Home / รักโบราณ / แม่ครัวแห่งยุคกับระบบร้านค้า / บทที่ 75 คุณหนูสามแห่งจวนเจ้ากรมพิธีการ

Share

บทที่ 75 คุณหนูสามแห่งจวนเจ้ากรมพิธีการ

last update Last Updated: 2025-06-21 17:29:31

บทที่ 75

คุณหนูสามแห่งจวนเจ้ากรมพิธีการ

            ครั้นพอได้ยินเสียงคุ้นๆ สองหนุ่มสาวที่พลอดรักกันอยู่หน้าบ้าน มองผู้มาเยือนที่ไม่ได้รับเชิญด้วยสายตาเอือมระอา 

            “เข้าบ้านคนอื่นก่อนได้รับอนุญาต ใครกันแน่ที่หน้าไม่อาย” เหยียนหลิ่วบอกด้วยเสียงเย็นชา 

            “แม้ว่าเป็นข้าอย่างนั้นหรือ พี่เหยียนหลิ่ว”

            เสียงหวานกังวานใสดังขึ้นที่หน้าประตู จากนั้นหญิงสาววัยสิบแปดรูปร่างหน้าตาสะสวย สวมใส่อาภรณ์หรูหราก็ก้าวเข้ามาในบ้าน

            สาวรับใช้ที่ยืนเท้าสะเอว ทำหน้ายักษ์มองมาที่ตงตง รีบกลับไปยืนข้างหลังหญิงสาวผู้มาใหม่ พร้อมเรียกฝ่ายนั้นว่า “คุณหนู”

            เหยียนหลิ่วขมวดคิ้ว ก่อนจะพูดด้วยความรู้สึกไม่ชอบใจนัก

            “ถึงจะเป็นคุณหนูสามจากจวนเจ้ากรมพิธีการ ก็ควรเรียนรู้มารยาทสักหน่อย”

            ถูกชายหนุ่มที่ตัวเองชอบสั่งสอน ซูหลันหลัน…คุณหนูสามแห่งจวนเจ้ากรมพิธีการรู้สึกเสียหน้าเป็นอย่างมาก หันไปขึงตาใส่ตงตงที่นั่งเงียบ

            เหยียนหลิ่วลุกขึ้น ใช้ร่างใหญ่โตของตนยืนบังตงตงหมายปกป้องหญิงคนรัก แม้จะรู้ว่าคุณหนูสามซูคนนี้จะไม่กล้าแตะต้องตงตงก็ตาม

            เห็นแบบนี้ ซูหลันหลันยิ่งทำหน้าไม่พอใจ ส่งสายตาค้อนใส่เหยียนหลิ่ว

            แน่นอนว่า เหยียนหลิ่วหาได้สนใจสตรีอื่น ทั้งหัวใจของเขามีเพียงตงตงเท่านั้น และเขาก็ไม่ได้รู้สึกรู้สาอะไรกับสายตาของซูหลันหลัน

            “พี่เหยียนหลิ่ว ท่านควรจะพูดกับข้าให้ดีๆ หน่อย ข้าอุตส่าห์เอาของใช้จำเป็นในการเดินทางมาให้ท่านด้วยตัวเองเชียวนะ”

            “แต่ข้าไม่ได้ขอให้คุณหนูสามซูเอาของพวกนั้นมาให้ ท่านเชิญกลับไปเสียเถอะ” เหยียนหลิ่วบอกพร้อมผายมือไปทางประตู  

            “ทำไมท่านต้องเอาแต่พูดจาทำร้ายจิตใจข้าอยู่เรื่อย!” ซูหลันหลันพูดพร้อมเบะปากเหมือนจะร้องไห้

            “คุณหนู อย่าเสียใจเลยเจ้าค่ะ” สาวใช้คนสนิทลูบหลังของซูหลันหลันพลางพูดปลอบ

            อย่างที่บอก เหยียนหลิ่วกับตงตงไม่ได้สนใจซูหลันหลันอยู่แล้ว ทั้งคู่จึงมองดูการแสดงของผู้หญิงคนนี้ด้วยสีหน้าเฉยเมย

            ซูหลันหลันทำทีเป็นซับน้ำตา

            “ทะ ท่านใจร้าย!”

