แชร์

ตอนที่ 05 คนโรคจิต (2)

ผู้เขียน: พลอยแพรวา
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2025-06-06 16:48:51

คำตอบของฉันทำให้เขาผ่อนแรงที่บีบข้อมือของฉันลง แต่ก็ยังไม่ปล่อยตัวฉันที่พิงอยู่กับรถของเขา

“ออ ในสายตาเธอฉันก็เป็นไอ้โรคจิตสินะ” เขาปล่อยมือจากฉันแล้วก็หัวเราะเบาๆ

คำพูดที่เหมือนกับตัดพ้อนั้นยิ่งทำให้ฉันรู้สึกผิดมากกว่าเดิม ลำคอแห้งผากไปหมดจนอยากขอน้ำสักแก้วแถมยังคิดอะไรไม่ออก

“ขอ…”

“หรือว่าเป็นตัวตลกที่เป็นโรคประหลาด” เขาพูดแล้วหัวเราะในลำคอเบาๆ

“ไม่ใช่แบบนั้น…”

“คิดว่าฉันอยากได้เธอนักหรือไง ต่อจากนี้ไปถ้าฉันจะเอาเธอก็เพื่อความสนุกกับระบายอารมณ์แค่นั้นแหละ”

“…”

“ระวังตัวไว้แล้วกัน” เขาพูดขณะที่ยังยิ้มแต่ดูยังไงก็ไม่เหมือนคนพูดเล่นเลยสักนิดเดียว ประโยคนั้นมันคือคำขู่ชัดๆ

“อย่ามาขู่นะ แค่รู้มันผิดตรงไหน ไม่ได้ไปพูดให้ใครฟัง”

เขาหนีไปขึ้นรถและไม่สนใจฉันอีกต่อไป อารมณ์เปลี่ยนจากหน้ามือเป็นหลังมือในชั่วพริบตาเดียวเลย เพียงแค่คำพูดของฉันที่คงจะไปสะกิดโดนจุดอ่อนไหวในจิตใจของเขา

รถของเขาเคลื่อนออกไปแล้วปล่อยให้ฉันยืนรู้สึกแย่กับตัวเองอยู่ตรงนี้คนเดียว เป็นอีกครั้งที่ฉันคิดว่าตัวเองทำพลาดและกำลังเสียดายกับเรื่องของเขาทั้งที่เป็นแบบนี้มันก็ดีอยู่แล้ว แต่ทำไมมันถึงไม่รู้สึกดีขึ้นเลยสักนิด

ยิ่งไปกว่านั้นมันกลับรู้สึกแย่กว่าเดิมเป็นร้อยเท่า

หลายวันต่อมา

ฉันบอกใครไม่ได้แม้แต่เพื่อนสนิทอย่างพวกมันเพราะมันไม่ใช่เรื่องที่ควรจะเล่าลงรายละเอียด ทำได้แค่แกล้งทำเป็นไม่มีอะไร ถึงแม้ว่ายัยจินจะรู้เรื่องที่ฉันรู้จักกับพี่ไมเนอร์แต่ฉันก็ไม่ได้เล่าเรื่องหลังจากนั้นที่เราทะเลาะกันให้มันฟังฉันบอกใครไม่ได้แม้แต่เพื่อนสนิทอย่างพวกมันเพราะมันไม่ใช่เรื่องที่ควรจะเล่า

“แกยัยน้ำค้างคุยกับผู้ชาย” ยัยจินสะกิดแขนฉันให้มองเข้าไปในห้องเรียน

หลังจากที่พวกเรารอน้ำค้างอยู่นานตรงใต้ตึกมารู้อีกทียัยน้ำค้างดันอยู่ในห้องรอก่อนแล้วทั้งที่ไม่ใช่นิสัยของมัน ปกติพวกเราจะอยู่รอกันจนครบแก๊งก่อนถึงขึ้นมาห้องเรียน

