรือตาตื่นพบตัวเองเปล่าเปลือยเหมือนกับชวกร เขานอนกรนหายใจหลับตาพริ้มน่าดูแล หญิงสาวไม่รู้ตัวเลยว่า เผลอตัวให้เขาสวมกอดแบบนี้ได้ยังไง
แต่อารมณ์มันกลับทำให้เธอรับจุมพิตโหยหา และตอบรับอารมณ์จากเขาซึ่งมอบมาให้ มันเป็นอารมณ์ร้อนรุ่มเกิดขึ้นภายใน และเธอเองก็ต้องการมันเช่นกัน หลังจากสูญเสียธารินทร์ไป
เธอจะรู้สึกผิดได้ยังไง ในเมื่อเขาตายไปนานแล้ว กชนันท์นอนครุ่นคิดอยู่บนเตียง นึกหลายๆ เรื่องว่าควรจะทำอะไรก่อนหลัง ตอนนี้กลับฟังเสียงชวกรนอนกรนเกือบขำขัน
สักพักที่เขาตื่นขึ้นมา มองเห็นกชนันท์อยู่เคียงข้าง แขนชายหนุ่มดึงกายสาวเข้าสวมกอด ทักทายยามเช้า
“อรุณสวัสดิ์ครับ นางฟ้าแสนสวยของผม”
“ค่า... หิวหรือยังคะ?”
“หิวแล้วครับ และผมอยากจะกินคุณอีกเหมือนเมื่อคืน” ชวกรรู้สึกตื่นตัวแต่เช้า เหมือนกับทุกๆ เช้าที่ผ่านมา ยอมรับว่าการมีเธออยู่ภายในบ้าน ทำให้เขาหายเครียดและหายเศร้าไปได้มาก ยิ่งไปกว่านั้นเรื่องเมื่อคืนมันไม่ใช่ความฝัน
กชนันท์มิได้ปฏิเสธเขาเลยว่า สิ่งที่เขาขอ มันเป็นสิ่งที่เธอต้องการเช่นกัน เรือนกายสาวถูกพลิกคว่ำหน้าลง เพื่อแอ่นสะโพกกลมสูง เป็นครั้งแรกที่ชวกรได้พบกับเรือนหลังมีส่วนเว้าส่วนโค้งสวยงามในยามเช้า เขาเกิดอารมณ์อยากจะบุกรุกพื้นที่สงวนของเธออย่างแรงกล้า
ความอวบอิ่มขององคชาติกำลังชนกับปากทางเข้า และแทรกเข้าไปในช่องสวาทซึ่งกำลังเปียกฉ่ำอย่างรวดเร็ว หญิงสาวร้องครวญครางแผ่วเบาในลำคอ ยิ่งเขาดันองคชาติอวบอิ่มเข้ามา เธอเริ่มเสียวซ่านจนตัวสั่น รองรับแรงกระแทกจากเขา
องคชาติใหญ่ถูกดันแรงๆ นับครั้งไม่ถ้วน หญิงสาวยิ่งเสียวกระสันซ่านตัวชา ภายในช่องสวาทบีบรัดความเป็นชาย ยิ่งเร่งความเร็วโหมกระหน่ำเข้าภายใน ชวกรหยุดตัวเองไม่ได้ เขาต้องการเธอมากยิ่งขึ้น
ออกแรงเร่งความเร็ว เน้นแรงกระแทกหนักหน่วงเข้าไปอีก ทำให้กชนันท์เสียวตัวสั่น ยิ่งเขาออกแรงเพิ่มขึ้นเท่าไหร่ แร่งสั่นสะเทือนทำให้เตียงสั่นสะท้านกระแทกเข้ากับกำแพง ส่งเสียงสนั่นเป็นจังหวะในกิจกรรมยามเช้า
“อ๊า...!” กชนันท์สะดุ้งเผลอร้องเสียงแรง กระตุ้นอารมณ์ชวกรฟุ้งซ่านออกแรงกระแทกแรงสุดตัว ดึงสะโพกกลมหญิงสาวเข้าหากายแกร่งเบื้องหลัง พร้อมกับพวยพุ่งความร้อนจากน้ำอุ่นเหนียวข้น หลั่งอยู่ภายในกายสาว
