共有

บทที่ 26 การเจรจา...ล้มเหลว

last update 最終更新日: 2025-06-21 17:03:45

บทที่ 26

การเจรจา...ล้มเหลว

            ฉินเฟยอวี่มาโรงเตี๊ยมตระกูลจางพร้อมกับหลงจู๊เหอ เพราะอยากรู้ว่าจางตงตงมีความสามารถอย่างที่เหอจ้าวพูดจริงหรือไม่

            พอได้เห็นจางตงตงตัวจริง กลับคิดว่านางก็แค่เด็กสาวธรรมดาทั่วไป ไม่เห็นมีอะไรน่าสนใจสักนิด

            อย่างไรก็ดี การบังเอิญเจอใครบางคน ทำให้ฉินเฟยอวี่คิดว่าเรื่องนี้อาจจะน่าสนุกขึ้นมาก็ได้!

            ในใจของฉินเฟยอวี่ไม่ได้สนใจผลการเจรจา แต่รอดูเรื่องสนุกต่อจากนี้ต่างหาก

            ย้อนกลับมาทางตงตง

            ถึงภายนอกเด็กสาวเงียบฟังหลงจู๊เหอคุยกับจางไคเฮ่อคุยกันอยู่ข้างๆ แต่สายตาของนางสังเกตเห็นมุมปากของคุณชายรองฉินที่อยู่ดีๆ ก็ผุดยิ้มชั่วร้าย มิหนำซ้ำ สายตาของฝ่ายนั้นยังมองไปทางประตูหลังของโรงเตี๊ยม

            เมื่อโรงเตี๊ยมตระกูลจางขายของหมด ลูกจ้างทุกคนก็จะช่วยกันเก็บร้าน

            พอเก็บกวาดสะอาดเสร็จ ทุกคนจะแยกย้ายกลับบ้านกันหมด

            ในช่วงเวลานี้ จางไคเฮ่อกับเหยียนหลิ่วจะช่วยกันแบกกระสอบแป้งและฟืนจากบ้านมาเก็บที่ร้าน เพื่อเตรียมพร้อมให้ตงตงได้ใช้ทำอาหารในวันถัดไป

            หากสายตาของฉินเฟยอวี่มองไปที่ประตูหลัง เดาว่าฉินเฟยอวี่คงกำลังมองเหยียนหลิ่วอยู่แน่ๆ

            “...ข้อตกลงของเถ้าแก่ฉินมีทั้งหมดเท่านี้ เถ้าแก่จางเอากลับไปคิดสักคืนสองคืนแล้วค่อยให้คำตอบก็ได้” เหอจ้าวสรุปหลังจากอธิบายจบ

            หลงจู๊เหอมาเพื่อเจรจาขอซื้อสูตรหม้อไฟหมาล่า

            เห็นว่ากำลังหาทำเลเปิดร้านหม้อไฟกลางเมืองอู่เฉิง  

            ฉินเจี้ยนถิง เถ้าแก่ใหญ่โรงเตี๊ยมตระกูลฉินเสนอราคาให้ 10 ตำลึงทอง

            สำหรับจางไคเฮ่อ ประเด็นไม่ได้อยู่ที่ได้เงินมากหรือน้อย สูตรฟม้อไฟหมาล่านี้บุตรสาวของเขาเป็นคนคิดค้น ยังไงก็ต้องปรึกษากับนางก่อน ถึงอย่างนั้นเขาเชื่อว่านางคงปฏิเสธ

            “แม้ว่าราคาที่เสนอมาจะเป็นเงินจำนวนไม่น้อย แต่คงต้องขอปฏิเสธ” จางไคเฮ่อตอบแบบไม่ต้องคิด 

            เหอจ้าวได้ยินแบบนี้ พลันขมวดคิ้วด้วยความสับสนและไม่พอใจปะปนกัน

            “ทำไมเล่า 10 ตำลึงทองไม่ใช่เงินน้อยๆ เลย เจ้าใช้เงินนี้ซื้อโรงเตี๊ยมที่ใหญ่กว่าเดิมได้เลยไม่ใช่หรือ!”  