“เขามาจีบแกเหรอ” ฉันถามมันด้วยความสนอกสนใจ เพราะเห็นรุ่นพี่ต่างคณะคนหนึ่งเพิ่งลุกจากเก้าอี้ตัวข้างๆ เพื่อนของตัวเอง

“พูดบ้าอะไร เขามาถามเรื่องงาน”

“หล่ออะ เป็นรุ่นพี่ปีสองใช่ไหม” ฉันแกล้งกะพริบตาถี่ๆ แล้วมองเพื่อนตัวเองสลับกับรุ่นพี่คนนั้น บอกตามตรงมันก็ไม่ใช่นิสัยของฉันหรอกแต่อยากคุยเล่นกับพวกมันเพื่อความสนุกเท่านั้น

“อยู่นิติศาสตร์ไหม เคยเห็นแวบ ๆ ในเพจ” จินพูดเสริม

“ใช่ ๆ ฉันแอบมองมาตั้งแต่วันแรกแล้ว” ฉันแกล้งพูดแล้วยิ้มเขิน

“ก็ได้แค่มองแหละย่ะ ยัยน้ำค้างได้คุยเป็นชั่วโมง”

“เว่อร์ เพิ่งมานั่งคุยไม่ถึงสิบนาที” ฉันปฏิเสธข้อกล่าวหานั้นเสียงแข็ง

“พี่เขาชื่ออะไรเหรอ” จินเอียงหน้าไปถามยัยน้ำค้าง คล้ายว่าอยากแกล้งเพื่อนมากกว่าอยากรู้เรื่องผู้ชายเสียอีก

“พี่ปั้น”

“จ้า คุยกันแป๊บเดียวแต่รู้ชื่อเขาแล้ว” ฉันแหย่มันแล้วหัวเราะชอบใจจนยัยน้ำค้างเริ่มโวยวายเพราะถูกแกล้ง แบบนั้นยิ่งทำให้พวกเราอยากแกล้งมันมากกว่าเดิม

“ก็เขาแนะนำตัวเองไหม หา!!”

“แก! พี่ฟิวส์!” ยัยจินทำสีหน้าตกใจพร้อมกับสายตาของมันที่มองไปยังประตูบานใหญ่ของห้องเรียน

“มาทำอะไรวะ กรี๊ด! หล่อฉิบหายเลย” ฉันหวีดขึ้นมาเบาๆ จนแทบจะเป็นเสียงกระซิบ เพราะตรงนั้นมีรุ่นพี่ปีสี่คนหนึ่งที่ฉันคุ้นหน้าเป็นอย่างดีกำลังยืนมองมาทางพวกเรานั่งอยู่ อาจจะไม่ใช่เราแต่เป็นคนอื่น แต่รัศมีสายตามันตรงมาทางนี้แน่ หรือจะเป็น…

อยู่ๆ ก็ฉุกคิดขึ้นมาได้ถึงคืนวันที่เกิดเหตุการณ์วุ่นวายของยัยน้ำค้างฉันเมามากแต่ก็รู้สึกคลับคล้ายคลับคลาอะไรบางอย่าง ไม่ค่อยมั่นใจว่าจะใช่อย่างที่คิดหรือเปล่า

เหลือบตามองเพื่อนสนิทอีกสองคนก่อนจะกลับไปมองที่พี่ฟิวส์ ผู้ชายที่ฉันเคยแอบปลื้มตั้งแต่เห็นเขาช่วงที่เข้ามาเรียนใหม่ๆ ดีกรีเป็นถึงนายกสโมสรนักศึกษาที่สาวๆ หลงรักกันค่อนมหาวิทยาลัย เขามากับรุ่นพี่อีกคนที่ฉันเคยเห็นหน้าแต่ไม่รู้จักชื่อ

“มาทำอะไรวะระริน” ยัยจินถามด้วยความอยากรู้

ไม่ต่างจากฉันนักหรอกเพราะอยากรู้เหมือนกันว่าจะใช่อย่างที่คิดหรือเปล่าเพราะสายตาของหนุ่มรุ่นพี่ดูไม่เป็นมิตรเอาเสียเลย ถึงแม้ว่าฉันจะไม่เคยทำความรู้จักกับพี่ฟิวส์แต่ก็พอจะเดาออกว่าตอนนี้เขาดูไม่พอใจกับอะไรบางอย่าง

