Share

6.ช่วยแบบฟรีๆ

last update Huling Na-update: 2024-11-12 14:30:28

 พราวรวีกลับมาถึงบ้านเกือบบ่ายโมง หญิงสาวรีบเปลี่ยนเสื้อผ้าและทานอาหารที่แวะซื้อจากร้านของพี่เจนนี่ก่อนเข้ามา

เธอมองนาฬิกาที่ผนัง ยังเหลือเวลาอีกหลายชั่วโมงก่อนจะถึงเวลาเลิกงานของญาดา หญิงสาวเก็บจานชามล้างจนสะอาด ดูความเรียบร้อยของตัวเองอีกครั้งก่อนจะขับรถญี่ปุ่นคันเล็กออกจากบ้าน ตรงไปยังสำนักพิมพ์ที่ญาดาทำงานอยู่

“เอางานมาส่งพี่เหรอคะน้องพราว ไม่เห็นต้องมาเองเลยนะคะ ส่งทางเมลแบบเดิมก็ได้”

“เปล่าค่ะพี่ดา พราวมีเรื่องจะถาม”

“ถามเรื่องอะไร ท่าทางเครียดเชียว”

“พราวอยากได้เบอร์โทรของผู้ชายที่พี่ดาจ้างไปให้พราวเมื่อคืนค่ะ”

“อะไรนะ ใครจ้างใคร พี่ไม่เห็นรู้เรื่องเลย”

พราวรวีเล่าเหตุการณ์ที่ชายคนนั้นแนะนำตัวเองกับเธอให้กับบรรณาธิการรุ่นพี่ฟังอย่างไม่มีปิดบัง

“พี่ไม่ได้จ้างใครไปจริงๆ นะ พี่จะทำอย่างนั้นทำไม”

“แต่ผู้ชายคนนั้นเขารู้จักกับพี่”

“ผู้ชายที่ว่าชื่ออะไรหน้าตาเป็นยังไงไหนลองบอกพี่สิ” ญาดามีลางสังหรว่าผู้ชายคนที่นักเขียนสาวพูดถึงจะเป็นคนเดียวกับญาติของเธอ

“ตัวสูง ใบหน้าคม คิ้วเข้ม รวมๆ แล้วก็หล่อค่ะ เขาบอกว่าชื่อวัธน์” เธอตอบไปตามที่ได้รู้มา แต่ก็ไม่ค่อยแน่ใจเท่าไหร่ว่าเขาชื่ออะไรกันแน่เพราะตอนนั้นเธอสติไม่ค่อยจะเต็มร้อยเท่าไหร่

ใบหน้าของญาดาเปลี่ยนไปทันทีเมื่อได้ยินชื่อของผู้ชายคนนั้น หญิงสาวรีบคว้าโทรศัพท์ขึ้นมากดโทรออกทันที

“พราว รอพี่ตรงนี้จะ พี่ขอไปคุยธุระเดี๋ยว”

เดินออกมาจากห้องก็ตรงไปยังห้องประชุมเล็กที่ตอนนี้ไม่มีใครใช้งาน พอดีกับคนปลายสายกดรับ

“พี่วัธน์ บอกดามาว่ามันเกิดอะไรขึ้น พี่วัธน์เอาชื่อดาไปอ้างไปหลอกพราวใช่ไหม”

“เดี๋ยว ดา ใจเย็นก่อนดาพูดเรื่องอะไร”

“อย่าทำเป็นไม่รู้เรื่องนะ วันนี้พราวมาหาดาที่บริษัท มาขอเบอร์โทรพี่วัธน์”

“ก็ให้เธอไปสิครับ”

“บอกดามาก่อนว่ามันเกิดอะไรขึ้น”

กวีวัธน์บอกว่าเขาแค่เข้าไปทักทายพราวรวีที่กำลังเมาและจะออกไปกับคนแปลกหน้า และที่ต้องอ้างชื่อของญาดาก็เพราะอยากให้เธอไว้ใจ ชายหนุ่มเล่าแค่นั้นเพราะไม่อยากเธอเสียหายไปมากกว่านี้

