ホーム / รักโบราณ / แม่ครัวแห่งยุคกับระบบร้านค้า / บทที่ 25 เป้าหมายของฉินเจี้ยนถิง

共有

บทที่ 25 เป้าหมายของฉินเจี้ยนถิง

last update 最終更新日: 2025-06-21 17:03:25

บทที่ 25

เป้าหมายของฉินเจี้ยนถิง

            สถานที่ใหญ่โตนี้คือโรงเตี๊ยมตระกูลฉิน

            ยามบ่ายเป็นเวลาดื่มชากินของว่าง

            ‘ฉินเจี้ยนถิง’ เถ้าแก่ใหญ่ของโรงเตี๊ยมตระกูลฉินกำลังนั่งดื่มชาในห้องรับรองกับลูกชายคนรอง

            ทันทีที่เหอจ้าวเข้ามาในห้อง ฉินเจี้ยนถิงพลันถามว่า “รสชาติหม้อไฟหมาล่าเป็นยังไงบ้างล่ะ”

            เหอจ้าวเหลือบมองสองพ่อลูก ก่อนจะตอบอย่างระมัดระวัง

            “หม้อไฟของโรงเตี๊ยมตระกูลจางทำออกมาได้อร่อยขอรับน้ำซุปออกมา 2 รสชาติ หนึ่งเผ็ด หนึ่งกลมกล่อม แต่เข้ากันเป็นอย่างดี กินเท่าไรก็ไม่น่าเบื่อขอรับ”

            ในฐานะหลงจู๊ (ผู้จัดการ) เหอจ้าวตอบตามความจริง

            ทั้งนี้ เพื่อเปรียบเทียบข้อดีข้อเสียระหว่างโรงเตี๊ยมตระกูลฉินกับโรงเตี๊ยมคู่แข่ง การลำเอียงจะทำให้ร้านไม่พัฒนา

            เถ้าแก่ใหญ่ฉินได้ยินแบบนั้นยังคงรักษาสีหน้าสุขุม

            ขณะที่ลูกชายคนรอง ‘ฉินเฟยอวี่’ ขมวดคิ้วไม่พอใจ

            “เท่าที่ฟังมามีแต่คำชม แล้ว…ไม่มีอะไรที่ผิดพลาดบ้างเลยหรือ” ฉินเฟยอวี่ถามด้วยบรรยากาศกดดัน 

            “ไม่มีขอรับ ทั้งการบริการและขั้นตอนเก็บเงิน จางตงตงทำได้อย่างรอบคอบ รวดเร็วและรัดกุมขอรับ”

            “แปลกแหะ” ฉินเฟยอวี่พึมพำ

            ได้ยินว่าจางตงตงเป็นเพียงเด็กสาวอายุ 15 ยังอ่อนประสบการณ์ แถมนิสัยขี้ขลาด

            ก่อนหน้านั้นถูกหลงจู๊ของตัวเองโกงเงินไปทั้งหมด ทำให้โรงเตี๊ยมตระกูลจางต้องปิดกิจการ

            ถึงอย่างนั้น…

            2 เดือนให้หลัง จางตงตงกลับมาเปิดร้านขายซาลาเปา

            ซาลาเปาของนางอร่อยมาก ขายหมดทุกวัน

            ต่อมา นางทำโจ๊กและปาท่องโก๋ขาย ทั้งที่เป็นเมนูอาหารเช้าแสนธรรมดา แต่ลูกค้าที่อุดหนุนล้วนพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า ‘อร่อย’

            สำคัญกว่านั้น เมนูอาหารเช้ายังขายหมดเกลี้ยงทุกวันเหมือนกับซาลาเปา และตอนนี้ นางหันมาขายหม้อไฟหมาล่า

            เพียงไม่กี่วัน ลูกค้ามากมายต่างต่อแถวเพื่อกินหม้อไฟหมาล่าโรงเตี๊ยมตระกูลจาง

            อยากรู้เสียจริง หม้อไฟหมาล่าอร่อยขนาดนั้นเชียวหรือ

            “จุดผิดพลาดเล็กๆ ก็ไม่มีหรือ” เถ้าแก่ใหญ่ฉินเจี้ยนถิงถามเหอจ้าว

            เหอจ้าวตอบตามความจริงเช่นเดิม

            “ไม่มีขอรับ”