“เขามองใคร เราเหรอ” ยัยจินพูดพึมพำ

“ใช่เหรอแก แต่ก็มองทางนี้แหละ” ฉันเอ่ยแล้วก็เหลือบมองยัยน้ำค้างที่ทำหน้ามึนๆ เหลียวซ้ายแลขวาอยู่

มองยัยน้ำค้างแน่!

“ไปแล้ว” เสียงของยัยจินทำให้เราทั้งคู่ต้องหันกลับมามองทางประตูที่ก่อนหน้านี้มีนายกสโมสรนักศึกษายืนอยู่แต่ตอนนี้เขาหายไปแล้ว

“สรุปคือใคร” ยัยน้ำค้างยังคงทำหน้ามึนกับการปรากฏตัวของพี่ฟิวส์ บวกกับความไม่รู้อะไรเลยของมัน

“น้ำค้างแกไปอยู่นรกขุมไหนมาเนี่ยถึงไม่รู้จักพี่ฟิวส์” ฉันถามมันทั้งที่รู้นิสัยเพื่อนของตัวเองอยู่แล้ว มันไม่ค่อยจะมีเวลาสนใจเรื่องไหนนักหรอก ไม่เหมือนอย่างฉันกับยัยจินที่มีเวลาว่างพูดถึงชาวบ้านตลอด

“อย่าไปว่ามัน ชีวิตมันว่างไถจอดูผู้ชายแบบแกไหม” ยัยจินหันมาว่าฉันก่อนจะอธิบายให้ยัยน้ำค้างฟัง

“พี่ฟิวส์นายกสโมฯ ไงเพื่อน แกไม่เคยเห็นเลยเหรอ”

“อ๋อ ก็ว่าคุ้น ๆ”

“ชาตินี้แกจะมีผัวไหมเนี่ย”

“ไม่ต้องไปห่วงมันหรอกนะเพื่อน เพราะถึงมันไม่รู้จักผู้ชายแต่ผู้ชายรู้จักมันค่ะ มันสวย” ยัยจินหันมาบอกฉันพร้อมกับสีหน้าเหนื่อยหน่ายของมัน

จริงอย่างที่มันว่า ถึงยัยน้ำค้างจะไม่ค่อยมีเวลาทำกิจกรรมต่างๆ ในคณะอย่างพวกเราแต่พวกรุ่นพี่รุ่นเพื่อนก็รู้จักมันกันหมดเพราะน้ำค้างเป็นคนน่ารักมากๆ ฉันถึงคิดมาตลอดว่าถ้ามันลงประกวดแทนฉันมันอาจจะได้ตำแหน่งนั้นไปก็ได้

“เออเนอะ ฉันก็ลืมคิดไป” ฉันแกล้งทำหน้าเบื่อใส่เพื่อนที่นั่งทำตาแบ๋วอยู่ข้างๆ แต่จริงๆ ไม่ได้คิดเบื่ออะไรมันเลยสักนิด

สิ่งที่ฉันคิดอยู่ตอนนี้คือ ถ้าพี่ฟิวส์เป็นคู่กรณีของยัยน้ำค้างจริง คงซวยแน่เพราะหนีไปทางไหนก็คงไม่รอด

พี่ไมเนอร์กับพี่ฟิวส์เป็นเพื่อนกัน กลุ่มของพี่ฟิวส์ที่เป็นพวกกรรมการสโมสรนักศึกษานั้นมีแต่คนหน้าตาดีทั้งนั้น ฉันได้เจอบ่อยก็ตอนที่อยู่ในช่วงประกวดเพราะต้องไปติดต่อเรื่องงานกิจกรรมที่พวกสโมสรนักศึกษาเป็นคนกำหนดกับพวกรุ่นพี่บ๊วย

