Share

บทที่ 37 มิใช่ข้าคนเดียว [2]

Author: Tuk Kung
last update Last Updated: 2025-06-09 18:22:28

“ต้วนชิงเจา ออกมา” กายหนาหยุดยืนหน้าประตูห้องหนึ่งของจวน ซึ่งจะเป็นห้องใครไปไม่ได้นอกเสียจากท่านหมอหลวงผู้มากฝีมือ

“คารวะท่านอ๋อง มิทราบว่าเสด็จมาหากระหม่อมถึงจวน มีอะไรให้กระหม่อมรับใช้หรือพ่ะย่ะค่ะ” หมอชราที่แต่งกายยังไม่เรียบร้อยเสื้อผ้าหลุดลุ่ย ลนลานรีบออกมารับหน้า เสด็จมาตั้งแต่ไก่โห่เช่นนี้ ผู้ใดจะออกมาต้อนรับได้กัน ช่างเป็นคนที่เอาแต่ใจเสมอต้นเสมอปลายโดยแท้

“ไหนเจ้าบอกว่าหนิงเซียนจะเหม็นข้าไม่นาน รู้หรือไม่กล่าวเท็จกับเชื้อพระวงศ์มีโทษสถานใด” เหลียงเฟิงชักกระบี่ออกจากฝัก ปลายกระบี่แหลมคมเงาวับจ่อเข้าที่คอหมอหลวงอย่างว่องไว

“กระหม่อมวินิจฉัยตามอาการพ่ะย่ะค่ะ มิได้พูดเท็จอย่างแน่นอน กระหม่อมกล้าเอาหัวเป็นประกัน สตรีแต่ละคนอาการแพ้ท้องไม่เหมือนกัน ที่อนุหนิงเป็นอยู่ถือว่าเป็นเรื่องธรรมดาทั่วไปที่มักพบเห็นในสตรีตั้งครรภ์ จะมากหรือน้อยก็แล้วแต่สภาพร่างกายของแต่ละคนพ่ะย่ะค่ะ” ตั้งแต่ที่เขาได้ไปตรวจอาการของอนุหนิงครั้งนั้น นี่ก็ผ่านมายังไม่ถึงเดือนด้วยซ้ำ เป็นท่านอ๋องใจร้อนเองหรือไม่ ต้วนชิงเจาถึงกับปาดเหงื่อ เขาไม่ชินกับการรับมืออ๋องเอาแต่ใจผู้นี้เอาเสียเลย อนุหนิงช่างน่านับถือนัก ที่สามารถทนท่านอ๋องได้

“มียาแก้อาการเหม็นกลิ่นข้าหรือไม่” ชายหนุ่มยอมลดกระบี่ลง ที่เขาถ่อมาถึงเมืองหลวงก็เพราะหวังว่าจะมีวิธีที่ทำให้สามารถเข้าใกล้นางได้

“ไม่มีพ่ะย่ะค่ะ ทำได้เพียงแค่ยาบรรเทาอาการเท่านั้น เมื่อพ้นช่วงอายุครรภ์สามเดือนไปก็มักจะหายไปเอง หรือบางคนก็อาจจะมีอาการแพ้ท้องไปจนกว่าจะคลอดพ่ะย่ะค่ะ กระหม่อมจะรีบไปจัดยาให้เดี๋ยวนี้เลยพ่ะย่ะค่ะ” ท่านหมอหลวงลนลานรีบไปจัดยาให้เหลียงอ๋องทันที ก่อนจากไปยังไม่ลืมที่จะให้พ่อบ้านนำทางเหลียงอ๋องไปนั่งพักผ่อนให้สบาย เพื่อที่ว่าเขาจะได้ใจเย็นลงไม่มากก็น้อย

รอไม่นานต้วนชิงเจาก็ได้หอบเอายามากมายเข้ามาในโถงรับรอง การที่เหลียงอ๋องบุกมาเช่นนี้ไม่ดีเอาเสียเลย ทำให้คนแก่แบบเขาแทบจะหัวใจวาย