กชนันท์รับรู้ได้ว่าเขาเสร็จสม พอๆ กับอารมณ์ของเธอถูกกระตุ้นจนถึงจุดสุดยอด ทะยานสูงสุด ภายในกายร้อนรุ่มและเสียวซ่านเมื่อเขาหลั่งน้ำกามเข้ามาภายในตัวเธอ... ชวกรหอบหายใจ ค่อยๆ ดึงองคชาติออกมา เพราะเขามีความสุขสมใจเมื่อได้ฟาดเธอในเช้าวันนี้
“เรา... แต่งงานกันเถอะ” ชวกรขอพูดกับกชนันท์ตรงนี้ เพราะสิ่งดีๆ ที่ผ่านมา มันทำให้เขาตัดสินใจว่า ขาดเธอไม่ได้
“ชวกร...” กชนันท์แปลกใจเมื่อเขาพูดโพลงมาแบบนั้น โดยที่ไม่ได้คาดคิดว่าสิ่งที่เขาทำกับเธอ มันเป็นความรัก หรือเป็นเพียงแค่อารมณ์ชั่ววูบ แต่เธอยอมรับว่า... มันเป็นอารมณ์ชัววูบสำหรับเธอมากกว่า
“เรื่องเปิดร้านเบเกอรี่ ผมจะทำครับ และมาช่วยกันทำขนมขายด้วยกันนะครับ” ชวกรตัดสินใจจะใช้เวลาทั้งหมด เพื่อทำมาหากินร่วมกับกชนันท์ เขาไม่อยากอยู่ห่างจากเธออีกแล้ว ไม่อยากปล่อยให้ละสายตา เขากลัวเธอจะคิดสั้น ฆ่าตัวตายอีก
“ดีใจจัง ที่ได้ยินคุณพูดแบบนี้... ฉันตกลงค่ะ” กชนันท์ดีใจสุดใจ ลุกขึ้นจากเตียงนอน สวมกอดรอบคอเขา เพื่อจูบตอบรับตกลง... เรือนกายเปล่าเปลือยกอดรัดแน่นจากความรักทั้งหมด มิใช่อารมณ์สวาทขณะหนึ่ง...
และมันจะไม่ใช่ความฝันปลอบใจอีกต่อไป... มันคือความจริงที่เกิดขึ้น จากความมานะของทั้งสองคน
[จบตอนสั้น ไออุ่นแห่งรัก]
******
หลังจากนางสร้อยเงินเดินทางกลับมาถึงบ้าน พบเห็นว่าลูกสาวอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้า นั่งเย็บปักถักร้อยอยู่ภายในห้องขอตัวเอง โดยไม่ออกมาด้านนอกตามที่ตนสั่ง นางสร้อยเงินแวะไปเยี่ยมนายปวรุตม์เสียหน่อยว่ากำลังทำงานอยู่หรือเปล่าพบเห็นว่าชายหนุ่มดังกล่าว กำลังนั่งปอกเปลือกมะพร้าว และกำลังผ่าฟืนตามสั่ง เพื่อเป็นเชื้อเพลิงให้นางสร้อยเงิน ทำอาหารมื้อเย็นและเช้าวันถัดไป“ทำงานอยู่รึ ระวังมีดบาดนะ”“ครับ ผมทำงานใกล้จะเสร็จแล้วครับ” ปวรุตม์ยิ้มแย้มก่อนจะตั้งใจทำงานต่อไป แววตาของนางสร้อยเงินมองชายหนุ่มอย่างไม่ไว้ใจ ระหว่างที่ไม่อยู่นางน่าจะพากลิ่นจันทร์ไปด้วย แต่อยากให้ลูกสาวประหลาดใจ เมื่ออีกไม่กี่วันบิดาของเธอจะกลับมาวันเวลาผ่านไปราวอาทิตย์หนึ่ง