แล้วก็คำบอกเล่าจากพี่ไมเนอร์ช่วงที่เราคุยกัน เขาเองก็พูดถึงพี่ฟิวส์บ่อยๆ นั่นหมายความว่าพี่ฟิวส์รู้แล้วว่าเป็นน้ำค้างขณะที่เพื่อนฉันมันยังไม่รู้ตัวเลยว่าผู้ชายอีกคนนั้นเป็นใคร

ภาวนาขอให้เป็นคนอื่นที่ไม่ใช่พี่ฟิวส์แล้วกัน

------------------------

ถ้าใครเคยอ่านเรื่องแพ้รักนายรุ่นพี่ ฉากนี้จะอยู่ในเรื่องด้วยค่า 

แต่ในเรื่องนี้จะเป็นมุมมองของระรินน้า 

กดหัวใจ กดเข้าชั้น คอมเม้นกันด้วยน้าา

อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทล่าสุด

  • เสพติดรักนายรุ่นพี่ (เซต รุ่นพี่)   ตอนที่ 23 ตอนจบ

    ตอนที่ 23พี่ไมเนอร์เดินมาส่งฉันจนถึงโต๊ะ ระหว่างทางเดินก็มีคนมองตลอดไม่รู้ว่ามองอะไรกัน บางคนที่รู้จักพี่ไมเนอร์ก็แซวเขาใหญ่เล่นเอาฉันเขินจนทำตัวไม่ถูก ไม่รู้ว่าคิดถูกหรือผิดที่ให้เขามาส่ง เพราะตอนนี้เหมือนจะตกเป็นเป้าสายตาคนทั้งร้านเลย“โอ๊ย มาส่งถึงโต๊ะขนาดนี้ก็บอกเขาไปเถอะค่าว่าเป็นแฟนกัน!! “ยายจินแซวพร้อมกับเสียงเพื่อนคนอื่นจนฉันต้องตีแขนมันก่อนจะขยับไปนั่งข้างมัน ส่วนพี่ไมเนอร์ก็นั่งลงข้างฉันอีกฝั่ง“พี่ไมเนอร์จะดื่มอะไร”“เดี๋ยวพี่ก็ไปแล้ว” เขาบอกแล้วส่งมา เหมือนพอใจกับอะไรบางอย่าง“มาส่งจริง ๆ”“มาเปิดตัวให้คนอื่นรู้ว่าเรามีเจ้าของแล้ว” เขาพูดประโยคแบบเดียวกันกับที่ฉันเคยพูด ความรู้สึกของฉันตอนนี้ก็คงไม่ต่างกับเขา มันทั้งเขินทั้งรู้สึกดีในเวลาเดียวกัน“ขี้โกง”“ขี้โกงอะไร” พี่ไมเนอร์เลิกคิ้วขึ้นเป็นคำถาม“ก็มีแต่รินที่เปิดตัวแต่พี่ไม่ได้เปิดตัวที่นุ่นไง แบบนี้พี่ก็ทำตัวโสดได้สบายใจสิ” ฉันแกล้งต่อว่าเขาจนเจ้าตคัวเราะชอบใจ“งั้นเราไปนั่งกับพี่ร้านนู้นไหม”เขาไม่ได้พูดเล่นแต่จริงจังมากในแววตาคู่นั้น จนฉันต้องส่ายหน้าเป็นคำตอบเพราะกลัวว่าพี่ไมเนอร์จะให้ไปจริง ไม่ใช่ว่าไม่อยากไปแต่

  • เสพติดรักนายรุ่นพี่ (เซต รุ่นพี่)   ตอนที่ 22 (2)

