Masuk
แนะนำตัวละคร
เจียงลี่มี่ หรือ มีมี่ บุตรสาวแฝดพี่วัยเพียง15 ขวบปีของราชครูเจียงชงซ่าน
เจียงลี่อิน หรือ อิ๋งอิ๋ง บุตรสาวแฝดน้องของราชครูเจียงชงซ่าน
ราชครูเจียงชงซ่าน เป็นราชครูของฮ่องเต้มาถึงสามรัชสมัย ได้บุตรสาวฝาแฝดเมื่ออายุมากแล้วจึงรักใคร่หวงแหนดุจไข่ในหิน
เปาซื่อ มารดาผู้รักใคร่ตามใจบุตรสาวยิ่งชีพ
แม่ทัพเซี่ยจิ้นกว่าง แม่ทัพพิทักษ์ชายแดน ซึ่งก้าวขึ้นสู่ตำแหน่งด้วยวัยเพียง25ขวบปี
ตงหยางห่าว ทูตต่างแคว้นซึ่งมีศักดิ์เป็นหลานชายของฮ่องเต้ด้วยเป็นบุตรชายขององค์หญิง
กู่ซิ่วซิ่น บุตรสาวเสนาบดีกลาโหม
ซุนจิวฝู รองแม่ทัพคนสนิทของเซี่ยจิ้นกว่าง
ชิงเถา ชิงฮวา สาวใช้คู่ใจของสองสาวฝาแฝด
เจียงเฉิง น้องชายคนเดียวของฝาแฝดซึ่งมีอายุต่างจากพี่สาวถึง5ปี
จากใจนักเขียน
เรื่องแฝดพี่แสนซนชนแม่ทัพ เป็นเรื่องที่เกิดจากการอยากแต่งเรื่องน่ารักสดใสแนวแอ๊วหนุ่มบ้าง
ด้วยส่วนใหญ่เรื่องที่หญิงใหญ่แต่งจะเป็นแนวพ่อหนุ่มคลั่งรักทำทุกอย่างเพื่อเธอแล้ว หากเปลี่ยนมาให้น้องน้อยของเราตามคลั่งรักพระเอกบ้าง คงจะสนุกสนานไม่น้อย
เรื่องนี้จึงจะเป็นอีกแนวซึ่งเน้นให้นางเอกของเรารุกไล่ตามพระเอกไม่ได้หยุด
ส่วนพ่อพระเอกของเราซึ่งใจแข็งไม่น้อยจะใจอ่อนให้กับน้องหรือไม่ และเรื่องจะลงเอยกันในรูปแบบใดติดตามได้ในหน้าต่อไปเลยค่ะ
หวังว่านักอ่านจะชื่นชอบกันนะคะ
วันว่างว่างของหญิงใหญ่
บทนำ
“ท่านแม่ ข้าสวมชุดนี้แล้วงามหรือไม่เจ้าคะ” เสียงออดอ้อนของบุตรสาวดังมาพร้อมร่างอรชรอ้อนแอ้นซึ่งสวมชุดผ้าไหมสีฟ้างดงามน่ารักจับตา
“งามมาก มี่เอ๋อร์” เปาซื่อผู้เป็นมารดาเอ่ยปากชมด้วยสายตาภาคภูมิใจในความงามของบุตรสาว
“แล้วข้าเล่าเจ้าคะ ท่านแม่ ชุดนี้งามหรือไม่” บุตรสาวอีกคนส่งเสียงอ้อนพร้อมร่างซึ่งสวมชุดผ้าไหมสีชมพูอ่อนหวานเดินเร็วเข้ามาหมุนร่างน้อยให้ได้ชม
“ชุดนี้เหมาะกับเจ้ามาก อินเอ๋อร์ บุตรสาวทั้งสองของแม่งดงามที่สุด” ในสายตาของมารดา ย่อมไม่อาจเปรียบผู้อื่นกับบุตรสาวของตนเอง
“นั่นด้วยท่านแม่งดงามที่สุดเช่นกันเจ้าคะ” สองสาวประสานเสียงชมผู้เป็นมารดาพร้อมซบหน้าเข้ากับอกนุ่มราวยังคงเป็นเด็กน้อย
“ฮ่า ฮ่า ฮ่า พูดได้ดี วันนี้แม่จะซื้อขนมให้เป็นรางวัล” มารดากอดบุตรสาวทั้งสองไว้ในอ้อมแขนซ้ายขวาอย่างรักใคร่