“แค่นั้นแน่ใช่ไหมพี่วัธน์”

“ถ้าไม่เชื่อพี่ก็ไปถามคุณพราวเองสิว่าแค่นั้นหรือเปล่า” เขาได้แต่ภาวนาว่าขอให้พราวรวีไม่ได้เล่าเรื่องราวลึกซึ้งที่เกิดขึ้นให้กับญาติผู้น้องฟัง

วางสายจากกวีวัธน์แล้วญาดาก็กลับมาห้องทำงานของตนเองอีกครั้ง

“ตงลงยังไงคะพี่ดา”

“พี่ไม่ได้จ้างจริงๆ นะ”

“พี่ดา เขาบอกรู้จักพี่นะคะ”

“อือ เขาเป็นญาติห่างๆ ของพี่เอง เขาบอกว่าจำพราวได้เพราะเคยเห็นรูปที่พราวถ่ายกับพี่ในเฟซบุ๊ก”

“แค่นั้นเหรอคะ” หญิงสาวพยายามคาดคั้นเอาคำตอบ

“แค่นั้นจริงๆ พราวมีอะไรหรือเปล่าหรือพี่วัธน์ทำอะไรพราว”

“เปล่าค่ะ พราวแค่อยากได้เบอร์เขาอยากคุยกับเขาเรื่องเมื่อคืนนิดหน่อย”

“ไม่มีอะไรแน่นะ” เธอถามนักเขียนสาวอีกครั้ง

“แน่ค่ะ”

เมื่อได้เบอร์โทรศัพท์ของผู้ชายคนนั้นแล้วพราวรวีก็ขอตัวกลับ

พราวรวีกลับมาถึงรถของตัวเองหญิงสาวคาดเข็มขัดนิรภัยและสตาร์ทเครื่อง แต่ยังไม่ยอมเหยียบคันเร่ง เธอลังเลว่าจะโทรศัพท์หาเขาตอนนี้หรือจะรอเวลาครบสองสัปดาห์แล้วค่อยไปเจอะเลือดที่โรงพยาบาลตามที่อ่านมาจากอินเทอร์เน็ต

กว่าหญิงสาวจะตัดสินใจได้ก็ผ่านไปเกือบสิบนาที เธอคิดว่าโทรไปถามเขาตอนนี้ดีกว่าปล่อยเวลาผ่านไปแล้วตัวเองก็จมอยู่กับความเครียดอีกสองสัปดาห์

มือเรียวกดหมายเลขสิบตัวที่ได้มาจากญาดา ทวนตัวเลขจนครบแล้วกดโทรออก

เธอรู้สึกหัวใจเต้นแรงเหมือนออกกำลังกายอย่างหนัก รู้สึกได้ว่าการรอคอยมันช่างทรมานเหลือเกิน

“คุณกวีวัธน์ใช่ไหมคะ” เสียงหวานรีบถามทันทีเมื่ออีกฝ่ายกดรับ

“ครับ” เสียงตอบรับแบบงงๆ

“ฉันขอถามอะไรคุณหน่อย คุณตรวจเลือดครั้งสุดท้ายเมื่อไหร่ คุณมีโรคติดต่อร้ายแรงอะไรหรือเปล่า มีความสัมพันธ์คนอื่นโดยไม่ได้ป้องกันครั้งสุดท้ายเมื่อไหร่” หญิงสาวรัวคำถามยาวจนอีกคนอดหัวเราะไม่ได้

“ใจเย็นคุณ คุณเป็นใครครับ จู่ๆ ก็มาถามอะไรแบบนี้ผมงงไปหมดแล้ว”

