Home / รักโบราณ / แม่ครัวแห่งยุคกับระบบร้านค้า / บทที่ 38 การหลบหนีของเหยียนหลิ่ว (1)

Share

บทที่ 38 การหลบหนีของเหยียนหลิ่ว (1)

last update Last Updated: 2025-06-21 17:08:47

บทที่ 38

การหลบหนีของเหยียนหลิ่ว (1)

            ย้อนกลับไปเมื่อหลายวันก่อน ในตอนที่ฉินเฟยอวี่เซ็นสัญญาซื้อขายสูตรหม้อไฟหมาล่า

            หลังจากได้สัญญามาเรียบร้อย ฉินเฟยอวี่ส่งให้หลงจู๊เหอด้วยสีหน้าโอหัง ราวกับว่าตนเป็นผู้ได้รับชัยชนะ

            “นำสัญญานี้กลับไปให้ท่านพ่อ”

            “ขอรับคุณชายรอง”

            หลงจู๊เหอรับหนังสือสัญญา พร้อมกับสังหรณ์ใจแปลกๆ ซึ่งเขาเองก็ไม่รู้ว่าตรงไหนกันแน่ที่แปลก

            แค่ขายสูตรหม้อไฟหมาล่า สองพ่อลูกตระกูลจางถึงกับยอมปิดร้านหนี!?

            คิดดูแล้ว ไม่สมเหตุสมผลสักนิด 

            หลงจู๊เหอคิดเท่าไรก็คิดไม่ออก กระนั้น เขาก็ถือหนังสือสัญญากลับโรงเตี๊ยมตระกูลฉิน

            เมื่อหลงจู๊เหอกลับไปแล้ว กู้อวี้ชุนก็หันมาบอกกับฉินเฟยอวี่ด้วยสีหน้าเบื่อหน่าย “ไม่เห็นน่าสนุกตรงไหน แค่เด็กสาวจากโรงเตี๊ยมโทรมๆ เจ้าจัดการเองได้ไม่ใช่หรือ”

            ฉินเฟยอวี่พยักหน้าเห็นด้วย “แน่นอนว่าข้าจัดการเองได้”

            ให้จัดการกับโรงเตี๊ยมเล็กๆ นี้ไม่ใช่เรื่องยากเย็น แค่สร้างเรื่องใส่ความ โรงเตี๊ยมตระกูลจางที่ไม่มีเส้นสายอะไรก็จบสิ้นแล้ว

            “เพียงแต่…” ฉินเฟยอวี่กล่าวต่อ “เจ้าไม่รู้สึกหรือ เด็กน่าสมเพชบ้านเจ้าดูจะเปลี่ยนไปนิดหน่อยนะ”

            กู้อวี้ชุนย่นหัวคิ้ว ก่อนตอบกลับมาอย่างไม่รู้สึกเอะใจ

            “เปลี่ยนไปหรือ เจ้าคิดมากเกินไปแล้ว”

            “นั่นสิ ข้าคงคิดมากไปเอง” ฉินเฟยอวี่พูดพลางหยักไหล่

            “เสียเวลาข้าจริงๆ” กู้อวี้ชุนส่ายหัวแล้วบ่น

            ตามปกติ กู้อวี้ชุนจะพักที่สำนักศึกษาเป็นส่วนใหญ่

            บ้านพักของสำนักศึกษาสะดวกสบายอย่างยิ่ง ที่สำคัญ ไม่ต้องอดทนกับบ้านที่เต็มไปด้วยความอึดอัด

            เพราะกู้อวี้ชุนเป็นลูกชายคนโต มักถูกอบรมอย่างเข้มงวดมาตั้งแต่เกิด 

            ที่กู้อวี้ชุนยอมกลับบ้านเพราะฉินเฟยอวี่บอกว่ามีเรื่องสนุกๆ ให้ทำ 

            กู้อวี้ชุนกับฉินเฟยอวี่เป็นสหายสนิทตั้งแต่เด็ก ตอนนี้ทั้งสองคนเรียนอยู่ในสำนักศึกษาเดียวกัน เพียงแต่ฉินเฟยอวี่เดินทางไปกลับ