“ขอบคุณท่านแม่เจ้าคะ” สองพี่น้องยิ้มแย้มให้กันอย่างสดใส
“เฮ้อ! ช่างน่าเบื่อนัก”
เสียงบ่นพึมพำออกมาจากร่างของเด็กชายวัยสิบขวบปีที่ยืนรออยู่ที่มุมห้อง เรียกอาการค้อนขวับจากสองสาว แต่พวกนางหาใส่ใจเด็กน้อยผู้นี้ไม่ ยังคงพูดคุยเย้าหยอกกับมารดาอย่างชื่นมื่น
เปาซื่อผู้มารดาถูกบุตรสาวผู้น่ารักฉอเลาะเอาใจจึงมัวกอดซ้ายโอบขวาพยักหน้าเออออโดยลืมบุตรชายคนเดียวซึ่งยังคงยืนรอคอยอยู่อย่างอดทน
สาวใช้เก่าแก่ได้แต่ส่ายหน้าอย่างเห็นใจคุณชายน้อยทายาทชายเพียงคนเดียวซึ่งกลับไม่ได้รับการเอาใจใส่เช่นเดียวกับสกุลอื่น
อาจด้วยภายในจวนสกุลเจียงแห่งนี้ ฮูหยินเอกเปาซื่อตั้งครรภ์แรกเมื่ออายุมากแล้ว หลังจากรอคอยจนไร้ความหวังมานานหลายปี บุตรสาวฝาแฝดก็คลอดออกมาเรียกความยินดีปรีดาจนทั้งบิดามารดาทุ่มเทความรักความเอาใจใส่ลงไปแทบทั้งหมด
กว่าพวกเขาจะมีทายาทชายสมดั่งใจก็ผ่านไปอีกถึงห้าปี นั่นจึงทำให้ราชครูเจียงเข้มงวดกวดขันกันบุตรชายคนเดียวเพื่อหวังให้สืบทอดความรู้ความสามารถอย่างเต็มภาคภูมิ
นั่นจึงทำให้ภายในจวนสกุลเจียงมีแต่เสียงหัวเราะชื่นมื่นของสองสาวฝาแฝด ภายใต้สีหน้าเคร่งขรึมไม่พูดไม่จาของเด็กชายตัวน้อย
แต่ความจริงแล้ว ย่อมมีเรื่องราวที่ลึกลงไปกว่านั้น
ตอนที่สิบสาม ชื่นชอบ สาวน้อยก้มลงกระซิบเสียงเบากับชายสกุลต่งเพื่อให้ได้ยินเพียงสองคน “เรื่องเฉาเจียวซือ ควรใช้ประโยชน์จากนางเพื่อค้นหาไส้ศึก ในเมื่อนางเที่ยวโพนทะนาเรื่องของอ๋องสิบ เช่นนั้นก็ใช้ข้อนี้ให้พวกเขาหลงระเริงก้าวขาออกมาในที่แจ้ง” ต่งเลี่ยงรุ่ยสบตาอย่างเข้าใจความนัย ก่อนจะเอ่ยขอบคุณที่หญิงสาวยังพยายามช่วยคิดหาหนทาง เจียงลี่อินเดินทางกลับเมืองหลวงโดยมีคนของรองแม่ทัพซุนติดตามมาคุ้มครอง ทางหนึ่งเพื่อมาช่วยเหลือเพิ่มกำลังสนับสนุนแก่แม่ทัพเซี่ยจิ้นกว่าง อีกทางหนึ่งคือเพื่อส่งข่าวแก่แม่ทัพหนุ่มด้วย แฝดผู้น้องกลับมาทันก่อนถึงงานแต่งงานของแฝดพี่สาวอย่างเฉียดฉิว หญิงสาวอยู่ร่วมงานอย่างปลื้มปิติที่ในที่สุด พี่สาวร่วมชะตาก็เป็นฝั่งเป็นฝาไปกับชายหนุ่มใน