“ฉัน..” เธอไม่รู้จะตอบเขายังไง

“ว่าไงครับ คุณเป็นใคร โทรผิดหรือเปล่าครับ” กวีวัธน์รู้แล้วว่าเธอคือพราวรวี เพราะเมื่อครู่ญาดาเพิ่งโทรมาบอกเขาว่าหญิงสาวอยากคุยด้วย แต่ก็แกล้งทำเป็นไม่รู้ไว้ก่อน

“ฉันพราวรวี”

“คุณพราวรวี อ้อ คุณคนคนเมื่อคืนสินะครับ โทรมาหาผมแบบนี้อย่าบอกนะครับว่าอยากเรียกใช้บริการผมอีก”

“พูดอะไรบ้าๆ” แม้จะอยู่คนเดียวในรถแต่หญิงสาวก็อายจนหน้าแดง

“ถ้าไม่ใช่เรื่องเมื่อคืน จะมีเรื่องอะไรที่เราจะคุยกันอีกล่ะ”

“คุณช่วยตอบคำถามที่ฉันถามไปเมื่อกี้ได้ไหม”

“คุณถามว่าอะไรบ้างนะผมฟังไม่ทัน”

พราวรวีถอนหายใจเฮือกใหญ่ก่อนจะถามเขาไปอีกครั้ง เมื่ออีกฝ่ายเงียบไปหญิงสาวก็เริ่มใจคอไม่ดี

“ไม่ต้องกังวลเรื่องโรคหรอกครับ ผมว่าคุณควรกังวลเรื่องท้องดีกว่าไหม” น้ำเสียงเขาจริงจังขึ้นเพราะเมื่อเช้าอารมณ์ของเขามันรุนแรงจนหลงลืมที่จะป้องกัน แต่ถึงถ้าเขาอยากจะป้องกันก็คงทำไม่ได้เพราะถุงยางอนามัยถูกใช้หมดไปตั้งแต่ตอนกลางคืนแล้ว

“คุณมั่นใจใช่ไหมคะ ว่าคุณปลอดภัยดี”

“อืม ผมมั่นใจ”

“ค่อยโล่งอกไปที”

“ผมนึกว่าคุณจะโทรมาโวยวายเสียอีก”

“ฉันก็อยากทำอย่างนั้น แต่ถึงโวยวายไปมันก็เปลี่ยนแปลงอะไรไม่ได้ ตอนนี้ขอแค่ไม่ติดโรคก็พอแล้ว” หญิงสาวคิดอย่างนั้นจริงๆ เพราะตอนนี้พราวรวีไม่ใช่เด็กวัยรุ่นที่ยังเรียนไม่จบ แต่เธอโตมากพอที่จะรับผิดชอบชีวิตของตัวเองได้

“คุณไม่เสียใจเลยเหรอ ที่คนแรกของคุณไม่ใช่แฟนหรือคู่รัก”

“เสียใจสิ แต่มันกลับไปแก้ไขอะไรไม่ได้แล้ว ฉันไม่ใช่สาวน้อยอ่อนต่อโลกที่ไม่เข้าใจเรื่องพวกนี้หรอกนะ”

“พูดอย่างกับผ่านผู้ชายมาเยอะ” เขาแปลกใจกับความคิดของเธอเป็นอย่างมาก

“ไม่ต้องมาตอกย้ำหรอกน่า ถึงฉันจะไม่ได้ช่ำชองเรื่องบนเตียง แต่ก็มีความรู้มากพออยู่หรอก”

“อยากเก่งขึ้นไหมล่ะ”

“ไม่ล่ะ” หญิงสาวรีบปฏิเสธ หัวใจเธอเต้นแรงจนแทบทะลุออกจากอก

“จะไม่เรียกร้องให้ผมรับผิดชอบหน่อยเหรอครับ”

“อย่าเลยค่ะ”

“แต่ผมอยากรับผิดชอบนะครับ อยากเจอคุณอีก” กวีวัธน์ไม่เข้าใจว่าทำไมถึงพูดแบบนั้นออกไป