            “ขออภัย คนที่เป็นเถ้าแก่ใหญ่คือเจ้าไม่ใช่หรือ จางไคเฮ่อ เหตุใดต้องให้ลูกสาวของเจ้าตัดสินใจ”

            “ข้าไร้ความสามารถ ไม่เข้าใจการบริหารโรงเตี๊ยม เอาเป็นว่าขอปฏิเสธดีกว่า”

            เห็นว่าจางไคเฮ่อยืนยันคำเดิม เหอจ้าวจึงหันมามองตงตง

            เด็กสาวดึงความคิดกลับมาที่ทั้งสองคน ตอบกลับหลงจู๊เหออย่างฉับพลัน

            “คำตอบของข้าเหมือนกับท่านพ่อเจ้าค่ะ ขอปฏิเสธ”

            “เช่นนั้นข้าขอฟังเหตุผลได้หรือไม่” ฉินเฟยอวี่ถาม

            “แน่นอนว่าเงิน 10 ตำลึงทองย่อมมีค่ามากโข แต่หม้อไฟหมาล่าเพิ่งเปิดขายได้ยังไม่ครบเดือน ท่านมาขอซื้อสูตรเช่นนี้ ข้าเองก็ลำบากใจ” ไม่เพียงพูดเปล่า ตงตงทำสีหน้าลำบากใจด้วย

            “แล้วถ้าเปลี่ยนมาเป็นหุ้นส่วนกันเล่า” ฉินเฟยอวี่ถามต่อ

            เมื่อคุณชายรองเปิดประเด็นนี้ขึ้นมา สมองของหลงจู๊เหอพลันผุดความคิดใหม่ทันที

            “ใช่แล้ว หากเจ้ากลัวว่าโรงเตี๊ยมตระกูลฉินซื้อสูตรไป แล้วจะแย่งลูกค้าจากโรงเตี๊ยมตระกูลจางละก็ เช่นนั้นเปลี่ยนมาเป็นหุ้นส่วนกันไม่ดีกว่าหรือ ส่วนแบ่งเป็น 70 – 30 เป็นอย่างไร โรงเตี๊ยมตระกูลฉิน 70 โรงเตี๊ยมตระกูลจาง 30 แน่นอนว่าทางเจ้าไม่มีอะไรเสียเปรียบ เพราะทางเราจะหาทำเล และลงทุนเรื่องวัตถุดิบเอง เจ้าแค่ตรวจสอบเครื่องปรุงกับรสชาติเท่านั้น” 

            ส่วนแบ่งนี้นับว่าไม่เลว แต่...

            “การเป็นหุ้นส่วน ผลตอบแทนที่ทั้งสองฝ่ายควรได้รับไม่ได้คำนวณจากใครลงทุนมากลงทุนน้อย ที่หลงจู๊เหอพูดมา ท่านคิดแต่เรื่องผลกำไร ไม่ได้คิดเรื่องการขาดทุน ที่สำคัญ การเปิดร้านแบบหุ้นส่วนต้องมีความเชื่อใจ”

            “เจ้าคิดว่าโรงเตี๊ยมตระกูลฉินไว้ใจไม่ได้หรือ” หลงจู๊เหอถามกลับอย่างไม่ค่อยพอใจนัก

            “ขอโทษเจ้าค่ะ ข้าไม่ได้มีอคติกับพวกท่าน แค่พูดถึงหลักความจริงเท่านั้นเอง” ตงตงบอก

            “ยังไงก็จะปฏิเสธหรือ”

            “ขอโทษจริงๆ เจ้าค่ะ” ตงตงแสร้งทำทีเป็นลำบากใจ 

            “เฮ้อ น่าเสียดาย...เช่นนั้นทางข้าขอตัวกลับก่อน” เหอจ้าวทอดถอนหายใจ ไม่อยากเสียเวลาหรือตื้อมากไปกว่านี้ หากยิ่งแสดงออกว่าอยากได้มากเท่าไร ยิ่งเป็นโอกาสให้ฝ่ายนั้นใช้ในการเอาเปรียบ

            “แหม…น่าเสียดายจริงๆ” ฉินเฟยอวี่ย้ำด้วยน้ำเสียงเยาะเย้ย ขณะที่สายตาจ้องมองที่ตงตง

            ตงตงรู้สึกแปลกๆ กับสายตาคู่นั้น เพราะเหมือนกับว่าฉินเฟยอวี่กำลังหมายถึงเรื่องอื่น 

            …..