ปรากฏร่างของชายหนุ่มสูงวัย เดินทางมาถึงบ้านของนางสร้องเงิน ปวรุตม์กำลังขุดดินปลูกต้นไม้อยู่ข้างบ่อน้ำ เขาถอดเสื้อสวมผ้าถุงสีทึบเพียงชิ้นเดียว ปวรุตม์พบเห็นร่างของชายดูดีมีภูมิฐาน เขารู้สึกกลัวขึ้นมาในทันใด หน้าตาก็คล้ายๆ กับกลิ่นจันทร์“ไอ้หนุ่ม... เอ็งเป็นใครมาจากไหน มาอยู่บ้านข้าวะ?” แววตาที่ดุดันมองมายังชายหนุ่มอย่างไม่ไว้ใจ“สวัสดีครับ ผมชื่อ ปวรุตม์ คุณส
หลังจากนั้นเป็นต้นมา... ปวรุตม์จึงเปลี่ยนเสื้อผ้า ทำตัวกลมกลืนกับคนที่บ้านของกลิ่นจันทร์ ช่วยเหลืองานบ้าน และงานสวน ทำให้สร้อยเงินรู้สึกพอใจว่า ชายแปลกหน้าจากกรุงเทพฯ ซึ่งหาบ้านยายแสงดาวไม่เจอ กลายเป็นคนงานคนสวนไปโดยปริยายชายหนุ่มอาศัยอยู่ในเรือนรับรองเล็กๆ อีกแห่งของเขตบ้าน เพราะนางสร้อยเงินไม่ยอมให้อยู่ในบ้านเดียวกับลูกสาว หวังว่าจะไหว้วานผู้ใหญ่บ้าน ช่วยเขียนจดหมายไปบอกสามีในเมืองว่า ช่วยแวะกลับมาบ้าน เรื่องไอ้หนุ่มกรุงเทพฯ มาอาศัยอยู่ในบ้าน“แม่เดินทางปลอดภัย โชคดีนะจ๊ะ” หลังจากที่แอบลักลอบได้เสียกับปวรุตม์ เธอระมัดระวังตัวมิให้มารดารู้ว่า ลูกเสียสาวไปแล้วกับชายแปลกหน้า แต่เขาทำให้กลิ่นจันทร์มีความสุขยามเมื่อได้สวมกอด และบางสิ่งที่ทำให้เธอหลงใหล“แม่จะรีบไปรีบกลับนะ อยู่ดูแลบ้านดีๆ ล่ะ” นางสร้อยเงิน ใช้แรงงานทาสขับเกวียนไปส่งนางที่บ้านผู้ใหญ่ หวังจะขอให้ผู้มีความรู้เขียนจดหมายส่งไปให้สามีทราบเรื่องที่บ้านทีหลังจากนั้นเมื่อไม่มีใครอยู่เป็นเพื่อน กลิ่นจันทร์จึงเดินไปที่เรือนรับรองของปวรุตม์ เพื่อขอมีอะไรด้วยกันเพราะความคิดถึงมากมาย...ชายหนุ่มกำลังรอเวลานี้ที่จะได้อยู่กับกลิ่นจันท
เรือนกายหญิงสาวยืนพิงหลังต้นไม้ใหญ่ บดบังเรือนร่าของเธอและปวรุตม์ให้พ้นสายตาใครอื่น สองแขนหญิงสาวซึ่งกันเอาไว้ระหว่างอกเขาและกายบางได้ลดลง แขนบางทั้งสองโอบกอดตอบรับชายหนุ่มเบื้องหน้าทำให้ปวรุตม์ดีใจเหลือเกินเมื่อเธอยินยอมเขาแล้ว มือของชายหนุ่มทั้งสองจึงทำงานปลดตะขอกางเกง ทำให้แววตาหญิงสาวตกใจว่า นี่เขาจะแก้ผ้าทำไมกันนะ...“ปวรุตม์ คุณจะทำอะไรรึ?” เธอไม่เข้าใจว่า เขากำลังทำอะไรแปลกๆ ออกมา หลังจากบอกรักเธอ ต้องแก้ผ้าด้วยรึ?