ถ้าเธอให้เขารับผิดชอบขึ้นมาเขาจะรับผิดชอบอย่างที่พูดไหม เพราะตอนนี้หัวใจของเขามันเย็นชากับเรื่องความรัก เขายังไม่พร้อมจะรักใครเพราะรักครั้งก่อนทำให้เจ็บจนแทบกระอัก

“ผู้หญิงเขาไม่เรียกร้องให้รับผิดชอบ คุณควรจะดีใจนะคะ เรื่องท้องไม่ต้องกังวลหรอก อีกสองวันรอบเดือนฉันก็มาแล้ว เพราะฉะนั้นนี่ถือเป็นระยะปลอดภัยของฉัน”

กวีวัธน์ต้องอึ้งกับความคิดของเธออยู่ไม่น้อย ถ้าเป็นคนอื่นอาจเรียกร้องให้เขารับผิดชอบหรือไม่ก็อาจจะอยากคบหากันต่อ แต่คุณนักเขียนกลับปฏิเสธเหมือนไม่ใช่เรื่องใหญ่โตอะไร มันทำให้เขาอยากรู้จักเธอให้มากกว่านี้

“ผมชอบนะที่คุณเป็นคนพูดตรงๆ แบบนี้”

“ก็ไม่รู้จะอ้อมค้อมทำไม ฉันเองก็ต้องขอบคุณคุณนะคะที่ทำให้ฉันได้ประสบการณ์”

“ผมฟังไม่ผิดใช่ไหม คุณพราวขอบคุณผม”

“ไม่ผิดหรอก ช่วงนี้ฉันเขียนนิยายไม่ออกเพราะไม่เข้าใจถึงความรู้สึกของตัวละคร แต่ตอนนี้ฉันคิดว่าฉันคงเขียนมันได้แล้ว”

กวีวัธน์ต้องอึ้งอีกครั้ง นี่เขากลายเป็นตัวอะไรสำหรับเธอกันแน่ ที่เธอเรียกร้องให้เขานอนด้วยก็เป็นเพราะอยากหาประสบการณ์เท่านั้นเองหรอกเหรอ

“ผมว่า มันก็แค่ส่วนหนึ่งของประสบการณ์เองนะครับ มันยังไม่ได้ครึ่งของนิยายเรื่องแรกของคุณเลยนะครับคุณพราว”

พราวรวีเงียบ เธอไม่คิดว่าเขาจะอ่านนิยายของเธอด้วยโดยเฉพาะนิยายเรื่องแรกที่มีฉากอีโรติกอยู่เกือบครึ่งเรื่อง

“คุณอ่านนิยายของฉัน” พราวรวีไม่คิดมาก่อนว่าแฟนหนังสือของเธอจะมีผู้ชายด้วย

“ครับ ถ้าคุณอยากได้ตัวช่วยให้คุณเขียนนิยายได้ไหลลื่น ผมว่าผมยินดีช่วยคุณนะครับ ช่วยแบบฟรีๆ เลยก็ได้”

“ขอบคุณนะคะ แต่ฉันว่าคงไม่ต้องแล้ว” เธอไม่อยากถลำลึกมากไปกว่านี้ แค่ที่ทำลงไปเมื่อคืนก็อายจนแทบจะแทรกแผ่นดินหนีอยู่แล้ว

“แสดงว่าเราจะไม่ได้เจอกันอีกเหรอครับ” เขาแอบเสียดายเพราะเธอเป็นผู้หญิงคนแรกหลังจากเลิกกับแฟนสาวและยังเป็นคนทำให้เขากลับมาเป็นผู้ชายอย่างเต็มตัวอีกครั้ง

“ค่ะ ไม่มีเหตุผลที่เราต้องเจอกัน”

กวีวัธน์รู้สึกเหมือนตัวเองโดนตบหน้าอย่างจัง และคนอย่างเขาก็ไม่ชอบให้ผู้หญิงเมินเสียด้วย