    ช่วงนี้พี่ไมเนอร์เอาใจจนฉันได้ใจแล้ว เวลาพูดว่าอยากได้อยากทำอะไรเขาก็จะตามใจตลอด ขนาดที่ว่ายายจินเอ่ยปากบอกว่าสงสารพี่ไมเนอร์ที่ต้องมาตามใจฉัน“แค่แกบอกว่าอยากกินเครปพี่เขาก็แวะ ฉันโคตรสงสาร แล้วร้านนั้นคือรอคิวเป็นชั่วโมง มิน่าล่ะถึงไม่มาสักที” ยายจินบ่นอุบเพราะฉันมันถึงไม่ได้กลับไปตอนสักที ก็พี่ไมเนอร์ยังไม่มาเพื่อนเลยเป็นคนดีที่อยากอยู่เป็นเพื่อน“ฉันแค่ถามว่าเขาผ่านหรือเปล่า ไม่ได้บอกให้แวะ” ฉันพูดไปแค่นั้นจริง ๆใช่ไหมนะ…“เขายอมแกขนาดนี้ ยังไม่รับรักอีกเหรอ” ยายจินกอดอกถาม สายตามันเหมือนหาเรื่องด่าฉันอยู่เลย“มันยังไม่ถึงเวลา”“ระวังเถอะ ถ้าเขาเจอดี ๆ กว่าแกแล้วไม่อยากเหนื่อยเอาใจ แกอย่ามาเสียใจให้เห็น”“ถ้าเขาไม่มั่นคงตั้งแต่ตอนจีบกันแบบนั้นฉันจะถือว่าโชคดีที่ไม่ยอมเป็นแฟน”“นินทาอะไรพี่อยู่เหรอ”เสียงเข้มคุ้นหูทำเอาฉันสะดุ้ง ก็เขาดันโผล่มาจากด้านหลังแบบนี้ตอนที่กำลังพูดถึงใครจะไม่ตกใจ แล้วเมื่อกี้นี้ฉันเพิ่งพูดว่าเขาไปแถมยังเป็นเรื่องที่คิดกันไปเองกับยายจินอีกต่างหากอันที่จริงฉันไม่ได้เก่งอย่างที่ว่านั่นหรอกแต่ตอนนี้ฉันเริ่มเชื่อใจเขาแล้วต่างหากถึงกล้าปากดีและมั่นใจว่าพี่ไมเน

  • เสพติดรักนายรุ่นพี่ (เซต รุ่นพี่)   ตอนที่ 22 (1)

    ตอนที่ 22Minor talkก่อนหน้านี้ผมไม่เคยจริงจังกับการรักษาโรคที่ตัวเองเป็นอยู่เลย และใช้วิธีแก้ปัญหาด้วยการปลดปล่อยความอึดอัดที่เกิดขึ้น ทั้งนอนกับผู้หญิงที่คุยด้วยหรือจะช่วยตัวเอง หลังจากนั้นมันก็จะเกิดความรู้สึกผิด รู้สึกไม่ดี และมันเป็นอย่างนั้นประจำจนกระทั่งต้องตัดสินใจรักษาช่วงแรกที่เริ่มเป็นโรคนี้มันเกิดขึ้นตอนที่ผมเรียนอยู่เพียงมอต้นเท่านั้น ตอนนั้นผมเลือกที่จะช่วยตัวเองนับครั้งไม่ถ้วน ในหนึ่งวันมันสามารถเกิดขึ้นเกิดสิบครั้งเลยหากใช้ชีวิตเงียบ ๆ คนเดียว มันเป็นโรคที่ดูเหมือนปกติแต่ความจริงแล้วไม่เลย มันทรมานจนต้องหาวิธีจัดการ หลังจากทำเรื่องแบบนั้นจิตใจของเราก็จะรู้สึกไม่ดี รู้สึกว่าตัวเองเป็นคนผิดปกติและน่ารังเกียจทั้งหมดนี้มันไม่ใช่ว่าเกิดขึ้นโดยไม่มีสาเหตุ แต่สาเหตุมันเกิดมาจากครอบครัวที่ขาดความอบอุ่นของผมตั้งแต่ในวัยเด็ก ผมจำเหตุการณ์พวกนั้นได้เลือนรางแต่มันคือจุดเริ่มต้นที่ทำให้ผมเป็นโรคบ้า ๆ นี้เมื่อสิบกว่าปีก่อน พ่อกับแม่ทะเลาะกันบ่อยมาก พ่อของผมชอบทำร้ายและตบตีแม่และพาผู้หญิงอีกคนเข้ามาในบ้านจนแม่เสียใจและหนีจากเราไป ตอนนั้นผมอยากไปอยู่กับแม่ใจจะขาดแต่คำสั่งของพ่อทำใ

