Chapter 4
(บทที่ ๔ )
รันรานานั่งรอเขาที่หน้าคณะทั้งๆ ที่เพื่อนกลับกันหมดแล้ว เขาเลทมารับเธอยี่สิบนาทีกว่าเธอควรรอต่อไหม ช่างเป็นคนที่ผิดคำพูดจริงๆ เธอไม่น่าเชื่อคนแบบเขาเลย แค่ตรงเวลายังทำไม่ได้เลยคนๆ นี้
"นามาแล้ว ขอโทษว่ะ" สภาพเตตะวันที่ขับมารับเธอคือมุมปากแตกช้ำมีเลือดไหล และแผลที่คิ้วหนากำลังจะหายดีก็กลับเป็นแผลใหญ่ยิ่งกว่าเดิม
"เอาอีกแล้วเหรอ ไปมีเรื่องมาเหมือนวันนั้นใช่ไหม” นี่เขาจะมีเรื่องบ่อยขนาดนี้เลยเหรอ แล้วแต่ละครั้งก็เจ็บตัวไม่ใช่น้อยๆ อึดถึกทนขนาดนี้ร่างกายยังเป็นคนอยู่ไหม
"ไม่ใช่แบบนั้น ขอโทษว่ะที่มาช้า" เขาคิดว่าจะแวะไปถามข่าวคราวรุ่นน้องแป๊บเดียวกลับกลายเป็นมีเรื่องต่อยตีกับคู่อริต่อ
“ไม่ได้ตั้งใจ”
"เฮ้อ.. ช่างมันเถอะ ไปโรงพยาบาลไหมคะ" ถึงไม่หนักเท่าวันนั้นแต่เขาควรไปเช็คร่างกายบ้าง เธอไม่ได้สนเวลาว่าจะมาช้าหรือไม่แล้ว สนแค่แผลบนใบหน้าเขาตอนนี้
"เฮ้ยนา ไกลหัวใจว่ะเอาจริง" แผลแค่นี้เขาชินแล้ว ตอนนั้นมันแค่พลาดที่ปล่อยให้พวกมันมารอบกัดเฉยๆ
"..." รันรานาไม่รู้จะพูดอะไรต่อจึงรับหมวกกันน็อคของเขามาสวมแล้วก้าวขาขึ้นนั่งซ้อนท้ายรถ
"คลุมเหอะ" เตตะวันถอดเสื้อช็อปเปื้อนฝุ่นที่นานๆ ทีซัก เดือนละครั้งนับได้ให้เธอคลุมต้นขา เขาขัดใจมันตั้งแต่เมื่อเช้าแล้ว และไม่ลืมด้วย
"ขะ..ขอบคุณค่ะ" รันรานาถึงจะไม่เข้าใจแต่หัวใจเธอก็เต้นเร็วราวกับมีใครมาตีกลองรัวๆ อยู่ข้างในอย่างไงอย่างงั้น ทำไมกันนะ ยิ่งเธอไม่อยากยุ่งก็ยิ่งเข้าใกล้ พึ่งเจอกันไม่กี่วันเองเขากลับทำเธอหวั่นไหวได้ขนาดนี้
"หวั่นไหวปะ"
"อะ..อะไร"
"สีหน้ามันบอก ดูทรงแล้วหวั่นไหว"
เตตะวันขับรถมาส่งเธอที่หน้าคอนโด ถึงเขาจะเป็นนักเลงป่าเถื่อนแต่เขาไม่ได้ทำอะไรเธอแม้แต่น้อย กลับกันเขากลับพยายามที่จะอ่อนโยนอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน
"ขึ้นห้องดีๆ"
"เดี๋ยวค่ะ ทำแผลก่อนไหมคะ" เธอเห็นแผลเขาแล้วก็เกิดความเป็นห่วงขึ้นมา อย่างน้อยถึงแม้เขาจะเจ็บตัวแต่ก็ยังไม่ลืมมาส่งเธอ
"ชวนเราขึ้นห้องเหรอวะนา" เตตะวันยกยิ้มมุมปากอย่างเสือร้าย ยามนี้รอยยิ้มของเขามันโคตรอันตรายต่อหัวใจเธอ
"งั้นก็เลือดไหลหมดตัวเหมือนวันนั้นไปเถอะ" รันรานาหันหลังเดินสับขาเร็วๆ รีบขึ้นคอนโด คนหวังดียังจะกวนอีก
"เดี๋ยวดินา!" เตตะวันเห็นไม่เข้าท่าแล้วก็รีบจอดรถแล้ววิ่งตามร่างบาง อะไรของกูวะเนี่ยเคยวิ่งแต่ตามชกต่อยตี ตอนนี้แม่งวิ่งตามผู้หญิงขึ้นห้อง
"เมี๊ยวๆๆ" เจ้าโชยุพอเห็นเธอเปิดประตูเข้ามาพร้อมกับเตตะวันก็ร้องเหมียวๆ เข้ามาอ้อนทันที
"โชยุ!" แต่ไม่ใช่อ้อนเธอ มันอ้อนเตตะวัน!
