นักเลงอย่างเขาเคยกลัวใครที่ไหน แต่กลับยัยหมากระเป๋านี่ถึงได้ยอมนัก แตะต้องสีกายังไม่เคยแต่ทำไมกับเธอถึงชอบอยากเข้าใกล้ตลอด "ไต้ฝุ่น เรียกเฮียไต้ก็ได้" "คุณไม่ใช่พี่เราค่ะ" รันรานาแม่งไทป์เขาเลยว่ะ เขาจะทำอย่างไรดี ผู้หญิงคนเดียวที่รู้สึกว่าใช่ขนาดนี้ เขายากที่จะปล่อยเธอไปแต่เขาก็ไม่สามารถมีเมียทั้งๆ ที่เป็นนักเลงแบบนี้ได้เหมือนกัน ยังไม่พร้อมที่จะรับผิดชอบชีวิตใครด้วยซ้ำ ลำพังตัวเขาเองยังเอาตัวไม่รอด “เรารู้สึกดีบางครั้ง แต่ไม่รู้ว่ามันเป็นความชอบแบบไหน อาจจะแบบพี่ชาย” “ไม่เป็นไรเลยว่ะเธอ” -- เธอไม่เคยรู้สึกแบบนี้มาก่อน เตตะวันเคยอยู่ตรงนี้ตลอด คอยตามเธอไปทุกที่ คอยนั่งเฝ้าเวลาเธออ่านหนังสือ แต่ตอนนี้ไม่มีเขาแล้ว และมันทำให้เธอรู้แล้วว่า เธอไม่ได้อยากให้เขาเป็นแค่ พี่ชาย อย่างที่เธอเคยพูดออกไป เธอชอบเขา และเธออาจจะพลาดอะไรบางอย่างไปแล้วก็ได้ “ออกไปเถอะ… อย่าให้ฉันพูดซ้ำอีก” “ถ้าเฮียอยากให้เรากลับไป เราก็จะกลับ… แต่พรุ่งนี้เราจะมาอีกค่ะ” เขาทำเหมือนเธอไม่มีค่า บางทีความรู้สึกของเตตะวันอาจจะเป็นเพียงพายุเหมือนกับชื่อเขา
View MoreChapter 1
(บทที่ ๑ )
ท้องฟ้ามืดครึ้มเริ่มมีฝนตกปรอยๆ ท่ามกลางเมืองที่เงียบสงบไร้ผู้คน มีใครบางคนกำลังเดินโซซัดโซเซไปตามริมถนน ตามเนื้อตัวเปื้อนเลือดเหตุเกิดจากบาดแผลของเขา แต่ที่เลือดมันเริ่มไหลอาบเต็มตัวเป็นเพราะว่าสายฝนที่กำลังตกใส่ตัวเขาจนเปียกไปหมด
“เจ็บสัตว์” ไต้ฝุ่น หรือ เตตะวัน สบถออกมา เขากุมไหล่ขวาแน่นเพราะรู้สึกเจ็บมาก ตอนนี้ร่างกายเขาอ่อนล้าเต็มทน ทั้งแสบแผลและจะเป็นลมเพราะเสียเลือด
“โชยุ!แม่บอกแล้วใช่ไหมว่าไม่ให้แอบออกมาด้านนอก” เขาได้ยินเสียงเล็กๆ แว่วมาจากข้างหน้าก่อนสติจะดับวูบ..
“…”
ตุบ!
“กรี๊ด…!”
ห้องเงียบสงบจนได้ยินแม้กระทั่งเสียงการทำงานของเครื่องปรับอากาศ เปลือกตาหนาค่อยๆ ลืมขึ้น เขาหรี่ตามองแสงไฟที่ให้ความรู้สึกไม่คุ้นเคยแต่รู้สึกอบอุ่นใจขึ้นมา โชคดีที่ยังไม่ตาย..
“เมี๊ยว!”
“เฮ้ย! โอ๊ย!”