            …..

            เมื่อการเจรจาล้มเหลว เหอจ้าวกับฉินเฟยอวี่จึงต้องยอมกลับโรงเตี๊ยมตระกูลฉิน

            หลังจากทั้งคู่ขึ้นรถม้า เหอจ้าวล่าวกับคุณชายรองของตนอย่างรู้สึกผิด 

            “ขออภัยที่ข้าไร้ความสามารถ เจรจาไม่สำเร็จ”

            ฉินเฟยอวี่ไม่ได้ตอบเหอจ้าง หากกลับพ่นหัวเราะออกมา

            “ฮะฮะๆๆๆ”

            “คุณชายรอง?”

            “เห็นแวบแรก ข้าคิดว่าจางตงตงไม่มีอะไรน่าสนใจสักนิด แต่พอได้คุยกัน นางกลับมีไหวพริบ เจรจาเก่งกว่าเจ้าอีกนะ หลงจู๊เหอ”

            เหอจ้าวได้ยินแบบนั้นพลันก้มหน้า ตอบรับด้วยน้ำเสียงสิ้นหวังว่า “ขอรับ”

            “หลงจู๊เหออย่าเพิ่งสิ้นหวังไปสิ” ฉินเฟยอวี่พูดด้วยสีหน้า

            “คุณชายรองมีวิธีอื่นหรือขอรับ”

            ฉินเฟยอวี่หยุดคิดเล็กน้อย ก่อนจะตอบ

            “ก็...พอมีวิธีอยู่ แต่อาจใช้ได้ผลหรือไม่ได้ผลก็ยังไม่แน่”

            “หมายความว่าอย่างไรหรือ” 

            “พอดีข้ารู้ความลับบางอย่าง เรื่องนี้อาจใช้ในการเจรจาครั้งหน้าก็ได้”

            พูดจบ ฉินเฟยอวี่กระดกยิ้มที่มุมปาก 

            “ความลับหรือขอรับ?”

            หลงจู๊เหอถามด้วยความสงสัย ขณะเดียวกัน เขาคิดอย่างไม่เห็นด้วย

            การให้อีกฝ่ายยอมตกลงข้อเสนอด้วยวิธีข่มขู่ไม่ใช่เรื่องที่ถูกต้องเลย  

            “คุณชายรอง ถ้าใช้ความลับมาเจรจา ข้าคิดว่าอย่าดีกว่าขอรับ”

            “เอาน่า เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับเจ้า เจ้าแค่หาโอกาสให้ข้าได้เจรจากับพวกเขาอีกครั้ง เรื่องอื่นข้าจัดการเอง หากท่านพ่อถาม ก็แค่บอกว่าไม่เกี่ยวกับเจ้า เจ้าไม่รู้เรื่อง”

            “แต่ว่า…”

            “นี่ไม่ใช่เรื่องที่ข้าจะถามความเห็นหลงจู๊เหอเสียหน่อย”

            “เอ่อ...ขอรับ”

           