"เฮ้ยเข้าท่าว่ะ น่าเลี้ยงนะแมวตัวนี้" เตตะวันพอเห็นแมวอ้อนก็ใช้มือใหญ่ๆ ของเขาช้อนมันขึ้นด้วยมือเดียวแล้วพลิกไปมา
"ทำอะไรแมวเรา วางลงเลยนะ!”
"เราเล่นกับแมว" เตตะวันมึนงงว่าเธอทำตาขวางใส่เขาทำไมทั้งๆ ที่เขาก็เป็นมิตรกับแมวเธอ
"มองเหี้ยไรสัตว์!" พอลงที่เธอไม่ได้กลับเป็นโชยุที่โดนกระทำแทน เพราะมันเอาแต่จ้องหน้าเตตะวัน
“เมี๊ยว”
"นี่! เอาคืนมานะ" เธอให้เขาเข้ามาอยู่ในห้องเพื่อมาทำแผลฟรีๆ แต่เขามาพูดกับแมวเธอแบบนี้เหรอ
"ขอโทษ มีกีตาร์เหรอ" เตตะวันเอาตัวรอดด้วยการเปลี่ยนเรื่องคุยแทน ไม่งั้นเขาจะโดนไล่ออกจากห้องจริงๆ แน่
"ค่ะ" เธอไม่สนใจแถมเดินหนีไปหากล่องปฐมพยาบาลต่อ
"ของใคร" ทำไมจู่ๆ เสียงมันแข็งขึ้นมาเอง
"ของเราค่ะ เราเก็บเงินซื้อเองนะ" กีตาร์สีฟ้าตัวโปรดของเธอ เธอเก็บเงินซื้อมันมาในราคาห้าพันกว่าบาทตอนมัธยม ภูมิใจสุดๆ
"เชี่ย เท่ห์จัดผู้หญิงเล่นกีตาร์" จู่ๆ รันรานาก็เริ่มกลายเป็นไทป์ของเตตะวันมากขึ้นเรื่อยๆ ช่างน่าบังเอิญเสียจริง
"เปล่าเราเล่นไม่เป็นหรอก เราชอบก็เลยซื้อไว้ก่อนค่ะเผื่อเล่นเป็น” เธอชอบดูคนอื่นเล่น ชอบกีตาร์ ชอบเพลง แต่เธอเล่นไม่เป็นหรอกนะ ไม่มีเวลาหัดเล่นด้วย
"เดี๋ยวเราสอน" ถึงจะงงๆ ไม่เข้าใจหน่อยๆ แต่เตตะวันก็คิดว่าแปลกดี ร่างสูงทิ้งตัวลงนั่งบนโซฟาและยอมให้รันรานาทำแผลให้อย่างไม่อิดออด
"เหมือนไปกัดกับหมามาเลยอะ"
"หึ ก็หมารอบกัด" เขาแค่นหัวเราะเบาๆ รันรานาแม่งไทป์เขาเลยว่ะ เขาจะทำอย่างไรดี ผู้หญิงคนเดียวที่รู้สึกว่าใช่ขนาดนี้ เขายากที่จะปล่อยเธอไปแต่เขาก็ไม่สามารถมีเมียทั้งๆ ที่เป็นนักเลงแบบนี้ได้เหมือนกัน ยังไม่พร้อมที่จะรับผิดชอบชีวิตใครด้วยซ้ำ ลำพังตัวเขาเองยังเอาตัวไม่รอด
