Home / รักโบราณ / แม่ครัวแห่งยุคกับระบบร้านค้า / บทที่ 48 ข่าวดีของหานเจียเอ๋อร์ และ สร้างกำไรด้วยการขายลูกกวาด

Share

บทที่ 48 ข่าวดีของหานเจียเอ๋อร์ และ สร้างกำไรด้วยการขายลูกกวาด

last update Last Updated: 2025-06-21 17:14:21

บทที่ 48

ข่าวดีของหานเจียเอ๋อร์

และ

สร้างกำไรด้วยการขายลูกกวาด

            “เจ้าไม่ตกใจเลยหรือไง”

            หานเจียเอ๋อร์ถามตงตงเมื่อเห็นเด็กสาวดูสงบเกินไป

            “จริงๆ ก็ตกใจอยู่นะ แต่ว่า ก่อนหน้านี้มีคนแปลกหน้ามาด้อมๆ มองๆ แถวโรงเตี๊ยม ข้าก็เลยเดาได้ว่า ฉินเฟยอวี้กับกู้อวี้ชุนคงส่งคนมาสืบร้านข้าเพื่อจ้องจับผิด แต่ก็คาดไม่ถึง ว่าจะปล่อยข่าวลือเท็จแทน”

            สองพ่อลูกตระกูลหานฟังคำพูดของตงตง ต่างก็พยักหน้ากล่าวพร้อมกัน

            “แบบนี้เอง”

            “ถึงข้าไม่เคยยุ่งเกี่ยวกับสองคนนั้น แต่ก็รู้ว่าพวกเขาชอบทำตัวอวดเบ่ง ไม่กลัวกฎหมายเจ้าเองก็ต้องระวังตัวด้วย” หานเจียเอ๋อร์ย้ำกับตงตงด้วยสีหน้าเป็นห่วง

            “ขอบคุณพี่สาว” ตงตงตอบ ก่อนกล่าวต่อ “เรื่องข่าวลือ ปล่อยให้เวลาพิสูจน์ดีกว่า ข้าบริสุทธิ์ใจ ไม่ได้ลอกเลียนแบบสูตรของใครมา คนพวกนั้นอย่างมากที่สุดก็ทำได้แค่ปล่อยข่าวลือลวงโลกต่อไปเท่านั้นแหละ”

            “นั่นสินะ”

            ทั้งสองคนเห็นด้วยอย่างยิ่ง

            “ที่สำคัญกว่านั้น พวกเขาไม่กล้าทำร้ายข้าและคนของข้าแบบตรงๆ หรอกเจ้าค่ะ พวกท่านอย่าลืมสิ ละแวกนี้เป็นที่ตั้งของหน่วยราชองครักษ์หลวงเชียวนะ” ตงตงกล่าวเสริม

            หานป๋อเหล่ยกับหานเจียเอ๋อร์ฟังคำพูดนั้น พร้อมกับกวาดตามองรอบๆ ร้าน

            ลูกค้าที่เข้าร้านส่วนใหญ่เป็นคนของหน่วยราชองครักษ์หลวงจริงๆ

            ต่อให้มารดาของกู้อวี้ชุนเป็นเชื้อพระวงศ์ หากถ้านับตามลำดับขั้นจริงๆ ท่านหญิงหมิงซูเหยามีศักดิ์ฐานะเป็นเพียงหลานสาวของฮ่องเต้องค์ปัจจุบัน และนางที่แต่งกับแม่ทัพกู้ นับเป็นคนของบ้านกู้

            พระชนมายุของฮ่องเต้ตอนนี้น่าจะราวๆ 60 กว่าปี ถือว่าแก่ชราอยู่บ้าง หากพระองค์สละราชบัลลังก์ให้กับรัชทายาท คิดหรือว่ารัชทายาทอยากจะตามเช็คตามล้างปัญหาของท่านหญิง ถึงจะเป็นเครือญาติกันก็ตาม เชื่อว่ารัชทายาทคงไม่อยากยุ่งปัญหาเล็กๆ น้อยๆ ในบ้านคนอื่นอย่างแน่นอน