            ส่วนเรื่องสนุกๆ ที่ว่ามานั้น คือเรื่องที่เหยียนหลิ่วออกมาเพ่นพ่านอยู่ข้างนอก

            ทันทีที่กู้อวี้ชุนกลับบ้านมา พลันเห็นว่าเจ้าคนน่าสมเพชเหยียนหลิ่วเปลี่ยนไปเล็กน้อย จากคนผอมแห้งกลับมีเนื้อมีหนัง ที่ฉินเฟยอวี่บอกว่ามันป้วนเปี้ยนอยู่ในโรงเตี๊ยมตระกูลจาง ได้กินของเหลือๆ จากก้นครัวก็คงเป็นเรื่องจริง

            แต่…แล้วมันจะทำไม

            “หนอนแมลงสองตัวอยู่ด้วยกันเหมาะสมกันดีไม่ใช่หรือ เจ้าจะสนใจไปทำไม”

            “ข้าก็แค่เป็นห่วงเจ้า กลัวว่าเจ้าจะควบคุมเจ้านั่นไม่ได้อีก”

            กู้อวี้ชุนฟังแล้วก็หัวเราะขึ้นจมูก พูดอย่างมั่นใจว่า “ไม่มีทางเสียละ เจ้าคนน่าสมเพชนั่น ไม่มีทางหนีไปจากการควบคุมของข้าได้ ถ้ามันคิดหนีคงไปจากจวนกู้นานแล้ว โอกาสให้หนีมีตั้งเยอะแยะ อย่างมากก็กระโดดข้ามกำแพงไปบ้านตระกูลจางไม่ใช่รึไง” 

            ฉินเฟยอวี่เลิกคิ้วแล้วยักไหล่ “นั่นสินะ ดูเหมือนข้าจะคิดเยอะไปจริงๆ”

            …..

            …..

            ตั้งแต่ตงตงบอกให้หนีออกจากจวนตระกูลกู้ เหยียนหลิ่วก็ไม่ลังเลใจอีก

            ที่ผ่านมาไม่ใช่เพราะกลัวว่าจะหนีไม่รอด เพียงแต่ความรู้สึกที่อยากหนีของเขายังไม่หนักแน่นพอ

            หลังจากพูดคุยกับตงตงและอาจารย์วันนั้น เหยียนหลิ่วก็ไม่ได้กระโดดข้ามกำแพงไปบ้านตระกูลจางอีกเลย

            เขากำลังรอจังหวะ รอให้กู้อวี้ชุนกลับสถานศึกษา

            2 วันต่อมา

            ทันทีที่กู้อวี้ชุนนั่งรถม้ากลับสำนักศึกษา ทุกคนในจวนกู้ก็เมินเหยียนหลิ่ว ทำทีเหมือนว่าเขาไม่มีตัวตนเหมือนทุกที

            ดีละ โอกาสมาแล้ว!

            ค่ำคืนอันเงียบสงัด เหยียนหลิ่วหยิบห่อผ้าขึ้นมาสะพายหลัง กระโดดขึ้นไปบนกำแพง ดวงตาอันแน่วแน่ของเด็กหนุ่มมองลานบ้านที่มืดสลัวของตระกูลจาง

            พรุ่งนี้แล่วที่ตงตงกับอาจารย์จะเดินทางไปเมืองหลวง   

            จากวันนี้ ไม่รู้ว่าเขาจะได้เจอนางอีกเมื่อไร

            แต่ไม่เป็นไร เขาจะต้องกลับมานางให้ได้! 

            คิดจบ แววตาเศร้าสร้อยของเด็กหนุ่มพลันเปลี่ยนเป็นมุ่งมั่น 

            กลางดึกคืนนั้น เหยียนหลิ่วมุ่งหน้าไปที่จวนตระกูลต้วน

            จวนของเจ้าเมืองนั้นหาไม่ยาก นอกจากเป็นกระสอบทรายให้กู้อวี้ชุนระบายความโกรธ เหยียนหลิ่วยังกลายเป็นบันไดคนให้กู้อวี้ชุนเหยียบตอนขึ้นรถม้า คนคนนั้นเดินทางไปที่ไหนบ้าง เขาจดจำได้ทั้งหมด 

            เด็กหนุ่มคิด พร้อมกับเดินลัดเลาะไปตามความมืด กระทั่งมาถึงท้ายจวนเจ้าเมือง

            เมื่อมาถึง เหยียนหลิ่วเห็นเด็กหนุ่มสวมชุดบ่าวรับใช้นั่งเท้าคางราวกับกำลังรอใครสักคน

            เหมือนอย่างที่ตงตงบอกเลย ท้ายจวนเจ้าเมืองจะมีบ่าวนั่งคอยเขาอยู่! 