“ฟื้นแล้วเหรอคะคุณ อย่าพึ่งรีบลุกสิ” เขามัวแต่ตกใจแมวตัวสีดำตาฟ้านี่ แล้วเกิดความสับสนมึนงงไปหมดจนไม่ทันได้เห็นว่ามีใครอยู่ในห้องด้วย
“…” เตตะวันไม่ได้พูดอะไรออกไป เขาพยายามคิดทบทวนสิ่งที่เกิดขึ้น
“อ๋อ..คือเราออกไปตามแมวอยู่ด้านล่างคอนโด แล้วจู่ๆ คุณก็เป็นลมล้มตึงตรงหน้าเราค่ะ เลยพาขึ้นมาที่นี่แล้วก็ทำแผลให้ค่ะ” บุคลิกเธอดูเป็นคนขี้อายแต่กลับพูดออกมาเยอะแยะมากมาย หน้าตาเธอก็จิ้มลิ้มน่ารักมาก ใส่แว่นซะด้วย
“ขอบใจ” เตตะวันแทบไม่มีแรงตอบ เขาทิ้งตัวลงนอนบนเตียงต่อ ไม่มีแรงเลย
“อะ..เอ่อคุณงีบอีกซักพักก็ได้ค่ะ แต่ต้องกินข้าวต้มกับยาก่อนเพราะคุณตัวร้อนมากค่ะ” เธอไม่มีท่าทีกลัวเขาเหมือนกับคนอื่น ทั้งๆ ที่เป็นแค่ผู้หญิงตัวเล็กๆ แถมดูทรงแล้วน่าจะพักอยู่คนเดียวด้วย
“ไม่กลัวรึไง”
“ไม่ค่ะ กลับมาต้องกินให้หมดแล้วพร้อมกินยานะคะ” ว่าแล้วเธอก็เดินออกจากห้องนอนไป ใครวะไอ้เหี้ย! นี่เมียกูรึเปล่า
“สั่งจัง” สั่งซะเป็นแม่เลย แต่ก็ยังดีที่เธอช่วยเขาไว้ ต้องขอบคุณสักหน่อยแล้ว
ร่างบางจัดการทำธุระต่างๆ แล้วกลับมายังในห้องที่เงียบสงบของเธอ ถึงตอนนี้มีใครบางคนอยู่ด้วยแต่ก็ยังคงเงียบเหมือนเดิม
"โชยุ! ข่วนโซฟาอีกแล้วนะ" รันรานา หรือ รานา นักศึกษาแพทย์ปีสอง เธอกำลังดุลูกของเธอ ลูกที่ว่าไม่ใช่คนแต่อย่างใด กลับเป็นเจ้าแมวสีดำตาฟ้าที่กำลังข่วนโซฟาอยู่
"เมี๊ยว!" เจ้าโชยุน้อยร้องตอบเหมือนมันรู้ว่าเธอกำลังดุอยู่
"มานี่เร็วอ้วน" เธออุ้มมันขึ้นมาแนบอก มืออีกข้างก็ถือเสื้อผ้าที่ไปยืมเพื่อนผู้ชายมาให้เขาได้ผลัดเปลี่ยน เขาอยู่ในชุดเปียกปอนเปื้อนเลือดมาตั้งแต่เมื่อคืนเธอไม่กล้าเปลี่ยนให้เขา ตอนนี้มันคงอับมากแล้ว
ก๊อก ก๊อก
“คุณ”
รันรานาเคาะประตูห้องนอนสองสามทีแต่เขาไม่ได้เปิดหรือขานตอบอะไร เธอเลยถือวิสาสะเปิดประตูเข้าไป เพราะอย่างไรก็เป็นห้องเธอ หรือหากเขาเป็นลมล้มพับไปจะได้ช่วยทัน
"..." พอเปิดเข้ามาก็เจอกับภาพที่เตตะวันนั่งมองถ้วยข้าวต้มที่พึ่งถูกกินหมดไปอย่างนิ่งๆ
"เราเอาเสื้อผ้ามาให้คุณเปลี่ยนค่ะ เสื้อผ้าคุณเปียกฝนและเปื้อนเลือด" เธอค่อยๆ เดินไปวางเสื้อผ้าไว้ใกล้ตัวเขา จะได้หยิบได้ง่าย พอมองดีๆ แล้วเขาก็หน้าตาดีใช่เล่น ที่ใบหน้าดูโหดอาจเป็นเพราะรอยแผลแตกบนคิ้ว และรอยฟกช้ำที่มุมปาก แต่ดันตาชั้นเดียวแล้วหางตาเฉี่ยวขึ้น ทำให้เขามีเสน่ห์อย่างไม่เหมือนใคร