            สรุปง่ายๆ ฐานะของหมิงซูเหยาเก่งได้เฉพาะในบ้านกู้เท่านั้นแหละ

            “จริงสิ พอมีข่าวลือแย่ๆ ออกมาเช่นนี้ แล้วซาลาเปาของเถ้าแก่หานจะได้รับผลกระทบด้วยหรือไม่” ตงตงถามถามด้วยความเป็นห่วง

            “เรื่องนั้นไม่มีปัญหา ซาลาเปาที่ซื้อสูตรจากเจ้าขายดีเป็นเทน้ำเทท่าเชียวละ ฮะๆ”

            “ค่อยยังชั่วหน่อยเจ้าค่ะ”

            “คุยธุระกันจบแล้ว ต่อไปก็เรื่อง…” หานป๋อเหล่ยเว้นคำพูด กวาดตามองบนโต๊ะของเหล่าลูกค้าด้วยแววตาเป็นประกาย ในใจคิดว่าร้านนี้มีแต่ของน่าอร่อยทั้งนั้น

            ตงตงเห็นสายตาของหานป๋อเหล่ยก็เดาความคิดได้ทันที นางเลยกล่าวว่า “เถ้าแก่หาน พี่สาวเจียเอ๋อร์ ไหนๆ พวกท่านมาเยือนทั้งที มื้อนี้ให้ข้าเลี้ยงนะเจ้าคะ”

            ได้ยินแบบนี้ หานป๋อเหล่ยหันขวับมามองตงตงด้วยตาเปล่งประกาย

            ตงตงยิ้มสดใส บอกสองพ่อลูกตระกูลหานให้รอสักครู่ นางจะเข้าครัวเตรียมอาหารขึ้นชื่อของร้านมาให้

            ทั้งสองยิ้มแย้ม รับน้ำใจจากตงตง

            อาหารขึ้นชื่อของร้านตอนนี้คือบะหมี่ฉงชิ่ง เกี๊ยวซ่า เอ็นหมูตุ๋นเข้มข้นและหมั่นโถ ส่วนของกินเล่นเป็นข้าวเกรียบข้าวฟ่างอย่างที่ทราบกันดี

            พอยกอาหารมาเสิร์ฟครบเรียบร้อย สองพ่อลูกตระกูลหานคีบอาหารส่งเข้าปากคำโตแทบไม่เว้นช่วงพัก

            เห็นแบบนั้น ตงตงยิ้มไม่หุบ

            การได้เห็นคนกินอาหารอย่างเอร็ดอร่อย คนทำก็พลอยรู้สึกปลื้มปริ่มไปด้วย

            …..

            …..

            ขายสินค้ารอบนี้ไม่ต้องเปลี่ยนวัสดุห่อแล้วแพ็คใหม่ เนื่องจากสินค้าที่สั่งจากระบบรอบนี้ บรรจุอยู่ในโหลแก้ว โรงงานนรกจึงไม่ได้เปิดทำการ

            แต่สำหรับตงตงนั้นกลับมีงานล้นมือ

            ในค่ำคืนที่ทุกคนกำลังนอนหลับกันหมดแล้ว ตงตงเปิดหน้าต่างร้านค้าระบบ เลือกซื้อสินค้าตามรายการที่สั่งซื้อ จดต้นทุนและกำไรลงสมุดอย่างชัดเจน จากนั้นค่อยแบ่งสินค้าตามรายการสั่งซื้อ โดยเช้าวันต่อมา ตงตงยกหน้าที่บรรจุสินค้าใส่หีบตามรายการของแต่ละบุคคล ให้จางไคเฮ่อและอาฉีจัดการต่อ

            ระหว่างที่สองพ่อลูกตระกูลหานพักอยู่ที่เมืองหลวง พวกเขามากินอาหารที่ร้านของตงตงทุกวัน

            ตงตงเพิ่งสังเกตเห็นว่าหานเจียเอ๋อร์ไม่ทำตัวหยิ่งโอหังเหมือนเมื่อก่อน ทั้งยังดูอ่อนหวานขึ้นมาก นางจึงแกล้งเอ่ยแซวอีกฝ่าย

            “ไม่ได้เจอกันเดี๋ยวเดียว พี่สาวเจียเอ๋อร์น่ารักขึ้นเป็นกอง ต้องมีเรื่องดีๆ เกิดขึ้นแน่เลย!”