            ฉินเจี้ยนถิงพยักหน้าเล็กน้อยก่อนจะเอ่ยขึ้น “ด้วยวัยเท่านาง ไหนจะทำอาหาร ไหนจะบริหารร้าน หากแม้แต่เจ้ายังชมว่านางเก่ง เช่นนั้นนางคงมีความสามารถจริงๆ”

            “หามิได้ขอรับ” เหอจ้าวตอบกลับอย่างนอบน้อม ทั้งยังพูดถึงเรื่องที่คุณชายต้วนเซียวออกหน้าปกป้องจางตงตง

            ฉินเจี้ยนถิงหยุดคิดไปพักหนึ่ง ก่อนจะคลี่ยิ้มแล้วกล่าว “เห็นทีว่าโรงเตี๊ยมตระกูลฉินเราต้องรีบซื้อสูตรจากนาง ก่อนที่โรงเตี๊ยมตระกูลหานจะชิงตัดหน้า”  

            “เรื่องนี้ข้าน้อยเห็นด้วยขอรับ”

            เมื่อปรึกษากันจบ เถ้าแก่ใหญ่ฉินมอบหมายให้หลงจู๊เหอไปเจรจากับจางตงตง

            ฉินเจี้ยนถิงต้องการขายหม้อไฟหมาล่า ก่อนที่หานป๋อเหล่ยจะซื้อสูตรของนางไป

            เหมือนกับซาลาเปาของจางตงตงที่หานป๋อเหล่ยได้สูตรของนางไปทำขายก่อนเขา

            …..

            …..

            ย้อนกลับมา

            ณ โรงเตี๊ยมตระกูลจาง

            ระหว่างกำลังเก็บร้านในตอนเย็น จิ่งฝางมองตงตงด้วยท่าทีลังเล

            ผ่านไปพักใหญ่ หลังจากที่ตัดสินใจแล้ว จิ่งฝางก็เดินเข้ามาถามเด็กสาวด้วยความกังวลใจ

            “ตงตง เมื่อตอนบ่ายหลงจู๊จากโรงเตี๊ยมตระกูลฉิมาที่นี่ใช่หรือไม่ และยังทดสอบเจ้าอีก แบบนี้จะไม่มีปัญหาแน่หรือ”

            คราวก่อนที่เหอจ้าวมากินซาลาเปาร้านตงตง วันต่อมา โรงเตี๊ยมตระกูลฉินก็ลอกเลียนแบบซาลาเปาไส้ฟักทองหวาน

            คราวนี้เหอจ้าวมากินหม้อไฟหมาล่า อีกประเดี๋ยว คงมีข่าวว่าโรงเตี๊ยมตระกูลฉินเปิดขายหม้อไฟด้วยกระมัง

            ตงตงยิ้มอย่างไม่ใส่ใจแล้วตอบ

            “เขาทดสอบว่าข้าคิดเงินผิดหรือไม่”

            “ตงตงเก่งขนาดนั้นจะคิดเงินผิดได้ยังไง!” จิ่งฝางโต้กลับจนคอขึ้นเอ็น

            “ข้าไม่มีทางคิดผิดอยู่แล้ว”

            “ใช่ไหมล่ะ”

            “อีกอย่าง พวกเขาไม่มีทางเลียนแบบรสชาติหม้อไฟเหมือนของข้าหรอก พี่จิ่งฝางไม่ต้องเป็นห่วง” ตงตงพูดด้วยสีหน้ามั่นใจ

            ความอร่อยของหมาล่าอยู่ที่น้ำซุปและซอสจิ้ม นอกจากต้องตวงเครื่องปรุงใส่อย่างเหมาะสม ควบคุมอุณหภูมิไฟ ความลับอีกอย่างก็คือเครื่องปรุงที่ใช้ ตงตงซื้อจากร้านค้าในระบบ อย่างพวกยี่หร่า พริกหอมและซอสสำเร็จ

            จิ่งฝางเห็นสีหน้ามั่นใจของตงตง ความกังวลพลันผ่อนคลายลง

            นั่นสินะ ขนาดซาลาเปาว่าทำง่าย มิหนำซ้ำโรงเตี๊ยมตระกูลฉินยังมีพ่อครัวฝีมือดี พวกเขายังทำออกมารสชาติไม่ได้ใกล้เคียงตงตงเลยสักนิด

            สรุปคือไม่มีใครเลียนแบบรสชาติอาหารของตงตงได้นั่นเอง

            ความกังวลของเขานับว่าสูญเปล่าแล้ว

            …..