“ผมอยากได้คุณ ปลดผ้าถุงสิ” เขาบอกให้เธอทำบ้าง หญิงสาวยังรู้สึกสับสนว่า ทำไม แต่ถ้าลองดูก็อาจจะคลายความสงสัยได้บ้างเพียงช่วงล่างเปล่าเปลือยปวรุตม์ไม่เห็นมีที่ร่วมรักใดได้ คิดเสียว่าคงต้องเลือกท่ายืนนอกสถานที่ในป่าลับเช่นนี้เขาโอบอุ้มเธอเอาไว้ใต้สองแขน ทำให้กายบางหญิงสาวลอยสูง ปลายเท้าไม่แตะพื้นและช่วงต้นขาของเธอต้องกางออก เพราะเขาดึงร่างบางเข้าหาชายหนุ่ม เรือนหน้าหญิงสาวตกใจและหน้าแดงก่ำ เธอรู้สึกอายจริงๆ“อย่าตกใจนะ กลิ่นจันทร์... ผมจะทำให้คุณรู้สึกดีเอง” ชายหนุ่มพยายามกระซิบข้างหู มิให้เธอตกใจดิ้นหลุดจากแขนเขา เธอกลัวจนตัวสั่น ระหว่างถูกดึงเข้าหาร่างชายหนุ่ม ต้นข
หลังจากเขาแนะนำตัวเองกับแม่ของกลิ่นจันทร์ เธอชื่อสร้อยเงิน กำลังทำอาหารกับทาสสองคน สีหน้าของเธอไม่ค่อยไว้ใจที่มีผู้ชายแปลกหน้ามาคุยกับลูกสาว“แม่ อย่าไปว่าเขาสิ เขาคงหลงทางมาถึงบ้าน ถามหายายแสงดาว แม่พอจะรู้จักคุณยายแสงดาวไหม” กลิ่นจันทร์ถามด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม คิดว่าหากช่วยเหลือเขาไปแล้ว เธอกับแม่จะได้บุญ และเขาคงจะไปทำธุระเรื่องครอบครัวได้เสียที“โอ๊ย...อยู่มาตั้งนาน ไม่เคยได้ยินยายชื่อแสงดาวอะไรนั้นเลยนะ พ่อหนุ่มมาจากกรุงเทพฯ ลองไปถามญาติตัวเองใหม่เถอะ... กลับไปได้แล้ว ลูกสาวฉันจะเสียชื่อหมด” นางสร้อยเงินตอบปัด จึงอยากให้ทาสพาเขาออกจากเรือน“ไม่เป็นไรจ้าแม่... ให้ทาสช่วยแม่ทำอาหารเถอะ ฉันจะไปส่งเขาเองจ๊ะ” กลิ่นจันทร์รับอาสาเอง เพราะคิดว่าตนคงเป็นเหตุนำพาเรื่องวุ่นวายเข้าบ้าน คิดเสียว่าแนะนำให้เขาไปคุยกับผู้ใหญ่บ้าน เผื่อจะได้รับความช่วยเหลือที่ดีกว่านี้“ขอโทษนะครับ คุณแม่สร้อยเงิน ผมขอตัวกลับก่อนนะครับ” ปวรุตม์รู้สึกเสียใจที่ไม่ได้พบญาติหรือแม่ ทุกคนหายไปไหนหมด อีกทั้งทุกๆ คนที่นี่ใส่ชุดสมัยร.๕ทั้งนั้น เขามาหลงอยู่บ้านใครกันเนี่ย... ชายหนุ่มแอบคิด******กลิ่นจันทร์พาเขาเดินออกจากบร