“ในห่อผ้ามียาแก้แพ้ท้องและยาบำรุงครรภ์พ่ะย่ะค่ะ กระหม่อมจัดไว้ให้สำหรับหนึ่งเดือน หากหมดแล้วส่งคนมารับที่จวนกระหม่อมได้ทุกเมื่อพ่ะย่ะค่ะ” เพราะความเหนื่อยทำให้มือเหี่ยวย่นสั่นเล็กน้อย อีกทั้งยังมีเหงื่อซึมตามกรอบหน้า

“ดี ดูเจ้าจะไม่ค่อยสบายนะ พักผ่อนบ้างก็ดี” ชายหนุ่มหยิบห่อผ้ามาถือไว้ พร้อมกับเตรียมจะเดินทางกลับ

“ขอบคุณที่เป็นห่วงกระหม่อมพ่ะย่ะค่ะ” เพราะใครกันเล่าทำให้เขาเป็นเช่นนี้ ต้องวิ่งตั้งแต่ห้องปรุงยามาถึงที่นี่เพื่อทำเวลาให้เร็วที่สุด ดีแค่ไหนแล้วที่ไม่สะดุดล้มหัวร้างข้างแตกไปเสียก่อน ความเอาแต่ใจของเหลียงอ๋องในแต่ละครั้ง รู้สึกเหมือนทำให้อายุเขาสั้นลงสักสิบปี

แต่ก่อนที่เหลียงเฟิงจะก้าวพ้นประตูไป ก็ได้มีเสียงดังโหวกเหวกโวยวายมาจากสวนดอกไม้ข้างเรือนที่พัก พานทำให้เขารู้สึกรำคาญ ทว่าเหตุการณ์ตรงหน้าก็ทำให้เขาสนใจไม่น้อยเช่นกัน

“โอ๊ยยยย เมียจ๋า ปล่อยมือเถิด ประเดี๋ยวหูข้าก็ยานกันพอดี”

“ข้าบอกท่านกี่ครั้งแล้วว่าไม่ชอบกลิ่นน้ำปรุง แต่ท่านก็ยังจะประโคมพรมทั่วทั้งตัวอีก”

“ตะ... แต่ เมื่อวานเจ้าบอกว่าหอม ชอบมากมิใช่หรือ”

“นี่ท่านกล่าวหาว่าข้าเป็นคนสับปลับหรือ”

“โอ๊ยยยย ไม่ ๆ เป็นข้าเองที่ไม่ดี ปล่อยเถิดข้าเจ็บบบบ”

หนึ่งบุรุษโก่งตัวตามแรงดึงพร้อมกับร้องโอดโอยอย่างเจ็บปวด หนึ่งสตรีใบหน้าบึ้งตึงบ่งบอกว่าไม่สบอารมณ์ในตัวสามีเท่าใดนัก พร้อมกันนั้นก็ยังออกแรงดึงใบหูของสามีเต็มแรงด้วยเช่นกัน

“หมอหลวงต้วน เกิดอะไรขึ้นกับบุตรชายเจ้าหรือ”  ชายหนุ่มหันกลับไปกระซิบหมอชราที่ยืนทำหน้าเอือมระอาอยู่ข้างกาย โดยปกติแล้วเขาจะไม่สนใจเรื่องของชาวบ้าน หากไม่เพราะเหลือบไปเห็นหน้าท้องของลูกสะใภ้ต้วนชิงเจาเข้าพอดี

“ไม่มีอะไรพ่ะย่ะค่ะท่านอ๋อง เรื่องปกติของสตรีมีครรภ์ที่มักจะอารมณ์แปรปรวน” ต้วนชิงเจาตอบด้วยน้ำเสียงเนิบนาบ ไม่ได้ตกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นแต่อย่างใด สิ่งที่ท่านอ๋องเจอถือว่ายังน้อย หากเทียบกันกับบุตรชายเขาต้องพบเจอในแต่ละวัน