  • เสพติดรักนายรุ่นพี่ (เซต รุ่นพี่)   ตอนที่ 21 (2)

    วันนี้ตอนเย็นฉันนัดกับพี่ไมเนอร์เอาไว้เพราะเขาบอกจะพาไปทานอาหารญี่ปุ่นร้านหนึ่งซึ่งกำลังเปิดใหม่และมีโพรโมชัน ‘มาสามจ่ายหนึ่ง’ แต่เรามากันแค่สองคน นั่นหมายความว่าโพรโฒชันที่ว่ามานั้นไม่ได้มีผลอะไรเลยตลกตรงที่เขาพูดถึงโพรโมชันนี้แต่พอฉันบอกว่าควรหาเพื่อนไปด้วยอีกคนพี่ไมเนอร์ก็บอกว่าไม่ยอมเพราะอยากไปด้วยกันสองคน“ถ้าพาเพื่อนมาอีกคนก็หารสาม คุ้มกว่านี้ไหมคะ” ฉันดูราคาที่พนักงานเพิ่งส่งมาให้ดูแล้วบอกกับคนเสนอตัวจ่ายเต็มราคานั้นอย่างภูมิใจที่ได้เลี้ยงฉัน“พ่อเราบอกว่าให้พี่อยู่กับสิ่งที่ชอบ”“…”“พี่ก็เลยอยากอยู่กับเราแค่สองคน”“ไร้สาระค่ะ”จนถึงตอนนี้ฉันก็ยังไม่ได้แกล้งถามเรื่องของยายพี่เมย์อะไรนั่นเพราะไม่รู้ว่าจะเริ่มจากตรงไหนดี กลัวเขาจะคิดว่าฉันเป็นคนชอบหาเรื่องทะเลาะ หรือไม่ก็คิดว่าฉันเอาใจเขามากมายเดี๋ยวได้ใจเอา“อิ่มไหม หรืออยากไปทานอะไรต่อ”“พี่เพิ่งพารินทานบุฟเฟต์นะคะ ไม่ใช่น้ำเปล่า ถามมาได้รินกินเยอะขนาดนั้น ถ้าน้ำหนักขึ้นรินจะโทษพี่ไมเนอร์” ฉันบิดปากคว่ำมองเขาอย่างเอาเรื่อง ตั้งแต่เข้ามหาวิทยาลัยมาวันนี้คงกินเยอะจนลืมเรื่องน้ำหนัก“ถึงเราจะตัวกลมเท่าหมูพี่ก็รัก น่ารักแน่ ๆ”“ข

  • เสพติดรักนายรุ่นพี่ (เซต รุ่นพี่)   ตอนที่ 21 (1)