            …..

            2-3 วันต่อมา

            โรงเตี๊ยมตระกูลจางเปิดกิจการอย่างปกติ

            มิหนำซ้ำ ช่วงนี้คนในเมืองอู่เฉิงให้ความสนใจโรงเตี๊ยมตระกูลจางเป็นอย่างมาก แค่ยามเซิน (15.00-16.59 น.) หม้อไฟหมาล่าก็ขายหมดแล้ว  

            เมื่อของขายหมดเร็ว ทุกคนก็ช่วยกันเก็บร้านและทำความสะอาด

            ในขณะที่ทุกคนกำลังแยกย้ายกลับบ้าน หลงจู๊เหอก็มาขอพบตงตงพร้อมกับชายหนุ่มคนหนึ่ง

            พอมองดูดีๆ ชายหนุ่มที่มากับเหอจ้าวคนนี้ไม่ใช่คนเดียวกับที่มากินหม้อไฟหมาล่าเมื่อหลายวันก่อน แถมเหอจ้าวยังเรียกฝ่ายนั้นว่า ‘คุณชายรอง’

            “หลงจู๊เหอ วันนี้หม้อไฟหมาล่าร้านเราหมดแล้ว ท่านกับคุณชายท่านนี้มาเสียเที่ยวแล้วเจ้าค่ะ” ตงตงบอกด้วยท่าทางนอบน้อม จะมากจะน้อยอีกฝ่ายก็เป็นลูกค้า

            หลงจู๊เหอรีบบอก “ไม่ใช่ๆ ข้ากับคุณชายรองมาที่นี่เพราะมีเรื่องอยากคุยกับเจ้า”

            ตงตงเหลือบตามองคุณชายรอง จากนั้นผงกศีรษะให้ทีหนึ่ง

            “สวัสดีเจ้าค่ะ”

            “สวัสดี”

            คุณชายรองฉินยิ้มกรุ่มกริ่มบนมุมปาก ขณะเดียวกันสายตาของเขากวาดมองมองหัวจรดเท้าเหมือนกำลังประเมิน

            จังหวะที่คุณชายรองขยับปากเหมือนจะพูดบางอย่าง เสียงของจางไคเฮ่อดังขึ้น

            “ตงตง!”

            ทุกคนเบนความสนใจไปที่จางไคเฮ่อ

            ไม่นาน จางไคเฮ่อก็เดินเข้ามายืนข้างลูกสาว “หลงจู๊เหอ คุณชายรองฉิน วันนี้ร้านเราขายของหมดเกลี้ยง พวกท่านคงต้องมาใหม่พรุ่งนี้แล้ว”

            “เถ้าแก่ใหญ่มาพอดี พวกเรามีธุระสำคัญอยากคุยกับเถ้าแก่เนี้ยน้อย แต่ถ้าไม่มีผู้ใหญ่อยู่ด้วย ก็เหมือนเป็นการเอาเปรียบนาง”

            “ธุระสำคัญหรือ?” จางไคเฮ่อถามซ้ำ

            ตงตงเองก็กะพริบตาอย่างสงสัย

            จังหวะที่เหอจ้าวกำลังอธิบายจุดประสงค์ที่มา  

            สายตาของของฉินอวี่เฟยเหลือบเห็นเด็กหนุ่มคนหนึ่งกำลังแบกกระสอบแป้งเดินผ่านประตูหลังร้านไปพอดี

            หือ?

            ทันใดนั้นเองสายตาของฉินเฟยอวี่ฉายแววเจ้าเล่ห์ ริมฝีปากฉีกยิ้มชั่วร้าย

            ช่างบังเอิญเสียจริง ‘น้องชาย’ ต่างมารดาของกู้อวี้ชุนก็อยู่ที่นี่ด้วย!