ตอนที่สิบสอง อุตส่าห์ช่วย“อย่านะ อย่าทำเช่นนั้น” เจียงลี่อินลุกขึ้นตวาดเสียงดัง“เหตุใดต้องเสียงดังเพียงนี้” หวงอวิ้นหยางทำทีใช้นิ้วสอดรูหูเพื่อสื่อว่าหญิงสาวส่งเสียงดังเพียงใด“ก็...ผู้ใดบอกว่าชอบท่าน และจะแต่งเป็นชายาของท่าน ข้าขอยืนยันว่าไม่ได้ชอบท่านอ๋อง หากยังขืนดื้อดึงข้าจะไม่ช่วยออกความคิดเพื่อกลบเกลื่อนเรื่องในวันนี้”ตาอ๋องสิบนี่ พูดเองเออเองสรุปเข้าข้างตัวเองแล้วจะมามัดมือชกให้นางแต่งงานด้วยหรือ ไม่มีทาง นางไม่อยากเข้าใกล้คนในราชวงศ์ พวกเขาล้วนไม่น่าคบหา ไม่น่าสุงสิง เจียงลี่อินเคยติดตามบิดาเข้าวังหลวงอยู่หลายครา จึงไม่ได้ชื่นชอบเหล่าองค์ชายองค์หญิงผู้เอาแต่ใจไร้เหตุผล และไม่ได้อยากใฝ่สูงเกี่ยวดองกับพวกเขา แม้บิดาของนางจะได้รับการเรียกขานเป็นอาจารย์ แต่พวกเขาไม่เคยเคารพนับถืออย่างจริงใจ ลับหลังยังแอบกลั่นแกล้งนางและแฝดผู้พี่อยู่บ่อยครา หากมิใ
ตอนที่สิบเอ็ด พูดเองเออเอง“อ้อ...ที่ท่านอ๋องเที่ยวเอาเปรียบหญิงสาวอยู่ทุกวันนี้คือวิธีการหาชายาที่ถูกต้องหรือ” เจียงลี่อินย้อนอย่างประชดประชัน“เจ้าไม่เข้าใจ สตรีใดที่โอนอ่อนผ่อนตามโดยง่ายย่อมน่าสงสัย ส่วนสตรีใดที่เรื่องมากเกินไปย่อมไม่คู่ควร พวกนางล้วนมีบิดาคอยสั่งความว่าต้องทำอย่างไรที่โอนอ่อนก็ด้วยต้องการเพียงเส้นสายราชวงศ์ ที่มากเรื่องก็ด้วยไม่ต้องการเลือกผิดทาง ส่วนสตรีบางนางกลับไม่สงวนท่าที เพียงแตะเนื้อต้องตัวนิดหน่อยก็แทบจะทอดร่างลงมาแล้ว ข้าไม่อยากถูกสวมเขาในภายหลัง” “เชอะ อย่างเช่น...เฉาเจียวซือหรือ ข้าเห็นท่านอ๋องออกจะชื่นชอบคลุกคลีอยู่กับนางแทบทั้งวัน อ้อ...ทั้งคืนด้วยกระมัง” ถ้อยคำคล้ายหึงหวงเรียกสายตาแปลกใจจากอ๋องหนุ่ม “เจ้าไม่รู้จริงอย่าได้เอ่ยเช่นนั้น ข้าไม่เคยค้างอ้างแรมกับหญิงใด ผู้ใดจะโง่เปิดโอกาสให้โดนลอบทำร้ายง่ายๆ เพียงเผลอตัวก็อ
ตอนที่สิบ รังเกียจข้าหรือตาอ๋องนี่ก็ช่างกระไร ไปพลอดรักกันในที่ลับตาเพียงนั้นสมควรแล้วที่จะโดนคนพวกนั้นทำร้ายเอานี่ถ้าโดนจับไปเป็นตัวประกันยังต่างแคว้นคงน่าสมน้ำหน้านักถ้าไม่ติดว่าพี่เลี่ยงรุ่ยต้องซวยไปด้วย คงไม่เข้าไปช่วยแน่หญิงสาวบ่นพร่ำไม่หยุดเป็นจังหวะเดียวกับที่หมอสูงวัยเปิดผ้าม่านเดินออกมา“ข้าทำแผลให้สามีของเจ้าแล้ว โชคดีที่ไม่โดนจุดสำคัญและมีเพียงรอยบาดไม่ลึก ระหว่างนี้ห้ามโดนน้ำจนกว่าแผลจะหาย เจ้าก็คอยเช็ดตัวดูแลเขาให้ดี ต้มยาตามใบสั่งนี่ให้เขาดื่มวันละสามเวลา อีกไม่กี่วันก็ดีขึ้นแล้ว”สามี?