“ผมว่าเราคงได้เจอกันอีกแน่นอน” เขาพูดอย่างมั่นใจ ก่อนที่จะวางสายไป ยิ่งเธอปฏิเสธเขาก็ยิ่งอยากเข้าใกล้

พราวรวีรู้สึกโล่งใจที่เขายืนยันว่าตัวเองไม่มีโรคติดต่อ แต่เธอจะวางใจไม่ได้เพราะฉะนั้นถ้าครบสองสัปดาห์เธอคงต้องไปตรวจเลือดอีกครั้ง 

Patuloy na basahin ang aklat na ito nang libre
I-scan ang code upang i-download ang App

Pinakabagong kabanata

  • แค่คู่นอนไม่หึงนะคะ   40.บ้านของเรา nc (จบ)

    คุณอนงค์รีบเข้ามายังบริษัทหลังจากมีคนส่งข่าวว่าวันนี้กวีวัธน์เข้ามาทำงานและกำลังร่วมประชุมวางแผนสำหรับโครงการใหญ่ที่บริษัทกำลังยื่นซองประมูล“คิดถึงผมเหรอครับแม่” ชายหนุ่มทักทายมารดาที่นั่งรออยู่ในห้องรับแขก“ใครจะคิดถึงลูกไม่รักดีกัน”“อ้าว แล้วมาทำไมครับ”“ก็จะมาดูว่าแกมาทำงานหรือเปล่า”“วันนี้ผมมาทำงานที่นี่ก็เพราะพราวขอร้อง แต่แม่อย่าลืมขอตกลงที่ให้กับเธอนะครับ”“ทวงจริงเลยนะกลัวไม่ได้แต่งหรือยังไง”“คนที่กลัวไม่ได้แต่งคือผมครับไม่ใช่พราว”“เชอะ เบื่อพวกหลงผิด”“แม่ครับ ผมว่าแม่ยอมให้เราแต่งงานกันเถอะห้ามเราเลย ถ้าไม่อย่างนั้นผมกับพราวคง...”“จะทำอะไรอีก แม่ก็ยอมแล้วไง”“ผมไม่แน่ใจว่าแม่จะยอมจริงไหม ถ้าแม่ประกาศว่าเราสองคนจะแต่งงานกันในงานวันเกิดคุณแม่ที่จะถึงในสัปดาห์หน้าผมถึงจะเชื่อครับ”“อย่ามาบังคับแม่นะ”“ผมไม่ได้บังคับ ผมแค่อยากให้มาทำตามสัญญา วันประมูลโครงการสร้างศูนย์ราชการที่ผมเพิ่งประชุมไปเมื่อกี้คือหลังวันเกิดคุณแม่สองวันนะครับ แล้วตอนนี้ตัวเลขทั้งหมดก็อยู่ในมือผม”“นี่แกกล้าขู่แม่”“เปล่าครับ ผมแค่ทวงสัญญาเท่านั้น แม่ครับ คนที่จะแต่งงานและอยู่กับพราวคือผมนะครับ คนอื่นก