            หานเจียเอ๋อร์หน้าแดงแป๊ดเมื่อได้ยินแบบนั้น

            ครั้นเห็นสีหน้าของหานเจียเอ๋อร์ ตงตงเดาว่าต้องเกี่ยวกับถังเหวินแน่ๆ

            ตอนนั้นเอง หานป๋อเหล่ยผู้เป็นพ่อกล่าวขึ้นว่า “เมื่อเร็วๆ นี้บ้านตระกูลถังมาคุยเรื่องหมั้นอย่างเป็นทางการแล้ว นับเป็นเรื่องดีสำหรับเจียเอ๋อร์ของข้า อีกอย่าง ช่วงนี้ถังเหวินก็แวะมาหาเจียเอ๋อร์บ่อยขึ้น ดูเหมือนสองตระกูลจะมีข่าวดีแล้วละนะ”

            พูดจบ หานป๋อเหล่ยหัวเราะชอบใจ

            “อย่างนี้เอง ยินดีด้วยเจ้าค่ะ”

            หานเจียเอ๋อร์บิดตัวเขินอาย ก่อนจะว่า “แหม…ท่านพ่อละก็ ข่าวดีอะไร ต้องรอให้ถังเหวินจบจากสำนักศึกษาก่อนถึงจะแต่งได้ไม่ใช่หรือ นับแล้วก็ตั้ง 3-4 ปีเลยนะ ตงตงก็อีกคน ยินดีตอนนี้นับว่าเร็วเกินไป”

            “ของแบบนี้ไม่แน่ไม่นอนหรอก อีกอย่างข้าได้ยินว่าถึงแต่งงานแล้วก็ยังเรียนในสำนักศึกษาได้” ตงตงกล่าว

            “นั่นก็จริง” หานเจียเอ๋อร์พึมพำแล้วก้มหน้าเขิน

            เรื่องของเรื่อง ถังเหวินไปหาหานเจียเอ๋อร์ที่บ้านเพื่อถามข่าวของตงตง แต่พอติดต่อกันบ่อยครั้ง ถังเหวินเพิ่งรู้สึกตัวว่าหานเจียเอ๋อร์ก็มีมุมที่น่ารัก ภายหลังจึงเริ่มมีใจให้กับหานเจียเอ๋อร์

            สรุปคือ ตอนนี้ผู้ใหญ่ทั้งสองฝ่ายเริ่มคุยกันเรื่องหมั้นและพิธีแต่งงานแล้วนั่นเอง

            อย่างไรก็ตาม สำหรับทุกฝ่ายนับว่าเป็นข่าวดีอย่างยิ่ง

            …..

            …..

            เผลอแป๊บเดียวก็มาถึงวันที่หานป๋อเหล่ยกับหานเจียเอ๋อร์ต้องเดินทางกลับเมืองอู่เฉิง

            สองพ่อสองมาที่ร้านของตงตงตั้งแต่เช้าเพื่อรับสินค้าที่สั่งไว้

            ช่วงเช้าเช่นนี้ลูกค้าเข้าร้านเยอะเหมือนเดิม

            พอลูกค้าเห็นจางไคเฮ่อยกหีบหลายใบขึ้นรถม้าของหานป๋อเหล่ยก็อดสงสัยไม่ได้

            ใครบางคนจึงเอ่ยถามขึ้นมา

            “แม่ครัวน้อย ร้านของเจ้าขายสินค้าส่งแบบนี้ด้วยหรือ”