“อืม เป็นเช่นนี้เองหรือ ที่แท้ก็ไม่ใช่ข้าคนเดียว” ชายหนุ่มพึมพำกับตนเองเสียงเบา หากหนิงเซียนอารมณ์ร้ายเช่นลูกสะใภ้ของต้วนชิงเจา เขาคงรับมือไม่ไหวแน่ให้นางเป็นอย่างที่เป็นอยู่ยังดีเสียกว่า

กายหนาจากไปโดยไม่ได้สนใจความวุ่นวายภายในจวนหมอหลวงอีก ในหัวเขาก็เอาแต่คิดหาวิธีรับมือภรรยาคนงาม หากว่านางเกิดแพ้ท้องแล้วอารมณ์ร้ายขึ้นมาเช่นนี้จริง เขาจะได้มีวิธีรับมือได้ถูกต้อง ก่อนจะควบม้าคู่กายจากไป ก็มิวายหันกลับไปมองบุตรชายหมอหลวงอีกครั้ง

เจ้าช่างเป็นบุรุษที่น่าสงสารที่สุดเท่าที่ข้าเคยเจอ

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • เหตุใดตัวร้ายถึงเอาแต่คลั่งรักข้า   ตอนพิเศษ มู่หลางผู้พ่ายแพ้ [4]

    “ไฉฉือหยุดความคิดของเจ้าเดี๋ยวนี้” คำพูดจากปากสาวเจ้าไม่ค่อยจะเข้าหู มู่หลางพยายามข่มกลั้นความโกรธของตนเองอย่างสุดความสามารถ“พวกเจ้าเป็นอันใดกัน น่ารำคาญยิ่งนัก จะไปไหนก็ไป” หลังจากเขากับภรรยาแอบฟังมู่หลางพูดคุยอยู่นาน ได้จังหวะเหมาะจึงแสร้งทำเป็นไม่พอใจไล่คนทั้งสองไปที่อื่นเสีย“ขออภัยพ่ะย่ะค่ะท่านอ๋อง กระหม่อมขอเวลาสักครู่พ่ะย่ะค่ะ” หากวันนี้ตกลงกันไม่เข้าใจ เห็นทีว่าไฉฉือคงต้องได้ยืดเวลากลับบ้านไปหาท่านป้าแล้ว“ไม่ต้อง อีกสองวันค่อยกลับมาทำหน้าที่ของเจ้า ไปแก้ปัญหาให้จบ อย่าให้ข้าเห็นเช่นนี้อีก” เหลียงเฟิงตวาดเสียงดุ ความจริงแล้วเขาก็อยากจะเล่นงิ้วต่อ แต่ภรรยาสุดที่รักกลับให้เขารีบจบบทบาทเจ้านายอารมณ์ร้ายนั่นเสีย ช่างน่าเสียดาย“ขออภัยอีกครั้งพ่ะย่ะค่ะ กระหม่อมจะไม่ให้เกิดขึ้นอีก” องครักษ์หนุ่มสำนึกผิดที่ตนทำให้นายเหนือหัวต้องรำคาญใจ ทั้งที่วันนี้ท่านอ๋องกับหวังเฟยควรจะได้ออกมาทานข้าวนอกอย่างสำราญใจแท้ ๆ กายหนาหันกลับไปคว้ามือเล็กคนข้างกาย พาอีกฝ่ายขึ้นชั้นสามไปอย่างรวดเร็ว“ว๊าย! พี่มู่เดี๋ยวก่อนเจ้าค่ะ” ไฉฉือร้องทัดทาน มือบางรวบเก็บชุดส่วนบนไว้แน่น ยิ่งพี่มู่ของนางดึงแรงเพียงใด

  • เหตุใดตัวร้ายถึงเอาแต่คลั่งรักข้า   ตอนพิเศษ มู่หลางผู้พ่ายแพ้ [3]