この本を無料で読み続ける
コードをスキャンしてアプリをダウンロード

最新チャプター

  • แม่ครัวแห่งยุคกับระบบร้านค้า    บทพิเศษ ความลับของตระกูลจาง

    บทพิเศษความลับของตระกูลจาง หนึ่งวันหลังเสร็จสิ้นงานแต่ง จางไคเฮ่อนำชื่อของเหยียนหลิ่วเข้าทะเบียนราษฎร์ของตระกูลจาง นับจากนี้เหยียนหลิ่วจะกลายเป็นคนตระกูลจางเต็มตัว กลายเป็น ‘จางเหยียนหลิ่ว’ ล่วงเข้าสู่วันที่ห้าหลังจากที่ทั้งสองกลายเป็นสามีภรรยากัน เหยียนหลิ่วก็ถูกตงตงจูงมือพาลงไปที่ห้องใต้ดินของโรงเตี๊ยม “ภรรยา…ห้องใต้ดินเป็นความลับของตระกูล เจ้าแน่ใจหรือว่าข้าลงไปที่นั่นได้” เหยียนหลิ่วถามเพื่อให้ตงตงไตร่ตรองอีกครั้ง เหยียนหลิ่วรู้แค่ว่า ภายในห้องใต้ดินเป็นสถานที่เก็บสินค้าและสมบัติของตระกูลจาง กุญแจมีเพียงสองดอกเท่านั้น ดอกหนึ่งจางไคเฮ่อเป็นคนเก็บ และดอกหนึ่งเป็นของตงตง กระนั้น ตงตงกลับหันมายิ้มให้กับเหยียนหลิ่วด้วยสีหน้าสบายๆ “ตอนนี้ท่านเองก็เป็นคนของตระกูลจางแล้ว” “ถึงจะอย่างนั้นก็เถอะ แต่…” “ในอนาคตท่านคิดจะหย่ากับข้าหรือ…หรือว่า…ท่านจะหักหลังตระกูลจาง?” “เรื่องนั้นจะไม่มีทางเกิดขึ้นเด็ดขาด!” เหยียนหลิ่วตอบกลับอย่างหนักแน่น หย่ากันหรือ

  • แม่ครัวแห่งยุคกับระบบร้านค้า    บทส่งท้าย

    บทส่งท้าย ฤกษ์แต่งงานที่เร็วที่ก็คือต้นเดือนหน้า นับวันดูแล้ว พวกเขามีเวลาจัดเตรียมงานไม่ถึง 1 เดือนด้วยซ้ำ ตงตงกับเหยียนหลิ่วจึงต้องตัดชุดแต่งงานกันตั้งแต่เนิ่นๆ เขียนบัตรเชิญส่งให้แขก กำหนดเมนูอาหาร และเริ่มซื้อข้าวของมาตกแต่งสถานที่ พอยุ่งอยู่กับการเตรียมงาน เผลอแป๊บเดียวก็เหลือเวลาอีกแค่ 2 วันเท่านั้น “ตงตง!” เสียงหญิงสาวอันคุ้นเคยดังหน้าประตูโรงเตี๊ยม ตงตงกำลังตรวจความเรียบร้อย หลังจากที่จิ่งฝางกับพวกเสี่ยวกวางแขวนโคมแดงเสร็จ รีบหันมองตามเสียงเรียกนั้น หานเจียเอ๋อร์ยืนยิ้มให้กับตงตง ข้างๆ หานเจียเอ๋อร์คือถังเหวินที่กำลังอุ้มลูกชายวัย 2 ขวบ ทั้งคู่แต่งงานกันเมื่อ 3 ปีก่อน หลังพิธีวิวาห์ สองเดือนถัดมา หานเจียเอ๋อร์ก็ตั้งครรภ์ทันที ถัดจากถังเหวินก็คือซานหลัวเฉินกับภรรยาที่เพิ่งแต่ง ครั้นเห็นคนคุ้นเคย ตงตงก็เดินยิ้มเข้าไปหาทุกคน “พวกท่านมากันแล้ว เข้ามาก่อนเจ้าค่ะ…อาหลงตัวน้อย สบายดีไหมจ๊ะ” เด็กน้อยวัย 2 ขวบพยักหน้าตอบ “อื้อ”