この本を無料で読み続ける
コードをスキャンしてアプリをダウンロード

最新チャプター

  • แม่ครัวแห่งยุคกับระบบร้านค้า    บทพิเศษ ความลับของตระกูลจาง

    บทพิเศษความลับของตระกูลจาง หนึ่งวันหลังเสร็จสิ้นงานแต่ง จางไคเฮ่อนำชื่อของเหยียนหลิ่วเข้าทะเบียนราษฎร์ของตระกูลจาง นับจากนี้เหยียนหลิ่วจะกลายเป็นคนตระกูลจางเต็มตัว กลายเป็น ‘จางเหยียนหลิ่ว’ ล่วงเข้าสู่วันที่ห้าหลังจากที่ทั้งสองกลายเป็นสามีภรรยากัน เหยียนหลิ่วก็ถูกตงตงจูงมือพาลงไปที่ห้องใต้ดินของโรงเตี๊ยม “ภรรยา…ห้องใต้ดินเป็นความลับของตระกูล เจ้าแน่ใจหรือว่าข้าลงไปที่นั่นได้” เหยียนหลิ่วถามเพื่อให้ตงตงไตร่ตรองอีกครั้ง เหยียนหลิ่วรู้แค่ว่า ภายในห้องใต้ดินเป็นสถานที่เก็บสินค้าและสมบัติของตระกูลจาง กุญแจมีเพียงสองดอกเท่านั้น ดอกหนึ่งจางไคเฮ่อเป็นคนเก็บ และดอกหนึ่งเป็นของตงตง กระนั้น ตงตงกลับหันมายิ้มให้กับเหยียนหลิ่วด้วยสีหน้าสบายๆ “ตอนนี้ท่านเองก็เป็นคนของตระกูลจางแล้ว” “ถึงจะอย่างนั้นก็เถอะ แต่…” “ในอนาคตท่านคิดจะหย่ากับข้าหรือ…หรือว่า…ท่านจะหักหลังตระกูลจาง?” “เรื่องนั้นจะไม่มีทางเกิดขึ้นเด็ดขาด!” เหยียนหลิ่วตอบกลับอย่างหนักแน่น หย่ากันหรือ

  • แม่ครัวแห่งยุคกับระบบร้านค้า    บทส่งท้าย

    บทส่งท้าย ฤกษ์แต่งงานที่เร็วที่ก็คือต้นเดือนหน้า นับวันดูแล้ว พวกเขามีเวลาจัดเตรียมงานไม่ถึง 1 เดือนด้วยซ้ำ ตงตงกับเหยียนหลิ่วจึงต้องตัดชุดแต่งงานกันตั้งแต่เนิ่นๆ เขียนบัตรเชิญส่งให้แขก กำหนดเมนูอาหาร และเริ่มซื้อข้าวของมาตกแต่งสถานที่ พอยุ่งอยู่กับการเตรียมงาน เผลอแป๊บเดียวก็เหลือเวลาอีกแค่ 2 วันเท่านั้น “ตงตง!” เสียงหญิงสาวอันคุ้นเคยดังหน้าประตูโรงเตี๊ยม ตงตงกำลังตรวจความเรียบร้อย หลังจากที่จิ่งฝางกับพวกเสี่ยวกวางแขวนโคมแดงเสร็จ รีบหันมองตามเสียงเรียกนั้น หานเจียเอ๋อร์ยืนยิ้มให้กับตงตง ข้างๆ หานเจียเอ๋อร์คือถังเหวินที่กำลังอุ้มลูกชายวัย 2 ขวบ ทั้งคู่แต่งงานกันเมื่อ 3 ปีก่อน หลังพิธีวิวาห์ สองเดือนถัดมา หานเจียเอ๋อร์ก็ตั้งครรภ์ทันที ถัดจากถังเหวินก็คือซานหลัวเฉินกับภรรยาที่เพิ่งแต่ง ครั้นเห็นคนคุ้นเคย ตงตงก็เดินยิ้มเข้าไปหาทุกคน “พวกท่านมากันแล้ว เข้ามาก่อนเจ้าค่ะ…อาหลงตัวน้อย สบายดีไหมจ๊ะ” เด็กน้อยวัย 2 ขวบพยักหน้าตอบ “อื้อ”