            เฮ้อ…

            ตงตงกับเหยียนหลิ่วหน่ายใจเป็นอย่างมาก แต่ก็ทำได้แค่ถอนหายใจซ้ำๆ 

            แม้เข้าใจความปลาบปลื้มของหซูหลัยนหลันที่มีต่อเหยียนหลิ่ว แต่นางไม่หน้าด้านหน้าทนไปหน่อยหรือ ตามตื้อผู้ชายที่ปฏิเสธตัวเองครั้งแล้วครั้งเล่า โดยคิดว่าผู้ชายจะมีใจให้สักวัน

            ที่สำคัญ!

            เหยียนหลิ่วบอกกับซูหลันหลันอย่างตรงไปตรงมาไม่รู้กี่ครั้งต่อกี่ครั้ง ตัวเขานั้นมีสตรีในดวงใจแล้ว แต่ซูหลันหลันกลับทำเป็นหูทวนลมไม่สนใจอะไรทั้งสิ้น น่ารำคาญสิ้นดี   

            คิดจบ เหยียนหลิ่วก็ถอนหายใจอีกรอบ

            “คุณหนูสามซู ข้าขอเตือนท่าน หากเอาแต่ไล่ตามผู้ชายเช่นนี้ ไม่เพียงจะทำให้ตัวเองเสียชื่อเสียง จวนเจ้ากรมพิธีการเองก็จะหน้าไปด้วย อีกอย่าง ท่านจะหาผู้ชายดีๆ แต่งด้วยไม่ได้” เหยียนหลิ่วเตือนอีกฝ่ายด้วยความหวังดี

            “ข้าชอบท่าน ใครๆ ก็รู้” ซูหลันหลันเถียงกลับอย่างหน้าไม่อาย

            “คุณหนูสามซู ท่านก็รู้เรื่องที่ข้ากับตงตงหมั้นหมายกัน เหตุใดไม่หยุดแค่นี้ขอรับ”

            ถือว่าเขาขอร้องละ

            เขาก็แค่อยากใช้ชีวิตสงบๆ กับคนรักก็เท่านั้น

            ตอนนี้ได้หมั้นกับหญิงในดวงใจแล้ว ซูหลันหลันจะตื้อกันไปถึงไหน  

            เหยียนหลิ่วคิดในใจ

            “พวกท่านยังไม่ได้แต่งงานกันเสียหน่อย เพราะงั้นข้ายังมีโอกาสอยู่ไม่ใช่หรอกหรือ”

            หา!?

            คำพูดของซูหลันหลัน ทำเอาตงตงกับเหยียนหลิ่วถึงกับอึ้ง

            ซูหลันหลันคนนี้ หากไม่หน้าด้านสุดทน ก็คงหลงตัวเองจนมองไม่เห็นความเป็นจริง

            “พี่เหยียนหลิ่ว ข้ามาวันนี้เพราะได้ยินว่าท่านจะออกเดินทางไปชายแดนในรุ่งเช้า ท่านต้องรักษาตัวกลับมาให้ดีนะ ข้าจะรอท่าน อ้อ…ข้าเอาของกินกับเสื้อผ้าอุ่นๆ มาให้ท่านเยอะแยะเลย การเดินทางครั้งนี้ท่านจะได้ไม่ลำบาก” ซูหลันหลันพูดพร้อมองห่อผ้าใบเล็กที่วางบนบนโต๊ะ

            ด้วยรู้ว่าห่อผ้านั้นคือของที่ตงตงเตรียมไว้ให้เหยียนหลิ่ว ซูหลันหลันอดจะเหยียดปากพูดจาแดกดันใส่ไม่ได้

            “ปากก็บอกชอบพี่เหยียนหลิ่ว แต่ของที่เอามาให้เขา ไม่เล็กไปหน่อยหรือ”