Chapter 5( บทที่ ๕)เตตะวันถือวิสาสะหยิบกีตาร์ของเธอมาเล่นเพลงที่มันแล่นเข้ามาในหัวของเขาตอนที่เจอเธอ ณ ตอนนี้ เป็นเพลงที่เหมาะกับเธอดี เป็นเพลงที่เจอเธอแล้วต้องนึกถึงเพลงนี้ เธออย่างกับหลุดออกมาจากความฝันของเขา ปล่อยไปก็ไม่ได้แต่จะเอามาครอบครองก็คงเป็นไปได้ยาก"เพลงเพราะดีนะ ชื่อเพลงอะไรเหรอ" รันรานาแอบใจเต้นแรงกับเนื้อเพลงที่เขาร้องแต่ก็ต้องเก็บอาการไว้ เธอเป็นคนที่ชอบซึมซับความหมายเนื้อเพลงและรู้ว่าเพลงนั้นๆ หมายถึงอะไร แต่เธอก็ไม่อยากคิดไปเอง เตะตะวันอาจจะเล่นเพลงนี้ให้ทุกคนทั่วไปฟัง"เสียดายรักเธอ" บทจะนิ่งเขาก็นิ่งมาก ท่าทางที่นั่งจับคอร์ดกีตาร์อย่างตั้งใจไม่พูดไม่จา ตอบแค่ที่ถาม มันมีเสน่ห์จัง บ้าจริง“แล้วจะสอนเราเล่น..”ครืด..ครืด.."ว่า" จู่ๆ ก็มีสายเรียกเข้าจากโทรศัพท์มือถือของเขาดังเข้ามา'แดกเหล้าปะ' เขาเปิดสปีกเกอร์ดังให้รันรานาได้ยินเพราะแอบเห็นสายตาเธอที่มองตั้งแต่มือถือดังจนเขากดรับ"ไม่ว่าง" เขาไม่อยากเสียเวลาที่อยู่กับรันรานาไป ไม่ใช่โอกาสที่ใช้เวลาด้วยกันจะมีถมไป กว่าจะขึ้นมาห้องเธอได้ต้องมีข้ออ้างเจ็บตัวใช่เล่น'อะไรเข้าสิงมึงสัตว์ กูหูฝาดไปหรือไรวะ''พลาดได้ไงเส
Chapter 4(บทที่ ๔ )รันรานานั่งรอเขาที่หน้าคณะทั้งๆ ที่เพื่อนกลับกันหมดแล้ว เขาเลทมารับเธอยี่สิบนาทีกว่าเธอควรรอต่อไหม ช่างเป็นคนที่ผิดคำพูดจริงๆ เธอไม่น่าเชื่อคนแบบเขาเลย แค่ตรงเวลายังทำไม่ได้เลยคนๆ นี้"นามาแล้ว ขอโทษว่ะ" สภาพเตตะวันที่ขับมารับเธอคือมุมปากแตกช้ำมีเลือดไหล และแผลที่คิ้วหนากำลังจะหายดีก็กลับเป็นแผลใหญ่ยิ่งกว่าเดิม"เอาอีกแล้วเหรอ ไปมีเรื่องมาเหมือนวันนั้นใช่ไหม” นี่เขาจะมีเรื่องบ่อยขนาดนี้เลยเหรอ แล้วแต่ละครั้งก็เจ็บตัวไม่ใช่น้อยๆ อึดถึกทนขนาดนี้ร่างกายยังเป็นคนอยู่ไหม"ไม่ใช่แบบนั้น ขอโทษว่ะที่มาช้า" เขาคิดว่าจะแวะไปถามข่าวคราวรุ่นน้องแป๊บเดียวกลับกลายเป็นมีเรื่องต่อยตีกับคู่อริต่อ“ไม่ได้ตั้งใจ”"เฮ้อ.. ช่างมันเถอะ ไปโรงพยาบาลไหมคะ" ถึงไม่หนักเท่าวันนั้นแต่เขาควรไปเช็คร่างกายบ้าง เธอไม่ได้สนเวลาว่าจะมาช้าหรือไม่แล้ว สนแค่แผลบนใบหน้าเขาตอนนี้"เฮ้ยนา ไกลหัวใจว่ะเอาจริง" แผลแค่นี้เขาชินแล้ว ตอนนั้นมันแค่พลาดที่ปล่อยให้พวกมันมารอบกัดเฉยๆ"..." รันรานาไม่รู้จะพูดอะไรต่อจึงรับหมวกกันน็อคของเขามาสวมแล้วก้าวขาขึ้นนั่งซ้อนท้ายรถ"คลุมเหอะ" เตตะวันถอดเสื้อช็อปเปื้อนฝุ่นที่น