  • แม่ครัวแห่งยุคกับระบบร้านค้า    บทที่ 78 ขอแต่งงาน

    บทที่ 78ขอแต่งงาน 10 วันต่อมา ณ สำนักราชองครักษ์หลวง ทันทีที่กลับมาถึงเมืองหลวง เหิงเจากับเหยียนหลิ่วเข้าพบเสนาธิการเว่ยจ้ง รายงานเรื่องราวทั้งหมดตอนอยู่ป้อมปราการตะวันออก เมื่อเสร็จธุระหมดแล้ว เหยียนหลิ่วขอตัวกลับทันที ชายหนุ่มเดินบนถนนด้วยฝีเท้าเร่งรีบ เมื่อมาถึงโรงเตี๊ยมตระกูลจาง เห็นหญิงสาวในดวงใจยืนต้อนรับลูกค้าอยู่หน้าร้านพอดี เหยียนหลิ่วส่งเสียงเรียกหญิงสาวด้วยความตื่นเต้น “ตงตง!” เสียงเรียกของชายหนุ่มไม่เพียงดึงดูดสายตาของตงตง ยังเรียกความสนใจจากคนรอบข้างอีกด้วย ทว่า… สองหนุ่มสาวหาได้สนใจคนอื่นแต่อย่างใด ในสายตาของทั้งคู่มีเพียงกันและกันเท่านั้น “พี่หลิ่วกลับมาแล้ว!” ตงตงยิ้มกว้าง ก้าวยาวๆ เข้าไปหาชายหนุ่ม เมื่อระยะห่างของทั้งคู่ร่นลงจนไม่เหลือช่องว่าง เหยียนหลิ่วตอบกลับหญิงสาวด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา “ข้ากลับมาแล้ว” เหยียนหลิ่วไม่เพียงพูดเปล่าๆ สองมือใหญ่ยังโอบเอวบางของนาง แล้วยกร่างของนางขึ้นจากพื้นอ

  • แม่ครัวแห่งยุคกับระบบร้านค้า    บทที่ 77 จู่โจมรวดเร็ว

    บทที่ 77จู่โจมรวดเร็ว หลังจากหัวหน้าเผ่าฮุยรู้ข่าวเรื่องกองทัพสนับสนุนเดินทางมาถึงป้อมปราการตะวันออก พวกมันก็ไม่อยู่เฉย เคลื่อนทัพท่ามกลางความมืด รอจังหวะบุกโจมตีป้อมปราการตะวันออกอย่างไม่ให้แคว้นเฉียนรู้ตัว หากทว่า กลางดึกคืนเดียวกันนั้น ฟางอู่เซิงวางกองกำลังไว้ที่นอกป้อมปราการอย่างเงียบเฉียบ ทันทีที่แสงแรกมาเยือน หัวหน้าพลธนูที่ซ่อนตัวตั้งแต่กลางดึก ก็ได้ส่งสัญญาณมือให้โจมตี พลธนูที่ซุ่มบนต้นไม้นับสิบนายปล่อยศรพุ่งออกไป ฟิ้ว… “อึก!” “อั่ก!!” ทหารเผ่าฮุยที่ตั้งทัพเตรียมบุกป้อมปราการ ล้มกองบนพื้นทีละคนสองคนราวกับใบไม้ล่วงจากต้น เริ่มต้นสงคราม มองเผินๆ ฝ่ายที่ได้เปรียบอาจจะเป็นทางแม่ทัพฟางอู่เซิง แต่ทันทีที่เผ่าฮุยรู้สึกตัวว่าพวกมันถูกซุ่มโจมตี หัวหน้าเผ่าฮุยได้สั่งการและแบ่งออกเป็นสองฝ่าย ฝ่ายหนึ่งให้หันกลับไปสังหารพลธนูของแคว้นเฉียน โดยใช้ศพของพวกเดียวกันเป็นเกาะกำบัง อีกฝ่ายหนึ่งทุ่มเทสุดกำลังทำลายป้อมปราการแล้วบุกเข้าไป “แทนที่จะล่าถอย แต่เลือกบุกต่