  • แม่ครัวแห่งยุคกับระบบร้านค้า    บทที่ 78 ขอแต่งงาน

    บทที่ 78ขอแต่งงาน 10 วันต่อมา ณ สำนักราชองครักษ์หลวง ทันทีที่กลับมาถึงเมืองหลวง เหิงเจากับเหยียนหลิ่วเข้าพบเสนาธิการเว่ยจ้ง รายงานเรื่องราวทั้งหมดตอนอยู่ป้อมปราการตะวันออก เมื่อเสร็จธุระหมดแล้ว เหยียนหลิ่วขอตัวกลับทันที ชายหนุ่มเดินบนถนนด้วยฝีเท้าเร่งรีบ เมื่อมาถึงโรงเตี๊ยมตระกูลจาง เห็นหญิงสาวในดวงใจยืนต้อนรับลูกค้าอยู่หน้าร้านพอดี เหยียนหลิ่วส่งเสียงเรียกหญิงสาวด้วยความตื่นเต้น “ตงตง!” เสียงเรียกของชายหนุ่มไม่เพียงดึงดูดสายตาของตงตง ยังเรียกความสนใจจากคนรอบข้างอีกด้วย ทว่า… สองหนุ่มสาวหาได้สนใจคนอื่นแต่อย่างใด ในสายตาของทั้งคู่มีเพียงกันและกันเท่านั้น “พี่หลิ่วกลับมาแล้ว!” ตงตงยิ้มกว้าง ก้าวยาวๆ เข้าไปหาชายหนุ่ม เมื่อระยะห่างของทั้งคู่ร่นลงจนไม่เหลือช่องว่าง เหยียนหลิ่วตอบกลับหญิงสาวด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา “ข้ากลับมาแล้ว” เหยียนหลิ่วไม่เพียงพูดเปล่าๆ สองมือใหญ่ยังโอบเอวบางของนาง แล้วยกร่างของนางขึ้นจากพื้นอ

  • แม่ครัวแห่งยุคกับระบบร้านค้า    บทที่ 77 จู่โจมรวดเร็ว

    บทที่ 77จู่โจมรวดเร็ว หลังจากหัวหน้าเผ่าฮุยรู้ข่าวเรื่องกองทัพสนับสนุนเดินทางมาถึงป้อมปราการตะวันออก พวกมันก็ไม่อยู่เฉย เคลื่อนทัพท่ามกลางความมืด รอจังหวะบุกโจมตีป้อมปราการตะวันออกอย่างไม่ให้แคว้นเฉียนรู้ตัว หากทว่า กลางดึกคืนเดียวกันนั้น ฟางอู่เซิงวางกองกำลังไว้ที่นอกป้อมปราการอย่างเงียบเฉียบ ทันทีที่แสงแรกมาเยือน หัวหน้าพลธนูที่ซ่อนตัวตั้งแต่กลางดึก ก็ได้ส่งสัญญาณมือให้โจมตี พลธนูที่ซุ่มบนต้นไม้นับสิบนายปล่อยศรพุ่งออกไป ฟิ้ว… “อึก!” “อั่ก!!” ทหารเผ่าฮุยที่ตั้งทัพเตรียมบุกป้อมปราการ ล้มกองบนพื้นทีละคนสองคนราวกับใบไม้ล่วงจากต้น เริ่มต้นสงคราม มองเผินๆ ฝ่ายที่ได้เปรียบอาจจะเป็นทางแม่ทัพฟางอู่เซิง แต่ทันทีที่เผ่าฮุยรู้สึกตัวว่าพวกมันถูกซุ่มโจมตี หัวหน้าเผ่าฮุยได้สั่งการและแบ่งออกเป็นสองฝ่าย ฝ่ายหนึ่งให้หันกลับไปสังหารพลธนูของแคว้นเฉียน โดยใช้ศพของพวกเดียวกันเป็นเกาะกำบัง อีกฝ่ายหนึ่งทุ่มเทสุดกำลังทำลายป้อมปราการแล้วบุกเข้าไป “แทนที่จะล่าถอย แต่เลือกบุกต่