            ตงตงหันมองคนถาม คนผู้นี้คือทหารหน่วยราชองครักษ์หลวงที่มาอุดหนุนอาหารที่ร้านเป็นประจำ ตงตงไม่รู้จักชื่อ แต่จำหน้าได้ นางจึงตอบออกไป

            “อันที่จริง ทางร้านไม่ได้ขายส่งแบบจริงๆ จังๆ หรอกเจ้าค่ะ แต่ว่า…ตอนที่ร้านของข้าเจอปัญหา โรงเตี๊ยมตระกูลหานช่วยเหลือเอาไว้ ข้าเลยขายสูตรซาลาเปาและสินค้าอื่นๆ ให้กับทางนั้นเป็นกรณีพิเศษ”

            “อย่างนี้นี่เอง” ชายตรงหน้าผงกศีรษะขึ้นลงอย่างเข้าใจ กระนั้น สายตาของเขาก็ปิดบังความสนใจไม่มิด

            ตงตงคิดสักครู่ก่อนพูดขึ้นมาว่า “ของที่เถ้าแก่หานรับไปขายไม่ใช่สินค้าราคาแพงหรือหายากอะไรเจ้าค่ะ แค่ลูกกวาด ขนมอบกรอบและข้าวเกรียบข้าวฟ่าง ท่านสนใจหรือ”

            “หากข้าบอกว่าสนใจจะรับไปขายหน้าร้านบ้างจะได้หรือไม่”

            “ท่านเปิดร้านอาหารด้วยหรือ”

            “เป็นร้านของทางบ้านข้าเอง”

            “อย่างนั้นหรอกหรือ”

            ที่แท้ บ้านของพี่ชายคนนี้ก็เปิดร้านอาหารเหมือนกัน

            หากจะพูดไปแล้ว การกระจายสินค้าแบบขายส่งให้กับร้านทั่วไป ไม่เคยมีความคิดอยู่ในหัวของตงตงมาก่อน แต่พอเห็นคนสนใจไม่น้อย คงต้องพิจารณาใหม่ซะแล้ว

            นอกเหนือจากนั้น หากข้าวเกรียบข้าวฟ่างได้รับความนิยม ถือเป็นการโปรโมตให้คนหันมากินข้าวฟ่างตามความต้องการของเว่ยจ้งด้วย

            ถึงหานป๋อเหล่ยเตือนว่าไม่ให้ขายสูตรอาหาร แต่การกระจายสินค้าสำเร็จรูปในรูปแบบค้าส่ง ไม่ใช่การขายสูตร ย่อมทำได้และไม่ผิดสัญญา

            พอคิดจบ ตงตงกล่าวกับอีกฝ่ายว่า “ช่วงบ่ายหากท่านว่าง พวกเรามาคุยรายละเอียดกันดีหรือไม่เจ้าคะ”

            ชายหนุ่มยิ้มกว้างด้วยความดีใจ ก่อนจะตอบ

            “ได้สิ ไม่มีปัญหา”

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • แม่ครัวแห่งยุคกับระบบร้านค้า    บทพิเศษ ความลับของตระกูลจาง