รุ่งเช้าท่ามกลางเสียงโวกเวกโวยวาย ผู้คนเดินไปมา สลับวิ่งจนพื้นไม้ภายในบ้านสั่นสะเทือน ปวรุตม์รู้สึกว่าถูกรบกวนจากการนอนแสนสบาย จึงลืมตาปรือตื่น หันมองว่าร่างของแม่ข้างๆ หายไป คงจะสมทบกับญาติ ซึ่งกำลังทำอะไรสักอย่าง“เร็วๆ เข้า!!! อุ้มคุณแม่ขึ้นรถ!!!” เสียงของผู้หลักผู้ใหญ่กำลังวุ่นวาย กับการนำร่างของคุณยายซึ่งเริ่มหายใจช้าลง หลับตาโดยไม่มีการตอบสนอง ครอบครัวญาติฝ่ายแม่ตกใจมากพวกเขาพาร่างของคุณยายขึ้นรถ ออกตัวจากบ้านไปอย่างรวดเร็ว รวมไปถึงญาติทุกๆ ต่างคนกลับไปที่รถของตัวเอง ต่างขับรถแห่ไปทีละคันจนหมดบ้าน...เหลือไว้เพียงเขายังยืนงงอยู่ภายในบ้านคนเดียว“ไปกันหมดเลย” ปวรุตม์ไม่อาจจะพูดถามใคร ในช่วงเวลาอันฉุกละหุกได้เลย ว่าเขาควรทำตัวอย่างไร พ่อแม่เขาค่อนข้างวุ่นวายกับการพาร่างของคุณยายขึ้นรถ และรีบพาไปร.พ. ในขณะที่ญาติๆ คนอื่นๆ ต่างแยกย้ายขับรถตามไป“กลิ่นจันทร์ไปกับเขาด้วยหรือเปล่านะ?” ปวรุตม์ยังคงนึกถึงสาวเมื่อคืนนี้ หากไม่อยู่ในพุ่มไม้มืด เขาอาจจะจำหน้าเธอได้ชัดกว่านี้ ตะวันในเช้านี้ทอแสงนวลแผ่วเบา แต่ท้องเขานี่สิ ร้องออกมาอย่างหิวโหย ไม่รู้ว่าตอนนี้จะเหลืออะไรใหเขากินได้บ้าง******ช
ในความเงียบภายในรถยนต์ ระหว่างเดินทางออกมาตจว. นอกเขตเมือง สู่ชนบทในท้องนา ภาพบรรยากาศของตึกราบ้านช่องหายไปจากสายตาของชายหนุ่มคนหนึ่ง ซึ่งเป็นคนหนุ่มสมัยใหม่ อาศัยอยู่ในเมืองเขาจำใจต้องเดินทางมากับพ่อแม่ เพื่อไปบ้านของยายแสงดาวซึ่งอยู่ตจว. เขาเบื่อมากกับการไปอยู่บ้านนอก โบราณ คนแก่หัวเก่าๆ ซึ่งมันไม่มีอะไรน่าสนใจสำหรับเขาเลยปวรุตม์ (ปะ-วะ-รุด) หยิบมือถือสมาร์ทโฟนขึ้นมาเพื่อแชทกับเพื่อน และนัดกันว่ากลับบ้านจากญาติแล้ว จะไปดื่มเหล้าเที่ยวผับ ควงสาวมาฟันให้สนุกแก้เบื่อเสียเลย เขายิ้มเงียบๆ โดยมิให้พ่อซึ่งกำลังขับรถหันมาดุได้อีกแม่ของเขานั่งอยู่หน้ารถ กำลังชี้ทางบอกไปทางคุณยาย คือคุณแม่ของเธอค่อนข้างมีอายุมากแล้ว พวกเขาทั้งครอบครัวถูกเรียกให้มาบ้านญาติตจว. เพื่อให้มารับทราบว่า คุณยายใกล้จะไปสบายดีแล้ว ญาติคนอื่นๆ เรียกพ่อแม่และปวรุตม์ ให้มาดูใจกันครั้งท้าย ก่อนคุณยายจะเสีย“ทำตัวดีๆ นะแกไอ้รุตม์ เดี๋ยวจะไม่ได้รับมรดกกันพอดี” คุณพ่อของเขา เป็นลูกเขยของญาติข้างแม่ ชายหนุ่มอายุราวยี่สิบสองปี ทำตัวสงบเสงี่ยมเจียมตัวเรียบร้อย อย่างน้อยเขาอยากจะกลับเมือง มากกว่านอนค้างอยู่บ้านนอกตจว.แบบนี้