            พูดจบ ซูหลันหลันก็บอกให้คนยกของเข้ามา

            ตงตงถือคติว่า การตอบโต้กับคนโง่ รังแต่จะทำให้เสียเวลาเปล่า ดังนั้นนางจึงนั่งมองสถานการณ์เงียบๆ 

            ไม่นานจากนั้น ข้าวของมากมายพลันถูกยกเข้ามาวางในบ้าน มองเผินๆ เหมือนกับว่าเหยียนหลิ่วกำลังจะย้ายบ้านอย่างไรอย่างนั้น

            เหยียนหลิ่วสูดหายใจอย่างเหลืออด

            “คุณหนูสามซู ท่านรีบเอาของพวกนี้กลับไปเถอะ”

            “นะ น้อยเกินไปหรือ ข้าคิดว่าของพวกนี้จะพอแล้วเสียอีก”

            ได้ยินแบบนี้ เหยียนหลิ่วถึงกับกุมขมับ

            “พี่เหยียนหลิ่วเป็นอะไรไปหรือ”

            “เฮ้อ!” ชายหนุ่มอดรนทนไม่ไหวอีกแล้ว ถึงขั้นถอนหายใจหนักๆ ออกมา “ข้าเดินทางไปรบ ไม่ได้ไปเที่ยว สัมภาระยิ่งน้อยและน้ำหนักเบาเท่าไรยิ่งดี”

            “เอ่อ…แต่ว่า…” ซูหลันหลันทำหน้าปั้นยาก

            “สำคัญกว่านั้น คุณหนูสามซูเลิกตอแยข้าได้แล้ว ข้าบอกท่านไม่รู้กี่ครั้งต่อกี่ครั้ง สตรีในดวงใจของข้ามีเพียงตงตง แม้จะแต่งงานแล้ว ข้าก็ไม่คิดจะรับอนุ…เชิญท่านกลับไปเถอะ”

            “หัวหน้าหลิ่วพูดกับคุณหนูของข้าเช่นนี้ไม่คิดว่าจะรุนแรงไปหน่อยหรือ” สาวใช้คนสนิทของซูหลันหลันโต้เถียงแทนเจ้านาย

            “ข้าพูดเรื่องจริง แล้วก็ ถ้าเจ้าหวังดีกับคุณหนูของเจ้าจริงๆ เตือนนางว่าให้เลิกยุ่งกับข้าเสียที” เหยียนหลิ่วพูดด้วยสีหน้าขึงขัง

            “หัวหน้าหลิ่ว คนอย่างท่านอุตส่าห์ได้รับความเมตตาจากคุณหนูจากจวนเจ้ากรมพิธีการ หากท่านเลือกคุณหนูสามซู ตำแหน่งของท่านจะยิ่งมั่นคงกว่าเลือกคนครัวอย่างนาง” ท้ายประโยค สาวใช้ชี้ไปทางตงตง

            “ฐานะของข้า ข้าสร้างขึ้นมาเองได้ พวกเจ้ากลับเถอะ ก่อนที่ข้าจะหมดความอดทน” 

            ซูหลันหลันกระทืบเท้าเร่าๆ อย่างไม่พอใจ

            “เพราะนางคนเดียว หากไม่มีนาง…”

            “พวกเจ้าคิดจะแตะต้องผู้หญิงของข้างั้นรึ!”

            ผู้หญิงที่รักถูกพูดจาพาดพิง เหยียนหลิ่วถึงกับเลือดขึ้นหน้า กัดฟันจ้องมองซูหลันหลันกับสาวใช้ของนางเหมือนจะกินเลือดกินเนื้อ

            อีกอย่าง เขานั้นหาใช่สุภาพบุรุษ หากตงตงถูกทำร้าย ต่อให้อีกฝ่ายเป็นผู้หญิง เขาก็พร้อมจะแก้แค้นคืน

            ซูหลันหลันเห็นรังสีอำมหิตแผออกมาจากเหยียนหลิ่ว ก็ถึงอ้าปากพะงาบๆ เหมือนปลาที่ขาดน้ำ

            เกิดมายังไม่เคยถูกจิตสังหารพุ่งเป้าใส่แบบตรงๆ ซูหลันหลันหวาดกลัวจนแข้งขาสั่นไปหมดแล้ว 

            “จะจะ ใจร้าย ท่านใจร้ายมาก เช่นนั้น…ข้าจะหลีกทางให้ก่อน”

            ว่าแล้ว ซูหลันหลันก็รีบวิ่งออกจากบ้านของเหยียนหลิ่ว

            “เดี๋ยว!”