  • แม่ครัวแห่งยุคกับระบบร้านค้า    บทที่ 76 กำลังเต็มร้อยด้วยอาหารอัดแท่ง

    บทที่ 76กำลังเต็มร้อยด้วยอาหารอัดแท่ง วันต่อมา กองทัพของแม่ทัพฟาง หน่วยคุ้มกันเสบียงของเหิงเจา และหน่วยลอบโจมตีของเหยียนหลิ่ว เคลื่อนตัวออกจากเมืองหลวง เสบียงที่ทหารทุกนายพกติดตัวนั้น ส่วนใหญ่มาจากโรงเตี๊ยมตระกูลจาง นอกจากจะเป็นของแห้งที่เก็บไว้ได้นาน น้ำหนักเบา สารอาหารยังครบถ้วน ไม่เปลืองแรงเวลาต้องหอบหิ้วเวลาที่ต้องเดินทางไกลๆ แถมรสชาติยังอร่อย กินเท่าไรก็ไม่เบื่อ และต้องขอบคุณเสบียงจากโรงเตี๊ยมตระกูลจางเช่นกัน ทำให้การเดินทางมาถึงชายแดนตะวันออกเร็วกว่ากำหนดหลายวัน แม้ระหว่างทาง รถขนเสบียงจะถูกดักปล้น แต่ทหารทุกคนที่ได้กินธัญพืชอัดแท่งที่มีพลังงานสูง พวกเขาจึงปกป้องเสบียงหลวงเอาไว้ได้ โดยที่ไม่มีใครได้รับบาดเจ็บ ในขณะเดินทางไกล เลี่ยงไม่ได้ท่ีจะมีล้มป่วยด้วยพิษไข้ แต่ด้วยยาเม็ดจากโรงเตี๊ยมตระกูลจาง กินเพียงสองเม็ด ไข้หวัดเล็กน้อยพลันบรรเทาลง พร้อมออกเดินทางต่อได้ทันที ไม่ต้องทิ้งใครไว้ข้างหลัง ด้วยเหตุนี้เอง ตอนมาถึงป้อมปราการตะวันออก เรี่ยวแรงของทหารทุกนายจึงยังล้นเหลือ พร้อมออกรบได้ทันที

  • แม่ครัวแห่งยุคกับระบบร้านค้า    บทที่ 75 คุณหนูสามแห่งจวนเจ้ากรมพิธีการ

    บทที่ 75คุณหนูสามแห่งจวนเจ้ากรมพิธีการ ครั้นพอได้ยินเสียงคุ้นๆ สองหนุ่มสาวที่พลอดรักกันอยู่หน้าบ้าน มองผู้มาเยือนที่ไม่ได้รับเชิญด้วยสายตาเอือมระอา “เข้าบ้านคนอื่นก่อนได้รับอนุญาต ใครกันแน่ที่หน้าไม่อาย” เหยียนหลิ่วบอกด้วยเสียงเย็นชา “แม้ว่าเป็นข้าอย่างนั้นหรือ พี่เหยียนหลิ่ว” เสียงหวานกังวานใสดังขึ้นที่หน้าประตู จากนั้นหญิงสาววัยสิบแปดรูปร่างหน้าตาสะสวย สวมใส่อาภรณ์หรูหราก็ก้าวเข้ามาในบ้าน สาวรับใช้ที่ยืนเท้าสะเอว ทำหน้ายักษ์มองมาที่ตงตง รีบกลับไปยืนข้างหลังหญิงสาวผู้มาใหม่ พร้อมเรียกฝ่ายนั้นว่า “คุณหนู” เหยียนหลิ่วขมวดคิ้ว ก่อนจะพูดด้วยความรู้สึกไม่ชอบใจนัก “ถึงจะเป็นคุณหนูสามจากจวนเจ้ากรมพิธีการ ก็ควรเรียนรู้มารยาทสักหน่อย” ถูกชายหนุ่มที่ตัวเองชอบสั่งสอน ซูหลันหลัน…คุณหนูสามแห่งจวนเจ้ากรมพิธีการรู้สึกเสียหน้าเป็นอย่างมาก หันไปขึงตาใส่ตงตงที่นั่งเงียบ เหยียนหลิ่วลุกขึ้น ใช้ร่างใหญ่โตของตนยืนบังตงตงหมายปกป้องหญิงคนรัก แม้จะรู้ว่าคุณหนูสามซูคนนี้จะไม่กล้าแตะต้องตงตงก็ตาม

続きを読む
無料で面白い小説を探して読んでみましょう
GoodNovel アプリで人気小説に無料で!お好きな本をダウンロードして、いつでもどこでも読みましょう!
アプリで無料で本を読む
コードをスキャンしてアプリで読む
DMCA.com Protection Status