  • แค่คู่นอนไม่หึงนะคะ   39.ถ้าต้องเลือก

    คุณอนงค์กลับมาถึงบ้านก็เด็กรับใช้ช่วยยกหนังสือทั้งหมดเขาไปในห้องหนังสือ เธอสั่งไม่ให้ใครเข้ามายุ่งระหว่างที่เธอกำลังอ่านหนังสือหญิงสูงวัยอ่านหนังสือไปได้เพียงไม่กี่หน้าก็ต้องรีบวางเพราะเนื้อหาส่วนใหญ่มันเกินกว่าที่เธอคิดไว้จากที่คิดจะเปิดใจให้กับว่าที่ลูกสะใภ้ก็ต้องเปลี่ยนใจ เธอเชื่อว่าคนที่เขียนแบบนี้ได้ก็คงผ่านประสบการณ์เรื่องแบบนั้นมาอย่างโชกโชนและด้วยเหตุผลนี้กวีวัธน์ถึงได้หลงผู้หญิงคนนี้อย่างหัวปักหัวปำเรื่องนี้คงต้องเรียกลูกชายมาคุยอีกครั้ง เธอจะไม่บังคับให้เขาแต่งงานกับณัฐณิชา แต่ก็ไม่ยอมให้แต่งงานกับพราวรวีเพราะอับอายเกินกว่าจะมีลูกสะใภ้จัดจ้านแบบนั้นกวีวัธน์พาคนรักมาทานอาหารเย็นที่บ้านของมารดาตามคำชวน วันนี้พี่ชาย พี่สะใภ้และหลานสาวทั้งสองคนไม่อยู่บ้าน บรรยากาศบนโต๊ะอาหารจึงค่อนข้างเงียบและดุอึดอัดกว่าทุกครั้งหลังทานอาหารท่านเรียกให้ทั้งสองคนเข้ามาที่ห้องหนังสือ พราวรวีมองกองหนังสือบนโต๊ะแล้วก็หน้าซีด เธอไม่คิดว่ามารดาของคนรักจะอ่านหนังสือของตัวเอง“แม่มีอะไรจะคุยกับเราเหรอครับ” ชายหนุ่มถามด้วยความสงสัย เพราะวันนี้ดูท่าทางมารดาของตนเองเครียดอยู่ไม่น้อย“เรื่องแต่งงาน”“ค

  • แค่คู่นอนไม่หึงนะคะ   38.คนเจ้าเล่ห์

    คำว่ารอบเดียวไม่เคยมีจริงสำหรับคู่รักที่เร่าร้อนทั้งสองคน กว่าสงครามตัณหาจะสงบก็เกือบจะเที่ยง“เราไปทานข้าวกันก่อนดีไหมครับ แล้วพี่ค่อยไปส่งพราว”“ได้ค่ะ”ทั้งสองคนมาร้านอาหารที่อยู่ระหว่างทางกลับบ้าน นั่งทานจนอิ่มขณะกำลังจะออกจากร้านชายหนุ่มก็รับโทรศัพท์จากเลขาแจ้งว่ามีเอกสารเร่งด่วนที่ต้องรีบเข้าไปเซ็น“พราวนั่งแท็กซี่กลับเองได้ค่ะ พี่ไม่ต้องห่วง”“ตรงนี้แท็กซี่ไม่ค่อยผ่าน ถึงจะเรียกรถจากแอปก็คงต้องรออีกหลายนาที พี่ว่าพราวไปกับพี่ก่อนได้ไหม พอถึงบริษัทแล้วก็เอารถพี่กลับบ้านก็ได้”หญิงสาวไม่อยากให้เขาต้องกังวลจึงยอมตามไปที่บริษัทด้วย“ไหนๆ ก็มาถึงแล้วขึ้นไปข้างบนหน่อยไหม”“ไม่ดีกว่าค่ะ พี่ยังต้องทำงาน”“พี่ชักน้อยใจแล้วนะครับทำไมพราวทำเหมือนไม่อยากไปไหนกับพี่ ไม่อยากเข้ามาในโลกของพี่”“ไม่ใช่อย่างนั้นสักหน่อย ก็แค่ไม่อยากกวนเวลางาน”“ไม่ได้กวนอะไรเลย นะครับที่รักขึ้นไปด้วยกันนะ”แล้วเขาก็ทำให้พราวรวีใจอ่อนยอมเดินตามเขาไปในบริษัทพราวรวีเคยมาที่นี่ครั้งหนึ่งแล้ว แต่ตอนนั้นเธอมาในฐานะล่าม แต่ครั้งนี้มันเปลี่ยนไปเพราะกวีวัธน์จับมือเธอไปตลอดทาง หญิงสาวจึงกลายเป็นเป้าสายตาของทุกคนอย่างเลี