            เหยียนหลิ่วเดินเข้าไปหาบ่าวคนนั้น ตอนที่เขาส่งเสียงว่า “เอ่อ…” เสียงของชายหนุ่มคนหนึ่งดังขึ้น

            “ในที่สุดก็มาสักที เหยียนหลิ่ว”

            เหยียนหลิ่วมองไปทางต้นเสียง คนพูดคือชายหนุ่มแต่งตัวด้วยผ้าไหมชั้นดี หน้าตาแบบนี้เขาจำได้แม่น บุตรชายคนโตของเจ้าเมืองนั่นเอง

            “ขอรับ ข้าคือเหยียนหลิ่ว”

            เหยียนหลิ่วก้มศีรษะให้ฝ่ายนั้นอย่างนอบน้อม

            “อืม” ชายหนุ่มพยักหน้า “เจ้าเองก็รู้จักข้าอยู่แล้ว ดังนั้นพวกเราไม่ต้องแนะนำตัวกันให้เสียเวลา เข้ามาก่อน เถ้าแก่เนี้ยน้อยฝากบางอย่างให้ข้ามอบกับเจ้า”

            “ขอรับ”

            พูดคุยกันจบ จากนั้นเหยียนหลิ่วพลันเดินตามต้วนเซียวเข้าไปในจวน 

            ระหว่างทาง ต้วนเซียวบอกแผนการให้เขาฟังหนึ่งรอบ

            “อีก 2 วันตอนเช้ามืด ท่านย่าของข้าจะออกจากเมืองไปไหว้พระที่วัดนอกเมือง เจ้าปลอมตัวเป็นบ่าวแล้วไปกับรถม้าของท่านย่าข้า ที่นั่นจะมีเด็กรับใช้เตรียมม้าไว้ให้เจ้า”

            “ขอรับ”

            ฮูหยินผู้เฒ่าต้วนเป็นคนถือศีลกินเจ

            โชคดีมากที่อีก 2 วันเป็นวันพระ ซึ่งเดือนหนึ่งจะมีสองครั้ง ทุกวันพระฮูหยินผู้เฒ่าต้วนจะออกไปไหว้พระที่วัดนอกเมือง 

            ต้วนเซียวกล่าวต่อ “เถ้าแก่เนี้ยน้อยฝากกล่องใบหนึ่งให้กับเจ้า ประเดี๋ยวข้าจะหยิบมาให้ สองวันนี้เจ้าพักห้องเดียวกับบ่าวของข้าไปก่อน ทำงานร่วมกับเขา ขืนอยู่ห้องเฉยๆ จะถูกสงสัยเอา”

            “ขอรับ” เหยียนหลิ่วก้มหน้าตอบ เมื่อเงยหน้าขึ้น เด็กหนุ่มพูดขึ้นด้วยสีหน้าซาบซึ้ง “คุณชายต้วน ข้าไม่รู้จะตอบแทนคุณชายอย่างไร แต่ว่า…”

            ถึงกระนั้น เหยียนหลิ่วยังพูดไม่ทันจบ ต้วนเซียนพลันกล่าวแทรก 

            “เรื่องค่าตอบแทน ข้าได้รับจากเถ้าแก่เนี้ยน้อยมาแล้ว เจ้าไม่ต้องคิดมาก”

            “เอ๊ะ!?”

            ต้วนเซียวไม่ได้อธิบายเรื่องค่าตอบแทน เพราะสิ่งที่ได้รับมาจากจางตงตงไม่ใช่เงินทอง แต่เป็นของกิน!