อีกทั้งการเจาะคิ้ว เจาะหู แถมมีรอยสักเต็มตัวไปหมดเลยทำให้ดูเท่ห์และน่าเกรงขาม เอาเป็นว่าเขาลุคดูแบดแต่หล่อ คิดอะไรของเธอนาเอ๊ย
"มองเหี้ยอะไรวะ"
"..." ทำเอารันรานาอ้าปากค้างอึ้งไปชั่วขณะ
"เอ่อ..โทษที หมายถึงมองอะไรขนาดนั้นวะ ครับ" เตตะวันพอรู้ตัวว่าตัวเองพูดออกไปด้วยความเคยชินก็รีบขอโทษเธอ ทำไงได้ก็เขาเป็นคนแบบนี้ จะให้มาพูดเพราะๆ มันก็ลืมตัว
"เปล่าค่ะ งั้น รีบเปลี่ยนเสื้อผ้าเถอะค่ะ" รันรานาคิดว่าเขาไม่ได้ดูเป็นนักเลงแค่ลุค อาจจะนิสัยเขาด้วย น่ากลัวอยู่เหมือนกัน
"อืม" เพราะไม่ได้สนิทกันเตตะวันก็ไม่รู้จะพูดอะไรกับเธอ ปกติเขาก็ไม่ใช่คนพูดเยอะอยู่แล้ว ร่างสูงโปร่งลุกยืนขึ้นแล้วดึงเสื้อขึ้นพร้อมจะถอด
"อะ..เอ่อ จะถอดตรงนี้เลยเหรอคะคุณ" รันรานาตกใจเบิกตากว้าง ถึงเธอจะเรียนหมอต้องเห็นร่างกายคนไข้แต่เธอก็พึ่งกำลังเรียนอยู่ และยังไม่เคยเห็นร่างกายผู้ชายตอนถอดเสื้อหรือชุดแบบนี้ตรงๆ
"ให้ถอดตรงไหน" เตตะวันงงงวย จะให้เขาถอดตรงไหนก็เธอบอกให้เขารีบเปลี่ยนชุด
"ในห้องน้ำก็ได้ค่ะ ยกแขนไหวใช่ไหมคะ" เธอถามเพราะเห็นตอนที่เขากำลังจะยกแขนถอดเสื้อ ถึงใบหน้าเขาจะนิ่งแต่ก็มีวูบนึงที่ทำสีหน้าเหยเกเพราะความเจ็บ และเริ่มมีเลือดซึมตรงผ้าพันแผล
"จะถอดให้เหรอ เอ่อ.. ชื่ออะไร" พอเตตะวันจะเรียกชื่อเธอแต่กลับนึกขึ้นได้ว่าไม่รู้ว่าเธอชื่ออะไร
"เรียกนาก็ได้ค่ะ คุณชื่ออะไรคะ" เธอยิ้มอย่างเป็นมิตร รันรานาเป็นคนยิ้มแย้มแจ่มใส อารมณ์ดี ซึ่งแตกต่างจากเตตะวันโดยสิ้นเชิง
"ไต้ฝุ่น เรียกเฮียไต้ก็ได้" เพราะเป็นผู้มีพระคุณช่วยชีวิตเขาไว้หรอกนะจึงอนุญาตให้เรียกได้ ผู้หญิงตัวเล็กๆ จิ้มลิ้มมาเรียกเขาแบบนี้คงน่ารักดีว่ะ ดูแล้วเธอคงเด็กกว่าเขาอยู่ประมาณนึง
เฮียๆ นี่ใช่ว่าเขาจะยอมให้ใครมาเรียกง่ายๆ เห็นแก่เธอช่วยเขาไว้ครั้งนี้เลยให้เรียกก็แล้วกัน น่ารักก็ส่วนน่ารัก
"คุณไม่ใช่พี่เราค่ะ" เฮียเธอมีคนเดียวคือนารานิลเท่านั้น