Chapter 3(บทที่ ๓ )เตตะวันขับรถกลับมาที่ร้านสักอีกครั้ง แต่พอขับมาถึงทำเอาปวดแผลอยู่มากเหมือนกัน เพราะต้องเกร็งแขนในการขับรถและแผลโดนลมแรงจนแสบไปหมด"ไอ้สัตว์ไต้ เลือดอาบแขนมึงละนั่น" เขมทัตที่เข้ามาเห็นเพื่อนนั่งอยู่ห้องสักด้วยภาพที่เลือดซึมอาบแขนก็ได้แต่กุมขมับ"เบาๆ ไอ้เจนมันแทงกู" เวลาที่มีเรื่องกันเขามักจะได้บาดแผลกลับมาแบบนี้เสมอจนชิน บางทีก็เป็นแผลเป็นจนต้องสักทับ"แต่ครั้งนี้มันแรงจนมึงหมดสติไปใช่เปล่ากูได้ข่าว" เขาลากเก้าอี้มานั่งใกล้ๆ เพื่อนเพื่อทำแผลให้"ข่าวไวจากไหนอีกสัตว์ กูแค่เสียเลือดเยอะเลยวูบ" ข่าวนี้จากไอ้เจมส์แน่นอนร้อยเปอร์เซ็นต์ ในกลุ่มเขามีเขมทัตนี่แหละที่พอทำแผลให้เพื่อนได้ตลอดเพราะเขาเรียนหมอ"ฮ่าๆ สมน้ำหน้า ได้ข่าวว่าสาวช่วยไว้" รู้แม่งหมดทุกอย่างจริงๆ ไอ้พวกนี้ เจมส์รู้โลกรู้"เออน่า สาวเหี้ยไรช่างมัน" เขาไม่สนใจเรื่องพรรคนี้อยู่แล้วล่ะ"แล้วเด็กวิลัยฯมึงเป็นไง โดนล่อยับเลยดิ" หลังจากที่พวกคู่อริรอบกัดพวกเขาก็ได้ยกพวกไปต่อยตีกับเด็กที่วิลัยฯเขาต่อ อาศัยจังหวะที่เขาและเพื่อนเจ็บก็โจมตีโดยไม่ทันตั้งตัว"ยับจัดๆ กูว่าจะไปดูอาการมันอยู่" แต่ตอนนี้เขาก็ขอรักษาต
Chapter 2(บทที่๒ )สี่ล้อรถยนต์เลื่อนมาจอดเทียบฟุตบาทแห่งหนึ่ง โดยมีผู้โดยสารดูแล้วเหมือนโจรลักพาตัวผู้หญิงมาแล้วเรียกรถมาส่ง แต่ดีที่รันรานาไม่ได้ทำมือหรือแสดงการขอความช่วยเหลือใดๆ คนขับจึงเบาใจได้“เธอ ขอบใจว่ะที่มาส่ง” เตตะวันเอ่ยขอบคุณรันรานาจากใจจริง เธอทั้งช่วยเขาไว้และยังอาสามาส่งเขาที่ร้าน“ไม่เป็นไรค่ะ เราแค่นั่งรถมาเป็นเพื่อนเอง” เพราะเธอไม่มีรถยนต์และขับไม่เป็นด้วย