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • แม่ครัวแห่งยุคกับระบบร้านค้า    บทพิเศษ ความลับของตระกูลจาง

    บทพิเศษความลับของตระกูลจาง หนึ่งวันหลังเสร็จสิ้นงานแต่ง จางไคเฮ่อนำชื่อของเหยียนหลิ่วเข้าทะเบียนราษฎร์ของตระกูลจาง นับจากนี้เหยียนหลิ่วจะกลายเป็นคนตระกูลจางเต็มตัว กลายเป็น ‘จางเหยียนหลิ่ว’ ล่วงเข้าสู่วันที่ห้าหลังจากที่ทั้งสองกลายเป็นสามีภรรยากัน เหยียนหลิ่วก็ถูกตงตงจูงมือพาลงไปที่ห้องใต้ดินของโรงเตี๊ยม “ภรรยา…ห้องใต้ดินเป็นความลับของตระกูล เจ้าแน่ใจหรือว่าข้าลงไปที่นั่นได้” เหยียนหลิ่วถามเพื่อให้ตงตงไตร่ตรองอีกครั้ง เหยียนหลิ่วรู้แค่ว่า ภายในห้องใต้ดินเป็นสถานที่เก็บสินค้าและสมบัติของตระกูลจาง กุญแจมีเพียงสองดอกเท่านั้น ดอกหนึ่งจางไคเฮ่อเป็นคนเก็บ และดอกหนึ่งเป็นของตงตง กระนั้น ตงตงกลับหันมายิ้มให้กับเหยียนหลิ่วด้วยสีหน้าสบายๆ “ตอนนี้ท่านเองก็เป็นคนของตระกูลจางแล้ว” “ถึงจะอย่างนั้นก็เถอะ แต่…” “ในอนาคตท่านคิดจะหย่ากับข้าหรือ…หรือว่า…ท่านจะหักหลังตระกูลจาง?” “เรื่องนั้นจะไม่มีทางเกิดขึ้นเด็ดขาด!” เหยียนหลิ่วตอบกลับอย่างหนักแน่น หย่ากันหรือ

  • แม่ครัวแห่งยุคกับระบบร้านค้า    บทส่งท้าย

    บทส่งท้าย ฤกษ์แต่งงานที่เร็วที่ก็คือต้นเดือนหน้า นับวันดูแล้ว พวกเขามีเวลาจัดเตรียมงานไม่ถึง 1 เดือนด้วยซ้ำ ตงตงกับเหยียนหลิ่วจึงต้องตัดชุดแต่งงานกันตั้งแต่เนิ่นๆ เขียนบัตรเชิญส่งให้แขก กำหนดเมนูอาหาร และเริ่มซื้อข้าวของมาตกแต่งสถานที่ พอยุ่งอยู่กับการเตรียมงาน เผลอแป๊บเดียวก็เหลือเวลาอีกแค่ 2 วันเท่านั้น “ตงตง!” เสียงหญิงสาวอันคุ้นเคยดังหน้าประตูโรงเตี๊ยม ตงตงกำลังตรวจความเรียบร้อย หลังจากที่จิ่งฝางกับพวกเสี่ยวกวางแขวนโคมแดงเสร็จ รีบหันมองตามเสียงเรียกนั้น หานเจียเอ๋อร์ยืนยิ้มให้กับตงตง ข้างๆ หานเจียเอ๋อร์คือถังเหวินที่กำลังอุ้มลูกชายวัย 2 ขวบ ทั้งคู่แต่งงานกันเมื่อ 3 ปีก่อน หลังพิธีวิวาห์ สองเดือนถัดมา หานเจียเอ๋อร์ก็ตั้งครรภ์ทันที ถัดจากถังเหวินก็คือซานหลัวเฉินกับภรรยาที่เพิ่งแต่ง ครั้นเห็นคนคุ้นเคย ตงตงก็เดินยิ้มเข้าไปหาทุกคน “พวกท่านมากันแล้ว เข้ามาก่อนเจ้าค่ะ…อาหลงตัวน้อย สบายดีไหมจ๊ะ” เด็กน้อยวัย 2 ขวบพยักหน้าตอบ “อื้อ”