    บทพิเศษความลับของตระกูลจาง หนึ่งวันหลังเสร็จสิ้นงานแต่ง จางไคเฮ่อนำชื่อของเหยียนหลิ่วเข้าทะเบียนราษฎร์ของตระกูลจาง นับจากนี้เหยียนหลิ่วจะกลายเป็นคนตระกูลจางเต็มตัว กลายเป็น ‘จางเหยียนหลิ่ว’ ล่วงเข้าสู่วันที่ห้าหลังจากที่ทั้งสองกลายเป็นสามีภรรยากัน เหยียนหลิ่วก็ถูกตงตงจูงมือพาลงไปที่ห้องใต้ดินของโรงเตี๊ยม “ภรรยา…ห้องใต้ดินเป็นความลับของตระกูล เจ้าแน่ใจหรือว่าข้าลงไปที่นั่นได้” เหยียนหลิ่วถามเพื่อให้ตงตงไตร่ตรองอีกครั้ง เหยียนหลิ่วรู้แค่ว่า ภายในห้องใต้ดินเป็นสถานที่เก็บสินค้าและสมบัติของตระกูลจาง กุญแจมีเพียงสองดอกเท่านั้น ดอกหนึ่งจางไคเฮ่อเป็นคนเก็บ และดอกหนึ่งเป็นของตงตง กระนั้น ตงตงกลับหันมายิ้มให้กับเหยียนหลิ่วด้วยสีหน้าสบายๆ “ตอนนี้ท่านเองก็เป็นคนของตระกูลจางแล้ว” “ถึงจะอย่างนั้นก็เถอะ แต่…” “ในอนาคตท่านคิดจะหย่ากับข้าหรือ…หรือว่า…ท่านจะหักหลังตระกูลจาง?” “เรื่องนั้นจะไม่มีทางเกิดขึ้นเด็ดขาด!” เหยียนหลิ่วตอบกลับอย่างหนักแน่น หย่ากันหรือ

  • แม่ครัวแห่งยุคกับระบบร้านค้า    บทส่งท้าย

    บทส่งท้าย ฤกษ์แต่งงานที่เร็วที่ก็คือต้นเดือนหน้า นับวันดูแล้ว พวกเขามีเวลาจัดเตรียมงานไม่ถึง 1 เดือนด้วยซ้ำ ตงตงกับเหยียนหลิ่วจึงต้องตัดชุดแต่งงานกันตั้งแต่เนิ่นๆ เขียนบัตรเชิญส่งให้แขก กำหนดเมนูอาหาร และเริ่มซื้อข้าวของมาตกแต่งสถานที่ พอยุ่งอยู่กับการเตรียมงาน เผลอแป๊บเดียวก็เหลือเวลาอีกแค่ 2 วันเท่านั้น “ตงตง!” เสียงหญิงสาวอันคุ้นเคยดังหน้าประตูโรงเตี๊ยม ตงตงกำลังตรวจความเรียบร้อย หลังจากที่จิ่งฝางกับพวกเสี่ยวกวางแขวนโคมแดงเสร็จ รีบหันมองตามเสียงเรียกนั้น หานเจียเอ๋อร์ยืนยิ้มให้กับตงตง ข้างๆ หานเจียเอ๋อร์คือถังเหวินที่กำลังอุ้มลูกชายวัย 2 ขวบ ทั้งคู่แต่งงานกันเมื่อ 3 ปีก่อน หลังพิธีวิวาห์ สองเดือนถัดมา หานเจียเอ๋อร์ก็ตั้งครรภ์ทันที ถัดจากถังเหวินก็คือซานหลัวเฉินกับภรรยาที่เพิ่งแต่ง ครั้นเห็นคนคุ้นเคย ตงตงก็เดินยิ้มเข้าไปหาทุกคน “พวกท่านมากันแล้ว เข้ามาก่อนเจ้าค่ะ…อาหลงตัวน้อย สบายดีไหมจ๊ะ” เด็กน้อยวัย 2 ขวบพยักหน้าตอบ “อื้อ”