ตอนพิเศษตอนนี้สามารถเรียกรันรานาว่าหมอนาอย่างเต็มตัว เวลาผ่านไปเร็วเหมือนราวกับว่าเรื่องราวทั้งหมดพึ่งเกิดขึ้น ราวกับว่าเธอกับเตตะวันพึ่งเจอกันเมื่อวาน แต่ความจริงแล้วเขากับเธอคบกันมาย่างเข้าปีที่สี่แล้ว และวันนี้คือวันครบรอบของเขาและเธอ"หมอนา น้ำเต้าหู้ครับ""ขอบคุณค่ะหมอแดน" และใช่ ไม่รู้ว่าพระเจ้าเล่นตลกหรือเวรกรรมอะไรของเธอจึงได้ทำงานอยู่โรงพยาบาลเดียวกันกับหมอแดน ไม่ใช่ว่าเขาไม่ดีแต่หากเตตะวันมาเห็นเข้าคงได้นองเลือดอีกแน่"ไม่ต้องห่วงหรอกครับ ผมไม่ยุ่งหรอกสบายใจได้" เรื่องอะไรเขาต้องเอาตัวเข้าไปเสี่ยง ตอนนี้เขามองรันรานาเป็นแค่เพื่อนร่วมอาชีพเพียงคนนึงเท่านั้น ในเมื่อเธอมีแฟนเป็นตัวเป็นตนเขาก็ไม่ยุ่ง"ขอบคุณนะคะที่เข้าใจ แล้วก็ขอโทษเรื่องที่ผ่านมาค่ะ" เขาต้องมาเจอเรื่องราวให้เจ็บตัวเพราะเธอ "ไม่เป็นไรครับมันผ่านมาแล้ว"ครืด..ครืด"ตายยากเหมือนกันนะเนี่ยเฮีย" พอเห็นชื่อสายเรียกเข้าโชว์หราอยู่บนหน้าจอมือถือตนเองก็ได้แต่ขนลุก ทำไมเขาถึงโทรถูกเวลาเสียจริง"ฮะโหลค่ะ"'เลิกงานยัง'"เลิกพอดีเลยค่ะกำลังเก็บของ"'พอดีเดี๋ยวเข้าไปรับ'"โอเคค่ะ รีบมานะ" พอวางสายเธอก็รีบเก็บของใส่
Chapter 37( บทที่ ๓๗ บทส่งท้าย... )บทส่งท้าย..หลังจากวันนั้นก็ผ่านไปหลายเดือนเตตะวันและรันรานายังคบหาดูใจกันไปเรื่อยๆ เนื่องจากพวกเขาเป็นคนซ้ำๆเดิมๆไม่ได้หวือหวาอะไรมากและการงานของเตตะวันพึ่งลงตัว รันรานาเองก็เริ่มทำโปรเจคมากมายเลยใช้ชีวิตกันแบบเรื่อยๆไปก่อน แต่ต่อให้เหนื่อยแค่ไหนเตตะวันก็จะกลับมานอนกับรันรานาทุกๆวัน"เออๆไอ้ห่า""เฮียพูดกับเพื่อนดีๆหน่อยค่ะ อารมณ์เสียแต่เช้าเลย" เธอยื่นแก้วนมร้อนให้เขา วันนี้วันอาทิตย์เขาได้หยุดงานแต่ก็คุยโทรศัพท์กับเพื่อนแต่เช้า ส่วนเธอน่ะหรือ! ปิดซัมเมอร์วันแรกจ้า ดีใจสุดๆ"ปกติ" ปกติเขาก็เป็นคนพูดแบบนี้แต่รันรานาไม่ชินเสียที อาจจะเป็นเพราะว่าเขาไม่ได้พูดคำหยาบตอนอยู่กับเธอซักเท่าไหร่แล้ว"วันนี้เราจะทำอะไรดีคะ" ด้วยความดีใจที่ได้หยุดวันแรกทำให้เธอตื่นตัวและตื่นเต้นสุดๆ"ไม่รู้" ข้อเสียของเตตะวันคือเป็นผู้ช๊ายผู้ชายมากเกินไป ดิบเถื่อนจนไม่มีมุมหวาน แต่รันรานาก็มองว่ามันน่ารักดีเพราะเธอเป็นคนแรกของเขาแต่บางทีมันก็น่าน้อยใจ"เราเบื่อห้อง""เมี้ยว" โชยุเองก็เห็นด้วย เดินมาคลอเคลียขาใหญ่เลย"งั้นไปร้านสักละกัน""อีกแล้วเหรอคะ เราพึ่งไปมาวันก่อนเองน