  • แม่ครัวแห่งยุคกับระบบร้านค้า    บทที่ 78 ขอแต่งงาน

    บทที่ 78ขอแต่งงาน 10 วันต่อมา ณ สำนักราชองครักษ์หลวง ทันทีที่กลับมาถึงเมืองหลวง เหิงเจากับเหยียนหลิ่วเข้าพบเสนาธิการเว่ยจ้ง รายงานเรื่องราวทั้งหมดตอนอยู่ป้อมปราการตะวันออก เมื่อเสร็จธุระหมดแล้ว เหยียนหลิ่วขอตัวกลับทันที ชายหนุ่มเดินบนถนนด้วยฝีเท้าเร่งรีบ เมื่อมาถึงโรงเตี๊ยมตระกูลจาง เห็นหญิงสาวในดวงใจยืนต้อนรับลูกค้าอยู่หน้าร้านพอดี เหยียนหลิ่วส่งเสียงเรียกหญิงสาวด้วยความตื่นเต้น “ตงตง!” เสียงเรียกของชายหนุ่มไม่เพียงดึงดูดสายตาของตงตง ยังเรียกความสนใจจากคนรอบข้างอีกด้วย ทว่า… สองหนุ่มสาวหาได้สนใจคนอื่นแต่อย่างใด ในสายตาของทั้งคู่มีเพียงกันและกันเท่านั้น “พี่หลิ่วกลับมาแล้ว!” ตงตงยิ้มกว้าง ก้าวยาวๆ เข้าไปหาชายหนุ่ม เมื่อระยะห่างของทั้งคู่ร่นลงจนไม่เหลือช่องว่าง เหยียนหลิ่วตอบกลับหญิงสาวด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา “ข้ากลับมาแล้ว” เหยียนหลิ่วไม่เพียงพูดเปล่าๆ สองมือใหญ่ยังโอบเอวบางของนาง แล้วยกร่างของนางขึ้นจากพื้นอ

  • แม่ครัวแห่งยุคกับระบบร้านค้า    บทที่ 77 จู่โจมรวดเร็ว

    บทที่ 77จู่โจมรวดเร็ว หลังจากหัวหน้าเผ่าฮุยรู้ข่าวเรื่องกองทัพสนับสนุนเดินทางมาถึงป้อมปราการตะวันออก พวกมันก็ไม่อยู่เฉย เคลื่อนทัพท่ามกลางความมืด รอจังหวะบุกโจมตีป้อมปราการตะวันออกอย่างไม่ให้แคว้นเฉียนรู้ตัว หากทว่า กลางดึกคืนเดียวกันนั้น ฟางอู่เซิงวางกองกำลังไว้ที่นอกป้อมปราการอย่างเงียบเฉียบ ทันทีที่แสงแรกมาเยือน หัวหน้าพลธนูที่ซ่อนตัวตั้งแต่กลางดึก ก็ได้ส่งสัญญาณมือให้โจมตี พลธนูที่ซุ่มบนต้นไม้นับสิบนายปล่อยศรพุ่งออกไป ฟิ้ว… “อึก!” “อั่ก!!” ทหารเผ่าฮุยที่ตั้งทัพเตรียมบุกป้อมปราการ ล้มกองบนพื้นทีละคนสองคนราวกับใบไม้ล่วงจากต้น เริ่มต้นสงคราม มองเผินๆ ฝ่ายที่ได้เปรียบอาจจะเป็นทางแม่ทัพฟางอู่เซิง แต่ทันทีที่เผ่าฮุยรู้สึกตัวว่าพวกมันถูกซุ่มโจมตี หัวหน้าเผ่าฮุยได้สั่งการและแบ่งออกเป็นสองฝ่าย ฝ่ายหนึ่งให้หันกลับไปสังหารพลธนูของแคว้นเฉียน โดยใช้ศพของพวกเดียวกันเป็นเกาะกำบัง อีกฝ่ายหนึ่งทุ่มเทสุดกำลังทำลายป้อมปราการแล้วบุกเข้าไป “แทนที่จะล่าถอย แต่เลือกบุกต่