            เหยียนหลิ่วตะโกนรั้งให้ซูหลันหลันหยุด

            หญิงสาวคิดว่าชายหนุ่มใจอ่อนให้ตนแล้วก็ได้ นางจึงหันกลับมายิ้มหวาน

            “พี่เหยียน…”

            ทว่า…

            ซูหลันหลันไม่ทันพูดจบ

            เหยียนหลิ่วก็กล่าวว่า “เอาของของเจ้ากลับไปด้วย เกะกะบ้านข้า”

            ถูกหักหน้าอย่างจัง ความน้อยน้อยใจที่กักเก็บมานานทะลักออกมาเป็นน้ำตา 

            ซูหลันหลันร้องไห้โห สั่งบ่าวรับใช้ด้วยเสียงสะอื้น ให้พวกเขาเก็บของทั้งหมดขึ้นรถม้าแล้วกลับบ้าน

            ซูหลันหลันรู้ว่าหากมีตงตง นางก็เอาชนะใจเหยียนหลิ่วไม่ได้

            ถึงอย่างนั้น ซูหลันหลันก็แตะต้องตงตงไม่ได้อีกเช่นกัน 

            ครั้งหนึ่งซูหลันหลันเคยจ้างคนไปวางยาในอาหารโรงเตี๊ยมตระกูลจาง ทำให้โรงเตี๊ยมนั้นเสียชื่อเสียง

            แต่ยังไม่ทันได้เริ่ม เหล่าคนใหญ่คนโตในเมืองหลวง ต่างออกหน้าปกป้องโรงเตี๊ยมแห่งนั้น เสนาธิการเว่ยจ้งเอย ผู้ตรวจการของศาลต้าหลี่เอย แม้แต่รัชทายาทก็ยังออกปากว่าอาหารของโรงเตี๊ยมตระกูลจางอร่อย ควรค่ากับการรักษาไว้ให้ดี  

            ถึงขนาดนี้แล้ว ต่อให้ซูหลันหลันโง่แค่ไหนก็ไม่กล้ายุ่งกับโรงเตี๊ยมตระกูลจาง  

            หลังจากเสียงรถม้าของคุณหนูสามซูวิ่งออกไปไกลแล้ว เหยียนหลิ่วหันกลับมาตงตงด้วยแววตาที่เต็มไปด้วยความรักใคร่

            “ชั่วชีวิตนี้ข้ามีเพียงเจ้า คำไหนคำนั้น” เขายืนยัน

            “ข้ารู้” ตงตงตอบกลับพร้อมกับยิ้มหวานล้ำ

            “กลับจากศึกครั้งนี้ พวกเราแต่งงานกันนะ”

            เป็นการขอแต่งงานที่เรียบง่าย แต่เต็มไปด้วยความจริงใจ

            ตงตงตอบรับด้วยรอยยิ้มอีกครั้ง

            “อืม”

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • แม่ครัวแห่งยุคกับระบบร้านค้า    บทพิเศษ ความลับของตระกูลจาง