  • แค่คู่นอนไม่หึงนะคะ   37.จนกว่าจะไม่ไหว nc

    กวีวัธน์อุ้มคนรักเข้ามาในบ้านที่มืดสนิท เขาวางเธอลงบนโซฟาเพราะตอนนี้เขาเองก็เหนื่อยจนเดินต่อไปยังห้องนอนที่อยู่ชั้นสองไม่ไหวรอจนเริ่มดีขึ้นก็เดินไปหยิบน้ำในตู้เย็นมาส่งให้คนรัก ในขณะที่ร่างกายยังเปลือยเปล่าอากาศเย็นจากฝนที่ตกอย่างหนักทำให้พราวรวีเริ่มหนาว ยิ่งได้ดื่มน้ำเย็นเข้าไปเธอก็ขนลุกซู่ไปทั้งตัว“พี่วัธน์คะ พราวหนาว เราขึ้นข้างบนกับเธอค่ะ”“เดินไหวแน่นะครับ ให้พี่อุ้มไหม”“ไหวค่ะ”“มองเห็นไหมให้พี่เปิดไฟดีหรือเปล่า”“ไม่ต้องค่ะ” หญิงสาวรีบร้องห้ามเพราะตอนนี้เธอกับเขาต่างไม่มีเสื้อผ้าด้วยกันทั้งคู่“เอางี้ดีกว่า เดี๋ยวพี่ขึ้นไปเอาเสื้อคลุมมาให้พราวนอนรอตรงนี้ก่อนนะครับ”“พี่วัธน์ พราวไม่อยากอยู่คนเดียว” เธอขยับเข้าใกล้จนความนุ่มหยุ่นสัมผัสกับท่อนแขนของอีกคน“ขอโทษครับ พี่ลืมว่าพราวไม่ค่อยชอบความืด พี่มีวิธีคลายหนาว”กวีวัธน์พลิกให้พราวรวีขึ้นมานั่งบนตัก ร่างที่เปลือยเปล่าแนบชิดอีกครั้ง ท่อนเอ็นร้อนขยายตัวทีละนิดจนพราวรวีรู้สึกว่ามันกำลังดันบั้นท้ายของเธอ“พี่วัธน์ นี่ห้องรับแขก”“จะกลัวอะไรล่ะครับ บ้านของเรามีแค่เรา ในโรงรถก็เคยมาแล้ว”“พี่วัธน์จะหื่นไปถึงเมื่อไหร่”“หื่นจนกว่า

  • แค่คู่นอนไม่หึงนะคะ   36.ยังไม่ถึงครึ่ง nc

    เมื่อเลือกได้แล้วว่าจะดูหนังเรื่องไหนพราวรวีก็ขอตัวไปเข้าห้องน้ำ พอกลับมาก็ถึงเวลาที่ต้องเข้าไปในโรงหนังพอดี“ทำไมไม่ดูโรงธรรมดาค่ะ”พราวรวีบอกคนข้างที่เลือกโรงหนังแบบวีไอพีซึ่งทีที่นั่งแบบโซฟาตัวโตที่ปรับเอนได้ถึง 180 องศาเพราะเธอคิดว่ามันสิ้นเปลืองโดยใช้เหตุ“พี่อยากนั่งแบบสบายๆ นี่ครับ” กวีวัธน์รีบบอกอากาศในโรงหนังค่อนข้างเย็นพราวรวีไม่ได้เตรียมเสื้อคลุมมาด้วยจึงได้แต่นั่งกอดแขนตัวเองเพราะความหนาวกวีวัธน์เลยถอดเสื้อตัวนอกมาคลุม ให้และจับมือเธอส่งผ่านไออุ่นจนหญิงสาวรู้สึกดีขึ้นเพราะเป็นหนังรักโรแมนติก พระนางของเรื่องจึงแสดงความรักต่อกันมากกว่าปกติ มือที่จับอยู่กระชับแน่นมากขึ้น เขาอยากให้คนที่นั่งอยู่ข้างๆ รู้ว่าตอนนี้เขารู้สึกยังไงพอบีบมือเธอแน่นขึ้นหญิงสาวก็หันมามองหน้าเขา เธอขยับเข้าใกล้ก่อนกระซิบเบาๆ“เป็นอะไรหรือเปล่าคะ”“พราวพี่อยากจูบ” เขากระซิบกลับ“นี่มันในโรงหนังนะคะ”“พี่รู้ แต่แถวที่เรานั่งไม่มีใครเลย ข้างหลังก็ไม่มี นะครับขอจูบนิดเดียว”“แต่ อื้ม”เสียงค้านถูกกลืนหายไปเมื่อเขาบดจูบลงมาอย่างรวดเร็ว ลิ้นสอดเข้ามาหยอกล้อ พราวรวีตื่นเต้นจนแทบหยุดหายใจ พอจูบจนหนำใจเขาก็ป