  • แม่ครัวแห่งยุคกับระบบร้านค้า    บทที่ 78 ขอแต่งงาน

    บทที่ 78ขอแต่งงาน 10 วันต่อมา ณ สำนักราชองครักษ์หลวง ทันทีที่กลับมาถึงเมืองหลวง เหิงเจากับเหยียนหลิ่วเข้าพบเสนาธิการเว่ยจ้ง รายงานเรื่องราวทั้งหมดตอนอยู่ป้อมปราการตะวันออก เมื่อเสร็จธุระหมดแล้ว เหยียนหลิ่วขอตัวกลับทันที ชายหนุ่มเดินบนถนนด้วยฝีเท้าเร่งรีบ เมื่อมาถึงโรงเตี๊ยมตระกูลจาง เห็นหญิงสาวในดวงใจยืนต้อนรับลูกค้าอยู่หน้าร้านพอดี เหยียนหลิ่วส่งเสียงเรียกหญิงสาวด้วยความตื่นเต้น “ตงตง!” เสียงเรียกของชายหนุ่มไม่เพียงดึงดูดสายตาของตงตง ยังเรียกความสนใจจากคนรอบข้างอีกด้วย ทว่า… สองหนุ่มสาวหาได้สนใจคนอื่นแต่อย่างใด ในสายตาของทั้งคู่มีเพียงกันและกันเท่านั้น “พี่หลิ่วกลับมาแล้ว!” ตงตงยิ้มกว้าง ก้าวยาวๆ เข้าไปหาชายหนุ่ม เมื่อระยะห่างของทั้งคู่ร่นลงจนไม่เหลือช่องว่าง เหยียนหลิ่วตอบกลับหญิงสาวด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา “ข้ากลับมาแล้ว” เหยียนหลิ่วไม่เพียงพูดเปล่าๆ สองมือใหญ่ยังโอบเอวบางของนาง แล้วยกร่างของนางขึ้นจากพื้นอ

  • แม่ครัวแห่งยุคกับระบบร้านค้า    บทที่ 77 จู่โจมรวดเร็ว

    บทที่ 77จู่โจมรวดเร็ว หลังจากหัวหน้าเผ่าฮุยรู้ข่าวเรื่องกองทัพสนับสนุนเดินทางมาถึงป้อมปราการตะวันออก พวกมันก็ไม่อยู่เฉย เคลื่อนทัพท่ามกลางความมืด รอจังหวะบุกโจมตีป้อมปราการตะวันออกอย่างไม่ให้แคว้นเฉียนรู้ตัว หากทว่า กลางดึกคืนเดียวกันนั้น ฟางอู่เซิงวางกองกำลังไว้ที่นอกป้อมปราการอย่างเงียบเฉียบ ทันทีที่แสงแรกมาเยือน หัวหน้าพลธนูที่ซ่อนตัวตั้งแต่กลางดึก ก็ได้ส่งสัญญาณมือให้โจมตี พลธนูที่ซุ่มบนต้นไม้นับสิบนายปล่อยศรพุ่งออกไป ฟิ้ว… “อึก!” “อั่ก!!” ทหารเผ่าฮุยที่ตั้งทัพเตรียมบุกป้อมปราการ ล้มกองบนพื้นทีละคนสองคนราวกับใบไม้ล่วงจากต้น เริ่มต้นสงคราม มองเผินๆ ฝ่ายที่ได้เปรียบอาจจะเป็นทางแม่ทัพฟางอู่เซิง แต่ทันทีที่เผ่าฮุยรู้สึกตัวว่าพวกมันถูกซุ่มโจมตี หัวหน้าเผ่าฮุยได้สั่งการและแบ่งออกเป็นสองฝ่าย ฝ่ายหนึ่งให้หันกลับไปสังหารพลธนูของแคว้นเฉียน โดยใช้ศพของพวกเดียวกันเป็นเกาะกำบัง อีกฝ่ายหนึ่งทุ่มเทสุดกำลังทำลายป้อมปราการแล้วบุกเข้าไป “แทนที่จะล่าถอย แต่เลือกบุกต่