    “เป็นอะไรไปไฉฉือ” หนิงเซียนเอ่ยถามขึ้น เมื่ออีกฝ่ายเอาแต่ก้มหน้าก้มตาเดินผิด ๆ ถูก ๆ“นายหญิงเจ้าคะ ให้ข้ากลับเถอะเจ้าค่ะ คนมองเต็มเลย สงสัยข้าน้อยแต่งตัวประหลาด” หญิงสาวกระซิบกระซาบเสียงเบา ตั้งแต่นางพาเข้าในโรงเตี๊ยม ก็ถูกผู้คนจับต้องตลอดทางเดิน ทำให้นางไม่เป็นตัวของตัวเองเท่าใดนัก“เป็นเพราะเจ้างดงามพวกเขาจึงได้มอง ไปกันเถอะ ไม่มีอะไรต้องกลัว ไม่อยากเจอพี่มู่ของเจ้าหรือ”“พี่มู่อยู่ที่นี่หรือเจ้าคะ” เมื่อนายหญิงเอ่ยชื่อพี่ชายที่แสนดี หญิงสาวก็หูผึ่งขึ้นมาทันที หลงลืมความอายไปชั่วขณะ“ใช่แล้ว ไปกันเถอะ” มู่หลางจงจำไว้ที่เจ้าพูดว่าจะไม่แต่งงานน่ะ ข้าจำคำนั้นขึ้นใจเชียวละ หุ หุเพราะหลายครั้งที่นางได้ยินคำนี้ออกจากปากองครักษ์หนุ่ม หนิงเซียนก็เฝ้ารอวันที่มู่หลางจะพลาดพลั้งบ้าง ส่วนมากคนพูดเช่นนี้ก็มักจะไม่พ้นผิดไปจากที่พูดเสียทุกรายมู่หลางหายใจฟึดฟัดเมื่อเห็นอีกคนเดินเข้ามาด้านในโรงเตี๊ยม วันนี้ไม่รู้ว่าท่านอ๋องคิดอะไรอยู่ ถึงได้ออกมานั่งรอหวังเฟยที่โต๊ะด้านนอก แทนที่จะเปิดห้องพิเศษเหมือนทุกครั้งไป นั่นใครสั่งใครสอนให้แต่งกายประหลาดเช่นนั้น เดินทีกระโปรงเปิดเปลือยไปถึงขาอ่อน แต่งมายั่

  • เหตุใดตัวร้ายถึงเอาแต่คลั่งรักข้า   ตอนพิเศษ มู่หลางผู้พ่ายแพ้ [2]

    “น้องสาวทางสายเลือดหรือไม่” ตรงส่วนนี้ที่นางรู้สึกสงสัย ก็ไหนมู่หลางเคยบอกว่าไม่มีครอบครัวแล้วอย่างไร เหตุใดถึงได้มีน้องสาวโผล่มาได้“ไม่ ๆ เจ้าค่ะ ข้าน้อยเป็นเพียงบุตรสาวคนข้างบ้านพี่มู่ แต่ว่าเติบโตมาด้วยกันจึงสนิทกันเจ้าค่ะ” หญิงสาวรีบชี้แจงให้นายหญิงคนงามเข้าใจ นางและพี่มู่ห่างกันตั้งหกปี แม้จะเคยสนิทสนมกันมาก ทว่าเมื่อโตขึ้นพี่มู่กลับเว้นระยะห่าง แม้แต่เคยเล่นกอดคอกันเมื่อตอนเด็ก ๆ เขายังสั่งห้ามมิให้เข้าใกล้ ซึ่งนางก็ไม่ค่อยจะเข้าใจสักเท่าใดนัก“จริงหรือ แล้วเขาดูแลเจ้าดีหรือไม่” ที่หนิงเซียนซักถามเช่นนั้น ก็เพราะว่ามู่หลางเป็นคนค่อนข้างจะทึ่มทื่อปากหนักในเรื่องชายหญิง นางก็อยากจะรู้เขาจะมีความรู้สึกพิเศษอะไรกับไฉฉือหรือไม่ สตรีหน้าตาจิ้มลิ้มน่ารักออกปานนี้ ไม่มีความรู้สึกอันใดก็คงจะแปลกไม่น้อย“ดีมากเจ้าค่ะ มีอะไรก็นึกถึงข้ากับท่านแม่ตลอดเลย นี่ก็ห่วงว่าพี่มู่จะหาภรรยาไม่ได้ แก่ไปคงได้อยู่ตัวคนเดียว ท่านแม่จึงให้ข้ามาดูให้เห็นกับตาเจ้าค่ะ” ด้วยความใสซื่อ ไฉฉือจึงพูดออกมาอย่างไม่มีปิดบัง แต่เมื่อถึงตอนนั้น หากเขามีคนรักขึ้นมาจริง นางก็ไม่รู้ว่าตนเองจะทำใจรับได้หรือไม่ ที่ผ่านมาต