  • แม่ครัวแห่งยุคกับระบบร้านค้า    บทที่ 76 กำลังเต็มร้อยด้วยอาหารอัดแท่ง

    บทที่ 76กำลังเต็มร้อยด้วยอาหารอัดแท่ง วันต่อมา กองทัพของแม่ทัพฟาง หน่วยคุ้มกันเสบียงของเหิงเจา และหน่วยลอบโจมตีของเหยียนหลิ่ว เคลื่อนตัวออกจากเมืองหลวง เสบียงที่ทหารทุกนายพกติดตัวนั้น ส่วนใหญ่มาจากโรงเตี๊ยมตระกูลจาง นอกจากจะเป็นของแห้งที่เก็บไว้ได้นาน น้ำหนักเบา สารอาหารยังครบถ้วน ไม่เปลืองแรงเวลาต้องหอบหิ้วเวลาที่ต้องเดินทางไกลๆ แถมรสชาติยังอร่อย กินเท่าไรก็ไม่เบื่อ และต้องขอบคุณเสบียงจากโรงเตี๊ยมตระกูลจางเช่นกัน ทำให้การเดินทางมาถึงชายแดนตะวันออกเร็วกว่ากำหนดหลายวัน แม้ระหว่างทาง รถขนเสบียงจะถูกดักปล้น แต่ทหารทุกคนที่ได้กินธัญพืชอัดแท่งที่มีพลังงานสูง พวกเขาจึงปกป้องเสบียงหลวงเอาไว้ได้ โดยที่ไม่มีใครได้รับบาดเจ็บ ในขณะเดินทางไกล เลี่ยงไม่ได้ท่ีจะมีล้มป่วยด้วยพิษไข้ แต่ด้วยยาเม็ดจากโรงเตี๊ยมตระกูลจาง กินเพียงสองเม็ด ไข้หวัดเล็กน้อยพลันบรรเทาลง พร้อมออกเดินทางต่อได้ทันที ไม่ต้องทิ้งใครไว้ข้างหลัง ด้วยเหตุนี้เอง ตอนมาถึงป้อมปราการตะวันออก เรี่ยวแรงของทหารทุกนายจึงยังล้นเหลือ พร้อมออกรบได้ทันที

  • แม่ครัวแห่งยุคกับระบบร้านค้า    บทที่ 75 คุณหนูสามแห่งจวนเจ้ากรมพิธีการ

    บทที่ 75คุณหนูสามแห่งจวนเจ้ากรมพิธีการ ครั้นพอได้ยินเสียงคุ้นๆ สองหนุ่มสาวที่พลอดรักกันอยู่หน้าบ้าน มองผู้มาเยือนที่ไม่ได้รับเชิญด้วยสายตาเอือมระอา “เข้าบ้านคนอื่นก่อนได้รับอนุญาต ใครกันแน่ที่หน้าไม่อาย” เหยียนหลิ่วบอกด้วยเสียงเย็นชา “แม้ว่าเป็นข้าอย่างนั้นหรือ พี่เหยียนหลิ่ว” เสียงหวานกังวานใสดังขึ้นที่หน้าประตู จากนั้นหญิงสาววัยสิบแปดรูปร่างหน้าตาสะสวย สวมใส่อาภรณ์หรูหราก็ก้าวเข้ามาในบ้าน สาวรับใช้ที่ยืนเท้าสะเอว ทำหน้ายักษ์มองมาที่ตงตง รีบกลับไปยืนข้างหลังหญิงสาวผู้มาใหม่ พร้อมเรียกฝ่ายนั้นว่า “คุณหนู” เหยียนหลิ่วขมวดคิ้ว ก่อนจะพูดด้วยความรู้สึกไม่ชอบใจนัก “ถึงจะเป็นคุณหนูสามจากจวนเจ้ากรมพิธีการ ก็ควรเรียนรู้มารยาทสักหน่อย” ถูกชายหนุ่มที่ตัวเองชอบสั่งสอน ซูหลันหลัน…คุณหนูสามแห่งจวนเจ้ากรมพิธีการรู้สึกเสียหน้าเป็นอย่างมาก หันไปขึงตาใส่ตงตงที่นั่งเงียบ เหยียนหลิ่วลุกขึ้น ใช้ร่างใหญ่โตของตนยืนบังตงตงหมายปกป้องหญิงคนรัก แม้จะรู้ว่าคุณหนูสามซูคนนี้จะไม่กล้าแตะต้องตงตงก็ตาม

続きを読む
無料で面白い小説を探して読んでみましょう
GoodNovel アプリで人気小説に無料で!お好きな本をダウンロードして、いつでもどこでも読みましょう!
アプリで無料で本を読む
コードをスキャンしてアプリで読む
DMCA.com Protection Status