Chapter 36( บทที่ ๓๖ )พอมาถึงร้านแดนก็บริการดีและไม่ได้ล่วงเกินอะไรเธอ เขาออกจะดูไปทางคนดีมากด้วยซ้ำและการมาเที่ยวร้านเหล้าก็ไม่ควรตัดสินนิสัย คนเที่ยวกลางคืนไม่ใช่ว่าแปลว่าเป็นคนไม่ดี"อยากลองไปแดนซ์ไหม" นั่งดื่มกันไปซักพักคุยอะไรนิดหน่อยแดนก็เริ่มชวยเธอออกไปเต้น"เราเต้นไม่เป็น" เธอเต้นไม่เป็นจริงๆ มันดูตลกๆแข็งๆมากแน่"ไม่เอาน่า มาเร็ว" แดนดึงมือเธอไปที่ตรงผับ เป็นครั้งแรกที่เขาโดนตัวเธอแบบนี้"เราเต้นไม่เป็นนะ" เธอยืนมองหน้าเวทีที่มีดีเจและทามกลางผู้คนที่เต้นกันอย่างเมามัน"โยกเบาๆพอ แบบนี้" แดนโยกตัวเบาๆตามจังหวะเพลงให้ดู แบบนี้ทำให้เขามีเสน่ห์มากขึ้น"แบบนี้เหรอ" ด้วยฤทธิ์แอลกอฮอล์นิดหน่อยในตัวเธอทำให้เธอกล้าทำ ปกติก็ไม่ได้คอแข็งเท่าไหร่ทั้งสองคนเต้นกันอย่างเพลิดเพลิน มีบางจังหวะอาจจะโดนตัวแนบชิดกันบ้างเพราะสถานที่บันเทิงคนเบียดเสียดแต่เขาก็ไม่เคยฉวยโอกาสกับเธอเลย แบบนี้สิสุภาพบุรุษ ไม่เหมือนกับอีกคนถนัดใช้แต่กำลัง"นา!""ฮะ..เฮีย" เขามาได้ยังไงกัน"มึงใช่ไหมที่พาเมียกูมา!"พลั๊ว! พลั๊ว!"เฮีย! เฮียอย่า!พอแล้ว!" เธอเองก็โลกหมุนไปหมดไม่มีแรงจะห้ามเขาเท่าไหร่ ไม่น่าดื่มเกินลิมิ
Chapter 35( บทที่ ๓๕ )รันรานาออกมาด้วยความรู้สึกหลายอย่างปนกัน เธอน้อยใจที่ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าตอนนี้สถานะเธอและเตตะวันเป็นอะไรกันแต่เธอก็ยอมอยู่ข้างเขามาตลอด และเตตะวันก็ไม่ได้ผลักไสจินดาออกไปเลย เวลาก็ไม่ค่อยจะได้ใช้ร่วมกันเหมือนแต่ก่อนแล้ว เธอควรอยู่ต่อหนีถอยดี"เฮ้อ.." รันรานาเดินตามถนนสายนึงไปเรื่อยๆ ขนาดเธอวิ่งออกมาขนาดนี้เตตะวันยังไม่ได้ตามเธอมาเลย"หรือว่า.." หรือว่าเขาจะเบื่อเธอ เธอจืดชืดเกินไปหรือไม่ ขนาดเธอยังเบื่อตัวเองที่เอาแต่ทำตัวเดิมๆจืดๆ คิดได้ดังนั้นเธอจึงเดินแวะเข้าร้านขายเสื้อผ้าด้านหน้าในตรอก ดูแล้วเป็นร้านที่หรูหราและสะอาดแต่ทำไมคนช่างน้อยเหลือเกิน "สวัสดีค่า ยินดีต้อนรับค่ะลูกค้า" พนักงานร้านยิ้มแย้มแจ่มใสเข้ามาต้อนรับ"มีชุดแนะนำไหมคะ ขอแบบสวยๆเซ็กซี่แต่ไม่โป๊มากค่ะ" เธอแค่อยากเปลี่ยนลุควับๆแวมๆบ้างแต่ก็ไม่ได้อยากใส่โป๊ๆเพราะมันไม่ใช่เธอ"ยินดีเลยค่ะลูกค้า ลูกค้าสวยหุ่นดีใส่อะไรก็สวยค่ะ" ไม่ได้กะจะอวยขายอะไรมากแต่ผู้หญิงคนนี้สวยจริงๆ หุ่นก็ดีแต่แต่งตัวดูแก่ไปหน่อยพนักงานคิดในใจ"อันนี้คอลเลคชั่นที่ยังไม่เปิดตัวเลยค่ะแอบกระซิบ" พนักงานหยิบเสื้อสองตัวออก