  • เหตุใดตัวร้ายถึงเอาแต่คลั่งรักข้า   ตอนพิเศษ มู่หลางผู้พ่ายแพ้ [1]

    ไฉฉือสาวน้อยจากหมู่บ้านชนบทยืนชะเง้อคอยาวอยู่หน้าประตูวังอันใหญ่โต นางไม่คิดว่าพี่มู่จะอยู่ดีเกินคาดไปมาก เมื่อได้เห็นกับตาก็สบายใจไปเปลาะหนึ่งที่ผ่านมานางและมารดากลัวว่าเขาจะอยู่อย่างยากลำบาก เงินที่แบ่งปันให้นางกับครอบครัวทุกเดือนก็มากโข แล้วไหนจะมีของฝากราคาแพงอีกมากมาย เพราะแบบนี้มารดาจึงไม่สบายใจ เกรงว่ามู่หลางจะเอาแต่ทำงานหนักไม่รู้จักดูแลตนเอง เงินที่ได้มาก็คงจะส่งให้พวกตนทั้งหมด ด้วยเขามีนิสัยคิดถึงผู้อื่นมากกว่าตนเองเสมอครอบครัวไฉฉือและมู่หลางไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกันทางสายเลือดแต่อย่างใด เป็นเพียงเพื่อนบ้านที่ดีต่อกันเท่านั้น ตอนเด็กนางและเขาสนิทกันมาก ในตอนมู่หลางอายุได้สิบหนาวบิดามารดาตายจากด้วยโรคระบาด ไม่มีญาติมิตรคอยดูแล มารดาไฉฉือสงสารจึงได้ส่งเสียเลี้ยงดูราวกับลูกในไส้ สำหรับสายตาของหญิงสาว มารดาออกจะรักมู่หลางมากกว่านางที่เป็นบุตรสาวแท้ ๆ เสียอีกเมื่อเติบโตต่างฝ่ายต่างแยกย้าย ไฉฉือเป็นเพียงสตรีจึงทำได้แค่ช่วยมารดาทำสวนทำไร่อยู่บ้านนอก ส่วนมู่หลางเขาได้เดินทางมาเมืองหลวงเพื่อหางานทำ หลังจากนั้นก็ไม่ได้พบหน้ากันอีกเลย มีเพียงจดหมายพร้อมกับตั๋วเงินแนบมาให้ในทุก ๆ เดื

  • เหตุใดตัวร้ายถึงเอาแต่คลั่งรักข้า   ตอนพิเศษ เสด็จแม่ชอบกินของเผ็ด [3]