  • แค่คู่นอนไม่หึงนะคะ   35.มีอีกหลายอย่างที่เรายังไม่ได้ทำด้วยกัน

    กวีวัธน์รีบกลับมาบอกข่าวดีกับพราวรวีหลังจากที่มารดาของตนเองกลับไปได้ไม่นาน“พี่วัธน์เป็นอะไรหรือเปล่าคะ” เพราะมันยังไม่ถึงเวลาเลิกงาน“คิดถึงครับ” ชายหนุ่มนั่งลงข้างเธอที่หน้าโซฟา พิงศีรษะลงบนไหล่ แขนโอบเอวบางพลางหอมแก้มคนรักอีกฟอดใหญ่“บอกพราวมาเถอะค่ะ เรื่องคุณแม่ใช่ไหมคะ”“ครับ”“ทะเลาะกับท่านมาหรือเปล่า พราวขอโทษนะคะที่ทำให้พี่กับแม่มีปัญหากัน”“ขอโทษทำไมครับ พี่กับแม่เข้าใจกันดีแล้ว”“จริงเหรอคะ” หญิงสาวดีใจที่ได้ยินแบบนั้น“จริงสิครับ พี่ถึงรีบกลับมาบอกข่าวดีกับพราวไง”“โทรมาบอกก็ได้ไม่เห็นจะต้องเสียเวลามาเลยนี่ค่ะ”“ไม่เสียเวลาเลยพี่จะมารับพราวออกไปข้างนอกด้วยกัน”“ไปไหนคะ”“ไม่พาไปขายหรอกครับ”“รอแป๊บนะคะ พราวขอไปเปลี่ยนชุดก่อน ใส่กางเกงยีนได้ไหมคะ” เพราะไม่รู้ว่าเขาจะพาไปไหนเธอจึงต้องถาม อย่างน้อยก็ต้องให้เกียรติคนที่จะไปเจอหรือสถานที่“แต่งตัวตามสบายครับ” กวีวัธน์มองคนรักที่เดินหายเข้าไปในห้องนอนด้วยสายตารักใคร่ เขาไม่เคยรักใครมากเท่าพราวรวีมาก่อน แม้กระทั่งพรลภัสเขาไม่ได้รับมากขนาดนี้ ชายหนุ่มแอบขอบคุณอดีตคนรักที่ทิ้งเขาไปในวันนี้ เพราะถ้าอย่างนั้นเขาคงไม่มีโอกาสได้เจอกับพร

Higit pang Kabanata
Galugarin at basahin ang magagandang nobela
Libreng basahin ang magagandang nobela sa GoodNovel app. I-download ang mga librong gusto mo at basahin kahit saan at anumang oras.
Libreng basahin ang mga aklat sa app
I-scan ang code para mabasa sa App
DMCA.com Protection Status