    บทพิเศษความลับของตระกูลจาง หนึ่งวันหลังเสร็จสิ้นงานแต่ง จางไคเฮ่อนำชื่อของเหยียนหลิ่วเข้าทะเบียนราษฎร์ของตระกูลจาง นับจากนี้เหยียนหลิ่วจะกลายเป็นคนตระกูลจางเต็มตัว กลายเป็น ‘จางเหยียนหลิ่ว’ ล่วงเข้าสู่วันที่ห้าหลังจากที่ทั้งสองกลายเป็นสามีภรรยากัน เหยียนหลิ่วก็ถูกตงตงจูงมือพาลงไปที่ห้องใต้ดินของโรงเตี๊ยม “ภรรยา…ห้องใต้ดินเป็นความลับของตระกูล เจ้าแน่ใจหรือว่าข้าลงไปที่นั่นได้” เหยียนหลิ่วถามเพื่อให้ตงตงไตร่ตรองอีกครั้ง เหยียนหลิ่วรู้แค่ว่า ภายในห้องใต้ดินเป็นสถานที่เก็บสินค้าและสมบัติของตระกูลจาง กุญแจมีเพียงสองดอกเท่านั้น ดอกหนึ่งจางไคเฮ่อเป็นคนเก็บ และดอกหนึ่งเป็นของตงตง กระนั้น ตงตงกลับหันมายิ้มให้กับเหยียนหลิ่วด้วยสีหน้าสบายๆ “ตอนนี้ท่านเองก็เป็นคนของตระกูลจางแล้ว” “ถึงจะอย่างนั้นก็เถอะ แต่…” “ในอนาคตท่านคิดจะหย่ากับข้าหรือ…หรือว่า…ท่านจะหักหลังตระกูลจาง?” “เรื่องนั้นจะไม่มีทางเกิดขึ้นเด็ดขาด!” เหยียนหลิ่วตอบกลับอย่างหนักแน่น หย่ากันหรือ

  • แม่ครัวแห่งยุคกับระบบร้านค้า    บทส่งท้าย

    บทส่งท้าย ฤกษ์แต่งงานที่เร็วที่ก็คือต้นเดือนหน้า นับวันดูแล้ว พวกเขามีเวลาจัดเตรียมงานไม่ถึง 1 เดือนด้วยซ้ำ ตงตงกับเหยียนหลิ่วจึงต้องตัดชุดแต่งงานกันตั้งแต่เนิ่นๆ เขียนบัตรเชิญส่งให้แขก กำหนดเมนูอาหาร และเริ่มซื้อข้าวของมาตกแต่งสถานที่ พอยุ่งอยู่กับการเตรียมงาน เผลอแป๊บเดียวก็เหลือเวลาอีกแค่ 2 วันเท่านั้น “ตงตง!” เสียงหญิงสาวอันคุ้นเคยดังหน้าประตูโรงเตี๊ยม ตงตงกำลังตรวจความเรียบร้อย หลังจากที่จิ่งฝางกับพวกเสี่ยวกวางแขวนโคมแดงเสร็จ รีบหันมองตามเสียงเรียกนั้น หานเจียเอ๋อร์ยืนยิ้มให้กับตงตง ข้างๆ หานเจียเอ๋อร์คือถังเหวินที่กำลังอุ้มลูกชายวัย 2 ขวบ ทั้งคู่แต่งงานกันเมื่อ 3 ปีก่อน หลังพิธีวิวาห์ สองเดือนถัดมา หานเจียเอ๋อร์ก็ตั้งครรภ์ทันที ถัดจากถังเหวินก็คือซานหลัวเฉินกับภรรยาที่เพิ่งแต่ง ครั้นเห็นคนคุ้นเคย ตงตงก็เดินยิ้มเข้าไปหาทุกคน “พวกท่านมากันแล้ว เข้ามาก่อนเจ้าค่ะ…อาหลงตัวน้อย สบายดีไหมจ๊ะ” เด็กน้อยวัย 2 ขวบพยักหน้าตอบ “อื้อ”