  • แม่ครัวแห่งยุคกับระบบร้านค้า    บทที่ 76 กำลังเต็มร้อยด้วยอาหารอัดแท่ง

    บทที่ 76กำลังเต็มร้อยด้วยอาหารอัดแท่ง วันต่อมา กองทัพของแม่ทัพฟาง หน่วยคุ้มกันเสบียงของเหิงเจา และหน่วยลอบโจมตีของเหยียนหลิ่ว เคลื่อนตัวออกจากเมืองหลวง เสบียงที่ทหารทุกนายพกติดตัวนั้น ส่วนใหญ่มาจากโรงเตี๊ยมตระกูลจาง นอกจากจะเป็นของแห้งที่เก็บไว้ได้นาน น้ำหนักเบา สารอาหารยังครบถ้วน ไม่เปลืองแรงเวลาต้องหอบหิ้วเวลาที่ต้องเดินทางไกลๆ แถมรสชาติยังอร่อย กินเท่าไรก็ไม่เบื่อ และต้องขอบคุณเสบียงจากโรงเตี๊ยมตระกูลจางเช่นกัน ทำให้การเดินทางมาถึงชายแดนตะวันออกเร็วกว่ากำหนดหลายวัน แม้ระหว่างทาง รถขนเสบียงจะถูกดักปล้น แต่ทหารทุกคนที่ได้กินธัญพืชอัดแท่งที่มีพลังงานสูง พวกเขาจึงปกป้องเสบียงหลวงเอาไว้ได้ โดยที่ไม่มีใครได้รับบาดเจ็บ ในขณะเดินทางไกล เลี่ยงไม่ได้ท่ีจะมีล้มป่วยด้วยพิษไข้ แต่ด้วยยาเม็ดจากโรงเตี๊ยมตระกูลจาง กินเพียงสองเม็ด ไข้หวัดเล็กน้อยพลันบรรเทาลง พร้อมออกเดินทางต่อได้ทันที ไม่ต้องทิ้งใครไว้ข้างหลัง ด้วยเหตุนี้เอง ตอนมาถึงป้อมปราการตะวันออก เรี่ยวแรงของทหารทุกนายจึงยังล้นเหลือ พร้อมออกรบได้ทันที

  • แม่ครัวแห่งยุคกับระบบร้านค้า    บทที่ 75 คุณหนูสามแห่งจวนเจ้ากรมพิธีการ

    บทที่ 75คุณหนูสามแห่งจวนเจ้ากรมพิธีการ ครั้นพอได้ยินเสียงคุ้นๆ สองหนุ่มสาวที่พลอดรักกันอยู่หน้าบ้าน มองผู้มาเยือนที่ไม่ได้รับเชิญด้วยสายตาเอือมระอา “เข้าบ้านคนอื่นก่อนได้รับอนุญาต ใครกันแน่ที่หน้าไม่อาย” เหยียนหลิ่วบอกด้วยเสียงเย็นชา “แม้ว่าเป็นข้าอย่างนั้นหรือ พี่เหยียนหลิ่ว” เสียงหวานกังวานใสดังขึ้นที่หน้าประตู จากนั้นหญิงสาววัยสิบแปดรูปร่างหน้าตาสะสวย สวมใส่อาภรณ์หรูหราก็ก้าวเข้ามาในบ้าน สาวรับใช้ที่ยืนเท้าสะเอว ทำหน้ายักษ์มองมาที่ตงตง รีบกลับไปยืนข้างหลังหญิงสาวผู้มาใหม่ พร้อมเรียกฝ่ายนั้นว่า “คุณหนู” เหยียนหลิ่วขมวดคิ้ว ก่อนจะพูดด้วยความรู้สึกไม่ชอบใจนัก “ถึงจะเป็นคุณหนูสามจากจวนเจ้ากรมพิธีการ ก็ควรเรียนรู้มารยาทสักหน่อย” ถูกชายหนุ่มที่ตัวเองชอบสั่งสอน ซูหลันหลัน…คุณหนูสามแห่งจวนเจ้ากรมพิธีการรู้สึกเสียหน้าเป็นอย่างมาก หันไปขึงตาใส่ตงตงที่นั่งเงียบ เหยียนหลิ่วลุกขึ้น ใช้ร่างใหญ่โตของตนยืนบังตงตงหมายปกป้องหญิงคนรัก แม้จะรู้ว่าคุณหนูสามซูคนนี้จะไม่กล้าแตะต้องตงตงก็ตาม

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status