ผู้ใดคือสามี? เจียงลี่อินถลาเข้าไปถึงหน้าเตียงคนไข้พลางขบเขี้ยวเคี้ยวฟันตั้งท่าจะต่อว่าอ๋องหวงอวิ้นหยางซึ่งสร้างความเข้าใจผิดแก่ท่านหมอแต่เมื่อเห็นสีหน้าซีดเซียว ท่าทางอ่อนแรงและคำขอบคุณที่รีบพูดออกมาจากปากเป็นคำแรก หญิงสาวจึงลดท่าทีขึงขังลงแล้วนั่งที่เก้าอี้อย่างพยายามสงบสติอารมณ์“ขอบคุณแ
ตอนที่เก้า หาเรื่องโดยแท้ภาพตรงหน้าช่างชุลมุนวุ่นวาย นางเห็นเฉาเจียวซือถูกจับตัวไว้แต่ยังดีดดิ้นร้องตะโกนเสียงดังไม่หยุดจนโดนตบหน้าหันเลือดกบปากจึงได้เงียบเสียงลง“ขืนยังร้องโวยวายอีก จะเชือดทิ้งเสียเดี๋ยวนี้” เสียงข่มขู่น่ากลัวพร้อมมือที่ชักดาบออกมาทำให้เฉาเจียวซือได้แต่สงบปากสงบคำแต่ท่าทียังคงดิ้นรนไม่ยินยอมเจียงลี่อินหันไปมองการต่อสู้อีกทางก่อนจะเหลือกตาโตเมื่อเห็นอ๋องหวงอวิ้นหยางกำลังสู้รบกับคนแปลกหน้าหลายคนอย่างไม่เพลี่ยงพล้ำยามนี้ช่างคับขันนักด้วยคนเหล่านี้ออกแรงถึงชีวิต อ๋องหนุ่มจึงไม่อาจแอบซ่อนความสามารถเอาไว้ได้อีก จำต้องใช้ฝีมือซึ่งฝึกฝนมาเข้าโรมรันกับอีกฝ่ายไม่น่าเชื่อ เขามีฝีมือการต่อสู้หรอกหรือ มิน่า พี่เลี่ยงรุ่ยจึงบอกว่าอย่าคิดว่าเขาไม่ได้ความ อืม...หนึ่งต่อสิบยังสู้ได้ นับว่าไม่เลวนัก แต่อีกไม่นานคงอ่อนแรง เอาอย่างไรดีเจียงลี่อินคิดพลางมองไปโดยรอบเค้นสมองครุ่นคิดหาวิธี ก่อนจะหันกลับไปมองอีกด้านซึ่งไร้การต่อสู้“พวกเจ้าอย่าได้ล่วงเกินท่าน
ตอนที่แปด พุ่งเป้าอ๋องหนุ่มแสร้งข่มขู่น้ำเสียงจริงจัง“ท่านอ๋องกังวลมากเกินไปแล้วเพคะ ถึงอย่างไรก็เป็นถึงอนุชาองค์หนึ่ง ฮ่องเต้คงไม่ใจไม้ไส้ระกำ” เฉาเจียวซือหรือจะเชื่อถือคำอ้างอ๋องสิบขึ้นชื่อเรื่องความไม่เป็นโล้เป็นพาย ฮ่องเต้หรือจะมอบหมายภารกิจสำคัญให้เขา มือเรียวบางเริ่มลูบไล้หน้าอกแกร่งอย่างยั่วยวนพลางสบสายตาสื่อความนัย “อย่าได้กล่าววาจาเช่นนั้น หากมีผู้ใดได้ยินเข้าระวังหัวจะหลุดจากบ่า” อ๋องหวงอวิ้นหยางไม่เพียงไม่คล้อยตามแต่ข่มขู่ไปอีกทางโดยแอบอ้างบารมีมังกรเฉาเจียวซือหยุดมือเริ่มมีสีหน้าหวั่นเกรง มือหนาฉวยโอกาสผลักร่างบางให้ห่างออกจากตักแล้วเอ่ยปากไล่ “แม่นางเฉา เจ้าไปพักผ่อนเถิด อย่าได้พูดมากเกินไป หากองครักษ์ลับของเสด็จพี่ได้ยินคำที่ไม่ถูกไม่ควรแล้วนำไปกราบทูลฟ้อง ข้าเองก็