  • แม่ครัวแห่งยุคกับระบบร้านค้า    บทที่ 78 ขอแต่งงาน

    บทที่ 78ขอแต่งงาน 10 วันต่อมา ณ สำนักราชองครักษ์หลวง ทันทีที่กลับมาถึงเมืองหลวง เหิงเจากับเหยียนหลิ่วเข้าพบเสนาธิการเว่ยจ้ง รายงานเรื่องราวทั้งหมดตอนอยู่ป้อมปราการตะวันออก เมื่อเสร็จธุระหมดแล้ว เหยียนหลิ่วขอตัวกลับทันที ชายหนุ่มเดินบนถนนด้วยฝีเท้าเร่งรีบ เมื่อมาถึงโรงเตี๊ยมตระกูลจาง เห็นหญิงสาวในดวงใจยืนต้อนรับลูกค้าอยู่หน้าร้านพอดี เหยียนหลิ่วส่งเสียงเรียกหญิงสาวด้วยความตื่นเต้น “ตงตง!” เสียงเรียกของชายหนุ่มไม่เพียงดึงดูดสายตาของตงตง ยังเรียกความสนใจจากคนรอบข้างอีกด้วย ทว่า… สองหนุ่มสาวหาได้สนใจคนอื่นแต่อย่างใด ในสายตาของทั้งคู่มีเพียงกันและกันเท่านั้น “พี่หลิ่วกลับมาแล้ว!” ตงตงยิ้มกว้าง ก้าวยาวๆ เข้าไปหาชายหนุ่ม เมื่อระยะห่างของทั้งคู่ร่นลงจนไม่เหลือช่องว่าง เหยียนหลิ่วตอบกลับหญิงสาวด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา “ข้ากลับมาแล้ว” เหยียนหลิ่วไม่เพียงพูดเปล่าๆ สองมือใหญ่ยังโอบเอวบางของนาง แล้วยกร่างของนางขึ้นจากพื้นอ

  • แม่ครัวแห่งยุคกับระบบร้านค้า    บทที่ 77 จู่โจมรวดเร็ว

    บทที่ 77จู่โจมรวดเร็ว หลังจากหัวหน้าเผ่าฮุยรู้ข่าวเรื่องกองทัพสนับสนุนเดินทางมาถึงป้อมปราการตะวันออก พวกมันก็ไม่อยู่เฉย เคลื่อนทัพท่ามกลางความมืด รอจังหวะบุกโจมตีป้อมปราการตะวันออกอย่างไม่ให้แคว้นเฉียนรู้ตัว หากทว่า กลางดึกคืนเดียวกันนั้น ฟางอู่เซิงวางกองกำลังไว้ที่นอกป้อมปราการอย่างเงียบเฉียบ ทันทีที่แสงแรกมาเยือน หัวหน้าพลธนูที่ซ่อนตัวตั้งแต่กลางดึก ก็ได้ส่งสัญญาณมือให้โจมตี พลธนูที่ซุ่มบนต้นไม้นับสิบนายปล่อยศรพุ่งออกไป ฟิ้ว… “อึก!” “อั่ก!!” ทหารเผ่าฮุยที่ตั้งทัพเตรียมบุกป้อมปราการ ล้มกองบนพื้นทีละคนสองคนราวกับใบไม้ล่วงจากต้น เริ่มต้นสงคราม มองเผินๆ ฝ่ายที่ได้เปรียบอาจจะเป็นทางแม่ทัพฟางอู่เซิง แต่ทันทีที่เผ่าฮุยรู้สึกตัวว่าพวกมันถูกซุ่มโจมตี หัวหน้าเผ่าฮุยได้สั่งการและแบ่งออกเป็นสองฝ่าย ฝ่ายหนึ่งให้หันกลับไปสังหารพลธนูของแคว้นเฉียน โดยใช้ศพของพวกเดียวกันเป็นเกาะกำบัง อีกฝ่ายหนึ่งทุ่มเทสุดกำลังทำลายป้อมปราการแล้วบุกเข้าไป “แทนที่จะล่าถอย แต่เลือกบุกต่