Chapter 34( บทที่ ๓๔ )ข่าวของเตตะวันลงหนังสือพิมพ์บางส่วนในประเทศแต่กลับเป็นข่าวที่ติดเทรนในโซเชี่ยล จู่ๆลูกชายคนเล็กที่หายไปของเจ้าสัวเช้งก็กลับมา นี่มันอะไรกัน ผู้คนต่างให้ความสนใจเป็นอย่างมาก อีกทั้งภรรยาเจ้าสัวเสียชีวิต"ดูคนไม่ผิดจริงๆ" ร่างระหงส์ผมบลอนด์ทองเผยยิ้มมุมปาก ว่าแล้วทำไมเขาถึงมีออร่าน่าสนใจขนาดนี้ ตอนแรกเป็นนักเลงพอรับได้แต่ตอนนี้ยิ่งอยากได้ไปใหญ่ช่วงนี้เตตะวันและรันรานาต่างคนต่างยุ่ง ไม่มีเวลาให้กันและกันเท่าไหร่ เตตะวันเข้าสู่วัยผู้ใหญ่เต็มตัวและต้องรับผิดชอบงานมากมาย ส่วนรันรานาก็วุ่นกับการสอบ"คราวนี้มีเวลาให้เราแล้วใช่ไหม" ถึงปากจะบอกว่าย้ายมาอยู่ใกล้ๆเธอ แต่ส่วนมากเขาก็ทำงานหามรุ่งหามค่ำจนไม่ได้กลับมานอนห้อง "โทษที ให้" เขายุ่งจริงๆช่วงนี้ วันนี้ก็เจียดเวลาช่วงพรบค่ำมาได้จึงรีบมาหาเธอแต่ก็ไม่วายจอดซื้อดอกทานตะวันมาฝากเธอ เพราะรู้ว่ารันรานาคงงอนเขาแน่จึงค้นหาในอินเตอร์เน็ตว่าง้ออย่างไรดี"ฉลาดง้อผู้หญิงด้วยดอกไม้เหรอคะ" พอเห็นมุมโรแมนติกของเขาเธอก็ยิ้มออกมา ให้ตายสิจะให้งอนนานได้อย่างไร"ทานตะวันหนึ่งดอก" เตตะวันยิ้มมุมปากเกาท้ายทอยแก้เขิน"รักแรกและรักเดียวเ
Chapter 33( บทที่ ๓๓ ) รันรานากลับมานอนเล่นที่ห้องด้วยอารมณ์น้อยใจ เธออุตส่าห์ตั้งตารอแต่เขาดันกลับมาเทได้ง่ายๆ เธอนั่งรอนอนรอเขาอยู่ร่วมหลายชั่วโมง ข้าวก็ไม่มีอารมณ์กิน พอตกดึกเตตะวันกลับมาพร้อมสภาพที่ไม่ค่อยดีเท่าไหร่"เฮียไปไหนมา.." ความคิดที่คิดไว้ว่ากลับมาจะเป็นคนให้เขามาง้อได้พังทลายลง หลังจากเห็นสภาพของเขา"นา แม่เฮีย แม่เฮีย.." ตายแล้ว..เตตะวันแทบเสียสติ โลกทั้งใบของเขาได้จบชีวิตลง เขาพึ่งได้เห็นแม่และพูดคุยอีกครั้งในรอบหลายปี และเป็นวันสุดท้ายด้วย ใจของเตตะวันสลายในวันนี้"เฮีย.." รันรานาพอจะเดาได้ว่าเกิดอะไรขึ้น เธอคลุกคลีอยู่กับการเกิดแก่เจ็บตายจึงรับรู้ได้ถึงความรู้สึก"นาเฮีย ฮึก..ไม่ไหวว่ะ" ตั้งแต่โตมาแม้จะชกต่อยเจ็บปางตายแค่ไหนก็ไม่เคยร้องไห้ แต่วันนี้เขาได้แตกสลายและอ่อนแอเหลือเกิน "เราเสียใจด้วยนะ กอดไหม" พอเธออ้าแขนร่างหนาก็ทรุดเข้าไปกอดทันที เขาร้องไห้..แล้วกอดเธอแน่น ตอนนี้เขาจมดิ่งกับความเสียใจเป็นที่สุด ไม่สนว่าจะร้องไห้อ่อนแอให้เธอเห็น นักเลงก็เสียใจเป็น"เราแม่งไม่ได้เรื่องเลยว่ะ" เขาเหมือนคนเสียสติที่แม้กระทั่งคำแทนตัวเองยังจำไม่ได้ เขารู้สึกว
Comments