    ตอนที่ 21หลังจากส่งพี่ไมเนอร์ลงจากรถเสร็จฉันก็กลับมาห้องของตัวเอง ตอนนี้เป็นเวลาสี่ทุ่มกว่าแล้วปกติถ้าไม่มีภารกิจอะไรหรือมีเรื่องให้คิดมากจนนอนไม่หลับฉันต้องเข้านอนและหลับปุ๋ยไปแล้ว ทว่าวันนี้มันต่างออกไปตรงที่มีคนขอให้รอเขาโทร.มาเพื่อที่จะบอกฝันดีก่อนนอน“อาบน้ำเร็วขนาดนี้เลยเหรอ”ทันทีที่กดรับสายจากพี่ไมเนอร์ฉันก็ถามด้วยความประหลาดใจ แต่ดูเวลาบนหน้าจอตอนนี้มันก็ผ่านมาครึ่งชั่วโมงแล้วตั้งแต่ที่เราแยกจากกัน(“ถึงห้องก็อาบเลย กลัวเราจะง่วง”)“ง่วงแล้วค่ะ พรุ่งนี้รินมีเรียนเช้าด้วย จะนอนแล้วนะ”(“โอเคพี่ก็จะนอนแล้ว”) เขาพูดจบก็ได้ยินเสียงคล้ายกำลังกระโดดลงที่นอน แล้วเสียงพูดของเขาก็อู้อี้อยู่กับหมอนแน่ ๆ (“ฝันดีนะครับ”)“ฝันดีค่ะ”(“ชอบจริงนะ”)ฉันเผลอยิ้มอยู่คนเดียวกลางที่นอนเหมือนเป็นคนบ้า ทั้งที่ช่วงนี้ได้ยินพี่ไมเนอร์บอกว่าชอบออกจะบ่อยกว่าคำอื่นเลยด้วยซ้ำ เกลียดเขาที่ทำให้ฉันใจอ่อนยวบแบบนี้ ไม่รู้ว่าเขาเก่งหรือฉันเองที่มันใจง่าย“ถ้าพูดจริงรินก็จะรับไว้นะ”(“พูดจริงครับ”)“วางแล้วนะ”(“พรุ่งนี้เจอกัน”)“ค่ะ”หลังจากกดวางสายปากของฉันมันก็ยังไม่ยอมหุบยิ้มจนต้องยกฝ่ามือขึ้นมา ใช้นิ้ว

  • เสพติดรักนายรุ่นพี่ (เซต รุ่นพี่)   ตอนที่ 20 (2)

    อีกสิบนาทีออกมาเจอกันหน้าร้านหลังจากผ่านไปสิบนาทีอย่างที่ว่านั้นฉันก็มาถึงร้านเหล้าร้านหนึ่งพอดี เห็นร่างสูงของใครบางคนกำลังเดินออกมาจากประตูร้านฉันจึงเดินลงจากรถแล้วตรงดิ่งไปหาเขา ท่ามกลางสายตาหลายคู่ที่มองมาทางฉันจะไม่มองได้ไงล่ะ ก็ฉันใส่ชุดนอนมาร้านเหล้าความกล้าหาญที่พกมาเต็มร้อยตอนนี้เหลืออยู่แค่ยี่สิบส่วนร้อยเท่านั้น ยิ่งตอนที่พี่ไมเนอร์กอดอกมองมาฉันยิ่งขาดความมั่นใจ ตอนนี้จะเรียกว่าสติมันกลับคืนมาหาตัวแล้วก็ว่าได้“ใส่มาทำไมแบบนี้” คำแรกที่เขาเอ่ยทักทายกันพร้อมกับทำคิ้วขมวดใส่แถมด้วยสายตาดุ ๆ“ก็จะมาคุยแค่แป๊บเดียว” ฉันตอบแล้วหยุดยืนอยู่ตรงริมฟุตพาท ยกแขนสองข้างขึ้นมากอด“อย่างกับคนมาตามผัวกลับบ้าน” แล้วเขาก็หลุดยิ้มออกมาเพราะคำพูดของตัวเอง“แล้วสรุปจะเอายังไงคะ พูดดิบดีว่าจะไม่ดื่มเหล้า เหอะ!” ฉันถามแล้วหัวเราะเยาะเบา ๆ“แล้วคุยอะไรกับมัน ทำไมต้องจับมือถือแขน”“เขามาขอคุยค่ะ แล้วรินก็ไม่ได้ขอให้เขาจับถ้าเห็นแค่นั้นแล้วพี่ไมเนอร์จะเข้าใจผิดไม่มีเหตุผลก็แล้วแต่เลย”เขามองมาแล้วเงียบ ดวงตาคู่คมนั้นแฝงไปด้วยความรู้สึกมากมายจนฉันนึกไม่ออกว่าเขาคิดอะไรอยู่ แต่ดูเหมือนมันจะดีขึ้นกว

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status