  • แม่ครัวแห่งยุคกับระบบร้านค้า    บทที่ 76 กำลังเต็มร้อยด้วยอาหารอัดแท่ง

    บทที่ 76กำลังเต็มร้อยด้วยอาหารอัดแท่ง วันต่อมา กองทัพของแม่ทัพฟาง หน่วยคุ้มกันเสบียงของเหิงเจา และหน่วยลอบโจมตีของเหยียนหลิ่ว เคลื่อนตัวออกจากเมืองหลวง เสบียงที่ทหารทุกนายพกติดตัวนั้น ส่วนใหญ่มาจากโรงเตี๊ยมตระกูลจาง นอกจากจะเป็นของแห้งที่เก็บไว้ได้นาน น้ำหนักเบา สารอาหารยังครบถ้วน ไม่เปลืองแรงเวลาต้องหอบหิ้วเวลาที่ต้องเดินทางไกลๆ แถมรสชาติยังอร่อย กินเท่าไรก็ไม่เบื่อ และต้องขอบคุณเสบียงจากโรงเตี๊ยมตระกูลจางเช่นกัน ทำให้การเดินทางมาถึงชายแดนตะวันออกเร็วกว่ากำหนดหลายวัน แม้ระหว่างทาง รถขนเสบียงจะถูกดักปล้น แต่ทหารทุกคนที่ได้กินธัญพืชอัดแท่งที่มีพลังงานสูง พวกเขาจึงปกป้องเสบียงหลวงเอาไว้ได้ โดยที่ไม่มีใครได้รับบาดเจ็บ ในขณะเดินทางไกล เลี่ยงไม่ได้ท่ีจะมีล้มป่วยด้วยพิษไข้ แต่ด้วยยาเม็ดจากโรงเตี๊ยมตระกูลจาง กินเพียงสองเม็ด ไข้หวัดเล็กน้อยพลันบรรเทาลง พร้อมออกเดินทางต่อได้ทันที ไม่ต้องทิ้งใครไว้ข้างหลัง ด้วยเหตุนี้เอง ตอนมาถึงป้อมปราการตะวันออก เรี่ยวแรงของทหารทุกนายจึงยังล้นเหลือ พร้อมออกรบได้ทันที

  • แม่ครัวแห่งยุคกับระบบร้านค้า    บทที่ 75 คุณหนูสามแห่งจวนเจ้ากรมพิธีการ

    บทที่ 75คุณหนูสามแห่งจวนเจ้ากรมพิธีการ ครั้นพอได้ยินเสียงคุ้นๆ สองหนุ่มสาวที่พลอดรักกันอยู่หน้าบ้าน มองผู้มาเยือนที่ไม่ได้รับเชิญด้วยสายตาเอือมระอา “เข้าบ้านคนอื่นก่อนได้รับอนุญาต ใครกันแน่ที่หน้าไม่อาย” เหยียนหลิ่วบอกด้วยเสียงเย็นชา “แม้ว่าเป็นข้าอย่างนั้นหรือ พี่เหยียนหลิ่ว” เสียงหวานกังวานใสดังขึ้นที่หน้าประตู จากนั้นหญิงสาววัยสิบแปดรูปร่างหน้าตาสะสวย สวมใส่อาภรณ์หรูหราก็ก้าวเข้ามาในบ้าน สาวรับใช้ที่ยืนเท้าสะเอว ทำหน้ายักษ์มองมาที่ตงตง รีบกลับไปยืนข้างหลังหญิงสาวผู้มาใหม่ พร้อมเรียกฝ่ายนั้นว่า “คุณหนู” เหยียนหลิ่วขมวดคิ้ว ก่อนจะพูดด้วยความรู้สึกไม่ชอบใจนัก “ถึงจะเป็นคุณหนูสามจากจวนเจ้ากรมพิธีการ ก็ควรเรียนรู้มารยาทสักหน่อย” ถูกชายหนุ่มที่ตัวเองชอบสั่งสอน ซูหลันหลัน…คุณหนูสามแห่งจวนเจ้ากรมพิธีการรู้สึกเสียหน้าเป็นอย่างมาก หันไปขึงตาใส่ตงตงที่นั่งเงียบ เหยียนหลิ่วลุกขึ้น ใช้ร่างใหญ่โตของตนยืนบังตงตงหมายปกป้องหญิงคนรัก แม้จะรู้ว่าคุณหนูสามซูคนนี้จะไม่กล้าแตะต้องตงตงก็ตาม

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status