    เด็ก ๆ สามคน รวมไปถึงมู่หลางนั่งล้อมวงดื่มชากินขนมกันอยู่ศาลาพัก พร้อมกับพูดคุยกันอย่างสนุกสนาน จวนแม่ทัพหยางให้ความเอ็นดูเด็กแฝดเป็นอย่างมาก ฮูหยินหยางอยากให้บุตรชายได้มีบุตรแบบนี้สักคู่ทว่าแต่งงานมาได้สองปีกลับยังไม่มีหลานให้อุ้ม พวกเขาจึงแก้เหงาด้วยการขอท่านหญิงน้อย ท่านอ๋องน้อย มาเล่นที่จวนแม่ทัพในบางครั้งขนมพร้อมกับน้ำชาแสนอร่อยถูกลำเลียงมาวางจนเต็มโต๊ะ ทำเอาเด็ก ๆ ทั้งสามตาลุกวาวอย่างถูกอกถูกใจ มาจวนแม่ทัพทีไรล้วนแล้วแต่มีของอร่อยให้ได้กินจนเต็มคราบแต่เมื่อกลับถึงวังของหวานเหล่านี้จะกินตามใจปากไม่ได้แล้ว เพราะท่านแม่มักจะจำกัดการกินของพวกเขาเสมอ ท่านแม่บอกว่าเด็กกินของหวานไม่ดี ฟันจะผุ ถูกแมลงตัวร้ายกินหมดปาก“เฮ้อ” เด็กหญิงเคี้ยวขนมแก้มตุ่ย นั่งถอนหายใจราวกับมีเรื่องให้หนักใจเป็นหนักหนา กระนั้นก็ยังยกขนมในมือขึ้นกัดเข้าไปอีกคำโต“ไม่สบายตรงไหนหรือพ่ะย่ะค่ะท่านหญิง” หลี่หยุนรีบวางขนมในมือทันที พร้อมกับถามไถ่ด้วยความเป็นห่วง“เราไม่เป็นไร เราแค่กังวลใจ”“ท่านหญิงกังวลใจเรื่องอะไรหรือพ่ะย่ะค่ะ เล่าให้กระหม่อมฟังได้หรือไม่” มู่หลางรู้สึกเป็นห่วง ท่านหญิงเป็นเด็กร่าเริง น้อยนักท

  • เหตุใดตัวร้ายถึงเอาแต่คลั่งรักข้า   ตอนพิเศษ เสด็จแม่ชอบกินของเผ็ด [1]

    “หนิงหนิง พี่ทนไม่ไหวแล้ว”กายหนาจับภรรยาหันหน้าเข้าผนังห้องทันที ก่อนจะถลกกระโปรงหญิงสาวขึ้นถึงเอว จากนั้นท่อนเนื้ออันใหญ่โตสอดเข้าผสานเนินสาวอย่างรวดเร็ว อีกทั้งยังออกแรงโยกไปตามอารมณ์ดิบเข้าออกเป็นจังหวะช้าเร็วตามแรงอารมณ์ ไม่แม้แต่จะเล้าโลมให้เสียเวลา“ท่านพี่เดี๋ยวก่อน” หนิงเซียนบัดนี้นางได้ถูกคนตัวโตตอกอัดตนเองเข้ากับผนังอย่างไม่ทันตั้งตัว นางและเขาใช้ชีวิตรักฉันสามีภรรยามานาน จนบุตรแฝดทั้งสองอายุได้สามหนาวแล้ว ทว่าความต้องการของสามีก็มิได้ลดน้อยลงจากเดิม ในบางครั้งออกจะมีความต้องการมากล้นเสียด้วยซ้ำตั้งแต่เจ้าสองแสบเริ่มโต นางและเขาก็มิได้มีเวลาให้กันมากเท่าใดนัก ด้วยบุตรทั้งสองต่างงอแงอ้อนขอนอนด้วยทุกค่ำคืน แม้พวกเขาจะโตมากพอที่จะแยกห้องนอนกันได้แล้ว แต่ก็ยังเกาะติดผู้เป็นมารดาราวกับลูกลิง บิดาผู้หลงบุตรมีหรือจะไม่ยอมตามใจ ผลกรรมทั้งหมดได้ตกมาอยู่ที่เขาแทน“พี่ขอเถอะ ประเดี๋ยวลูกก็คงกลับจากเรียนวิชาดาบแล้ว” เขาอดกินภรรยามาเกือบเจ็ดวันแล้ว เวลานี้ได้โอกาสเหมาะ จึงไม่พลาดที่จะกลืนกินภรรยาสาว ทุกเวลาล้วนมีค่าสำหรับเขา“อ๊ะ! แรงไปแล้วนะเจ้าคะ” หนิงเซียนหัวโยกหัวคลอน เขาไม่ยอมผ่อน

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status