  • แม่ครัวแห่งยุคกับระบบร้านค้า    บทที่ 76 กำลังเต็มร้อยด้วยอาหารอัดแท่ง

    บทที่ 76กำลังเต็มร้อยด้วยอาหารอัดแท่ง วันต่อมา กองทัพของแม่ทัพฟาง หน่วยคุ้มกันเสบียงของเหิงเจา และหน่วยลอบโจมตีของเหยียนหลิ่ว เคลื่อนตัวออกจากเมืองหลวง เสบียงที่ทหารทุกนายพกติดตัวนั้น ส่วนใหญ่มาจากโรงเตี๊ยมตระกูลจาง นอกจากจะเป็นของแห้งที่เก็บไว้ได้นาน น้ำหนักเบา สารอาหารยังครบถ้วน ไม่เปลืองแรงเวลาต้องหอบหิ้วเวลาที่ต้องเดินทางไกลๆ แถมรสชาติยังอร่อย กินเท่าไรก็ไม่เบื่อ และต้องขอบคุณเสบียงจากโรงเตี๊ยมตระกูลจางเช่นกัน ทำให้การเดินทางมาถึงชายแดนตะวันออกเร็วกว่ากำหนดหลายวัน แม้ระหว่างทาง รถขนเสบียงจะถูกดักปล้น แต่ทหารทุกคนที่ได้กินธัญพืชอัดแท่งที่มีพลังงานสูง พวกเขาจึงปกป้องเสบียงหลวงเอาไว้ได้ โดยที่ไม่มีใครได้รับบาดเจ็บ ในขณะเดินทางไกล เลี่ยงไม่ได้ท่ีจะมีล้มป่วยด้วยพิษไข้ แต่ด้วยยาเม็ดจากโรงเตี๊ยมตระกูลจาง กินเพียงสองเม็ด ไข้หวัดเล็กน้อยพลันบรรเทาลง พร้อมออกเดินทางต่อได้ทันที ไม่ต้องทิ้งใครไว้ข้างหลัง ด้วยเหตุนี้เอง ตอนมาถึงป้อมปราการตะวันออก เรี่ยวแรงของทหารทุกนายจึงยังล้นเหลือ พร้อมออกรบได้ทันที

  • แม่ครัวแห่งยุคกับระบบร้านค้า    บทที่ 75 คุณหนูสามแห่งจวนเจ้ากรมพิธีการ

    บทที่ 75คุณหนูสามแห่งจวนเจ้ากรมพิธีการ ครั้นพอได้ยินเสียงคุ้นๆ สองหนุ่มสาวที่พลอดรักกันอยู่หน้าบ้าน มองผู้มาเยือนที่ไม่ได้รับเชิญด้วยสายตาเอือมระอา “เข้าบ้านคนอื่นก่อนได้รับอนุญาต ใครกันแน่ที่หน้าไม่อาย” เหยียนหลิ่วบอกด้วยเสียงเย็นชา “แม้ว่าเป็นข้าอย่างนั้นหรือ พี่เหยียนหลิ่ว” เสียงหวานกังวานใสดังขึ้นที่หน้าประตู จากนั้นหญิงสาววัยสิบแปดรูปร่างหน้าตาสะสวย สวมใส่อาภรณ์หรูหราก็ก้าวเข้ามาในบ้าน สาวรับใช้ที่ยืนเท้าสะเอว ทำหน้ายักษ์มองมาที่ตงตง รีบกลับไปยืนข้างหลังหญิงสาวผู้มาใหม่ พร้อมเรียกฝ่ายนั้นว่า “คุณหนู” เหยียนหลิ่วขมวดคิ้ว ก่อนจะพูดด้วยความรู้สึกไม่ชอบใจนัก “ถึงจะเป็นคุณหนูสามจากจวนเจ้ากรมพิธีการ ก็ควรเรียนรู้มารยาทสักหน่อย” ถูกชายหนุ่มที่ตัวเองชอบสั่งสอน ซูหลันหลัน…คุณหนูสามแห่งจวนเจ้ากรมพิธีการรู้สึกเสียหน้าเป็นอย่างมาก หันไปขึงตาใส่ตงตงที่นั่งเงียบ เหยียนหลิ่วลุกขึ้น ใช้ร่างใหญ่โตของตนยืนบังตงตงหมายปกป้องหญิงคนรัก แม้จะรู้ว่าคุณหนูสามซูคนนี้จะไม่กล้าแตะต้องตงตงก็ตาม

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status