เหตุเกิดจากที่บ้านเลี้ยงมาแบบประคบประหงมเกินไป ไม่ยอมให้เธอทำอะไรเองสักอย่าง“เออนี่ ค่ารถกับค่าน้ำใจ” เตตะวันใช้มือข้างเดียวควานหากระเป๋าเงินใบเก่าโทรมของเขาลวกๆ แล้วหยิบธนบัตรสีม่วงยื่นให้เธอหนึ่งใบ“ไม่เป็นไรจริงๆ ค่ะ” เธอไม่ได้เดือดร้อนเรื่องเงิน แต่เธอได้ช่วยใครซักคนแล้วก็ต้องช่วยให้สุด ช่วยแล้วรู้สึกสบายใจดี ถามว่าตอนเจอเขากลัวไหม ก็แอบกลัว แต่จิตสำนึกก็ต้องช่วยไว้ก่อน“สักฟรีเอาปะ” ในความคิดของเตตะวันเขาไม่ได้รับคิวสักให้ใครง่ายๆ ความหมายของเขาคือเขาอยากสักให้เธอฟรีแทนคำขอบคุณ เขาไม่อยากเป็นหนี้บุญคุณใครทั้งนั้น“คะ” เป็นการอึ้งรอบที่เท่าไหร่ของวัน รันรานาก็ไม่สามารถนับได้ตั้งแต่เจอเตตะวัน“สักฟรีไง ขอบคุ
Chapter 1(บทที่ ๑ )ท้องฟ้ามืดครึ้มเริ่มมีฝนตกปรอยๆ ท่ามกลางเมืองที่เงียบสงบไร้ผู้คน มีใครบางคนกำลังเดินโซซัดโซเซไปตามริมถนน ตามเนื้อตัวเปื้อนเลือดเหตุเกิดจากบาดแผลของเขา แต่ที่เลือดมันเริ่มไหลอาบเต็มตัวเป็นเพราะว่าสายฝนที่กำลังตกใส่ตัวเขาจนเปียกไปหมด“เจ็บสัตว์” ไต้ฝุ่น หรือ เตตะวัน สบถออกมา เขากุมไหล่ขวาแน่นเพราะรู้สึกเจ็บมาก ตอนนี้ร่างกายเขาอ่อนล้าเต็มทน ทั้งแสบแผลและจะเป็นลมเพราะเสียเลือด“โชยุ!แม่บอกแล้วใช่ไหมว่าไม่ให้แอบออกมาด้านนอก” เขาได้ยินเสียงเล็กๆ แว่วมาจากข้างหน้าก่อนสติจะดับวูบ..“…”ตุบ!“กรี๊ด…!”ห้องเงียบสงบจนได้ยินแม้กระทั่งเสียงการทำงานของเครื่องปรับอากาศ เปลือกตาหนาค่อยๆ ลืมขึ้น เขาหรี่ตามองแสงไฟที่ให้ความรู้สึกไม่คุ้นเคยแต่รู้สึกอบอุ่นใจขึ้นมา โชคดีที่ยังไม่ตาย..“เมี๊ยว!”“เฮ้ย! โอ๊ย!”“ฟื้นแล้วเหรอคะคุณ อย่าพึ่งรีบลุกสิ” เขามัวแต่ตกใจแมวตัวสีดำตาฟ้านี่ แล้วเกิดความสับสนมึนงงไปหมดจนไม่ทันได้เห็นว่ามีใครอยู่ในห้องด้วย“…” เตตะวันไม่ได้พูดอะไรออกไป เขาพยายามคิดทบทวนสิ่งที่เกิดขึ้น“อ๋อ..คือเราออกไปตามแมวอยู่ด้านล่างคอนโด แล้วจู่ๆ คุณก็เป็นลมล้มตึงตรงหน้าเราค่ะ เลย